-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ขอวิธีกำจัดตอยูคา ถอนราก-โคนเลยค่ะ
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - รดน้ำพืช
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

รดน้ำพืช

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
max9886
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 10/05/2010
ตอบ: 1

ตอบตอบ: 10/05/2010 2:26 pm    ชื่อกระทู้: รดน้ำพืช ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

พืชส่วนใหญ่ต้องรดน้ำประมาณกี่ลิตรครับ

ขอบคุณครับ Question
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
somchai
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 21/07/2009
ตอบ: 1290

ตอบตอบ: 10/05/2010 2:43 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คำถามๆได้ ประทับใจ จ๊อด จริงๆเลยครับ Question

ผมถามคุณกลับละกันครับ Very Happy

1. พืช ส่วนใหญ่ที่ว่าคือ พืชอะไร

2. พื้นที่ ปลูก เป็นอย่างไร ฝนตกมากน้อยเท่าใด ปริมาณความชื้นของดินเป็นเช่นไร

3. พืชที่ปลูกอยู่ในระยะไหน

4.ความขยัน ของเจ้าของพืชนั้นๆมีมากน้อยเพียงใด

เมื่อคุณแจกแจงได้ครบ จะมีคนเข้ามา ตอบรายละเอียดให้ครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nokkhuntong
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010
ตอบ: 256

ตอบตอบ: 10/05/2010 4:51 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สงสัยเรื่อง "รดน้ำพืช" เหมือนกัน แต่ต่างมุมกัน

นกขุนทองมีบ่อปูนก่อ เก็บน้ำขนาด ( กว้าง x ยาว x สูง ) 3 บ่อ ดังนี้

1. 3.2 x 4 x 1.2 เมตร = 15.36 ตารางเมตร
2. ".............." = 15.36 ตารางเมตร
3. 2.4 x 4 x .85 เมตร =8.16 ตารางเมตร
ดังนั้น 15.36 + 15.36 + 8.16 = 38.88 ตารางเมตร
(น้ำใช้ภายในบ้านมีเก็บต่างหาก)

สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะว่า จะคำนวณเป็นลิตร เป็น ซีซี จะใช้รดน้ำต้นไม้ได้นานมากน้อย แค่ไหน(ตารางเมตร คูณ 1000 เป็นคิว หารหรือคูณอะไรอีกทีเป็นลิตร ยังไม่ได้หาข้อมูล)

ถ้าพื้นที่ 4 ไร่ปลูกมะม่วง กล้วย มะนาว มะละกอ จะพอไหม ละแวกนั้นปลูกสัปปะรด อ้อ...น้ำทางอบต.จัดสรร ตอนหน้าแล้งเดือนที่แล้ว ไม่เปิดน้ำมาให้เกือบอาทิตย์ (น้ำจากทะเลสาบ)ตอนนี้ยังไม่ได้ปลูกค่ะ หาข้อมูลความน่าจะเป็นอยู่

แล้วที่ลุงพูดเสมอ ๆ ในวิทยุว่า " ปลูกพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก " มีพืชอะไรบ้างหรือค่ะลุง Razz

ขอบคุณค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 10/05/2010 9:19 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

คำพูด:
1. 3.2 x 4 x 1.2 เมตร = 15.36 ตารางเมตร
2. ".............." = 15.36 ตารางเมตร
3. 2.4 x 4 x .85 เมตร =8.16 ตารางเมตร
ดังนั้น 15.36 + 15.36 + 8.16 = 38.88 ตารางเมตร


กว้างxยาวxสูง หน่วยที่ออกมาต้องเป็นปริมาตร(ลูกบาศก์...)ครับ ไม่ใช่พื้นที่(ตาราง...)

เพราะฉนั้น 3.2 x 4 x 1.2 เมตร = 15.36 ลูกบาศก์เมตร ไม่ใช่ตารางเมตรครับ

38.88 ลบ.ม. เท่ากับ 38.88 x 1,000 = 38,880 ลิตร = 38,880,000 ซีซี

การที่ต้องการทราบว่าใช้รดน้ำต้นพืชได้นานแค่ไหน ต้องดูที่ขนาดปั้มอีกอย่าง โดยดูที่แผ่นเพลทข้างๆปั้มว่าความสามารถในการส่งน้ำได้กี่ลิตร/ชม.

อ๊อดครับ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 10/05/2010 9:36 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

น้ำต้องมาก่อน เพราะน้ำคือชีวิต....มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้.....ไม่มีน้ำ มีไฟฟ้า คนอยู่ไม่ได้

แนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ที่ว่า เมื่อมีสระกักเก็บน้ำแล้ว จะต้องมีน้ำจากแหล่งธรรมชาติสำหรับเติมน้ำลงสระด้วย......

