-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบปัญหาการเกษตร 1 OCT **เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล นาข้าว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบปัญหาการเกษตร 2 OCT *เร่งหวานมะขาม, ดอกมะม่วง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบปัญหาการเกษตร 2 OCT *เร่งหวานมะขาม, ดอกมะม่วง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 02/10/2014 8:38 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบปัญหาการเกษตร 2 OCT *เร่งหวานมะขาม, ดอกมะม่วง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ทางรายการวิทยุ 2 OCT

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------



จาก : (080) 712-94xx
ข้อความ : ผู้พันครับ อีก 3 เดือน มะขามหวานเพชรบูรณ์จะแก่เก็บได้ ปีที่ใช้ระเบิดเถิดเทิงแล้วรสหวาน ก่อนเก็บให้สูตรเร่งหวาน 2 รอบ ปีนี้ต้องให้อย่างเดิมอีกไหมครับ
ตอบ :
- มะขามหวานนี่ดีไปอย่างที่ออกสู่ตลาดแล้วไม่ค่อยมีคู่แข่ง เพราะเดือน ม.ค.- ก.พ. ผลไม้ดังๆอย่าง ทุเรียน มังคุด เงาะ มะม่วง ลำไย ยังอยู่บนต้น ที่น่าเห็นใจก็คือ ตอนเก็บ ต้องปีนบันได้ขึ้นไป จับฝักแก่แล้วเคาะที่เปลือก ทีละฝักๆ เพื่อหาฝักแก่ แบบนี้มันง่ายนักเหรอกับยุคแรงงานหายากแบบนี้

- มะขามหวานปลูกได้ทั่วประเทศ บางพื้นที่ว่าปลูกไม่ได้ ปลูกได้ก็ไม่ออกฝักมีแต่ใบ ก็อยากจะบอกว่า ที่ว่าปลูกไม่ได้คือปลูกแล้วไม่โตอย่างปลูกทุเรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม เนื่องจากสภาพดินไม่เหมาะสม กับปลูกแล้วโตแต่บ้าใบ อันนี้เนื่องจากน้ำไต้ดินโคนต้นต่างหาก เพราะนิสัยมะขามหวาน หลังเก็บผลสุดท้ายหลุดจากต้น วงเดือน ม.ค.- ก.พ. แล้วต้องหยุดให้น้ำเด็ดขาด หยุดให้ปุ๋ยทุกอย่าง ปล่อยให้ต้นใบร่วง กระทั่งถึง พ.ค.- มิ.ย. มีฝน นั่นแหละเขาจะแตกยอดใหม่พร้อมกับมีดอกออกมาด้วย แต้ถ้า พ.ค.- มิ.ย. ไม่มีฝน ก็ต้องคนนี่แหละ ทำฝนให้เขา ไม่งั้นปีนั้นก็จะไม่ได้กินมะขามหวาน ประมาณนี้

- นักชิมมะขามหวานส่วนใหญ่รู้จักแต่มะขามหวานเพชรบูรณ์ เพราะประชาสัมพันธ์ดี ก็ไม่ผิด พอมะขามหวานเพชรบูรณ์หมดแต่ยังมีมะขามหวานขาย นั่นคือ มะขามหวานจากด่านซ้าย จ.เลย บางคนยังบอกว่า มะขามหวานด่านซ้าย อร่อยกว่ามะขามหวานเพชรบูรณ์ซะอีกแน่ะ แต่คนไม่รู้จักก็เพราะประชาสัมพันธ์อีกนั่นแหละ.... กับเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มะขามหวานไทยไปออกบู๊ธที่กวางโจว ประเทศจีน ทูตพานิชจากกระทรวงพานิชไปเองเลย คนจีนกินแล้วติดอกติดใจกันมาก ถามว่าทำไมไม่เอามาขายที่กวางโจวบ้าง คนระดับทูตพานิชมองตลาดไม่ออก ก็ไม่รู้จะว่ายังไง

