-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 30 NOV
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - เครื่องพรวนดิน กำจัดหญ้าในนาดำ (แนวคิด)
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

เครื่องพรวนดิน กำจัดหญ้าในนาดำ (แนวคิด)

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 27/11/2012 3:34 am    ชื่อกระทู้: เครื่องพรวนดิน กำจัดหญ้าในนาดำ (แนวคิด) ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผมอ่านหลายกระทู้ เห็นเพื่อoสมาชิกถามเรื่องการกำจัดหญ้านาดำจากลุงคิม บ้านเรายังไม่มีเครื่องนี้ อันที่มีมันก็กำจัดหญ้าบนบก
แต่ก็เห็นเวบเกษตรพอเพียง เขาปรับแต่งเครื่องพรวนดินบนบก ให้ใช้ในนาได้ครับ (นาหยอด เป็นแถว) รับชมได้น่ะบัดนี้



กระทู้สร้างแนวคิดน่ะครับ

แบบดั่งเดิม แรงตัวเอง นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่


แบบเครื่องยนต์ แต่ไม่มีขายในไทย



จาก วีดีโอ เครื่องพรวนดิน และกำจัดหญ้า
แบบ 1
ข้อดี : พรวนได้ลึก กำจัดหญ้าหมดแน่ๆ แนวการกำจัดหญ้าร่องนา 2-6 แถวเท่าที่เคยเห็น
ข้อเสีย : กินน้ำมันมาก แรงมาก ตัดรากข้าวด้วย




แบบ 2
ข้อดี : ปรับแต่งตามขนาดของล่องข้าว กินน้ำมันน้อย แนวการกำจัดหญ้าร่องนามากกว่ากว่าแบบแรก หรือเพิ่มเติมได้ถ้ามีแรงยก
ข้อเสีย : พรวนได้ไม่ลึก กำจัดหญ้าไม่หมด แต่ก็เอาออกได้ส่วนมาก






แบบ 3
ข้อดี : งานเสร็จเร็ว (ติดลูกกำจัดหญ้าหลายอัน) แนวการกำจัดหญ้าร่องนามากที่สุด
ข้อเสีย : ระบบรถดำนามันจะเลี้ยวยังไง ในนาข้าวที่โตช่วงแตกกอ (แต่ก็พอทำได้ครับ ลองทำดูครับ)







เครื่องชักล่องน้ำ


ผมคิดว่าคนไทยเอามาดัดแปลงได้เพื่อเป็นเครื่องพรวนดิน กำจัดหญ้าในนาข้าวได้น่ะ



1. ก็หาตัวตนกำลังขับเคลื่อน เครื่องชักล่องน้ำ เอาตัวชักออก (ของเก่าญี่ปุ่นมากครับ)


หรือจะซื้อแบบนี้เพื่อทำเป็นเครื่องขับเคลื่อน (เปลี่ยนล้อใหม่ สำหรับลงนา)





2. สร้างตัวกำจัดหญ้า แบบ 2 ติดเครื่องกวนน้ำด้วยก็ดี (โซ่ยาว)


ใครเป็นช่างเชื่อม หรือจะหัดเชื่อมวันนี้ก็ยังไม่สาย ก็ลองประกอบดูครับ ที่ผมเลือกแบบ 2 เพราะมันคุ้มที่สุด (ในแนวความคิดผม)
ปรับแต่งก็ง่าย เสียก็ถอดปรับแต่งได้ ระบบแยกชิ้น อันนี้แล้วแต่ใครจะเลือกแบบไหนน่ะครับ ขึ้นอยู่กับการปรับแต่ง

แต่เครื่องชักล่องน้ำล้อมันเล็กก็ซื้อล้อใหญ้มาใส่น่ะครับ โหลด youtube เก็บไว้ด้วยน่ะครับ ทุก วีดีโอ อาจจะไม่อยู่คงทน ในช่วง
เวลาที่เราต้องการ

