-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 25 NOV **ฮอร์โมนไข่ สูตรไต้หวัน
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 26 NOV *พริกซุปเปอร์ฮอต, อินทผลัม
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 26 NOV *พริกซุปเปอร์ฮอต, อินทผลัม

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 27/11/2014 9:10 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 26 NOV *พริกซุปเปอร์ฮอต, อินทผลัม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร รายการวิทยุ 26 NOV

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------



จาก : (080) 806-05xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ขอข้อมูลเรื่องพริกซุปเปอร์ฮอตด้วยครับ มีคนมาติดต่อให้ปลูก เขาจะส่งมาเลเซียครับ....ขอบคุณครับ
ตอบ :
- ไม่เฉพาะแต่พริกเท่านั้น ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทุกชนิดที่ส่งออกต่างประเทศ ระวังอันดับ 1 คือ สารเคมียาฆ่าแมลง, อันดับ 2 จีเอ็มโอ, อันดับ 3 คุณภาพ, อันดับ 4 ปริมาณ

- พูดถึงพริก กินเข้าไปแล้วเผ็ดมากๆ แก้เผ็ดด้วยนมกล่อง ดื่มเข้าไปอีกเล็กๆ แล้วกลั้วปากไปมาซัก 2-3 รอบ ความเผ็ดจะลดลงทันที ทำซ้ำ 2-3 รอบ กินใหม่ได้ วิธีนี้ฝีกเด็กให้หัดกินเผ็ดดี

พริกซุปเปอร์ฮอตไทย : เป็นพริกขี้หนูผลใหญ่ ชื่อพันธุ์ว่า “ซุปเปอร์ฮอท” ใช้ปรุงอาหารปกติที่เรากินๆกันนี่แหละ ปลูกมากในเขตอิสาน รวมพื้นที่ปลูกกว่า 24,000 ไร่ ผลผลิตพริกสดทั้งพริกเขียว และพริกแดง ออกสู่ตลาดปีละกว่า 31,900 ตัน คิดเป็นมูลค่า 684 ล้านบาท

พริกซุปเปอร์ฮอตต่างประเทศ : เป็นพริกเผ็ดที่สุดในโลก ชื่อพันธุ์ว่า “นากาไวเพอร์” คนกินไม่ได้ เอาไปใช้ในอุตสาหกรรม

เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา กินเนสส์ เวิลด์ ออฟ เร็กคอร์ด หรือ บันทึกสถิติที่สุดในโลกปี 2554 ยกตำแหน่ง "พริกเผ็ดที่สุดในโลก" ให้แก่ "พริกนากา ไวเพอร์" ซึ่งมีระดับความเผ็ดพุ่งทะลุ 1,349,000 สกอวิลล์ยูนิต (หน่วยวัดความเผ็ด : Scoville Heat Units หรือ เอสเอชยู)

เป็นพริกที่มาจากเขตแกรนธัม ในเมืองลินคอล์นไชร์ ประเทศอังกฤษ โดยชาวไร่จากประเทศอังกฤษ เป็นผู้คิดค้นสายพันธุ์พริกที่เผ็ดที่สุดพันธุ์นี้ขึ้นมา เผ็ดขนาดที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวาร์วิก ประเทศอังกฤษบอกว่า "เผ็ดร้อนแบบที่ใครก็ทนไม่ได้ ต้องถอดเสื้อผ้าบรรเทาความเผ็ดเลยทีเดียว" เพราะพริกชนิดนี้จะทำให้ลิ้นชา และรู้สึกเหมือนถูกเผาไหม้แทบกลายเป็นจุณ ภายในหนึ่งชั่วโมงแทบไม่ อยากจะคุยกับใครเลย

ส่วนอันดับที่ 2 ที่เผ็ดติดอันดับโลก ได้แก่ "พริก ดิ อินฟินิตี้" ที่เคยเฉือนพริกนากา ไวเพอร์ ไปรั้งอันดับหนึ่งเมื่อเดือนก.พ. 2554 แต่ในเดือนเดียวกันนั้นเอง พริกนากา ไวเพอร์ ก็ทวงแชมป์คืนไปได้ โดยพริก ดิ อินฟินิตี้ มีระดับความเผ็ด 1,176,182 เอสเอชยู ซึ่งเป็นพริกที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองรัตแลนด์ ตอนกลางของประเทศอังกฤษ

