-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 17 JUL *ปลูกผัก ต้นทุนสูง ตัวเองทำเอง
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 16 JUL *แล้งแล้งและแล้ง, เพาะเมล็ดผักหวานป่า
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 16 JUL *แล้งแล้งและแล้ง, เพาะเมล็ดผักหวานป่า

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 16/07/2015 5:35 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 16 JUL *แล้งแล้งและแล้ง, เพาะเมล็ดผั ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 16 JUL

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์,
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------



จาก : (095) 840-2594xx
ข้อความ : ลุงคิม ตอนนี้แย่แล้ว เขาบอกว่าไม่มีน้ำมาใส่ให้ตามคลองซอย ผมก็ไม่รู้ยังไงเลย เซ็งครับ....
ตอบ :
เจ้านี้ดูเหมือนจะอยู่คลองเก้า หนองเสือ ปทุมธานี

สถานการณ์เรื่องน้ำ ทั้งน้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่อคนบริโภค ต่อไปถึงสัตว์เลี้ยง บอกได้เลยว่า คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ทุกอย่างขึ้นกับเทวดาฟ้าดินอย่างเดียว แม้ฝนหลวงจะได้พยายามอย่างที่สุด ทำฝนหลวงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก็ได้เท่าที่เห็นนี่แหละ

เขมร อินโดนีเซีย ก็แล้ง .... ไทย ฝนนี้แล้ง ต่อจากฝนเป็นหนาวซึ่งก็คือแล้ง ราว พ.ย. – ธ.ค. เอลนิโย (แล้ง) จะเข้าอีก หมดหนาวต่อ มี.ค. – เม.ย. นั่นแล้งเต็มตัว ....

สรุป : ไทย ก่อนฝนคือแล้ง ฝนนี้ก็คือแล้ง หมดฝนนี้คือหนาวเอลนีโยนี่ก็แล้ง หมดหนาวคือแล้งเอลนิโยซ้ำอีก .... เบ็ดเสร็จรวมทั้งสิ้น 4 แล้ง

นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก บอกว่า ในอนาคตทรัพยากรธรรมชาติที่มนุษย์จะแย่งกันมากที่สุด คือ “น้ำ” วันนี้เริ่มมองเห็นชัดเจนแล้ว

วันนี้ อิสราเอล-สิงค์โปร ทำน้ำทะเลเป็นน้ำจืดใช้ .... อิสราเอลทำน้ำจืดส่งออกด้วย
ไทยล่ะ .... จะทำยังไง ? ต้องทำไหม ? ทำได้ไหม ?

ประเทศไทยน้ำท่วม แก้น้ำท่วมด้วยการเร่งให้ไหลลงทะเล หายน้ำท่วมกลายเป็นน้ำแล้ง

รู้ไหมว่า :
- เขื่อนภูมิพลจะกักเก็บน้ำเหนือเชื่อนได้อีก 9 ปี เพราะตื้นเขินเนื่องจากดินโคลนถมทับทุกปี
- อ่างเก็บน้ำอย่าง บึงบอระเพ็ด-กว๊านพะเยา-หนองหาร-ลำตะคลอง-ฯลฯ ขยายขนาดให้ กว้าง-ใหญ่-ลึก มากขึ้น ให้มากที่สุดเท่าที่ไม่ต้องเวนคืนที่ประชาชน เพื่อให้ รับ-กัก-เก็บ-ฯลฯ น้ำให้ได้มากที่สุด

- ฤดูน้ำหลาก น้ำโขง-น้ำสาระวิน-น้ำกก ล้นตลื่งท่วมบ้านผู้คน น่าจะระดมสรรพพลังงานสูบน้ำเข้ามาเก็บไว้ในแก้มลิง จากแก้มลิง 1 มาแก้มลิง 2 และ 3 - 4 จะได้ไหม ? จะดีไหม ?