ถ้าถามว่าผมทำหรือยัง บอกว่ายังไม่ทำ (ผมทำนาหวานจะเอาเครื่องลงไม่ได้ แต่อนาคตคงเป็นนาดำทั้งหมด ถามความสมัครใจแม่
พ่อดูก่อน พูดยากเรื่องนี้) แต่คิดที่จะทำเครื่องนี้แน่ๆ เพราะไม่มีขาย แต่แบบ 1 มีขายมือสอง แบบนา 2 ร่อง นา 4 ร่อง นา 6 ร่อง
ยิ่งสูงยิ่งแพง



ทุกภาพ เสียงที่นำมา คือ แนวคิดน่ะครับ ลองเอาไปปรับใช้น่ะครับ หลายรูปๆ และเสียง จาก yotube ละชาวนาวันหยุด facebook



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11563

ตอบตอบ: 30/11/2012 3:20 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

กำจัดวัชพืช ประหยัด ได้ปุ๋ย


หลักการและเหตุผล :
วัชพืช คือ พืชชนิดหนึ่งที่เกิดหรือขึ้นในที่ๆไม่ต้องการ มีวัฏจักรชีวิต (เกิด แก่ เจ็บตาย ขยายพันธุ์)และต้องการปัจจัยพื้นฐาน (ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/
ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค) เช่นเดียวกับพืชอื่นๆ และพืชที่ถูกเรียกว่าวัชพืชมักเจริญเติบโตดีกว่าพืชหลักที่คนปลูก ในความเป็นจริงนั้น ปัจจุบันยัง
ไม่มียาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืชใดๆ ในโลกนี้ สามารถฆ่าหรือกำจัดวัชพืชให้ตายอย่างเด็ดขาดแน่นอนได้เมื่อใช้ตามอัตราที่ระบุบนฉลาก อาการที่เห็น
นั้นเป็นเพียงใบไหม้เท่านั้น ในขณะที่ หัว-เหง้า-เมล็ด ยังอยู่ ซึ่งไม่นานก็จะแตกยอดแทงหน่อขึ้นมาใหม่.....ดังนั้น การโฆษณาว่ายาฆ่าหญ้าหรือสาร
กำจัดวัชพืชชนิดนี้หรือชนิดนั้นสามารถกำจัดได้ถึงรากและเหง้าจึงเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น และผู้ใช้ก็โกหกตัวเองว่าได้ผล


นอกจากนี้ ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดวัชพืช (ทุกชนิดหรือทุกยี่ห้อในท้องตลาด) ให้ผลเสียมากกว่าผลดี อาทิ มีสถานะเป็นกรดจัดจึงทำให้ดินเป็นกรด....
.เป็นพิษต่อจุลินทรีย์ในดิน......ทำให้เดินเสียสมดุล.....เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคพืช.....สภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงเสีย.....ละอองเป็นพิษต่อพืช
ประธาน


วิธีการกำจัดหญ้าหรือวัชพืชที่ได้ผลที่สุด ซึ่งนอกจากไม่ส่งผลเสียดังกล่าวแล้วยังส่งผลดีแบบยั่งยืนระยะยาวนานอีกด้วย นั่นคือใช้มาตรการปรับเปลี่ยน
หรือตัดวงจรปัจจัยพื้นฐานไม่ให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหญ้าหรือวัชพืชเท่านั้น ได้แก่......



ล่อให้งอกแล้วทำลาย :
หลังเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ ปล่อยฟางทิ้งไว้ตากแดดจัดอย่างน้อย 15 แดดจัด ระหว่างตากแดดจัดนี้ ถ้ามีฝนตกลงมาให้ยกเลิกจำนวนวันที่ตากแดดก่อนทั้ง
หมดแล้วเริ่มนับ 1 ใหม่จนกว่าจะครบอย่างน้อย 15 วัน วัตถุประสงค์ของการตากแดดเพื่อ "ทำลายระยะพักตัว" ของเมล็ดวัชพืชและเมล็ดพืชอื่นๆที่
อยู่ในแปลง จากนั้นจึงปล่อยน้ำเข้าพอหน้าดินชื้นโดยไม่ต้องไถ จากนั้นบรรดาพืชทุกชนิด (เมล็ดหญ้า เมล็ดข้าว ร่วงและหน่อวัชพืช) จะงอกขึ้นมา
ปล่อยให้พืชทุกอย่างงอกอย่างอิสระหรือเปิดโอกาสให้งอกมากๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะเมล็ดวัชพืชบางชนิดงอกเร็ว บางชนิดงอกช้า


