MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบปัญหาเกษตร 8 JUN **บำรุงมะละกอ, *รากล้วย, *กำจัดหอยเชอรี่, *ลำไยเพาะเมล็ด 7 ปี, *บำรุงมะรุม, *พริกดอกร่วง, *มะ ม่วงใบไหม้, *มะพร้าวน้ำหอม, *ลูกโทงเทง, *พริกไม่สมบูรณ์, *อยากปลูกมังคุด, *บำรุงมะเขือยาว/ถั่วฝักยาว
ถาม-ตอบปัญหาเกษตร 8 JUN **บำรุงมะละกอ, *รากล้วย, *กำจัดหอยเชอรี่, *ลำไยเพาะเมล็ด 7 ปี, *บำรุงมะรุม, *พริกดอกร่วง, *มะ ม่วงใบไหม้, *มะพร้าวน้ำหอม, *ลูกโทงเทง, *พริกไม่สมบูรณ์, *อยากปลูกมังคุด, *บำรุงมะเขือยาว/ถั่วฝักยาว
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป
ผู้ส่ง
ข้อความ
kimzagass หาวด้า เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
ตอบ: 08/06/2014 9:13 pm ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบปัญหาเกษตร 8 JUN **บำรุงมะละกอ, *รากล้วย, *กำจัดหอยเช
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 8 JUN
AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)
********************************************************************
สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986
----------------------------------------------------------------------------------------------
ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ เคมี)
1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2 )คุณชาตรี (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)
3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) คุณล่า (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี
5) คุณประเสริฐ (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) คุณอรุณ (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.
7) คุณพรพรรณ (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) คุณน้ำส้ม (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : อยากให้มะละกอ คุณภาพดี .... ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตัวไหน ?
ตอบ :
- ปุ๋ยอินทรีย์ หมายถึง สารอาหารพืชที่กำเนิดมาจากสิ่งมีชีวิต คือ มนุษย์ สัตว์ พืช .... มี 2 ชนิด คือ ชนิดแห้ง และชนิดน้ำ .... มี 2 ประเภท คือ ประเภทให้ทางใบ และประเภทให้ทางราก .... มี 2 แบบ คือ แบบอินทรีย์นำ เคมีเสริม และแบบเคมีนำ อินทรีย์เสริม
- สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ จุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์
- ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดแห้งควรมีส่วนผสม (แน้นย้ำ...ควรมี หมายถึง มีดีกว่าไม่มี) หลัก ได้แก่ ยิบซั่ม, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่, แกลบดิบ, ขุยมะพร้าว, รำละเอียด, กากน้ำตาล, จุลินทรีย์. สำหรับให้ทางดิน
ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำควรมีส่วนผสม (เน้นย้ำ....ควรมี หมายถึง มีดีกว่าไม่มี) ได้แก่ กุ้งหอยปูปลาทะเล, ไขกระดูก, เลือด, นม. ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, กากน้ำตาล, จุลินทรีย์กลุ่มย่อยสลายโปรตีน สำหรับให้ทางใบและทางดิน
*** ส่วนผสมในปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำที่มีสารอาหาร จากน้อยไปหามาก ได้แก่ ผักผลไม้, หอยเชอรี่, ปลาน้ำจืด, ปลาทะเลเดี่ยวๆ, ปลากุ้งหอยปูทะเล
*** สารอาหารในวัสดุส่วนผสม ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ทั้งชนิดน้ำชนิดแห้ง จะออกมาจนพืชสามารถนำไปใช้ได้ ขึ้นอยู่กับจุลินทรีย์เป็นหลัก
- มะละกอ คือ พืช .... พืช คือ พืช ต้องการสารอาหาร 14 ตัว (ธาตหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม) ในอัตราส่วนแต่ละตัวของทั้ง 14 ตัวที่ต่างกัน เรียกว่า สูตร ตามความเหหมาะสมของพืชชนิดนั้นๆ .... นอกจากธาตุอาหาร 14 ตัวแล้ว ยังมี ฮอร์โมน เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย .... อะไรบ้างก็ว่ากันไป
ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำที่ทั่วๆไปเรียกง่ายๆว่า น้ำหมักชีวภาพ ที่ให้ทางใบแก่พืชนั้น พืชรับไม่ได้เพราะโมเลกุลยังมีขนาดใหญ่จึงผ่านปากใบไม่ได้ ทางแก้ไข คือ ต้องปรับโครงสร้างโมเลกุลให้มีขนาดเล็กลงเป็น อะมิโน โปรตีน ก่อนจึงจะผ่านปากใบได้ และเมื่อให้ทางดินรากก็ยังดูดซับไปใช้งานได้อีกด้วย
- กรณีของมะละกอ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรไหนก็ได้ที่มีสารอาหาร ทั้งสารอาหารอินทรีย์ และสารอาหารสังเคราะห์ .... ให้ทางราก 4-6 เดือน / ครั้ง อัตราให้ 1 : 500.... ทางใบทุก 15-20 วัน อัตราให้ 1 : 1,000
---------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : กล้วยน้ำว้า เครือใหญ่มาก ที่ผลกล้วยมีโรค .... แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- โรคชื่ออะไร กลุ่มไหน เพราะโรคหมายถึง รา แบคทีเรีย ไวรัส
- เมื่อคนถามไม่รู้ ฟันธงไม่ได้ คนตอบจึงต้องตอบแบบครอบจักรวาล โดยจับหลักศัตรูพืชของมะละกอที่มักเกิดอยู่เสมอ .... นั่นคือ
* รา .... ใช้สารสกัดสมุนไพร เผ็ดจัดเผ็ดจี๋เผ็ดจี๊ด (พริก) + ร้อนจัด (ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย กระเทียม หอม พริกไทย ชะพู สาบเสือ เปลือกมังคุด ฯลฯ) ฉีดพ่นทั้วต้น ให้โชกทั้งไต้ใบบนใบ บ่อยๆ .... การเลือกสมุนไพรสมุนไพรหลายๆ อย่างเพราะโรคมีหลากหลายชนิด (จะรู้ชนิดของเชื้อโรคได้ต้องตรวจด้วยกล้องจุลทัศน์) จึงต้องหวังผลแบบ เผื่อเลือก กะว่า สมุนไพรตัวใดตัวนึ่งในจำนวนนี้มีสารออกฤทธิ์ตรงกับโรคชนิดนั้นก็กำจัดเชื้อโรคตัวนั้นได้ ส่วนสมุนไพรอย่างอื่นแม้ไม่ตรงกับชนิดโรคพืชก็จะช่วยป้องกันเชื้อโรคตัวอื่นที่ยังไม่เกิดได้
* เพลี้ยแป้ง .... ใช้สมุนไพรชนิดเดียวกันกับกำจัดเชื้อรา เพียงแต่เมื่อผสมน้ำแล้ว ให้ใส่ น้ำยาล้างจาน เข้าไปด้วย น้ำยาล้างจานจะซึมทะลุแป้งที่ห่อหุ้มตัวเพลี้ยแป้ง เข้าไปกำจัดตัวเพลี้ยในแป้งได้นั่นเอง .... ทั้งนี้ น้ำเปล่าไม่สามารถซึมทะลุผ่านแป้งได้
-------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ขอวิธีกำจัดหอยหอยเชอร์รี่ในนาข้าว ..... ?