ตามมาด้วย "พริกบุตโจโลเกีย" รั้งอันดับสาม แต่ก็เคยติดอันดับพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกมาแล้ว ด้วยความเผ็ด 1,041,427 เอสเอชยู ล้มแชมป์เก่าอย่าง "พริกฮาบาเนโร" อย่างขาดลอยเกือบ 1 เท่าตัว เป็นพืชพื้นเมืองของรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย และยังพบในพื้นที่อื่นอีก เช่น รัฐมณีปุระ และรัฐนาคะ หรือนาคาแลนด์ของอินเดีย อีกทั้งยังพบประปรายที่บังกลาเทศและ ศรีลังกา พริกชนิดนี้เผ็ดน่ากลัวทีเดียว ! เพราะ "บุต" แปลว่า "ผี" ส่วน "โจโลเกีย" แปลว่า "พริก" รวมกันเรียกว่า "พริกผี" แต่เดิมนั้น พริกบุตโจโลเกียเป็นพืชที่ไม่ได้รับการเหลียวแลในเชิงเศรษฐกิจเท่าใดนัก ยกเว้นเป็นส่วนประกอบอาหารของคน พื้นเมืองรัฐอัสสัม

แต่พอขึ้นชื่อว่าเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก ก็มีคำสั่งซื้อสำหรับส่งออกถึงปีละ 10 ตัน ทำให้มีเกษตรกรปลูกพริกชนิดนี้มากขึ้นและทำให้ราคาของพริกขยับจากกิโลกรัมละ 140 บาทมาเป็น 175 บาท

สุดยอดพริกเผ็ดติด 3 อันดับแรกได้รับการพัฒนานำไปผลิตอาวุธ เช่น ระเบิดมือ แก๊สน้ำตา ปืน เพื่อใช้ในการผลักดันม็อบ และควบคุมผู้ชุมนุมประท้วง และผลิตเป็นสเปรย์พริกเพื่อใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว

สำหรับพริกเผ็ดอันดับ 4 คือ "พริกฮาบาเนโร" เคยขึ้นแท่นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลกมาแล้วเช่นกัน มีความเผ็ดถึง 100,000 - 350,000 เอสเอชยู เผ็ดกว่าพริกชี้ฟ้าบ้านเราถึง 1 หมื่นเท่า พริกชนิดนี้มีต้นกำเนิดที่ประเทศคิวบา สันนิษฐานว่าได้ชื่อ ฮาบาเนโร มาจากชื่อกรุงฮาวานา เมืองหลวงของคิวบานั่นเอง ด้วยความที่มีรสเปรี้ยวนิดๆ ปนเผ็ด จึงนิยมทำเป็นซอสพริกทาบาสโกเวอร์ชั่นร้อนแรงกว่าเวอร์ชั่นปกติ

ขอขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด
nachart@yahoo.com
โสรวาร สวัสดิ์วัฒนานะคะ
Create Date : 28 พฤษภาคม 2554

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=05-2011&date=28&group=8&gblog=173


ปลูกพริก ซุปเปอร์ฮอตไทย ซุปเปอร์ฮอตต่างประเทศไทย :
1. เตรียมดิน :
ไถดะไถแปร ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ. .... ไถพรวนชักร่องเป็นร่องลูกฟูก คลุมสันแปลงด้วยแห้งหนาๆ รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 ปล่อยไว้ 15-20 วัน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ปรับสภาพดิน และสร้างสารอาหารรอไว้ก่อน .... ลงทุนเรื่องดินไม่เสียหลาย ได้ข้าวโพดแล้ว ได้ดินสำหรับปลูกข้าวรุ่นหน้า รุ่นต่อๆ ไป หรือถ้าไม่ปลูกข้าวจะปลูกอย่างอื่น อะไรก็ได้ ดีทั้งนั้น เพราะดินดีอยู่แล้ว

2. เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำ + สังกะสี. + ไคโตซาน + โบรอน” นาน 6 ชม. .... นำขี้นห่มชื้น 24-36 ชม. เมล็ดเริ่มมีรากปริ่มออกมา นำไปหยอด หลุมละ 2 เมล็ด .... ดินในหลุมปลูกคลุกด้วย ใบสาบ เสือ ใบยูคา ตากแห้งบดละเอียด ป้องกันแมลงในดินกินเมล็ด .... หยอดเมล็ดแล้วรดด้วยน้ำหมักชีวภาพตัวเดิม 1 ครั้ง เป็นการให้น้ำ ....

