-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-นวตกรรมสิ่งประดิษฐ์ เพื่อการเกษตร
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบปัญหา วิทยุ 14 OCT *ข้าวไวแสงไม่ไวแสง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบปัญหา วิทยุ 14 OCT *ข้าวไวแสงไม่ไวแสง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 14/10/2015 4:08 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบปัญหา วิทยุ 14 OCT *ข้าวไวแสงไม่ไวแสง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 14 OCT

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------



จาก : (093) 174-03 xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ ที่นาอยู่เชียงใหม่ต่อลำพูน 120 ไร่ ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ เพราะมีเขื่อนแม้วของตัวเอง นาปรังปีนี้อยากทำนา แต่ไม่มีความรู้ข้าวไวแสง ข้าวไม่ไวแสง และเราควรเลือกพันธุ์อะไรดีดี .... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
สุดยอด สุดยอด .... เขื่อนแม้ว-ฝายแม้ว คำนี้ไม่รู้ว่าในหลวงทรงตั้งขึ้นมาหรือเป็นภาษาพื้นบ้าน เหมือนแก้มลิง แกล้งดิน ประมาณนั้น แต่ภาษาอังกฤษเรียก CHECK DAM เป็นเขื่อนกั้นน้ำแล้วปล่อยให้น้ำล้นผ่านไปได้ โดยชาวบ้านปลายน้ำก็ยังได้รับน้ำอยู่ ....

ลงทุนทำเอง เท่ากับมีสระน้ำประจำไร่นา ทำเขื่อนแล้วออกแบบปรับภูมิทัศน์รอบๆเขื่อนให้ดูดี ได้ประโยชน์ ทั้งเราเองและเพื่อนบ้าน เช่น แต่งตลิ่งให้แข็งแรง ปรับความลึกของน้ำ มีศาลาในน้ำ มีบ้านโฮมสเตย์ริมน้ำ มีกระชังเลี้ยงปลา ปลูกพืชน้ำ

เทคนิคนี้ เคยพูดเสนอแนะไว้ แม่น้ำลำพาชี อ.สวนผึ้ง ราชบุรี ถึงหน้าน้ำหลากที่น้ำไปท่วม อ.ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี ....

แม่น้ำลำพาชี ที่ อ.สวนผึ้ง ช่วงหน้าฝนลำน้ำกว้าง 50-100 ม. ช่วงหน้าแล้งกว้างแค่ 5-10 ม. เป็นลำรางเล็กๆอยู่กลางแม่น้ำ มีน้ำไหลตลอดปีตลอดชาติ แม่น้ำลำพาชีนี่แหละทำเขื่อนแม้วเป็นระยะๆ ห่างกันระยะละเท่าไหร่ก็ว่าไป จะดีมั้ย....

งานนี้มีทั้งคอมมิชชั่น มีทั้งคอร์รับชั่น ให้กินด้วยนะ ไม่สนใจเหรอ ? ....

ที่นา 120 ไร่ จับหลัก KEYWORD เกษตร ให้ดีๆ คิดเป็น-ทำเป็น-ขายเป็น-แปรรูป-ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ-BIPRODUCT-เกรด เอ.-พรีเมียม-CONTRACT FARMING-EXPORT-ฯลฯ ทำนาข้าวอย่างเดียวนี่แหละ ได้ปีละเป็นล้าน ใช้สมองแทนกำลัง สร้างมิติใหม่ ค้นหา IDOL แล้วเอามาต่อยอดเป็นของตัวเอง

ฝันให้ไกลไปให้ถึง มีคนทำได้เราต้องทำได้ อาร์ท เฮด แฮนด์ เย่ .... 120 ไร่ ได้ข้าวแปรรูปพร้อมหุงเรียบร้อย เกรด เอ. พีเมียม 50 เกวียน /รุ่น .... ข้าวกล้องงอก ข้าวฮาง ขายปลีก กก.ละ 100 เท่ากับ เกวียนละ 100,000 /รุ่น อีกเหมือนกัน ....
--------------------------------------------------------------------