ตอบ :
* กับดัก :
- ช่วงสูบน้ำเข้านาใช้ตาข่ายไนล่อนตาถี่ๆ กรองไข่หอยที่ติดมากับน้ำไม่ให้เข้าไปในแปลง
- ทำแอ่งน้ำด้านลาดต่ำของแปลงใส่ ใบตำลึงสด ใบสำปะหลังสด ใบกระทกรกสดอย่างใดอย่างหนึ่งโดย มีกระด้งรองด้านล่าง จากนั้นค่อยๆ ปล่อยน้ำออกจากแปลง ซึ่งน้ำจะไหลไปทางลาดต่ำเสมอ เมื่อน้ำเริ่มไหลออก หอยเชอรี่คิดว่าน้ำในแปลงจะแห้งในเร็วๆ นี้ ก็จะตามน้ำไป จนกระทั่งไปพบแอ่งซึ่งมีระดับน้ำลึกกว่าปกติ แถมมีอาหารของชอบให้กินด้วยก็จะเข้าในแอ่งน้ำนั้น จากนั้นก็ให้จับตัวหอยเชอรี่ไปทำลาย
* สมุนไพร :
- ใช้ผลมะกรูดสดแก่จัด ใส่ถุงตาข่ายไนล่อน เขย่าให้ผิวช้ำจนมีน้ำมันออกมา แล้วผ่าผลมะกรูดเป็น 2 หรือ 4 ชิ้น นำชิ้นผลมะกรูดที่ผ่าแล้วหว่านในแปลงนา มีน้ำลึก 10-20 ซม. ห่างกัน ตร.ว.ละชิ้น น้ำมันผิวมะกรูดจะออกมาลอยอยู่บนผิวน้ำ บางส่วนจะลอยไปตามลม เมื่อหอยเชอรี่สัมผัสกับน้ำมันผิวมะกรูดก็จะหนีไปเอง
- ใช้ ปุ๋ยน้ำชีวภาพ + สารสกัดกลอย ซาก บอระเพ็ด 3-5 ล. /ไร่ ใส่ในแปลงช่วงทำเทือก .... หอยเชอรี่ได้กลิ่นน้ำหมักจะหนีไปเอง หรือสัมผัสกับสารออกฤทธิ์ในกอลย ซาก บอระเพ็ดก็จะตายไปเอง
* งดน้ำ :
เนื่องจากหอยเชอรี่เป็นสัตว์น้ำย่อมต้องอาศัยอยู่ในน้ำเสมอ ดังนั้นมาตรการปล่อยน้ำออกจากแปลง แล้วปล่อยตากแดด 5-10 วัน ก็สามารถทำให้หอยเชอรี่อยู่ไม่ได้หรือตายไปในที่สุด แปลงนาที่ผ่านการเตรียมดิน (ทำเทือก) แบบไถกลบฟาง + อินทรีย์วัตถุ แม้จะไม่มีน้ำในแปลงนาน 5-10 วัน ต้นข้าวจะไม่ชะงักการเจริญเติบโตเนื่องจากขาดน้ำ ทั้งนี้เพราะฟางกับอินทรีย์วัตถุได้ช่วยซับหรืออุ้มน้ำใต้ผิวดินไว้ให้แล้วนั่นเอง
หมายเหตุ :
เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ปล่อยให้นกปากห่างเข้าหากินในนา ช่วยกำจัดไข่หอยเชอรี่แล้ว ยังช่วยกำจัดตัวหอยเชอรี่โดยตรงอีกด้วย
ธรรมชาติของหอยเชอรี่ต้องอยู่ที่ผิวดินเสมอ และขุดดินฝังตัวเองไม่เป็น แต่ปัจจุบันหอยเชอรี่ได้ ผสมพันธุ์กับหอยโข่ง ทำให้เกิดเป็นหอยเชอรี่สายพันธุ์ใหม่ สามารถขุดดินฝังตัวเองลงใต้ผิวดินยามที่ไม่มีน้ำได้เช่นเดียวกับหอยโข่ง ทำให้มาตรการกำจัดยุ่งยากขึ้นไปอีก
ในอดีตหอยขมซึ่งชอบเกาะกิ่งไม้ใต้น้ำ และไม่เคยกัดกินต้นข้าว แต่วันนี้หอยขมกัดกินต้นข้าวเหมือนหอยเชอรี่แล้ว
เลิกวิธีเลี้ยงต้นข้าวแบบขังน้ำ น้ำยิ่งลึกต้นข้าวยิ่งสูง เพราะเขาต้องสูงแข่งกับน้ำ ต้นข้าวสูงๆ หรือยาวๆ รวงจะสั้น .... ระดับน้ำมากๆ ไม่ใช่มีแต่หอยเชอรี่อย่างเดียว ไม่นานก็จะมีเพลี้ยกระโดดตามมาสมทบอีก
ไม่ควรใช้ "ยูเรีย" เด็ดขาด เพราจะทำให้ต้นข้าวอวบ ข้าวต้นอวบไม่มีรวงมีแต่ใบ ความอวบของต้นข้าวจะเป็นตัวเรียกทั้งหอยเชอรี่ ทั้งเพลี้ย
กระโดด กับอีกสารพัดแมลงให้เข้ามากินต้นข้าว
นึกดีๆ หอยเชอรี่ก็เป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตย่อมต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเอง ถ้าสภาพแวดล้อมไม่ดีไม่เหมาะสม เขาก็อยู่ไม่ได้.... การใช้สารเคมี ถึงจะฆ่าหอยเชอรี่ได้ แต่ดินเสีย น้ำเสีย แล้วจะได้อะไรจากนาข้าว .... คิดให้รอบคอบ "เผาบ้านฆ่าหนู" ตุ้มกันหรือไม่
หอยเชอรี่จตายในนา เมื่อคนเดินลงไปเหยียบเปลือกหอยเชอรี่บาดแผล นอกจากแผลฉกรรจ์แล้วยังมีเชื้อโรคอีกสารพัดชนิดเข้าแผลอีกด้วย
-----------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ลำไยเพาะเมล็ด 6-7 ปี ไม่ออกดอก ตอนมาปลูกจะออกออกเร็วใหม ?
