-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-น้ำปัสสาวะวัว ใช้ในนาข้าว
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 20 APR *นาข้าวปุ๋ยไม่ครบ-ครบ, บำรุงทุเรียน
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 20 APR *นาข้าวปุ๋ยไม่ครบ-ครบ, บำรุงทุเรียน

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11565

ตอบตอบ: 20/04/2015 1:49 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 20 APR *นาข้าวปุ๋ยไม่ครบ-ครบ, บำรุงทุเ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตรทางรายการวิทยุ 20 APR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์) และ
********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------



สายตรง 1. : (061) 173-63xx
ข้อความ : (สรุปย่อ) .... อยู่ชัยนาท ที่นา 60 ไร่ ช่วงหน้าแล้งเผาฟางไปก่อนแล้ว อาทิตย์ที่แล้วฝนตก ได้น้ำมาเหนือตาตุ่ม กะว่าหลังสงกรานต์ต่อพืชมงคล คงมีฝน จะตัดสินใจทำนา เริ่มไถก่อนแล้วจะทำเทือกต่อ ถ้าผมยังใช้ยาฆ่าหญ้า ใช้ยูเรีย 16-20-0 ทำทุกอย่างเหมือนทุกปีที่เคยทำ ปัญหาก็คือ ผมจะมาใช้ปุ๋ยลุงคิมทุกสูตร ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเกี่ยวเลยจะได้ไหม หรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีก .....

สายตรง 2. : (089) 718-58xx
ข้อความ : (สรุปย่อ) .... อยู่ฉะเชิงเทรา ทำนา 20 ไร่ เป็นชาวนามือใหม่ซิงๆ ทำนาครั้งแรกในชีวิตเมื่อปีที่แล้ว รุ่นต่อมาเป็นาปรังไม่ได้ทำ รุ่นหน้าจะทำใหม่ เป็น สมช.ใหม่เพิ่งฟังรายการได้ไม่ถึงเดือน ฟังแล้ว คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ผลการทำนาของตัวเองกับของบ้านข้างๆ ทั้งนาแบบอินทรีย์ตกขอบ นาอินทรีย์เกาะขอบ นาเคมีเพียวๆ รู้เลยว่า ที่ชาวนาทำกันนั้น ทำแบบตามใจคนไม่ใช่ตามใจข้าว ลงท้ายไม่ได้กำไรก็ขาดทุน สุดท้ายจริงๆ คือ เป็นหนี้ ขอบคุณผู้พันที่ให้ความรู้แก่ชาวนา

@@ หลักการและเหตุผล :

- พืชเป็นสิ่งมีชีวิตย่อมต้องกินอาหาร คนปลูกเมื่อจะปฏิเสธสารอาหารจาก “ปุ๋ยเคมี” จะด้วยเหตุผลใดก็สุดแท้ จำเป็นต้องหาสารอาหารจากแหล่งอื่นมาให้แทน สารอาหารจากแหล่งอื่นที่ว่านี้ ด้วยเทคโนโลยีวันนี้คงไม่พ้น “ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ” อย่างแน่นอน .... คำว่า “ปุ๋ย-อินทรีย์-ชีวภาพ” มีความหมายเฉพาะคำ คือ ปุ๋ย. หมายถึงธาตุอาหารพืช, อินทรีย์ หมายวัสดุที่นำมาทำ, ชีวภาพ หมายถึง จุลินทรีย์

- ปุ๋ย หรือธาตุอาหาร หรือสารอาหารพืช คือ “แร่ธาตุ” ที่พืชรับเข้าไปในตัวเองเพื่อใช้ในการพัฒนาเจริญเติบโต ประกอบด้วย ธาตุหลัก (N P K), ธาตุรอง (Ca Mg S), ธาตุเสริม (Fe Cu Zn Mn Mo B Si Na), ฮอร์โมน (Auxin, Cytokinins, Abscisic Acid, Ethylene, ฯลฯ)