@@ เกร็ดความรู้เรื่องมะขามหวาน (จากหนังสือ “ไม้ผลแนวหน้า”) :
* ตอบสนองต่อปุ๋ยทั้งทางใบ/ทางรากและฮอร์โมนได้ดีและเร็ว ไม่ควรใส่ปุ๋ยคอกที่มีไนโตรเจนมาก เช่น มูลวัวเนื้อ/นม/ไล่ทุ่ง. มูลควาย เพราะจะทำให้ต้นได้รับไนโตรเจนมากจนเป็นเหตุให้ต้นเฝือใบ แตกใบอ่อนขณะออกดอกติดผล และมีรสเปรี้ยวได้ แนะนำให้ใส่ปุ๋ยคอกที่มีฟอส ฟอรัส และโปแตสเซียมสูง เช่น มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา แล้วเสริมด้วยมูลค้างคาวแต่ก็ไม่ควรใส่มากเหมือนไม้ผลอื่นๆ เพราะนอกจากยังมีไนโตรเจน. เป็นส่วนประกอบอยู่บ้างแล้ว มูลสัตว์เหล่านี้ยังทำให้เมล็ดใหญ่อีกด้วย ดังนั้น การควบคุมปริมาณไนโตรเจน. ฟอสฟอรัส. และโปแตสเซียม. ในมะขามหวานจึงต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมีทั้ง ทางราก/ทางใบ และฮอร์โมน เป็นหลัก ส่วนการปรับปรุงสภาสภาพโครงสร้างดินให้โปร่งร่วนซุยดีอยู่เสมอก็ต้องพึ่งพาเศษพืชแห้ง ยิบซั่มธรรมชาติ กระดูกป่น และจุลินทรีย์ เท่านั้น

* อายุต้นช่วงให้ผลผลิต 2-3 ปีแรกมีรสหวานดี แต่ครั้นตั้งแต่ 5-6 ปีขึ้นไป หรือให้ผลผลิตเป็นรุ่นที่ 5-6 แล้ว รสชาติจะเริ่มเปรี้ยวและเปรี้ยวขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นมะขามเปรี้ยว บางคนบอกว่ากลายพันธุ์ซึ่งไม่เป็นความจริง เหตุที่มะขามหวานเคยหวานแล้วเปลี่ยนเป็นเปรี้ยวนั้นเป็นเพราะต้นได้รับธาตุไนโตรเจน. มาก แต่ได้รับธาตุฟอสฟอรัส. และโปแตสเซียม.น้อยเกินไป ทั้งนี้ มะขามหวานเป็นไม้ผลที่ต้องการฟอสฟอรัส. และโปแตสเซียม. ปริมาณสูง เพื่อการบำรุงผล จึงต้องให้อย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ ซึ่งนอกจากช่วยให้มะขามหวานต้นนั้นไม่เปรี้ยวหรือที่เปรี้ยวแล้วกลับมาเป็นหวานอย่างเดิม กับทั้งยังได้รสชาดและคุณภาพดีเหมือนเดิมอีกด้วย

การให้ปุ๋ยทางรากสูตร 8-24-24 เสริมด้วยมูลค้างคาว 1-2 รอบ ระหว่างบำรุงผลกลางถึงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยว จะช่วยให้ต้นได้รับฟอสฟอรัส. และโปแตสเซียม. อย่างเพียงพอ นอกจากนี้การบำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวด้วยสูตรเร่งหวาน ทั้งทางใบและทางรากก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย

ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวถ้าต้นได้รับไนโตรเจน (ปุ๋ยและน้ำ) มากจะทำให้รสไม่หวานสนิทหรือติดเปรี้ยว เนื้อน้อย/บาง รกมาก สุกช้า ผิวขรุขระ เปลือกหนา และสีเปลือกไม่สวย

* ฝักแก่จัดเซลล์ที่เปลือกจะห่างหรือมีช่องว่างจนอากาศผ่านเข้าได้ เมื่ออากาศเข้าได้เชื้อราก็เข้าสู่ภายในผลได้ด้วยเช่นกัน จึงเป็นเหตุให้เนื้อในเกิดเชื้อราได้รับความเสียหาย กรณีนี้แก้ไขด้วยวิธีบำรุงผลตั้งแต่ระยะผลขนาดกลางด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริม. โดยเน้นแคลเซียม โบรอน. อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เซลล์ที่เปลือกอัดตัวกันแน่น หรือเปลือกแข็งเหนียวจนอากาศผ่านเข้าไปไม่ได้

