-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 4 SEP **ขยายพันธุ์ไผ่, *ปลูกผักกาดเขียว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 4 SEP **ขยายพันธุ์ไผ่, *ปลูกผักกาดเขียว
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 4 SEP **ขยายพันธุ์ไผ่, *ปลูกผักกาดเขียว

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11557

ตอบตอบ: 04/09/2014 8:50 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร 4 SEP **ขยายพันธุ์ไผ่, *ปลูกผักกาดเขีย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ทางรายการวิทยุ 4 SEP

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------



จาก : (084) 819-37 xx
ข้อความ : เรียนผู้พัน 1. ตอนกิ่งไผ่ทำอย่างไร 2. เสียบยอดไผ่ทำอย่างไร 3. แยกหน่อทำอย่างไร 4. ไผ่นอกฤดูทำอย่างไร ....ขอบคุณครับ
ตอบ :
- อะไรก็แล้วแต่ มีมากราคาถูก มีน้อยราคาแพง หน่อไม้ก็เหมือนกัน หน้าฝนมีมาราคาถูก หน้าแล้งมีน้อยราคาแพง เพราะฉะนั้น “นอกฤดู” คือ คำตอบที่ดีที่สุด

– “ตอนกิ่งไผ่ทำอย่างไร” .... เลือกกิ่งที่ตา (ข้อ/ปล้อง) โตขนาดนิ้วก้อย .... ใช้เลื่อยตัดเหล็ก(คองเลื่อยแคบ) เลื่อยที่ตุ่มตา ทำมุม 90 องศากับลำไผ่ .... เลื่อยลึก 1 ใน 3 ของความหนาของตุ่มตา .... เลื่อยแล้วหุ้มด้วยตุ้มตอนกิ่งธรรมดาๆ ปล่อยไว้ประมาณ 1-2 เดือนออกราก .... รากเต็มตุ้มแล้วตัดที่ปล้องไม้ไผ่ เหนือแผลตอนกับไต้แผลตอน ข้างละ 1 ฝ่ามือ .... ตัดลงมาแล้วนำไปอนุ บาลต่อในถุงชำ เลี้ยงในร่ม กระทั่งมียอดใหม่จากยอดเดิม 1-2 ยอดจึงนำไปปลูก .... ระหว่าง การตอน-การตัด-การขนย้าย ต้องระวังอย่าให้ยอดหัก ถ้ายอดเดิมหักต้องเลี้ยงนานจนกว่าจะเกิดหน่อใหม่ขึ้นมาจากรากทำให้เสียเวลา ทั้วนี้ไผ่จะแตกยอดใหม่ต่อจากยอดเดิม

– “เสียบยอดไผ่ทำอย่างไร” .... ไม่มีข้อมูล ไม่เคยได้ข่าว ไม่ได้บอกว่าทำไม่ได้ แต่สงสัยเสียบยอดเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ? ยอดใหม่เสียบแล้วเป็นอย่างไร ?

– “แยกหน่อทำอย่างไร” .... เลือกไผ่ที่เป็นลำแล้ว กลางอ่อนกลางแก่ ตัดส่วนที่เป็นลำทิ้งไปเหลือไว้ประมาณ 1 แขน .... ขุดโคนลำไผ่ที่ตัดลำจนถึงไหลที่เจริญออกมาจากกอแม่ .... ค่อยๆแหวกดินออก อย่าให้รากกระทบกระเทือนหรือขาด และพยายามเก็บดินเดิมหุ้มรากไว้ให้มากที่สุด .... ตัดไหลยาวประมาณ 1 คืบมือ ยกตอไผ่ขึ้นมาพร้อมกับให้ดินหุ้มราก นำลงถุงเพาะชำ ใส่ดินเพาะชำให้เต็มถุง นำไปอนุบาลต่อในเรือนเพาะชำ.... ตอไผ่จะแตกหน่อใหม่ขึ้นมาจากไหล ได้หน่อใหม่สมบูรณ์แข็งแรงดีแล้วก็นำไปปลูกในแปลงจริง .... ระหว่างอนุบาลจะมียอดแทงออกมาจากตุ่มตาที่ข้อปล้อง แล้วโตเป็นกิ่งไผ่ได้ ช่วยเสริมให้หน่อใหม่เจริญเติบโตดีขึ้น

* “ไผ่นอกฤดูทำอย่างไร :
- เดือนนี้ ก.ย. เริ่มได้เลย .... ใส่ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่, ใบไผ่แห้งคลุมโคนต้นหนาๆ, ใส่ 8-24-24 (1 กก.) /ต้น /เดือน หว่านรอบทรงพุ่ม, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 (2 ล.) /ไร่ รดทั่วแปลง ทุกตารางนิ้ว

- สิ้นเดือน ต.ค. หรือเริ่มหมดฝน ระดมให้น้ำเหมือนยังเป็นหน้าฝน ให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 เดือนละครั้ง
- ประมาณ ก.พ.- มี.ค. จะเริ่มมีหน่อออกมาให้เก็บ เป็นหน่อไผ่นอกฤดู

