kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 16/07/2015 5:35 pm ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบปัญหารายการวิทยุ 16 JUL *แล้งแล้งและแล้ง, เพาะเมล็ดผั |
|
|
.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 16 JUL
AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)
********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์,
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986
----------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ เคมี)
1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) คุณชาตรี (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) คุณล่า (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) คุณอรุณ (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.
7) คุณพรพรรณ (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :
** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม
** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)
มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......
-----------------------------------------------------------
จาก : (095) 840-2594xx
ข้อความ : ลุงคิม ตอนนี้แย่แล้ว เขาบอกว่าไม่มีน้ำมาใส่ให้ตามคลองซอย ผมก็ไม่รู้ยังไงเลย เซ็งครับ....
ตอบ :
เจ้านี้ดูเหมือนจะอยู่คลองเก้า หนองเสือ ปทุมธานี
สถานการณ์เรื่องน้ำ ทั้งน้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่อคนบริโภค ต่อไปถึงสัตว์เลี้ยง บอกได้เลยว่า คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว ทุกอย่างขึ้นกับเทวดาฟ้าดินอย่างเดียว แม้ฝนหลวงจะได้พยายามอย่างที่สุด ทำฝนหลวงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก็ได้เท่าที่เห็นนี่แหละ
เขมร อินโดนีเซีย ก็แล้ง .... ไทย ฝนนี้แล้ง ต่อจากฝนเป็นหนาวซึ่งก็คือแล้ง ราว พ.ย. ธ.ค. เอลนิโย (แล้ง) จะเข้าอีก หมดหนาวต่อ มี.ค. เม.ย. นั่นแล้งเต็มตัว ....
สรุป : ไทย ก่อนฝนคือแล้ง ฝนนี้ก็คือแล้ง หมดฝนนี้คือหนาวเอลนีโยนี่ก็แล้ง หมดหนาวคือแล้งเอลนิโยซ้ำอีก .... เบ็ดเสร็จรวมทั้งสิ้น 4 แล้ง
นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลก บอกว่า ในอนาคตทรัพยากรธรรมชาติที่มนุษย์จะแย่งกันมากที่สุด คือ น้ำ วันนี้เริ่มมองเห็นชัดเจนแล้ว
วันนี้ อิสราเอล-สิงค์โปร ทำน้ำทะเลเป็นน้ำจืดใช้ .... อิสราเอลทำน้ำจืดส่งออกด้วย
ไทยล่ะ .... จะทำยังไง ? ต้องทำไหม ? ทำได้ไหม ?
ประเทศไทยน้ำท่วม แก้น้ำท่วมด้วยการเร่งให้ไหลลงทะเล หายน้ำท่วมกลายเป็นน้ำแล้ง
รู้ไหมว่า :
- เขื่อนภูมิพลจะกักเก็บน้ำเหนือเชื่อนได้อีก 9 ปี เพราะตื้นเขินเนื่องจากดินโคลนถมทับทุกปี
- อ่างเก็บน้ำอย่าง บึงบอระเพ็ด-กว๊านพะเยา-หนองหาร-ลำตะคลอง-ฯลฯ ขยายขนาดให้ กว้าง-ใหญ่-ลึก มากขึ้น ให้มากที่สุดเท่าที่ไม่ต้องเวนคืนที่ประชาชน เพื่อให้ รับ-กัก-เก็บ-ฯลฯ น้ำให้ได้มากที่สุด
- ฤดูน้ำหลาก น้ำโขง-น้ำสาระวิน-น้ำกก ล้นตลื่งท่วมบ้านผู้คน น่าจะระดมสรรพพลังงานสูบน้ำเข้ามาเก็บไว้ในแก้มลิง จากแก้มลิง 1 มาแก้มลิง 2 และ 3 - 4 จะได้ไหม ? จะดีไหม ?
