-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา.....
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา.....
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา.....
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 7, 8, 9 ... 13, 14, 15  ถัดไป
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 25/11/2012 11:37 pm    ชื่อกระทู้: Re: สปริงเกอร์ในนาข้าว ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

cherm บันทึก:
สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง คุณทีน 2005 และ สมช ทุกท่าน

ยัยเฉิ่ม ยังติดใจเรื่องสปริงเกอร์ในนาข้าว เรียกว่าฝันหวานเลยก็ว่าได้ ตื่นก็นึก นอนก็นึก ว่าทำไงดีหน่อ ถึงจะได้
ติดสปริงเกอร์ในนาข้าว ในเมื่อทำเองไม่เป็นก็ต้องถามคนที่จุดประกายนี้แหละ ยังไงคุณทีน 2005 ช่วยให้ความ
กระจ่างหน่อยนะค่ะ หรือจะเป็นผู้รู้ท่านอื่นก็ได้นะคะ ที่จะช่วยยัยเฉิ่ม ให้ฝันหวาน เป็นความจริง

1. คุณ ทีน 2005 อยู่ที่ไหนค่ะ แล้วทำนากี่ไร่ ได้ข้าวไร่ละกี่ถัง
อยู่โคราชครับ 73ไร่ ข้าว
หอมมะลิ 105 ได้700-800กก /ไร่ แต่นักวิชาการบอก 300-400กก /ไร่ (เขาคิดจากเฉลียโดยรวมน่ะครับ) ข้าว
ทั้งหมดจ้างอย่างเดี่ยว แต่ผมมาเจอเวบนี้ ก็มีแนวคิดจะพึ่งตนเองครับ


2. นาข้าวคุณทีนติดสปิงเกอร์ไหมค่ะ ถ้าติดมีวิธีการทำอย่างไร ใช้เครื่องสูบน้ำกี่แรง ลักษณะของหัวสปริงเกอร์
เป็นอย่างไร แล้ว แอร์แว คืออะไร ? เอามาทำอะไร ?

- ผมยังไม่ติดครับแค่ให้แนวคิด ยายเฉิ่มไปทำครับ คิดว่าอนาคตจะลองทำครับที่เอาแบบเคลื่อนย้ายได้ เบาๆ
ไม่ใช่ติดตั้งกับที่แบบสวนต่างๆ สำหรับเอาไว้ใส่ปุ๋ย ฮอร์โมน

- หัวสปิงเกอร์จะเป็นแบบพ่นได้ระยะไกล(ขึ้นอยู่กับหัวและแรงดัน) แล้วเวลาน้ำตกลงก็จะคล้ายฝน และ
หัวของสปิงเกอร์ก็ส่ายได้ 90-180 องศาแล้วแต่รุ่น

- แอร์แวคือ ถังหรือกระบอก ที่ช่วยเพื่อแรงดันน้ำ ส่งระยะไกล หรือที่สูง มีชาวบ้านหลายคนทำติดเครื่องน้ำ


จักรยายสูบน้ำ ติดแอร์แว 1-4 ลองอ่านบล๊อกเขาดูครับ น่าสนใจ
http://www.bansuanporpeang.com/node/18154
http://www.bansuanporpeang.com/blog/6602?page=3


3. นาข้าวยัยเฉิ่ม จะติดสปริงเกอร์ได้ไหม ถ้าติด จะวางรูปแบบอย่างไร คุณทีน ช่วยวางแปลนให้หน่อย และ
คำนวนราคาให้ด้วยนะคะ แบบว่าจะได้รู้ว่าตัวเองพอจะมีปัญญาหาเงินมาได้หรือเปล่า

ถ้ายัยเฉิ่ม ติดสปริงเกอร์ในนาข้าวได้ ก้จะลดปัญหาเรื่องการจ้างแรงงานคน ยังไงก็ขอความอนุเคราะห์ให้ยัยเฉิ่ม
ด้วยนะคะ

แนวคิดคือผมจะลดการจ้างคนฉีดฮอร์โมนตรงนี้ครับ และลดเวลา(หัวสปิงเกอร์ส่าย หน้า2-3 รอบก็ฉีดปุ๋ยได้
ครึ่งนาแล้ว เพราะทำนาแบบลุงคิดต้องฉีดบ่อย แต่ก็คงเข้าใจน่ะครับฉีดบ่อยเพราะอะไร เรื่องราคาผมไม่รู้ครับ
ยังไม่คิดรายละเอียด

แต่ผมว่าถ้าไม่คิดอะไรให้มากเรื่องฉีดปุ๋ย ฮอร์โมน เพราะระบบสปิงเกอร์มีหลายส่วน ก็ซื้อเครื่องฉีดยาเครื่องยนต์
ก็ได้ครับ ง่ายดี ให้ลูกชายสะพายฉีดตอนกลับจากโรงเรียนหรือวันหยุดตามตารางที่เราตั้งไว้ เด็กอายุขนาดนี้สะพาย
ฉีดได้ เพราะสูตรลุงคิดไม่มีสารเคมี


ปล.ช่วยลงรูปให้ดูหน่อย ว่าของจริงเค้าทำกันอย่างไร ไม่เอารูปที่เขาโฆษณาขายสินค้านะคะ ยิ่งถ้าเป็น
ที่นาของคุณทีน ด้วย ก็จะเป็นพระคูณยิ่ง



ขอบพระคูณอย่างสูง

ยัยเฉิ่ม ผู้มีความหวัง





ยังมีเทคนิคการทำนาหลายแบบครับ เอามาผสมกับของลุงคิดได้
- เปียกสลับแห้ง แกล้วข้าว ชาวนาเงินล้าน TV เขาก็ใช้รูปแบบนี้
- หมักปุ๋ยแบบไม่กลับกองจากฟางข้าว 2 เดือนแม่โจ้ เอาปุ๋ยไว้ใส่นา