แนวทางแก้ปัญหาช่วยตัวเอง :
* เจาะบาดาล :

- พื้นที่ กทม. ปริมณฑล เป็นพื้นที่ลุ่ม เรียกว่า “ก้นกระทะ” ระดับน้ำไต้ดินไม่ลึก

.... เคยเห็นที่ อ.ท่าหลวง ลพบุรี บาดาลในไร่สำปะหลังที่นั่นลึกแค่ 2 วา (4 ม.) เท่านั้น ใช้แรง งานคนช่วยกันเจาะวันเดียวน้ำพุ่งพรวดออกมาเลย ใช้งานมาแล้ว 2-3-4 ปี เดี๋ยวนี้ก็ยังใช้อย่า ใช้เฉพาะให้สำปะหลังเท่านั้น สำปะหลังที่นั่นปลูกแบบคนเลี้ยงได้ 12 ตัน/ไร่ แต่สำปะ หลังแปลงข้างๆ แปลงติดกันแท้ๆ ปลูกแบบคนเลี้ยงได้ 4 ตัน/ไร่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเลี้ยงได้ 12 ตัน เทวดาเลี้ยงได้ 4 ตัน แล้วคิดยังไง

.... ใกล้เขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท เจาะบาดาลในแปลงนา ใช้น้ำทำนา 100 ไร่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ ถ้าจำเป็น
.... ท่ามะกา ทางไร่กล้อมแกล้ม เจาะบาดาลในแปลงนา ใช้น้ำทำนา 100 ไร่ได้ นาปรังครั้งที่แล้วชัดเจนที่สุด
- CASE STUDY ไร่กล้อมแกล้มมีทั้งบาดาล และชลประมาน....ทำได้ไง ? ทำ ทำไม ?

การเกษตรกับน้ำน้อย :

- ทำนาเปียกสลับแห้ง น้ำน้อย
- ปลูกพืชไร่ ถั่วเขียว เหลือง แดง ดำ งา
- ปลูกผักไฮโดรโปรนิค กลางแจ้ง
- ปลูกผักในถุง แบบอิสราเอล มาเลเซีย
- ขุดสระ น้ำฝน/น้ำบาดาลเติมสระ เลี้ยงไก่บนบ่อปลา

- แทงค์น้ำ 5,000 ล. 5 แทงค์แทนสระ ราคาถูกกว่าขุดสระ อาศัย น้ำฝน/น้ำบาดาล/น้ำซื้อ ใส่แทงค์ ปลูกผักในถุง ผักไฮโดรโปรนิกส์

ปัญหา :

ผืนป่า “ต้นน้ำ” ในภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย รายงานที่ได้รับภาพที่ได้เห็น น่าเป็นห่วง

ปัจจุบันทรัพยากรป่าของเราถูกบุกรุกทำลายกว่า 8.6 ล้านไร่ มีผู้บุกรุกกว่า 8 แสนคน ชาวไทยพื้นที่สูง 80% ชาวไทยพื้นที่ราบ 10% และนายทุน 10% คิดเป็นค่าเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 469,000 ล้านบาท

ปัญหาสำคัญเกิดจาก การทำสวนยาง การปลูกข้าวโพด ปลูกกะหล่ำ บนพื้นที่สูง การบุกรุกป่าต้นน้ำโดยกลุ่มนายทุน ก็คงต้องขอความร่วมมือด้วย และให้เป็นไปตามกฎหมาย แล้วจะดูแลผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นกลุ่มๆ พวกๆ ไป

(อ้างอิง : รายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2558)

ปี 54 น้ำท่วม น้ำท่วมนักวิชาการบอกปีหน้า คือ 55 จะท่วมอีก ต้องระบายน้ำในเชื่อออกเพื่อรอรับน้ำใหม่ ปรากฏว่าปี 55 ไม่ท่วม ปี 55-56-57 น้ำเข้าเขื่อนน้อย ผลคือปี 58 เป็นอย่างที่เห็นๆนี่แหละ

วันนี้เริ่มพูดถึงน้ำจากแม่โขง น้ำจากสาระวิน ทั้งๆที่ ที่นี่พูดมากว่า 10 ปีแล้ว

แนวทางแก้ปัญหา :