หมายเหตุ :
- วิธีทำนอกฤดู ทำได้ทั้งหน่อไผ่ และหน่อรวก
- การที่ไผ่จะแทงหน่อ ต่อเมื่อสภาพอากาศมีความชื้นสูงๆ ทั้งที่พื้นดิน และในอากาศ การปลูกพืชคลุมดิน (พริก มะเขือ กล้วย) นอกจากมีรายได้แล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างความชื้นทั้งในดิน และในอากาศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

- หน่อไผ่ตอบสนองดีมากกับ กระดูกป่น
- ยิบซั่ม ช่วยให้ดินโปร่ง การแทงหน่อดี
- ระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 ช่วยให้หน่อใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักดี เสี้ยนน้อย

- ไผ่/รวก ไม่ถูกกันมากๆกับแกลบดำ จึงไม่ควรใส่ หากต้องการทำหน่อหมกสีขาว ให้ใช้ใบแห้งของเขาเองใส่ถุงครอบหน่อแทน

--------------------------------------------------------------



จาก : (090) 620-37 xx
ข้อความ : อยากให้ผักกาดเขียวต้นใหญ่ ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหนครับ....
ตอบ :
* ก่อนอื่น ปุ๋ยลุงคิมไม่ใช่ของวิเศษ ปุ๋ยยี่ห้อไหนก็ไม่ใช่ของวิเศษ ปุ๋ยเป็นเพียงสารอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนปัจจัยทั้ง 6 คือ "ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค" หากปัจจัยใดปัจัยหนึ่งไม่เหมาะสมสำหรับผักกาดเขียว ใส่ปุ๋ยลงไปไร่ละตันก็ไม่โต ในความเป็นจริงทางธรรมชาติ พืชไม่ได้ต้องการกินปุ๋ยเคมีมากมายเท่า "ไอ้คนขายปุ๋ย" บอกหรอก .... ผักขาดเขียวเป็นพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว อายุแค่ 3 เดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้น เขาจะต้องได้กินสารอาหารตั้งแต่วินาทีแรกที่เกิด อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จนถึงวันเก็บเกี่ยว แค่ปุ๋ยเคมีในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง กับปุ๋ยทางใบที่ให้ก็เกินพอแล้ว

* เตรียมดิน เตรียมแปลง :
ดินต้องมาก่อน ดินต้องมาก่อน .... ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, พรวนให้เข้ากันดี คลุมสันแปลงด้วยหญ้าแห้งหนาๆ .... รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) /ไร่ .... บ่มดินทิ้งไว้ 20-30 วัน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ ทั้งจุลินทรีย์จากน้ำหมัก และจุลินทรีย์ประจำถิ่น ปรับสภาพดินให้ก่อน .... ระหว่างนี้หากมีวัชพืชขึ้นให้ถอนทิ้งด้วยมือ .... ขอให้เน้นยิบซั่มมากๆ เพื่อเอาแคลเซียม ช่วยป้องกันโรคไส้กลวง (โอกึน) แบบล่วงหน้า

* พันธุ์ :
1. พันธุ์เข้าปลี (ปลีกลม ปลีแหลม) นิยมปลูก ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ปลีกลม
2. พันธ์ลำต้นพองหนา ทำผักดอง
3. พันธ์ไม่เข้าปลี ใช้เป็นผักสดปรุงอาหารได้โดยตรง

* การปลูก :
- แบบหว่าน : ถอนแยกต้นที่อ่อนแอ ไม่สมบูรณ์ เป็นโรค หรือเบียดกันแน่นออก การถอนแยกอาจทำหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายไม่ควรปล่อยให้ต้นกล้าอายุเกิน 25-30 วัน พร้อมทั้งจัดระยะระหว่างต้น 50 ซม.

- แบบโรยเป็นแถวหรือหยอดหลุม : หยอดเมล็ดประมาณ 3-5 เมล็ด /หลุม เมื่อต้นกล้า งอกมีใบจริง 1-2 ใบ ควรถอนแยก และถอนแยกครั้งสุดท้ายเมื่อมีใบจริง 3-4 ใบ หรืออายุ 25-30 วัน ให้เหลือหลุมละ 1 ต้น

- แบบเพาะ-ย้ายกล้า : เป็นวิธีที่ประหยัดเมล็ดพันธุ์มากที่สุด ได้ผลผลิตคุณภาพดีที่สุด แต่สิ้นเปลืองแรงงานมากจึงไม่ค่อยนิยม

* เตรียมเมล็ด :
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำอุ่น 50 องศา + สังกะสี. (ไบโออิ) + โบรอน (แคลเซียม โบรอน) + ไคโตซาน (ยูเรก้า)” น้ำเย็นแล้วผึ่งลมให้แห้ง นำไปปลูก (หว่าน-เพาะ) ได้ .... สังกะสี. โบรอน. ส่งเสริมการงอกของรากของเมล็ดดี. ไคโตซาน.ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับเมล็ดพันธุ์

* บำรุงแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม :
- ทางใบ : ให้ “ยูเรก้า + นมสด + สมุนไพร” 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน .... นมสด.ช่วยให้โตเร็ว, แคลเซียม โบรอน.ช่วยป้องกันโรคโอกึน และคุณภาพดี น้ำหนักดี เนื้อไม่มีเสี้ยน อายุหลังเก็บนาน

