กังหันลม แนวคิดผลิตไฟฟ้าใช้เอง...

[kimzagass]

กังหันลม แนวคิดผลิตไฟฟ้าใช้เอง...
.
.
.
.





http://www.google.co.th/imgres?imgurl=https://lh5.googleusercontent.com/-cSmVWX1HsMc/TopMbM6iTaI/AAAAAAAAS3Q/gkFsCuJBWTc/20110921-02.jpg&imgrefurl=http://natee2007.thaiza.com/blog_view.php%3Fblog_id%3D169833&usg=__ZuXnXxvor7HQj1pVsojv0uX0RAg=&h=639&w=479&sz=65&hl=th&start=80&sig2=-q1XBqgFvJWgc1NPF6NMdQ&zoom=1&tbnid=MxGxPguXBeaNXM:&tbnh=137&tbnw=103&ei=_XMFT_fCA8bWrQfQirHRDw&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B1%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259C%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%259F%25E0%25B8%259F%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2582%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2581%26start%3D60%26hl%3Dth%26sa%3DN%26tbm%3Disch%26prmd%3Divns&itbs=1

[kimzagass]

กังหันลมแนวแกนตั้ง (Vertical Axis Turbine (VAWT))


เป็นกังหันลมที่มีแกนหมุนและใบพัดตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของลมในแนวราบ ซึ่งทำ
ให้สามารถรับลมในแนวราบได้ทุกทิศทาง มีเพียง 2 แบบ คือ

- กังหันลมแดร์เรียส (Darrieus) ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในประเทศฝรั่งเศส และ
- กังหันลมซาโวเนียส (Savonius) ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นครั้งแรกในประเทศฟินแลนด์

กังหันลมแบบแกนตั้งมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานต่ำ มีข้อจำกัดในการ
ขยายให้มีขนาดใหญ่และการยกชุดใบพัดเพื่อรับแรงลม การพัฒนาจึงอยู่ในวงจำกัด
และมีความไม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการใช้งานกังหันลมแบบแกนตั้งน้อยมาก




กังหันลม Savonius





กังหันลม Darrieus





กังหันลม Cycrotor





กังหันลม Giromill




http://www.dede.go.th/dede/index.php?option=com_content&view=article&id=98%3A2010-05-04-10-46-05&catid=54%3A2010-04-06-09-11-58&Itemid=68&lang=en

[kimzagass]

กังหันลมแนวแกนนอน


กังหันลมแนวแกนนอน (Horizontal Axis Turbine (HAWT)) เป็นกังหันลมที่มี
แกนหมุนขนานกับทิศทางของลมโดยมีใบพัดเป็นตัวตั้งฉากรับแรงลม ได้แก่

- กังหันลมวินด์มิลล์ (Windmills)
- กังหันลมใบเสื่อลำแพน
- กังหันลมชนิดหลายใบพัดสำหรับสูบน้ำ
- กังหันลมชนิด 1, 2, 3, 4 หรือ 6 ใบพัดสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้า

ซึ่งกังหันลมผลิตไฟฟ้าชนิด 3 ใบพัดได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีการใช้งาน
มากที่สุดในปัจจุบันเนื่องจากมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานสูง




กังหันลม Windmill




กังหันลมฉุดน้ำใบเสื่อลำแพน




http://www.dede.go.th/dede/index.php?option=com_content&view=article&id=99%3A2010-05-04-10-53-28&catid=54%3A2010-04-06-09-11-58&Itemid=68&lang=en

[kimzagass]