ข้าวไวแสง หรือที่นิยมเรียก ข้าวนาปี
หมายถึง พันธุ์ข้าวที่ไวต่อช่วงการเปลี่ยนแปลงของแสงในช่วงกลางวันที่สั้นลง ทำให้ข้าวออกดอก และติดผลในช่วงดังกล่าว ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือน ต.ค. ถึง พ.ย. หรือย่างเข้าฤดูหนาว ข้าวชนิดนี้จะปลูกในช่วงต้นฤดูฝน และเก็บเกี่ยวผลิตในต้นฤดูหนาว อายุการปลูกถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 5-7 เดือน ขึ้นกับระยะเริ่มปลูก แต่จะติดดอก และผลในช่วงเดียวกัน

ข้าวไม่ไวแสง หรือที่นิยมเรียก ข้าวนาปัง
หมายถึง พันธุ์ข้าวที่ไม่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของช่วงแสง มีระยะการเก็บเกี่ยวที่แน่นอน ประมาณ 100-120 วัน ขึ้นกับสายพันธุ์ เป็นพันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปีในพื้นที่ชลประทาน ลักษณะลำต้นค่อนข้างเตี้ยเมื่อเทียบกับข้าวนาปี

http://puechkaset.com/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7/
------------------------------------------------------------------------

ข้าวไวแสง
คือ พันธุ์ข้าวที่มีลักษณะเฉพาะตัว เรื่องการข้ามจากระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นใบไปสู่ระยะสืบพันธุ์ คือ เริ่มสร้างรวงด้วยการส่งสัญญาณจากช่วงแสงในตอน “กลางวันที่สั้นกว่ากลางคืน” โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนใกล้หน้าหนาว กลางวันสั้นกว่ากลางคืน อีกนัยหนึ่งก็คือ เมื่อกลางวันสั้นลงก็คือ ใกล้หมดฝนแล้ว

ข้าวไม่ไวแสง
คือ ช่วงแสงที่แตกต่างกันในฤดูกาลที่แตกต่างกัน หรือตอน “กลางวันที่ยาวกว่ากลางคืน” นั้น ไม่ได้มีผลต่อการสร้างรวงของข้าว เช่น ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 พันธุ์เหล่านี้เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วก็จะเข้าสู่การสืบพันธุ์ได้เลย หากแปลงไม่สม่ำเสมอก็จะออกรวงไม่พร้อมกันครับ

http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=pisitrice&topic=31
-----------------------------------------------------------

ความไวต่อช่วงแสง
(sensitivity to photoperiod)
ระยะความยาวของกลางวันมีอิทธิพลต่อการออกดอกของต้นข้าว ดังนั้น พันธุ์ข้าวจึงแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด โดยถือเอาความไวต่อช่วงแสง หรือระยะความยาวของกลางวันเป็นหลัก คือ ข้าวที่ไวต่อช่วงแสง และข้าวที่ไม่ไวต่อช่วงแสง

1) ข้าวที่ไวต่อช่วงแสง

ข้าวพวกนี้ออกดอก เฉพาะในเดือนที่มีความยาวของกลางวันสั้น ปกติเราถือว่า กลางวันมีความยาว 12 ชั่วโมง และกลางคืน มีความยาว 12 ชั่วโมง ฉะนั้น กลางวันที่มีความยาว น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ก็ถือว่าเป็นวันสั้น และกลางวันที่มีความยาวมากกว่า 12 ชั่วโมง ก็ถือว่าเป็นวันยาว และพบว่า ข้าวที่ไวต่อช่วงแสงในประเทศไทย มักจะเริ่มสร้างช่อดอก และออกดอก ในเดือนที่มีความยาวของกลางวันประมาณ 11 ชั่วโมง 40 นาที หรือสั้นกว่านี้ ดังนั้น ข้าวที่ออกดอกได้ ในเดือนที่มีความยาวของกลางวัน 11 ชั่วโมง 40-50 นาทีจึงได้ชื่อว่า เป็นข้าวที่มีความไวน้อยต่อช่วงแสง (less sensitive to photoperiod) และพันธุ์ที่ออกดอกเฉพาะในเดือนที่มีความยาว ของกลางวันประมาณ 11 ชั่วโมง 10-20 นาที ก็ได้ชื่อว่า เป็นพันธุ์ที่มีความไวมากต่อช่วงแสง (strongly sensitive to photoperiod) ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ จึงเรียกข้าวว่า พืชวันสั้น (short-day plant) พันธุ์ข้าวในประเทศไทยที่เป็นพันธุ์พื้นเมือง ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่มีความไวต่อช่วงแสง โดยเฉพาะข้าวที่ปลูกเป็นข้าว นาเมือง หรือข้าวขึ้นน้ำ