- สารอาหารพืชได้มาจาก 2 แหล่ง คือ เกิดเองตามธรรมชาติ เรียกว่า สารอินทรีย์หรือปุ๋ยอินทรีย์ และสารอาหารที่เกิดจากการสร้างขึ้น มาโดยฝีมือมนุษย์ เรียกว่า สารสังเคราะห์ หรือปุ๋ยสังเคราะห์ หรือปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์

- จุลินทรีย์ คือ สิ่งมีชีวิต เป็นสัตว์เซลล์เดียว มีอยู่ในโลกคู่มากับโลก คือ ผู้ย่อยสลายทุกอย่างที่มาจากพืชและสัตว์ให้เน่าเปื่อยกลายเป็นธาตุอาหารสำหรับพืช

- ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ หรือปุ๋ยชีวภาพ หรือน้ำสกัดชีวภาพ คือ สารอาหารพืชที่มีจุลิน ทรีย์ร่วมอยู่ด้วย ทั้งสารอาหารอินทรีย์ และจุลิน ทรีย์ต่างก็มีประโยชน์ต่อพืช

- ปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยสังเคราะห์ หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ คือ สารอาหารพืชแท้ๆ ที่ไม่มีจุลิน ทรีย์ร่วมอยู่ด้วย

- นอกสารอาหาร (อินทรีย์ เคมี) และจุลินทรีย์แล้ว พืชยังต้องมีปัจจัย ดิน, น้ำ, แสง แดด, อุณหภูมิ, ฤดูกาล, สายพันธุ์, โรค. เป็นส่วนประกอบ เพื่อให้พืชนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย

* “อินทรีย์เกาะขอบ” หมายถึง ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดแห้ง และชนิดน้ำ ที่ไม่มีสารอาหารพืชจากปุ๋ยเคมีเป็นส่วนผสม มีแต่สารอาหารจากอิน ทรีย์วัตถุที่ได้จากกระบวนการผลิตโดย เฉพาะ ทั้งชนิดและปริมาณที่มากเพียงพอต่อความต้องการของพืช กับทั้งพืชรับได้ทั้งทางใบและทางราก


- ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดน้ำ มีวัสดุส่วนผสมประกอบด้วย กุ้ง หอย ปู ปลาทะเล เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้าว หมักข้ามปี .... สารอาหารที่มีในสัตว์หรือปลาทะเลแต่ไม่มีในสัตว์หรือปลาน้ำจืด เช่น แม็กเนเซียม, สังกะสี. กำมะถัน, โซเดียม. และฮอร์โมน ได้แก่ โอเมก้า 3, ฟลาโวนอยด์, ควินนอยด์, โพลิตินอล และท็อกซิก

- กระบวนการหมัก หมักนาน 3 เดือนได้ธาตุหลัก, หมักนาน 6 เดือนได้รอง, หมักนาน 9 เดือนได้ธาตุเสริม, หมักนาน 12 เดือน ถึง 2ปี 3ปี ได้ฮอร์โมน .... ระหว่างการหมักไม่มีหนอน ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า. ไม่ปิดฝาถัง, เป็น FOOD GADE หมากินได้

- ก่อนใช้งานมีการปรับโครงสร้างโมเลถุล จากโมเลกุลใหญ่ผ่านปากใบไม่ได้ให้เป็นโมเลกุล ขนาดเล็ก เรียกว่า “โมเลกุลเดี่ยว” หรือโปรตีนที่ได้จากสัตว์ทะเลให้เป็น “อะมิโน โปรตีน” ผ่านปากใบเข้าสู่ต้นได้ ผ่านรากเข้าสู่ต้นได้

- ทำนาแบบเดิม "ใช้ยาฆ่าหญ้า ใช้ยูเรีย 16-20-0 ทำทุกอย่างเหมือนทุกปีที่เคยทำ" ผลรับที่ได้คงไม่ต่างไปจากเดิมๆที่เคยได้รับ ข้อสังเกตุอย่างหนึ่ง คือ ทุกอย่างที่ทำลงไปอยู่ในดิน ผลรับที่เกิดกับต้นข้างจึง "มาจากดิน" ว่ามั้ย