อีกหลายอย่างครับ เรื่องเกษตรยากแต่ถ้าใจรักก็ทำได้ ผมอ่านๆ เก็บไว้ในคอมเพื่อเอาไปทำนาเพื่อลดต้นทุนตัวเอง
ตอนนี้อยู่กทมตอนนี้เริ่มเบื่อรถติด เร่งรัด
สารพิษ ประมาณ 1-2 ปี
คงกลับบ้านไปทำนาแล้ว แต่ผมเคยทำนามาก่อน เลยเห็นวังวนเรื่องนี้ทำเคมี 100% แต่ถ้ากลับบ้านนอกต้อง
ทำแบบลุงคิด

ผมคิดจะทำนา แล้วจ้างคนน้อยที่สุด อย่างกับต่างประเทศ เขาทำไร่ เนื้อที่ 200-300 ไร่ ใช้คนทำคนเดี่ยว
ใช้เวลาไม่กี่วันแต่ต้องมีเครื่องมือ และเราก็ต้องคิดต่อเติมเครื่องมือที่เรามี จะได้มีเวลาไปทำปุ๋ย ทำแคนตาลูป
แบบลุงคิมบ้าง


กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
toodtoo
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 13/10/2012
ตอบ: 95

ตอบตอบ: 26/11/2012 2:48 am    ชื่อกระทู้: ระบบสปริงเกลอร์(Sprinkler)ใช้กับที่นา ยัยเฉิ่ม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม และยัยเฉิ่ม พี่สาว



ที่นาของพี่ประมาณ 25 ไร่ มันเป็นรูปแบบนี้



มันดูใกล้เคียงกับสนามฟุตบอลล์นะครับ ดังนั้น ถ้าจะใช้ระบบสปริงเกลอร์(Sprinkler) ตามที่คุณ teeen2005 แนะนำ
(ตามลิงค์) น่าจะอนุโลมใช้แบบนี้นะครับ



หัวสปริงเกอร์ "Yuzuak"
- เราใช้สปริงเกลอร์ของ "Yuzuak" Model Jet55 ยิงไกลสุด 55m. แต่ใช้งานจริงยิง 45 m.

การวางจุดยิงสปริงเกลอร์
- วาง 6 จุด ตามตำแหน่งเสาธง เพื่อให้เกยกันระหว่างจุดจะได้ไม่มีจุดบอดเกิดขึ้นในสนาม
- ใช้ข้อต่อสวมเร็ววางตำแหน่งการยิงตามเสาธง ใช้ข้อต่อสวมเร็วสำหรับเปลี่ยนจุดการยิง
- ในการยิงยิงทีละหัว แล้วย้ายจุดยิง



Model Nozzle Pressure Radius Price
JET55 26 mm. 4-7 bar 45 m. 34,410.-

ปั๊มน้ำ "Electra"
- สำหรับสปริงเกอร์ชุดนี้ ทางเราเลือกเป็นปั๊มของ Electra ขนาด 30 hp. 380v. มาทำงาน โดยใช้ปั๊ม 1 ตัว
- ระบบนี้ใช้ปั๊มน้ำ 1 ตัว ในการทำงาน เพื่อความประหยัด แต่ในระบบมาตรฐานเราต้องเดินปั๊มน้ำ 2 ตัว แล้วให้
สลับการทำงาน และเสริมเมื่อน้ำในระบบไม่พอ

Model Motor Price
EL 80/40BM CI/BZ/SS GP 30 hp. 380-660/3/50 B3 4P 222,030

สปริงเกลอร์สำหรับการรดน้ำสนามฟุตบอล ถ้าทำเต็มระบบจะใช้เงินทุนในการทำค่อนข้างมาก ไหนจะปั๊มที่มีขนาดใหญ่
ระบบท่อทางเดิน พีอี ที่ต้องใช้ขนาดใหญ่

หัวสปริงเกลอร์ที่ต้องเป็นแบบยิงไกล หรือที่เรียกว่า Big Gun ถ้าทำในแบบเต็มรูปต้องใช้เงินทุนไม่ต่ำกว่า 300,000.-
1,000,000.- บาท ทางบริษัทรับจัดชุดสปริงเกลอร์ และจัดหาช่างผู้ชำนาญการทำงานให้ท่าน ตามขนาดของสนามท่าน


ขายข้าวกี่มากน้อยเกวียนถึงจะคุ้มค่าสปริงเกลอร์ครับพี่




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 26/11/2012 3:52 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

โห้คุณ toodtoo ใหญ่มาก ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าจะทำก็ต้องบริษัทขนาดใหญ่ หรือมีนาใกล้บ้านถ้าวางระบบดีๆ
ก็สบาย แต่ทั่วไปของชาวนา ที่นามักอยู่ไกลบ้าน

คือที่ผมคิดไว้น่ะครับ
1. วัดนาแต่ล่ะผืน(ผืนเล็กน่ะ)ก่อนน่ะครับ ว่า กว้าง x ยาว ก็มาแบ่งครึ่ง จะได้หาระยะยิงไกลสุดของสปลิงเกอร์ +/- (ที่
ผมเลือกไว้ รัสมีการยิง 15-28 เมตร ยิ่งไกลยิ่งแพง) ราคาไม่เกิน 1,000-3,000บาท แค่ 1หัว



ถ้ารัสมีระยะยิงไกลแบบสนามบอล หัวสปลิงเกอร์จะแพงมาก 1หมื่น-6หมื่นเลยน่ะ
เราก็เอาเฉพาะแบ่งเป็นส่วนๆ ไป



File PDF http://www.sprinklethai.com/images/1176189681/page1%20DH.pdf

2. ขาตั้ง 3 ขา +ท่อ ข้อต่อปรับขนาดเกลียวเพื่อต่อกับหัวสปิงเกอร์


3. สายน้ำที่ต่อระหว่างหัวสปิงเกอร์กับปั้มน้ำ ยาว 15-30 เมตร
4. เครื่องสูบน้ำแบบใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5-4 แรง แรงมากก็แพง


5. แอร์แว ถังเพิ่มแรงดันน้ำ ทำเองจากท่อ PVC ตามที่เคยให้ดูแล้วแต่ท่อนั้นต้องใหญกว่าท่อน้ำที่ต่อเข้าสปิงเกอร์





