-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 17 DEC *1 ไร่ ปลูกอะไรรวย ?
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 18 DEC *นักวิชาการต่อการเกษตรของไทย
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 18 DEC *นักวิชาการต่อการเกษตรของไทย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11563

ตอบตอบ: 18/12/2015 2:17 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 18 DEC *นักวิชาการต่อการเกษตรของไทย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 18 DEC

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------




ทางออกของเกษตรกรจากวงจรแห่งความล้มเหลวซ้ำซาก ในเชิงหลักการ :
1. ต้องมีความเชื่อมั่นในคุณค่าของการเกษตรและเกษตรกรว่า เป็นฐานรากสำคัญของประเทศ หากไร้การเกษตรประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่อ่อนแอและพึ่งตนเองไม่ได้ แม้แต่ด้านอาหารและยา

2. ปัญหาการเกษตรทุกปัญหา แก้ไขด้วยวิถีทางที่สร้างสรรค์และเป็นระบบ แม้บางประเด็นจะต้องใช้เวลายาวนานก็ตาม

3. เกษตรกรต้องแก้ปัญหาของเกษตรกรเอง พึงระลึกเสมอว่า ไม่มีใครแก้ไขปัญหาเกษตรกรได้ นอกจากตัวเกษตรกรเอง ยิ่งมีคนนอกเข้ามาแก้ จะยิ่งทำให้ปัญหายุ่งยากซับซ้อนหนักขึ้นไปอีก

4. รัฐต้องสนับสนุนเกษตรกรให้แก้ปัญหาตนเอง รัฐต้องมีบทบาทเป็นพี่เลี้ยงประคับประคองให้กลุ่มองค์กรเกษตรกรลุกขึ้นได้ เดินได้ วิ่งได้ โดยไม่ต้องไปอุ้มไปสงเคราะห์แก้ปัญหาเฉพาะหน้า

5. ภาคธุรกิจเอกชน ต้องไม่เอารัดเอาเปรียบเกษตรกร ต้องร่วมรับความเสี่ยงกับเกษตรกร โดยเฉพาะในกรณีหนี้ เจ้าหนี้ต้องให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา
--------------------------------------------------------------

คนรุ่นใหม่เรียนรู้ระบบเกษตร และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย

คนรุ่นใหม่ คำว่า “รุ่น” ของคน มิได้หมายถึง “อายุ” แต่หมายถึง “แนวคิด” นั่นคือ คนที่อายุมากๆก็เป็นคนรุ่นใหม่ได้ถ้ามีแนวคิดใหม่ๆ ในขณะเดียวกัน คนอายุน้อยๆ แต่คิดแบบเดิมๆ แบบเก่าๆ ที่ทำมานาน ทำแล้วล้มเหลว ล้มเหลวแล้วล้มเหลวอีก เรียกว่า ล้มเหลวซ้ำซาก อันนี้น่าจะเรียกว่า “คนรุ่นเก่า” ได้นะ .... ว่ามั้ย

ศัพท์คำพูดหนึ่งเกี่ยวกับเกษตรกรยุค ไอที. ที่ได้ยินบ่อยๆ คือ คำว่า SMART FARM ความหมายของคำนี้ล้วนเป็น “ปรัชญา” .... ปรัชญาหมายถึง “เหตุและผล” ซึ่งนักวิชาการได้ให้นิยามไว้ดังนี้....