* เตรียมกล้า :
- เพาะเมล็ดในกระบะเพาะ กระบะละประมาณ 50 ม. ช่องละ 1 เมล็ด เพื่อให้ได้ 1 ต้น
– บำรุงกล้าในกระบะเพาะเมื่อได้ใบ 2-3 ใบแล้ว ด้วยไบโออิ 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน กับให้แคลเซียม โบรอน 1 รอบ

– ก่อนย้ายกล้าลงแปลงจริง ให้ฝึกออกแดด เริ่มจากแดดอ่อนๆก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นของแดดจนแน่ในว่า ได้แดด 100% แล้ว ต้นกล้าไม่เหี่ยวก็นำลงปลูกในแปลงจริงได้

* บำรุง ระยะต้นเล็ก :
– ทางใบ :
- ให้ไบโออิ (Mg Zn TE) + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดสารสมุนไพรบ่อยๆ

- ทางราก :
- ให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) /ไร่ /เดือน
- พรวนดิน พูนดินโคนต้น หญ้าคลุมโคนต้นหนาๆ เดือนละครั้ง
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

บำรุงระยะให้ผลผลิต :
- ทางใบ :
- ให้สูตรสหประชาชาติ “ไบโออิ (Mg Zn TE) + ไทเป (0-52-34, 13-0-46) + ยูเรก้า (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโน โปรตีน) + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดสารสมุนไพรบ่อยๆ

- ทางราก :
- ให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (1 ล.) /ไร่ /เดือน
- พรวนดิน พูนดินโคนต้น หญ้าคลุมโคนต้นหนาๆ เดือนละครั้ง
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

หมายเหตุ :
- เนื้อที่ 1 ไร่ ติดสปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน ปั๊มไฟฟ้า 3 แรงม้า
- ฉีดพ่น น้ำเปล่า หรือ น้ำ + ปุ๋ย หรือ น้ำ +ปุ๋ย +ยาสมุนไพร หรือ น้ำ + สมุนไพรเดี่ยวๆ ได้ทุกเวลาที่ต้องการ เช้ามืด/สาย/เที่ยง/บ่าย/ค่ำ ด้วยแรงงานคนเดียว กับเวลา 5-10 นาที
- ติดกับดักกาวเหนียวกลางวัน ล่อเพลี้ยไฟ
- ติดกับดักกาวเหนียว แสงไฟ ล่อแมลงกลาง คืน

------------------------------------------------------------


จาก : (081) 439-88xx
ข้อความ : ผมอยู่ชุมพร มีคำถามครับ .... 1. ขอทราบเทคนิคทำให้อินทผลัม ออกนอกฤดู .... 2. เขียวเสวยภาคไต้ ไม่ได้บำรุง ออกดอกแล้วไม่ค่อยติดลูก แต่มะม่วงน้ำดอกไม้ ไม่ได้บำรุงเหมือน กัน ยังติดลูกบ้าง เราควรแก้ไขเขียวเสวยอย่างไร .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
การปลูกและการดูแลรักษาอินทผลัม :
1. การปลูก : ขุดหลุมขนาด 50×50 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก เวลาปลูกให้โคนต้นสูงพ้นพื้นดินประมาณ ฝ่ามือ จะทำให้ต้นโตเร็ว ระยะการปลูก 7×7 เมตร จะได้ 32 ต้นต่อไร่ อินทผลัมชอบแดดจัด ไม่ชอบน้ำขังน้ำแฉะ

2. การดูแลรักษา ในระยะปีที่ 1- 2
2.1 เมื่อปลูกแล้ว 1 เดือน ควรใส่ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการแตกยอด เช่น ปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือสูตร15-15-15 สองเดือน/ครั้ง เพื่อให้ต้นอินทผลัมโตเร็ว หรือใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปีละ 2 ครั้ง ต้นฤดูฝน – ปลายฤดูฝน โดยใส่ห่างจากลำต้น 1 ศอก

2.2 ฤดูฝนไม่จำเป็นต้องให้น้ำ ฤดูแล้งควรให้น้ำทุก 7-10 วัน
2.3 ถ้าดูแลรักษาดี จะออกดอกออกผลตั้งแต่ปีที่ 3 ต้น ตัวผู้จะออกดอกก่อนต้นตัวเมีย สามารถปล่อยให้ออกดอกติดผลได้เลย ไม่ต้องกลัวต้นโทรม เพราะระบบรากของอินทผลัมจะหาอาหารเก่งมาก

3. การดูแลรักษาในระยะปีที่ 3 :
3.1 เป็นปีที่จะเริ่มออกดอกติดผล ควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยอินทรีย์ เช่น มูลค้างคาว มูลไก่ มูลวัว ให้ใส่ต้นฤดูฝน พอถึงเดือนตุลาคม ควรใส่ปุ๋ยสะสมอาหาร เช่น ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ถ้าพื้นที่ฝนชุก ควรใส่ปุ๋ย 0-46-60 เพื่อให้ออกดอกมาก ถ้าปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์อีกครั้งแล้วหยุดให้น้ำ อินทผลัมจะเริ่มออกดอกตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ถึง เมษายน ของทุกปี