ตอบ :
- ธรรมชาติของลำไยที่เกิดจากเพาะเมล็ด ปกติจะออกดอกติดผลช้าอยู่แล้ว ถ้าในต้นมีใบมาก (บ้าใบ) เพราะการปฏิบัติบำรุงไม่เหมาะสมก็ยิ่งทำให้ออกดอกติดผลช้าไปอีก การแก้ปัญหาออกดอกติดผลช้าโดยการ ตอนกิ่ง แม้จะช่วยให้ออกดอกเร็วขึ้นได้แล้ว แต่ก็ต้องปฏิบัติบำรุงอย่างถูกต้องด้วย
- ลำไยเพาะเมล็ดเมื่อโตขึ้น ออกดอกติดผลได้ก็กลายพันธุ์ แม้แต่การตอนกิ่งปลูกใหม่ก็ยังกลายพันธุ์อยุ่ดี .... แนวทางแก้ไขให้ออกดอกติดผลเร็วและไม่กลายพันธุ์ คือ ตัดต้นเหลือแต่ตอ เรียกยอดใหม่ แล้วเปลี่ยนยอดเป็นพันธุ์ดีตามต้องการ ยอดพันธุ์ดีที่มาเปลี่ยนให้ใหม่ ใช้ระยะเวลาเลี้ยงดูราว 1-2 ปีก็ออกดอกติดผลจะไม่กลายพันธ์ และเป็นพันธุ์ดีตามพันธุ์ของยอดที่นขำมาเปลี่ยน .... หรือ ตอนลงมาแล้วเปลี่ยนยอดเป็นพันธุ์ดีก็ได้
- ตัดตอเรียกยอดแล้ว เปลี่ยนเป็นพันธุ์ดีหลายๆ พันธุ์ในต้นเดียวกัน ก็จะได้ต้นลำไยแฟนซี
------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : อยากมะรุมขาย ..... มีขั้นตอนบำรุงอย่างไร ?
ตอบ :
- ปลูกกินตามใจคนในบ้าน ปลูกขายตามใจคนรับซื้อ .... เกรด เอ. จัมโบ้. โกอินเตอร์. ขึ้นห้าง. ออกนอกฤดู. คนนิยม. เท่าไหร่ก็ไม่พอขาย
- มะรุมพันธุ์เกษตร ฝักสั้น (ครึ่งศอกแขน) อ้วน (2 นิ้วมือ) เนื้อหนา เมล็ดน้อย รสชาติดี.... มะรุมพันธุ์พื้นเมือง ฝักยาว (1 เขน) ผอม (ขนาดนิ้วมือ) เนื้อน้อย เมล็ดมาก รสชาดไม่ค่อยดี
มะรุมออกฝักได้ตลอดปี ไม่มีฤดูกาล การบำรุง .... :
** ทางใบ : ให้สูตรสหประชาชาติ น้ำ + แม็กเนเซียม. สังกะสี. (สูตรสถานีพืชสวนพลิ้ว จันทบุรี) + ฮอร์โมนไข่ (0-52-43, 13-0-46) + บำรุงผล ขยายขนาด-หยุดเมล็ด-สร้างเนื้อ ( 21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน) ทุก 10 วัน, หาโอกาสให้ แคลเซียม โบรอน. กับ น้ำตาลทางด่วน เดือนละครั้ง แบบสลับเดือนให้
** ทางดินใส่ยิบซั่ม, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ ปีละ 2 ครั้ง, ให้น้ำหมักชีวภาพที่มีสารอาหารทั้งอินทรีย์และเคมี เดือนละครั้ง, ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น
- บำรุงมะรุมแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของมะรุม แล้วจะดีเอง
-----------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : พริกดอกร่วง เป็นเพราะอะไร .... แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- ตอบแบบฟันธง หรือชี้ชัดลงไปเลยไม่ได้ เพราะข้อมูลที่เป็นสมุหฐานของสาเหตุไม่ละเอียดพอ
- ทั้งนี้ พัฒนาการและความล้มเหลว ของพืชทุกชนิดขึ้นอยู่กับ ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก ได้แก่ ดิน, น้ำ. แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล. สารอาหาร, สายพันธุ์ และโรค. หากทุกปัจจัยถูกต้อง ต้นพริกย่อมเกิดพัฒนาการดี แต่หากทุกปัจจัยหรือเพียงปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่ถูกต้อง นอกต้นพริกจะไม่มีพัฒนาการแล้ว อาจถึงต้นตายได้ด้วย
- ให้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานการเพาะปลูกอย่างละเอียดถี่ถ้วน หากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่ถูกต้อง หรือไม่เหมาะสมตามธรรมชาตินิสัยของต้นพริก ก็ให้ปรับ/แก้ .... ปัญหาใหญ่ก็คือ ไม่รู้นิสัยธรรมชาติของพืชตระกูลพริกจริงๆเท่านั้นแหละ
- เพื่อรักษาน้ำใจในฐานะ สมช.สวพ. 91 จึงขอแนะนำแบบเดาสุ่ม ให้ปฏิบัติบำรุงเหมือน มะรุม ที่กล่าวข้างต้น
-----------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : มะม่วงปลายใบไหม้ ...... แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- เกิดที่ปลายใบเรียกว่า โรคปลายใบไหม้ .... เกิดที่ขอบใบเรียกว่า โรคขอบใบไหม้ .... เกิดที่กลางใบเรียกว่า โรคใบจุด .... เกิดที่ผลสุกเรียกว่า โรคจุดดำ .... เกิดที่เปลือกกิ่งอ่อนเรียกว่าแอนแทร็คโนส (ไม่ยักกะมีชื่อไทย) .... เกิดกับไม้ผลอย่างอื่น ก็ว่ากันตามท้องถิ่น
- โรคตัวนี้ชื่อ แอนแทร็คโนส แก้ไขด้วยการฉีดพ่นสารสมุนไพร เผ็ดจัดเผ็ดจี๊ดเผ็ดจี๋ + ร้อน เหมือนกำจัดเชื้อราในกล้วยที่กล่าวข้างต้น
- ปกติเชื้อราตัวนี้ลอยอยู่อากาศ วันที่ฝนตกตอนกลางวัน ฝนหยุดแล้วแดดอก (ฝนต่อแดด) ขณะที่มีน้ำฝนเชื้อจะเข้าไปแฝงอยู่กับน้ำฝนตามส่วนของพืช เมื่อน้ำฝนแห้งเชื้อก็จะแทรกซึมเข้าในเนื้อพืชแล้วแพร่ขยายพันธุ์ต่อไป การใช้สารเคมีประเภทดูดซึมแม้จะกำจัดเชื้อตัวนี้ได้ แต่ส่วนของพืชก็เสียหายไปแล้ว จึงเท่ากับไม่ได้อะไรเลย .... วิธีแก้ไขโดยการฉีดน้ำเปล่า หรือ น้ำ + สมุนไพรเผ็ดร้อน ทันทีที่ฝนหยุด ฉีดก่อนที่น้ำบนใบพืชแห้ง นอกจากน้ำจะช่วยชะล้างเชื้อโรคตกลงดินแล้ว สารออกฤทธิ์ในสมุนไพรยังกำจัดเชื้อโรคได้อีกด้วย
-----------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ขอความรู้การปลูกมะพร้าวน้ำหอม ที่สุพรรณบุรี .....?
