-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 3 JUL **กำจัดวัชพืชนาข้าวหว่านแห้ง
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 2 JUL ** ปลูกถั่วลันเตา, *ออร์เดอร์ผักอินทรีย์
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 2 JUL ** ปลูกถั่วลันเตา, *ออร์เดอร์ผักอินทรีย์

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 02/07/2014 8:50 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 2 JUL ** ปลูกถั่วลันเตา, *ออร์เดอร์ผักอิ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 2 JUL

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2 )“คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน ..........

-----------------------------------------------------------



จาก : (088) 392-04xx
ข้อความ : อยากปลูกถั่วลันเตา อยากได้ข้อมูล เอาอย่างละเอียดเลยนะคะ .... เกษตรกรมือใหม่ ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
คำถามเดิม คำตอบเดิม คนถามใหม่ .....

จาก : (081) 284-02xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ผมคิดว่าถั่วลันเตาก็เป็นผักกินผลอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ผัดน้ำมันหอยอร่อยมาก อยากให้ลุงคิมแนะนำเรื่องถั่วลันเตาบ้างครับ....ชาวสวนปากน้ำ

ตอบ :
@@ เตรียมดิน เตรียมแปลง :
(.... ดินสำคัญที่สุด ดินต้องมาก่อน ดินดีได้แล้วกว่าครึ่งทั้งๆที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ย ดินไม่ดีเสียแล้วกว่าครึ่ง ทั้งๆ ที่ใส่ปุ๋ยไร่ละเป็นกระสอบๆ .... เอาเงินค่าปุ๋ยเคมีมาซื้อปุ๋ยอินทรีย์ ซื้อสารปรับปรุงบำรุงดิน .... จ่ายน้อยกว่า ผลผลิตดีกว่า อนาคตดินดีกว่า....)

– ไถดะ ไถแปร ไถพรวน ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์. ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, กระดูกป่น, ทำแปลงแบบลูกฟูก, รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง บ่มดินทิ้งไว้ 25-30 วัน เพื่อให้เวลาจุลินทรีตย์ปรับสภาพดินก่อนจึงลงมือปลูก .... ปุ๋ยเคมีใส่เสริมแค่ที่บอก แค่นี้พอแล้ว เอาเงินค่าปุ๋ยเคมีมาซื้อปุ๋ยอินทรีย์ดีกว่า จ่ายน้อยกว่า ได้อนาคตดินดียาวด้วย เพราะในยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า, แคลเซียม โบรอน. มีปุ๋ยเคมีแล้ว .... เขากินแค่นี้

@@ พันธุ์ถั่วลันเตา :
** พันธุ์ “ฟาง-7” .... เป็นพันธุ์ฝักใหญ่ ดอกสีม่วง คุณสมบัติดี คือ
1. เจริญเติบโตเร็ว ออกดอกเมื่ออายุประมาณ 45-55 วัน (ถ้าอากาศหนาวจัดจะออกดอกช้ากว่าปกติ)
2. ฝักหนา หวานกรอบ และไม่มีใย
3. ขนาดฝักกว้าง 1 ซม. ยาว 2.5 ซม.
4. ฝักดก ผลผลิตสูง
5. ต้านทานต่อโรคราสนิม

** พันธุ์ “เอ็มเจ 12” .... เป็นพันธุ์ฝักเล็ก ดอกขาวมีคุณสมบัติที่ดี คือ
1. ให้ผลผลิตเร็ว ออกดอกเมื่ออายุ 30-40 วัน (ถ้าอากาศหนาวจัดจะออกดอกช้ากว่าปกติ
2. ต้นสูงประมาณ 1.2 ม.
3. มีกิ่งแขนงมากประมาณต้นละ 9 กิ่ง
4. ฝักสีเขียวจาง หวานกรอบ ไม่มีเส้นใย
5. ฝักมีขนาดโดยเฉลี่ยยาว 5.7 ซม. กว้าง 1.2 ซม. แต่ละฝักมีเมล็ด 2-3 เมล็ด
6. ออกฝักคู่ หรือมีฝักซ้อนละ 2 ฝัก มีฝักดกต้นหนึ่งจะมีฝักโดยเฉลี่ยประมาณ 98 ฝัก
7. ทนทานต่อโรคราสนิม โรคราแป้ง โรคราโคนเน่าเหลือง
8. ปลูกได้ทั่วประเทศ

