-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 3 MAY *ยาฉุนกำจัดกะเจ๊า. นกลงกินข้าว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 3 MAY *ยาฉุนกำจัดกะเจ๊า. นกลงกินข้าว
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 3 MAY *ยาฉุนกำจัดกะเจ๊า. นกลงกินข้าว

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 03/05/2014 8:41 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 3 MAY *ยาฉุนกำจัดกะเจ๊า. นกลงกินข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 3 MAY

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์,
กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต,
ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2 )“คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

-------------------------------------------------------------------------------------------------------



จาก : (081) 772-48xx
ข้อความ : ใช้ยาฉุนต้มเคี่ยวจนน้ำเหนียว กลิ่นแรงมาก ฉีดให้คะน้า แมงกะเจ๊าไม่เกาะต้นแต่เกาะตามพื้นดิน แล้วกัดกินโคนต้น บางตัวขุดดินลงไปกินราก คะน้าตายเยอะเลย เราควรเปลี่ยนยาฉุนเป็นสมุนไพรตัวไหนดีคะ ..... คะน้าปทุม
ตอบ :
- อยากทบทวนตัวเอง ทุกวันนี้ความล้มเหลวของภาคเกษตรมาจาก 2 เรื่องใหญ่ คือ ปุ๋ยเคมี กับ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

- ดี .... เคี่ยวจนน้ำเหนียวหนืดๆ ยิ่งเหนียวยิ่งดี งานนี้ไม่ยาก ลองๆนิ้วจุ่มแล้วเอาแตะลิ้นดูก็ได้ แล้วจะรู้ถึงรสชาติว่า จัดจ้าน แค่ไหน....เอาน่า ไม่ตายหรอก แค่แตะลิ้นนิดเดียว

- ในยาฉุนมีสาร “แค็ปไซซิน” มีฤทธิ์กำจัดเชื้อโรคพืช (รา แบคทีเรีย) ได้ ไล่แมลงได้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของหนอนได้

- ฝรั่งเศส ซื้อลิขสิทธิ์ตัวนี้ไป เขาเอาไปทำอะไร แล้วทำไมนักวิชาการไทย เกษตรกรไทย ไม่สนใจ ....ว่าจริงๆ งานวิจัยเรื่อทำนองนี้ในบ้านเรามีเยอะแยะมากมาย แต่อยู่บนหิ้ง ไม่มีใครเอาออกไปส่งเสริม บางครั้ง แม้แต่ พ่อ-แม่-ญาติ-พี่-น้อง-มิตรสหาย ของนักวิจัยเองก็ไม่รู้เรื่อง

- การสกัดเอาสารออกฤทธิ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตัวยา” ให้ได้เข้มข้นมากๆ วิธีการ “ต้มเคี่ยวไฟอุ่นๆ นานๆ” เป็นวิธีการที่ดีที่สุด

หลากหลายสูตรการหมักสมุนไพร :
สูตรเฉพาะ :
หมายถึง การเลือกใช้พืชสมุนไพรเพียง 1 อย่าง ที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับชนิดของแมลงโดยเฉพาะ หรือตรงกับชนิดของหนอนโดยเฉพาะ หรือตรงกับชนิดของโรคโดยเฉพาะ นำมาสกัดตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยแยกพืชสมุนไพรแต่ละชนิด ไม่ปะปนกัน เช่น

ถัง-1 สกัด "สะเดา" อย่างเดียวเพื่อใช้กำจัดหนอน
ถัง-2 สกัด "ขมิ้นชัน" อย่างเดียวเพื่อใช้กำจัดเพลี้ย ไร
ถัง-3 สกัด "มังคุด" อย่างเดียวเพื่อใช้กำจัดรา แบคทีเรีย

เมื่อสกัดพืชสมุนไพรตัวใดก็จะได้เฉพาะสารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรตัวนั้นเท่านั้น เป็นสารออกฤทธิ์ที่ตรงกับชนิดของศัตรูพืช และมีความเข้มข้นมากที่สุด สูตรนี้เหมาะสำหรับการกำจัดและทำลายโดยตรง.....เรียกว่า "สูตรตัวต่อตัว"

สูตรรวมมิตร :
หมายถึง การเลือกพืชสมุนไพร 2-5 ชนิด ที่มีสารออกฤทธิ์ตรงกับหนอนเหมือนๆกัน หรือตรงกับแมลงเหมือนๆกัน หรือตรงกับโรคเหมือนๆกัน นำมาสกัดเอาสารออกฤทธิ์ตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยแยกสกัดพืชสมุนไพรแต่ละชนิดไม่ปะปนกัน เช่น