กังหันลมแบบระหัดฉุดน้ำของคนไทยโบราณ


การใช้พลังงานลมเพื่อฉุดน้ำจากที่ต่ำมาใช้ในพื้นที่สูงในประเทศไทยนั้น ได้มีการใช้มาเป็นเวลานานแล้วและยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน
พบเห็นได้จากการใช้กังหันลมฉุดน้ำเพื่อทำนาเกลือ กังหันลมแบบระหัดฉุดน้ำเป็นการประดิษฐ์คิดค้นขึ้นด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านใน
สมัยโบราณของไทย เพื่อใช้ในนาข้าว นาเกลือและนากุ้ง เช่นเดียวกันกับการประดิษฐ์กังหันลมวินด์มิลล์ (Windmills) เพื่อฉุด
น้ำและใช้แรงกลช่วยในการแปรผลิตผลทางการเกษตรของชาวยุโรป วัสดุที่ใช้ประดิษฐ์กังหันลมแบบระหัดฉุดน้ำ เป็นวัสดุที่
สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น ราคาถูกและมีความเหมาะสมต่อการใช้งานตามสภาพพื้นที่ภูมิประเทศ ใบพัดกังหันลมปกติจะมีจำนวน
6 ใบพัด วัสดุที่ใช้ทำใบกังหันลมจะทำมาจากเสื่อลำแพนหรือผ้าใบ โดยตัวโครงเสา รางน้ำ และใบระหัด จะทำจากไม้เนื้อแข็งซึ่งมี
ความทนทานต่อน้ำเค็ม สามารถใช้งานได้ยาวนาน กังหันลมแบบระหัดฉุดน้ำใช้ความเร็วลมตั้งแต่ 2.5 เมตร/วินาที ขึ้นไปในการหมุน
ใบพัดกังหันลม หากมีลมแรงมากไปก็สามารถปรับม้วนใบเก็บให้เหลือสำหรับรับแรงลมเพียง 3 ใบ เพื่อให้มีความเหมาะสมสำหรับการ
ใช้งาน เมื่อไม่ต้องการใช้งานก็ม้วนใบเก็บทั้ง 6 ใบ

ส่วนประกอบที่สำคัญของกังหันลมแบบระหัดฉุดน้ำ
1. ส่วนของใบพัด ก้านใบทำจากไม้ยึดติดกับแกนหมุน ใบรับลมทำจากเสื่อลำแพนหรือผ้าใบ ปัจจุบันมีการประยุกต์ใช้แผ่นพลาสติก
มีจำนวน 6 ใบ แกนหมุนตั้งในแนวนอนอยู่บนเสาไม้

2. เสาของกังหันลม ทำจากไม้จำนวน 2 ต้น ปักไว้เป็นคู่เพื่อรองรับแกนหมุน

3. สายพานขับแกนเพลา ทำจากเชือกที่มีความเหนียวและทนต่อแรงเสียดสี ทำหน้าที่ถ่ายแรงจากการหมุนของแกนหมุนไปยังแกน
เพลาให้หมุนตามเพื่อใช้ฉุดระหัด

4. แกนเพลา ทำจากเหล็กหรือไม้กลม วางอยู่บนเสาไม้คู่เหนือพื้นดินที่พอเหมาะ มีซี่ไม้ลักษณะคล้ายเฟืองยึดติดกลางแกนเพลา
เพื่อขับหมุนฉุดแผ่นระหัด

5. ส่วนของรางน้ำและระหัด ทำจากไม้ ลักษณะรางน้ำเป็นกล่องรางไม้ตัวยู (u) หงายขึ้น พาดเฉียงระหว่างท้องน้ำกับพื้นนาเกลือ
แล้วใช้ไม้แผ่นขนาดเท่าหน้าตัด ของกล่องรางน้ำทำระหัดเรียงต่อกันเป็นซี่ๆ ด้วยเชือกหรือโซ่ห่างกันพอประมาณเพื่อกักเก็บและ
ฉุดน้ำเคลื่อนตัวจากที่ต่ำ ขึ้นที่สูง



เมื่อปี พ.ศ. 2524 ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานลมในประเทศไทยได้ประเมินการใช้งานกังหันลมแบบระหัด ฉุดน้ำที่มีใบพัดทำด้วยไม้ ที่
ใช้ในนาข้าวมีจำนวนประมาณ 2,000 ชุด และกังหันลมแบบระหัดฉุดน้ำที่มีใบพัดทำด้วยเสื่อลำแพนหรือแบบผ้าใบ ที่ใช้ในนาเกลือ
หรือนากุ้งมีจำนวนประมาณ 3,000 ชุด ต่อมาได้พบว่าจำนวนกังหันลมดังกล่าวลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีการเปลี่ยน แปลงจาก
การพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมเป็นอุตสาหกรรม และการเข้ามาแทนที่ของเครื่องยนต์สูบน้ำ ในปี พ.ศ. 2531 มีการสำรวจจำนวนกังหัน
ลมเฉพาะในบริเวณ 20 ตารางกิโลเมตรของจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงครามพบว่ามีกังหันลมเหลืออยู่ จำนวน 667 ชุด ในปัจจุบัน
จำนวนกังหันลมเหลืออยู่น้อยมาก คงพบเห็นได้ในบริเวณนาเกลือข้างถนนตามทางหลวงหมายเลข 35 รอยต่อของพื้นที่จังหวัดสมุทร
สาครและสมุทรสงคราม กังหันลมดังกล่าวถือได้ว่าเป็นชนิดดั้งเดิมจากภูมิปัญญาชาวบ้านของคนไทย โบราณ ที่สามารถใช้พลังงานลมทด
แทนพลังงานไฟฟ้าเพื่อสูบน้ำได้เป็นอย่างดี ในอนาคตคงหาดูได้ยากและอาจสูญหายหากไม่มีการอนุรักษ์ไว้