แนวทางแก้ปัญหาช่วยตัวเอง :
* เจาะบาดาล :
- พื้นที่ กทม. ปริมณฑล เป็นพื้นที่ลุ่ม เรียกว่า ก้นกระทะ ระดับน้ำไต้ดินไม่ลึก
.... เคยเห็นที่ อ.ท่าหลวง ลพบุรี บาดาลในไร่สำปะหลังที่นั่นลึกแค่ 2 วา (4 ม.) เท่านั้น ใช้แรง งานคนช่วยกันเจาะวันเดียวน้ำพุ่งพรวดออกมาเลย ใช้งานมาแล้ว 2-3-4 ปี เดี๋ยวนี้ก็ยังใช้อย่า ใช้เฉพาะให้สำปะหลังเท่านั้น สำปะหลังที่นั่นปลูกแบบคนเลี้ยงได้ 12 ตัน/ไร่ แต่สำปะ หลังแปลงข้างๆ แปลงติดกันแท้ๆ ปลูกแบบคนเลี้ยงได้ 4 ตัน/ไร่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเลี้ยงได้ 12 ตัน เทวดาเลี้ยงได้ 4 ตัน แล้วคิดยังไง
.... ใกล้เขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท เจาะบาดาลในแปลงนา ใช้น้ำทำนา 100 ไร่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ ถ้าจำเป็น
.... ท่ามะกา ทางไร่กล้อมแกล้ม เจาะบาดาลในแปลงนา ใช้น้ำทำนา 100 ไร่ได้ นาปรังครั้งที่แล้วชัดเจนที่สุด
- CASE STUDY ไร่กล้อมแกล้มมีทั้งบาดาล และชลประมาน....ทำได้ไง ? ทำ ทำไม ?
การเกษตรกับน้ำน้อย :
- ทำนาเปียกสลับแห้ง น้ำน้อย
- ปลูกพืชไร่ ถั่วเขียว เหลือง แดง ดำ งา
- ปลูกผักไฮโดรโปรนิค กลางแจ้ง
- ปลูกผักในถุง แบบอิสราเอล มาเลเซีย
- ขุดสระ น้ำฝน/น้ำบาดาลเติมสระ เลี้ยงไก่บนบ่อปลา
- แทงค์น้ำ 5,000 ล. 5 แทงค์แทนสระ ราคาถูกกว่าขุดสระ อาศัย น้ำฝน/น้ำบาดาล/น้ำซื้อ ใส่แทงค์ ปลูกผักในถุง ผักไฮโดรโปรนิกส์
ปัญหา :
ผืนป่า ต้นน้ำ ในภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย รายงานที่ได้รับภาพที่ได้เห็น น่าเป็นห่วง
ปัจจุบันทรัพยากรป่าของเราถูกบุกรุกทำลายกว่า 8.6 ล้านไร่ มีผู้บุกรุกกว่า 8 แสนคน ชาวไทยพื้นที่สูง 80% ชาวไทยพื้นที่ราบ 10% และนายทุน 10% คิดเป็นค่าเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 469,000 ล้านบาท
ปัญหาสำคัญเกิดจาก การทำสวนยาง การปลูกข้าวโพด ปลูกกะหล่ำ บนพื้นที่สูง การบุกรุกป่าต้นน้ำโดยกลุ่มนายทุน ก็คงต้องขอความร่วมมือด้วย และให้เป็นไปตามกฎหมาย แล้วจะดูแลผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นกลุ่มๆ พวกๆ ไป
(อ้างอิง : รายการ คืนความสุขให้คนในชาติ วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2558)
ปี 54 น้ำท่วม น้ำท่วมนักวิชาการบอกปีหน้า คือ 55 จะท่วมอีก ต้องระบายน้ำในเชื่อออกเพื่อรอรับน้ำใหม่ ปรากฏว่าปี 55 ไม่ท่วม ปี 55-56-57 น้ำเข้าเขื่อนน้อย ผลคือปี 58 เป็นอย่างที่เห็นๆนี่แหละ