ถัง-1 สกัดว่านน้ำ ตะบูน กระเทียม ร่วมกันเพื่อใช้กำจัดเชื้อรา
ถัง-2 สกัดใบน้อยหน่า สะเดา หางไหล ร่วมกันเพื่อใช้กำจัดแมลง
ถัง-3 สกัดฝักคูน แมงลักคา โหระพา ร่วมกันเพื่อใช้กำจัดไข่แม่ผีเสื้อ

แบบนี้จะทำให้ได้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรหลายชนิดที่ตรงกับโรคและแมลงศัตรูพืชเพียงตัวเดียว ส่งผลให้ได้ประสิทธิ์ภาพสูง สูตรนี้ใช้ได้ทั้งป้องกันและกำจัด .....เรียกว่าสูตร "ตัวต่อตัวมีรุม"

สูตรรวมมิตรแบบผสม :
หมายถึง การเลือก........
- ใช้พืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดหนอนโดยตรง 3-5 ชนิด
- ใช้พืชสมุนไพรประเภทที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดแมลงโดยตรง 3-5 ชนิด
- ใช้พืชสมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์กำจัดรา แบคทีเรีย ไวรัส โดยตรง 3-5 ชนิด

นำพืชสมุนไพรทั้ง 3 ประเภท มาสกัดรวมกันตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน ในถังเดียวกัน พร้อมๆกัน และด้วยวิธีการเดียวกันแบบนี้จะทำให้ได้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรทุกตัวที่สามารถป้องกันกำจัดหนอน แมลง และโรค ได้ในครั้งเดียวกันซึ่งเหมาะสำหรับการใช้เพื่อป้องกันมากกว่าเพื่อกำจัด เรียกว่า "สูตรตะลุมบอน"

สูตรข้างทาง :
หมายถึง การเลือกพืชทั้งที่กินได้ และวัชพืช ที่ขึ้นตามพื้นที่ทั่วไป เช่น ข้างถนน ในสวน ในป่า ชายน้ำ บนภูเขา ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวตามธรรมชาติ เช่น กลิ่นฉุน/เหม็น รสฝาด/ขม/เผ็ด/ร้อน มียางมากอวบน้ำ ไม่มีโรค หนอนและแมลงรบกวน ซึ่งแสดงว่าในพืชนั้นมีสารออกฤทธิ์บางอย่างที่คุ้มครองตัวมันเองได้ เมื่อนำพืชที่มีคุณสมบัติดังกล่าวมาสกัดตามแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านก็จะได้สารออกฤทธิ์นั้นในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้ เรียกว่า "สูตรเหมาจ่าย"

หมายเหตุ :
- มีพืชสมุนไพรเพียงจำนวนน้อย ที่ผ่านงานวิจัยโดยนักวิชาการ และผ่านการรับรองทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ในขณะที่ยังมีพืชสมุนไพรอีกจำนวนมากที่ยังไม่ผ่านงานวิจัย และยังไม่มีการรับรองใด แต่ก็ยังมีการใช้และยินยอมให้ใช้ได้โดยผ่านกรรมวิธีแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน

- เกษตรกรทั่วโลกรู้จักและเคยใช้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรทดแทนสารเคมี ทั้งในการป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืชและในกิจกรรมเพื่อการดำรงชีวิตอื่นๆมานานแล้ว และวันนี้สารออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพรกำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

- มร.สตอลล์ แกสบี้.นักวิชาการเยอรมัน ร่วมกับ ศ.ดร.ขวัญชัย สมบัติสิริ ศึกษาวิจัยสะเดา และพืชสมุนไพรอื่นๆ อีกกว่า 30 ชนิดในประเทศไทยจนประสบความสำเร็จ ข้อมูลเรื่องนี้รัฐบาลเยอรมันได้ตีพิมพ์เป็นภาษาต่างๆทั่วโลก 14 ภาษา ยกเว้นภาษาไทยเพราะเห็นว่าประเทศไทยมีนักวิจัยร่วมอยู่ด้วยแล้ว

- เมื่อราว 3-5 ปีที่แล้ว เยอรมันได้สั่งนำเข้า หนอนตายหยากจากไทย. สะเดาจากอินเดีย. หางไหลจากอินโดเนเซีย. นำไปสกัดเอาสารออกฤทธิ์ด้วยเทคโนโลยีสูง จนสามารถ Q.C. คุณภาพ และปริมาณของสารออกฤทธิ์ได้ตามต้องการ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2439

.... คำถามเดิม คำตอบเดิม....คนถามใหม่.....