ตอบ :
- คำถามสั้น คำตอบยาว ตอบกันจริงๆ 3 ชม.ไม่จบ เขียหนังสือได้เป็นเล่มๆ ที่นี่รายการนี้มีเวลาแค่ 1-2-3 นาที จะเอารายละเอียดขนาดนั้นเลยเหรอ แนะนำให้ไปตามอ่านรายละเอียดเบื้องต้นจากอินเตอร์เน็ต เกษตรลุงคิมดอทคอม คำตอบตรงนี้ทั้งหมดจะลงไว้ในอินเตอร์เน็ต หรือหาซื้อหนังสือเรื่องมะพร้าวมาอ่าน .... เชื่อเถอะ ทั้งเน็ต ทั้งหนังสือ ไม่อ่านหรอก เพราะคนไทยไม่ชอบอ่านหนังสือ ชอบแต่ฟัง ถามว่า ฟังร้อยครั้ง จำได้เหรอ ลงท้ายก็ไม่รู้อะไรเหมือน เดิม .... การอ่าน แม้ว่าอ่านแล้วไม่ คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ก็ไร้ประโยชน์ ได้แค่นกแก้งนกขุนทองเท่านั้น
@@ ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับมะพร้าว :
- ปลูกมะพร้าว ต้องทำสวนยกร่องน้ำหล่อ ถ้าไม่มีร่องน้ำหล่อต้องให้น้ำสม่ำเสมอ .... เดือนใดของปีนี้มะพร้าวขาดน้ำ เดือนเดียวกันนี้ของปีถัดไป มะพร้าวจะขาดคอ หรือเดือนนี้ของปีนี้มะพร้าวขาดคอเป็นเพราะเดือนนี้ของปีที่แล้วมะพร้าวเจอแล้ง นั่นเอง เพราะมะพร้าวตอบสนองต่อการบำรุงข้ามปี
- มะพร้าวขายพันธุ์จากมูลมะพร้าว ซึ่งก็คือ จากเมล็ด นั่นหมายความว่า เขาต้องกลายพันธุ์แน่นอน วิธีพิสูจน์ว่า มะพร้าวต้นนั้นเมื่อโตขึ้นจะเป็นมะพร้าวน้ำหอมหรือมะพร้าวน้ำหวาน ให้ดูที่ต้นพันธุ์ ใช้ปลายเล็กจิกปลายรากขึ้นมาดมและแตะลิ้น ดมแล้วมีกลิ่นหอมนั่นคือมะพร้าวน้ำหอม แตะลิ้นแล้วมีรสหวานนั่นคือมะพร้าวน้ำหวาน ถ้าดมกลิ่นแตะลิ้นแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย นั่นมะพร้าวแกงธรรมดา
- นิสัยธรรมชาติของมะพร้าวออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีรุ่น การบำรุงทั้งทางใบและทางรากเหมือนบำรุง มะรุม ที่กล่าวข้างต้น เพียงแต่ให้น้ำมากกว่ามะรุมเท่านั้น
-----------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ขอความรู้การปลูกต้นโทงเทง....?
ตอบ :
- เดิมเรียกชื่อ โทงเทงฝรั่ง ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า ระฆังทอง ปัจจุบันโครงการหลวงส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาปลูกในพื้นเชิงเขา .... เป็นไม้ตระกูลเดียวกับ พริก มะเขือ มะเขือเทศ .... มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ แถบประเทศเปรู ชิลี .... ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด .... เป็นพืชประเภทเนื้อไม้อ่อน อายุข้ามปี นิยมปลูกปีเดียว
ถ้าอยู่ในกลุ่ม พริก มะเขือ มะเขือเทศ ออกดอกติดผลตลอดปี แบบไม่มีรุ่น ไม่มีฤดูลาล ก็บำรุงแบบ มะรุม พริก ที่กล่าวข้างต้นได้เลย
-------------------------------------------------------------
จาก : สมช. สวพ. FM 91.0 (07.00 08.00 / อาทิตย์)
ข้อความ : ผลพริกไม่สมบูรณ์ ..... แก้ไขอย่างไร ?
ตอบ :
- คำตอบเหมือน ดอกพริกร่วง
- ลักษณะอาการ ไม่สมบูรณ์ ผลบิดเบี้ยว กลางผลเน่า ปลายผลเน่า เป็นอย่างไรน่าจะบอกมาหน่อย....ทำไมพูดน้อยจังเลย แล้วมันจะรู้เรื่องกันมั้ยเนี่ยยย
- ตอบแบบเดาสุ่ม
* ผลบิดเบี้ยว เกิดจากขาดแคลเซียม โบรอน แก้ไขโดยให้แคลเซียม โบรอน ทางใบ
* ผลเน่ากลางผล เกิดจากขาดแคลเซียม แก้ไขโดยให้ยิบซั่มทางดิน
* ผลเน่าปลายผล เกิดจากโรคแอนแทร็คโนส แก้ไขโดยใช้สารสมุนไพร เผ็ด+ร้อน
-----------------------------------------------------------
จาก : (084) 316-10xx
ข้อความ : หนูอายุ 23 อยากปลูกมังคุด เพราะไม่อยากทำผัก ทำมัน ทำข้าวโพด จนแก่ตาย หนูมีที่ดิน 15 ไร่ ติดน้ำ ที่กาญจนบุรี ลุงคิมช่วยแนะนำตั้งแต่สายพันธุ์ กิ่ง เมล็ด ข้อดีข้อเสีย กี่ปีจะเก็บได้ จริงหรือไม่มังคุด ยิ่งแก่ยิ่งดก แล้วปลูกไม้ผลอื่นแซมได้ไหม .... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
- เกิดเป็นคนกลัวแก่ด้วยเหรอ ในโลกนี้ไม่มีใครไม่แก่ แม้แต่พระศาสดายังแก่ ในเมื่อคนต้องแก่ คนแก่เรี่ยวแรงน้อย ใช้พละกำลังร่างกายไม่ไหว ก็ใช้สมองแทนซี่ คนใช้สมองทำเงินทำทองได้มากกว่าคนใช้กำลัง
- ปลูกผัก ผักอะไรล่ะ มีเป็นร้อยๆผัก ..... ทำผักแจ๊คพ็อต ผักชีแจ๊คพ็อตได้ไร่ละเป็นแสน
ปลูกมัน มันเทศ มันมือเสือ มันเหน็บ มันเสา มันนก มันส์พะย่ะค่ะ หรือมันสำปะหลัง ติ๊งต่างสำปะหลังก็แล้วกัน .... ทำสำปะหลังก้าวหน้า ไร่เดียวได้ 20 ตัน