.... ในเมื่อพืชหรือต้นข้าวรับสารอาหารได้สองทาง คือ ทางใบกับทางราก ว่าแล้วก็เอาอะไรต่อมือะไรที่จำเป็น ที่ต้นข้าวต้องการ ให้ "ทางใบ" ซะ ก็เท่านั้นแหละ

.... แม้แต่ดิน จากที่เคยใส่อะไรลงไปแล้ว ในสิ่งนั้นมีอะไรก็มีอันนั้น ว่าแล้วก็ใส่อะไรต่อมิอะไรที่ยังไม่ได้ใส่แต่จำเป็นและต้นข้าวต้องการทับลงไปก็แค่นี้แหละ

....ยกตัวอย่าง :
- ในดินใช้ยาฆ่าหญ้า ก็ให้ใส่จุลินทรีย์ลงไปสลายฤทธิ์ยาฆ่าหญ้า
- ในดินใส่ 46-0-0, 16-20-0 มีแต่ N กับ P ก็ให้ใส่ 16-16-16 ทับลงไป
- ในดินไม่มี แม็กเนเซียม. สังกะสี. ก็ใส่ทับลงไป

*** ปัญหาวันนี้อยู่ที่ อัตราใส่-วิธีใส่ เท่านั้นแหละ
*** ปัญหาวันหน้าอยู่ที่ จะบริหารแบบไหน อีกนั่นแหละ


@@ เปรียบเทียบต้นทุน นาข้าว 20 ไร่ ระหว่าง อินทรีย์เคมี V.S. เคมีแท้ๆ :

- อินทรีย์ เคมี 17,950 กับ เคมีแท้ๆ (ยูเรีย 1 กส. / 16-20-0) 32,000 ผลต่าง 14,050
- อินทรีย์ เคมี 17,950 กับ เคมีแท้ๆ (ยูเรีย 2 กส. / 16-20-0) 48,000 ผลต่าง 30,050


ปุจฉา วิสัชนา ทำไม ? :
ทำไม
.... ชาวนาจึงไม่ปรับ ต้นทุน-ค่าปุ๋ย-ค่ายา ให้เหมาะสมกับพืชอย่างต้นข้าว
ทำไม .... ชาวนาจึงไม่เปลี่ยนปุ๋ยสูตรที่ทำให้ต้นข้าวล้ม มาใช้สูตรที่ทำให้ต้นข้าวเตี้ย
ทำไม .... ชาวนาจึงไม่เปลี่ยนปุ๋ยสูตรที่ทำให้เมล็ดข้าวไม่มีคุณภาพ มาใช้สูตรที่ทำให้เมล็ดข้าวมีคุณภาพ
ทำไม .... ชาวนาจึงทนทำแบบเดิมๆ ทั้งๆที่ได้กำไรน้อย หรือขาดทุน
ทำไม .... ชาวนาจึงไม่รู้ ทั้งๆที่รู้ทุกอย่าง รู้ดีด้วย รู้ว่าอะไรเป็นอะไรดี แต่ไม่แก้ไข
ทำไม .... ลุงคิมจึงไม่รู้ว่า เพราะ “ใจ” ของชาวนาไม่เอา

-------------------------------------------------------------


จาก : (081) 916-34 xx
ข้อความ : วันนี้ทุเรียนขนาดกำปั้นมือ ทางใบให้สหประชาชาติ ทุก 10 วัน ทางรากให้น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 เดือนละครั้ง ให้แบบนี้จะได้ผลโตขึ้นหรือไม่ หรือต้องเพิ่มอะไรอีก สั่งซื้อจากร้านน้ำส้ม กับซื้อตรงกับชาตรี ที่แปลงยาว .... ขอบคุณครับ

ตอบ :
บำรุงผลเล็ก
ทางใบ :

- ให้ “ไบโออิ + 25-5-5” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :

- ให้ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, บริเวณทรงพุ่ม หญ้าแห้งคลุมโคนต้นหนาๆ

- ให้นำหมักชีวภาพ สูตรระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล./ไร่) + 25-7-7 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) /เดือน
- ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน

หมายเหตุ :

- เริ่มปฏิบัติหลังผสมติด หรือกลีบดอกร่วง
- ช่วงผลเล็กตั้งแต่เริ่มติดเป็นผลเห็นรูปร่าง ถ้าสภาพอากาศวิปริต (ร้อนจัด หนาวจัด ฝนชุก)ให้ “เอ็นเอเอ. + สาหร่ายทะเล + แคล เซียม โบรอน” 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน นอกช่วยป้องกันผลเล็กร่วงได้แล้ว ยังช่วยบำรุงผลให้พร้อมต่อการเป็นผลขนาดใหญ่คุณ ภาพดีในอนาคตได้อีกด้วย

บำรุงผลกลาง
ทางใบ :

- ให้ “ไบโออิ + ยูเรก้า 412” 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :

- ใส่น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 21-7-14 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น /เดือน
- ให้น้ำปกติ ทุก 2-3 วัน

หมายเหตุ :

- เริ่มลงมือบำรุงเมื่อเมล็ดเริ่มเข้าไคล การที่จะรู้ว่าผลเริ่มเข้าไคลแล้วหรือยัง ต้องใช้วิธีสุ่มเก็บผลมาผ่าดูเมล็ดภายใน

ระยะผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว
ช่วงฝนชุก :
ทางใบ :

- ให้ “ไบโออิ + 0-21-74” ทุก 5-7
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน
- ให้เฉพาะช่วงฝนตกชุก หลังหมดฝนแล้วให้อีก 1 ครั้ง จากนั้นกลับเข้าสู่ขั้นตอนบำรุงปกติ

ทางราก :

- เปิดหน้าดินโคนต้น ทำร่องระบายน้ำป้องน้ำขังค้างโคนต้น
- ให้ 13-13-21 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น
- ให้น้ำเพื่อละลายแล้วงดให้น้ำเด็ดขาด

หมายเหตุ :

- เริ่มปฏิบัติก่อนเก็บเกี่ยวตามปกติ 10-20 วันและให้ปฏิบัติต่อไปจนกว่าจะหมดฝน
- ช่วงที่มีฝนตกชุก ให้ฉีดพ่นทันทีเมื่อฝนหยุดตกใบแห้งโดยไม่จำกัดเวลา หรือฉีดพ่นก่อนฝนตก 30 นาที โดยไม่จำกัดเวลาอีกเช่นกัน

- หลังจากหมดฝนแล้วให้บำรุงด้วยสูตรเดิมและวิธีเดิมต่อไปอีก 2-3 รอบ จากนั้นให้สุ่มเก็บลงมาผ่าพิสูจน์ภายในก็จะรู้ว่าสมควรลงมือเก็บเกี่ยวได้แล้วหรือต้องบำรุงต่อไปอีก

- ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวแล้วมีฝนมักเกิดอาการไส้ซึม แก้ไขด้วยการให้ทางใบด้วยธาตุรอง/ธาตุเสริมสม่ำเสมอ ทั้งนี้ควรให้ตั้งแต่ยังไม่มีฝนซึ่งจะได้ผลดีกว่าให้หลังจากมีฝนแล้ว

- ต้องการผลขนาดเล็ก (นกกระจิบ พวงมณี หลงลับแล หลินลับแล) เมื่อผลโตได้ขนาดตามต้องการแล้วให้บำรุงด้วยสูตรบำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวทันที จากนั้นสุ่มเก็บลงมาผ่าพิสูจน์ภายในก็จะรู้ว่าเก็บเกี่ยวได้แล้วหรือต้องบำรุ่งต่อ

ช่วงฝนแล้ง :
ทางใบ :

- ให้ “0-21-74” 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วันก่อนเก็บเกี่ยว
- ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก 2-3 วัน

ทางราก :