หมายเหตุ :
ถ้าไม่ทำลายระยะพักตัวของเมล็ดวัชพืชหรือพืชอื่นๆก่อน โดยหลังเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จใส่น้ำเข้าไปเลยนั้น เมล็ดวัชพืชหรือพืชอื่นๆก็จะไม่งอก เพราะยังไม
ใด้ทำลายระยะพักตัว แต่หลังจากนั้น 10-15 วัน เมล็ดเหล่านั้นก็จะเริ่มงอกแล้วเจริญเติบโตคู่กับต้นข้าวต่อไป

การไถดินที่มีเมล็ดพืชต่างๆฝังอยู่ เท่ากับเป็นการเติมอ๊อกซิเจนลงไปในเนื้อดินซึ่งจะส่งเสริมการงอกของเมล็ดพันธุ์ต่างๆให้ดียิ่งขึ้น เพราะฉนั้น จึงไม่ควร
ไถ แต่ปล่อยเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆวางอยู่บนผิวดินอย่างนั้น รอเวลาหมดระยะพักตัวแล้วจึงปล่อยน้ำเข้า หมักฟาง และไถกลบ
(ข้อมูล : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง)



ย่ำเพื่อทำลาย :
เมื่อเห็นว่าบรรดาเมล็ดพืชทุกอย่างงอกขึ้นมาแล้ว และบรรดาหน่อวัชพืชต่างๆก็แทงยอดขึ้นมาจากเหง้าหรือไหลทั้งหมดแล้วด้วย ให้ปล่อยน้ำเข้าแล้ว
ลงมือย่ำเทือกครั้งที่ 1 ย่ำเทือกให้ใบและต้นพืช (วัชพืชและข้าว) ทุกอย่างที่ขึ้นมาแหลกสลายลงไปคลุกกับเนื้อดิน เสร็จแล้วไขน้ำออกพอเหลือติด
หน้าดิน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7-15 วัน จะเห็นว่ายังมีวัชพืชบางส่วนงอกขึ้นมาอีกแต่จะน้อยกว่าครั้งแรกหลายเท่า

ปล่อยน้ำเข้าแล้วย่ำเทือกรอบ 2 ย่ำเพื่อทำลายใบและต้นวัชพืชเหมือนรอบที่ 1 ย่ำเทือกรอบ 2 เสร็จทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน ให้พิจารณา ถ้ายัง
มีวัชพืชขึ้นอีกมากก็ให้ไขน้ำเข้า

ย่ำเทือกรอบ 3 แต่ถ้าเห็นว่าวัชพืชลดลงจนเป็นที่น่าพอใจก็ไม่ต้องย่ำเทือกรอบ 3 ให้เตรียมการลงมือปลูก (หว่าน-ดำ) ได้เลย