** พันธุ์ “เอมเจ. 55” .... ฝักเล็ก ดอกขาว มีคุณสมบัติที่ดี คือ
1. ให้ผลผลิตเร็ว ออกดอกหลังจากการปลูกประมาณ 35-50 ซม. (ถ้าอากาศเย็นจัดจะออกดอกช้ากว่าปกติ)
2. ต้นสูงเฉลี่ย 1.9 ม. มีแขนงโดยเฉลี่ยต้นละ 7 กิ่ง
3. ฝักมีสีเขียว หวานกรอบ ไม่มีเส้นใย
4. ขนาดของฝักโดยเฉลี่ยยาว 7 ซม. กว้าง 1.3 ซม. แต่ละฝักมีเมล็ด 4-7 เมล็ด เมล็ดมีขนาดใหญ่
5. ออกฝักเดี่ยว 1 ช่อมี 1 ฝัก แต่มีฝักดกต้นละประมาณ 60-70 ฝัก
6. ทนทานต่อโรคราสนิม ราแป้ง และโคนเน่าเหลือง
7. ปลูกได้ทั่วประเทศ

@@ ฤดูปลูก :
ถั่วลันเตาเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น จึงนิยมปลูกกันในช่วงปลายฤดูฝน หรือต้นฤดูหนาว สำหรับบางท้องที่ ซึ่งมีอากาศเย็นตลอดปีควรปลูกนอกฤดู เพราะขายง่ายและได้ราคาดีกว่าปลูกในฤดู

@@ เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำ 1 ล. + ไบโออิ 2 ซีซี. + ยูเรก้า 2 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 2 ซีซี.” นาน 1 คืน แล้วนำขึ้นห่มชื้น 2 คืน เมล็ดเริ่มโชว์ตุ่มรากขึ้นมาให้เห็น นำไปหยอดในหลุม ๆละ 2 เมล็ด

- เนื้อที่ 1 ไร่ ถ้าเมล็ดงอกดี ใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 5-6 ลิตร

@@ บำรุง :
** ระยะต้นเล็ก : ให้ “น้ำ 20 ล. + ไบอิอิ 20 ซีซี. + ยูเรีย จี 1 ช้อนโต๊ะ + สารสมุนไพร 50 ซีซี.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ หางกันรอบละ 5 วัน ฉีดพ่นให้เปียกโชกทั้งไต้ใบบนลงถึงพื้น

** ระยะต้นโตให้ผลผลิตแล้ว :
- พืชประเภทออกดอกติดผลตลอดปี ไม่มีรุ่น ให้สูตรสหประชาชาติ “น้ำ 20 ล. + ไบโออิ (บำรุงต้นไม่ให้โทรม) 5 ซีซี. + ไทเป (สะสมตาดอก เปิดตาดอก) 5 ซีซี. + ยูเรก้า 412 (ขยายขนาดผล 5 ซีซี.) + สารสมุนไพร (ป้องกัน/กำจัดโรค) 50 ซีซี.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน (สร้างคุณภาพ) 1 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน

- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (1 ล.) +8-24-24 (1-2 กก.)/ไร่ ฉีดโคนต้น ทุก 15-20 วัน

@@ การทำค้าง (สไตล์ไร่กล้อมแกล้ม) :
- เมื่อต้นเริ่มเลื้อยมีมือเกาะ หรืออายุประมาณ 15 วัน ใช้ลวดทำราวผากผ้าเหนือแนวแถวปลูก สูงจากพื้นราว 1.5 ม. ใช้เชือกปอพลาสติกปลายข้างหนึ่งผูกที่ลวด ปลายอีกข้างหนึ่งผูกกับไม้หลักเล็กๆ แล้วใช้ไม้หลักนี้ปักที่โคนต้นถั่วลันเตา ตอนแรกๆ ช่วยจัดเถาให้เถาเกาะเชือกปอพลาสติกก่อน ต่อไปเมือจับเขาจะจับเชือกปอแล้วเลื้อยขึ้นสูงเอง กระทั่งไปถึงราวลวด ต้นถั่วลันเตาก็จะเป็นค้างเอาโดยอัตโนมัติ

@@ การเก็บฝักสด
- เก็บขณะที่ฝักมีสีเขียวสด และยังแน่นกรอบ ขนาดโตเต็มที่ด้วย ส่งตลาดทันที การเก็บแล้วปล่อยทิ้งไว้นานฝักจะพอง และน้ำหนักเริ่มลดลง

- ทั่วไปถ้าปลูกถั่วลันเตา 1 ไร่ จะเก็บฝักสดได้ประมาณ 500-900 กก.