โดยธรรมชาตินั้น น้ำจะระเหยหายไปในอากาศ วันละ 1 เซ็นติเมตร เสมอ

พระราชดำรัส แห่ง องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ




ปัจจัยที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนของคนชนบทได้อย่างแท้จริง คือ "น้ำ" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ว่าไหม.... แล้วทำไมจึงสร้างแต่ถนน. สร้างแต่ไฟฟ้า.

ลงทุนซื้อที่ดินแต่ไม่ลงทุนสร้างแหล่งน้ำ หรือไม่ก็ ก่อนตกลงใจซื้อที่ดินทำไมไม่ดูด้วยว่า "น้ำอยู่ไหน" ..... ขุดสระแล้วคิดอย่างเดียวว่า เมื่อถึงหน้าฝนก็จะมีน้ำเติมสระให้เอง ถามว่า น้ำนั้นมาจากไหน ? ตลอดหน้าฝนจะมีน้ำฝนลงมาให้จนเต็มสระเลยหรือ ? น้ำเต็มสระใช้งานได้กี่ครั้ง กี่วัน ?

ขนาดสระ กว้าง-ยาว-ลึก เท่าไรไม่สำคัญ ข้อสำคัญ คือ น้ำจะระเหยหายไปในอากาศวันละ 1 ซม. ถ้าสระน้ำนั้นลึก 3 ม. เท่ากับ 300 ซม. นั่นคือ น้ำจะสามารถอยู่ในสระได้เพียง 300 วัน โดยที่ไม่ได้นำน้ำนั้นออกไปใช้เลยแม้แต่น้อย แล้วน้ำอีกส่วนหนึ่งที่ซึมลงดินก้นสระอีกล่ะ เพราะก้นสระไม่ได้ซีลป้องกันน้ำซึมไม่ใช่หรือ

เพราะฉนั้น เมื่อขุดสระ (ขนาดเท่าไรก็ได้ ตามความเหมาะสม/สวยงาม) แล้ว ควรมีน้ำจากแหล่งธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ. คลอง. ห้วย. หนอง. ที่มีน้ำให้สูบเติมสระของเราได้ตลอดปี เมื่อไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติดังกลาว ก็ต้องเจาะ "บาดาล" เจาะข้างๆ สระนั่นแหละ เมื่อใดน้ำในสระยุบก็ให้สูบบาดาลเติมลงไป...... ตัวอย่างมีที่ไร่กล้อมแกล้ม วันที่ใครๆ เขาแล้งกัน แต่ที่ไร่กล้อมแกล้ม ถ้าเผลอเป็นน้ำท่วมแน่

ถ้าไม่มีน้ำจากแม่น้ำ. คลอง. ห้วย. หนอง. ที่มีน้ำตลอดปี หรือไม่มีแม้แต่น้ำใต้ดิน เจาะบาดาลไม่ขึ้น ก็ไม่ต้องขุดสระ (สระน้ำแต่ไม่มีน้ำ บ้านลุงคิมเรียก หลุมอุกาบาด) ให้ทำแท๊งค์น้ำ ขนาดจุ 10,000-20,000 ล. (ตามความจำเป็น) ยกสูง 8-10 ม. ช่วงหน้าฝนก็ซื้อน้ำ (ราคาถูก) มาสูบใส่รอไว้

เห็นว่ามีทะเลสาบ วิเคราะห์ซิ น้ำในทะเลสาบมีมานานกี่ร้อยปีแล้ว น้ำที่เติมทะเลสาบทุกปีๆ มาจากไหน ฝนตกแล้วไหลเข้าไป หรือมีตาน้ำใต้ดินก้นทะเลสาบไหลซึมพุ่งขึ้นมาเองตลอดปีตลอดชาติ น้ำในทะเลสาบสามารถซึมลงไต้ดินก้นทะเลสาบได้ไหม ถ้าซึมได้มันควรจะซึมแผ่กว้างไปได้ไกลซักเท่าไหร่ ..... เหล่านี้ คือ ลักษณะทางธรรมชาติ ทั้งสิ้น

ถ้าแปลงเราอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบนัก (กะระยะแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับขนาดของทะเลสาบ เพราะมันหมายถึงปริมาณน้ำในทะเลสาบกับน้ำส่วนที่ซึมแผ่กว้างออกไป) เชื่อว่า "เจาะบาดาล" ได้ หรือไม่ก็ ขุดสระลงไปแล้วอาจจะเจอตาน้ำใต้ดินก้นสระ เป็นน้ำมี่ซึมแผ่มาจากทะเลสาบก็ได้.....น่าจะตระเวนไปตามบ้านต่างๆ รัศมี 500 ม. - 1 กม. รอบแปลงเรา สำรวจซิว่ามีใครเจาะบ่อบาดาลบ้าง นั่นคือ คำตอบที่ดีที่สุด