5. บำรุงผลแก่
ทางใบ :
- ให้ “น้ำ 100 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + 0-21-74 (200 กรัม)” 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วันก่อนเก็บเกี่ยว ฉีดพ่นพอเปียกใบ
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :
- ให้ 13-13-21 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น ละลายน้ำรดโคนต้นบริเวณทรงพุ่ม แล้วงดน้ำเด็ดขาด

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=68

--------------------------------------------------------------


จาก : (092) 719-23xx
ข้อความ : มะม่วงน้ำดอกไม้ มหาชนก ขาวนิยม อายุ 4 ปี ราดสารปีแรก ตอนนี้เริ่มออกดอก ทางดินใส่น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเพิ่ม ทางใบให้ไบโออิ สลับกับไทเป ใช้แอร์บลาสส์รดน้ำ ต้องบำรุงดอกอย่างไรบ้าง .... ขอบคุณครับ
ตอบ :
- ทางดินให้แค่ระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่ม นี่เท่ากับ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ธรรมดาๆ อย่าลืมว่า มะม่วงนะไม่ใช่มะเขือพริก มะม่วงใหญ่กว่าย่อมต้องใช้สารอาหารมาก กว่า นั่นคือ ควรใส่ 8-24-24 เพิ่มด้วย อายุต้นขนาดนี้ให้ 1/2 กก. /ต้น /เดือน ก็พอ ที่สำคัญกว่าปุ๋ย คือ ดิน ดินต้องตอบสนองต่อปุ๋ย ในดินต้องมีอินทรีย์วัตถุ จุลินทรีย์ น้ำ และอากาศ

– มะม่วงมหาชนก ที่ไร่กล้อมแกล้ม รุ่นที่แล้ว ลูกใหญ่ไซส์ 7-8 ขีด สุกจัดรสหวานเจี๊ยบ ไม่มีเสี้ยน กินกับข้าวเหนียวมูลได้เลย

- ทางใบ : .... ช่วงแล้ง (หมดฝน 7-10 วันแล้ว หรือ ลมหนาวเริ่มโชย) “น้ำ 100 ล. + 15-30-15 (200 กรัม) + เอ็นเอเอ. 100 ซีซี. + ยาสมุนไพร 1-2 ล.” .... ช่วงฝน (ยังมีฝน) น้ำ 100 ล. + 0-52-34 (200 กรัม) + เอ็นเอเอ. 100 ซีซี. + ยาสมุนไพร 1-2 ล.” 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน

- ทางราก : ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, 8-24-24 (1/2 กก.) ละลายน้ำรดบริเวณทรงพุ่ม, หญ้าแห้งคลุมโคนต้น หนา, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 ล.) รดทั่วแปลง ทุกตารางนิ้ว เนื้อที่ 1 ไร่, ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น

หมายเหตุ :
- ป้องกันกำจัดเพลี้ยจักจั่นและราดำ ฉีดพ่นสมุนไพร “เบื่อเมา (กลอย น้อยหน่า สะเดา) + ร้อนจัด (ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย ตะไคร้)” ตอนเย็น ทุกวัน กระทั่งดอกผสมติดเป็นผลหมดแล้ว

- งดใช้สารเคมียาฆ่าแมลงเด็ดขาด เพื่อล่อแมลงธรรมชาติ โดยเฉพาะผึ้งให้เข้ามาช่วยผสมเกสร

- ให้น่าเป็นห่วงเครื่องฉีดพ่นแบบแอร์บลาสส์ ทีละแถวๆ เข้าทำงานตอนค่ำทุกวัน ไหวหรือ
.... ตัวแอร์บลาสส์ คันละ 4-5 แสน รถลาก 4-5 แสน รวมเกือบล้าน ราคานี้สปริงเกอร์ถูกกว่า คิดง่ายๆ อยากฉีดตอนเที่ยง ให้ทันเวลาภายในเที่ยงเพื่อไล่เพลี้ยไฟ ทุกวัน จะทำทันไหม อยากฉีดตอนค่ำกำจัดเพลี้ยจั๊กจั่นเข้าทำลายดอก ทุกค่ำ 5-6-7 วันติดต่อกัน จะทำได้ไหม แม้แต่การให้น้ำทางรากซึ่งต้องให้มากหน่อย เครื่องแอร์บลาสส์ทำไม่ได้แน่นอน