"S.M.A.R.T." หมายถึง หลักการทำการเกษตรสำหรับคนรุ่นใหม่ เพื่อนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จทางอาชีพ ภายไต้หัวข้อต่างๆ คือ

S = Sufficiency Economics หมายถึง เศรษฐกิจพอเพียง ยึดตามแนวคิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้เน้นเดินทางสายกลาง รู้จักความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี นำความรู้มาใช้ในการดำเนินชีวิต และต้องมีคุณธรรม

M = Management Skin หมายถึง การใช้ทักษะด้านการบริหารจัดการ รู้จักใช้การตลาด และการเงิน
A = Art of living หมายถึง การใช้ชีวิตให้มีความสุข โดยเลือกทำในสิ่งที่รัก
R = Relationship หมายถึง การใช้ชีวิตที่ร่ำรวยด้วยเพื่อนฝูงดี ๆ
T = Tools for productivity หมายถึง การใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

http://www.nstda.or.th/news/15553-smart-way-smart-camp
--------------------------------------------------------------

โพลชี้เด็กรุ่นใหม่เมินเรียน ”เกษตร” หวั่น 10 ปี วิกฤติ :
ม.เกษตร/มทร.ธัญบุรี – คณบดีคณะเกษตร ชี้เด็กเลือกเรียนเกษตรน้อยลง หวั่นอีก 10 ปีข้างหน้าเกษตรกรขาดแคลน ระบุรัฐเมินให้ความสำคัญส่งเสริมอย่างยั่งยืน

ด้านคณบดี คณะเทคโนโลยีการเกษตร มทร. ธัญบุรี เผย เด็กเลือกเรียนเกษตรประยุกต์มากขึ้น อนาคตเกษตรกรลงมือทำน้อยลง หันมาใช้เครื่องทุ่นแรงและรวมกลุ่มเกษตรกรทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น
COMMENT :
คำว่าประยุกต์ หมายถึง การนำ “บางสิ่ง” มาใช้ประโยชน์ โดย “ปรับใช้” อย่างเหมาะสมกับสภาวะที่เฉพาะเจาะจง .... ความหมายของการประยุกต์ ดังนี้ ....
- การนำ ภาคทฤษฏี สู่ ภาคปฏิบัติ
- การนำเอาความรู้สาขาหนึ่งมาปรับใช้กับอีกสาขาหนึ่ง
- การปรับใช้มิใช่การลอกเลียน
- การนำบางส่วนของบางสิ่งมาใช้
- การนำสิ่งหนึ่งมาปรับใช้ในบทบาท หน้าที่ใหม่ เพื่อ เป้าหมายใหม่

https://www.gotoknow.org/posts/500910
------------------------------------------------

คำว่า “เกษตรกรลงมือทำ” หมายถึงหรือได้แก่ ชาวนาทำนาปลูกข้าวขาย ชาวไร่ปลูกทานตะวันขาย ชาวสวนไม้ผล ชาวสวนผัก ปลูกแล้วขาย หมายรวมไปถึง ประมงจับปลาเลี้ยงปลาขาย ปศุสัตว์เลี้ยงไก่ขายไข่ไก่ขายตัวไก่ เลี้ยงวัวขายวัว .... สรุป เกษตรกร คือ ผู้ผลิตแล้วขายโดยตรงต่อผู้ซื้อ

คำว่า “เกษตรประยุกต์” คือ ผู้มีอาชีพที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับเกษตรกร ทั้งโดย ตรงและโดยอ้อม เช่น
.... ขายอาหารสัตว์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ปลาหมูวัว
.... ขายปุ๋ยยาให้เกษตรกรผู้ปลูกผักพืชไร่ไม้ผล
.... ขายสปริงเกอร์ เครื่องสูบน้ำ รถไถดิน รถพรวนดิน
.... เป็นคนกลางรับซื้อผลผลิต ไปขายส่งตลาดกลาง หรือนำมาแปรรูป ได้มูลค่าเพิ่มขึ้น

ประชากรอเมริกา 52% ทำอาชีพเกี่ยวกับเกษตร ในจำนวนนี้ 4% เป็นเกษตรกรทำกับมือ ทำแล้วขาย ที่เหลือ 48% เป็นเกษตรกรประยุกต์ คือ ทำอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกร

คนที่เรียนเกษตรมาโดยตรง เรียนการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์มาแล้ว เรียนจบแล้วไม่ทำเกษตรโดยตรง แต่ไปทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรที่เรียนมา แม้จะเรียนมาเพียงด้านเดียว เช่น “พืชไร่” แต่ก็จะมีความรู้พื้นฐานด้านอื่นๆ กระทั่งพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ว่าแล้วก็ไปทำธุรกิจเกษตรที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง ไม้ผล ไม้ดอก พืชไร่

คนทำงานที่ ก.เกษตร, ธ.ก.ส., สกย., สกป., กนข., สหกรณ์การเกษตร กระทรวงอื่นที่หน้าที่ภารกิจเกี่ยวข้องกับการเกษตร คือ “เกษตรประยุกต์” ทั้งสิ้น

คนทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เช่น องค์กรการกุศล มูลนิธิ สมาคม ชมรม กลุ่ม อาสาสมัคร นี่ก็ “เกษตรประยุกต์” เหมือนกัน
---------------------------------------------------------------------

* เกษตรประยุกต์ ใช้สมองแทนกำลัง ไม่เป็นต้นน้ำ แต่เป็นกลางน้ำ หรือปลายน้ำ
* เกษตรลงมือทำ ใช้ทั้งสมองและกำลัง ทำแต่ต้นน้ำ ไม่ทำกลางน้ำ หรือปลายน้ำ
.... รับข้าวเปลือกจากคนทำนามาสีเป็นข้าวกล้อง หรือข้าวกล้องงอก หรือข้าวฮางแล้วขาย
.... สีข้าวได้ข้าวสารแล้วทำน้ำมันรำ หรือจมูกข้าวแค็ปซูล
.... เกี่ยวข้าว สีข้าวแล้ว ทำปุ๋ย อินทรีย์/เคมี/ฮอร์โมน/วิตามิน/ชีวภาพ สูตรสั่งตัด
--------------------------------------------------------------------

จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ในเขตพื้นที่ภาค เหนือ จำนวน 934 ราย ต่อความเห็นเกี่ยวกับความสนใจในวิชาความรู้ด้านการเกษตรของเยาวชน ในหัวข้อ “เด็กไทยกับการเกษตร อนาคต และความหวังของชาติ” ของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร ม.แม่โจ้ หรือ “แม่โจ้โพลล์” พบว่า
เด็กร้อยละ 90.4 ยังชอบเรียนวิชาทางการเกษตรอยู่ และ
เด็กร้อยละ 99.1 เห็นว่าวิชาเกษตรมีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน แต่มี
เด็กเพียงร้อยละ 29.3 ที่สนใจจะเรียนต่อด้านการเกษตร
COMMENT :
- ช่วงเป็นเด็กเล็ก ชอบเกษตรเพราะชีวิตประจำวันอยู่กับเกษตร โดยพ่อแม่เป็นเกษตรกร
- ช่วงโตแล้ว เริ่มรู้เรื่อง รู้จักสังคม รู้จักโลกแล้ว ไม่อยากทำเกษตรเพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ มากกว่าจะคิดว่าอาชีพเกษตรมีรายได้น้อย เมื่อเทียบกับอาชีพอื่น จึงไม่สนใจอาชีพเกษตร

- คนเป็นพ่อเป็นแม่ตอกย้ำ .... ขยันเรียน โตขึ้นจะได้เป็นข้าคนนายคน .... อย่าทำเกษตรเลย มันไม่ได้อะไร....
---------------------------------------------------------------------