เมื่อมีน้ำปริมาณจำกัด ให้เลือกปลูกพืชประเภทใช้น้ำน้อย พืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว ราคาดี ออกนอกฤดู ให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด (อิสราเอล) ..... แต่ถ้าอยากลงไม้ผลยืนต้น ให้เริ่มปลูกด้วยเมล็ด เพื่ออาศัยรากแก้วสู้กับความแล้งบนผิวดิน รากแก้วจะหยั่งลงดินลึกหากินก็พอจะช่วยตัวเองได้ช่วงแล้งจัดๆ 2-3 เดือน จากนั้น พยายามให้มีพืชคลุมหน้าดินเพื่อป้องกันแดดเผา กับช่วยกักเก็บความชื้นได้อีกด้วย

การคิดคำนวน พืชต้องการน้ำเท่านั้นเท่านี้ ลิตร/วัน น่ะ วิชาการมากไป เขาเรียกว่า วิชาเกิน พืชต้องการน้ำในดินในระดับ "ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่" แค่ไหนก็แค่นั้น.....ผักบุ้ง ผักกะเฉด แห้ว กระจับ ต้องการน้ำมากระดับ "แช่" ตลอดอายุขัย ถ้าน้อยกว่านี้ไม่ตายก็ไม่โต ในขณะที่ "เคกตัส" (ต้นละเป็นหมื่น) ต้องการน้ำ 1 ซีซี./อาทิตย์ ถ้าให้มากกว่านี้ รากเน่า/ตาย



1+1=2 บางครั้ง 1+1=1 ....นั้นคือ โลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จและไม่มีตัวเลข
ลุงคิมครับผม

-----------------------

สายตรง : (074) 813-73xx, (084) 489-01xx, (061) 810-34xx, (082) 182-39xx, (081) 972-46xx, (087) 184-38xx

สรุป คำถาม-คำตอบ :
ถาม : วิธีการแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ดูอย่างไรจึงรู้ว่าตรงไหนมีน้ำบาดาลไต้ดิน ?

ตอบ :
วิธีที่ 1 :
อุปกรณ์ : ใช้ลวดทองแดง ขนาด 1/2 ซม. ยาว 50 ซม. ดัดงอเป็นรูปแอลล์ ภาษาอังกฤษ ให้ด้านยาว 40 ซม. ด้านสั้น 10 ซม. จำนวน 2 อัน

วิธีใช้ : ถอดรองเท้า จับลวดทองแดงด้านสั้นทั้ง 2 อัน ด้วยมือซ้ายขวา จับหลวมๆ ให้ด้านยาวชี้ตรงไปข้างหน้า แล้วออกเดินไปข้างหน้าช้าๆ จังหวะนี้จะพบว่า ลวดทองแดงด้านยาวที่ชี้ไปข้างหน้านั้นแกว่งสายไปมา ส่ายแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำไต้ดิน ถ้าไม่ส่ายเลยแสดงว่าไม่มีน้ำเลย ถ้าส่ายมากๆ ส่ายกว้างๆ แสดงว่ามีน้ำไต้ดินมาก จังหวะนี้ให้สังเกตปลายลวด ถ้าปลายลวดส่ายปลายเข้าหากันจนมาชนกัน แสดงว่าจุดศูนย์กลางของน้ำไต้ดิน (บาดาล) อยู่ ณ ตรงจุดนั้น แนะนำว่า ควรสำรวจบริเวณที่ลวดส่ายจนปลายมาชนกันให้ทั่วบริเวณ เพื่อให้รู้ขนาดพื้นที่ทั้งหมดที่คาดว่ามีน้ำไต้ดิน

วิธีที่ 2 : ต้องการพิสูจน์ว่าบริเวณไหนมีน้ำไต้ดิน เริ่มจากสังเกตหญ้าหรือวัชพืชสามารถเจริญเติบโตได้แม้หน้าแล้ง เบื้อต้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามันต้องมีน้ำ และน้ำนั้นก็ต้องอยู่ไต้ดินที่รากลงไปได้ด้วย ให้ตัดหญ้าหรือวัชพืชออกก่อน แล้วขูดหน้าดินบริเวณนั้นลึกประมาณครึ่งฝ่ามือ พื้นที่กว้างประมาณ 1 ฝ่ามือ แล้วปรับเรียบ ถึงตอนค่ำให้ใช้ถ้วยกระเบื้องเซรามิก คว่ำครอบดินบริเวณนั้นไว้ ทำ 2-3-4-5 จุด ห่างกันจุดละ 2-3-4-5 ม. ตามความเหมาะสม ปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งเช้าตรู่ ตี4 ตี5 ตี6 ยังไม่มีแสงแดด ไปสำรวจโดยยกถ้วยขึ้นดูด้านใน ถ้ามีหยดน้ำจับที่ก้นถ้วยแสดงว่าบริเวณนั้นมีน้ำบาดาลอยู่ไต้ดิน หยดน้ำมากมีมาก หยดน้ำน้อยมีน้อย ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง วันต่อวัน หรือวันเว้นวัน หรือตามสภาพฤดูกาล เพื่อความมั่นใจในวิธีการ .... จุดสังเกต : ช่วงหน้าแล้ง บริเวณที่มีจอมปลวก รังมดในดิน รังมดบนต้นไม้ วัชพืชขึ้นปกคลุมหน้าดิน ไม้ใหญ่เขียวสดไม่ทิ้งใบ บ่งบอกว่าบริเวณนั้นมีน้ำ
------------------------------------------------------------------