หมายเหตุ :
พืชหรือวัชพืชใดๆที่งอกขึ้นมาจากเมล็ด เมื่อ ยอด-ใบ-ต้น ถูกย่ำทำลายไปแล้วจะไม่มีโอกาสงอกหรือเกิดใหม่อีกได้เลยตลอดชีวิต เพราะเมล็ดงอกได้
เพียงครั้งเดียว ส่วนหน่อที่งอกขึ้นมาจาก หัว-เหง้า-ไหล ยอดที่งอกขึ้นมานั้นจะพัฒนาเป็น ต้น-ใบ ช่วยสังเคราะห์อาหาร ช่วงที่ยังไม่มีใบช่วยสัง
เคราะห์อาหารนั้น ต้นวัชพืชจะกินสารอาหารจาก หัว-เหง้า-ไหล ที่สะสมเอาไว้ เมื่อแตกยอดขึ้นมาทีไรเป็นถูกย่ำทำลายทุกครั้ง เพียง 2-3 รอบ ห่าง
กันรอบละ 7-10 วันเท่านั้น สารอาหารในหัว-เหง้า-ไหลที่เคยสะสมไว้หมด หัว-เหง้า-ไหล ก็เน่าสลายหมดโอกาสแตกยอดใหม่อีกตลอดกาล

การใช้จุลินทรีย์เป็นตัวช่วยย่อยสลายเศษ ใบ-ต้น-หัว-เหง้า-ไหล ที่ถูกย่ำให้เปื่อยยุ่ยแล้วกลายเป็นปุ๋ย นอกจากจะไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินแล้ว
ยังปรับปรุงสภาพโครงสร้างดินให้ดีขึ้นอีกด้วย ในขณะที่การใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ใดๆ แม้จะช่วยสลายเศษพืชได้แต่กลับทำให้สภาพโครง
สร้างของดินเสียและเสียอย่างถาวรอีก
ด้วย


สรุป :
1. ทำลายวัชพืชด้วยวิธีการบำรุงให้งอกแล้วย่ำทำลาย โดยการทำเทือกหลายๆรอบแต่ละรอบจำนวนวัชพืชจะลดลงและลดลงเรื่อยๆจนกระทั่งหมด
ไปนั่นเอง

2. ถอนด้วยมือ หลังจากกำจัดวัชพืชส่วนใหญ่ด้วยวิธีทำเทือกย่ำทำลายแล้ว เมื่อต้นข้าวเจริญเติบโตขึ้นมา วัชพืชประเภทงอกช้าอาจจะยังหลงเหลือ
อยู่ก็จะงอกขึ้นมาให้เห็นอีก การกำจัดในขั้นตอนนี้ต้องใช้วิธีเดินเข้าไปในแปลงแล้ว "ถอนด้วยมือ" เท่านั้น ซึ่งวิธีถอนด้วยมือนี้นอกจากจะเป็น
การกำจัดได้อย่างสิ้นซาก (ไม่มีโอกาสงอกใหม่อีกเลยตลอดชีวิต) แล้ว ยังไม่ทำลายสภาพโครงสร้างดินอีกด้วย ในนาดำช่วยให้การกำจัดวัชพืช
ด้วยวิธีถอนด้วยมือทำได้ง่ายกว่านาหว่าน

3. ป้องกันกำจัดหญ้าหรือวัชพืชตัวใหม่ เมื่อในแปลงนาข้าวไม่มี "เมล็ด-หัว-เหง้า-ไหล" ของวัชพืชที่จะเกิดใหม่ได้แล้ว เมล็ดแก่จากต้นวัชพืช
บนคันนาหรือบริเวณข้างแปลงยังสามารถปลิวตามลมเข้าไปในแปลงแล้วเกิดเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ กรณีนี้แก้ไขโดยการตัดหรือใช้ไม่เรียวฟาดก้านดอก
ขณะที่ยังเป็นดอกอ่อนเพื่อทำลายดอกตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ให้เป็นดอกแก่แล้วมีเมล็ดขยายพันธุ์ได้


การใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์กินหญ้า (วัว ควาย แพะ) มักมีเมล็ดพันธุ์วัชพืชปนมาด้วยเสมอ กำจัดเมล็ดพันธุ์วัชพืช โดยการหมักนาน 6 เดือน - 1 ปี
เพื่ออาศัยจุลินทรีย์ทำลายชีวิตเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก่อน ถ้าไม่มีเวลาหมักก็ให้ใช้เฉพาะ "น้ำมูลสัตว์" หมักก่อนหรือไม่หมักก็ได้ ราดรดลงบนเศษ
ซากพืช (ฟาง ต้นถั่ว วัชพืช) ในแปลงหลัง หรือก่อนไถกลบก็ได้ หลังจากนั้น นอกจากเศษซากพืชจะกลายสภาพเป็นปุ๋ยคอกมูลสัตว์โดยไม่มีเมล็ด
วัชพืชหรือพืชใดๆปนเปื้อนมาด้วยแล้ว ยังได้ทำให้คุณภาพของเนื้อปุ๋ยดีกว่ามูลสัตว์ที่มาจากสัตว์โดยตรงอีกด้วย

4. ข้าววัชพืช คือ วัชพืชชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ดีมากในนาข้าว แต่ในแปลงเกษตรอื่นๆที่แม้จะมีสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยพื้นฐานด้านการเกษตร
เหมือนนาข้าวกลับไม่เจริญเติบโต มีชื่อตามภาษาท้องถิ่น เช่น ข้าวนก. ข้าวหาง. ข้างเด้ง. ข้าวลายหรือข้าวแดง. ข้าวป่าหรือข้าวละมาน.
(คำว่า “ข้าวนก” หมายถึงสายพันธุ์ข้าวที่ใช้เลี้ยงนกเขา หรือ นกสวยงามในกรง.........แต่คำว่า “ข้าววัชพืช” เป็นชื่อที่ทางราชการกำหนด)

ดังกล่าวข้างต้นแล้วว่า ปัจจุบันนี้ยังไม่มีสารเคมีใดในโลกสามารถกำจัดข้าววัชพืชโดยเฉพาะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์


ลักษณะเด่นของข้าววัชพืชในแปลงนาข้าว :
- งอกหลังต้นข้าว (นาหว่าน) 8-10 วัน แต่เจริญเติบโตเร็วกว่าต้นข้าวแล้วเป็นต้นแก่มีเมล็ดขยายพันธุ์ได้ก่อนต้นข้าว หรือ เกิดทีหลังแต่แก่ก่อน
- สายพันธุ์เดียวกันแต่เมล็ดพันธุ์บางเมล็ดอยู่ได้นาน (1-12 ปี)โดยไม่เสื่อมความงอกในขณะที่บางเมล็ดงอกได้เร็ว หรือ พักตัว/ไม่พักตัว....พักตัว
นาน/พักตัวไม่นาน
- ไม่มีโรคและแมลงศัตรูหรือมีน้อยมาก
- เปอร์เซ็นต์ความงอกสูงมาก แม้เมล็ดที่ยังแก่ไม่จัดก็สามารถงอได้
- ปรับตัวให้ต่ำกว่าหรือสูงเท่ากับต้นข้าวเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกำจัดได้ดี
- จากเมล็ดข้าววัชพืช 1 เมล็ด ในนาข้าวรุ่นที่ 1 ขยายพันธุ์ต่อเนื่องถึงทำนารุ่นที่ 6 จะมีเมล็ดมากถึง 31,250,000,000 เมล็ด


วิธีกำจัดข้าววัชพืช :
- ล่อให้งอกแล้วย่ำทำลายด้วยวิธีย่ำเทือก ย่ำซ้ำหลายๆรอบเพื่อกำจัดวงรอบหรือวัฏจักชีวิต
- เปลี่ยนจากการทำนาหว่านมาเป็นนาดำ ทั้งนี้ นาดำ 1 รุ่น กำจัดข้าววัชพืชได้กว่า 90 % จากนั้นใช้วิธีถอนด้วยมือก็จะทำให้ต้นข้าววัชพืชหมดไป
จากแปลงนาได้
- ถอนด้วยมือ (นาดำทำได้ง่ายกว่านาหว่าน)
- ป้องกันเมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่จากแหล่งภายนอก เช่น เมล็ดพันธุ์ รถเกี่ยว และจากแปลงข้างเคียง




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©