-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 24 APR....บำรุงผลลำไย, ประเภทจุลินทรีย์, ความต้องการปุ๋ยของพืช, ฝรั่ง, ขยายขนาดมะม่วง,
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 24 APR....บำรุงผลลำไย, ประเภทจุลินทรีย์, ความต้องการปุ๋ยของพืช, ฝรั่ง, ขยายขนาดมะม่วง,
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 24 APR....บำรุงผลลำไย, ประเภทจุลินทรีย์, ความต้องการปุ๋ยของพืช, ฝรั่ง, ขยายขนาดมะม่วง,

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 24/04/2013 6:32 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 24 APR....บำรุงผลลำไย, ประ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 24 APR


***********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่ม
รายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

***********************************************************



จาก : (088) 339-3802
ข้อความ : ผมเคยรับราชการ ม.ขอนแก่น เกษียณแล้ว ปัจจุบันจัดรายการวิทยุเรื่องสุขภาพ เป็นรายการไม่มีสปอนเซอร์ อยากขออณุญาติผู้พันบอกเบอร์โทรของผู้พัน ให้ผู้ฟังของผมโทรปรึกษาปัญหาต่างๆ จะขัดข้องไหมครับ....ขอบคุณครับ

ตอบ :
- ไม่ขัดข้อง ตามสบาย เต็มอำนาจ เฉพาะสุขภาพต้นไม้นะ สุขภาพคนไม่เอา

----------------------------------------------------------------------------



จาก : (091) 479-38xx
ข้อความ : ลำไยอายุต้น 10-15 ปี ลูกบนต้นโต 50 เปอร์เซ็นต์ เหลือเวลาบำรุงอีก 2-3 เดือนจะเก็บเกี่ยว สั่งซื้อปุ๋ยลุงคิมผ่านร้านคุณส้ม ปรึกษาลุงคิมว่า ผมต้องเพิ่มเติมอะไรอีกไหม ในการบำรุงผล....ขอบคุณ ลำไยเชียงใหม่

ตอบ :
- นี่คือลำไยปี เตรียมการดีๆ ใหญ่กว่าเป็นต่อ
- ทางใบ : ให้ “น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. + สารสมุนไพร 1-2 ล.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 10 วัน
- ทางราก : ปุ๋ยอินทรีย์ ถ้าใส่แล้วก็ไม่ต้องใส่ แต่ให้ใส่ 21-7-14 (1-2 กก.)/ต้น/เดือน ให้น้ำสม่ำเสมอ

หมายเหตุ :
- ข้อมูลจากงานวิทจัย ม.แม่โจ้ บอกว่า เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้วิปริตอย่างมากๆ ขอให้ปรับสูตรปุ๋ยทางใบจาก 3 : 1 : 2 (21-7-14) เป็น 4 : 1 : 2 โดย + เพิ่ม ยูเรีย จี 1/2 กก.” ..... นั่นคือ “น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. + ยูเรีย จี 1/2 กก. + สารสมุนไพร 1-2 ล.”

----------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 264-16xx
ข้อความ : ลุงคิม พอสรุปได้ไหมว่า จุลินทรีย์มีอะไรบ้าง กี่ชนิด กี่ประเภท กี่แบบ ขออภัยไม่รู้จะเรียกอย่างไร แต่อยากรู้มากๆ .... ขอบคุณครับ

ตอบ :
- จุลินทรีย์เพื่อการเกษตรมีหลายชนิด แยกเป็นกลุ่ม (เน้นย้ำ....กลุ่ม) ใหญ่ๆ คือ แบคทีเรีย. เชื้อรา. แอคติโนมัยซิท. สาหร่าย. โปรโตซัว. ไมโครพลาสมา. โรติเฟอร์. และไวรัส. เป็นต้น บทบาทและความสำคัญแตกต่างกันไป ต้องการอะไรก็ใช้จุลินทรีย์ “กลุ่มหรือตัว” นั้น

- ชนิดต้องการอากาศ / ไม่ต้องการอากาศ
- ชนิดสังเคราะห์สารอาหารพืช
– ชนิดน้ำ ชนิดแห้ง
- ชนิดจุลินทรีย์ดี จุลินทรีย์เชื้อโรค