ลักษณะภูมิประเทศของพื้นที่ที่มีน้ำบาดาลไต้ดิน :
- พื้นที่มีลักษณะเป็นทุ่งราบ มีกรวด ทราย หนาเกินกว่า 25 ม. จากผิวดิน กรวดทรายมีลักษณะกลมมน ถ้าไม่กลมมน แต่มีเหลี่ยม มีแง่หรือมุม มีดินเหนียวขาวๆ มักจะไม่มีแหล่งน้ำ

- บ่อน้ำชาวบ้านมีบ่อน้ำใช้ตลอดปี ระดับน้ำในบ่อไม่ลึกมาก
- พื้นที่เป็นทุ่งราบหรือหุบเขา มีแม่น้ำ ลำธาร ห้วย หนอง ไหลผ่าน ลำน้ำคดเคี้ยวไปมา และมีหาดทรายกว้างขวาง ฤดูฝนมักมีน้ำล้นฝั่ง ฤดูแล้งมีน้ำไหล ท้องที่นั้นจะเป็นแหล่งน้ำบาดาลอย่างดี เจาะตรงไหนก็ได้

- พื้นที่เป็นคุ้งน้ำ เลือกเจาะบริเวณคุ้งน้ำด้านที่มีหาดทราย ส่วนด้านตรงข้ามซึ่งมีตลิ่งชันและน้ำเซาะไม่ควรเจาะ

- พื้นที่ทุ่งราบกว้างขวางริมทะเล มีน้ำบาดาล แต่หากลึกเกินไป อาจได้น้ำเค็ม
- พื้นที่เป็นราบลานเทขั้นบันไดหลายชั้น ควรเจาะบริเวณที่อยู่ระดับต่ำที่สุด บริเวณที่ราบอยู่ระดับสูงๆ ถึงจะมีน้ำแต่อยู่ลึก

- พื้นที่ชั้นดินเหนียวสลับชั้นกรวดทราย ครั้งแรกพบน้ำน้อย ให้เจาะลึกลงไปอีกจนถึงชั้นทรายล้วนๆ ก็จะมีน้ำ

- บ่อเจาะควรอยู่ห่างจากแหล่งน้ำโสโครก เช่น ส้วม หรือท่อระบายน้ำ ให้มากกว่า 20-30 ม.
- พื้นที่ทุ่งราบแล้ง แต่มีต้นไม้ขึ้นเขียวชอุ่มเป็นแนวยาว เป็นตอนๆ ตลอดปี แสดงว่าบริเวณนั้นมีแหล่งน้ำบาดาล ซึ่งอาจจะอยู่ในบริเวณร่องน้ำเก่า ถ้าจะเจาะน้ำบาดาลบริเวณนั้นจะได้ผล

- พื้นที่เป็นหิน แบบโผล่ให้เห็นบนผิวดิน หรือฝั่งตื้นๆ อยู่ใต้ผิวดิน บริเวณนั้นมักไม่มีน้ำบาดาล แต่ถ้าเป็นบริเวณต่ำๆ เป็นหุบแนวยาวๆ จะมีน้ำ

- พื้นที่แหล่งน้ำเค็ม หรือแหล่งเกลือ (ที่ราบตอนกลางของภาคอิสาน) ควรจะเลือกเจาะบริเวณที่เป็นเนินสูงๆ มีป่าหรือพุ่มไม้ อาจจะมีโอกาสได้น้ำจืด

- พื้นที่ภูเขา มีหินแข็งโผล่ทั่วไป ชั้นหินเอียงเทลงไปทางเชิงเขา ไม่มีน้ำบาดาล แต่ถ้าเลื่อนไปทางเชิงเขาอาจจะได้น้ำ และน้ำอาจจะพุ

http://www.dgr.go.th/water/waterforlife2_1.htm

ลักษณะทางภูมิศาสตร์ไร่กล้อมแกล้มต่อน้ำไต้ดิน :
- ห่างจากคลอง (กว้าง 80 ม.) ส่งน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ 200 ม. (วัดทางตรง) มีน้ำตลอดปีทั้งแต่สร้างเขื่อน