- ทำข้าวโพด โพดอะไร โพดเลี้ยงสัตว์หรือโพดฝักสด .... ติ๊งต่างข้าวโพดฝักสด ทำนมสดข้าวโพด ยูเอชที ขายส่ง ไร่เดียวได้เป็นหมื่น
*** ทั้งสามอย่างใช้วิธี จ้างแรงงาน ข้อแม้นิดเดียว แรงงานต้องทำตามที่เราสั่ง .... ต้อง จ้างเป็น คิดเป็น ทำเป็น ขายเป็น นั่งรถเข็นยังทำได้เลย
คิดยังไงจะปลูกมังคุด สงสัยเคยเห็นลูกมังคุดในกระจาด เลยเกิดชอบอกชอบใจเขาขึ้นมา .... ถามจริง เคยเห็นต้นมังคุดไหม ? รู้ไหมเขาบำรุงยังไง ? แล้วรู้ไหมว่า มังคุดน่ะ ปลูกทั้งปีได้ขายหนเดียว ราคาแพงกว่าเงาะ ลองกองนิดหน่อย แต่ถูกกว่าทุเรียนมหาศาล .... มังคุดเกรด เอ. อย่างดีก็ กก.ละ 50 บาท ตกเกรด กก.ละ 10 บาท ขณะที่ทุเรียนนท์เกรด เอ. กก.ละ 5,000 ลูกขนาด 3 กก. ราคา 15,000 จองล่วงหน้าข้ามปี ทุเรียนจังหวัดอื่น เกรด เอ. อย่างดีก็ กก.ละ 100 บาท ลูกขนาด 3 กก. ราคา 300 บาท ซื้อได้เดี๋ยวนั้นเลย
หลักปรัชญาเกษตรไม้ผล ปลูกมะฯ อะไรก็ได้ที่ ราคาต่อหน่วยแพงๆ เกรด เอ. จัมโบ้. โกอินเตอร์. ขึ้นห้าง, ออกนอกฤดู. แจ๊คพ็อต. คนนิยม. มิดีกว่ารึ ? ไม่รู้ต้องอ่านหนังสือ ไม่เป็นต้องลอง ประมาณนี้
- รักมังคุดจึงปลูกมังคุดเลยน่ะไม่ได้นะ มังคุดระยะต้นเล็กต้องมีไว้พี่เลี้ยง วิธีการคือ ปลูกไม้พี่เลี้ยงลงไปก่อน ไม้พี่เลี้ยงโตแล้วถึงปลูกมังคุดได้ .... วิธีการของชาวสวนมังคุด คือ ปลูกทุเรียน ลองกอง เงาะ ลงไปก่อน 3-5 ปี จนไม้พวกนี้โตแล้วนั่นแหละถึงจะลงมังคุดได้
@@ ลักษณะทางธรรมชาติมังคุด .... เขียนไว้ในหนังสือ ไม้ผลแนวหน้า....
* เป็นไม้ผลยืนต้น อายุหลายสิบปี ถ้าไม่มีต้นไม้ใหญ่อื่นบังแสงแดดขนาดทรงพุ่มจะสูงไม่มากนัก แต่ถ้ามีต้นไม้ใหญ่อื่นบังแสงแดดต้นจะแข่งแย่งแสงแดดขนาดทรงพุ่มจึงสูง
*** เจริญเติบโตดีในพื้นที่ชุ่มชื้น ทั้งความชื้นในดินและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ในแปลงปลูกจึงควรมีไม้อื่นที่ความสูงเท่าๆกันแซมแทรก
*** เจริญเติบโตเร็วและให้ผลผลิตดีในพื้นที่ปลูกที่เนื้อดินลึกมากกว่า 1 ม.ขึ้นไป .... แปลงปลูกที่เนื้อดินเหนียวหรือระดับน้ำใต้ดินตื้น ต้นมังคุดจะไม่เจริญเติบโต แตกยอดออกมาแล้วใบไหม้ สุดท้ายก็ยืนต้นตาย เนื้อดินเหนียวมากๆแม้แต่ระบบรากแก้วก็ช่วยไม่ไหว
*** ปลูกเดี่ยวๆ เป็นแปลงขนาดใหญ่มักไม่ค่อยได้ผล แต่ถ้ามีไม้ผลอื่น เช่น ทุเรียน. เงาะ. มังคุด. ลองกอง. มะไฟ. แซมแทรกแบบสลับคละกันจะเจริญเติบโตได้ดี ไม้ผลพวกนี้ออกดอกติดผลพร้อมกัน บำรุงอย่างเดียวกัน ทำให้ไม่ยุ่งยากต่อการบำรุง
* ช่วงระยะกล้าตั้งแต่เริ่มปลูกถึง 3 ปี จำเป็นต้องมีไม้พี่เลี้ยง โดยการปลูกไม้ผลอื่นๆลงไปก่อน เมื่อไม้พี่เลี้ยงยืนต้นได้จนทั่วบริเวณสวนเกิดความร่มเย็นดีแล้ว จึงลงมือปลูกต้นกล้ามังคุด วิธีปลูกกล้วยนำไปก่อน ณ จุดที่ต้องการปลูกมังคุด เมื่อต้นกล้วยโตขึ้นก็ให้ปลูกต้นกล้ามังคุดลงไปที่ใจกลางกอกล้วยนั้นเลย รากกล้วยช่วยสร้างความชื้นในดิน ส่วนใบกล้วยช่วยสร้างร่มเงา และความชื้นสัมพัทธ์ซึ่งจะส่งผลให้ต้นกล้ามังคุดโตเร็ว หรือปลูกทองหลางแทรกระหว่างต้นมังคุด เลี้ยงทองหลางให้มีใบมากหรือน้อยตามความเหมาะสมกับมังคุด รากทองหลางกับรากมังคุดที่อยู่ร่วมกันนั้น รากทองหลางซึ่งตรึงไนโตรเจนมาจากอากาศก็จะแบ่งปันให้แก่มังคุดด้วย
ไม้พี่เลี้ยงมีความจำเป็นสำหรับกล้ามังคุดย่างมาก ถ้าไม่มีไม้พี่เลี้ยงช่วยบังแดด เมื่อใบอ่อนมังคุดแตกออกมาจะเกิดอาการใบไหม้ โตช้า และชะงักการเจริญเติบโต ทั้งนี้ มังคุดระยะกล้าต้องการแสงแดดเพียง 50% ของปริมาณแสงแดดส่องปกติ
* ตามปกติต้นที่โตให้ผลผลิตแล้วต้องการแสงแดด 100% แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ดี นั่นคือ ถ้าพื้นดินแปลงปลูกแห้งแล้งและต้นไม่สมบูรณ์พอจะเกิดอาการปลายใบไหม้ เพราะฉะนั้นในแปลงปลูกมังคุดควรต้องมีเศษพืชคลุมหน้าดินเสมอ การเลี้ยงหญ้าคลุมหน้าดินกับมีต้นกล้วยหรือพืชอื่นแซมแทรกช่วยสร้างความชื้นจะช่วยลดอาการปลายใบไหม้ได้
* ปริมาณแสงแดดมีอิทธิพลต่อการออกดอกติดผลของมังคุดอย่างมาก กล่าวคือ ถ้าแสงแดดส่อจากภายนอกทรงพุ่มเข้าในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึงจะออกดอกติดผลได้ทั้งกิ่งนอกทรงพุ่ม และกิ่งในทรงพุ่ม แต่ถ้าได้รับแสงแดดไม่ทั่วทรงพุ่ม โดยเฉพาะกิ่งในทรงพุ่มได้แสงแดดน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ นอกจากกิ่งในทรงพุ่มจะไม่ออกดอกติดผลแล้ว กิ่งนอกทรงพุ่มยังออกดอกติดผลน้อยอีกด้วย
