ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 4 APR .... ลิ้นจี่ไม่ออกดอก, ผักเป็นโรคเน่า, นาข้าว จดสูตรไม่ทัน, 1 ไร่ สปริงเกอร์กี่หัว

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 4 APR


***********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่ม
รายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

***********************************************************


จาก : (089) 782-9822
ข้อความ : ลิ้นจี่ช่วงสะสมตาดอก บำรุงตามสูตรลุงคิม ทางดินให้ 8-24-24 ทางใบให้ รอง/เสริม. แคลเซียม โบรอน. 8-24-24 เปิดตาดอกแล้วไม่ออกดอก แก้ไขอย่างไร .....โป่งน้ำร้อน จันทบุรี

ตอบ :
- คุณบอกว่า "บำรุงตามสูตรลุงคิม" โดยให้ 8-24-24 ทางใบ อันนี้ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ตีลังกายัน "ไม่เคยแนะนำ" อย่างนี้ เพราะ 8-24-24 เป็นปุ๋ยทางราก พืชรับทางใบไม่ได้เพราะโมเลกุลใหญ่ .... ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด มั่วนิ่ม

- ข้อมูลในคำถามที่ให้มาน้อยมากๆ เหมือนไปหาหมอ คุณบอกอาการป่วยน้อยมากแล้วหมอจะวินิจฉัยโรคได้ถูกไหม รึคุณเป้นคนประเภทพูดน้อยต่อยมากล่ะ .... งานนี้ขอเดา (เน้นย้ำ....เดา) ว่าสาเหตุมาจาก “ความสมบูรณ์สะสม” ไม่ถึงขั้น

- หลังเก็บเกี่ยวรุ่นที่แล้วได้บำรุงเพื่อสร้าง "ความสมบูรณ์สะสม" เตรียมต้นไว้หรือเปล่า ? :
..... ทางใบ : ให้แม็กเนเซียม. สังกะสี. (ไบโออิ) แคลเซียม โบรอน (ทำเอง). สม่ำเสมอ ตลอดปี ทั้งช่วงที่ไม่มีผล และช่วงที่มีผลอยู่บนต้น (ปุ๋ยพื้นฐานต่อการออกดอก สังกะสี. โบรอน)
.... ทางราก : ยิบซั่ม กระดูกป่น (เสริมการออกดอกดีมาก) ขี้วัวขี้ไก่ 6 เดือน/ครั้ง ให้ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (ดินดี จุลินทรีย์ดี ระบบรากดี) +25-7-7 (ครึ่ง กก./ต้น/เดือน) ให้น้ำสม่ำเสมอ

- บำรุงและตรวจสอบ “8 ขั้นตอนบำรุงไม้ผล” :
1. เรียกใบอ่อน.... ลิ่นจี่ต้องการใบอ่อน 4 ชุด ด้วยปุ๋ยสูตรถูกต้อง ทั้งทางใบและทางราก (แตกใบใหม่พร้อมกันทั้งต้น ใบใหญ่) .... เมื่อใบอ่อนแต่ละชุดออกมาแล้วต้อง "เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่" ให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกใบอ่อนชุดใหม่ มิเช่นนั้น ในรอบปีที่ต้องเรียกใบอ่อน 4 ชุด อาจจะไม่ทัน

2. สะสมตาดอก : (ลักษณะอาการ “อั้นตาดอก” .... ใบเขียวเข้ม เนื้อใบหนา เส้นใบนูน หูใบอ้วน ใบกรอบ ใบคู่สุดท้ายปลายกิ่งแก่จัด ข้อระหว่างใบสั้น)
.... ทางใบ : 0-42-56 + ฯลฯ
.... ทางราก : 8-24-24 + ฯลฯ

3. ปรับ ซี/เอ็น เรโช : (ลักษณะอาการใบสลด เที่ยง ถึง บ่าย 2 ติดต่อกัน 3-5 วัน)
.... ทางใบ : ธาตุรอง / ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน.
.... ทางราก : งดน้ำ เปิดหน้าดิน

4. เปิดตาดอก :
.... ทางใบ : 13-0-46 + ไธโอยูเรีย (กระชากตาดอก)
.... ทางราก : 8-24-24 ดอกเริ่มออกเริ่มให้น้ำ เริ่มจากน้อยๆแล้วค่อยๆเพิ่มเพื่อให้ต้นปรับตัวทัน