- ห่างไปทางเหนือ 200 ม. มีบ่อบาดาลชาวบ้าน 1 บ่อ ยังใช้การใช้ดี
- ห่างไปทางไต้ 1 กม. มีบ่อบาดาลประปาหมู่บ้าน ยังใช้การได้
- ไร่กล้อมแกล้มอยู่ตรงกลางระหว่าง บ่อบาดาลชาวบ้าน กับบ่อบาดาลประประปาหมู่บ้าน บนเส้นตรงแนวเดียวกัน
------------------------------------------------------------

ถาม : ก่อนลงมือเจาะบาดาลที่ไร่กล้อมแกล้ม พูดคุยตกลงกับคนรับจ้างเจาะอย่างไร ?
ตอบ :
ลุงคิม : เคยเจาะบาดาลมากี่ปีแล้ว ?
คนเจาะ : ตั้งแต่เป็นหนุ่ม ตอนนี้อายุเกือบ 60 แล้ว

ลุงคิม : บ้านอยู่แถวไหน ?
คนเจาะ : จอมบึง ราชบุรี .... คุณล่า สมาชิกสีสันฯ รู้จักดี

ลุงคิม : บาดาลบ่อสุดท้ายที่ทำหรือเจาะ อยู่ที่ไหน ?
คนเจาะ : บ้านโป่งแยง ห่างจากที่นี่ไปกิโลกว่าๆ เจาะเมื่อปีที่แล้ว

ลุงคิม : ยังใช้งานได้ดีไหม ?
คนเจาะ :ดีครับ ปีกว่าแล้วน้ำยังพุ่งแรงอยู่เลย กับห่างไปทางนี้อีก 2 กิโล ก็อีกบ่อนึง บ้านนั้นใช้งานมากว่า 10 ปีแล้ว ก็ยังใช้การใช้อยู่ .... เฉพาะราชบุรี เจาะมาซัก 20 บ่อ

ลุงคิม : O.K. ตกลงจ้างคุณ .... ถามราคาหน่อย คิดราคาเท่าไหร่ ?
คนเจาะ : ขอ 4หมื่นครับ รวมซัมเมิร์ซ อุปกรณ์ทุกอย่าง

ลุงคิม : O.K. ราคานี้ไม่ต่อ แต่ขอถามหน่อยว่า ซัมเมิร์ซ ปั๊มไต้ดินยี่ห้ออะไร ? ท่อที่เจาะลงไปเป็นเหล็กหรือ พีวีซี. ? ขนาดเท่าไร ? ลึกเท่าไร ? ท่อน้ำที่พุ่งออกมาขนาดกี่นิ้ว ?
คนเจาะ : ซัมเมิร์ซยี่ห้อแฟลงค์กิ้ล ของแท้อเมริกา ท่อเจาะเหล็กขนาด 2 นิ้ว ความลึกบ้านนี้ผมคิดว่า 4ท่อน 24ม. น่าจะใช้ได้ เรื่องนี้ผมรับเอง ลึกมากก็ใช้หลายท่อน ส่วนปากท่อน้ำพุ่งก็ต้อง 2 นิ้วเหมือนกัน เป็น พีวีซี.

ลุงคิม : O.K. น้ำที่พุ่งขึ้นมาด้วยท่อ 2 นิ้ว พุ่งตลอด 24 ชม.ทั้งวันทั้งคืนได้ น้ำใส กลิ่นสะอาด รสจืดสนิท กินได้
คนเจาะ : รับรองครับ ทุกบ่อที่ผมเจาะได้แบบนี้ทั้งนั้น

ลุงคิม : อืมมม ที่นั่นกับที่นี่มันคนละที่กันนะ ระวังเซียนตกขี้เมฆ
คนเจาะ : ดูพื้นที่แล้วไม่กลัวครับ ถ้าไม่ได้ตามนี้ ผมไม่คิดเงินครับ

ลุงคิม : O.K. 40,000 วางไว้ตรงนี้ เสร็จแล้ว น้ำพุ่งแล้ว เอาไปเลย .... กี่วันได้เห็นน้ำ ?
คนเจาะ : ขอเวลา 3 วันครับ

ลุงคิม : O.K. ลุย !

ภารกิจ : รถปิ๊กอั๊พ 1 คัน สว่าน 1 ตัว แรงงานลูกน้อง 3 คน .... บ่ายวันที่ 2 ของการเจาะเริ่มปั๊มน้ำขึ้นมาให้เห็น ตรวจแล้วเห็นว่ายังไม่ได้ตามตกลง ต้องเจาะลึกลงต่อไปอีก ระหว่างนี้พบว่าทรายไต้ดินบริเวณนั้นดีมากๆ เป็นทรายเกรด เอ. ดูดขึ้นบรรทุกปิ๊คอั๊พได้เป็นคันๆ .... บ่ายวันที่ 3 ของงานเจาะ เอาน้ำมาดูความใส ชิมรสความจืด ดมหากลิ่น ได้ตามที่ตกลงทุกประการ น้ำพุ่งขึ้นมาเหนือปากท่อ 2 นิ้วราวครึ่งศอกแขน แรงหรือไม่แรงไม่รู้ เพราะเป็นบ่อบาดาลครั้งแรกในชีวิต ว่าแล้วเริ่มสูบน้ำใส่สระทันที สูบน้ำเวลา 09.00-16.00 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านย่านนั้นใช้ไฟฟ้าน้อย รวม 3 วัน ระหว่างสูบน้ำขึ้นมานั้น สังเกตเห็นน้ำแรงเสมอเท่ากันตลอดเวลา จนน้ำเต็มสระ