@@ การเก็บเมล็ดพันธุ์ :
- การปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ เพื่อให้ได้พันธุ์ที่ดีนั้นค่อนข้างยุ่งยาก คือ เมล็ดที่จะใช้ปลูกจะต้องเป็นพันธุ์ดีจริงๆ ดังนั้น การปลูกเพื่อเก็บเมล็ดไว้ทำพันธุ์ จะต้องปลูกให้ห่างจากบริเวณที่มีการปลูกถั่วลันเตาพันธุ์อื่นมากๆ เพื่อป้องกันมิให้แมลงนำเกสรที่อื่นมาผสม แล้วต้องคอยตรวจทุกต้นว่า มีต้นใดที่มีลักษณะไม่ดีปะปนอยู่บ้างหรือไม่ หากพบก็ต้องถอนทิ้งก่อนที่ต้นนั้นๆ จะออกดอก

@@ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ :
1. ตรวจแปลงโดยละเอียด เมื่อเห็นต้นใดมีลักษณะดี คือ ให้ฝักใหญ่และดก รสดี แข็งแรง และไม่เป็นโรค ไม่มีแมลงรบกวน ให้ทำเครื่องหมายกำกับต้นนั้นไว้ แล้วปล่อยให้ฝักแก่จนเหลืองและเหี่ยวคาต้น

2. ตัดฝักออกมารวมกัน แล้วคัดฝักขนาดใหญ่ ไม่เป็นโรค แยกออกไปตากแดดให้แห้งสนิท และกะเทาะเอาเมล็ดออก เก็บไว้ทำพันธุ์ ส่วนฝักที่มีขนาดเล็กให้คดออก

3. นำเมล็ดที่กะเทาะจากฝักใหญ่แล้วมาคัดเมล็ดลีบ มีรอยแมลงกัด มีราออกทิ้งเสีย แล้วนำเมล็ดดีไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท แล้วเก็บใส่ภาชนะตั้งไว้ในที่มีอากาศแห้งและเย็นที่สุดในบ้าน เพื่อจะได้เอาไว้ทำพันธุ์ต่อไป

-------------------------------------------------------------


จาก : (080) 294-28xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ห้างจัสโก้มาติดต่อผม ให้ทำผักปลอดสารพิษ ปลอดปุ๋ยเคมี เป็นผักอินทรีย์แท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ให้ราคาสูงกว่าตลาด 25-50 เปอรเซ็นต์ รับไม่จำกัด อยากรู้ว่า น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงไม่ผสมปุ๋ยเคมี จะใช้ได้ไหม สารอาหารเพียงพอสำหรับผักสวนครัวไหม น้ำหมักชีวภาพของผม ทำมาจากผักผลไม้ สารอาหารคงไม่พอ ขอคำตอบด่วนด้วยครับ .... สวนผัก อยุธยา
ตอบ :
- การซื้อขายแบบนี้คือการซื้อขายแบบ “พันธะสัญญา” ที่เกษตรกรผู้ขายทำความตกลงเรื่องของสินค้ากับผู้รับซื้อ ในสัญญานั้นทำความตกลงกันเกี่ยวกับ วันเวลา. ชนิด. ปริมาณ. เกรด. คุณภาพ. ราคา. บรรจุภัณฑ์, การขนส่ง, และอื่นๆที่จำเป็น ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาก็จะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย ... การค้าขายที่ซื่อสัตว์ (เน้นย้ำ....ซื่อสัตว์) ต่อกันเช่นนี้ ย่อมส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เพราะทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างแน่นอน มีอนาคต

- ที่จริงยังมีอีกหลายห้าง หลายตลาด ที่ต้องการผักปลอดสารพิษ หรือพืชอื่นที่ปลอดสารพิษ หรือจะบอกว่าทุกพืชนั่นแหละ เพราะเดี๋ยวนี้คนกิน ทั้งคนมีคนจน รู้ถึงพิษภัยของสารเคมียาฆ่าแมลงดี ....