- เปิดหรือไม่เปิดหน้าดินโคนต้น และนำอินทรีย์วัตถุออกหรือไม่ต้องนำออกก็ได้
- ให้ 13-13-21 (1/2 กก.ต้นเล็ก, 1 กก.ต้นกลาง, 2 กก.ต้นใหญ่) /ต้น

หมายเหตุ :

- ผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวช่วงฝนแล้ง หากบำรุงทางใบด้วยสูตร 0-21-74 หรือ 0-0-50 พร้อมกับให้ทางรากด้วย 13-13-21 จะทำให้ได้รสหวานจัดยิ่งขึ้น ถึงระดับหวานทะลุองศา บริกซ์

- การบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวโดยให้ทางรากด้วย 13-13-21 จะทำให้ต้นโทรม หลังเก็บเกี่ยวผลสุดท้ายไปจากต้นแล้วต้องเร่งบำรุงเพื่อฟื้นฟูสภาพต้นเรียกความสมบูรณ์กลับคืนมาทันที

- บำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอ ด้วยการทำให้มีสารอาหารกิตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องหลายๆ ปี ส่งผลให้ทุเรียนออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีฤดูกาลได้ ดังนั้น การบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวโดยให้ทางรากด้วย 8-24-24 จะไม่ทำให้ต้นโทรม หลังเก็บเกี่ยวผลสุดท้ายจากต้นไปแล้วเข้าสู่ขั้นตอนบำรุงต้น “สะสมอาหาร” และ “ปรับ ซี/เอ็น เรโช”

จากนั้นให้สำรวจความพร้อมของต้นถ้าต้นสมบูรณ์ดีพร้อมก็ลงมือ “เปิดตาดอก” ต่อได้เลย กิ่งที่ยังไม่ออกดอกในรุ่นปีที่ผ่านมาสามารถออกดอกได้ถ้าสภาพอากาศไม่เลวร้ายจน เกินไปนักและดอกที่ออกมาก็สามารถพัฒนาให้เป็นผลได้เช่นกัน การบำรุงแบบต่อเนื่องนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อต้นมีความสมบูรณ์แข็งแรงอย่างแท้จริง โดยเฉพาะต้นสาวที่ให้ผลผลิตน้อย ทั้งๆที่บำรุงอย่างดีจะสามารถทำได้ง่าย

ทุเรียนพูหลอก .... สาเหตุ และการแก้ไข :

- ต้นอายุมากๆ ผลที่ติดต่ำๆ กับผลที่ติดชิดโคนกิ่ง จะมีคุณภาพดีกว่าผลที่ติดสูงๆหรือค่อนไปทางปลายกิ่ง (ลูกยอด) โดยผลที่อยู่ต่ำกับชิดโคนกิ่งจะได้รับอาหารที่ต้นลำเลียงส่งไปให้ก่อน ที่เหลือจึงจะผ่านไปให้ผลที่อยู่ถัดไป ทำให้ผลที่อยู่สูงมากๆ หรือสูงสุดได้รับธาตุอาหารน้อย

- ต้นสูงมาก 8-10 ม. ขึ้นไป เพิ่มปริมาณธาตุอาหารโดยให้ทางใบด้วยการติดตั้งสปริงเกอร์ในทรงพุ่มและเหนือยอดสูงสุดของต้น เมื่อให้ “น้ำ + ปุ๋ยทางใบ + ธาตุรอง/ธาตุเสริม + ฮอร์โมน” ผ่านสปริงเกอร์พอเปียกใบ หรือให้จนโชกแล้วตกลงพื้นที่โคนต้นก็ถือเป็นการให้น้ำตามปกติได้ด้วย

- ตัดต้น (ยอดประธาน) เพื่อควบคุมความสูง และตัดกิ่งประธานเพื่อควบคุมความกว้างของขนาดทรงพุ่มแล้วสร้างใบใหม่ก็จะได้ต้นที่มีขนาดและรูปทรงตามต้องการ การตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุมขนาดทรงพุ่มตั้งแต่ทุเรียนมีอายุต้นยังน้อยจะส่งผลดีต่อการเจริญ เติบโตของต้น และคุณภาพของผลผลิตระยะยาว

