ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 22 MAR

kimzagass

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 22 MAR

**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่ม
รายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

**********************************************************

จาก : (085) 284-41xx
ข้อความ : ข้าวหัวหงอกแก้ไขอย่างไร.....
ตอบ :
ประสบการณ์ตรง :
- ช่วงที่หนอนกอระบาดจะมีนกอีแอ่นถลาลมหรือแมลงปอ จำนวนมากบิบโฉบเหนือยอดข้าวเพื่อจับตัวแมลงแม่ผีเสื้อกิน
- ต้นข้าวที่ใบธงเหี่ยวเหลือง ถอนขึ้นมาแล้วผ่าดูภายในลำต้นจะพบหนอนตัวเล็กอยู่ในนั้น
- ใช้สารสกัดหัวกลอยสด ฉีดพ่น 2-3 ครั้ง ห่างกันวันเว้นวัน

แมลงแม่ผีเสื้อไม่ได้ทำลายต้นข้าวโดยตรง แต่จะอาศัยต้นข้าวเป็นแหล่งขยายเผ่าพันธุ์เท่านั้น เมื่อขับไล่แม่ผีเสื้อออกไปได้ก็จะไม่มีหนอนชุดใหม่เกิดขึ้นอีก

หนอนที่อยู่ภายในลำต้นข้าว ไม่มีสารเคมีหรือสารสมุนไพรใดเข้าไปกำจัดมันได้ ต้นข้าวที่มีหนอนเกิดขึ้นแล้วจะเสียไปตลอดชีวิต

แนวทางแก้ปัญหา คือ เมื่อมีสัญญานบอกเหตุจากนกอีแอ่นถลาลมหรือแมลงปอแล้ว ให้สำรวจแปลงแล้วรีบกำจัดแต่เนิ่นเท่านั้น

หนอนกอข้าว (rice stem borers, SB)

หนอนกอทำลายข้าวตั้งแต่ข้าวเล็กจนถึงระยะข้าวออกรวง ในประเทศไทยมีรายงานพบ 4 ชนิด คือ หนอนกอสีครีม หนอนกอแถบลาย หนอนกอแถบลายสีม่วง และหนอนกอสีชมพู

ลักษณะการทำลายและการระบาด
หนอนกอข้าวทั้ง 4 ชนิด ทำลายข้าวลักษณะเดียวกันโดยหลังหนอนฟักจากไข่จะเจาะเข้าทำลายกาบใบก่อน ทำให้กาบใบมีสีเหลืองหรือน้ำตาล ซึ่งจะเห็นเป็นอาการช้ำๆ เมื่อฉีกกาบใบดูจะพบตัวหนอน เมื่อหนอนโตขึ้นจะเข้ากัดกินส่วนของลำต้น ทำให้เกิดอาการใบเหี่ยวในระยะแรก ใบและยอดที่ถูกทำลายจะเหลืองในระยะต่อมา ซึ่งการทำลายในระยะข้าวแตกกอนี้ทำให้เกิดอาการ “ยอดเหี่ยว” (deadheart) ถ้าหนอนเข้าทำลายในระยะข้าวตั้งท้องหรือหลังจากข้าวออกรวงจะทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งรวง รวงข้าวมีสีขาวเรียกอาการนี้ว่า “ข้าวหัวหงอก” (whitehead)

ต้นข้าวยอดเหี่ยว .............................................. ข้าวหัวหงอก

หนอนกอข้าวเป็นแมลงศัตรูข้าวที่พบเป็นประจำในนาข้าว แต่มักจะไม่ทำความเสียหายข้าวลีบทั้งรวง รวงข้าวมีสีขาวเรียกอาการนี้ว่ารุนแรงเช่นเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล พบปริมาณมากในฤดูนาปรัง การทำลายจึงสูงกว่าฤดูนาปี ผีเสื้อหนอนกอข้าวจะเคลื่อนย้ายเข้าสู่แปลงนาเมื่อข้าวอายุระหว่าง 30-50 วัน การระบาดมากน้อยขึ้นกับสภาพแวดล้อมและฤดูการทำนาของสถานที่นั้นๆ สามารถเพิ่มปริมาณได้ 2-3 อายุขัยต่อฤดูปลูก