- การเจรจาทำข้อตกลงกันนี้ต้องมีสัญญาที่แน่ชัด เป็นสัญญาที่มีผลทางกฎหมายด้วย เรื่องนี้ต้องให้คนที่ความรู้ด้านกฎหมายดำเนินการ นั่นคือ ลูกหลานของเกษตรกรที่เรียนกฎหมายนิติศาสตร์มาโดยตรง แม้ไม่ได้เรียนมาโดยตรงแต่ก็มีเพื่อนที่เรียนมาช่วยดูแลให้ได้

- คนรับซื้อบางคนมีบริษัทขายผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรอยู่เบื้องหลัง เกษตรกรที่เป็นสมาชิกต้องซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ในราคาแพงแสนแพง บริษัทรับซื้อผลผลิตได้กำไรจากผลิตภัณฑ์นี้แล้วจึงรับซื้อผลผลิตที่ราคาแพงๆได้ ลงท้าย เกษตรกรที่เข้าเป็นสมาชิกไม่ได้อะไรเลย ก็มี .... นี่คือ เพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่หลายๆคนโดนมาแล้ว

- คนขายคือเกษตรกรไม่รักษาสัตย์ แอบฉีดสารเคมี จะด้วยเหตุผลใดก็สุดแท้ เมื่อคนรับซื้อนำไปตรวจพบสารเคมีปนเปื้อนก็ต้องทิ้ง ทิ้งในประเทศว่าเสียหายแล้ว ส่งต่างประเทศทิ้งในต่างประเทศเสียหายหนักยิ่งกว่า คนรับซื้อหลายรายเข็ดขยาดไปตามๆกัน

- บางช่วงผักในตลาดในประเทศราคาถูก คนรับซื้อยังรับซื้อในราคาประกันตามสัญญาทั้งๆที่แพงกว่าราคาในตลาด อันนี้คนรับซื้อยอมขาดทุนแต่คนขายได้กำไร .... ถึงบางช่วงผักในตลาดราคาแพง แพงกว่าราคาตามสัญญา คนขายแอบเอาไปขายในตลาดเหลือให้ผู้ซื้อบ้างตามสัญญา อันนี้คนขายได้กำไรแต่คนซื้อขาดทุนหรือเสียผลประโยชน์ .... นี่คือ เกษตรกรคนขายไม่มีคุณธรรมในการค้าขาย เอาแต่ได้ถ่ายเดียว คราวที่ผักราคาถูก คนขายได้ คนรับซื้อยอมขาดทุน เพื่อรักษาสัญญา ครั้นคราวผักราคาแพง แทนที่คนขายจะยอมรับในราคารเดิม (ไม่ขาดทุน) แล้วเปิดโอกาสให้คนรับซื้อได้กำไรเพื่อไปชดเชยคราวที่ขาดทุนบ้าง ทำนอง "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า" ก็จะอยู่ได้ทั้งสองฝ่าย รวยด้วยกันทั้งคู่ .... ในทางกลับกัน ถ้าผู้รับซื้อขาดทุนก็ยกเลิกสัญญา เลิกค้าขาย ไปประกอบอาชีพอื่น ไม่เดือดร้อน แต่เกษตรกรคนขาย เดือดร้อนยิ่งกว่า เพราะไม่มีอาชีพอื่นรองรับ หรือผู้รับซื้อไม่ดูแลส่งเสริมเกษตรกรคนขาย จนไม่สามารถส่งสินค้าได้ ผู้รับซื้อก็เดือดร้อนเช่นกัน

- แนวทางปฏิบัติ ณ วันนี้ ยืนยันไปว่าจะไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ใช้แต่ปุ๋ยอินทรีย์, จะไม่ใช้ฮอร์โมนวิทยาศาสตร์แต่ใช้ฮอร์โมนธรรมชาติ, จะไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลงแต่ใช้สารสมุนไพร และ ไอพีเอ็ม. แจงรายละเอียดถึงวิธีการที่เราจะทำให้เขารับทราบ เมื่อเงื่อนไขทุกอย่างในการผลิต O.K. แล้ว รับออร์เดอร์ได้เลย ....