วันนี้เริ่มพูดถึงน้ำจากแม่โขง น้ำจากสาระวิน ทั้งๆที่ ที่นี่พูดมากว่า 10 ปีแล้ว
แนวทางแก้ปัญหา :
- ออกกฎหมายเป็นยุทธศาสตร์ชาติ ที่ทุกรัฐบาลต้องทำ
- สร้างค่านิยมใหม่แก่เกษตรกร และประชาชนทั่วไป
- โซนนิ่งพื้นที่เกษตร หรือพื้นที่ต้องน้ำ
- ให้ความรู้ และส่งเสริม อย่างครบวงจร
----------------------------------------------------------
จาก : (093) 792-45 xx
ข้อความ : เพาะเม็ดผักหวานป่าไม่งอก แก้ไขอย่างไร .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
@@ วิเคราะห์สาเหตุแห่งความล้มเหลว
1. ระบบรากผักหวานป่าอ่อนแอมาก การย้ายถุงแม้จะมีดินหุ้มรากดีแค่ไหนก็อดกระทบกระเทือนไม่ได้ รากกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยก็ชะงัก หรืออาจะถึงตายได้แล้ว .... การแก้ไขทำโดย ไม่มีการย้ายต้นกล้าเด็ดขาด ปลูกตรงไหนแล้วปล่อยให้โตอยู่ตรงนั้นเลย
2. ต้นกล้าอายุแค่ 8 เดือน ถือว่าน้อยมากๆ สำหรับผักหวานป่า เปรียบได้กับเด็กทารกเท่านั้น .... กล้าผักหวานป่าที่โอกาสรอดสูง กิ่งตอนต้องอยู่บนต้น 1 ปี ตัดมาอนุบาลต่ออีก 1 ปี จนรากแก่จัด, เพาะเมล็ดต้องอยู่ในถุงชำ 1 ปี อยู่ในเรือนเพาะชำอีก 1 ปี รวมอายุกล้า 2 ปี,
3. ไม้พี่เลี้ยง เลือกไม้ยืนต้นประเภทตระกูลถั่ว ที่ระบบรากจับไนโตรเจนจากอากาศได้ อยู่กับรากผักหวานบ้าน แล้วผ่องถ่ายไนโตรเจนให้กับผักหวานบ้านได้
4. เมล็ดพืชทั่วๆไปเมื่อเพาะ จะเกิดรากก่อนเกิดยอด แต่เมล็ดผักหวานป่า จะเกิดยอดก่อนเกิดราก
@@ แก้ปัญหา
- เลิกซื้อต้นกล้า แล้วเพาะกล้าเองอย่างถูกวิธี
- เตรียมแปลงปลูก แล้วปลูกอย่างถูกวิธี
@@ เพาะเมล็ดเลี้ยงกล้าในกระบะ :
- เก็บเมล็ดผักหวานป่าช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. ของทุกปี โดยเลือกเก็บเมล็ดแก่จัดคาต้น คาดในอีก 1-2-3 วันจะร่วง หรือเก็บลูกที่ร่วงจากต้นใหม่ๆ ไม่เกิน 1-2 วัน เป็นเมล็ดจากผลขนาดใหญ่ สมบูรณ์
- นำผลสดใหม่ลง น้ำ + สังกะสี. + โบรอน + ไคโตซาน ทันทีที่ได้มา ทั้งนี้เมล็ดผักหวานป่าไม่มีระยะพักตัว ใช้มือสวมถุงมือพลาสติก (ยางในเมล็ดผักหวานป่ากัดผิวหนังที่มือ) ขยำผลเพื่อแยกเอาเปลือก และเนื้อออกจากเมล็ด ระวังอย่าให้เมล็ดกระทบกระเทือน (สังกะสี. โบรอน. ส่งเสริมการงอกของรากของเมล็ด .... ไคโตซาน.ป้องกันกำจัดเชื้อโรค)
- นำเมล็ดที่ล้างแล้วลงปลูกในกระบะวัสดุปลูก ขุยมะพร้าวแห้งเก่า + แกลบดำเก่า + ปุ๋ยคอกเก่า อัตราส่วน 1:1:1 เปียกน้ำประมาณ 50% หนา 20-30 ซม. อัดแน่นเท่าที่แน่นได้