- เครื่องฉีดพ่นแอร์บลาสส์ เหมาะสำหรับไม้ต้นใหญ่ๆ สูงๆ แล้วเว้นช่องว่างระหว่างแถวระหว่างต้นเป็นถนนให้รถแอร์บลาสส์วิ่งด้วย นั่นหมายความว่า ต้องจัดระยะปลูกแบบห่างๆ จะมาปลูกแบบระยะชิด หรือระยะชิดพิเศษไม่ได้ ก็เท่ากับเสียพื้นที่โดยไม่จำเป็น

- พูดถึงเครื่องแอร์บลาสส์ กาลครั้งหนึ่ง เมื่อ 4-5 ปีมาแล้ว สองหนุ่มเพื่อนกัน บ้านติดกัน ทำสวนยกร่องน้ำหล่อ เนื้อที่ 20 ไร่เท่าๆกัน ปลูกพืชอย่างเดียวกัน อดีตเคยรดน้ำด้วยเรือปาก เป็ด ต้องเวลา 4-5 ชม.ทุกครั้ง .... อยู่ๆมาหนุ่มหนึ่งยอมรับระบบสปริงเกอร์ จัดการติดตั้งสปริงเกอร์แล้วทำงาน ใช้เวลาเพียง 2 ชม. แต่อีกหนุ่มหนึ่งไม่ยอมรับสปริงเกอร์ ยังคงแล่นเรือปากเป็ดใช้เวลาทำงาน 4-5 ชม.เหมือนเดิม ทุกครั้งที่ทำงาน หนุ่มสปริงเกอร์ทำเสร็จแล้วนั่งพัก อ่านหนังสือคู่สร้างคู่สมสบายใจเฉิบ ขณะที่หนุ่มเรือปากเป็ดต้องทนแล่นเรือปากเป็ดอยู่อย่างนั้น วันเวลาผ่านไปราว 3 เดือน ด้วยมิจฉาทิฐิของหนุ่มเรือปากเป็ดต้องการเอาชนะ ลงทุนติดแอร์บลาสส์ในเรือ หวังเพื่อลดเวลาทำงาน แต่ก็ลดลงได้แค่ชั่วโมงเดียว ที่สำคัญก็คือ ยังต้องแล่นเรือปากเป็ดตากแดดหัวแดงหน้าดำเหมือนเดิม มิจฉาทิฐิยังไม่ลด หวังเอาชนะให้ได้ ตัดสินใจติดแอร์เครื่อง ปรับอากาศในเรือปากเป็ด วาดฝันว่า แล่นเรือปากเป็ด-แอรร์บลาสส์-เครื่องปรับอากาศ คงเหนือกว่าสปริงเกอร์แน่นอน เล่นกับเรือปากเป็ด-แอร์บลาสส์-เครื่องปรับอากาศ เพียง 2 อาทิตย์ คนขับเรือแล่นเรือถึงกับน็อค สลบในเรือ จะตายเอา เพราะลืมคิดไปว่า เครื่องปรับอากาศมันดูดอากาศจากภายนอกเข้าไปในห้องนั่งขับเรือ ตอนที่ฉีดสารเคมียาฆ่าแมลงก็เลยดูดเอาสารเคมีเข้าไปด้วย แล้วคนขับอยู่ในนั้นจะรอดได้ไง นั่นแหละจึงยอมรับระบบสปริงเกอร์ แล้วประกาศขายเรือแอร์บลาสส์ลำนั้นทันที ลงทุนไปกว่า 300,000 ก็มีคนขอซื้อ ให้ราคา 3,000 โถ .... พ่อเจ้าประคุณลุนช่อง

-------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©