กังหัน ลมใบเสื่อลำแพฉุดน้ำเข้านาเกลือ




รางและระหัดไม้ฉุดน้ำเข้านาเกลือ




http://www.dede.go.th/dede/index.php?option=com_content&view=article&id=100%3A2010-05-04-11-06-47&catid=54%3A2010-04-06-09-11-58&Itemid=68&lang=en

[teeen2005]

สวัสดีครับลุงคิม

ผมเป็นสมาชิคใหม่ ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเรื่องกังหันลมน่ะครับ แต่การที่จะได้พลังงานไฟฟ้ามาจากพลังงานลมก็ต้องมี 3 ส่วน

1. กังหันลม
2. DC-DC Converter สำหรับชาร์แบต DC Motor + inverter (DC-AC) สำหรับ หลอดพลูออเรสเซ่น หรือพวกใช้ไฟ AC
3. แบต 12V Ah


โดยหลักการ แรงดันไฟฟ้าจากกังหันลมจะมีแรงดันไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับแรงลม (ต้องทดสอบจากสถานที่จริงน่ะครับ) กังหันลมจะให้แรงดัน ACแต่เราต้องแปลงมาเป็น DC แต่ก็ยังชาร์แบตไม่ได้น่ะครับ (ชาร์ตได้แต่แบตจะเสื่อมเร็ว ดูข้อมูลแบตน่ะครับ)

โดยจะเอาVDC ที่ได้มาเข้า DC-DC Converter มีหลายชนิดน่ะครับ แต่ที่ใช้กันและง่าย คือ BUCK-Boot Converter (แรงดันด้านเข้าจะตก ขึ้นก็จะได้แรงดันด้านออกคงที่) โดยหลักกการของ BUCK-Boot Converter คือ แรงดันช่วงย่าน เช่นแรงดันด้านเข้า VMin-VMax จะทำงานช่วงนี้ และแรงดันด้านออกจะเอาไปชาร์ตแบต

ชุดบอร์ดควบคุมวงจร DC-DC Converter ทำยากสำหรับเกษตรกร แต่ง่ายสำหรับพวกช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิค

การที่จะทำก็ยาก เพราะไม่มีเครื่องมือ ต้องคำนวน สุดท้ายซื้อเขาดีกว่า (แต่ต้องดูแรงดันด้านเข้า ให้เหมาะสมกับกังหันลมของเรา)

หมายเหตุ : AC =ไฟฟ้ากระแสสลับ, DC = ไฟฟ้ากระแสตรง, VAC = แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ, VDC = แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง.



กังหันลมผลิตไฟฟ้า
http://www.youtube.com/results?search_query=%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2&oq=%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%99&gs_l=youtube-reduced.3.1.0l4.8451.1332643.0.1335021.14.7.5.2.2.0.132.696.5j2.7.0...0.0...1ac.1.LZ4L-bxOlSA[/code]



.

[kimzagass]

หลักเบื้องต้นในการคิด :

- หมู่บ้านติดทะเล มีลมจากทะเล ทั้งลมสูง (ระดับยอดเขา) และลมต่ำ (ระดับยอดไม้) พัด เข้า-ออก ตลอด 24 ชม.
- รถทัวร์ขนาดใหญ่ ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นมาเอง สร้างประแสไฟฟ้าสำหรับ หลอดไฟ (นีออน สปอตไลท์ ไฟแว็บๆ ฯลฯ) เครื่องขยายเสียง สเตอริโอ ทีวี. เปิดพร้อมกันทั้งคันรถ ปริมาณเหลือเฟือ



จากหลักเบื้องต้นในการคิดนี้ ณ บ้านที่มีลมทะเลตลอด 24 ชม.นั้นจะผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นมาบ้าง โดย...