@@ จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิต เป็นสัตว์เซลล์เดียว “เกิด-กิน-แก่-เจ็บ-ตาย-ขยายพันธุ์-ต้องการสภาพแวดล้อม-มีชื่อเฉพาะ” ส่วนปุ๋ย ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี เป็นสิ่งไม่มีชีวิต เกิด-กิน-แก่-เจ็บ-ตาย-ขยายพันธุ์ ไม่ได้ มีชื่อเฉพาะ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม .... จุลินทรีย์ไม่ใช่ปุ๋ย ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ปุ๋ยเคมี แต่ทั้งจุลินทรีย์กับปุ๋ยต้องไปด้วยกัน จุลินทรีย์เปรียบเสมือนแม่ครัว ปุ๋ยอินทรีย์หรือเคมีเปรียบเสมือนเครื่องปรุงอาหาร เช่น แม่ครัวกับข้าวในถัง แม่ครัวคือผู้เอาข้าวในถังมาหุง แล้วคนก็กินข้าวที่แม่ครัวหุงนั้น ฉนี้แล้ว คนควรกินแม่ครัว หรือกินข้าวที่หุง


@@ วิธีทดสอบจุลินทรีย์แบบภูมิปัญญาพื้นบ้านว่า ยังมีชีวิต ความแข็งแรง โดยใช้ น้ำ+กากน้ำตาล 10 : 1 เขย่าให้เข้ากันดี ใส่จุลินทรีย์ที่ต้องการทดสอบลงไปเล็กน้อย เขย่าให้เข้ากันดีครั้ง ปิดปากขวดด้วยลูกโป่ง ทิ้งไว้ในร่ม อุณหภูมิห้อง นาน 24-36-48 ชม. แล้วดูการพองตัวของลูกโป่ง .... พองโต เร็ว = จุลินทรีย์ดี แข็งแรง จำนวนมาก, ไม่พอง = จุลินทรีย์ไม่ดี ไม่แข็งแรง จำนวนน้อย .... ช่วงแรกๆ ลูกโป่งจะพองขยายขนาด นั่นคือ จุลินทรีย์ต้องการอากาศกำลังเจริญ ต่อมาลูกโป่งจะค่อยยุบหายเข้าไปในขวด นั่นคือ จุลินทรีย์ไม่ต้องการอากาศตายหมดแล้วเพระไม่มีอากาศ จังหวะนี้จุลินทรีย์ไม่ต้องการอากาศจะเจริญเติบโตขึ้นมาแทน

.... จุลินทรีย์ประเภทต้องการอากาศ อยู่ที่ผิวหน้าดินเพราะมีอากาศ แต่จุลินทรีย์ประเภทไม่ต้องการอากาศจะแทรกซึมลงไต้ดินลึกที่ไม่มีอากาศ

.... จุลินทรีย์ประเภทไม่ต้องการอากาศ มีพลังในการย่อยสลายเหนือกว่าประเภทต้องการอากาศ .... จุลินทรีย์ทั้ง 2 ประเภทมีประโยชน์ต่อพืชทั้งคู่ เพราะฉนั้นการนำไปใช้ควรใช้ทั้งคู่ คือ ใช้จุลินทรีย์ต้องการอากาศครึ่งหนึ่ง ใช้จุลินทรีย์ไม่ต้องการอากาศครึ่งหนึ่ง

.... การใส่จุลินทรีย์ลงดินกลางสายฝน หรือหลังฝนหยุดใหม่ๆ จะได้ผลสูงสุด เพราะน้ำฝนตกใหม่ๆเป็นกรดอ่อนๆ จุลินทรีย์ชอบ
.... ในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง จุลินทรีย์ไม่ต้องการอากาศอยู่ก้นถัง จึงไม่มีการคนก้นถัง แต่จะคนเฉพาะที่ปากถังเท่านั้น

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (091) 187-24xx
ข้อความ : ผู้พันมีงานวิจัยไหมครับว่า ระหว่างพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว กับพืชอายุยืนนานหลายสิบปีถึง 100 ปี มีความต้องการปุ๋ยต่างกันมากน้อยเท่าไร....

