-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบปัญหารายวิทยุ 6 APR *ยางยืนตาย, มะม่วง ออก/ไม่ออก ดอก
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 5 APR .... แนวคิดแก้ภัยแล้ง, ปุ๋ยอินทรีย์นาข้าว, ยาฆ่าหญ้าทำข้าวเหลือง, เร่งข้าวสุก, ไชเท้าหัวใหญ่)
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 5 APR .... แนวคิดแก้ภัยแล้ง, ปุ๋ยอินทรีย์นาข้าว, ยาฆ่าหญ้าทำข้าวเหลือง, เร่งข้าวสุก, ไชเท้าหัวใหญ่)

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11566

ตอบตอบ: 05/04/2013 5:16 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 5 APR .... แนวคิดแก้ภัยแล้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 5 APR


***********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่ม
รายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

***********************************************************



จาก : (080) 183-84xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ความแห้งแล้งปีนี้สร้างความเดือดร้อนสูญเสียให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก ตามข่าวภัยแล้งทั่วโลกแล้ว อนาคตจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น จีนปิดแม่น้ำโขงซ่อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เดือดร้อนถึงทุกประเทศที่อยู่ไต้น้ำ แม้แต่แม่น้ำทุกสายในประเทศไทยก็แห้ง ในฐานะนักรบ ผู้พันมีแนวคิดแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างไร....ศรัทธาผู้พันครับ

ตอบ :
- ขึ้นชื่อว่าธรรมชาติ มนุษย์ไม่มีทางเอาชนะได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ในสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าภัยธรรมชาตินั้น ยังมีช่องว่างให้มนุษย์แสวงประโยชน์ได้ พิจารณาดีๆ อย่ายึดติดแต่แบบเดิมๆ วันนี้ เปลี่ยนใจ เปลี่ยนแนวคิด คิดใหม่ทำใหม่ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้

- เมื่อรู้ว่าน้ำน้อย เลือกวิธีปลูกพืชแบบใช้พื้นที่น้อยๆ เลือกพืชที่ใช้น้ำน้อย เปลี่ยนจากปลูกในแปลงลงดินมาเป็นปลูกในภาชนะปลูก ปลูกแบบ “ซ้ำที่ / ไม่ซ้ำดิน” เลือกปลูกพืชพุ่มเตี้ย ตลาดนิยม ใช้ระบบน้ำหยด เช่น พริกฯ มะเขือฯ แคนตาลูป แตงโม ใช้เนื้อที่ 1-2-3 ไร่ ก็พอ ลงได้ไร่ละ 1,000 ต้น .... วางแผนการผลิต การตลาดดีๆ

- ใช้พื้นที่น้อยๆ ปลูกผักไม่ใช้ดิน (ไฮโดรโปรนิค) ใช้น้ำหมุนเวียน ใช้เนื้อที่ 1-2-3 ไร่ ก็พอ....วางแผนการผลิต การตลาดดีๆ

– ลงทุนสร้างแทงค์น้ำขนาดจุ 10,000 - 25,000 - 50,000 ตามความเหมาะสม ราคาไม่กี่หมื่น สร้างครั้งเดียวใช้งานได้ตลอดชีวิต .... การขุดสระน้ำต้องใช้งบจำนวหนึ่ง มีสระน้ำแล้วแต่ไม่มีน้ำจากแหล่งธรรมชาติ (หนอง คลอง แม่น้ำ บาดาล) มาเติมสระ สระน้ำนั้นก็ไร้ประโยชน์ ถ้าเอางบขุดสระนั้นมาสร้างแทงค์น้ำน่าจะใช้งบน้อยกว่า เมื่อได้แทงค์น้ำแล้วไปบันทุกน้ำมาเติมแทงค์

- ทำเกษตรแจ๊คพ็อต หรือแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (082) 187-35xx
ข้อความ : ได้ยินคุณหมงพูดว่า นักวิชาการบอกให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ไร่ละ 3,500 กก. จึงจะได้สารอาหารเพียงต่อนาข้าว 1 ไร่ ผมทำนา 20 ไร่ ต้องใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 70 ตัน แล้วผมจะไปเอามาจากไหน ทำเองคงไม่ไหว แค่ค่าขนย้ายก็ตายแล้ว ปัญหานี้ลุงคิมมีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ....