- ทางราก : ให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ทุก 15 วัน .... ไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่ม

@@ ผักสวนครัวแบบ อินทรีย์เกาะขอบ :
- เพราะผู้บริโภคผักสวนครัวปฏิเสธ “ปุ๋ยเคมี” อย่างเด็ดขาด ผู้ปลูกหรือผู้ผลิตจึงต้องไม่ใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเด็ดขาด ตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขาย (เกษตรพันธะสัญญา) ในขณะที่พืชต้องกินสารอาหาร หากพืชไม่ได้รับสารอาหาร หรือได้น้อย หรือได้ไม่ครบทั้ง 14 ตัว พืชผักนั้นย่อมไม่โต หรือมีคุณค่าทางโภชนาการน้อย หรือพัฒนาเป็นเกรด เอ. จัมโบ้. ไม่ได้ นั่นหมายถึงราคาที่หายไป

- สารอาหารพืชประกอบด้วย 14 ตัว (หลัก/รอง/เสริม) กับฮอร์โมนอีก 2-3 ตัว ตามความจำเป็น สารอาหารพืชมีทั้งในอินทรีย์และเคมี เมื่อไม่พึ่งพาสารอาหารเคมีก็ต้องพึ่งพาสารอาหารอินทรีย์แทน

– สารอาหารเคมี ส่วนมากได้มาจากกระบวนการผลิตปิโตเลียม เรียกว่า “ปุ๋ยเคมี”
- สารอาหารอินทรีย์ ได้มากจากกระบวนย่อยสลายเศษซากพืชเศษซากสัตว์โดยจุลินทรีย์ เรียกว่า “ปุ๋ยอินทรีย์ หรือ น้ำหมักชีวภาพ”

- ปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักชีวภาพที่ทำจาก “วัสดุอะไรก็ได้ + กรรมวิธีในการทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ + ไม่มีการปรับโครงสร้างทางโมเลกุลก่อนใช้งาน” แล้วนำไปใช้เลยนั้น ปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักชีวภาพแบบนี้เรียกว่า “อินทรีย์ตกขอบ” .... ไม่มีสารอาหารหรือมีน้อยมากๆ ทั้งชนิดและปริมาณ สิ่งที่ได้มีเพียงจุลินทรีย์ กับสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น (กากน้ำ ตาล) เท่านั้น

- ปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักชีวภาพที่ทำจาก “วัสดุคัดสรรโดยเฉพาะ + กรรมวิธีในการทำถูกต้องตามหลักวิชาการ + ปรับโครงสร้างทางโมเลกุลก่อนใช้งาน” ปุ๋ยอินทรีย์หรือน้ำหมักชีว ภาพแบบนี้เรียกว่า “อินทรีย์เกาะขอบ” .... สารอาหารที่ได้มีมากกว่าทั้ง ชนิด-ปริมาณ-จุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ประจำถิ่น


(.... ว่าด้วยน้ำหมักชีวภาพที่ทำๆกันนั้น ทั้งชนิดและปริมาณของสารอาหารพืช จากน้อยสุดไปหามากสุดตามลำดับ คือ พืชผักผลไม้ (น้อยสุด) -หอยเชอรี่-ปลาน้ำจืด-ปลาทะเล (มากสุด) .... หมักนานข้ามปี ระหว่างการหมักไม่มีหนอน ไม่มีกลิ่นเหม็น สภาพเหลวเป็นน้ำวุ้น .... จากปลาทะเลหมักจนเป็นน้ำวุ้นแล้วเสริมด้วย “เลือด-ไขกระดูก-นม-น้ำมะพร้าว-ขี้ค้างคาว” ที่แต่ละอย่างหมักแยกจนพร้อมใช้งานเช่นกัน ... ก่อนนำไปใช้งานจริง ทำการปรับโครงสร้างโมเลกุลให้เป็นโมเลกุลเดี่ยว .... สรุป : วัสดุส่วนผสมในน้ำหมักชีวภาพ “ปลาทะเล + เลือด-ไขกระดูก-นม-น้ำมะพร้าว-ขี้ค้างคาว” แล้วปรับโครงสร้างโมเลกุลให้เป็นโมเลกุลเดี่ยว ....)


- การปฏิบัติ :
- เตรียมดิน เตรียมแปลง (บ่มดิน) กับบำรุงตั้งแต่เริ่มปลูกถึงเก็บเกี่ยว (ให้ทางใบอาบลงดิน) ด้วย “น้ำหมักชีวภาพอินทรีย์เกาะชอบ” แท้ๆ

- ให้ฮอร์โมนอินทรีย์ เช่น น้ำมะพร้าว, ฮอร์โมนเขียว (น้ำคั้นผักสด), นมน้ำเหลืองสดใหม่, ให้ต่างหากแยกกันกับน้ำหมักชีวภาพ”

- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ แบบกันก่อนแก้ ร่วมกับ ไอพีเอ็ม.

------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©