- ออกกฎหมายเป็นยุทธศาสตร์ชาติ ที่ทุกรัฐบาลต้องทำ
- สร้างค่านิยมใหม่แก่เกษตรกร และประชาชนทั่วไป
- โซนนิ่งพื้นที่เกษตร หรือพื้นที่ต้องน้ำ
- ให้ความรู้ และส่งเสริม อย่างครบวงจร

----------------------------------------------------------


จาก : (093) 792-45 xx

ข้อความ : เพาะเม็ดผักหวานป่าไม่งอก แก้ไขอย่างไร .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
@@ วิเคราะห์สาเหตุแห่งความล้มเหลว

1. ระบบรากผักหวานป่าอ่อนแอมาก การย้ายถุงแม้จะมีดินหุ้มรากดีแค่ไหนก็อดกระทบกระเทือนไม่ได้ รากกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยก็ชะงัก หรืออาจะถึงตายได้แล้ว .... การแก้ไขทำโดย ไม่มีการย้ายต้นกล้าเด็ดขาด ปลูกตรงไหนแล้วปล่อยให้โตอยู่ตรงนั้นเลย

2. ต้นกล้าอายุแค่ 8 เดือน ถือว่าน้อยมากๆ สำหรับผักหวานป่า เปรียบได้กับเด็กทารกเท่านั้น .... กล้าผักหวานป่าที่โอกาสรอดสูง กิ่งตอนต้องอยู่บนต้น 1 ปี ตัดมาอนุบาลต่ออีก 1 ปี จนรากแก่จัด, เพาะเมล็ดต้องอยู่ในถุงชำ 1 ปี อยู่ในเรือนเพาะชำอีก 1 ปี รวมอายุกล้า 2 ปี,

3. ไม้พี่เลี้ยง เลือกไม้ยืนต้นประเภทตระกูลถั่ว ที่ระบบรากจับไนโตรเจนจากอากาศได้ อยู่กับรากผักหวานบ้าน แล้วผ่องถ่ายไนโตรเจนให้กับผักหวานบ้านได้

4. เมล็ดพืชทั่วๆไปเมื่อเพาะ จะเกิดรากก่อนเกิดยอด แต่เมล็ดผักหวานป่า จะเกิดยอดก่อนเกิดราก

@@ แก้ปัญหา

- เลิกซื้อต้นกล้า แล้วเพาะกล้าเองอย่างถูกวิธี
- เตรียมแปลงปลูก แล้วปลูกอย่างถูกวิธี

@@ เพาะเมล็ดเลี้ยงกล้าในกระบะ :

- เก็บเมล็ดผักหวานป่าช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. ของทุกปี โดยเลือกเก็บเมล็ดแก่จัดคาต้น คาดในอีก 1-2-3 วันจะร่วง หรือเก็บลูกที่ร่วงจากต้นใหม่ๆ ไม่เกิน 1-2 วัน เป็นเมล็ดจากผลขนาดใหญ่ สมบูรณ์

- นำผลสดใหม่ลง “น้ำ + สังกะสี. + โบรอน + ไคโตซาน” ทันทีที่ได้มา ทั้งนี้เมล็ดผักหวานป่าไม่มีระยะพักตัว ใช้มือสวมถุงมือพลาสติก (ยางในเมล็ดผักหวานป่ากัดผิวหนังที่มือ) ขยำผลเพื่อแยกเอาเปลือก และเนื้อออกจากเมล็ด ระวังอย่าให้เมล็ดกระทบกระเทือน (สังกะสี. โบรอน. ส่งเสริมการงอกของรากของเมล็ด .... ไคโตซาน.ป้องกันกำจัดเชื้อโรค)

- นำเมล็ดที่ล้างแล้วลงปลูกในกระบะวัสดุปลูก “ขุยมะพร้าวแห้งเก่า + แกลบดำเก่า + ปุ๋ยคอกเก่า” อัตราส่วน 1:1:1 เปียกน้ำประมาณ 50% หนา 20-30 ซม. อัดแน่นเท่าที่แน่นได้