เคยพูดอยู่บ่อยๆ ว่า ที่ไหนแล้งก็แล้งไป แต่ที่ไร่กล้อมแกล้มไม่กลัวแล้ง ตรงกันข้าม ถ้าเปิดบาดาลทั้งเดือนมีหวังกลายเป็นน้ำท่วมได้

ซื้ออุปกรณ์ : ชุดเจาะบาดาล รวมถึงระบบปั๊มน้ำ สปริงเกอร์ ทุกรายการทุกชิ้นที่ ร้านประเสริฐภัณฑ์ บ้านโป่ง เป็นการยืนยันว่า ไม่ต้องสั่งซื้อจาก กทม. หรือบริษัทใหญ่
-----------------------------------------------------------------------

ถาม : น้ำบาดาลขึ้นมาแล้ว มีกลิ่นเหม็น สีน้ำตาลไหม้ แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
สาเหตุเพราะมีสารละลายเหล็กและแมงกานิสสูง เป็นด่างจัด แก้ไขโดย นำน้ำมาตกตะกอนด้วยการพ่นน้ำผ่านอากาศ หรือกรองด้วยทรายกรองหรือสารกรองแมงกานีสไดออกไซด์ แล้วปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยเปลี่ยนสารละลายเหล็กให้เป็นตะกอนของเหล็กชนิดเฟอร์ริก Fe3+

การผลิตสารกรองสนิมเหล็ก :
- ใช้เม็ดทรายหรือเม็ดดินเผาเป็นตัวพยุงหรือตัวแกน
- เคลือบด่างทับทิมให้ติดเม็ดทรายหรือเม็ดดินเผา
- เผาด่างทับทิมให้สลายตัวกลายเป็นแมงกานีสไดออกไซด์

ใช้สารแมงกานีสไดออกไซด์เคลือบติดเม็ดทราย ใช้ทำสารกรองสนิมเหล็ก :
- ใช้ด่างทับทิม 1 กก. ต่อเม็ดทรายคัดขนาด 20 ล. ละลายในน้ำ 5 ล.
- ต้มด่างทับทิมให้เดือด เทเม็ดทรายที่คัดทำความสะอาดแล้วเทลงไป
- คนพลิกเป็นระยะ จนเม็ดทรายเริ่มหมาด ให้คนพลิกต่อเนื่องจนเม็ดทรายแห้ง
- คั่วแห้งขณะไฟแรงอีก 3 ชั่วโมง โดยคนพลิกทุกๆ 20 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น สามารถใช้เป็นสารกรองได้เลย

ถึงแม้ว่าการผลิตสารกรองด้วยวิธีนี้จะด้อยกว่าการผลิตด้วยเตาเคลือบ แต่การลงทุนต่ำกว่าการซื้อสารกรองในท้องตลาด อีกทั้งยังสามารถทำได้เอง โดยนำไปตกตะกอนสาร ละลายเหล็กในน้ำบาดาลให้เกิดเป็นตะกอนอย่างสมบูรณ์ และกรองจับไว้ในชั้นกรอง ทำให้น้ำที่ผ่านสารกรองนี้ปราศจากสนิมเหล็ก

http://202.129.59.73/nana/badan/nunbadan.htm
https://wastewatertreatments.wordpress.com

--------------------------------------------------------------

ถาม : บาดาล 1 บ่อ สูบน้ำได้นานเท่าไร ? ถ้าน้ำหมด แก้ไขอย่างไร ? ของไร่กล้อมแกล้มใช้งานมานานเท่าไหร่ ? ค่าไฟฟ้าเดือนละเท่าไหร่ ?
ตอบ :
- กำหนดแน่นอนไม่ได้ เพราะทุกอย่างอยู่ไต้ดิน
- ปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่
.... ปริมาณน้ำไต้ดินเฉพาะบริเวณ
.... ปริมาณน้ำไต้ดินบริเวณข้างเคียงที่จะไหลเข้าไป
.... ลักษณะทางภูมิศาสตร์ประจำพื้นที่
.... ความ แน่น/เหนียว ของเนื้อดิน