- เคยมีผู้เปรียบเทียบระหว่างต้นสูงมากๆ ตามธรรมชาติ กับต้นควบคุมความสูงไว้ที่ 5 ม. ด้วยการตัดแต่งตั้งแต่แรก พบว่า ต้นมีความสูงมากๆตามธรรมชาติ ผลที่ติด ณ ความสูง 1 ใน 3 ของความสูงต้นจากพื้น ทุกผลจะเป็นผลที่มีคุณภาพดี ส่วนผลที่ติดในบริเวณความสูง 2 ใน 3 ของต้นที่เหลือจะไม่ดี หรือในต้นทุเรียนที่มีความสูงมากๆ ตามธรรมชาติจะให้ ผลดีมีคุณภาพเพียง 1 ใน 3 ของผลทั้งต้นเท่านั้น .... ต้นที่มีการควบคุมความสูง 3-4 ม. ทรงพุ่มกว้าง 5-6 ม. ให้ปริมาณผลดกกว่า และคุณภาพเหนือกว่าต้นสูงตามธรรมชาติ

ข้อเปรียบเทียบนี้ได้จาก การบำรุงทุเรียนโดยให้ปุ๋ยทางรากอย่างเดียว ไม่มีการให้ปุ๋ยทางใบ หรือให้ปุ๋ยทางใบน้อยมากเนื่องจากเครื่องมือให้ปุ๋ยทางใบไม่พร้อม (ลากสายยาง หรือสะพายเป้) แต่หากได้ให้ปุ๋ยทางใบ ถูกสูตร/ถูกระยะ/สม่ำเสมอ/ต่อเนื่อง ทั้งช่วงมีผลต้นและไม่มีผลบนต้น ด้วยเครื่องมือให้ปุ๋ยทางใบอย่างสปริงเกอร์หม้อปุ๋ย เมื่อปุ๋ยผ่านใบเข้าสู่ต้น ก็จะช่วยให้ลูกยอดที่ปลายกิ่งได้รับสารอาหาร ไม่เป็นพูหลอก กับทั้งคุณภาพดีเหมือนลูกโคนกิ่งโคนต้น

ทุเรียนผลแก่ฝนชุก :

ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวทำให้ผลทุเรียน แก่ช้า เปลือกหนา เนื้อเป็นเต่าเผา ไส้ล้ม สีไม่ออก กลิ่นไม่ออก ผลแตกและผลร่วง สาเหตุเป็นเพราะต้นได้รับไนโตรเจนจากน้ำฝนมากเกินไป

แนวทางแก้ไข :

- ตามปกติช่วงผลแก่ใกล้เก็บมักใส่ปุ๋ยทางรากสูตร “8-24-24” หรือ “9-26-26” ควบคู่กับการให้ปุ๋ยทางใบสูตร “0-0-50 หรือ 0-21-74 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม” ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะมีฝนแล้วก็ควรให้ล่วงหน้าเป็นการเตรียมตัวไว้ก่อนจะได้ประสิทธิภาพดีกว่าฝนตกแล้วจึงให้

- ผลแก่ใกล้เก็บแล้วได้รับน้ำจากฝนทำให้ผลแก่ช้า อายุผลที่ควรแก่จัดตามกำหนดจึงต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด การปฏิบัติสำหรับขั้นตอนนี้ คือ ให้ปุ๋ยทั้งทางรากและทางใบสูตรดังกล่าวไปเรื่อยๆ พร้อมกับเปิดหน้าดินโคนต้นให้แสงแดดส่องถึงพื้นดินมากๆเมื่อมีแสงแดดหรือฟ้าเปิด ทำร่องระบายน้ำป้องกันน้ำขังค้างโคนต้น