– วางเมล็ดลงไปลึกแค่ “ครึ่งเมล็ด” ใช้หญ้าแห้งปิดบนรักษาความชื้น เก็บกระบะเพาะเมล็ดในเรือนเพาะชำ ให้น้ำโดยการสเปร์ยบนหญ้าแห้ง 2-3 วัน/ครั้ง

- ประมาณ 5-7 วัน จะเริ่มเกิดรากก่อน จากนั้น 30-45 วัน จึงจะเริ่มเกิดยอด (เมล็ดผักหวานป่า รากงอกก่อนต้น)

- เมล็ดผักหวานป่า แตกยอดก่อนออกราก ยอดโตแล้วแต่ยังไม่มีรากเลย ต้องใจเย็นรอดูต่อไป ระหว่างใจเย็นรอจะแหวกดินดูรากเหมือยกล้าไม้อื่นๆก็ไม่ได้ ต้นกล้าตายอีก

- เลี้ยงกล้าผักหวานป่าในเรือนเพาะชำนาน 2-3 ปีขึ้นไป จึงย้ายไปปลูกในแปลงจริง

@@ เพาะเมล็ดเลี้ยงกล้าในแปลงจริง :

1. เตรียมดินเตรียมแปลง ใส่ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, กระดูกป่น, ไถดะไถแปรไถพรวนทำร่องลูกฟูก รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้ง วางแผนรดด้วย น้ำ+น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง เดือนละครั้ง ..... อินทรีย์วัตถุและสารอา หารจากน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงจะแฝงอยู่ในเนื้อดินสำหรับผักหวานในอนาคต

2. กำหนดจุดปลูกไว้ล่วงหน้า พร้อมกับปลูกกล้วยลงตรงนั้นไปก่อน
3. ที่ว่างระหว่างกอกล้วย ปลูกไม้พี่เลี้ยง เช่น มะขามเทศ กระท้อน มะรุม แค น้อยหน่า ลำไย สะเดา ก้ามปู บำรุงไม้พี่เลี้ยง ควบคู่กับบำรุงกล้วยตามปกติ กระทั่งกล้วยเริ่มแทงหน่อ ไม้พี่เลี้ยงเริ่มโตเป็นร่มเงาได้ .... คงดีไม่น้อย เลือกไม้พี่เลี้ยงแล้วบำรุงเอาผล ผลิตด้วย ปุ๋ยที่บำรุงไม้ผลพี่เลี้ยงแม้จะไปโดนผักหวานป่าบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะผักหวายป่าเอาแค่ยอดเท่านั้น

4. เตรียมเมล็ดเหมือนการเตรียมเมล็ดสำหรับเพราะในกระบะ หยอดลงที่ใจกลางกอกล้วย เหมือนหยอดเมล็ดในกระบะ บำรุงตั้งแต่เป็นต้นกล้ากระทั่งโต ต้นโตแล้วไม่มีการย้ายอีกตลอดชีวิต

- ผักหวานบ้าน เอากิ่งไปปลูกแบบปักชำ หรือกิ่งตอนไปปลูก เก็บเมล็ดแก่ไปปลูก ทำได้ทั้งนั้น ปลูกแล้วถอนแยกย้ายไปปลูกที่ใหม่ก็ได้อีกด้วย .... นกกินลูกผักหวานบ้านแล้วขี้ออกมา ขี้ตรงไหนก็งอกตรงนั้นได้ ต้นโตดีด้วยแน่ะ

- ผักหวานป่า ต้องเพราะเมล็ดอย่างเดียว ในแปลงปลูกต้องมีไม้พี่เลี้ยง ให้มีแสงแดดรำไรๆ หรือมีแดดแค่ 50% .... การขายพันธุ์โดยการตอน หรือเพาะเมล็ดในถุงชำแล้วย้ายลงปลูกในแปลงจริง เท่าที่เจอะเจอมา 100 ต้น รอดได้แค่ 1 ต้น เท่านั้น เพราะผักหวานป่าระบบรากอ่อนแอมากๆ ปลูกแล้วห้ามย้ายเด็ดขาด