วางเมล็ดลงไปลึกแค่ ครึ่งเมล็ด ใช้หญ้าแห้งปิดบนรักษาความชื้น เก็บกระบะเพาะเมล็ดในเรือนเพาะชำ ให้น้ำโดยการสเปร์ยบนหญ้าแห้ง 2-3 วัน/ครั้ง
- ประมาณ 5-7 วัน จะเริ่มเกิดรากก่อน จากนั้น 30-45 วัน จึงจะเริ่มเกิดยอด (เมล็ดผักหวานป่า รากงอกก่อนต้น)
- เมล็ดผักหวานป่า แตกยอดก่อนออกราก ยอดโตแล้วแต่ยังไม่มีรากเลย ต้องใจเย็นรอดูต่อไป ระหว่างใจเย็นรอจะแหวกดินดูรากเหมือยกล้าไม้อื่นๆก็ไม่ได้ ต้นกล้าตายอีก
- เลี้ยงกล้าผักหวานป่าในเรือนเพาะชำนาน 2-3 ปีขึ้นไป จึงย้ายไปปลูกในแปลงจริง
@@ เพาะเมล็ดเลี้ยงกล้าในแปลงจริง :
1. เตรียมดินเตรียมแปลง ใส่ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, กระดูกป่น, ไถดะไถแปรไถพรวนทำร่องลูกฟูก รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้ง วางแผนรดด้วย น้ำ+น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง เดือนละครั้ง ..... อินทรีย์วัตถุและสารอา หารจากน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงจะแฝงอยู่ในเนื้อดินสำหรับผักหวานในอนาคต
2. กำหนดจุดปลูกไว้ล่วงหน้า พร้อมกับปลูกกล้วยลงตรงนั้นไปก่อน
3. ที่ว่างระหว่างกอกล้วย ปลูกไม้พี่เลี้ยง เช่น มะขามเทศ กระท้อน มะรุม แค น้อยหน่า ลำไย สะเดา ก้ามปู บำรุงไม้พี่เลี้ยง ควบคู่กับบำรุงกล้วยตามปกติ กระทั่งกล้วยเริ่มแทงหน่อ ไม้พี่เลี้ยงเริ่มโตเป็นร่มเงาได้ .... คงดีไม่น้อย เลือกไม้พี่เลี้ยงแล้วบำรุงเอาผล ผลิตด้วย ปุ๋ยที่บำรุงไม้ผลพี่เลี้ยงแม้จะไปโดนผักหวานป่าบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะผักหวายป่าเอาแค่ยอดเท่านั้น
4. เตรียมเมล็ดเหมือนการเตรียมเมล็ดสำหรับเพราะในกระบะ หยอดลงที่ใจกลางกอกล้วย เหมือนหยอดเมล็ดในกระบะ บำรุงตั้งแต่เป็นต้นกล้ากระทั่งโต ต้นโตแล้วไม่มีการย้ายอีกตลอดชีวิต
- ผักหวานบ้าน เอากิ่งไปปลูกแบบปักชำ หรือกิ่งตอนไปปลูก เก็บเมล็ดแก่ไปปลูก ทำได้ทั้งนั้น ปลูกแล้วถอนแยกย้ายไปปลูกที่ใหม่ก็ได้อีกด้วย .... นกกินลูกผักหวานบ้านแล้วขี้ออกมา ขี้ตรงไหนก็งอกตรงนั้นได้ ต้นโตดีด้วยแน่ะ
- ผักหวานป่า ต้องเพราะเมล็ดอย่างเดียว ในแปลงปลูกต้องมีไม้พี่เลี้ยง ให้มีแสงแดดรำไรๆ หรือมีแดดแค่ 50% .... การขายพันธุ์โดยการตอน หรือเพาะเมล็ดในถุงชำแล้วย้ายลงปลูกในแปลงจริง เท่าที่เจอะเจอมา 100 ต้น รอดได้แค่ 1 ต้น เท่านั้น เพราะผักหวานป่าระบบรากอ่อนแอมากๆ ปลูกแล้วห้ามย้ายเด็ดขาด