รศ.ดร.วิจารณ์ วิชชุกิจ คณบดีคณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะเกษตรได้มีการศึกษาและทำการบันทึกข้อมูลสถิติไว้ทุกปีอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าสถิติเด็กที่มาสมัครเรียนเกี่ยวกับเกษตรมีจำนวนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับอดีต โดยในปีนี้มีจำนวนเด็กลดลงประมาณ 5-8% และที่ผ่านมาเด็กมาเรียนเกษตรส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่เลือกคณะหรือสาขาเกษตรเป็นอันดับ 3 หรือ 4 มีส่วนน้อยมาก ที่เลือกคณะหรือสาขาเกษตรเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้ว่าเด็กไม่อยากเรียนเกษตร สาเหตุเพราะ เด็กไม่เข้าใจว่าเรียนเกษตรจบแล้วทำอะไร ตลอดจนทางการไทยไม่ได้วางแนวทางให้เกษตรเป็นสาขาที่จำเป็นจริงๆ อีกทั้งรัฐบาลยังไม่ได้เอาใจใส่วางแผนระยะยาวเกี่ยวกับเรื่องนี้
COMMENT :
- เป็นความผิดพลาดหรือบกพร่องอย่างร้ายแรงของ รัฐบาล (ผู้นำประเทศชาติ), ครูอาจารย์ (ผู้ให้ความรู้) และพ่อแม่ (ผู้ให้ชีวิต และอนาคต) ในการปลูกสร้างทัศนคติ

- ไม่ใช่ความผิดของเด็กแน่นอน เพราะไม่มีใครรู้มาแต่เกิด เด็กเกิดมาแล้วต้องเรียน เรียนเพื่อรู้ เพราะไม่รู้จึงมาเรียน ถ้ารู้แล้วจะมาเรียนทำไม เด็กจะเรียนเก่งหรือไม่เก่งอยู่ที่ครู .... แต่ในความเป็นจริง โลกนี้เอาอะไรแน่ แม้แต่ลูกครูยังสอบตก
--------------------------------------------------------------------

“เกษตรกรผู้ผลิตยังทำให้เขาอยู่ไม่ได้แล้วใครจะอยู่ได้ ทั้งนี้ ในส่วนของการศึกษาเองก็ไม่สามารถทำให้นักเรียนทุกคนเข้าใจว่าแต่ละสาขามีความสำคัญอย่างไร ทำให้เด็กเอารายได้มาเป็นเกณฑ์เพราะเนื่องจาก ทำการเกษตรมีรายได้น้อย ซึ่งหากไม่มีเด็กที่ฉลาดมาเรียนจะทำให้ภาคเกษตรของบ้านเราแย่ และอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะเปิดประชาคมอาเซียนจะทำให้คนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเป็นแรงงานภาคเกษตรมากยิ่งขึ้น”
COMMENT :
** ปัญหาที่แท้จริงของชานา :

- ขาดองค์ความรู้ทางวิชาการ
- การจัดการด้านคุณภาพผลผลิต ตามความต้องการของตลาด
- การรวมกลุ่ม สร้างพลังในการซื้อปัจจัยการผลิต .... สั่งซื้อแบบส่งถึงที่
- การรวมกลุ่ม สร้างพลังในการขายผลผลิต .......... การค้าแบบพันธะสัญญา
- ซื้อ 100% แทนที่จะ ซื้อ 50% ทำเอง 50% หรือรวมกลุ่มทำเอง 100%
- ไม่ทำบัญชีฟาร์ม
- ไม่เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์การลงทุน
- ฯลฯ

** สร้างทัศนคติใหม่ชาวนา :

- เปิดใจรับเทคโนโลยี .... เทคโนโลยีการเกษตร หมายถึง วิทยาการที่เกี่ยวข้องกับศิลปะในการนำเอาวิทยาศาสตร์ประยุกต์มาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมนุษย์ในด้านการเกษตร .... นวัตกรรม หมายถึง วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่และเหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลองพัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
- ปรับ/เปลี่ยน วิธีการทำแบบเดิมสู่วิธีการทำใหม่
- ส่งเสริมซึ่งกันและกัน แทนรอใครมาส่งเสริม
- ตั้งเป้าหมายชีวิต รวยด้วยกันแทนรวยคนเดียว
- คิดบวก คิดใหม่ทำใหม่ ทำแล้วขาย ขายแล้วต้องได้กำไร
- เนื้อที่น้อย ต้นทุนน้อย ได้ผลผลิตน้อย แต่ขายแล้วได้มาก
- เนื้อที่น้อยหลายแปลงรวมกัน รวมแล้วเท่ากับเนื้อที่ใหญ่
- ฯลฯ