- เจาะบาดาลทันทีที่ขุดสระเสร็จ ทั้งๆที่ ยังไม่ได้ลงต้นไม้เลยแม้แต่ต้นเดียว
- ค่า pH 8.0-8.5 ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ pH น้ำระดับนี้ปลาชอบ
- ใช้มาแล้วเกือบ 10 ปี ปริมาณน้ำคงเดิมเหมือนวันแรก

- น้ำเติมสระ จากบาดาลเป็นน้ำสำรอง แต่น้ำใช้ที่เป็นหลักจริงๆ มาจากชลประทาน โดยเจาะลำลางไส้ไก่หน้าสวน มุดไต้ดินมาโผล่ที่สระ ที่ท้ายสระมีท่อระบายน้ำล้นออกไปทางร่องระบายน้ำสาธารณะสู่นาชาวบ้านได้ กรณีน้ำล้นนี้เท่ากับได้ระบายน้ำเก่าออกแล้วรับน้ำใหม่ตลอดเวลา เมื่อครั้งลูกๆ นศ.ไปฝึกงาน กระโดดเล่นน้ำกันบ่อยๆ

- ค่าไฟฟ้าช่วงที่ชลประทานส่งน้ำ ใช้น้ำสำหรับ ต้นไม้/หมา/โรงปุ๋ย/คน เดือนละ 900-1,000 .... ช่วงที่ชลประทานไม่ส่งน้ำ (เกี่ยวข้าว .... ปีละ 2 เดือน) ใช้น้ำสำหรับต้นไม้ หมา โรงปุ๋ย คน เดือนละ 1,800-2,000
---------------------------------------------------------------

ถาม : น้ำบาดาลที่ไร่กล้อมแกล้ม จากบ่อส่งไปสปริงเกอร์ให้ต้นไม้โดยตรงเลย ได้ไหม ? ถ้าได้ทำอย่างไร ถ้าไม่ได้เป็นเพราะอะไร ? แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- จากบ่อบาดาลส่งตรงไปสปริเกอร์ทันทีเลยไม่ได้ เพราะแรงดันปั๊มที่บ่อบาดาลแรงไม่พอ (ซัมเมริซ์มีกำลัง 1/2 แรงม้าเท่านั้น)

- แก้ไขโดยสูบน้ำขึ้นมาใส่บ่อพักก่อน แล้วใช้ปั๊ม 3 แรงม้าสูบน้ำจากบ่อไปสปริงเกอร์

-------------------------------------


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 04/10/2020 12:06 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
loopalike
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 27/01/2010
ตอบ: 15

ตอบตอบ: 10/05/2010 10:04 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ตอบ คุณนกขุนทอง

ลองเข้าไปดูในเวปนี้นะครับ มีเมนูสำเร็จรูป ใช้งานง่าย คำนวนให้เสร็จเลย

>>> http://aopdm01.doae.go.th/irrigationaid/irriaid.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nokkhuntong
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010
ตอบ: 256

ตอบตอบ: 11/05/2010 4:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอบพระคุณลุงคิมค่ะ และ ขอบคุณข้อมูลจากคุณott_club , คุณloopalike นะค่ะและคุณmax9886 เจ้าของกระทู้ด้วย

คำพูด:
ปัจจัยที่สามารถแก้ปัญหาความยากจนของคนชนบทได้อย่างแท้จริง คือ "น้ำ" เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ว่าไหม.... แล้วทำไมจึงสร้างแต่ถนน. สร้างแต่ไฟฟ้า

สร้างถนน ....สร้างแต่ไฟฟ้า = ได้ตังค์ (ใครได้!!!) / ขุดบ่อ....เจาะบาดาล = ได้กล่องไม่ได้ตังค์(กล่อง..ไม่เอา!!!จะเอาตังค์)

คำพูด:
แต่ถ้าอยากลงไม้ผลยืนต้น ให้เริ่มปลูกด้วยเมล็ด เพื่ออาศัยรากแก้วสู้กับความแล้งบนผิวดิน รากแก้วจะหยั่งลงดินลึกหากินก็พอจะช่วยตัวเองได้ช่วงแล้งจัดๆ 2-3 เดือน จากนั้น พยายามให้มีพืชคลุมหน้าดินเพื่อป้องกันแดดเผา กับช่วยกักเก็บความชื้นได้อีกด้วย
สุดยอด..ไหวพริบ..ปฎิภาณเลยค่ะลุง....แนวคิดนี้ไม่เคยได้ยิน..จะนำไปปฎิบัติ...ต้องหัดทาบกิ่งตอนกิ่ง...