การปลูกข้าวพวกที่ไวต่อช่วงแสงจะต้องปลูกในฤดูนาปี (โดยอาศัยน้ำฝน บางครั้งจึงเรียกว่า ข้าวนาน้ำฝน) เพราะในฤดูนาปรัง กลางวันมีความยาวกว่า ๑๒ ชั่วโมง เดือนที่มีกลางวันสั้นที่สุด ได้แก่ เดือนธันวาคม และเดือนที่มีกลางวันยาวที่ได้สุด ได้แก่ เดือนมิถุนายน ความยาวของกลางวันจะเริ่มสั้น จนมากพอที่จะทำให้ข้าวพวกไวต่อช่วงแสงออกดอกได้นั้น คือ วันในเดือนกันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม ข้าวที่มีความไวน้อยต่อช่วงแสง จะออกดอกในเดือนกันยายน ตุลาคม ซึ่งเรียกว่า ข้าวเบา ข้าวที่ออกดอก ในเดือนพฤศจิกายน เรียกว่า ข้าวกลาง และข้าวที่ออกดอกในเดือนธันวาคม มกราคม เรียกว่า ข้าวหนัก ด้วยเหตุนี้ ข้าวพวกที่ไวต่อช่วงแสง จะออกดอกในเดือนดังกล่าวนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะปลูกในเดือนอะไรก็ตาม มันจึงมีระยะการเจริญเติบโตมากพอสมควร

ระยะการเจริญเติบโตของต้นข้าว :

เนื่องจากข้าวพวกไวต่อช่วงแสง จะออกดอกเฉพาะในเดือนที่มีความยาวของกลางวันที่ต้องการเท่านั้น ข้าวพวกไวต่อช่วงแสงจึงมีประโยชน์สำหรับชาวนาในบางท้องที่ เช่น ในจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีฝนตกไม่สม่ำเสมอ ซึ่งหมายความว่า บางปีฝนก็มาเร็วและบางปีฝนก็มาล่า แต่การสิ้นสุดของฤดูฝนนั้น ค่อนข้างแน่นอน ปกติในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ จะหมดฤดูฝนในต้นเดือน พ.ย. เพราะฉะนั้น การปลูกข้าวด้วยพันธุ์ที่ไวต่อช่วงแสง และเป็นข้าวเบา หรือข้าวกลาง ถึงแม้จะปลูกล่ากว่าปกติ มันก็จะออกดอกให้เก็บเกี่ยวได้ แต่ผลิตผลอาจลดต่ำลงบ้าง นี่คือ ข้อดีของข้าวที่มีความไวต่อช่วงแสง

ข้าวที่ไม่ไวต่อแสง :

การออกดอกของข้าวพวกนี้ ไม่ขึ้นอยู่กับความยาวของกลางวัน เมื่อต้นข้าวได้มีระยะ เวลาการเจริญเติบโตครบตามกำหนด ต้นข้าวก็จะออกดอกทันที ไม่ว่าเดือนนั้นจะมีกลางวันสั้นหรือยาว พันธุ์ข้าว กข.1 เป็นพันธุ์ที่ไม่ไวต่อช่วงแสง เมื่อมีอายุเจริญเติบโตนับจากวันตกกล้า ครบ 90-100 วัน ต้นข้าวก็จะออกดอก ฉะนั้น พันธุ์ข้าวที่ไม่ไวต่อช่วงแสง จึงใช้ปลูกได้ ผลดี ทั้งในฤดูนาปรังและนาปี อย่างไรก็ตาม พวกไม่ไวต่อช่วงแสงมักจะให้ผลิตผลสูง เมื่อปลูกในฤดูนาปรัง