ตอบ :
- ไม่มีงานวิจัยเพราะไม่ใช่นักวิชาการ แต่เป็นนักอ่าน นักประสบการณ์ แล้วอ้างอิง มิใช่โจรปล้นความคิด

- ไม้ใหญ่ประเภทยืนต้นอายุนับ 100 ปี (ถ้าอยู่ถึง) ต้องการปุ๋ยธาตุหลัก “ปีละ 1 กก./อายุต้น 1 ปี” ถ้าไม้ต้นนั้นอายุ 5 ปี ก็ต้องการปุ๋ย 5 กก./ปี หรือไม้ต้นนั้นอายุ 20 ปี ก็ต้องการปุ๋ย 20 กก./ปี

- วิธีการให้ ไม้อายุ 5 ปี ใช้ปุ๋ย 5 กก./ปี แบ่งให้ 1 ครั้ง/เดือน หรือ 12 ครั้ง/ปี นั่นคือ 5 หาร 12 เท่ากับ 400 กรัม/เดือน หรือ ไม้อายุ 20 ปี ใช้ปุ๋ย 20 กก./ปี แบ่งให้ 1 ครั้ง/เดือน หรือ 12 ครั้ง/ปี นั่นคือ 20 หาร 12 เท่ากับ 1.6 กก./เดือน

– จากงานวิจัย ดร.สัมฤทธิ์ เฟื่องจันทร์ ม.ขอนแก่น ระบุว่า เกณท์การให้ปุ๋ยแก่ไม้ยืนต้น 15 วัน/ครั้ง ถือว่าได้ผลดีที่สุด นั่นหมายความว่า ปริมาณปุ๋ยต่อปี เคยหารด้วย 12 เดือน ปรับมาเป็น ปริมาณปุ๋ยต่อปี แล้วหารด้วย 24

- งานวิจัยของ ดร.สัมฤทธิ์ เฟื่องจัทน์ ทดสอบกับมะม่วงออนซอน อายุต้น 3 ปี แบ่งเป็น 3 โซน
.... โซนที่ 1 ให้ 3 กก./ต้น/3 เดือน รวม 1 ครั้ง
.... โซนที่ 2 ให้ 1 กก./ต้น/เดือน รวม 3 ครั้ง
.... โซนที่ 3 ให้ 1/2 กก./ต้น/15 วัน รวม 6 ครั้ง

- ผลการทดลองพบว่า โซนที่ 3 มีการเจริญเติบโตพัฒนาการดีที่สุด เห็นชัดที่สุด ในขณะที่โซนที่ 1 มีการเจริญเติบโตพัฒนาการน้อยที่สุด

– เทคนิคการให้ปุ๋ยแบบนี้ ต้องให้ผ่านไปกับระบบน้ำ หรือสปริงเกอร์ จึงจะสดวก ประหยัดเวลา แรงงาน และได้ประสิทธิภาพประสิทธิผลสูงสุด

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (080) 274-33xx
ข้อความ : ที่บ้านปลูกฝรั่งไว้ 8 ต้น แป้นสีทอง กิมจู เนื้อแ ดง สาลี่ทอง ไว้กินเอง ขอให้ลุงคิมพูดวิธีห่อผลฝรั่งแบบคนโบราณให้ฟังด้วย ฟังทุกเช้าค่ำค่ะ .... ขอบคุณค่ะ

ตอบ :
- ใช้ผ้ายืดห่อหลวมๆก่อน แล้วใช้ถุงกระดาษห่อทับอีกชั้นหนึ่ง ไม่ได้ใช้ถุงก๊อบแก๊บเพราะสมัยนั้นยังไม่มี เมื่อผลขนาดใหญ่ขึ้นจนคับถุงผ้ายืด ให้เปิดถุงห่อออก ขยับผ้ายืดให้พอหลวมแล้วห่อทับด้วยถุงกระดาษใหม่ .... ทุกครั้งที่ผลมีขนาดผลใหญ่ขึ้นก็ให้ทำซ้ำจนถึงเก็บเกี่ยว