" เจาะบาดาล " คงหมดสิทธิ์ค่ะ เพราะเป็นที่สูงแต่จะลองตระเวนดู

สุดท้ายก็ยังปลูกอยู่ดี แต่ปลูกอะไร...ผสมๆไป ไม่เป็นไร ไม้ผลบ้าง ไม้ยืนต้นแบบสวยงามบ้าง......ต้นไหนตายก็ตัด โตก็เลี้ยง อาจออกมาแปลกแต่จริง...ลองดู แล้วจะมารายงานผลจ๊ะ

ขอบคุณนะค่ะ
นกขุนทอง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 11/05/2010 6:47 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

หาโอกาส "ธุดงค์" ไปไร่กล้อมแกล้มซักครั้ง ไปศึกษาให้รู้ว่า ไม้ต้นไหนโต-โตเพราะอะไร....ไม้ต้นไหนตาย-ตายเพราะอะไร....

เรื่อง "โตเร็ว-โตช้า...โตเลี้ยง-ตายตัด" ปัญหานี้แก้ไม่ยาก ถ้า (IF) ขยัน อยู่กับสวนตลอดเวลา.....คิดจะทำสวนเกษตร อย่าเอาเยี่ยงลุงคิม เป็นชาวสวนบรรดาศักดิ์ ทำสวนแบบเกรงใจคนงาน กลัวคนงานร้อน-เหนื่อย กลัวคนงานบ่น-ด่า (ต่อหน้ามันเงียบ ยิ้ม หัวเราะ....ลับหลังมันด่าเราเสียคนไปเลย)

มัวแต่หาข้อมูลอยู่นั่นแหละ ระวังข้อมูลจะทับตัวตาย ข้อมูลยิ่งมากยิ่งไม่กล้าทำ.... ลงมือเลย ไม่ต้องกลัว ตัยเป็งตัย

ทำไปเถอะ ใครว่าก็สวนเขาไป เรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกูเรื่องของกู....เรื่องของมึง


ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
nokkhuntong
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010
ตอบ: 256

ตอบตอบ: 12/05/2010 1:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

"ธุดงค์ " คำนี้เหมาะนัก อยู่ง่าย ฉันง่าย บำเพ็ญเพียรปฏิบัติ แต่ต้องมีความรู้ก่อนออกธุดงค์ ไม่งั้นพวกเอาไปงาบหรือไม่ก็หลงป่า

ฉะนั้น"ธุดงค์" ที่ไร่กล้อมแกล้มก็ควร รู้บ้างก่อนไป ไม่ใช่ไม่รู้อะไรเลย อยู่ง่ายกินง่ายไม่เป็นภาระ ไม่เสียเวลาเรียนรู้ เวลาไม่ต้องนานเป็นเดือน ...3-4 วัน สัก 2-3 ครั้งแบบกลุ่มคลื่นลูกใหม่ระยอง ก็แจ๋ว

ต้องมีวันนั้น..แน่นอน ค่ะ

สู้..ตายค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
ott_club
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009
ตอบ: 718

ตอบตอบ: 12/05/2010 3:29 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ไม่ต้องมีความรู้อะไรมากหรอกครับ อ่านออก-เขียนได้เป็นพอ แต่ที่สำคัญที่สุดที่ต้องเครียมให้พร้อมคือ "ใจ" ครับ ใจต้องกล้า กล้าที่จะแหกคอกการทำเกษตรแบบเดิมๆ

พอกันเสียทีกับการที่ต้องทำตามข้างบ้าน ถึงเวลาแล้วที่ข้างบ้านต้องมาดูเรา วันนี้ข้างบ้านบอกว่าเราบ้า ไม่เป็นไร ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่...

มันสะใจที่ซู้ดดดด.....
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 12/05/2010 6:22 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ใช่แล้วอ๊อด.....เป๊ะเป๊ะ เลยยยย....

คนบ้าไม่มีหนี้ คนดีหนี้เต็มบ้าน....
ทำอย่างเดิมได้น้อยกว่าเดิม....
ทำอย่างข้างบ้าน ได้น้อยกว่าข้างบ้าน....

ทำเกษตรวันนี้ 4 ข้อห้าม....
1... ห้าม เชื่อข้างบ้าน
2... ห้ามเชื่อเถ้าแก่เส็ง ขายปุ๋ยขายยา
3... ห้ามเชื่อเกษตร
4... ห้ามเชื่อคนในกระจก

ทำเกษตรวันนี้ 4 ข้อปฏิบัติ....
1... เชื่อข้างบ้าน
2... เชื่อเถ้าแก่เส็ง ขายปุ๋ยขายยา
2... เชื่อเกษตร
4... เชื่อคนในกระจก


จงเชื่อและอย่าเชื่อลุงคิม
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
bpp344
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 14/05/2010
ตอบ: 1

ตอบตอบ: 14/05/2010 4:28 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เป็นเกษตรแบบภูมิปัญญาจริงๆ เลยครับ แบบนี้ต้องเอาเยี่ยงแล้ว สู้ๆ ครับ ( ชอบใจแบบ "เรื่องของกู" จริงๆ ) Laughing
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©