หลังจากฝนหมดแล้วให้บำรุงด้วยสูตรเดิมทั้งทางใบและทางรากต่อไปอีกพร้อมกับงดน้ำ 15-20 วัน ระหว่างนี้ให้สังเกตการเปลี่ยน แปลงของผล แล้วสุ่มเก็บมาผ่าดูภายในก็จะเห็นและรู้ว่าสมควรต้องยืดอายุผลออกไปอีกนานเท่าไรผลจึงจะแก่จัดและเก็บเกี่ยวได้

แนวทางแก้ปัญหาเรื่องผลแก่ตรงกับฝนชุก คือ วางแผนกะเวลาบำรุงต้นล่วงหน้าให้ได้ผลแก่ตรงกับช่วงแล้ง

- วิธีเก็บเกี่ยวทุเรียนของชาวสวนทุเรียนเมืองนนทบุรีไม่ใช้วิธีนับอายุผล เพราะรู้ว่าเอาแน่นอนไม่ได้เนื่องจากน้ำใต้ดินโคนต้นหรืออาจจะมีฝนตก แต่ใช้วิธีปล่อยให้ผลใดผลหนึ่งร่วงจากต้นลงมาเองก่อน 1 ผล แล้วเก็บผลร่วงนั้นมาผ่าดูภายในก็จะเห็นชัดว่าทุเรียนแก่สมควรเก็บเกี่ยวได้หรือยัง เมื่อเห็นว่าแก่จัดเก็บเกี่ยวได้แล้วจะลงมือเก็บผลที่เป็นรุ่นเดียวกันนั้นก่อน จากนั้นอีก 7 วันจะลงมือเก็บรุ่นสอง และรุ่นสามไปเรื่อยๆ แต่ละรุ่นห่างกัน 5-7 วัน จนกระทั่งหมดทั้งต้น

- นำผลทุเรียนแก่ที่เก็บเกี่ยวลงมาแล้วแช่ใน "อีเทฟอน 50 ซีซี.+ น้ำ 100 ล." จนมิดทั้งผล นาน 2 นาที นำขึ้นผึ่งลมให้แห้งจากนั้นนำไปบ่มตามปกติ ผลทุเรียนจะสุกภายใน 3 วัน.... วิธีนี้ใช้กับผลที่แก่ไม่จัดก็ได้ หลังจากผลได้รับอีเทฟอนไปแล้วเนื้อจะอ่อนนุ่มเหมือนทุเรียนสุกทุกประการ แต่รสและกลิ่นไม่ดี

- ทุเรียนออกดอกติดผลที่กิ่งประธาน ผลเกิดจากกิ่งประธานคนละกิ่ง (ในต้นเดียวกัน) มักแก่ไม่พร้อมกัน แก้ไขโดยแบ่งกิ่งประธานในต้นเดียวกันนั้นเป็นกิ่งละรุ่น จากนั้นพิจารณาผลที่อยู่ในกิ่งประธานกิ่งเดียวกันแล้วเลือกผลอายุใกล้เคียงกันที่สุด (ไม่ควรห่างกันเกิน 3-5 วัน)ไว้ ซึ่งผลที่คงไว้นี้จะแก่เก็บเกี่ยวได้พร้อมกัน ส่วนผลอายุต่างจากผลอื่นมากๆให้ตัดทิ้งและการตัดทิ้งให้ทำตั้งแต่เป็นผลขนาดเล็ก เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวก็ให้เก็บผลในกิ่งประธานเดียวกันพร้อมๆกัน ซึ่งทุกผลจะแก่เท่ากัน จากนั้นจึงเลือกเก็บจากกิ่งประธานอื่นๆต่อไปตามลำดับอายุ

ทุเรียนกับระบบสปริงเกอร์ :