- ชาวสวนฝรั่งปัจจุบัน นิยมห่อด้วยถุงก๊อบแก๊บข้างในก่อน แล้วห่อทับด้วยกระดาษข้างนอกอีกชั้นหนึ่ง แบบนี้ทำให้กระดาษโดนน้ำ ถ้าเนื้อกระดาษไม่เหนียวจะเปื่อยขาด ต้องเปลี่ยนใหม่ จึงต้องใช้กระดาษเหนียวๆ อย่างกระดาษสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง เพื่อให้ทนน้ำได้จนกระทั่งเก็บผล กระดาษเนียวๆ ยุ่งยาก เสียเวลา ราคาแพง หายากอีกต่างหาก

- ฝรั่งไร่กล้อมแกล้ม ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ กระดาษบางๆ ธรรมดาๆก่อน แล้วห่อซ้อนด้วยถุงก๊อบแก๊บ กระดาษที่ห่ออยู่ข้างในไม่โดนน้ำทำให้อยู่ทน ข่าวข่มขืนแล้วฆ่ายังอยู่เลย เท่านี้ก็ได้ผลดีแล้ว อยู่ได้นานจนกระทั่งเก็บ .... กำลังคิดอยู่ว่า ถ้าเอาถุงก๊อบแก๊บแบบทึบแสงห่อ โดยไม่ต้องพึ่งพากระดาษ ทำงานครั้งเดียวเสร็จจะได้หรือไม่ เพราะการห่อผลก็เพื่อป้องกันแสงทำให้ผิวเปลือกเขียวเท่านั้น ในเมื่อถุงทึบแสงก็ป้องกันแสงได้ ก็น่าจะใช้แทนกันได้

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (089) 428-39xx
ข้อความ : มะม่วงลูกขนาดใหญ่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ให้ปุ๋ยสูตรขยายขนาดได้ไหม....

จาก : (090) 180-29xx
ข้อความ : มะม่วงน้ำดอกไม้แก่ 50 เปอร์เซ็นต์ บำรุงด้วยสูตรขยายขนาดยูเรก้า ไบโออิ ประจำทุก 7-10 วัน มาตั้งแต่แรก ตอนนี้มีใบอ่อนแตกออกมามาก จะส่งผลเสียต่อสูตรขยายขนาดไหม หรือต้องปรับสูตรใหม่ .... สวนองค์รักษ์

จาก : (081) 489-25xx
ข้อความ : น้ำดอกไม้สีทอง ทางใบให้ ยูเรก้า + ไบโออิ กับทางดินให้ 21-7-14 ทุก 7-10 วัน ตั้งแต่เริ่มผสมติด ยอมรับว่าลูกโตกว่าไซส์ปกติ ถ้าเราต้องการให้ไซส์โตกว่านี้ขึ้นไปอีก ใส่เพิ่มไคโตซาน จะได้ผลไหมครับ .... เขาหินซ้อน

ตอบ :
- บำรุผล ขยายขนาด-หยุดเมล็ด-สร้างเนื้อ :
.... ทางใบ : ให้ “น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี.+ สารสมุนไพร 1-2 ล.” 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน
.... ทางราก : ถ้าใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ยิบซั่ม กระดูกป่น ขี้วัวขี้ไก่ ใบไม้แห้งหญ้าแห้งคลุมโคนต้นแล้วก็ไม่ต้องให้อีก ถ้ายังไม่ให้ก็จงให้, ให้ปุ๋ยทางราก 21-7-14 (1-2 กก.) / ต้น / เดือน, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 (1 ล.) / 20 ต้น / เดือน, ให้น้ำสม่ำเสมอ