หมายเหตุ : ฮอร์โมนไข่ไทเปมี 13-0-46 + 0-52-34 เป็นส่วนผสมหลัก สำหรับไม้ผลอย่างลิ้นจี่แล้ว ไทเปเป็นได้เพียงสะสมตาดอกเท่านั้น นั่นหมายความว่า เมื่อจะเปิดตาดอกลิ้นจี้ต้องใช้สูตร "กระชากตาดอก" โดยเฉพาะ

5. บำรุงดอก :
6. บำรงผล :

--------------------------------------------------------------------------


จาก : (089) 183-72xx
ข้อความ : ผักกาดขาว ผักคะน้า คนละแปลงแต่อยู่ติดกัน เป็นโรคเน่า แต่บางแปลงก็ไม่เป็น มีคนบอกว่า เพราะขี้วัวนมจากฟาร์มเขาใช้โซดาไฟ แล้วจะแก้ไขอย่างไร.....

ตอบ :
- เพราะโซดาไฟในขี้วัวนม อันนี้ เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ .... การตรวจสอบโซดาไฟในขี้วัวนม (ขี้ไก่ ขี้หมู ขี้แพะ) ทำได้โดยวางกองในที่โล่งแล้วสังเกตุ ถ้าแมลงวันตอม = ไม่มีโซดาไฟ, ถ้าแมลงวันไม่ตอม = มีโซดาไฟ ..... ถ้าไม่มีโซดาไฟใช้ได้เลย แต่ถ้ามีโซดาไฟต้องทิ้งไว้นาน จนกว่าจะหมดฤทธิ์ นานเท่าไหร่แล้วแต่ความเข้มข้นของโซดาไฟ อาจนานข้ามปีก็ได้

– ปัญหาอยู่ที่ดินแน่ๆ อาจเป็นโรคไม่มีเชื้อ (แก๊ซไข่เน่า) หรือโรคมีเชื้อ (ไฟธอปเทอร่า / รากเน่าโคนเน่า)

- ปัญหาโรคไม่มีเชื้อ เกิดจาก จากมูลสัตว์ทุกชนิด “สด/ใหม่/ใส่มาก” ใส่แล้วจะเกิดแก๊ซไฮโดรเจน ซัลไฟด์ (แก๊ซไข่เน่า – เหมือนข้าวเมาตอซัง) ทำให้ต้นเหลืองโทรม ชาวสวนเรียกว่า “ร้อน” แก้ไขโดยเก็บมูลสัตว์ไว้นานกระทั่ง “แห้ง/เก่าข้ามปี” ระหว่างการเก็บรอเวลาควรใส่ ยิบซั่ม รำละเอียด จุลินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อเร่งกระบวนการย่อยสลาย

– ปัญหาโรคมีเชื้อ เกิดจากดินเป็นกรด แก้ไขโดย ไถดินขี้ไถใหญ่ๆตากแดดจัด 15-20 แดด แล้วไถพรวน ใส่ ยิบซั่ม น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง เพื่ออาศัยจุลินทรีย์กำจัดเชื้อโรค....เชื้อโรคที่เกิดจากดินเป็นกรด ได้แก่ ไฟธอปเทอร่า, พีเธียม, ฟูซาเลียม, สเคลโรเทียม, ไรซ็อคโธเนีย, ไส้เดือนฝอยรากปม, ฯลฯ จุลินทรีย์เชื้อโรคเหล่านี้จะตายทันทีหรือไม่เกิดในดินที่ไม่เป็นกรด พร้อมกันนั้น จุลินทรีย์มีประโยชน์จะเกิดทันที ...(จุลินทรีย์เชื้อโรคเกิดและชอบอยู่ในดินที่เป็นกรดจัดๆ คือ ต่ำกว่า 5.0 .... จุลินทรีย์เชื้อดีเกิดและชอบอยู่ในดินที่เป็นกลางหรือกรดอ่อนๆ คือ 5.5-6.5.... ตัวไหนอยู่ในดินที่ไม่เหมาะสม ตัวนั้นตาย แล้วเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามเกิด)

– ลด/ละ/เลิก ใส่สารทำลายดิน (สารเคมียาฆ่าแมลง, ยาฆ่าหญ้า, ปุ๋ยเคมีมากเกิน) แล้วใส่สารปรับปรุงบำรุงดิน (ยิบซั่ม, กระดูกป่น, ปุ๋ยคอก, ปุ๋ยน้ำชีวภาพ. ปุ๋ยเคมีพอดีเท่าที่พืชกินจริง)