มูลค่าที่แตกต่าง :

1. ขายให้โรงสี
2. ขายให้ข้างบ้าน เอาทำข้าวปลูก
3. ขายให้ร้านจำหน่ายข้าวปลูก
4. ขายให้บริษัท เอาไปแปรรูป

แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม :
สูตร 1 :
ปลูกข้าวสายพันธุ์ (ใหม่/เก่า) ที่กำลังอยู่ในความนิยม เนื้อที่ 1 ไร่ ได้ข้าวเปลือก 800 กก. .... แปรรูปโดยสีเป็น ข้าวกล้อง/ข้าวกล้องงอก/ข้าวฮาง/ข้าวเบญจรงค์ ได้ 500 กก. (เครื่องสีข้าวเล็ก คุณสมศักดิ์ อินทรีย์เกาะขอบ เครื่องละ 120,000) .... ข้าวสีแล้วขายปลีก กก.ละ 50 = 25,000 .... เนื้อที่ 2 ไร่ ได้ 50,000 .... เนื้อที่ 5 ไร่ ได้ 250,000 .... เนื้อที่ 10 ไร่ = ?

สูตร 2 :
ทำน้ำมันรำ (ร.พ.อภัยภูเบศร์/ชัชวาล เวียร์ร่า) ...... ลิตรละ = ?
สูตร 3 :
ทำจมูกข้าวแค็ปซูล (ร.พ.อภัยภูเบศร์) ................ ร้อยละ = ?
สูตร 4 :
ฟาง แกลบ ทำปุ๋ยอินทรีย์ (ข้างบ้าน) .............................. ตันละ = ?

หมายเหตุ :

- ข้าวสารไทยเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลกโดยการ “กิน” มิใช่จาการ ปชส. เท่านั้น เช่น
.... คนอเมริกันชอบกินข้าว “หอมมะลิ (hommali)” มากกว่า จัสมิน (jazzman) ของตัวเอง ขนาดอเมริกาจะจดทะเบียนลิขสิทธิ์จัสแมนว่าเป็นของตัวเอง แต่พอไทยโวย อเมริกาก็เลยหยุด

.... คนจีน ประเทศนี้ประชากร 1,600 ล้าน เป็นระดับมหาเศรษฐีแค่ 100 ล้าน มากกว่าคนไทยทั้งประเทศ (ไทยมีประชา กร 70 ล้าน ระดับมหาเศรษฐีแค่ 7 คน) เศรษฐีจีนต้องการซื้อข้าวหอมมะลิไทย ชนิด 100% แต่ไทยทำได้สูงสุดแค่ 95% เท่านั้น ก็ให้สงสัยเหมือนกันว่า ทำไมทำข้าวหอมมะลิ 100% ไม่ได้

.... คนอินเดียกินข้าวบาสมาติ เฉพาะที่ทำเป็นข้าวหมกไก่เท่านั้น แต่ถ้าจะกินข้าวกับแกงกะหรี่ ก็ต้อง “หอมมะลิ” อีกนั่นแหละ

.... เมื่อคราวเอาข้าวหอมมะลิไปออกงานที่ลอนดอน พบว่าคนยุโรปก็ชอบกินเหมือนกัน อุตส่าห์ซื้อข้าวสารหอมมะลิพร้อมหม้อหุงข้าวไฟฟ้า กะจะไปหุงกินเองที่บ้าน ก็ต้องผิดหวังเพราะหุงไม่เป็น ที่หุงไม่เป็นก็เพราะคนไทยที่ไปโชว์ไม่สอน แถมไม่มีข้าวสารหอมมะลิจำหน่ายในตลาดลอนดอนซะอีก