– กรณีสารอาหารสำหรับพืช ในขณะที่พืชต้องกินสารอาหาร เมื่อจะไม่ใช้สารอาหารเคมี (ปุ๋ยเคมี) ก็ต้องให้สารอาหารอินทรีย์ (ปุ๋ยอินทรีย์) แทน ทั้งชนิดและปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของพืช ไม่เช่นนั้นพืชหรือผักจะไม่เจริญเติบโต .... ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งชนิดน้ำและชนิดแห้ง มีสารอาหารน้อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ต้องทำขึ้นเป็นกรณีพิเศษโดยเฉพาะ ให้มีสารอาหารมากๆ ทั้งชนิดปริมาณ เทียบเท่าหรือเกือบเท่าปุ๋ยเคมีให้ได้ .... สังเกตุจากการทำผักแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ใช้ปุ๋ยเคมีเพียง 2-3 กก. /ไร่ /เดือน ผักยังโตระดับเกรด เอ. ได้ บางครั้งโตกว่าผักเคมีบ้าเลือด ไร่ละ 1 กส. ด้วยซ้ำ แสดงว่าพืชอย่างผักสวนครัวไม่ได้ต้องการสารอาหารมากมายขนาดนั้น หรือได้สารอาหารแค่ในน้ำหมักสูตรพิเศษเฉพาะก็พอ

@@ เกษตรนุสติ :
- ภาคอุตสาหกรรม : ค้นหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุนในการเพิ่มผลผลิต ทั้งคุณภาพ ปริมาณ แรงงาน เวลา และอื่นๆ กับทั้งพยายามวิเคราะห์ตลาด เพื่อให้สินค้าสอดคล้องกับตลาดอยู่ตลอดเวลา

- ภาคเกษตรกรรม : ปฏิเสธ/ไม่ยอมรับ เทคโนโลยีใดๆทั้งสิ้น เคยยังไงก็ยังงั้น ขาดทุนก็ทำ ตลาดไม่ต้องการก็ทำ จมปลักอยู่แต่กับปัญหาเดิมๆ อ้างว่า ยุ่งยาก เสียเวลา ไม่มีใครทำ ไม่มีใครส่งเสริม บางคนก็ว่า ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองทำด้วยซ้ำ แถม ขี้เกียจ ขี้โกง ขี้โม้ ขี้ขอ อีกต่างหาก



@@ เตรียมดิน เตรียมแปลง :
- ไถดะ ขี้ไถใหญ่ๆ ตากแดด 15-20 แดดจัด .... ไถแปร ทำแปลงลูกฟูก ใส่ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (ปรุงพิเศษเฉพาะ อินทรีย์เพียวๆ ไม่มีส่วนผสมปุ๋ยเคมี) รดทั่วสันแปลงลูกฟูก พรวนดินให้คลุก เคล้าเข้ากันดี คลุมสันแปลงด้วยหญ้าแห้งฟางแห้งหนาๆ บ่มดิน 15-20 วัน

@@ เตรียมสารอาหารอินทรีย์ :
- “ระเบิดเถิดเทิงอินทรีย์” คือ สารอาหารพืชที่ได้มาจากสัตว์ทะเล (กุ้ง/หอย/ปู/หมึก/ปลา/ลิ้นทะเล), เลือด, ไขกระดูก, นม. น้ำมะพร้าว, ขี้ค้างคาว หมักนานข้าม 1-2-3 ปี แล้วปรับโครงสร้างโมเลกุลจากโปรตีนปกติผ่านปากใบไม่ได้นั้น ให้เป็น โปรตีน โมเลกุลเดี่ยว เรียกว่า อะมิโน โปรตีน ที่สามารถผ่านปากใบพืชและผ่านรากเข้าสู่ต้นได้และเร็ว .... ทำแล้วตั้งชื่อเพื่อสื่อสารกันว่า “ฟาจีก้า” ซึ่งเนื้อในประยุกต์มาจากสูตรของอียิปต์ ยุคฟาร์โรห์, สูตรของจีน ยุคจิ๋นซี ฮ่องเต้, สูตรของอเมริกาที่ใช้มากว่า 50 ปี

– ใช้ฮอร์โมนอินทรีย์หรือฮอร์โมนธรรมชาติ เรียกว่า “ฮอร์โมนเขียว” ได้แก่ น้ำคั้นไชเท้า น้ำคั้นเมล็ดเริ่มงอก น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำมะพร้าวแก่ น้ำอ้อยสด น้ำตาลงวงตาล/งวงมะพร้าว น้ำล้างเขียงปลา เลือดสัตว์ น้ำนึ่งปลา น้ำต้มไขกระดูก นมสด ขี้เพลี้ยวัว .... อัตราการใช้ฮอร์โมนเขียวไม่จำกัด ใส่มากได้ถ้าไม่กลัวเปลือง อัตราใช้ที่ดีที่สุด คือ ให้ครั้งละน้อยๆ แต่ให้บ่อยครั้ง...