วีดีโอ


6. น้ำที่จะไว้ปั้มก็ต้องมีด้วยน่ะครับ เพราะสปิงเกอร์ใช้แรงดันน้ำสูง จะใช้น้ำจากถังปุ๋ย ไม่ได้เพราะหมดเร็ว จะฉีดไม่ทั่วนา

ผมจะฉีดน้ำที่ล่ะแปลงเล็ก คล้ายรู้ที่คุณ toodtoo มาให้ดูครับ แต่ถ้านาติดกันเราก็ฉีดน้ำปุ่ย ซ้าย-ขวา จบไปทีล่ะฝัง
ก็ต้องย้ายหัวฉีด ทำเอง 2 คนแม่ลูกก็ได้ 25 ไร่ ไม่กี่ ชม. เอาถังใส่ปุ๋ย ผสมปุ๋ยไม่ต้องใหญ่มาก

สุดท้ายถ้ายาก ก็ซื้อเครื่องฉีดปุ๋ยติดเครื่องยนต์หรือติดแบต 12V ค่อยฉีด ฉีดไปเรื่อยๆ เหมือนจ้างเขาฉีดนั้นแหละครับ



อ่ะหากระทู้คนเคยทำมาแล้วให้ดูครับ
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=60436.0




พอเป็นตัวอย่างได้น่ะครับ ยายเฉิ่ม ค่อยเรียนรู้น่ะ สู้ๆ เพื่อลูก[/youtube]




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 27/11/2012 5:36 pm    ชื่อกระทู้: Sprinkler(สปริงเกลอร์) กับนาข้าว(ของยัยเฉิ่ม) ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม ยัยเฉิ่ม คุณตุ๊ด-ตู่ และ สมช.สีสันชีวิตไทยทุกท่าน

ภาษาอังกฤษเค้าเขียนว่า Sprinkler เมื่อมาเขียนเป็นภาษาไทยมันก็ต้องเขียนทับศัพท์ว่า สปริงเกลอร์ มีร.เรือ
และ ล.ลิง เป็นอักษรกล้ำ....นี่พูดกันตามหลักภาษานะครับ และที่ขอยกย่อง คือ ลุงคิม ใช้คำพูดถูกต้องเป๊ะเลย ..
..สวัสดีครับ ท่านผู้ฟัง รายการเรา ... ร.เรือ กระดกลิ้นชัดเจนมาก ๆ ทุกคำ ทุกครั้งไม่มีเผลอให้จับผิดได้เลย กดให้
2 Like เลย


ความฝันของยัยเฉิ่ม จะติดสปริงเกลอร์ให้กับนาข้าวจะใช้ระบบไหนดี....คุณตุ๊ดตู่ เล่นใช้บทมหากาพย์ชุดใหญ่ใช้กับ
สนามฟุตบอลล์เลย ความจริงติดตั้งได้นะ แต่ใช้เงินแยะเกินไป ถ้าได้ข้าวไร่ละ 150-180 ถัง อย่างของเวียตนามหรือ
บังคลาเทศก็น่าสนหน่อย แต่ไม่คุ้มอยู่ดีแหละ ข้าวเกวียนละเท่าไหร่ 12,000 ไม่เต็ม ประกันราคาแค่ 688 กก.
เท่านั้น ถ้าได้เกวียนละ 120,000 อย่างข้าวกล้องหอมนิลของ ตุ๊หล่าง กก.ละ 120 บาท อันนี้น่าสน


ถ้าจะใช้ระบบกะเหรี่ยง เวนจูรี่ หรือกะเหรี่ยง ไฮโซ แบบของลุงคิม ก็ตามรูปนี้ (เพียง 1 ในอีกหลากหลายรูปแบบ)





ต้องไปทำกันที่ไร่กล้อมแกล้ม (ใช้วัสดุของลุงคิม) ทำเสร็จแบกกลับบ้าน พร้อมแถมปุ๋ยคนละ 1 แกลลอน ถ้าแบบ
ของลุงคิม ไม่เป็นที่พอใจ...

ถ้าอย่างนั้น ลองทำแบบกะเหรี่ยง เวนจูล่า หรือกะเหรี่ยง โลโซ ที่ใช้งานได้บนดอย แบบนี้ดีมั๊ย





อันหนึ่งลงทุน 25 บาท ซื้อสไปรท์ขวดใหญ่ กินน้ำหมด เอาขวดมาใช้งาน ไม่สูญเปล่า ติดตั้งอยู่บนดอยที่วัดจันทร์
ทำแบบนี้ ต้นไม้ไม่ได้กินน้ำ ไม่ได้กินปุ๋ยเหรอครับ



หรือแบบนี้ไม่ถูกใจ จะใช้ เวอร์ชั่น 2 ก็ได้น้อง





นี่แบบนี้ เวอร์ชั่น 2 ซื้อน้ำสไปรท์มาอีกขวด กินน้ำหมด เอาขวดมาใช้ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ปริมาณน้ำเหลือเฟือ
เอาน้ำมาจากไหน ใช้ระบบน้ำประปาภูเขาครับ แหล่งน้ำที่นำมาใช้....ดูรูปถัดไปได้เลย





นี่ครับ เทน้ำลงไปขวดเดียว กลายเป็นน้ำตก ใช้น้ำไปชั่วชีวิต น้ำประปาภูเขา คือ ใช้น้ำจากน้ำตก ชาวเขาชาวดอยเค้า
ใช้กันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา(หลังพระเจ้าพีล่อโก๊ะ โก๊ะล่อฝง ที่ลุงคิมชอบพูดบ่อยๆ ) สมัยก่อนเค้าใช้ไม้ไผ่ทั้ง
ลำผ่าซีก วางต่อๆ กัน มาจากน้ำตกจนถึงหมู่บ้าน สมัยนี้ใช้ท่อ PVC ต่อจากน้ำตกลงมา







การใช้สปริงเกลอร์ในนาข้าว ยังไม่เคยเห็นมีใครใช้ เคยเห็นแต่ที่เค้าใช้ในไร่ข้าวสาลี ข้าวมอล์ท ซึ่งเป็นไร่ของ บ.บุญรอด
ที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เค้าติดตั้งตามรูปนี้แหละ วางตั้งเป็นจุดๆ เพราะไร่ข้าวสาลีของ บ.บุญรอด ใหญ่มาก 1,000
กว่าไร่มั๊ง ใกล้ๆ กับของเบียร์ช้าง