3.2 อินทผลัมจะมีหน่อบ้าง เมื่อบำรุงรักษาดี ในระยะ 3 ปีแรกควรตัดหนามและหน่อทิ้งเพื่อให้ต้นแม่ได้สะสมอาหาร ทำให้ติดดอกออกผลง่ายและดก แต่ถ้าต้นแม่อายุ 5 ปีขึ้นไปแล้ว สามารถปล่อยให้มีหน่อและสามารถแยกหน่อไปปลูกได้

3.3 เมื่ออินทผลัมติดดอก ควรช่วยผสมเกสร เพื่อให้ติดลูกดกกว่าการปล่อยให้ผสมเกสรตามธรรมชาติ
3.4 ควรให้น้ำบ้างเมื่อติดผล และใช้ไม้ช่วยค้ำยันทะลายอินทผลัม เพื่อไม่ให้ก้านทะลายหัก หรือย้อยลงดิน

4. การตัดแต่งใบ :
ใบอินทผลัมที่แก่และแห้งควรตัดทิ้ง เพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติงาน การดูแลรักษา และทำให้ทรงต้นสะอาด รวมทั้งป้องกันแมลงรบกวน ปัญหา โรคและแมลงยังมีน้อยมาก

5. การเก็บเกี่ยว :
จะดูที่สีของผลอินทผลัม ถ้าผลมีสีเหลืองเข้มมาก หรือ มีผลเริ่มสุกสีน้ำตาล 5-10% ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ผลจะมีลักษณะกลมรี ออกเป็นพวงหรือทะลาย การพัฒนาของผลจะมี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะผลดิบ , ระยะผลสมบูรณ์เต็มที , ระยะผลสุกแก่ และ ระยะผลแห้ง รวมระยะเวลาตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยว ประมาณ 7-8 เดือน

6. การเก็บรักษา :
หากเก็บอินทผลัมผลที่สุกแก่ไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส สามารถเก็บได้นานถึง 1 ปี

7. การผสมเกสร :
ถ้าต้นชิดกัน เรื่องการผสมเกสรจะมีแมลงและลมช่วยผสมตามธรรมชาติอยู่แล้ว ถ้าอยากให้ลูกติดดกทุกเมล็ด ทุกทะลายควรช่วยผสมเกสรจะดีที่สุด

8. เทคนิคการผสมเกสรให้ติดลูกดก :
การเก็บเกสรตัวผู้ : เก็บสำรองเพื่อเอาไว้ช่วยผสมเกสร ให้ตัวเมีย ให้สังเกตเวลาที่จั่นตัวผู้ออกและแตกจะเห็นดอกข้างในเป็นดอกที่มีกลีบเป็นแฉก ๆ สีขาวให้นำถุงพลาสติกคลุมแล้วเขย่าให้ได้ละอองเกสรที่มีลักษณะเป็นฝุ่นแป้งสีขาว แล้วเก็บปิดถุงให้มิดชิดนำใส่ตู้เย็นช่องธรรมดาไว้

สำหรับเกสรตัวเมีย : ต้นตัวเมียจะออกจั่นเหมือนต้นตัวผู้ แต่เกสรตัวเมียจะมีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ เป็นช่อ พอจั่นแตกออกก็ให้นำเกสรตัวผู้ที่เก็บไว้มาผสม โดยใช้เกสรประมาณ 1/3 ช้อนชาต่อ 1 ช่อดอก นำเกสรตัวผู้ใส่ถุงพลาสติกเขย่าให้ฟุ้งแล้วนำไปครอบช่อจั่นตัวเมีย จากนั้นให้เขย่าเพื่อให้ละอองเกสรผสมกัน ควรผสมซ้ำอีก ประมาณ 1-2 วัน สำหรับการผสมซ้ำไม่ต้องใช้เกสรมาก ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการผสมเกสรคือ ช่วงเช้า เนื่องจากอากาศจะไม่ชื้นและร้อนจน เกินไป