จาก : (083) 359-38xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ขอรายงานผลการใช้สมุนไพร สาบเสือ สะเดา ฟ้าทะลายโจร เขียวไข่กา ต้มน้ำพอเดือด นาน 6 ชม. เอาไปฉีดพ่นนาข้าว ฉีด 2 รอบ ห่างกันรอบละ 2 วัน เพลี้ยกระโดด แมงบั่ว เพลี้ยไฟ หายหมดเลย ดีกว่าสารเคมีอีกครับ .... ขอบคุณผู้พันครับ

จาก : (088) 372-93xx
ข้อความ : คุณตาครับ ผมทำสมุนไพร เผ็ดจัด+ขมจัด ตามสูตรในเว้บ รวมกัน 10 อย่าง แบบต้มพอเดือด 4 ชม. ต้ม 3 รอบ ต้มแล้วกรองมาใช้งาน กำจัดหนอน เพลี้ย ได้ผลดีครับ แต่เก็บไว้นาน 5-10 วัน มีฝ้าเกิดขึ้น ตัวยาจะเสื่อมไหม เราแก้ไขได้ไหม .... ขอบคุณคุณตาครับ
ตอบ :
- วิธีสกัดเอาสารออกฤทธิ์ (ตัวยา) .... ประเภท ขม/ฝาด ใช้วิธี “หมัก/แช่ .... ประเภท ขม/เผ็ด/ร้อน ใช้วิธี “ต้ม” .... ประเภท กลิ่น ใช้วิธี “กลั่น”

- วิธี “แช่” .... น้ำ + แอลกอฮอร์ 10% ของน้ำ + น้ำส้มสายชู 10% ของแอลกอฮอร์ + สมุนไพรพอท่วม .... แช่ 3-5 วัน คนวันละครั้ง กรองกากออก ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน

– วิธี “ต้ม” .... น้ำ + สมุนไพรพอท่วม ต้มพอเดือด นาน 4-5 ชม. กรองกากออก ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน

– วิธี “กลั่น” .... ใช้วิธีกลั่นแบบ “ต้มเหล้าป่า” กลั่นแล้วได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน

หมายเหตุ :
- ทำสารสมุนไพรที่นี่ไม่มีการใส่กากน้ำตาล หรือจุลินทรีย์
- วิธีแช่ใส่ “แอลกอฮอร์-น้ำส้มสายชู” ช่วยเร่งให้ตัวยาออกมาเร็ว และดี
- ทำสารสมุนไพรเสร็จพร้อมใช้แล้ว ป้องกันการเกิดฝ้าด้วยการใส่ “สารกันบูด”
- สมุนไพรหลายอย่างแต่มีสรรพคุณกำจัดศัตรูพืชตัวเดียวกัน เอามา แช่/ต้ม/กลั่น รวมกันแล้วใช้ เรียกว่า “สูตรเฉพาะ” เช่น....

** ประเภภทเบื่อเมา .... สะเดา น้อยหน่า กลอย หางไหล หนอนตายหยาก บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร เขียวไข่กา ฯลฯ หมักรวมกันเป็น “สูตรเฉพาะกำจัดหนอน”

** ประเภทเผ็ดร้อน .... พริก ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย หอม กระเทียม พริกไทย ดีปลี ฯลฯ ต้มรวมกันเป็น “สูตรเฉพาะกำจัดเชื้อรา”

** ประเภทกลิ่นจัด .... ตะไคร้ ยูคาลิปตัส ดาวเรือง ผกากรอง สาบเสือ กะเพรา แมงลัก ฯลฯ กลั่นรวมกันเป็น “สูตรเฉพาะไล่แมลง”

- สูตรเฉพาะ “กำจัดหนอน-กำจัดเชื้อรา-ไล่แมลง” แต่ละสูตรพร้อมใช้แล้ว นำมารวมกันแล้วใช้ร่วมกัน เรียกว่า “สูตรรวมมิตร” .... พูดง่ายๆ ก็คือ “ทำแยกแต่ใช้ร่วม” ประมาณนี้
- สารสมุนไพรทุกสูตรใช้ ร่วมกับปุ๋ยทางใบ (สูตรของลุงคิม) ได้
- สารสมุนไพร (สูตรของลุงคิม) ทุกสูตร ใช้ร่วมกับสารเคมีได้
- ตัวยาหรือสารออกฤทธิ์ในสมุนไพร มีงานวิจัยจากนักวิชาการรองรับยืนยันว่าได้ผล