- ผลิตกระแสไฟฟ้า เพียงใช้ในบ้านตัวเองบ้านเดียว เป็นหลัก
- สร้างกังหันลมสำหรับปั่นตัวกำเนิดกระแสไฟฟ้า ขนาดใหญ่เท่าที่จำเป็นต้องใช้
- ใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์ ตัวผลิตกระแสไฟฟ้า ตัวควบคุมระบบ เครื่องใช้ไฟฟ้า (แสง เสียง) ทุกอย่างแบบในรถทัวร์ ยกมาทั้งชุด
- ว่าจ้างช่างเดินไฟรถ ติดตั้งอุปกรณ์ จากอู่ซ่อมสร้างรถทัวร์


หมายเหตุ :
- หาซื้ออุปกรณ์ประเภทมือสอง (บ้านหม้อ เชียงกงรังสิต อู่รถ ฯลฯ)
- ใช้ช่างจากอู่รถที่มีประสบการณ์ตรงเพราะทำกับมือ ดีกว่าช่างวิศวะปริญญาที่เก่งแต่ตำรา นกแก้วนกขุนทอง....รู้แต่ทำไม่ไม่เป็น และไม่มีประสบการณ์ตรง



ประสบการณ์ตรง ที่ไร่กล้อมแกล้ม (ก....ทำกับมือ) :

1) สปริงเกอร์
วิศวะน้ำ ป.โท : ลุงครับ ผมชื่อ....จบวิศวะกรน้ำ ปริญญาโทจาก.....ครับ
กะเหรี่ยงลุงคิม : (ส่งหางตามองหน้าแว้บนึง ก.ไม่ได้ถาม แล้วไม่คิดจะถามด้วย) ครับ

วิศวะน้ำ ป.โท : สปริงเกอร์นี่จะ WORK หรือครับ ?
กะเหรี่ยงลุงคิม : คอยดู

วิศวะน้ำ ป.โท : แรงดันน้ำที่นี่กี่บาร์ครับ ?
กะเหรี่ยงลุงคิม : ไม่รู้ซิ ไม่เคยวัด แล้วก็ไม่รู้จะวัดไปทำไม

วิศวะน้ำ ป.โท : แล้วหัวสปริงเกอร์รุ่นนี้ พ่นน้ำได้กี่ลิตรต่อชั่วโมงครับ ?
กะเหรี่ยงลุงคิม : ก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน เพราะไม่รู้จะรู้ไปทำไม

วิศวะน้ำ ป.โท : คือว่า เราจะได้คุมปริมาณน้ำ มากหรือน้อย ตามต้องการไงครับ
กะเหรี่ยงลุงคิม : งั้นเหรอ แรงดันกี่บาร์ถ้าน้ำแรงถือว่าใช้ได้ ส่วนปริมาณน้ำถ้าดินเปียกพอแล้วก็ปิด ถ้าไม่ปิดน้ำมากเกินรากเน่า เปียกยังไม่พอก็เปิดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้น้ำบนดิน ในดิน ตามความต้องการของต้นไม้ แค่นี้ก็น่าจะพอมั้ง....

วิศวะน้ำ ป.โท : (เงียบ....พุ่งสายตาจ้องไปที่หัวสปริงเกอร์เหนือหลักแก้วมังกร ที่หัวสปริงเกอร์สูงจากพื้นดินราว 3 ม.)
กะเหรี่ยงลุงคิม : (นึกในใจ วิศวะปริญญาโทคนนี้คงเคยเห็นแต่หัวสปริงเกอร์ที่โคนต้น สูงจากพื้นแค่ 30-50 ซม. ..... ไม่พูด แต่มือหมุนวาวล์ปล่อยน้ำ)


วิศวะน้ำ ป.โท : (กวาดสายตามองหัวสปริงเกอร์ 50 หัว ในโซนแก้วมังกรพ่นน้ำออกมา รัศมีพ่นน้ำเท่ากันทุกหัว แล้วทำเสียงในลำคอ) อื้อฮือ....
กะเหรี่ยงลุงคิม : WORK มั้ย......?