รูปข้าวสาลีที่ สะเมิง กับละอองฝอยของน้ำจากสปริงเกลอร์






นี่ครับ สปริงเกลอร์ในนาข้าว ของจริง






นี่ก็ใช่ แต่ขออภัยในความไม่สะดวก เพราะไม่ใช่ข้าว กข.... หรือปทุม ซีโฮ เป็นข้าวสาลีครับ ดูท่อเมนที่น้ำผ่าน
นะครับ ประมาณ 3-4 นิ้วครับ



สำหรับระบบกะเหรี่ยง โลโซ นั้น ผมคิดว่า ยัยเฉิ่ม น่าจะพัฒนานำไปใช้ในแปลงผัก หรือแปลงที่จะปลูกมะขวิด ได้
สบายมาก ประหยัด ใช้งานได้ผลอย่างสุดๆ ซื้อท่อ PE สีดำ ดูอย่างหนาหน่อย 1 นิ้ว หรือ นิ้วครึ่ง เป็นท่อเมน ปรับลด
เหลือ 1 นิ้ว และ ครึ่งนิ้ว หรือ 3 หุน (3/4 นิ้ว) เพื่อต่อเข้าหัวสปริงเกลอร์ ทำแบบที่แนะนำนี้แหละ ของทิด หัวสปริง
เกลอร์ปีกผีเสื้อ หัวละ 3 บาท ของลุงคิม 2 บาท ใช้แบบนี้ไม่ต้องเสียสตางค์ เดินเก็บเอาหรือขอตามร้าน ... ฟรี



ระบบการให้ปุ๋ยของลุง กะเหรี่ยงเวนจูรี่ตามรูปข้างบน ของทิดที่ใช้ระบบกะเหรี่ยงพันธุ์แท้ ตามรูปนี้





ผสมปุ๋ยใส่ลงไปในขวดนี้ ต่อสายลงไปที่รูหัวกะโหลกดูดน้ำ เวลาเครื่องมันดูดน้ำเข้ามันก็จะดูดปุ๋ยเข้าไปด้วย เจือจาง
ปุ๋ยลงหน่อย น้ำกับปุ๋ยจะผสมกันในท่อ ออกทางสปริงเกลอร์ ครั้งเดียว 2 in 1....


สปริงเกลอร์ ไม่จำเป็นต้องแพงอย่างที่คิด ทำเพียงว่า ทำอย่างไรให้น้ำมันพ่นออกมาเป็นฝอย เพื่อให้ น้ำ+ปุ๋ย กับพืช
โดยที่ประหยัดที่สุด พืชมันไม่ถามหรอกว่า ทำไมไม่เอาระบบสปริงเกลอร์ชุดละแสน ชุดละล้าน มารดน้ำให้ผมล่ะ มัน
ต้องการเพียงน้ำที่มีแร่ธาตุอาหารครบถ้วนเท่านั้นแหละ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 30/11/2012 10:58 am    ชื่อกระทู้: ข้าวล้ม ข้าวไม่ล้ม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม และ ยัยเฉิ่ม

ยัยเฉิ่มตอบผิดที่ ผิดเวลาไปนิด จึงขออนุญาต Copy - ย้ายข้อความมาไว้ตรงนี้ จะได้ ตรงประเด็นตาม
วัตถุประสงค์หน่อย (ยกย้ายกระทู้ไม่เป็น)

สวัสดีค่ะ ค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และ สมช.ทุกท่าน

แปลงนาที่ข้าวไม่ล้ม เป็นของยัยเฉิ่ม เองค่ะ โดนพายุครั้งแรก ของคนอื่นล้ม ของยัยเฉิ่ม ไม่ล้ม ก็มีคนบอก
ว่า เพราะข้าวยังไม่แก่ รวงไม่หนัก จึงไม่ล้ม

โดนพายุครั้งที่ 2 ข้าวเป็นน้ำนมแล้ว โดนพายุ ครั้งที่ 2 ก็ยังไม่ล้ม ก็มีคนบอกว่า เป็นเพราะ ข้าวยัยเฉิ่มรวงเล็ก
เมล็ดน้อย น้ำหนักข้าวไม่มี จึงไม่ล้ม

โดนพายุครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 ข้าวยัยเฉิ่ม ก็ยังไม่ล้ม

ทั้งหมดนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับปุ๋ยลุงคิม ได้ไปเลย 100 เต็ม 100

เตรียมแปลง ยัยเฉิ่ม ให้น้ำหมักระเบิดเทิดเทิง 2 ลิตร ต่อไร่

แล้วก็ให้ ยูเรก้า กับ ใบโออิ ทุกอาทิตย์ อัตราส่วน 20 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง หนักมือไปหน่อย
น่าจะเกิน 20 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ผลปรากฎว่า ปลายใบไหม้ แสดงว่า ปุ๋ยของลุง เต็มสูตรจริง

เมื่อข้าวเริ่มเป็นน้ำนมก็เพิ่มฮอร์โมนไข่ ไป 2 รอบ

ก็ได้ผลอย่างที่เห็นแหละค่ะ


ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา


ขอถามครับ....ใช้แคลเซี่ยม - โบร่อน ไปบ้างหรือเปล่า แล้วใช้ปุ๋ยเม็ดสูตรแปลก ๆ ไปเท่าไหร่ ....เกี่ยวข้าว
ไปแล้วหรือยัง ได้ข้าวเท่าไหร่ ลงทุน (ตามความเป็นจริง) ไปเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ให้ตอบกับคนในกระจก ....

เคยฟังเพลง จะโกะ (จับกบ) มั๊ย กำลังฮิท

ฟ้า คื้อ ๆ โฝ มา จา โตะ เด๋ ก็ โตะ เด๋ ก็ โตะ ...ไม่ใช่ ฟ้าครึ้ม ๆ ฝนมันจะตก เดี๋ยวก็ตก ๆ ...เพลงสนุก คนร้อง
น่ารัก หามาฟังซะแก้กลุ้ม

.....................