พืชอาหาร
ข้าว อ้อย ข้าวโพด ข้าวป่า หญ้าข้าวนก หญ้าตีนกา

การป้องกันกำจัด
1) เผาตอซังหลังการเก็บเกี่ยว ไขน้ำท่วมและไถดินเพื่อทำลายหนอนและดักแด้ของหนอนกอข้าวที่อยู่ตามตอซัง
2) ปลูกพืชอื่นเพื่อตัดวงจรชีวิตของหนอนกอข้าว ปลูกพืชหมุนเวียน
3) ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป ทำให้ใบข้าวงามหนอนกอชอบวางไข่
4) ใช้แสงไฟล่อตัวเต็มวัยและทำลาย
5) ไม่ใช้สารฆ่าแมลงชนิดเม็ดในนาข้าว เพื่อช่วยให้ศัตรูธรรมชาติพวกแตนเบียนไข่และแตนเบียนหนอนของหนอนกอข้าว สามารถควบคุมประชากรหนอนกอข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6) เมื่อพบอาการข้าวยอดเหี่ยวในระยะข้าวอายุ 3-4 สัปดาห์หลังหว่าน/ปักดำในระดับ 10-15 เปอร์เซ็นต์ ให้ใช้สารชนิดพ่นน้ำ เช่น คลอร์ไพริฟอส (ลอร์สแบน 20% อีซี) อัตรา 80 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วแปลงเพียงครั้งเดียว

สารเคมีที่ใช้ควบคุม
คาร์แทป 4 กิโลกรัม/ไร่
คาร์แทป+ไอโซโพรคาร์บ 3 กิโลกรัม/ไร่
คลอร์ไพรีฟอส 40 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร
คาร์โบซัลแฟน 80 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร

http://www.brrd.in.th/rkb/data_005/rice_xx2-05_bug05.html

------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (084) 729-51xx
ข้อความ : จะบำรุงมะม่วงแบบสะสมความสมบูรณ์ ควรให้ทางใบกี่วันต่อครั้ง และต้องทำอย่างอื่น
อีกไหม....มะม่วงกาญจนบุรี
ตอบ :
ใจคอจะเอาตัวเลขและสูตรสำเร็จในธรรมชาติให้ได้เลยเหรอ

ระยะ พักต้น-เตรียมต้น เอาซักเดือนละครั้ง หรือ 2 เดือน 3 ครั้ง ก็น่าจะพอมั้ง
ระยะมีผลอยู่บนต้น เอาซักอาทิตย์ละครั้ง นี่แหละสวย

หลักการให้ปุ๋ยแก่ต้นไม้ "ให้น้อย บ่อยครั้ง สม่ำเสมอ" เป็นไปได้ไหม จังหวะที่ให้น้ำ ให้บวก ปุ๋ย/ฮอร์โมน อะไรซักอย่างไปด้วย

ติดสปริงเกอร์ 2 ระบบ ให้ทางรากกับทางใบ ต้องการให้ทางใบก็เปิดทางใบปิดทางราก ต้องการให้ทางรากก็เปิดทางรากแล้วปิดทางใบ.....ลงทุนครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10-20 ปี นอกจากได้ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องานเหนือกว่าคน (เจ้าของ) ทำแล้ว ยังประหยัดเวลา แรงงาน อีกด้วย

ไม้ผลที่แต่ละต้น ออกดอก-ติดผล ไม่พร้อมกัน ทำให้การเจริญเติบโตของผลในแต่ละต้นไม่พร้อมกันด้วย ความที่ผลโตไม่พร้อมกันนี้ต้อง "แยกสูตร" ปุ๋ย/ฮอร์โมนบำรุง บำรุงทีละต้น ต้นไหนระยะไหนก็บำรุงสูตรนั้น......แนวทางปฏิบัติ คือ ติด "หม้อปุ๋ยทางใบประจำต้น" ไปเลย ทนเหนื่อย ยอมเสียเวลา เพื่อให้ได้ผลผลิตผลิต 100% ในแต่ละต้นอย่างแท้จริง

ก็เพราะคิดแต่เพียง สปริงเกอร์แพง-สปริงเกอร์แพง เอาแต่ลากสายยาง สพายถังเป้ เดินฉีดทีละต้นๆ จึงบำรุงเต็มที่ไม่ได้ไงล่ะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (089) 780-46xx
ข้อความ : อยากให้บอระเพ็ดโตเร็วๆ ใส่ปุ๋ยสูตรอะไร.....
ตอบ :
น้ำล้างเขียงทำปลา, น้ำซาวข้าว, เลือดไก่/หมู ให้น้ำพอหน้าดินชื้น
บอระเพ็ดโตเร็ว อวบอ้วนแต่ไม่ขม จะเอามาทำไม