– เปลี่ยนแนวทำการเกษตรจากแบบเดิมมาเป็นแบบ
.... อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของพืชที่ปลูก
.... ลดปุ๋ยเคมี เพิ่มปุ๋ยอินทรีย์ และสารปรับปรุงบำรุงดิน
.... ลดปุ๋ยทางราก เพิ่มปุ๋ยทางใบ
.... ลดธาตุหลัก เพิ่มธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน และจุลินทรีย์
.... ทุกครั้งที่ให้ปุ๋ยทางใบ +สารสมุนไพรร่วมไปด้วย

--------------------------------------------------------------------------


จาก : (089) 249-8297
ข้อความ : ฉันทำนาครั้งแรก 10 ไร่ อยากทำตามแนวลุงคิม ฟังลุงคิมทุกวันแต่จดสูตรไม่ทัน ลุงคิมพูดเร็ว อยากขอเอกสารนาข้าวที่ออกวิทยุ ว่าระยะไหนต้องใช้ปุ๋ยสูตรไหน อัตราเท่าไหร่ ถ้าไม่มีเอกสาร ช่วยพูดซ้ำอีกครั้ง ช้าๆนะคะ .... ชาวนา องค์รักษ์


ตอบ :

@@ ต้นทุนนาข้าว 10 ไร่ :
1) ทำเทือก........ ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) +16-8-8 (10 กก.) / ไร่ (ให้ครั้งที่ 1)
2) ระยะกล้า ....... น้ำ 200 ล.+ไบโออิ+ 18-38-12 (1 กก.)+ยูเรีย จี. 500 กรัม+สมุนไพร 1-2 ล.
3) ระยะต้นกลม.... ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) + 16-8-8 (10 กก.) / ไร่ (ให้ครั้งที่ 2)
4) ระยะออกรวง.... น้ำ 200 ล. + ไทเป 200 ซีซี. + 0-52-34 (1 กก.) + ยูเรีย จี 500 กรัม + สมุนไพร 1-2
5) ระยะน้ำนม...... น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 100 ซีซี. + ยูเรก้า 100 ซีซี. + สมุนไพร 1-2 ล.


@@ ส่วนประกอบเนื้อสารอาหาร :
- ระเบิดเถิดเทิง.... กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด, ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว (อินทรีย์)....ธาตุหลัก, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แม็กเนเซียม, สังกะสี (เคมี)
- ไบโออิ.... แม็กเนเซียม, สังกะสี อะมิโน คีเลต, ยูเรีย จี. ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน (เคมี)
- ไทเป...... ไข่, นม, กลูโคส, น้ำมะพร้าว (อินทรีย์)...13-0-46, 0-52-34, ธาตุรอง, ธาตุเสริม (เคมี)
- ยูเรก้า..... 21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโน โปรตีน, ธาตุรอง, ธาตุเสริม, แคลเซียม โบรอน (เคมี)


หมายเหตุ :
- ต้นพืช ไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักสี/กลิ่น/รส ไม่ฟังโฆษณา....รู้จักแต่ "เนื้อสารอาหาร" เท่านั้น
– นาข้าว 10 ไร่ ปุ๋ยลุงคิม + ปุ๋ยเพิ่ม ราคา 7,500 .... เทียบกับยูเรีย 10 กส. = 10,000

- ทำสารสมุนไพรใช้เอง + ทำเองแทนจ้างแรงงาน = ลดต้นทุน
- ขายข้าวปลูก มูลค่าเพิ่ม

--------------------------------------------------------------------------


จาก : (089) 706-4570, (089) 485-1085,
ข้อความ : ขอเอกสารเรื่องการทำสำปะหลังแนวใหม่ ที่ออกอากาศเมื่อวันก่อน ช่วยส่งทาง ปณ. ตามที่อยู่นี้นะครับ....ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ตอบ :
- ไม่ส่งแล้ว เพราะคนที่จะส่งเขาเลิกไปแล้ว ทั้งๆที่รายละเอียดในเอกสารนั้น แนะนำให้ใช้ปุ๋ยของเขาแท้ๆ

- ใจเย็นๆ งานนี้ JUST BEGIN เท่านั้น อนาคตเราอาจจะทำเอง แนะนำให้ใช้ปุ๋ยของเราอย่างมีหลักการและเหตุผล รู้ว่าต้นทุนเท่าไหร่ ? การแจก แจกอย่างไร ? คอยติดตามข่าวก็แล้วกัน – ก็คงไม่แค่สำปะหลังเท่านั้นหรอกนะ อาจจะมีพืชอย่างอื่นด้วย ทั้งนี้และทั้งนั้น วัตถุประสงค์หลักมิใช่เพื่อโฆษณาผลิตภัณท์ของเรา แต่ต้องการบอกว่า เนื้อในผลิตภัณท์นั้นแท้จริงมันคืออะไร เพราะต้นไม้ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักโฆษณา ต้นไม้ต้นพืชรู้จักและต้องการแต่สารอาหารที่อยู่เนื้อผลิตภัณท์เท่านั้น