ลุงคิมจะพูดอยู่เสมอว่า

คำพูดบางคำ จากคนบางคน ในบางโอกาส ได้ฟังแล้ว เอามาคิด วิเคราะห์ แล้วนำมาปรับใช้ ย่อมพลิกผันสถาน
การณ์ (จากดีเป็นไม่ดี หรือจากไม่ดีให้เป็นดี)ได้ ขึ้นชื่อว่าคน

1. ไม่อยากได้อะไรของใคร มีแต่จะให้อย่างเดียว เหมือนอย่างเพลง....พี่ คนนี้นั้นมีแต่ให้ (จนไม่มีอะไรจะให้)

2. ไม่เอาเปรียบ แต่ก็ไม่ยอมเสียเปรียบใคร มีทั้งให้และรับ ก้ำกึ่งกัน แบบ วัดครึ่งนึง กรรมการครึ่งนึง

3. ของคนอื่นอยากได้ แต่ของกูไม่ค่อยอยากจะให้ รับมา 75 % คืนไป 25 %

4. เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว ใจดำ ไม่รู้จักคำว่าการแบ่งปัน ...ของเอ็งข้าชอบ แต่ของข้า ใครอย่าแตะ ….เวลาตาย
อย่าหวังว่าจะมีคนไปเผาผี เคยเจอนานมาแล้ว แจกการ์ดเป็นพัน จัดเก้าอี้นั่งไว้เพียบ มีคนไปเผาไม่ถึง 50 คน ทุก
วันนี้ยังมีคนกล่าวขวัญถึง(ในทางที่ไม่ดีของคน ๆ นั้น)

ยัยเฉิ่ม....เจอแต่คนเห็นแก่ได้ เอารัดเอาเปรียบ มาตลอด .เข้าทำนอง..เจ็บไม่จำ ไม่ศึกษาก่อนลงมือทำ..พระพุทธ
เจ้าท่านจัดอยู่ในประเภท ศรัทธาจริต..ใครพูดอะไรว่าดี เชื่อเค้าหมด ... และขอบอกว่า อย่าเชื่อคำแนะนำของ
แดง ศาลายา มากเกินไปนัก อาจจะเจ็บยิ่งกว่าที่เคยเจ็บ...ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลุงคิมบอกให้เชื่อคนในกระจก



ขอแบ่งปันความรู้เรื่อง การปลูกมะกรูดตัดใบ

มะกรูดปลูกได้ดีในดินทุกชนิด ระยะปลูกมะกรูดนั้นปลูกได้หลายระยะ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และพื้นที่ของผู้
ปลูก ซึ่งระยะปลูกไม่ควรติดกันเกิน 1 เมตร โดยทั่วไปนิยมปลูกมะกรูดระยะชิด คือ 2x2 เมตร 1 ไร่จะได้
มะกรูด 400 ต้น หากปลูกระยะ 1.5 x 1.5 เมตร 1 ไร่จะได้ 1067 ต้น ในการปลูกระยะชิดนี้จะเป็นการปลูก
มะกรูดเพื่อจำหน่ายใบ เนื่องจากมีการตัดใบจำหน่ายทุกๆ 3 – 4 เดือน พุ่มมะกรูดก็จะไม่ชิดกันมาก

หากต้องการปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นลูกมะกรูด ผู้ปลูกอาจปลูกระยะห่าง 4 x 4 เมตร 1 ไร่จะได้ 200 ต้น หรือ
5 x 5 เมตร 1 ไร่จะได้ 65 ต้น เป็นต้น

การปลูกมะกรูดตัดใบ ต้องเลือกสภาพพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม โดยเลือกพื้นที่เป็นสภาพดินร่วนปนทราย หรือพื้น
ที่ที่มีการระบายน้ำที่ดีเพราะมะกรูดเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง ที่สำคัญการปลูกมะกรูดเพื่อตัดใบขายนั้นจะต้องมี
สภาพแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ ถึงแม้มะกรูดจะเป็นพืชทนแล้งและไม่ต้องการน้ำมาก แต่หากเราต้องการจำหน่าย
ใบมะกรูดทั้งปี การให้น้ำมีความจำเป็นในการแตกใบของมะกรูดเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในฤดูแล้ง ตั้งแต่เดือน พ.ย.
ไปจนถึงเดือน พ.ค.

การเตรียมเดิน ก็เหมือนการปลูกไม้ผลทั่วไป ขุดหลุม กว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 50 x 50 x 50 เซนติเมตร
รองก้นหลุมด้วยขี้วัวผสมดิน กรีดถุงดำออก น้ำต้นกล้าลงปลูก กลบดิน รดน้ำ คลุมฟาง และทำหลักปักกับต้น
เพื่อกันโยกเวลาลมพัด

ในการปลูกปีแรกนั้น บางท่านก็แนะนำว่าควรทำที่พรางแสง หรืออาจจะปลูกต้นกล้วยระหว่างแถว ซึ่งทั้งนี้ขึ้น
อยู่กับลักษณะการปลูกของผู้ปลูกแต่ละราย หากปลูกระยะชิดมาก การปลูกกล้วยแทรก อาจไม่เหมาะสม
ผู้ปลูกอาจปลูกข้าวโพดแทรกระหว่างแถวได้ในปีแรก หรือใช้ผ้าซาแรนในการพรางแสง ซึ่งขึ้นอยู่กับความ
สะดวกและความเหมาะสมแต่ละพื้นที่



เฮ้อ อ่อนใจ เหนื่อยแทนว่ะ....ทิดฝันไปว่า ..ข้าวมันร้องเพลงให้ฟัง....แบ่งเวลาไปหาแปลงนาหนูบ้าง ....