- บำรุงผักหวานบ้าน ... ทางใบ : ให้ แม็กเนเซียม, สังกะสี คีเลต, เหล็ก คีเลต. 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน แตกยอดใหม่ดี .... ทางราก : ใส่ปุ๋ยคอก ยิบซั่ม น้ำหมักชีวภาพ ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น พรวนดินพูนดินโคนต้น

- ผักหวานป่า อายุนับ 100 ปี .... ผักหวานบ้าน อายุ 10 ปี
- บำรุงผักหวานป่า .... ทางใบ : ให้น้ำมะพร้าวอ่อนอย่างเดียวก็พอ .... ทางราก : ใส่ปุ๋ยคอก

@@ วิธีการปลูกผักหวานป่า :

- คัดเลือกเมล็ดสุกคาต้น สีเขียวอมเหลืองถึงสีเหลือง ไม่ควรให้สุกงอม หรือร่วงจากต้น ปกติจะเมล็ดผักหวานป่าสุกราว เม.ย. – พ.ค.

- นำเมล็ดมาล้างเปลือกและเนื้อออกจนเหลือแต่เมล็ดใน ทำเบาๆอย่าให้เมล็ดช้ำหรือแตก แล้วนำลงปลูกทันที ทั้งนี้เมล็ดผักหวานป่าไม่มีระยะพักตัว หรือห่มเมล็ดในผ้าชื้นประ มาณ 48-72 ชม.ก่อน เมื่อเมล็ดเริ่มมีตุ่มตาจึงนำไปปลูกก็ได้

- หลักการเพาะเมล็ดในถุงเพาะชำก่อน บำรุงจนเป็นต้นโตตามความเหมาะสมแล้วจึงย้ายกล้าลงปลูกลงแปลงจริงเหมือนไม้ทั่วๆไปนั้น นำมาใช้กับผักหว่านป่าไม่ได้ ทั้งนี้เพราะระบบรากผักหวานป่าอ่อนแอมาก ช่วงที่ย้ายกล้าจากถุงเพาะชำลงแปลงจริง ระบบรากกระทบกระเทือนแล้วเป็นเหตุให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต หรือตายได้ .... วิธีการเพราะเมล็ดและปลูกผักหวานป่าที่ดีที่สุด คือ นำเมล็ดที่พร้อมแล้วลงปลูกในแปลงจริง ณ จุดที่ต้องการทันทีเลย แล้วปล่อยให้ต้นโตอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีการย้ายอีกเด็ดขาด หากย้ายก็จะทำให้ระบบรากกระเทือนทำให้ต้นตายได้อีก

- ผักหวานป่าต้องการไม้พี่เลี้ยง แนะนำให้ปลูกยืนต้นตระกูลถั่ว เช่น มะขามเทศ สะเดา พุทรา ก้ามปู ลงไปก่อนแล้วปลูกผักหวานป่า แซม/แทรก ในไม้พี่เลี้ยง แล้วให้ผักหวานป่าอยู่กับไม้พี่เลี้ยงนั้นไปตลอดชีวิต .... ผักหวานป่าในป่าจริงๆ อยู่ไต้ร่มไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตดีกว่าต้นที่อยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง

- ผักหวานป่าจะออกใบน้อยในฤดูหนาว

หมายเหตุ :

มีที่ดิน 10 ไร่ ลงผักหวานบ้าน 3 ไร่, ชะอม 3 ไร่. มะกรูดตัดใบ 4 ไร่. จะมีรายได้เข้าบ้านทุกวัน ๆละ 2,000 ด้วยแรงงาน 2 คน ผัวเมีย หรือแรงงาน 3 คน ผัวเมียเมีย ดีล่ะ

---------------------------------------------------------------------


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©