--------------------------------------------------------------------------


จาก : (082) 827-19xx
ข้อความ : ปลูกต้นสัตตบรรณไว้ข้างบ้าน 6 ต้น ห่างจากบ้าน 1 ม. สูงกว่าหลังบ้าน 2 ชั้น เดือนที่แล้วเห็นต้นของบ้านข้างเคียงล้มทับบ้าน กลัวว่าของเราอาจจะล้มบ้าง ไม่อยากตัดทิ้งเพราะปลูกมานาน เรามีทางป้องกันไม่ให้ล้มไหม.....สวพ. 91

ตอบ :
- ตัดรากส่วนที่พุ่งเข้าหาบ้าน จุดตัดห่างจากบ้านมากๆ มากเท่าที่มีโอกาสทำได้
- ตัดยอด ลดความสูง เพื่อลดแรงต้านจากลมพายุ

--------------------------------------------------------------------------


จาก : (083) 300-4835
ข้อความ : ลุงคิมครับ เนื้อที่ 1 ไร่ ติดสปริงเกอร์กี่หัวครับ....

ตอบ :
- พืชอะไร ไม้เล็ก ไม้ใหญ่ ปั๊มกี่แรง ระบบวางท่อมี “แรงดัน+แรงอัด” แค่ไหน ในคำถามควรมีรายละเอียดมากกว่านี้

- หัวสปริงเกอร์มีหลายแบบ แบบพ่นน้ำเป็นละอองฝอยเหมือนหมอก แบบพ่นน้ำเป็นเม็ดน้ำใหญ่ๆ แบบพ่นน้ำเป็น ละออง + เม็ดน้ำเล็กๆ แต่ละแบบเหมาะสมกับพืชไม่เหมือนกัน

– ระบบกะเหรี่ยงที่ไร่กล้อมแกล้ม ไม้ผลยืนต้น สูง 3-5 ม. ระยะห่าง 4 x 4 ม. พื้นที่ ½ ไร่ ลงไม้ 50 ต้นคิดเป็น 1 โซน ใช้หัวสปริงเกอร์ 50 หัวหรือหัวละ 1 ต้น ทำงานด้วยปั๊ม 3 แรงม้า หัวสปริงเกอร์ในโซนเดียวกันพ่นน้ำได้รัศมี 4 ม.เท่ากันทุกหัว ครอบพื้นที่ทุกตารางนิ้ว แต่หากเพิ่มพื้นที่เป็นครั้งละ 2 โซน รัศมีพ่นน้ำจะลดครึ่งหนึ่ง เท่ากันทุกหัวเหมือนกัน

จากเดิมออกแบบสร้างไว้โซนละ 50 หัว หากลดจำนวนหัวลงเหลือ 25 หัว ก็จะได้แรงพ่นน้ำแรงขึ้นไปอีก

สปริงเกอร์ระบบกะเหรี่ยงที่ไร่กล้อมแกล้ม ปกติพ่นน้ำได้รัศมี 4 ม. เท่ากันทุกหัวในโซนเดียวกัน สามารถลดรัศมีพ่นน้ำจาก 4 ม. ลงมา 3 ม. 2 ม. กระทั่ง 1 ม. ได้เท่ากันทุกหัว หากหัวไหนรัศมีพ่นน้ำผิดแผกไป แสดงว่าหัวนั้นเสีย จัดการเปลี่ยน (หัวละ 2 บาทเท่านั้น)

หัวสปริงเกอร์แบบที่ลุงคิมใช้ ซื้อที่ อ.บ้านโป่ง อันละ 2 บาท แบบเดียวกันซื้อที่ จ.พิจิตร หัวละ 36 บาท ซื้อที่ จ.นนทบุรี หัวละ 12 บาท....เอากะพ่อซี่

สปริงเกอร์ระบบกะเหรี่ยงที่ไร่กล้อมแกล้มล้างตัวเองได้ ตั้งแต่ใช้งานมาไม่เคยตัน ทั้งๆที่ไม่มีกรอง จะมีก็แต่กลองเพลธรรมท่านั้น

--------------------------------------------------------------------------

.