@@ หมายเหตุ :
– ระหว่างที่บำรุงด้วยสูตรขยายขนาด ทั้งทางใบและทางรากอยู่นั้น แล้วมีใบอ่อนออกมา ถ้ายังเป็นยอดอ่อน (ยอดผักหวาน) ให้เด็ดทิ้งได้ เพราะใบเล็กยังปรุงอาหารไม่ได้แต่ต้องใช้อาหารจากต้นแม่ ต้นแม่ต้องแบ่งอาหารที่เลี้ยงลูกส่วนหนึ่งไปเลี้ยงใบอ่อน .... แต่ถ้าใบอ่อนนั้นโตจนเป็นใบแก่จนปรุงอาหารได้แล้ว ต้องปล่อยเลยตามเลย ถ้าเด็ดออกก็เท่ากับลดปริมาณอาหารที่ใบปรุงได้ จะส่งผลเสียต่อลูกที่ปริมาณอาหารลดลง

- มะม่วงน้ำดอกไม้ธรรมดา, เบอร์ 4, เบอร์ 4/19, น้ำดอกไม้สีทอง เป็นมะม่วงกินสุก อายุผล 20 วันสุดท้ายให้บำรุงด้วยสูตร “เร่งหวาน” ปรับปรุงคุณภาพก่อนเก็บเกี่ยว โดย....
.... ทางใบ : ให้ “น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + 0-21-74 (1 กก.) + สารสมุนไพร 1-2 ล.” ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน และให้รอบสุดท้ายก่อนเก็บ 5-7 วัน
.... ทางราก : ให้ 13-13-21 (1-2 กก.) / ต้น ให้แล้วรดน้ำตามเพื่อละลายปุ๋ย จากนั้นงดน้ำเด็ดขาด กระทั่งเก็บเกี่ยว



- ปรับสูตรปุ๋ยขยายขนาดตามสภาพอากาศ :
.... ต้องยอมรับก่อนว่า ปุ๋ยทางใบต่อไม้ผลยืนต้น ต้นได้รับเพียง 3-4 ส่วนใน 10 ส่วนเท่านั้น สภาพต้นต้องสมบูรณ์ด้วย ถ้าต้นสมบูรณ์น้อย ประสิทธิภาพในการรับปุ๋ยทางใบก็จะน้อยลงตามลำดับ .... มาตรการช่วยต้นไม้ผลก็คือ ให้ทางราก ทั้งนี้ในต้นไม้ผลสามารถรับสารอาหารทางรากได้ 6-7 ส่วนใน 10 ส่วน .... ต้นไม้ต้นพืชรับสารอาหารได้ 2 ทาง คือ ทางใบ ทางราก

.... กรณีปุ๋ยทางใบ สูตร 21-7-14 เรโช 3 : 1 : 2 ให้ปรับเป็นเรโช 4 : 1 : 2 นั่นคือ “น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี.+ ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรีย จี. 1/2 กก.” ให้ทางใบทุก 7-10 วัน ควบคู่กับให้ 21-7-14 ทางราก ½ - 1 กก. / ต้น / 15 วัน

– ที่ถามมาว่าใส่เพิ่มไคโตซานจะดีไหม คำตอบ คือ สิ้นเปลืองเปล่าๆ ในยูเรก้ามีเพียงพอแล้ว แค่ปรับ เรโช 3 : 1 : 2 เป็น 4 : 1: 2 โดยสารใส่เพิ่ม ยูเรีย จี. จะดีกว่า เพราะไนโตรเจน เมื่อปะกบคู่กับ P – K ในเรโชนี้แล้วจะช่วยสร้างเนื้อโดยตรง

----------------------------------------------------------------------------



จาก : (082) 8219xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ป้องกันหวัดไก่ ใช้สมุนไพรตัวไหนครับ....

ตอบ :
- อ.ดีพร้อม ไชยวงษ์เกียรติ บอกว่า ใช้ฟ้าทะลายโจร ลูกไต้ใบ ขอบชะนาง เสลดพังพอน อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน (หลายอย่างดีกว่าน้อยอย่าง) สภาพสดใหม่ ต้นน้ำ 70 องศา ซี. (ร้อนพอเป็นไอ) นาน 3-4 ชม. ได้น้ำต้มสมุนไพรมาแล้ว ผสมน้ำเปล่า 10 เท่า ให้ไก่กินตั้งแต่เกิด

--------------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©