* บนสมมุติฐาน .... ทุเรียนโซนละ 20 ต้น ความสูงต้น 10 ม. ความกว้างทรงพุ่ม 10 ม. (ถ้าขนาดความสูงต้น กับความกว้างทรงพุ่ม น้อยกว่านี้ สปริงเกอร์ก็จะทำงานได้ดีกว่าขึ้นไปอีก .... ปั๊มไฟฟ้า 3 แรงม้า สปริงเกอร์ละอองน้ำแบบละเอียดเหนือทรงพุ่ม 1 หัว สปริงเกอร์ละอองน้ำเม็ดใหญ่โคนต้น ทุกระยะ 5 ม. /1 หัว .... ในความเป็นจริง ความสูงต้นที่สูงถึง 15 ม. สปริงเกอร์เหนือยอดก็ยังทำงานได้ แต่ถ้าความสูงต้น 15 ม. ใน 1 โซน 20 ต้น สปริงเกอร์ทำงานไม่แรงเท่าที่ควร ก็ให้พิจารณาลดจำนวนต้นจาก 20 ต้นมาเป็น 15 หรือ 10 ต้นต่อ 1 โซนก็ได้ นั่นหมายความว่า เมื่อให้ปุ๋ยทางใบแก่ต้นที่มีความสูงมากๆ ได้ ก็จะแก้ ปัญหา “ลูกยอด-พูหลอก” ได้

* ประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน :

- ให้ น้ำเปล่าหรือน้ำ+ปุ๋ย หรือน้ำ+สมุนไพร หรือน้ำ+สมุนไพร+ปุ๋ยทางใบ ได้ทุกเมื่อ ทุกเวลาที่ต้องการ
- ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน ประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้า ว่าเครื่องมือทุกชนิด
- บำรุงต้นได้เต็มที่ ทั้งทางใบและทางราก ได้แก่ :

.... ระยะไม่มีผลบนต้น : บำรุงเพื่อสร้างความสมบูรณ์สะสม
.... บำรุงระยะเรียกใบอ่อน, สะสมตาดอก, ปรับ ซี/เอ็น เรโช, เปิดตาดอก, บำรุงดอก, บำรุงผลเล็ก, บำรุงผลกลาง, บำรุงแผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว ทำได้ตามระยะที่ต้องการ

- ต้นได้สารอาหาร ครบถ้วน/เต็มที่/สม่ำเสมอ/ต่อเนื่อง นอกจากต้นจะสมบูรณ์ออกดอกติดผลดี ปีต่อปีทุกๆปี ยังช่วยให้คุณภาพดีที่เรียกว่า “รสจัดจ้าน” อีกด้วย

- เหนืออื่นใด คือ สปริงเกอร์ฉีดพ่นสารสมุนไพร เรื่อยๆ/บ่อยๆ/ประจำๆ ร่วมกับ ไอพีเอ็ม. กระทั่งโรคแมลงศัตรูพืชไม่มาวอแว ไม่ต้องใช้สารเคมียาฆ่าแมลง

– ต้นทุนต่ำ (ค่าปุ๋ย ค่ายาสมุนไพร ค่าแรงงาน) ผลผลิตเพิ่ม ทั้งปริมาณและคุณภาพ ปลอดสารเคมียาฆ่าแมลง 100% ย่อมหมายถึงรายได้

ประสบการณ์ตรง :

ผลจากการบำรุงแบบ “สร้างความสมบูรณ์สะสม” ให้ สังกะสี (แม็กเนเซียม สังกะ สี). โบรอน (แคลเซียม โบรอน) ทั้งทางใบทางราก ทั้งช่วงมีผลบนต้นและไม่มีผลบนต้น

- หมอนทอง .... ทะวายมีลูกตลอดปีแบบไม่มีรุ่น ลูกใหญ่ 10-12 กก. ทำทุเรียนทอดกรอบ
- ก้านยาว .... ที่บางกรวย ที่ปากเกร็ด ต้นละ 100 ลูก ลูกใหญ่ 2 (+) กก. เมล็ดตาย
- กระดุม .... จันทบุรี ลูกใหญ่ 2 (+) กก. เมล็ดตาย
- พวงมณี .... จันทบุรี ต้นละ 200 (+) ลูก เนื้อหนา เมล็ดตาย

-------------------------------------------------




"
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©