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงเดิมที่โปรตีนมีโมเลกุลใหญ่ ผ่านปากใบไม่ได้นั้น เมื่อปรับโมเลกุลให้เล็กลงระดับ “อะมิโน โปรตีน” จนผ่านปากใบได้ แม้ขั้นตอนในการทำจะมีกากน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก (ส่วนผสม 200 ล. : กากน้ำตาล 5 ล.) ซึ่งโมเลกุลของกากน้ำตาลก็มีขนาดเล็กลงด้วย นอกจากสามารถใช้ในอัตราเข้มข้นกว่าปกติได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อใบพืชแล้ว ยังผ่านปากใบพืชได้อีก

@@ เตรียมเมล็ดพันธุ์
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำ 50 องศา (น้ำเดือด + น้ำในโอ่ง 1:1) 1 ล. + ระเบิดเถิดเทิงอินทรีย์ ฟาจีก้า 5 ซีซี.” นาน 6 ชม. .... นำขึ้นห่มชื้น 12-24 ชม. นำไปปลูก
– คัดเลือกเมล็ดไม่สมบูรณ์ออก เลือกไว้เฉพาะเมล็ดสมบูรณ์
- เมล็ดได้กินสารอาหารตั้งแต่ก่อนเกิด

@@ บำรุง :
- ให้ “น้ำ 20 ล. + ระเบิดเถิดเทิงอินทรีย์ ฟาจีก้า 20 ซีซี. + สารสมุนไพร 50 ซีซี.” 2 รอบ ให้ฮอร์โมนเขียว 1 รอบ ห่างกันรอบละ 3-5 วัน .

หมายเหตุ :
- ให้สารอาหารโชกๆ ผ่านใบลงราก ทุก 3 วัน
- ให้สารสกัดสมุนไพร + ฮอร์โมนเขียว หรือสมุนไพรเดี่ยวๆ ทุกวัน หรือวันเว้นวัน
- การติด "สปริงเกอร์ + หม้อปุ๋ยหน้าโซน" จะช่วยให้การทำงานเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแน่นอนยิ่งขึ้น

- ทุกครั้งที่ให้น้ำเปล่า ถือโอกาส +สารสมุนไพรไปด้วย เพื่อประหยัดเวลา และเพื่อกันก่อนแก้
– ใช้การป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบ ไอพีเอ็ม เช่น กับดักกาวเหนียว ล่อแมลงกลางวัน, กับดักกาวเหนียว + หลอดไฟ ล่อแมลงกลางคืน

- สลับแปลงปลูกชนิดพืช เพื่อตัดวงจรชื้อโรคในดิน
- ปลูกพืชกลิ่นไล่แซมแทรก เช่น ดาวเรือง ตะไคร้แกง ตะไคร้หอม ชะอม ข่า กระเพา โหระพา แมงลัก

- ในโลกแห่งความเป็นจริง ผักอินทรีย์ ราคาแพงกว่าผักเคมีหลายเท่าตัว เพราะลูกค้ามีเงินต้องการซื้อ แถมต้นทุนก็ต่ำกว่าผักเคมีด้วย .... การที่ผักอินทรีย์ต้นไม่โต เพราะสารอาหารในปุ๋ยอินทรีย์ (น้ำ-แห้ง) ไม่มีหรือมีน้อย เหตุที่มีสารอาหารน้อยก็เพราะ ไม่พิถีพิถันละเอียดรอบครอบในการทำ หรือทำแบบมั่วซั่วนั่นเอง .... แม้แต่ที่ว่าผักอินทรีย์ต้นทุนสูงต้นทุนสูง ก็อยากจะถามย้อนว่า ต้นทุนค่าอะไร เปรียบเทียบระหว่าง น้ำหมักชีวภาพที่ทำๆกันทั่วประเทศ กับน้ำหมักชีวภาพฟาจีก้า อย่างไหนมีสารอาหารมากกว่ากัน ต้นทุนระดับฟาจีก้าแพงลิบลิ่วหูฉี่เลยเหรอ

----------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©