....ที่อาฟริกา ที่ตะวันออกกลาง ก็มีเคยมีข่าวว่าคนที่นั่นพอใจข้าวหอมมะลิไทยเหมือนกัน
.... ปี 57258 ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์อีสาน, ผู้แทนองค์กรเอกชน จากประเทศไทย, ผู้แทนบริหารบริษัท เจเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน, และผู้บริหารบริษัท แม็คโครฟู้ด จำกัด จากประเทศมาเลเซีย เซ็นต์สัญญา ซื้อ-ขาย ข้าวเปลือกหอมมะลิอินทรีย์ มาตรฐานข้าวอินทรีย์ภาคพื้นอเมริกาและยุโรป เพื่อนำไปผลิตแปรรูปและบรรจุภัณฑ์จำหน่ายให้สมาชิก 81 ประเทศ 41 ล้านคน (เน้นย้ำ.... 81ประเทศ 41ล้านคน) .... นี่คือตลาดข้าวหอมมะลิไทย

- ข้าวหอมมะลิไทยกำเนิดมาแล้วกว่า 50 ปี ถึงวันนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีใด ยังไม่มีประเทศใด ในโลกนี้ สร้างหรือทำขึ้นมาเสมอเหมือนได้ แม้แต่ข้าว จัสมิน ของอเมริกา ประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงที่สุดในโลก เพราะ โซนภูมิศาสตร์โลกประจำประเทศไทยเป็นตัวสร้างขึ้นมา ประเทศที่ไม่ควรมองข้าม คือ ลาว เขมร พม่า เพราะโซนภูมิศาสตร์โลกติดกัน

- ถึงวันนี้พูดได้เต็มปากว่า ข้าวหอมมะลิ ปลูกได้ทั่วประเทศ ลำพูน พิจิตร นครสวรรค์ นครปฐม น่าน แม้แต่ที่นครศรีธรรม ราช ต่างกับข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร่าเริง นอกจากนุ่มเหนียวแล้วมีกลิ่นหอมด้วย ส่วนที่ปลูกจังหวัดอื่น แม้แต่อิสานเหนือ มีแต่นุ่มเหนียว กลิ่นหอมมีน้อยเท่านั้นเอง

- นอกจากหอมมะลิแล้ว ไรซ์เบอร์รี่ สังข์หยด ลืมผัว มะลิแดง หรือข้าวหอมอีกกว่า 10 สายพันธุ์ก็พร้อมออกสู่ตลาดสนองความต้องการของคนกินระดับเศรษฐี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

- ทุกสายพันธุ์ข้าวหอม 2 ไร่ได้ 1,000 กก.ข้าวเปลือก .... ข้าวเปลือก 1,000 กก.ได้ข้าวสารพร้อมหุง 750 กก. .... ข้าวสารพร้อมหุงขาย กก.ละ 30 บาทได้ .... ขายกก.ละ 50 บาทได้ .... ขาย กก.ละ 80 บาทได้....

- ทุกสายพันธุ์ที่เป็นข้าวหอม 10ไร่ 20ไร่ 40ไร่ บริหารจัดการเป็นก็น่าจะได้มากขึ้น
- ต้นทุน ซื้อทุกอย่าง จ้างทุกอย่าง 2ไร่ ไม่น่าจะเกิน 20,000 แต่ขายได้ 50,000
------------------------------------------------------------

เปรียบเทียบต้นทุน "อินทรีย์เคมี V.S. เคมีเพียวๆ" เนื้อที่ 20 ไร่ :