- แหล่งข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือที่สุด คือ องค์การเภสัชกรรม หรือ ร.พ.อภัยภูเบศร์ หรือร้านขายยาแผนโบราณ

- ในพืชทุกชนิดมีสารออกฤทธิ์ (ตัวยา) ทั้งนั้น เพียงแต่สรรพคุณในการกำจัด โรค/แมลง/ศัตรูพืช ตัวไหนเท่านั้น

– ไม่มีสารเคมีใดในโลกนี้ ไม่มีสารสมุนไพรใดในโลกนี้ ที่สามารถทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายเสียหายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเก่าได้ เรียกว่า เสียแล้วเสียเลย .....

- ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มี “ศัตรูพืช” ประจำเผ่าพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา ถ้ามาแล้วจะเอาไม่ทัน ทุกครั้งที่กำจัดศัตรูพืชได้ แต่พืชก็เสียหายไปแล้ว ไม่ได้อะไรคืนมานอกจากความสะใจเท่านั้น เพราะฉนั้นต้อง “กันก่อนแก้” เท่านั้น....

- สมุนไพรบางตัวมีฤทธิ์เทียบเท่ายาน็อค (สารเคมี) ทำให้ศัตรูพืชตายทันทีทันใดได้ ถ้าไม่ตายทันทีทันใดก็กิน (หยุดทำลาย) พืชต่อ แล้วรอวันตายเอง

- วิธี ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืชที่ดีที่สุด คือ วิธีแบบผสมผสาน หรือ ไอพีเอ็ม.

** วิธี ลด-ละ-เเลิก สารเคมี คือ ....
ครั้งที่ 1 ใช้สารสมุนไพร + สารเคมี
ครั้งที่ 2 ใช้สารสมุนไพรเดี่ยวๆ
ครั้งที่ 3 ใช้สารสมุนไพรเดี่ยวๆ
ครั้งที่ 4 ใช้สารสมุนไพร + สารเคมี
ครั้งที่ 5 ใช้สารสมุนไพรเดี่ยวๆ
ครั้งที่ 6 ใช้สารสมุนไพรเดี่ยวๆ
แต่ละครั้งห่างกัน 3 วัน หรือใช้สารเคมีทุก 7 วัน
นั่นคือเพียง 2 รอบ (14 วัน) ศัตรูพืชก็ตาย ถึงไม่ตายด้วยสารเคมีก็หมดอายุขัย

** หลักการทำ-หลักการใช้ สารสมุนไพร :
แบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน-มาตรฐานโรงงาน-มีหลักวิชาการรองรับ

** สมการยา (สารเคมี-สารสมุนไพร)
ยาถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล
ยาผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล
ยาผิด + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสอง
ยาถูก + ใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสอง

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3879

--------------------------------------------------------------


จาก : (080) 183-39xx
ข้อความ : ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 1 ไร่ ตั้งใจปลูกทำพันธุ์ วันนี้เริ่มเป็นเมล็ดเต็ม ปลายเดือนหน้าจะเกี่ยวได้แล้ว นกกระจาบ ลงกินเมล็ดเสียหายมาก เหลือนแต่ก้านโด่เด่ ใช้สารเคมีหรือสมุนไพรตัวไหนดีครับ....พรหมบุรี สิงห์บุรี
ตอบ :
- ไรซ์เบอร์รี่ ที่ไร่กล้อมแกล้มก็เหมือนกัน ออกรวงเป็นน้ำนม เมล็ดเริ่มเต็ม นกลงกินเกลี้ยง อั้ยเราบอกว่า นกไม่มีเงินเดือน ให้มันกินเถอะ คนงานที่ปลูกไว้รู้ว่าตัวเองมีเงินเดือนเลยต้องปล่อยให้นกกินไป

- นก กินของชอบ ของไม่ชอบไม่กิน อยากรู้ว่าระหว่าง ไรซ์เบอร์รี่สีดำ กับ หอมมะลิ สีขาว นกจะชอบอย่างไหนมากกว่า

- นกกินข้าว คือ กินอาหาร นั่นคือสัญชาติญาณการดำรงชีวิตของสัตว์ แต่คนบอกว่านั่น “ทำลาย” .... ประเทศจีน สมัยเหมา เจ๋อ ตุง บอกว่า นกกินข้าวในนาปีหนึ่งๆ ใช้เลี้ยงได้เป็นล้านคน ถือว่าสูญเสียอย่างมาก ว่าแล้วสั่งฆ่านกทั้งหมดทั่วประทศ สมัยนั้นใครไปเมืองจีนจะไม่เห็นนกเลย