ตอบ :
- นั่นแหละ ทำเกษตรบนแผ่นกระดาษ .... คนพูด ไม่เคยทำ-ไม่เคยไปดู-ไม่เคยอ่าน หรือรู้ทุกอย่างดี แต่เพราะผลประโยชน์ส่วนตนอยู่เบื้องหลัง

หรือเป็นนักส่งเสริมแบบเหนือชั้นกว่าขงเบ้ง วางหมาก 3 ชั้น เจตนาสอนให้ทำแบบผิดๆ เมื่อทำแล้ว ใช้แล้วไม่ได้ผล ก็จะเลิกใช้เลิกทำเอง แล้วหันไปหาเคมีอย่างเดิม

บ่อยครั้งที่ลุงคิมได้รับคำถามที่เกิดจากการสอนแบบนี้ แม้จะรู้คำตอบแต่ไม่ตอบ แต่จะบอกให้ไปถามคนที่สอนว่า ปัญหาแบบนี้แก้ไขอย่างไร

ชื่นชมเกษตรกรที่ขวนขวายไคร่รู้ อุตส่าห์เสียเวลา เสียเงิน ไปเรียน แต่สงสัยคนที่สอน เขาเอาอะไรไปสอนเกษตรกร

คนสอนยืนพูดอยู่บนเวที แต่งสูทผูกเนคไท (ร้อนตับแทบแตก) รู้ทุกเรื่อง รู้ทุกอย่าง รู้ไปหมดแม้แต่มดปวดประจำเดือน แต่ไม่รู้ว่าคนที่นั่งฟังอยู่หน้าเวทีไม่รู้เรื่อง พูดจบ บรรยายเสร็จ รับซองกลับบ้านเลย

แม้แต่ปราชญ์ชาวบ้าน เกษตรกรดีเด่น รับโล่ระดับชาติ ไม่รู้จักแม้แต่แคลเซียม โบรอน ....โถ ประเทศไทย


- นาข้าว เป็น CASE STUDY ที่ดีและเห็นชัดที่สุด.....งานวิจัยระบุว่า นาข้าวที่ได้ข้าวเปลือก 1 เกวียน จะมีฟางราว 1,200 กก. ถ้านา 20 ไร่ ก็จะได้ฟาง 20 x 1,200 กก. จากการทำนา 1 รุ่น

– การทำปุ๋ยอินทรีย์ชนิดแห้ง ทำได้ 2 วิธี คือ หมักในกอง กับ หมักในดิน .... ปุ๋ยอินทรีย์ คือ เศษซากพืชและเศษซากสัตว์ที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ จนกลายเป็นสารอาหารพืช

- การทำฟางให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์มีสารอาหารพืช ทำได้ด้วยเทคนิคง่ายๆ และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อย เริ่มจากใส่ ยิบซั่ม กระดูกป่น มูลสัตว์ น้ำหมักชีวภาพที่มีสารอาหารและจุลินทรีย์ หว่านทับลงไปบนฟาง แล้วไถดะไถแปร คลุกเคล้าฟางกับวัสดุต่างๆลงไปอยู่ในเนื้อดิน จากนั้นจุลินทรีย์เดิมในน้ำหมักชีวภาพ กับสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในน้ำหมักจะลงไปบำรุงจุลินทรีย์ประจำถิ่นอีกแรงหนึ่ง ไม่ช้าไม่นาน ฟางธรรมดาๆก็กลายเป็น “ฟางซุปเปอร์” จะให้เป็นซุปเปอร์มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับอินทรีย์วัตถุที่ใส่ จุลินทรีย์ และสภาพแวดล้อม

– แม้จะเป็น “ฟางซุปเปอร์” แต่ก็มีธาตุอาหารไม่มาก อาจจะไม่เพียงพอสำหรับพืชบางชนิด แนวทางแก้ไขก็คือ “เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก” ลงไปตามความเหมาะสม

- นี่แหละ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของนาข้าว....

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (056) 631-7xx
ข้อความ : ข้าวอายุ 12 วัน ใช้ระเบิดเถิดเทิงทำเทือก สั่งซื้อจากลุงชาตรี ฉีดยาคุมหญ้า ตอนนี้เอาน้ำเข้าคุมหญ้าแล้ว ข้าวใบเหลือง แก้ไขยังไงคะ .... พิจิตร

ตอบ :
- ข้าวโดนยาฆ่ายาคุมหญ้าแล้วเกิดอาการงัน เพราะหญ้ากับข้าวเป็นพืชตระกูลเดียวกัน งันมากหรืองันน้อยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของยาฆ่ายาคุม ที่แน่ๆ คือ งัน 7-10-15 วัน .... ถ้าถึงขั้นใบเหลืองแบบนี้ แสดงว่า ยาฆ่ายาคุมเข้มข้นสุดๆ

- ให้ “น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 200 ซีซี. + ยูเรีย จี 1 กก. + น้ำมะพร้าว 1-2 ลูก + สมุนไพร 1-2 ล.” ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน

– อาการงันจะหายเร็วหรือช้า ขึ้นกับความเข้มข้นของยาฆ่ายาคุม
- อายุ 30 วัน แล้วค่อยบำรุงด้วยสูตรเร่งการแตกกอต่อไป

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (081) 773-18xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ ใช้อะไรดีคะข้าวถึงจะสุกเหลืองเกี่ยวได้พร้อมกัน....ขอบคุณมากค่ะ

ตอบ :
- แสดงว่าช่วงออกรวงเขาออกไม่พร้อมกัน เพราะไม่ได้รับ "สารลมเบ่ง" แน่ๆ รุ่นหน้าเอาใหม่ ช่วงตั้งท้องให้ "น้ำ 200 ล.+ ไบโออิ 200 ซีซี. + 0-52-34 (1 กก.) + ยูเรีย จี (ครึ่ง กก.) + สารสมุนไพร 1-2 ล." .... ไบโออิ.บำรุงต้นให้สมบูรณ์, 0-52-34 หยุดความสูงต้นข้าว, ยูเรีย จี. เป็นสารลมเบ่ง .... แล้วข้าวจะออกรวงพร้อมกันทั้งแปลง ส่งผลให้แก่พร้อมกัน แล้วเกี่ยวพร้อมกันได้

- ให้ “น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 200 ซีซี. + 0-21-74 (1 กก.)” ให้ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 5 วัน ให้ครั้งสุดท้ายก่อนเกี่ยว 5 วัน

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (080) 192-47xx
ข้อความ : ผู้พันครับ ที่บ้านผมบุรีรัมย์ แห่นางแมวขอฝน เชิญแมว 12 ตัวใส่กรง คนแห่มันเมา ทั้งเต้นทั้งเขย่า ตั้งแต่ช้าถึงเย็น ไม่รู้ว่าแมวร้อนจัด หรือหิวน้ำ ตายไป 3 ตัว แล้วฝนก็ไม่ตก ได้แค่ครึ้มๆเท่านั้น สงสารแมวครับ....

ตอบ :
- พูดได้คำเดียว “ตลก” (ว่ะ....)

--------------------------------------------------------------------------



จาก : (083) 036-39xx
ข้อความ : อยากให้หัวไชเท้า หัวตรง ใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักดี ต้องใช้ระเบิดเถิดเทิงสูตรไหน แล้วต้องใส่อินทรีย์วัตถุอะไรเพิ่มหรือไม่ ตอบตอนไหนก็ได้.....ขอบคุณครับ บางเลน

ตอบ :
- เตรียมดิน เตรียมแปลง : ดินต้องมาก่อน ดินต้องมาก่อน ดินดี คือ ดินที่มีอินทรีย์วัตถุ และจุลินทรีย์ ดินดีเท่ากับสำเร็จแล้วกว่าครึ่ง .... ใส่ ยิบซั่ม กระดูกป่น ขี้ไก่ แกลบดิบ ระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้งหนาๆ บ่มดิน 15-20 วัน

– เตรียมเมล็ด : แช่ “น้ำ 1 ล. + ไบโออิ 1 ซีซี. (สังกะสี) + ยูเรก้า 1 ซีซี. (ไคโตซาน) + แคลเซียม โบรอน 1 ซีซี. (โบรอน) นาน 6 ชม. ..... นำขึ้นห่มชื้น 12-24 ชม. เมล็ดไหนเริ่มงอกก่อนหยอดก่อน เริ่มงอกทีหลังหยอดตามหลัง เท่ากับเปอร์เซ็นต์งอก 100 %

- บำรุงต้นเล็ก : ไบโออิ + ยูเรีย จี. ทุก 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน

- บำรุงระยะลงหัว :
.... ทางใบ : ไบโออิ + 5-10-40 ทุก 7-10 วัน .... หาจังหวะให้แคลเซียม โบรอน 2-3 รอบ
.... ทางราก : ให้ระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 เมื่อเริ่มลงหัว ครั้งเดียว

- มีฟางหรือหญ้าแห้งคลุมหน้าดินหนาๆ
– เลี้ยงใบตั้งแต่ใบแรกถึงเก็บเกี่ยว จะได้หัวใหญ่ดี
– ทุกครั้งที่ฉีดปุ๋ยทางใบ +สารสมุนไพรเพื่อป้องกันล่วงหน้า .... ระวังแมงกะเจ๊า (หมัดกระโดด) ใช้ยาฉุนโรยพื้นบางๆ ฉีดทางใบด้วยสมุนไพร ขมจัด บ่อยๆ
--------------------------------------------------------------------------


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©