- อินทรีย์ เคมี (ได้ ปุ๋ยอินทรีย์/จุลินทรีย์/ปุ๋ยเคมี 14 ตัว) ....... 17,950
- เคมีเพียวๆ (ยูเรีย 1 กส./16-20-0 ได้ปุ๋ย 1 ตัว) ........... 32,000 ผลต่าง 14,050
หมายเหตุ :
ราคาที่เป็น “ผลต่าง” เอามาจ่าย ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์. กระดูกป่น. ฯลฯ
อินทรีย์-เคมี จ่ายน้อยกว่า แต่ได้ประโยชน์มากกว่า ทั้งคุณภาพ ปริมาณ และอนาคต
------------------------------------------------------------

- ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ให้เงินอุดหนุนชาวนาอย่างต่อเนื่องมากที่สุด ในอัตรา 65-75% ขณะที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปให้การอุด หนุนสินค้าเกษตรอัตราเฉลี่ย 35% ของมูลค้าสินค่าในตลาด

วิธีการให้การอุดหนุนก็มีตั้งแต่วิธีการทางตรง คือ ให้เงินเกษตรกร และวิธีการทางอ้อม คือ ผ่านมาตรการด้านภาษี

- ชาวนาข้าวไทย รวยได้ด้วยตัวเองแน่นอน ไม่ต้องพึ่งรัฐ ถ้า “คิดเป็น รวมกลุ่มเป็น ทำเป็น ขายเป็น” .... คิดดู ต้นทุน 2ไร่ ไม่เกิน 20,000 แต่ขายได้ 50,000
----------------------------------------------------------

ผศ.ดร.อำนาจ ศิลวัตร คณบดี คณะเทคโนโลยีการเกษตร ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในส่วนของ มทร.ธัญบุรี มีเด็กมาสมัครเรียนด้านเกษตรกันมากและมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี อาจจะเป็น เพราะเป็นสาขาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตร เมื่อจบไปแล้วจะมีงานรองรับ ซึ่งถ้าเทียบกับเมื่ออดีตบัณฑิตที่จบเกษตรจะไม่ค่อยมีงานทำ จบมาทำงานหนัก อีกทั้งมีเงินเดือนที่ต่ำด้วย ทำให้เด็กไม่อยากเรียนเกษตร
COMMENT :
- เพราะคนเรียนสาขาเกษตรน้อยมาก จึงทำให้ตลาดงานด้านนี้กว้าง--
--------------------------------------------------------

ทั้งนี้ อนาคตตนมองว่าตลาดแรงงานทางด้านเกษตรมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นเพราะเราประกาศตัวจะเป็นครัวโลกทำให้การ เกษตรเป็นสิ่งสำคัญ แต่ทว่า การเกษตรในอนาคตจะมีแนวโน้มเป็นธุรกิจมากยิ่งขึ้น จะมีการรวมกันเป็นหน่วยงานในรูปบริษัทมากยิ่งขึ้น และจะมีการนำอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ทางด้านการเกษตรมาใช้มากขึ้น เพื่อให้ได้ผลผลิตมากและทุ่นแรง ซึ่งด้วยเหตุนี้อาจจะทำให้จำนวนเกษตรกรที่ลงมือทำเองไม่ใช้เครื่องทุ่นแรงเหมือนสมัยก่อนน้อยลงและจะมีเกษตรกรที่มีความรู้เพิ่มมากขึ้น
COMMENT :
“การรวมกันเป็นหน่วยงานในรูปบริษัท” :

- รัฐต้องมี “หลักการ/หลักเกณฑ์” ในการให้ความ ช่วยเหลือ/สนับสนุน ที่แน่นอน ให้เป็นแรงจูงใจแก่เกษตรกรทำการรวมกลุ่ม

- วันนี้ไป RKK ข้าวสารสำเร็จพร้อมหุง สารพัดสายพันธุ์ที่กำลังนิยม บรรจุแพ็คละ 1 กก. ติดราคา 80บาท 100บาท 120บาท มีชื่อผู้ผลิต ทั้งส่วนตัวคนเดียว และเป็นกลุ่ม ถ้าบอกว่าราคานี้แพงเกินไปแล้วเขาขายได้ไง .... จริงมั้ยที่ว่า ใครๆก็ทำได้ยกเว้นคุณ ที่ไหนๆก็ทำได้ ยกเว้นบ้านคุณ