วิศวะน้ำ ป.โท : ลุงไปเรียนมาจากไหนครับ ?
กะเหรี่ยงลุงคิม : ไม่ได้เรียนเพราะไม่มีเวลา ไม่เคยเห็นเพราะไม่เคยมีใครทำ ที่นี่ใช้หลัก ประสบการณ์นำ วิชาการเสริม ทำแบบภูมิปัญญาพื้นบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชาการรองรับยืนยัน


วิศวะน้ำ ป.โท : (เสียงแผ่วลง) WORK ครับ
กะเหรี่ยงลุงคิม : คอยดู ลดรัศมีพ่นน้ำที่หัวสปริงเกอร์

ค่อยๆปิดวาวล์ลง พลันน้ำที่หัวสปริงเกอร์จากรัศมีพ่นน้ำ 4 ม. จำนวน 50 หัวก็ลดลง จากรัศมี 4 ม.มาที่ 3 ม.แล้วมาที่ 2 ม. กระทั่งเหลือ 1 ม. เท่ากัน เสมอกันทั้ง 50 หัว ด้วยแรงดันน้ำ มาก/น้อย จากวาวล์ที่ค่อยๆปิด น้ำที่เคยพ่นออกไปกระจายตกลงพื้นดินทุกตารางนิ้ว แคบลงเหลือแค่บริเวณหัวหลัก หลักใครหลักมัน


วิศวะน้ำ ป.โท : ลุงทำไงน่ะ ?
กะเหรี่ยงลุงคิม : (จ้องหน้า แสดงว่า ม...ไม่รู้ เพราะไม่มีในตำราไทย แต่มีในตำราฝรั่ง เกมส์นี้ ไม่บอก) ก็ทำแบบนี้นี่แหละ แบบกะเหรี่ยงธรรมดาๆ

วิศวะน้ำ ป.โท : (เงียบกริ๊บ)
กะเหรี่ยงลุงคิม : โซนนี้กะเหรี่ยวคอยาว ยังมีโซนกะเหรี่ยงหน้าง้ำ โซนกะเหรี่ยงหน้ามืด โซนกะเหรี่ยงไฮเทค โซนกะเหรี่ยงดำดินเหมือนขอม อีกต่างหาก


วิศวะน้ำ ป.โท : ขอดูหน่อยซี่ลุง
กะเหรี่ยงลุงคิม : เดินดูเองเถอะ ผมมีงานด่วน



2) โมลิเน็กซ์ยักษ์

3) โมลิเน็กซ์น้อย

4) หม้อปุ๋ยเวนจูรี่ จาก 30,000 (MADE IN USA โรงงานอยู่บางปู) เหลือ 300

5) สปริงเกอร์ล้างตัวเอง ไม่ใช้ใช้กรอง


ถ้ามี เวลา + อารมย์ จะเขียนให้อ่าน



ไม่ใช่ไม่มีเงินซื้อเทคโนโลยีของนอก แต่เป้าประสงค์จริงๆต้องการประกาศว่า เราก็ทำได้ อยากให้ชาวบ้านทำเองบ้าง

สปริงเกอร์ระบบอิสราเอล ไร่ละ 100,000 แต่ระบบกะเหรี่ยง ไร่ละ 5,000 อุปกรณ์ทุกชิ้นหาซื้อในต่างจังหวัด อำเภอเล็กๆ เครื่องบินไม่ผ่านด้วย

ทำให้ชาวบ้านเห็นว่า ไม่ต้องเรียนสูง ไม่ได้ไฮเทค แบบนี้ใครๆก็ทำได้ ถ้าใจคุณเปิด




หากจะทำตามต้องระวัง เขาจะหาว่าบ้านะ.....ปล่อยตาคิมบ้าไปคนเดียว ไม่เคยได้ยินเหรอ


โลกทัศน์ของคนระดับ WEBMASTER ยังบอกว่า "สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ....." ลุงคิมตอบ (ในใจ) งั้นก็ไปลากสายยางเอา ..... สวน 20 ไร่ คนดีใช้เวลา 3 วัน แต่คนบ้าใช้เวลา 3 ชั่วโมง .... ลากสายยางก็ต้องใช้ปั๊ม คิดง่ายๆ 3 วันค่าไฟฟ้าเท่าไหร่ กับสปริงเกอร์ใช้ปั๊มเหมือนกัน แล้ว 3 ชั่วโมงค่าไฟฟ้าเท่าไหร่ ต่อการทำงาน 1 ครั้ง .... ฮ่า ฮ่า ฮ่า คนบ้าไม่มีหนี้ คนดีหนี้เต็มบ้าน




.