*** ต้นพันธุ์จาก เพาะเมล็ด ไม่กลายพันธุ์ เมื่อโตขึ้นทรงพุ่มจะกลมสวยและให้ผลผลิตดี ให้ผลผลิตอายุ 7-8 ปี ขึ้นอยู่กับ 6 ปัจจัยพื้นฐานฯ
*** มังคุดมีอยู่พันธุ์เดียวเรียกกันว่าเป็นพันธุ์พื้นเมือง เพราะเป็นพืชที่ปลูกด้วยเมล็ด และเมล็ดมังคุดไม่ได้เกิดจากการผสมเกสร จึงแทบจะไม่มีโอกาสกลายพันธุ์เลย แม้จะพบว่ามังคุดสายพันธุ์จากเมืองนนท์ มีผลเล็กและเปลือกบาง มังคุดปักใต้เปลือกหนา แต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนพอที่จะแยกเป็นพันธุ์ได้ ส่วนการขยายพันธุ์ทำได้หลายวิธี เช่น การเพาะเมล็ด เสียบยอด และทาบกิ่ง แต่วิธีที่นิยมปฏิบัติกันมาก คือ การเพาะเมล็ด เพราะสามารถทำได้สะดวกรวดเร็ว ต้นมังคุดที่ได้ไม่กลายพันธุ์ แต่มีข้อเสีย คือ ต้องใช้เวลานานถึง 7-8 ปีกว่าจะได้ผลผลิต แต่หากมีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีก็อาจได้ผลเร็วกว่านี้ ส่วนการขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอดที่นำพันธุ์ดีจากต้นที่เคยให้ผลมาใช้ เป็นวิธีที่ช่วยให้มังคุดให้ผลผลิตได้เร็วขึ้น
*** ต้นพันธุ์จากเพาะเมล็ดแล้ว เสียบด้วยยอดของกิ่งกระโดง เมื่อโตขึ้นทรงพุ่มกลมสวย และให้ผลผลิตดี .... 3-5 ปี ให้ผลผลิต
*** ต้นพันธุ์ ตอนจากกิ่งกระโดง เมื่อโตขึ้นทรงพุ่มกลมสวย และให้ผลผลิตดี.... 3-5 ปี ให้ผลผลิต
*** ต้นพันธุ์ ตอนจากกิ่งข้าง หรือ ต้นเพาะเมล็ดแล้วเสียบยอดด้วยยอดของกิ่งข้าง เมื่อโตขึ้นกิ่งจะเลื้อย ทรงพุ่มแบน และให้ผลผลิตไม่ดี .... 4-5 ปี ให้ผลผลิต
*** ต้นพันธุ์ เพาะเมล็ดหรือตอนแล้วเสริมราก-เสียบด้วยยอดกิ่งกระโดง เป็นต้นพันธุ์ดีที่สุด โตเร็ว ทรงพุ่มกลมสวย ให้ผลผลิตดี .... 3-5 ปี ให้ผลผลิต
*** ต้นพันธุ์ที่ชำในถุงดำนานๆ จนกระทั่งมีรากบางส่วนแทงทะลุออกมานอกถุงแล้วนั้น รากในถุงบริเวณก้นถุงจะหมุนวน เมื่อนำไปปลูกจะเกิดอาการรากวนในหลุมทำให้โตช้า แนวทางแก้ไข คือ เปลี่ยนถุงดำเพาะชำให้มีขนาดใหญ่และสูงขึ้นทุก 3-4 เดือน หรือหลังจากถอดต้นกล้าออกจากถุงดำเพื่อนำลงปลูกให้ตัดรากส่วนก้นถุงออก 1 ใน 4 ของจำนวนรากทั้งถุงทิ้งไปก่อน หรือจัดรากที่หมุนวนให้ชี้ตรงออกข้างรอบทิศทางก่อนก็ได้
* ให้ผลผลิตปีละ 1 รุ่น ปัจจุบันยังไม่มีฮอร์โมนหรือสารใดๆ บังคับให้ออกนอกฤดูได้
* ต้นที่มีความสมบูรณ์เป็นทุนเดิม หรือได้รับการบำรุงภายหลังอย่างถูกต้อง หลังจากเปิดตาดอกจนดอกชุดแรกออกมาแล้ว จะมีทั้งดอกและใบอ่อนชุดหลังทยอยออกตามมาอีก กลายเป็นผลและใบหลายชุดในต้นเดียวกัน กรณีนี้แก้ไขด้วยการให้ 0-42-56 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม โดยฉีดพ่นให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบลงถึงพื้น ทุกครั้งที่มีดอกและใบอ่อนออกมา (ประมาณ 2-3 รอบ) หรือให้จนกว่าต้นจะยุติการออกดอกชุดใหม่ ทั้งนี้การแตกใบอ่อนของมังคุดจะไม่ทิ้งดอกหรือผลเล็ก......สารอาหารชุดนี้นอกจากช่วยบำรุงดอกและกดใบอ่อนชุดใหม่ไม่ให้ออกแล้ว ยังเร่งใบอ่อนชุดที่ออกมาก่อนให้แก่เร็วขึ้นอีกด้วย
* ช่วงที่ดอกออกมาใหม่ๆ ถึงระยะหลังผสมติด สังเกตุกลีบหุ้มหรือกลีบเลี้ยงที่ขั้วดอกหรือผล ถ้ากลีบหุ้มเหนือดอกเป็นสีเขียวเข้ม หนา ใหญ่ แสดงว่าดอกมีความสมบูรณ์สูง ดอกลักษณะนี้เมื่อพัฒนาเป็นผลก็จะเป็นผลที่คุณภาพดี ความสมบูรณ์ของดอกมาจากความสมบูรณ์ของต้น และความสมบูรณ์ของต้นมาจากความสมบูรณ์ของดิน และสารอาหารพอเพียง ถูกต้อง เทคนิคการบำรุงด้วย "ไบโออิ" ซึ่งมีแม็กเนเซียม. กับสังกะสี. เป็นส่วนประกอบหลัก ธาตุอาหาร 2 ตัวนี้จะช่วยบำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอ
* ต้นโตให้ผลผิตแล้วมีสภาพทรงพุ่มขนาดใหญ่ กิ่งยาวดูเก้งก้าง มักไม่ออกดอกติดผล แก้ไขด้วยการใช้ พาโคลบิวาโซล 1.75 กรัม ผสมน้ำตามความเหมาะสมฉีดพ่นให้แก่มังคุด 1 ต้น 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 10-20 วัน จะช่วยให้กิ่งหยุดยาว ใบมีขนาดกว้างขึ้นแต่สั้นลง .... ถ้าใช้พาโคลบิวาโซลอัตราเดียวกันนี้ ฉีดพ่นให้แก่ต้นมังคุดช่วงเรียกใบอ่อนก็จะช่วยให้ต้นแตกใบอ่อนด้วยระยะเวลาเพียง 140 วัน และแตกใบอ่อนใหม่ติดต่อกันถึง 3 ชุด
* มังคุดอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมที่ผิดปกติอย่างมาก กล่าวคือ ถ้าสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะความชื้นไม่เหมาะสมจะให้ผลผลิตไม่ดี ดอกร่วง ผลเล็ก ผลไม่ดก บางครั้งออกดอกติดผลปีเว้นปี หรือเว้น 2 ปี แต่ถ้ามีสภาพแวดล้อมเหมาะสมดีต่อเนื่องสม่ำเสมอก็พร้อมที่จะออกดอกติดผลทุกปีได้
* มังคุดต้องการความชื้นหน้าดินสูงจึงควรให้มีพืชหรือวัชพืชคลุมดินตลอดเวลา การใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชเป็นอันตรายต่อพัฒนาการของมังคุดอย่างมาก
* เหตุปัจจัยที่ทำให้เนื้อมังคุดเป็นเนื้อแก้วมีหลายประการ เช่น แมลงปากกัดปากดูดเข้าทำลายช่วงผลเล็ก, ผล (ทุกระยะ) ถูกกระแทกเนื่องจากลมพัดไปปะทะกับกิ่งข้างเคียง, ขาดสารอาหารรอย่างรุนแรง, ช่วงผลสีระดับ 4-6 ได้รับน้ำมากเกินหรือน้อยเกิน, ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงเกิน, และเก็บเกี่ยวผลแล้วผลร่วงกระแทกกับเครื่องมือเก็บเกี่ยวหรือร่วงลงกระทบพื้น
* ระยะผลแก่เหมาะสมต่อการเก็บเกี่ยวคือ หลังดอกบาน 11-12 อาทิตย์ ซึ่งผลจะมีพัฒนา การให้เห็นได้ด้วยการสังเกตสีของเปลือก โดยสีของเปลือกจะเปลี่ยนแปลงเป็น 7 ระดับ ดังนี้
สีระดับ 0 ผลมีสีขาวอมเหลืองสม่ำเสมอ หรือขาวอมเหลืองมีแต้มเขียวอ่อนหรือจุดสีเทา มียางสีเหลืองภายในเปลือกรุนแรงมาก เนื้อและเปลือกยังแยกออกจากกันไม่ได้ ผลประเภทนี้แม้จะเปลี่ยนสีผลเป็นระดับ 6 ได้ก็ไม่มีคุณภาพ
สีระดับ 1 ผลมีสีเหลืองอ่อนอมเขียว มีจุดชมพูกระจายอยู่บนบางส่วนของผล ยางภายในเปลือกยังคงอยู่ในระดับรุนแรง เนื้อและเปลือกยังไม่สามารถแยกจากกันได้ ผลที่เก็บเกี่ยวในระยะนี้ถึงแม้จะเปลี่ยนไปเป็นสีผลระดับ 6 ได้ก็ไม่มีคุณภาพเช่นกัน
สีระดับ 2 ผลมีสีเหลืองอ่อนอมชมพู มีจุดประชมพูกระจายทั่วผล ยางภายในเปลือกอยู่ในระดับปานกลาง การแยกตัวระหว่างเนื้อกับเปลือกอยู่ระหว่างยากถึงปากลาง เป็นระยะผลอ่อนที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บเกี่ยวซึ่งจะได้ผลคุณภาพดี
สีระดับ 3 ผลสีชมพูสม่ำเสมอ จุดประสีชมพูเริ่มขยายเข้ามารวมกัน ไม่แบ่งแยกอย่างชัดเจนเหมือนช่วงสีระดับ 2 ยางภายในเปลือกยังคงมีอยู่แต่น้อย เปลือกกับเนื้อแยกกันได้ยากปานกลาง
สีระดับ 4 ผลสีแดงหรือน้ำตาลอมแดง บางครั้งมีแต้มสีม่วง ยางภายในเปลือกมีน้อยมากจนถึงไม่มีเลย การแยกตัวระหว่างเนื้อกับเปลือกดีมาก เป็นระยะเกือบพร้อมรับประทาน
สีระดับ 5 ผลสีม่วงอมแดง ภายในเปลือกไม่มียาง เนื้อและเปลือกแยกกันได้ง่าย เป็นระยะที่รับประทานได้ และเหมาะสมต่อการส่งออก
สีระดับ 6 ผลสีม่วงหรือม่วงเข้มจนถึงดำ บางครั้งพบว่ามีสีม่วงปนอยู่เล็กน้อย ภายในเปลือกไม่มียาง เนื้อและเปลือกแยกออกจากกันได้ง่าย เป็นระยะรับประทานดีที่สุด
---------------------------------------------------------------
จาก : (091) 372-05xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ อยากให้มะเขือยาวสีม่วงลูกใหญ่ ลูกไม่คด สีจัด ถั่วฝักยาวเนื้อ ฝักคด หางหนูยาว ฝักสั้น อยากให้ฝักยาวเหมือนถั่วหลา ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตรไหนคะ .... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
อยากให้มะเขือยาวสีม่วง ลูกใหญ่ ลูกไม่คด สีจัด .... แนวทางปฏิบัติ :
* ทางดิน : ใส่ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย. กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ใส่ครั้งแรกช่วงเตรียมแปลงเตรียมดิน .... มะเขือยาวชอบดินร่วน ร่วนมากๆ .... ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (ไม่เพิ่มปุ๋ยเคมี) สลับ 2 อาทิตย์กับน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (ไม่เพิ่มปุ๋ยเคมี)) ทุก 15 วัน ฉีดโคนต้นตอนค่ำ .... พรวนดินทุก 15 วัน .... หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ .... ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น
* ทางใบ : ให้สูตรสหประชาชาติ น้ำ 20 ล. + ไบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี.) 5 ซีซี. + ไทเป (0-52-34, 13-0-46) 5 ซีซี. + ยูเรก้า 412 (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน.) 5 ซีซี. + สารสมุนไพร 50 ซีซี. 2 รอบ สลับด้วย แคลเซีบยม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
ถั่วฝักยาวเนื้อ ฝักคด หางหนูยาว ฝักสั้น ....