“เครื่องมือเครื่องใช้ ทางด้านการเกษตร” :

- รัฐสนับสนุนเครื่องทุ่นแรงด้านการเกษตร แก่กลุ่มเกษตรกรที่จัดตั้งขึ้นมาตามหลักการหรือหลักเกณฑ์ที่รัฐกำหนด ด้วยลดราคาต้นทุน (รัฐออกให้) 25-75%

- มีกฎหมายควบคุมเครื่องทุ่นแรงด้านการเกษตร เช่น รถไถนารัฐมีทะเบียน เป็นหมายเลขต่อท้ายเครื่องหมายหัววัวคันไถ ห้ามไม่ให้เกษตรกรที่ได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากรัฐไปแล้ว นำไปขายต่อ การทำทะเบียนเครื่องจักรกลการเกษตร เหมือนทะเบียนรถยนต์ทหาร เช่น
รถยนต์ทหารบก มีหมายเลขต่อท้ายเครื่องหมายกงจักร
รถยนต์ทหารเรือ มีหมายเลขต่อท้ายเครื่องหมายสมอ (สมอมีโซ่)
รถยนต์ทหารอากาศ มีหมายเลขต่อท้ายเครื่องหมายปีก
รถยนต์ตำรวจ มีหมายเลขต่อท้ายเครื่องหมายโล่
รถยนต์ของกองบัญชาการทหารสูงสุด (กองบัญชาการทหารสูงสุด ไม่มีคำย่อ .... ที่ผู้สื่อข่าวไปเขียน บก.สส. แล้วหมายถึงกองบัญชาการทหารสูงสุดนั้น ผิด ... อักษรย่อนี้ ไม่มีในสายทหาร ตำรวจ แต่อีกษรย่อ สส. เฉยๆ นั่นหมายถึงทหารสื่อสาร) มีหมายเลขต่อท้ายเครื่องหมาย กงจักร-สมอ (ไม่มีโซ่)-ปีก

กับให้มีกฎหมาย “ห้ามซื้อขาย” แล้วบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าให้เหมือนกฎ หมาย สปก 4-01 .... ที่จริง กฎหมาย น่ะศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาดอยู่แล้ว แต่ผู้รักษากฎหมายต่างหากที่ ไม้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เด็ดขาด แถมยังใต้โต๊ะบนเตียงอีกต่างหาก

เกษตรแนวอเมริกา :

- สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศเกษตร ไม่ใช่ประเทศอุตสาหกรรม มีพื้นที่ทำการเกษตรได้ กว้างใหญ่ที่สุดในโลก .... จีน ประเทศใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีพื้นที่ทำการเกษตรได้น้อยมาก

- บริษัทในสหรัฐต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ทำการเกษตร แต่เกษตรกรหนุ่มสาวมีที่ 100 เฮกต้า (700 ไร่....สมมุติ) รวมกลุ่มหลายๆคนเพื่อให้ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ หรือรวมพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่น้อยแปลงน้อยคน ตามที่บริษัทต้องการ แล้วให้บริษัทเข้ามาบริหาร โดยมีเงื่อนไขเบื้องต้น คือ บริษัทลงทุนทุกอย่าง ขายผลผลิตได้แล้วแบ่งกับเจ้าของที่ดินเป็นเปอร์เซ็นต์ สมมุติ เจ้าของที่ดินได้ 40% บริษัทได้ 60% .... แบบนี้บริษัทที่มาบริหารจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีทุกรูปแบบเพื่อให้ได้ปริมาณผลผลิตมากที่สุด และต้นทุนต่ำที่สุด
------------------------------------------------------------


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©