ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 19 SEP *ประวัติ ปุ๋ยอินทรีย์-ปุ๋ยเคมี,

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร รายการวิทยุ 19 SEP

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00) วันอาทิตย์

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

---------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (085) 127-94xx
ข้อความ : คุณตาครับ หม่องอ่านในเน็ต คุณตาพูดว่า ปุ๋ยเคมีกับปุ๋ยอินทรีย์ เข้ามาในประเทศไทยพร้อมกัน แต่ เกษตรกรไทย-นักวิชาการไทย-รัฐบาลไทย ไม่สนใจปุ๋ยอินทรีย์ สนใจและส่งเสริมแต่ปุ๋ยเคมี หม่องเกิดไม่ทันครับ คนรุ่นเก่า (แก่) ในบ้านก็ไม่มีใครให้คำ ตอบได้ จนหม่องกลายเป็นเด็กประหลาด จึงอยากให้คุณตาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังบ้าง ...รักคุณตาครับ

ตอบ :
- เจอเรื่องนี้ในเน็ต แล้วทำไมไม่ถามในเน็ต สมช.เน็ตจะได้รู้ด้วย เอาเถอะ จากเน็ตมาถามที่วิทยุก็ไปลงที่เน็ตเหมือนกัน .... ก่อนอื่น ตาขอชมว่าเก่งมาก กล้าคิด-กล้าพูด ในสิ่งที่ถูกต้อง มีเหตุมีผล ผู้ใหญ่ซะอีกปฏิเสธสิ่งที่ถูกต้อง ทำตัวเป็นคนไม่มีเหตุผล ... กรณีหนูหม่องต้องเรียกว่า “ลูกใครหว่า” ส่วนผู้ใหญ่นั่นก็ต้อง “พ่อใครหว่า” ว่ามั้ย

- ฟังเรื่องนี้แล้วมองดิน มองแล้วคิด คิดถึงอดีตที่ พ่อแม่ปู่ย่าตาทวดทำการเกษตรมา อาจจะย้อนกลับไปถึงยุคพระเจ้าฟีล่อโก๊ะล่อฝงก็ได้ ในอดีตไม่มีคำว่า “ปุ๋ยอินทรีย์-ปุ๋ยเคมี” หรอก ยังไม่มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมาพูดกันด้วยซ้ำ แล้วท่านเหล่าเพาะปลูกพืชหล่อเลี้ยงชีวิตได้อย่างไร ท่านใส่ปุ๋ยอินทรีย์ไหม ท่านไม่รู้จัก ท่านใส่ปุ๋ยเคมีไหม ท่านไม่รู้จักแล้วก็ไม่มีด้วย เพราะปุ๋ยเคมียังไม่เกิด จนกระทั่งยุคสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 อยากรู้สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดแล้วยุติเมื่อไร ให้ไปดูที่สุสานนานาชาติที่ จ.กาญจนบุรี .... ตอนที่สิ้นสงคราม โลกครั้งที่ 2 นี่แหละที่ทั้ง “ปุ๋ยอินทรีย์-ปุ๋ยเคมี” เข้ามาในประเทศไทยพร้อมๆกัน ... ปุ๋ยอินทรีย์นำเข้ามาโดยนักวิชาการระดับ ดร.จากอินทรีย์ ส่วนปุ๋ยเคมีนำเข้ามาโดยพ่อค้าจากประเทศตะวันตก อเมริกา ยุโรป เข้ามาแล้วก็ เผยแพร่-ส่งเสริม ให้เกษตรกรได้ใช้ทั้ง 2 อย่าง .... ปุ๋ยอินทรีย์ โดย ดร.จากอินเดีย ใช้เศษซากพืช-เศษซากสัตว์-จุลินทรีย์ ทุกอย่างในประเทศไทยเป็นวัสดุในการทำ ในขณะที่ปุ๋ยเคมีมาเหมือนขี่ม้าขาว รูปร่าง-ยี่ห้อ-ภาษา เป็นของต่างประเทศทั้งหมดตั้งหัวจรดฝ่าเท้า ประกอบกับประสิทธิภาพหลังการใช้ด้วย คราวนี้เข้าล้อคคนไทย “เห่อของนอก” ทันที