------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (080) 389-41xx
ข้อความ : มะนาวลูกใหญ่แล้วแต่มีน้ำน้อย ต้องการให้มีน้ำมากๆและแก่เร็วทันตลาด ใช้ปุ๋ยลุงคิมสูตร
ไหนครับ.....สวนมะนาวเพชรบุรี
ตอบ :
- ให้ทางใบด้วย 0-21-74 เดี่ยวๆ หรือ ไบโออิ + 0-21-74 สูตรใดสูตรหนึ่ง ก่อนเก็บ 7-10 วัน
- ควรให้ปุ๋ยสูตรนี้เมื่อผลใหญ่อายุผล 75% แล้ว
- หลังจากให้ไปแล้วผลจะหยุดโตแต่จะแก่ น้ำมาก ต่อมน้ำมันใส พร้อมขายได้
- ผลเล็กหรือผลรุ่นน้องจะหยุดโตด้วย เพราะฉนั้นต้องเลือกเอาระหว่างผลรุ่นใหญ่กับผลรุ่นเล็ก รุ่นไหนมากกว่าให้เอารุ่นนั้น สำหรับช่วงที่ตลาดมะนาวดีๆอย่างนี้

- หลังจากเก็บผลรุ่นพี่ไปแล้ว กลับมาบำรุงด้วยสูตร UN (ไบโออิ-ไทเป-ยูเรก้า)ต่อ ผลรุ่นน้องก็จะโตต่อได้

------------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (089) 618-43xx
ข้อความ : สนใจทุเรียน ดต.สุชิน นนทบุรี ก้านยาวต้นละ 100 ลูก รุ่นปีหน้าผมจะทำตามบ้าง ขอคำแนะนำ
จากผู้พันด้วย.....นครนายก
ตอบ :
ใจคอจะเอาตัวเลขและสูตรสำเร็จในธรรมชาติให้ได้เลยเหรอ

ระยะ พักต้น-เตรียมต้น เอาซักเดือละครั้ง หรือ 2 เดือน 3 ครั้ง ก็น่าจะพอมั้ง
ระยะมีผลอยู่บนต้น เอาซักอาทิตย์ละครั้ง นี่แหละสวย

หลักการให้ปุ๋ยแก่ต้นไม้ "ให้น้อย บ่อยครั้ง สม่ำเสมอ" เป็นไปได้ไหม จังหวะที่ให้น้ำ ให้บวก ปุ๋ย/ฮอร์โมน อะไรซักอย่างไปด้วย

ติดสปริงเกอร์ 2 ระบบ ให้ทางรากกับทางใบ ต้องการให้ทางใบก็เปิดทางใบปิดทางราก ต้องการให้ทางรากก็เปิดทางรากแล้วปิดทางใบ.....ลงทุนครั้งเดียวใช้งานได้นาน 10-20 ปี นอกจากได้ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องานเหนือกว่าคน (เจ้าของ) ทำแล้ว ยังประหยัดเวลา แรงงาน อีกด้วย

ไม้ผลที่แต่ละต้น ออกดอก-ติดผล ไม่พร้อมกัน ทำให้การเจริญเติบโตของผลในแต่ละต้นไม่พร้อมกันด้วย ความที่ผลโตไม่พร้อมกันนี้ต้อง "แยกสูตร" ปุ๋ย/ฮอร์โมนบำรุง บำรุงทีละต้น ต้นไหนระยะไหนก็บำรุงสูตรนั้น......แนวทางปฏิบัติ คือ ติด "หม้อปุ๋ยทางใบประจำต้น" ไปเลย ทนเหนื่อย ยอมเสียเวลา เพื่อให้ได้ผลผลิตผลิต 100% ในแต่ละต้นอย่างแท้จริง

ก็เพราะคิดแต่เพียง สปริงเกอร์แพง-สปริงเกอร์แพง เอาแต่ลากสายยาง สพายถังเป้ เดินฉีดทีละต้นๆ จึงบำรุงเต็มที่ไม่ได้ไงล่ะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : (085) 988-03xx
ข้อความ : ดินทรายระบบเวลาให้น้ำ ดินร่วนแต่แดดออกหน้าดินแข็ง ใช้อะไรดีครับ......
ตอบ :
- ใส่อินทรีย์วัตถุหลายๆชนิด มากๆ ลึกๆ
- ให้จุลินทรีย์ กับบำรุงจุลินทรีย์ประจำถิ่น
- เลี้ยงหญ้าคลุมหน้าดิน หรือให้มีเศษซากพืชคลุมหน้าดินหนาๆ
- ปลูกกล้วยเอาราก
- ใช้พลาสติกคลุมแปลงบริเวณที่ใช้งานจริง

- เลือกพืชที่เหมาะสมกับดิน
- ทำระบบน้ำหยดเสริม

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

.