[teeen2005]

ต้องขอขอบคุณลุงคิมมากครับ ที่เอาเรื่องหม้อปุ๋ย ระบบน้ำ และเรื่องต่างๆ จุดประกายให้ผมลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอก อย่างเช่น คนงาน (ที่เหมือนจะไม่ใช่คนงาน ออกความเห็นทุกเรื่องที่ให้ทำ) และเสียเวลาน้อย ได้ทำอะไรมากขึ้น

เมื่อก่อนมีสวนแค่ 2 งานใช้เวลารดน่ำ 2 ชม. (แบบเพลิน) แต่บางครั้งมีงานอื่นรออยู่ก็ไม่ได้ทำ ผมได้ความรู้ใหม่ๆจากเวบนี้มากเลยครับ



.

[kimzagass]

ถ้าไม่ใช่ "เวรกรรม" ก็อาจเป็น "อาถรรย์" ที่ทำให้ลุงคิมต่างจากคนอื่น

เวรกรรม สัมผัสคนมาเป็นหมื่นเป็นแสน ขอคบแค่ "คนเคยรู้จักกัน" ยังไม่ได้.....
อาถรรย์ไร่กล้อมแกล้ม "มาแล้วไม่มาอีก-ไปแล้วไม่ไปอีก".....


ทำอะไรแล้วชอบ "ความล้มเหลว" มากกว่า "ความสำเร็จ" เพราะในความล้มเหลวมีสิ่งที่ทำให้เราค้นหาคำตอบ ล้มเหลวเพราะอะไร หรือ อะไรที่ทำให้ล้มเหลว รู้แล้วจะได้เก็บไว้สอนคน เช่น ไม้อย่างเดียวกัน อยู่เคียงกัน ต้นหนึ่งโต ต้นหนึ่งไม่โต ต้นที่โตถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อปลูกแล้วโตเพราะธรรมชาติช่วย แต่ต้นที่ไม่โต ทำไมจึงไม่โต ทำไมธรรมชาติไม่ช่วย ต้องค้นหาสาเหตุ และวิธีแก้ไข บางสาเหตุแก้ไขได้ บางสาเหตุแก้ไขไม่ได้เพราะจะทำให้อย่างอื่นเสียหายไปด้วย

ความล้มเหลวบนความสำเร็จ หรือ ความสำเร็จบนความล้มเหลว ทำให้ค้นพบสัจจะธรรมในธรรชาติ หากอยากปลูกต้นไม้ ต้องคิดหนัก "เรารักเขาแต่เขาไม่รักเรา หรือ เราไม่รักเขาแต่เขารักเรา" เช่น เรารักมะยงชิดแต่มะยงชิดไม่รักเรา เราไม่รักกระท้อนแต่กระท้อนรักเรา กระท้อนกับมะยงชิดอยู่เคียงกัน ปลูกพร้อมกัน บำรุงอย่างเดียวกัน อายุ 6 ปี มะยงชิดโคนต้นใหญ่เท่าข้อมือเด็ก สูง 1.5 ม. แต่กระท้อนโคนต้นใหญ่เท่าโคนขาคนอ้วน สูง 5.5 ม. คำตอบก็คือ สภาพดินไม่เหมาะต่อมะยงชิด แต่เหมาะกับกระท้อน นั่นเอง นี่แหละธรรมชาติ ที่ไม่อาจแก้ไขได้ รู้ทั้งรู้แต่ก็แก้ไม่ไหวเพราะไม่คุ้มค่า สุดท้ายจึงต้องทำใจ หยุดเพิ่มมะยงชิด-เพิ่้มกระท้อน