– คราวนี้มา คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ระหว่างปุ๋ยอินทรีย์กับปุ๋ยเคมี ว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไร เพราะเหตุไรจึงทำให้คนเกษตกรไทยลุ่มหลงไปกับปุ๋ยเคมี จน หายใจ-ไอ-จาม-ผายลม เป็นปุ๋ยเคมีไปเสียทั้งหมด.... เหตุผลเพราะ :

** ดินที่มีมาแต่โบราณมี ปุ๋ยอินทรีย์ และ จุลินทรีย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ครั้นเมื่อใส่ “ปุ๋ยเคมี” ลงไป ดินจึงตอบสนองเป็นอย่างดี ส่งผลให้ต้นพืชเจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตดี รวดเร็วทันตาทันใจ ในบัดดล

** ดินที่มีมาแต่โบราณมี ปุ๋ยอินทรีย์ และ จุลินทรีย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ครั้นใส่ “ปุ๋ยอินทรีย์” ลงไป แม้ต้นไม้ต้นพืชจะเจริญเติบโต ให้ผลผลิตดีขึ้น แต่ผลที่ออกมาไม่ชัดเจน ชักช้า ยืดยาด ไม้ทันใจ ไม่สะใจ

(..... กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานราชการไทยประเภทกระทรวง ได้ รับการสถาปนาตั้งแต่ พ.ศ. 2435 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว มีการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่อง จากกระทรวงเกษตรพานิชการ มาเป็นกระ ทรวงเกษตราธิการ กระทรวงเกษตรพาณิชยการ กระทรวงเศรษฐการ กระทรวงเกษตรา ธิการ กระทรวงเกษตร จนมาสู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปัจจุบัน....)

– กระทรวงที่รับผิดชอบเรื่องการเกษตร ตั้งมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 50 ปี แต่ไม่มีข้อมูลทางวิชาการด้าน “ปุ๋ยอินทรีย์” เลย ทุกอย่างปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม ตาม วัฒนธรรมประเพณี ตามธรรมชาติ ทั้งสิ้น กระทั่งสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 คืออีก 50 ปีต่อมา นักวิชาการ นักส่งเสริม จึงเริ่มตื่น (เน้นย้ำ ... ตื่น) เรื่องปุ๋ยเคมีกับปุ๋ยอินทรีย์ เริ่มมีการพูดถึง “ข้อดี-ข้อเสีย” ระหว่าง “ปุ๋ยเคมี กับ ปุ๋ยอินทรีย์” ขึ้นมาบ้าง .... ก็มีแต่ พูดพูดพูด ส่วนการปฏิบัติน้อยมากๆ เรียกว่า NATO (NO ACTION TALK ONLY) ไม่รู้เหมือนกันว่า เกรงใจใครหรือเปล่า

- ปัจจุบันแม้ว่าโลกจะไปถึงยุคโลกาภิวัตรแล้ว ก็ยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ยังไม่มีความรู้ระหว่าง “ปุ๋ยอินทรีย์ กับ ปุ๋ยเคมี” อย่างแท้จริง จึงพบวิธีทำเกษตรแบบ “อินทรีย์ตกขอบ” หรือไม่ก็ “เคมีบ้าเลือด” อยู่ไม่ใช่น้อย

@@ ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์ :
1. ช่วยปรับปรุงดินให้ดีขึ้น โดยเฉพาะคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของดิน เช่น ความโปร่ง ความร่วนซุย ความสามารถในการอุ้มน้ำ และธาตุอาหารพืชของดินดีขึ้น ข้อดีข้อนี้ปุ๋ยอิน ทรีย์ทำได้แต่ผู้เดียว ปุ๋ยเคมีไม่สามารถทำได้

2. อยู่ในดินได้นาน และค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารพืชอย่างช้าๆ
3. ส่งเสริมปุ๋ยเคมีให้เป็นประโยชน์แก่พืชอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี

@@ ข้อเสียของปุ๋ยอินทรีย์ :
1. มีปริมาณธาตุอาหารต่ำ
2. ใช้ระยะเวลานานกว่าจะปลดปล่อยธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ให้แก่พืช
3. ราคาแพงกว่าปุ๋ยเคมี เมื่อเทียบราคาหน่วยต่อหน่วยน้ำหนักธาตุอาหารพืช

@@ ข้อดีของปุ๋ยเคมี :
1. มีปริมาณธาตุอาหารต่อหน่วยน้ำหนักของปุ๋ยสูง ใช้เปริมาณเล็กน้อยก็พอ
2. ราคาถูกเมื่อคิดเป็นหน่วยน้ำหนักของธาตุอาหาร ประกอบกับการขนส่งและการเก็บรักษา
3. ให้ผลทางด้านธาตุอาหารเร็วกว่าปุ๋ยอินทรีย์


@@ ข้อเสียของปุ๋ยเคมี :
1. ปุ๋ยเคมีไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงสภาพทางฟิสิกส์ของดิน กล่าวคือ ไม่ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย เหมือนปุ๋ยอินทรีย์

2. ปุ๋ยไนโตรเจนในรูปของแอมโมเนียม ถ้าใช้ในปริมาณมากๆ และติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ดินเป็นกรดจัดเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องใช้ปูนช่วยแก้ความเป็นกรดของดิน

3. ผู้ใช้ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องปุ๋ยเคมีพอสมควร มิฉนั้นอาจมีผลเสียหายต่อพืช และต่อภาวะทางเศรษฐกิจ (ทำให้ขาดทุนได้)

http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?book=18&chap=8&page=t18-8-infodetail07.html



** ปุ๋ยเคมียังมีความสำคัญต่อการเพิ่มผลผลิตพืช ปุ๋ยอินทรีย์ก็มีความสำคัญต่อการปรับปรุงบำรุงดิน ดังนั้น การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ จึงน่าจะเป็นวิธีการบูรณาการปัจจัยการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่ง

http://it.doa.go.th/pibai/pibai/n11/v_6-july/rai.html

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (091) 038-9398-xx
ข้อความ : การลงมือทำนาด้วยตัวเอง ทำให้ผมไม่รู้จักว่า ยาฆ่าหนอน ยาฆ่าแมลง เป็นยากลุ่มใด มีชื่อทางการค้าว่าอย่างไร....

ตอบ :
- สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในทางการเกษตร ที่มีการจำหน่ายทางการค้า มีกว่า 1,000 ชนิด แต่ละชนิด (ชื่อสามัญ) แยกเป็นยี่ห้อ (ชื่อการค้า) อีกชนิดละ 1,000 ยี่ห้อ....ไหวเหรอ

1. กลุ่มสารเคมีกำจัดแมลง
1.1 กลุ่มออร์กาโนคลอไรน์
1.2 กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต
1.3 กลุ่มคาร์บาเมต
1.4 กลุ่มสารสังเคราะห์ไพรีทอย
2. สารป้องกันกำจัดวัชพืช
3. สารกำจัดเชื้อรา
4. สารกำจัดหนูและสัตว์แทะ

2. รูปแบบของสารเคมีกำจัดแมลง
2.1 แบบผงผสมน้ำ
2.2 แบบน้ำมัน
2.3 แบบน้ำเข้มข้น หรือน้ำไม่เข้มข้น
2.4 แบบน้ำเข้มข้นแขวนลอย หรือน้ำข้น
2.6 แบบผงละลายน้ำ
2.7 แบบผงฝุ่น
2.8 แบบเม็ด
2.9 แบบยู แอล วี

- ไปถามที่ร้านขายสารเคมี ทุกคำถามจะมีคำตอบ เว้นเสียแต่คนขายร้านนั้นไม่รู้....ขอดูแล้วถาม อันไหนชื่อสามัญ อันไหนชื่อการค้า

--------------------------------------------------------------------------------------------


.