- ที่จริง นกกินหนอนด้วยนะ ในสวนถ้ามีนกเท่ากับมีตัวกำจัดหนอนอย่างดี

– บ่อปลา เขาใช้ตาข่ายครอบบ่อทั้งบ่อ ดักจับนกกาน้ำกินปลา นกตัวไหนติดตาข่ายดิ้นกระแด่วๆก็ดิ้นไป คนหลงคิดว่า ถ้ามีนกติดตาข่ายดิ้นกระแด่วๆอย่างนั้น นึกว่านกตัวอื่นจะกลัว แต่ตรงกันข้าม ตัวไหนไม่ติดตาข่ายก็หาทางแหวกเข้าไปจนได้

- ไร่กล้อมแกล้มสร้างใหม่ๆ ลงไม้ใหญ่แล้ว หว่านถั่วเขียวหวังเอาต้นถั่วเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หว่านนเมล็ดถั่วได้แค่วันเดียว สารพัดนกลงมากิน เลยต้องจ้างคนตีปี๊บไล่นก ให้เดินจากหน้าสวบนไปท้ายสวน เดินจากท้ายสวนกลับมาหน้าสวน ระหว่างเดินก็จะตีปี๊บ ปังปัง ปังปัง เป็นระยะ นกได้ยินเสียงก็ไม่ลงหรือไม่ก็หนีไป ทำอย่างนี้อยู่ 3-4 วัน จนเมล็ดถั่วงอกขึ้นมาแล้ว นั่นแหละนกถึงไม่ลงกิน

- สวนลำไย ใช้ตาข่ายแหทั้งหลังครอบต้นลำไย ป้องกันค้างคาว ตัวไหนติดตาข่ายดิ้นกะแด่วๆก็ดิ้นไป คนหลงคิดว่า ถ้ามีค้างคาวติดตาข่ายดิ้นกระแด่วๆอยู่อย่างนั้น ค้างคาวตัวอื่นจะกลัว แต่ตรงกันข้าม ตัวไม่ติดตาข่ายก็หาช่องว่างแหวกเข้าไปจนได้.... กรณีค้างคาว ใครว่ามันกลัวแสงสว่าง นัยว่าแสงสว่างทำให้ค้างคาวมองไม่เห็น อุตส่าห์ติดหลอดไฟในสวน สว่างไสวยังกับมีงานนึกว่าค้างคาวจะกลัวแสงสว่าง ตรงกันข้าม กำลายเป็นแสงไฟช่องส่องทางให้ค้างคราวซะอีก

- สวนปาล์มน้ำมัน หนูชอบกินลูกปาล์ม ชาวสวนเลยเลี้ยงนกฮูก นกเค้าแมว นกแสก ปล่อยให้ทำรังอยู่ในสวนปาล์ม ตกกลางคืนหนูออกมาก็จะถูกนกพวกนี้โฉบจับกินหมด

- แม้แต่นก ใช้ตาข่าย ตัวไหนดวงตกติดตาข่าย ดินกระแด่วๆ ก็ติดไป ตัวไหนดวงไม่ตกก็รอดไป .... ใช้แผ่น ซีดี สะท้อนแสงแวบๆ เข้าตา ก็เห็นนกเกาะที่แผ่น ซีดี นั่นแหละ .... ใช้งูพลาสติก แขวนไว้ ก็เห็นนกเกาะอยู่ที่งูพลาสติก กินผลไม้หน้าตาเฉย....เพราะฉะนั้น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวคือข้าว นกมันคงรู้ว่า ข้าวสีดำอร่อยกว่าข้าวสีขาว ยุทธวิธีสู้กับนกในนาข้าวได้ เห็นจะมีก็แต่ ตีปี๊บ จุดปะทัด เท่านั้น.... หรือทำหุ่นไล่กา ใส่มอเตอร์ยกแขนแกว่งไปมาได้ ติดเครื่องบันทึกเสียง ส่งเสียงไล่นกได้

- การที่จะเอาสมุนไพร ขมจัด-เผ็ดจัด ฉีดพ่นที่รวงข้าว ได้ยินมาว่าเคยมีคนทำเหมือนกันแต่ไม่ได้ผล นกก็กินทั้งขมๆเผ็ดๆอยู่นั่นแหละ.....เอาเป็นว่า เรื่องนี้ไม่มีข้อมูลก็แล้วกัน

-------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©