เคยคุยกับบางสวนขนาดเดียวกันที่ไม้โตอายุ 20-30-40 ปีแล้วว่า เดือนแรก ปีแรก ไม้พวกนี้มีสภาพเป็นอย่างไร กว่าจะโตมาถึงปีนี้ได้ ต้องผ่านอุปสรรคอะไรบ้าง คำตอบคือ ตายไปกว่าครึ่งค่อน ไม้ต้นที่ตั้งใจปลูก-ตาย แต่ต้นที่ไม่ได้ตั้งใจปลูก-โต ต้นที่โตให้เห็นได้ ณ วันนี้เพราะธรรมชาติมากกว่าฝีมือคน

จึงสอนคน (กล้าสอน เพราะคนที่มาให้สอนอายุน้อยกว่าเรา) ก่อนลงมือทำอะไร ให้ศึกษาส่วนที่จะเป็นปัญหาก่อน ศึกษาให้ละเอียด ครบทุกมิติ ทุกมุม แล้วป้องกันปัญหาไม่ให้เกิด เมื่อลงมือทำไปแล้วไม่เกิดปัญหาเพราะป้องกันไว้ก่อนแล้วย่อมสำเร็จเป็นธรรมดา ตรงกันข้าม หากทำแล้วเกิดแต่ปัญหา ปัญหา ปัญหา ปัญหาโลกแตก ปัญหาเรื่องไม่เป็นเรื่อง เดี๋ยวก็ต๊อแต๊ สุดท้ายก็ล้มเหลว ไม่เลิกก็ขาดทุน

ลุงคิมไม่ได้หวังรายได้จากผลผลิตในไร่กล้อมแกล้ม ไม่งั้นคงไม่ปลูกไม้ผลตั้ง 20-30 ชนิด บางชนิดปลูกแค่ต้นเดียว อย่างดีก็สองต้น ปลูกมะม่วง 20 สายพันธุ์ บางสายพันธุ์มีต้นเดียว มันจะเป็นเงินเป็นทองได้อย่างไร แต่ปลูกไว้ดู ไว้ศึกษา ปลูกไว้สอนคน นี่ไง ก....ทำกับมือ

ไว้เป็นสวนมรดกเจ้าคุณตาให้กับหลาน ไม่งั้นจะกล้าสอนคนรึ "แล้วลูกหลานจะทำยังไง....?"


เฮ่ออออ .... อยู่บ้าน นอนห้องแอร์ อาบน้ำอุ่น แล้วทำไมต้องมาเหนื่อยกับงานสวน ต้องมาให้เขาหาว่า "บ้า" ด้วย.....ไม่ใช่ "กรรม" แล้วใช่อะไร


.

[toodtoo]

สวัสดีครับลุงคิม และคุณ teeen2005(ชื่อคุณนี่ ถ้าออกเสียงภาษาไทย ใช้ ท.ทหาร หรือ ต. เต่าครับ)

ผมไปเจอรูปกังหันลม 1 อัน ลองดูรูปนะครับ



ตามรูปบอกว่า กังหันลมที่วัดพยัคฆาราม สุพรรณบุรี ปั่นใช้ไฟฟ้าได้ทั้งโรงเรียน โดย คุณประจวบ บริษัท วิน วิน เทค จำกัด ไม่ทราบว่ายังอยู่ และยังใช้งานอยู่หรือเปล่าครับ

และ @ คุณ teeen2005 ที่คุณบอกว่า ชุดบอร์ดควบคุมวงจร DC-DC Converter ทำยากสำหรับเกษตรกร

คุณเคยเห็นหรือเคยใช้ ที่ช๊อตปลาจาก แบตเตอรี่ 12 โวล์ทมั๊ยครับ





แบตฯ ตัวนี้ 12 V 36 W/Cell เมื่อเชื่อมต่อกับ ตัว Converter ให้กระแสออกมาเป็น ไฟ AC หรือไฟสลับแล้ว จะกลายเป็นไฟ AC 220 V เสียบสายเอาไป ช๊อตปลาในบ่อ ห้วย หนอง คลอง บึง ได้ กระแสขนาดนี้ถูกคน ตาย ครับ
ไอ้เจ้าชุด ช๊อตปลาตัวนี้ สมัยก่อนเค้าแค่แอบเอาสายไฟเสียบใต้หม้อมิเตอร์ไฟฟ้า ต้องลากสายไฟกันยาว ถ้าเป็นที่ไม่มีไฟฟ้า เห็นปลาก็ทำอะไรไม่ได้