,
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cherm
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 17/11/2011
ตอบ: 237

ตอบตอบ: 30/11/2012 10:36 pm    ชื่อกระทู้: ใครพูดอะไรดี เชื่อเค้าให้หมด ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และ สมช.ทุกท่าน

ยัยเฉิ่ม....เจอแต่คนเห็นแก่ได้ เอารัดเอาเปรียบ มาตลอด .เข้าทำนอง..เจ็บไม่จำ ไม่ศึกษาก่อนลงมือทำ..พระพุทธเจ้า
ท่านจัดอยู่ในประเภท ศรัทธาจริต..ใครพูดอะไรว่าดี เชื่อเค้าหมด ... และขอบอกว่า อย่าเชื่อคำแนะนำของ แดง ศาลายา
มากเกินไปนัก อาจจะเจ็บยิ่งกว่าที่เคยเจ็บ...ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลุงคิมบอกให้เชื่อคนในกระจก


ขอบคูณค่ะทิดแดง ยัยเฉิ่ม เป็นอย่างที่ทิดว่าจริงๆ ไม่เคยศึกษาก่อน เจ็บไม่จำ ยัยเฉิ่ม รู้จักใคร ก็ให้เต็มร้อยไปก่อน
ดีไม่ดี ค่อยว่ากันที่หลัง ผลสุดท้าย ได้ร้องไห้ทุกครั้ง

แต่สำหรับทิดแดง ยัยเฉิ่มคงไม่มีโอกาสร้องไห้หรอกค่ะ



นาข้าวยัยเฉิ่ม ไม่ได้ใช้แคลเชียม โบรอน หรอกค่ะ ใช่ปุ่ยลุงคิม ยูเรก้า กับใบโออิ แล้วก็ฮอ่โมนใข่

ใช้ปุ่ยสูตรแตกก่อ ไป 10 กิโลกรัม
ปุยสูตร 15- 5 - 20 ไป 2 กระสอบ
ปุ่ยยูเรีย 46 -0- 0 ไป 2 กระสอบ

ข้าวยัยเฉิ่ม ยังไม่ได้เกี่ยวค่ะ นัดรถเกี่ยวไว้ วันอาทิตย์ ที่ 2 ธันวาคม แต่ไม่รู้จะได้เกี่ยวหรือเปล่า เพราะถ้าฝนไม่หยุดตก
ก็จะไม่ได้เกี่ยว ข้าวแก่จัดมากแล้วแต่มีบางส่วน ยังเขียวอยู่ ข้าวสุกไม่เสมอ กัน

ลุ้นอยุ่เหมือนกันแหละค่ะ ว่าจะเสมอตัว หรือมีกำไร



ยัยเฉิ่ม แอบลุ้น



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cherm
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 17/11/2011
ตอบ: 237

ตอบตอบ: 06/12/2012 9:25 pm    ชื่อกระทู้: คิดถึง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีค่ะ


คิดถึง สมช. ทุกท่านค่ะ

ยัยเฉิ่ม รอสมองปลอดโป่รง มีเรื่องเล่าให้ฟังเยอะแยะ



คิดถึง นะคะ





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 3:58 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY......


สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และสมช.ทุกท่านค่ะ


ยัยเฉิ่ม เจ้าเก่าค่ะ ลุงคิม แต่ขออนุญาติตั้งกระทูใหม่นะเจ้าคะ


ยัยเฉิ่ม ทำนาตามแนวทางลุงมา รุ่นนี้เป็นรุ่นที่สอง ทำไปทำมาชักสับสน อะไรก่อนอะไรหลัง ใส่เท่าไร งงๆ อยู่

ยัยเฉิ่ม เคยฟังวิทยุ และอ่านจากเน็ต ลุงคิมเคยบอกว่า ได้ขอยืมนาข้างเคียงทำข้าวโดยใช้ปุ๋ยสุตรของลุงคิมเอง
ยัยเฉิ่มอยากให้ลุงอธิบายขั้นตอนการทำนาเอาแบบที่ลุงทำ แบบว่า อย่างทึ่ลุงเคยพูดว่า "ก....ทำกับมือ" เอาแบบ
ละเอียดยิบเลยนะคะ

นอกจากขั้นตอนการทำแล้ว ลุงคิมช่วยบอกรายละเอียดกับกับปุ่ยที่ใช้ด้วยนะค่ะ



ขอบคุณค่ะ
ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:01 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY.....


สวัสดีครีบลุงคิม และยัยเฉิ่ม

คนไม่ชอบอ่่านก็ยังงี้แหละลุง

ผมเคยบอกยัยเฉิ่มว่า กระทู้ ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา น่ะ ลุงคิมอธิบายวิธีการทำนาแบบหมดเปลือก บางตอนไม่มีในตำรา
ที่ลุงเคยเขียนด้วยซ้ำ ผมพยายามคัดลอกคำแนะนำเอาเฉพาะเนื้อ ๆ ในส่วนที่ลุงเขียนเอาไว้ ถ้ารวมพิมพ์ก็คงจะหนาพอ
สมควร และเคยบอกยัยเฉิ่มไว้ด้วยว่า

.....กระทู้ของเอ็งนี่ ลุงคิมแทบจะแก้ผ้าสอนเลยนะเอ็ง บอกหมดเปลือกอย่างชนิดไม่เคยมีมาก่อน และยังบอกด้่วยว่า ข้า
กำลังคัดลอกเอามารวมเพื่อพิมพ์เป็นตำราเอาไว้ ไม่ต้องไปอ่านตำราของ IRRI อีกแล้ว อ่านของ อีคิม ก็เหลือแหล่แล้ว ...