ปกติระยะการเจริญเติบโตของต้นข้าวทั้งไวและ ไม่ไวต่อช่วงแสง แบ่งออกได้เป็นระยะ ดังนี้ :
1. ระยะการเจริญเติบโตทางลำต้น (basic vegetative growth phase) เป็นระยะเวลา นับ ตั้งแต่วันตกกล้า จนถึงวันที่แตกกอ และต้นสูงเต็มที่ ในระยะนี้ ต้นข้าวมีการเจริญเติบโตทางความสูง และแตกเป็นหน่อใหม่จำนวนมาก

2. ระยะการสร้างช่อดอก (panicle initiation phase) จนถึงรวงข้าวเริ่มโผล่ออกมาให้เห็น ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 วัน สำหรับพันธุ์ข้าวที่ไวต่อช่วงแสง อาจเรียกระยะนี้ว่า ระยะที่มีความไวต่อช่วงแสง (photoperiod sensitive phase) ดังนั้น

ข้าวไวต่อช่วงแสง เมื่อครบระยะการเจริญเติบโตทางลำต้นแล้ว ต้นข้าวจะไม่สร้างช่อดอก จนกว่าต้นข้าวจะได้รับช่วงแสงที่ต้องการ

ส่วนข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง จะเริ่มสร้างช่อดอกทันที หลังจากที่ต้นข้าวได้ครบระยะการเจริญเติบโตทางลำต้น

ดังนั้น การปลูกในระยะเวลาที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้พันธุ์ที่ไวต่อช่วงแสงมีเวลามากหรือน้อยเกินไป สำหรับการเจริญเติบโตทางลำต้น โดยเฉพาะการใช้พันธุ์ที่ไวต่อช่วงแสงปลูกล่ากว่าปกติ จะทำให้ต้นข้าวมีระยะเวลาน้อยไป ทำให้ได้ผลิตผลต่ำ

http://kanchanapisek.or.th/kp6/sub/book/book.php?book=3&chap=1&page=t3-1-infodetail05.html
------------------------------------------------------------------------

ข้าวเหนียวหอมไม่ไวแสง 'แม่โจ้ 2' - ทนโรคเหมาะปลูกนาปี และนาปรัง :

โดย ... ประภาภรณ์ เครืองิ้ว

ถ้าพูดถึงเรื่องของผลผลิตข้าวในปีที่ผ่านมาก็พบว่า หลายพื้นที่ต้องได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ส่งผลให้นาข้าวที่กำลังใกล้จะเก็บเกี่ยวต้องได้รับความเสียหาย และเกษตรกรเองก็ต้องได้รับผลกระทบขาดทุน บางรายถึงกับต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ล่าสุดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้คิดค้นงานวิจัย "ข้าวเหนียวหอมต้นเตี้ย ไม่ไวต่อช่วงแสงสายพันธุ์ “แม่โจ้ 2" ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรนำพันธุ์ข้าวไปปลูกสร้างรายได้ แต่ทั้งนี้ผลงานวิจัยดังกล่าวอยู่ในช่วงของการทดลองสถานีสุดท้าย ก่อนจะนำไปเผยแพร่ต่อไป

ผศ.ดร.วราภรณ์ แสงทอง อาจารย์สาขาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า งานวิจัยดังกล่าวได้ร่วมกับทีมงานนักศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโท สาขาพืชไร่ คณะผลิตกรรมการเกษตร และสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการทดลอง โดยต้องใช้เวลาในการทดลองและปรับปรุงพันธุ์นานถึง 7 ปี