ต่อมา เกษตรกรพื้นบ้านจบแค่ ป.4 เค้าทำที่ช๊อตปลาจากแบต ฯ 12 โวล์ทใช้มานานแล้วครับ หลักการก็อันเดียวกับตัวแปลงไฟจากกังหันลมมาผลิตไฟฟ้าใช้นั่นแหละ และกลางคืน ถ้าเดินผ่านแปลงนาที่มีหลอดไฟสีแดงติดเอาไว้รอบแปลงนาละก็ อย่าเดินผ่านเป็นอันขาด เขาห้ามผ่าน ขืนผ่านเข้าไปก็ไปวัดได้แลย ซึ่งก็ใช้การแปลงไฟจากแบต 12 โวล์ทเช่นกัน

นอกจากนี้ ตัวแปลงไฟ DC เป็น ไฟ AC ที่เห็นชัดคือ ในรถยนต์ คุณคงเคยนั่งรถ นครชัยแอร์นะครับ สุดยอดอลังการ ซูเปอร์เดอลุกซ์ ยังกับนั่งเครื่องบิน ตรงหน้าทุกที่นั่ง มีคอมพิวเตอร์พร้อมหูฟัง จะดูหนังฟังเพลงเล่นเกมส์ หรือต่อเน็ตยังได้

หรือไม่ก็เสียบไฟ DC จากที่เขี่ยบุหรี่ในรถ ต่อเข้าตัว Converter ก็จะกลายเป็นไฟ 220 โวล์ท ....
มาดูรถป้ายแดงคันนี้กันครับ



เป็นร้านอาหารเคลื่อนไปได้ทุกที่ มีเครื่องใช้ไฟฟ้า หลายอย่าง เตาไมโครเวฟ มีหม้อจะต้ม ตุ๋น อุ่น อบ ทอด ทำได้ทุกอย่าง ใช้แบตเตอรี่ 2 ตัว เปลี่ยนไดชาร์จใหม่ให้ใหญ่ขึ้น ด้านซ้ายจะเห็นที่ฝาเปิดสามารถเสียบสายไฟต่อไปใช้งานอย่างอื่นได้อีก

กังหันลมดีหรือไม่ ดีครับ แต่เวลาไม่มีลม เบตเตอรี่จะเก็บไฟได้นานแค่ไหน กำลังหุงข้าว ไฟหมด ถ้าไม่มีเตาแกส จบเห่เลย

[teeen2005]

บางวงจรก็มีข้อจำกัด บางทีทำขึ้นเองมันแพง(แต่ได้ความรู้) เครื่องแปลงไฟเราก็ต้องซื้อราคาไม่แพงของจีนก็มีเยอะแถวบ้านหม้อ หรือคลองถม

ส่วนบนรถโดยสารขนาดใหญ่ นั้นเขาเป็นระบบที่ใช้กำลังไฟสูง ใช้กับแอมขยายสูง ก็มีครบครันน่ะครับ ก็อาจจะมองเป็นเรื่องๆไป สำหรับอะไร

ถ้าเรื่องการเกษตร ก็ต้องใช้พลังงานแบบผสมผสานน่ะครับ
-พลังงานหลัก= ไฟบ้าน
-พลังงานเสริม= โซลล่าเซลหรือกังหันลม ก็ใช้ได้ตอนมีลมหรือมีแสงแดด ไว้สำหรับปั๊มน้ำขึ้นแท้ง หรือชาร์ตแบต
-จากเครื่องปั่นไฟ

สำหรับเกษตรกรที่จะลดการซื้อ พึ่งปัจจัยภายนอกน้อยที่สุด ก็แบบอินทรีย์นำ เคมีเสริม ทางสายกลางดีที่สุดครับ ทุกเลือกเพื่อเหมาะสมกับตัวเอง และสถานที่

เครื่องช๊อตปลา ที่ชาวบ้านทำ Inverter(DC-AC) วงจรไม่เหมาะกับระบบโซล่าเซลล์หรือกังหันลมน่ะครับ
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=43596.80

http://www.isantumhome.com/thread-852-1-1.html