....ยัยเฉิ่มยังบอกว่า .....พิมพ์เผื่อหนูเล่มนึง ...น่าน มันต้องตัองยังงั๊น


งานนี้ลุงคงจะต้องนับหนึ่งใหม่ละครับ สงสารลุงจัง ปากจะฉีกถึงรูหูอยู่แล้ว ผมละเหนื่อยแทน จะใช้ซออู้ ซอด้วง หรือ
ซอสามสาย ใช้ซอไหนสีก็บอกนะครับ ผมจะได้เตรียมคัดลอก (Copy จากกระทู้เก่ามาแปะก็ได้มั๊งครับ) ....ผมมีหนังสือ
เกษตรานุสติ - ฉบับนาข้าว ของคิม ซากัสส์ อยู่เล่มนึง เปิดอ่านจนจะขาดหมดแล้ว ดีว่าน้องน้ำไม่เอาไปกิน ราคา 50 บาท
คุ้มเกินคุ้ม น่าจะพิมพ์ออกมาขายเอาเงินเข้ามูลนิธิ คนบ้าไม่มีหนี้ คนดีหนี้ไม่รู้จักหมด ....บอกตามตรงอ่านในตำรา
เทียบกับคำตอบในกระทู้ยัยเฉิ่มแล้ว บางอันมันไม่มี

ตอนนี้กะเหรี่ยงบนดอยมันก็ปลูกถั่วเหลือง จะเขียนเรื่องการปลูกถั่วเหลืองบนดอย ก็หามีความรู้แม้แต่น้อยไม่ พอดีที่ปาย
เค้ากำลังปลูกกระเทียม ...กระเทียมของปายกินอร่อย ฉุนจัด ก็คิดว่า จะลองเขียนเพื่อจะได้ดูกรรมวิธีว่า เค้าทำยังไง

อย่างไรก็ตาม งานนี้ถ้าลุงร่ายยาวตั้งแต่ต้นจนจบ ผมว่าอ่านกันยันลูกบวช

ทำเป็นแบบ ปุจฉา - วิสัชชนา เทศน์แบบสองธรรมาศ หรืออจะสาม สี่ ธรรมาศ ก็ได้ ดีมั๊ยครับลุง

ลุงเป็นฝ่าย วิสัชชนา หรือเป็น พระฤาษี สอนศิษย์คือ ลิง อันประกอบด้วย..ยัยเฉิ่ม ผม ทิดบัติ-เชียงราย เป็นฝ่ายปุจฉา

ผมขอเริ่ม ปุจฉา ก่อนเลยนะครับ ลุง (ผมประเภท เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ คือชอบให้มีรูปจากของจริงประกอบ เปิดขึ้นมาเห็น
ภาพเลย ไม่ชอบให้ต้องไปเปิดลิงค์ อันนั้นเอาไว้เวลาต้องการค้นคว้า)......



บทที่ 1 ทำนาไม่เผาฟาง..ไม่ต้องไถ ไม่ต้องปั่น ไม่ต้องโรตารี่โรตาแหละ...ก่อนเริ่มดำหรือหว่าน หรือจะโยน ....ลุงบอกว่า
ย่ำเทือก เลย เอ้า ลุย.....



รูปที่ 1 หลังเกี่ยว ปล่อยหญ้าขึ้นคลุมฟาง ใกล้ทำนาก็ปล่อยน้ำเข้า เอาอีขลุบขึ้นย่ำลุยเป็นครั้งแรก เห็นหญ้าท่วมหัว
ต้องเอาตัวให้รอด ใช้อีขลุบ ลุยย่ำครั้งแรก แค่เห็นหญ้า ผมก็มืออ่อน ตีนอ่อนแล้ว (ขออนุญาตใช้ภาษาลูกทุ่งนะครับ
ฟังเข้าใจง่ายดี ไม่ต้องมีลีลา....แค่คำว่ากินคำเดียว ฝรั่ง ใช้ EAT ของไทยมีตั้งแต่ เสวย รับประทาน ทาน กิน แด..
ก.ไก่ ถึง ยัด-ห่ะ)





รูปที่ 2 หญ้าโดนอีขลุบขึ้นย่ำมันก็ราบเป็นหน้ากลอง แค่ราบ แต่ยังไม่แหลก ลุยย่ำเที่ยวแรก ก็อย่างที่บอก เห็นหญ้า
แบบนี้แล้ว หลายแสนคน ฉีดยาฆ่าหญ้า....เดี๋ยวก่อนมีรูปให้ดู คอยอ่านใน นา 5 แปลง ความเหมือนที่แตกต่างก็แล้วกัน

ยังไง ๆ ยัยเฉิ่มอย่าให้อายกะเหรี่ยงปลูกข้าวบนดอย เคยได้ 40-45 ถัง/ไร่ เป็น 65 ถัง/ไร่ เพียงแค่ใช้ปุ๋ยสูตรลุงคิมแค่
น้ำหมักขม ๆ ในเกษตรสัญจรภาค 2 เท่านั้น นะเว๊ย





รูปที่ 3 จากการย่ำครั้งแรก วนกี่รอบไม่รู้ละ ย่ำใหญ้ามันจมไปก่อนก้แล้วกัน จากนั้นก็มาใช้ ลูกฟัก ขึ้นย่ำด้วย ย่ำหมด
แปลงแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ อันนี้เป็นการย่ำครั้งที่ 1...แต่ละท้องที่เรียกไม่เหมือนกัน เดี๋ยวจะมีรูปลูกฟัก - ดัดแปลง
เองให้ดู





รูปที่ 4 ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ (มีคนถามนะว่า 1 อาทิตย์ กี่วันวะไอ้ทิด .โอ้โฮเฮะ..7 วันป้า โอ๊ย...ก็กูไม่ได้เรียน
กะเค้านี่หว่า...น่านว่าเข้าไป) ผ่านไป 1 อาทิตย์ 1 สัปดาห์ หรือ 7 วัน (เลี้ยงพระเพล เทศน์ 1 กัณฑ์ แล้วเผาเลย)
เป็นการย่ำเทือก ครั้งที่สอง จะเห็นว่าหญ้ารกๆ จากการย่ำครั้งที่ 1 ยังจมไม่หมด





รูปที่ 5 แต๊ก ๆๆๆๆ ...จำเป็นต้องใช้อีแก่คู่ใจคันนี้ ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ย่ำไป ทำไม่รู้ไม่ชี้ เดี๋ยวเทวดาก็ลงมาช่วยเองแหละน่า
ย่ำครั้งที่ 2 ใช้อีขลุบย่ำอย่างเดียว หญ้าเริ่มจะจมดิน และเริ่มแหลก





รูปที่ 6 จากการใช้อีขลุบย่ำ จากหญ้าที่รกรุงรัง ก็ราบเรียบ จมดินแบบที่เห็น





รูปที่ 7 ผลจากการย่ำด้วยอีขลุบ พื้นนาเริ่มราบเรียบ รูปนี้ใช้ตัวปั่นตีหญ้าและฟางให้มันแหลกสลายกลายเป็นปุ๋ย
อย่าสงสัยว่า เปลี่ยนรถหลายคัน....คันเดิมนั่นแหละ

