-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-งานวิจัย : "อีแต๋น" ประหยัดน้ำมันกว่ากระบะ 2 เท่า
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - งานวิจัย : "อีแต๋น" ประหยัดน้ำมันกว่ากระบะ 2 เท่า
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

งานวิจัย : "อีแต๋น" ประหยัดน้ำมันกว่ากระบะ 2 เท่า

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/04/2010 6:40 pm    ชื่อกระทู้: งานวิจัย : "อีแต๋น" ประหยัดน้ำมันกว่ากระบะ 2 เท่า ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

“อีแต๋น" มาตรฐานต้นแบบ ลดใช้น้ำมันมากกว่ากระบะ 2 เท่า

จากเครื่องยนต์ รถไถนาเดินตามถูกดัดแปลงกลายเป็นรถยนต์เพื่อการเกษตรหรือที่รู้จักกันว่า "รถอีแต๋น" และมีใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่กลับเป็นรถที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้ เนื่องจากไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย จึงเป็นโจทย์สู่การวิจัยให้ได้รถที่ถูกหลักวิศวกรรม จนได้ต้นแบบที่ประหยัดน้ำมันกว่ารถแบบดั้งเดิม 2 เท่า

ปิยพงศ์ เพ็ญชาติ ผู้ช่วยห้องปฏิบัติการยานยนต์ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า ไทยมีการผลิตรถอีแต๋นอยู่มากมาย แต่รถที่ประกอบขึ้นส่วนมากนั้น ใช้เครื่องยนต์มือสองจากเครื่องยนต์ของรถไถนาเดินตาม และอาศัยความรู้จากประสบการณ์ของผู้ผลิต โดยไม่มีองค์ความรู้เชิงวิศวกรรม จึงมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการนำไปใช้งาน และยังผิดกฎหมายเมื่อนำมาวิ่งบนถนน

เอ็มเทคจึงได้พัฒนารถอเนกประสงค์ เพื่อเกษตรกรที่ถฏหลักวิศวกรรม โดยมี ดร.ฉัตรชัย จันทร์เด่นดวง นักวิจัยเอ็มเทค เป็นหัวหน้าโครงการ ซึ่งปิยพงศ์ได้ร่วมในโครงการดังกล่าวด้วย และเขาได้บอกอีกว่ารถเอนกประสงค์นี้ออกแบบมาเพือภาคเกษตรโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อเทียบความปลอดภัยกับรถอีแต๋นทั่วไปแล้ว รถเอนกประสงค์นี้มีความปลอดภัยมากกว่า และเมื่อเปรียบเทียบกับรถกระบะที่มีราคาแพงกว่าแล้ว รถอเนกประสงค์ยังประหยัดน้ำมันมากกว่าถึง 2 เท่า

ทั้งนี้ทีมวิจัยได้พัฒนาส่วนประกอบต่างๆ ของรถอเนกประสงค์คือ ระบบเฟืองท้าย ดุมล้อและระบบเบรก เพลาหน้า ระบบบังคับเลี้ยว และระบบรองรับการสั่นสะเทือน แล้วนำมาประกอบขึ้นเป็นรถอเนกประสงค์ อย่างไรก็ดีทีมวิจัยยังต้องพัฒนาชิ้นส่วนบางชิ้น ซึ่งยังไม่สามารถผลิตขึ้นในประเทศได้ คือระบบบังคบเลี้ยว เกียร์ และเฟืองท้าย

รถอเนกประสงค์เพื่อการเกษตรนี้ใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ 14 แรงม้า โดยน้ำหนักรถ 1.6 ตัน สามารถบรรทุกได้ 1.4 ตัน และได้ผ่านการวิเคราะหฺและทดสอบความปลอดภัย ซึ่งสามารถจดทะเบียนเป็นรถบรรทุกการเกษตรแบบ รย.15 ได้

พร้อมกันนี้ บวร รุ่งเสถียร นักวิเคราะห์โครงการ โปรแกรมเทคโนโลยียานยนต์เพื่อการแข่งขันที่ยั่งยืน สำนักงานบริหารคลัสเตอร์และโปรแกรมวิจัย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้เปิดตัวรถโดยสารไฟฟ้า 15 ที่นั่ง ผลงานวิจัยที่มี ดร.ชินะ เพ็ญชาติ หัวหน้าห้องปฏิบัติการยานยนต์เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย

รถโดยสารไฟฟ้าดังกล่าว ไม่ใช้เครื่องยนต์เหมือนรถโดยสารทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลปั่นไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ โดยรถโดยสารไฟฟ้านี้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีตะกั่ว 14 ลูกสำหรับใช้ขับเคลื่อนรถยนต์ และใช้แบตเตอรีอีก 12 ลูกสำหรับระบบปรับอาหาศภายในรถ โดยการชาร์จประจุไฟฟ้า 1 ครั้งจะวิ่งได้ไกล 60 กิโลเมตร และวิ่งได้เร็วสูงสุด 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งทีมวิจัยมองว่าจะเป็นทางเลือกสำหรับรถโดยสารในเมือง ส่วนการพัฒนาเป็นรถโดยสารระยะไกลนั้นต้องพัฒนาแบตเตอรีลีเทียม ซึ่งจะทำให้รถวิ่งได้เร็วและไกลขึ้น

“การทำงานของรถนั้นขึ้นอยู่กับแบตเตอรีโดยตรง แต่ตอนนี้มีปัญหาเรื่องแบตเตอรีลีเทียมที่ยังมีราคาสูงมาก ทั้งนี้งานวิจัยรถบัสไฟฟ้านี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาโลกร้อน เอ็มเทคจึงคิดที่จะพัฒนารถไฟฟ้า และเลือกพัฒนารถบัสไฟฟ้า เนื่องจากเมืองไทยมีรถบัสจำนวนมาก หากทำให้รถบัสเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้มาก" บวรเผย


ที่มา : MTEC
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©