- บำรุงผักหวานบ้าน ... ทางใบ : ให้ แม็กเนเซียม, สังกะสี คีเลต, เหล็ก คีเลต. 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน แตกยอดใหม่ดี .... ทางราก : ใส่ปุ๋ยคอก ยิบซั่ม น้ำหมักชีวภาพ ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น พรวนดินพูนดินโคนต้น
- ผักหวานป่า อายุนับ 100 ปี .... ผักหวานบ้าน อายุ 10 ปี
- บำรุงผักหวานป่า .... ทางใบ : ให้น้ำมะพร้าวอ่อนอย่างเดียวก็พอ .... ทางราก : ใส่ปุ๋ยคอก
@@ วิธีการปลูกผักหวานป่า :
- คัดเลือกเมล็ดสุกคาต้น สีเขียวอมเหลืองถึงสีเหลือง ไม่ควรให้สุกงอม หรือร่วงจากต้น ปกติจะเมล็ดผักหวานป่าสุกราว เม.ย. พ.ค.
- นำเมล็ดมาล้างเปลือกและเนื้อออกจนเหลือแต่เมล็ดใน ทำเบาๆอย่าให้เมล็ดช้ำหรือแตก แล้วนำลงปลูกทันที ทั้งนี้เมล็ดผักหวานป่าไม่มีระยะพักตัว หรือห่มเมล็ดในผ้าชื้นประ มาณ 48-72 ชม.ก่อน เมื่อเมล็ดเริ่มมีตุ่มตาจึงนำไปปลูกก็ได้
- หลักการเพาะเมล็ดในถุงเพาะชำก่อน บำรุงจนเป็นต้นโตตามความเหมาะสมแล้วจึงย้ายกล้าลงปลูกลงแปลงจริงเหมือนไม้ทั่วๆไปนั้น นำมาใช้กับผักหว่านป่าไม่ได้ ทั้งนี้เพราะระบบรากผักหวานป่าอ่อนแอมาก ช่วงที่ย้ายกล้าจากถุงเพาะชำลงแปลงจริง ระบบรากกระทบกระเทือนแล้วเป็นเหตุให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต หรือตายได้ .... วิธีการเพราะเมล็ดและปลูกผักหวานป่าที่ดีที่สุด คือ นำเมล็ดที่พร้อมแล้วลงปลูกในแปลงจริง ณ จุดที่ต้องการทันทีเลย แล้วปล่อยให้ต้นโตอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีการย้ายอีกเด็ดขาด หากย้ายก็จะทำให้ระบบรากกระเทือนทำให้ต้นตายได้อีก
- ผักหวานป่าต้องการไม้พี่เลี้ยง แนะนำให้ปลูกยืนต้นตระกูลถั่ว เช่น มะขามเทศ สะเดา พุทรา ก้ามปู ลงไปก่อนแล้วปลูกผักหวานป่า แซม/แทรก ในไม้พี่เลี้ยง แล้วให้ผักหวานป่าอยู่กับไม้พี่เลี้ยงนั้นไปตลอดชีวิต .... ผักหวานป่าในป่าจริงๆ อยู่ไต้ร่มไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตดีกว่าต้นที่อยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง
- ผักหวานป่าจะออกใบน้อยในฤดูหนาว
หมายเหตุ :
มีที่ดิน 10 ไร่ ลงผักหวานบ้าน 3 ไร่, ชะอม 3 ไร่. มะกรูดตัดใบ 4 ไร่. จะมีรายได้เข้าบ้านทุกวัน ๆละ 2,000 ด้วยแรงงาน 2 คน ผัวเมีย หรือแรงงาน 3 คน ผัวเมียเมีย ดีล่ะ
---------------------------------------------------------------------
. |
|