คำถามเดิม คำตอบเดิม คนถามใหม่....
จาก : (089) 542-03xx
ข้อความ : คุณลุงคะ หนูขอคำชี้แนะเรื่องถั่วฝักยาว เก็บชุดแรกจะมีฝักสั้นมากกว่าฝักยาว แต่มีใบหนาใหญ่เขียวเข้ม หนูควรปรับปรุงอย่างไร.....
[color=red]ตอบ :
- เหมือนคนป่วย ปวดท้อง ไปหาหมอ หมอจะถาม ปวดมานานหรือยัง ? ปวดข้างซ้ายหรือข้างขวา ? กินอะไร ? ปวดก่อนหรือหลังกินอาหาร ? เป็นคนเดียวในบ้านหรือเป็นหลายคน ? กับหลายคำถาม เพื่อให้รู้สาเหตุของการปวดท้อง หลังจากนั้นจึงสั่งยาให้คนไข้ กับคำแนะนำบางเรื่องที่จำเป็น .... ต้นไม้ต้นพืชก็เหมือนกัน ช่วงที่ผ่านมาได้ทำอะไรกับเขาบ้าง เช่น น้ำมากหรือน้อยเกิน, ปุ๋ยอินทรีย์เคมีมากหรือน้อยเกิน, ก็เคยมีที่ซักไซ้สอบถามแล้ว ดูเหมือนว่า ทุกอย่างถูกต้องเป๊ะๆ สุดท้ายจริงๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากยาฆ่าหญ้า ก็มี
- ถั่วฝักยาว ถั่วเนื้อ เป็นพันธุ์พื้นเมือง กินอร่อย ฝักสั้น ยาวอย่างมากก็แค่ศอกแขนเดียว ฝักคด ไม่ค่อยดก หางหนูยาว
- ถั่วฝักยาว ถั่วหลา เป็นพันธุ์ลูกผสมใหม่ กินไม่อร่อย ฝักยาวกว่าแขน ฝักตรง ฝักดก หางหนูน้อย รสชาดอร่อยน้อยกว่าถั่วเนื้อ
- งานนี้ที่ทำๆ จากเดิมเคยทำอย่างไร ทำถูกหรือผิด ตรงตามความต้องการของถั่วฝักยาวหรือไม่ ให้ดูที่ผลผลิต ถ้าถูกต้อง ผลผลิตต้องดี ถ้าไม่ถูกต้อง ผลผลิตเลยไม่ดี อย่างที่เห็นๆนี่แหละ ว่ามั้ย .... งั้นเอาตามนี้ อินทรียน์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของถั่วฝักยาว
ประสบการณ์ตรง ถั่วเนื้อไร่กล้อมแกล้ม :
* ทางใบ : ให้สูตรสหประชาชาติ น้ำ 20 ล. + ไบโออิ (แม็กเนเซียม. สังกะสี.) 5 ซีซี. + ไทเป (0-52-34, 13-0-46) 5 ซีซี. + ยูเรก้า 412 (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน.) 5 ซีซี. + สารสมุนไพร 50 ซีซี. 2 รอบ สลับด้วย แคลเซีบยม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
* ทางดิน : ใส่ยิบซั่ม, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย. กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ใส่ครั้งแรกช่วงเตรียมแปลงเตรียมดิน.... ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (ไม่เพิ่มปุ๋ยเคมี) สลับ 2 อาทิตย์กับน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (ไม่เพิ่มปุ๋ยเคมี)) ทุก 15 วัน ฉีดโคนต้นตอนค่ำ....พรวนดินทุก 15 วัน .... หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ .... ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น
หมายเหตุ :
* เปรียบเทียบถั่วเนื้อของบ้านข้างเคียงแบบเคมีเพียวๆ กับของไร่กล้อมแกล้มแล้ว พบว่าของไร่กล้อมแกล้ม....
- อาการ ฝักสั้น-ฝักคด-หางหนู ไม่มีหรือมีน้อยมาก .... เพราะใช้ปุ๋ยถูกสูตร
- ปริมาณผลผลิตมากกว่า ต้นสมบูรณ์กว่า ............. เพราะปุ๋ยถูกสูตร ให้น้อยบ่อยครั้ง
รสชาติผลผลิตดีกว่า.....เพราะธาตุรอง. ธาตุเสริม. แคลเซียม โบรอน.
- อายุเก็บเกี่ยวนานขึ้น ต้นสมบูรณ์ ..... เพราะแม็กเนเซียม. สังกะสี. ในไบโออิ
- ต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี ต่ำกว่ามาก .......... เพราะปุ๋ยทุกสูตรทำเอง
- ต้นทุนค่าสารเคมี ไม่มี ................ เพราะไม่ได้ใช้ แต่ใช้สารสมุนไพรแทน
- ต้นทุนค่าไม้ค้างไม่มี (ไร่ละ 3,500)... เพราะใช้เชือกปอพลาสติกทำค้าง (ไร่ละ 35 บาท)
- เพลี้ยแป้ง ใช้ สมุนไพรเผ็ดจัด + น้ำยาล้างจาน + ไบโอเจ๊ต
- เพลี้ยอ่อน ใช้ เหล้าขาว + น้ำส้มสายชู + ไบโอเจ๊ต
- หนอนชอบใบ ใช้ สมุนไพรเผ็ดจัด + ไบโอเจ๊ต
- เพลี้ยไฟ ฉีดน้ำเปล่าตอนเที่ยง
- ผักสวนครัว กินผล อายุสั้น เถาเลื้อย เช่น ถั่วพู แตงกวา แตงร้าน มะระทุกมะระ ฟักเขียว มะเขือเทศ ใช้สูตรเดียวกันกับถั่วฝักยาว เป๊ะๆ
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4329
------------------------------------------------------------
.
กลับไปข้างบน
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้ คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้ คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้
Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group