http://www.buachat.com/web/?page_id=326


- “แหล่งซื้อต้นพันธุ์” ..... เพาะเมล็ดเอง ใช้เมล็ดในผลอินทผลัมตากแห้งที่กินเนื้อแล้ว จำนวนเมล็ดงอก 50:50 ประหยัดต้นทุน หรือซื้อต้นพันธุ์ที่เพาะจากเมล็ดแล้ว ต้นสูง 1-2 คืบมือ สนนราคาต้นละ 200-300 บาท ต้องยอมรับว่าต้นจากเพาะเมล็ดกลายพันธุ์ โอกาสเป็นต้นตัวเมียต่ำ โอกาสเป็นต้นตัวผู้สูง .... ซื้อต้นพันธุ์เพาะเนื้อเยื่อ (จากต่างประเทศ ประเทศไทยยังเพาะไม่ ได้) สนนราคาต้นละ 1,200-1,500 กล้าสูง 50-80 ซม. ไม่กลายพันธุ์ เป็นต้นตัวเมียแน่นอน

- “ทำให้อินทผลัมออกนอกฤดู” .... เท่าที่ คิด/วิเคราะห์ เกี่ยวกับอินทผลัมเท่าที่ข้อมูลจะพึงมี กอร์ปกับตัวเองไม่มีประสบการณ์ตรง เพราะเพิ่งเริ่มปลูก (อายุต้นได้ 2 เดือน) พอจะเดาๆได้ว่า อินทผลัมออกดอกติดผลได้ตอดปี แบบไม่มีรุ่น ตามประสาไม้ตระกูลปาล์ม (ปาล์ม จาก ตาล หมาก สละ ระกำ มะพร้าว) นั่นคือ บำรุงด้วยสูตรเดียวกัน .....

– ทางใบ : ให้สูตรสหประชาชาติ ไบโออิ (Mg Zn TE) + ไทเป (13-0-46, 0-52-34) + ยูเรก้า (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน ) 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 10-15 วัน

- ทางราก : ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 +8-24-24, .... ใช้เศษซากทะลายปาล์มจากโรงงานน้ำมันปาล์มคลุมโคนต้นหนาๆ ปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปี ให้น้ำสม่ำเสมอหน้าดินชุ่ม (ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่)

- “เขียวเสวยภาคไต้ ไม่ได้บำรุง ออกดอกแล้วไม่ค่อยติดลูก แต่มะม่วงน้ำดอกไม้ ไม่ได้บำรุงเหมือนกัน ยังติดลูกบ้าง เราควรแก้ไขเขียวเสวยอย่างไร ?”

.... ธรรมชาตินิสัยของเขียว เสวย พระเจ้าประทานมา เป็นมะม่วงที่เปอร์เซ็นต์เกสรสมบูรณ์เพศน้อยที่สุดในบรรดามะม่วงด้วนกัน (มีเพียง 4% .... อ้างอิง : ดร.สัมฤทธิ์ เฟื่องจันทร์ ม.ขอนแก่น) หนทางช่วยเหลือเขามีทางเดียวเท่านั้น คือ .... 1. บำรุงให้ต้นมีความสมบูรณ์สะสมสูงๆ (สังกะสี. โบ รอน .... รศ.ดร.สุมิตร ภู่วโรดม สจล.) .... 2. บำรุงดอกด้วย 0-52-34 (ภาคไต้ ความชื้นในอากาศสูง) .... 3. ให้ เอ็นเอเอ. .... 4. ชักนำแมลงเข้าผสมเกสร

.... ธรรมชาตินิสัยของน้ำดอกไม้ อ.สนั่น ขำเลิศ ประทานมา เป็นมะม่วงที่ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนเขียวเสวย แม้ไม่ได้บำรุงดอกเยี่ยงเขียวเสวยยังติดผลได้ แต่หากบำรุงเพียงเศษเสี้ยวเดียวของเขียวเสวย รับรองติดผลดกแบบไม่เกรงใจข้างบ้านเลยเชียวแหละ

.... ปัญหา เขียวเสวย น้ำดอกไม้ อยู่ที่เจ้าของ ....
* ได้บำรุงแบบสะสมความสมบูรณ์ หรือไม่ ?
* รู้จัก 0-52-34 หรือไม่ ?
* รู้จัก 15-30-15 หรือไม่ ?
* รู้จัก เอ็นเอเอ. หรือไม่ ?
* ในสวนมีผึ้งช่วยผสมเกสร หรือไม่ ?
.... ปัญหาทำนองนี้ต่อให้ “พระเจ้า ซุปเปอร์” ก็ช่วยไม่ได้

----------------------------------------------



.
    กลับไปข้างบน
    แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
    แสดงการตอบก่อนนี้:   
    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
    หน้า 1 จากทั้งหมด 1

     
    ไปยัง:  
    คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
    คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
    คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
    คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
    คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

    Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
    Forums ©