โดยใช้ข้าวเจ้าพันธุ์ปทุมธานี 1 เป็นพันธุ์รับ และข้าวเหนียวพันธุ์ กข.6 เป็นพันธุ์ให้ ใช้วิธีผสมกลับ และใช้เครื่องหมายโมเลกุลช่วยในการคัดเลือก ซึ่งเป็นวิธีใหม่ และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ วิธีการดังกล่าวช่วยย่นระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์จนประสบความสำเร็จได้ข้าวเหนียวต้นเตี้ยไม่ไวต่อช่วงแสง และต้านทานต่อการหักล้ม ง่ายต่อการใช้รถเก็บเกี่ยว แก้ปัญหาด้านแรงงาน และช่วยเพิ่มมูลค่าให้ข้าวเหนียว รวมทั้งยังสามารถต้านทานต่อโรคและแมลง เหมาะกับเกษตรที่สามารถนำไปเพาะปลูกในช่วงฤดูนาปีและนาปรังได้

ทั้งนี้งานวิจัยดังกล่าวประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นระดับดีเด่นด้านเกษตรศาสตร์และอุตสาหกรรมการเกษตร ประจำปี 2555 จากสำนักงานคณะกรรม การวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ผศ.ดร.วราภรณ์ เผยต่อว่า ปกติแล้วการปรับปรุงพันธุ์รูปแบบเดิมจะใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าสิบปี แต่งานวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีผสมกลับและการคัดเลือกยีนด้วยเครื่องหมายโมเลกุลซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังได้รับความนิยมของแวดวงวิชาการด้านพันธุกรรมในปัจจุบัน เพื่อช่วยเรื่องความแม่นยำและย่นระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์ได้มาก โดยเฉพาะลักษณะที่ต้องการโดยคำนึงถึงความต้องการที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกร เช่น เลือกลักษณะยีนควบคุมความเป็นข้าวเจ้าและยีน เรื่องความหอมของข้าวหอมมะลิ และลักษณะต้นเตี้ยไม่ไวต่อช่วงแสง ซึ่งสามารถใช้เป็นพันธุ์ทางเลือกสำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกข้าวเหนียวหอมในฤดูนาปรัง เพราะ กข.6 ไม่สามารถปลูกได้ในฤดูนาปรัง”

ดังนั้น “ข้าวเหนียวหอมต้นเตี้ยไม่ไวต่อช่วงแสงสายพันธุ์แม่โจ้ 2” จึงมีคุณสมบัติสำคัญคือ ไม่ไวต่อช่วงแสงสามารถปลูกได้ทั้งในฤดูนาปีและนาปรัง ความสูงประมาณ 90-120 ซม. ลักษณะต้นเตี้ยช่วยต้านทานต่อการหักล้มและง่ายต่อการใช้รถเก็บเกี่ยวแก้ปัญหาการขาดแรงงานเก็บเกี่ยว ความเป็น “ข้าวเหนียวหอม” ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ข้าวเหนียว

เนื่องจากสายพันธุ์แม่โจ้ 2 มีกลิ่นหอม ซึ่งโดยปกติข้าวหอมจะมีราคาสูงเพราะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากกว่า ที่สำคัญคือมีความต้านทานต่อโรคและแมลงในระดับเดียวกับข้าวเจ้าพันธุ์ปทุมธานี 1 ซึ่งจัดว่ามีความต้านทานต่อโรคและแมลงอยู่แล้ว จึงช่วยลดการใช้สารเคมีลง” และเหมาะกับเกษตรกรที่จะนำไปเพาะปลูกสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าว เนื่องจากปีที่ผ่านมาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจนทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ “ข้าวเหนียวหอมต้นเตี้ยแม่โจ้ 2” ขณะนี้กำลังอยู่ในการทดลองปลูกสถานีสุดท้ายก่อนเผยแพร่พันธุ์ให้เกษตรกรที่สนใจต่อไป เกษตรกรท่านใดสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หรือโทรสอบถามได้ที่ 0-5387-5287 ในวันและเวลาราชการ

http://www.komchadluek.net/detail/20120228/124081/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87'%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B9%892'.html

----------------------------------------------------


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©