ร้อนแดดก็เอาหลังคาใส่ ทำไงได้ ถ้ามีกะตังค์ ก็เปลี่ยนไปใช้รถไถแบบติดตีนตะขาบ ที่เอารถ แบคโฮ มาดัดแปลง
ห้องคนขับติดแอร์ นี่งขับสบายไปแล้ว





รูปที่ 8 เปลี่ยนตัวลูกย่ำใหม่ เป็นทั้งลูกย่ำกดหญ้า และลูกฟักกลับหน้าดิน ฝรั่งเค้าบอกว่า Good start is a half done.
การเริ่มต้นที่ดี (พร้อม) เท่ากับ (งาน) สำเร็จไปแล้วครึ่งนึง จริงมั๊ยครับลุง





รูปที่ 9 ลูกฟักที่ดัดแปลงใหม่ที่ไม่เหมือนชาวบ้าน หน้าตาเป็นแบบนี้ ใครจะเอาไปดัดแปลงทำเอง เค้าขอบอกว่า ไม่
สงวนลิขสิทธิ์ ถ้าจะถามว่า กี่สตางค์ ก็แล้วแต่ช่างในท้องถิ่นละครับ ถ้าใครมีเครื่องอ๊อกเครื่องเชื่อมเอง ก็ซื้อเศษเหล็ก
จากร้านของเก่ามาทำเอง





รูปที่ 10 รวบรัดตัดตอน สภาพพื้นนาที่ผ่านจากการย่ำครั้งที่ 3 ครับ





รูปที่ 11 ย่ำไป 3 ครั้งแล้ว ยังไม่สะใจ ต้องย่ำครั้งที่ 4 ...มึงจะบ้าเรอะ ย่ำอะไรกันนักกันหนา
3 รอบ 4 รอบ ...นาเราเองช่าง (หัว) มัน ...เดี๋ยวก็รู้ว่า หนูจะย่ำซักกี่ครั้ง





รูปที่ 12 ย่ำๆ ๆๆ ๆๆ ผ่านไปแล้ว 4 ครั้ง





รูปที่ 13 ตัวควักดิน ตัวตีเทือก มี 4 แบบ ชาวนามืออาชีพ สมควรทำไว้ใช้

สำหรับ ยัยเฉิ่ม คงต้องบอกว่า หนูทำไม่เป็น หนูไม่มีเวลา ต้องจ้างเค้า (75 %) แล้วก็โดนเอาเปรียบ...ก็แหงละ
งานสังคมรอบตัวปาเข้าไปตั้ง 60 % แล้วนี่จ๊ะ ....จะโกะ (เพลงจับกบ พม่าร้องสำเนียงไทย มันมาก ...ฟ้า
คื้อ คื้อ โฝ มา จา โตะ ..เด๋ ก็ โตะ ..เด๋ ก็ โตะ..(ฟ้าครึ้ม ๆ ฝนมันจะตก เดี๋ยวก็ตก เดี๋ยวก็ตก) ..)





รูปที่ 14 ราดน้ำหมัก + ปุ๋ยหมักทำเอง

จาก 13 รูปที่ผ่านมา....ย่ำไป 4 ครั้งแล้วนะลุง

ปุจฉา ...

(1) จะเอา ระเบิด 30-10-10 + น้ำหมักจาก ขี้หมู ขี้หมา ขี้กา ขี้ไก่ ขี้วัว ขี้ค้างคาว ที่หมักไว้เอง + กลูโคสน้ำตาล
ทางด่วน + 16-8-8 ผสมน้ำ สาดลงไปในการย่ำครั้งที่ 4 ตอนนี้เลยได้หรือยังครับพระเจ้าตา

(2) ถ้าได้ ใช้อัตราส่วนอะไรเท่าไหร่ / ไร่

(3) ถ้าไม่ได้ จะให้ราดในขั้นตอนไหน ราดตอนย่ำครั้งที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 ครับ คนสมองนิ่มอย่างผมความจำไม่ค่อยดี





รูปที่ 15 หลังจากราดน้ำหมักเสร็จ โรยปุ๋ยหมักเสร็จ ไหน ๆ เขาว่าเราบ้า ก็บ้าให้มันสุด ๆ ไปเลย ก็ย่ำมันซะอีก
รอบ เป็นการย่ำครั้งที่ 5 เป็นไงครับลุง





รูปที่ 16 ลุย ๆๆๆ ดูดินที่ผ่านการย่ำมาแล้ว 5 ครั้ง





รูปที่ 17 เป็นการ ลูบเทือก





รูปที่ 18 ปาดหน้าดินให้เรียบเสมอกัน ใช้เครื่องมือแปลก ๆ ครับ




รูปที่ 19


รูปที่ 20

รูปที่ 19 เจ้าเหิน(ชื่อเฉพาะตัว) กระดานที่ใช้ลูบเทือก ใช้ปาดหน้าดิน ...ทำเอง ...มองจากด้านบน

รูปที่ 20 เจ้าเหิน มองจากด้านล่าง





รูปที่ 21 การทำนาแบบ "อินทรีย์-เคมี ผสมผสาน" ไม่ใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้าในแปลงนา จะมีไส้เดือน
นี่เป็นรอยไส้เดือนขึ้นมาขี้ให้เห็น








รูปที่ 22 – 23 ชักร่องก่อนหว่าน ....คนบ้าเค้าทำกันขนาดนี้ ถ้าถามว่า ทำถึงขนาดนี้แล้วมีหญ้าขึ้นมั๊ย มีครับ แต่ก็
น้อยลง ถ้านาหว่านก็คุมยาก ถ้านาดำหรือนาหยอด ใช้ Rotary Weeder ช่วยสบายมาก



การทำนาแบบมืออาชีพ เค้าทำแบบประณีตทุกขั้นตอนครับ เสียเวลาซักหน่อย แต่ผลที่ได้ รอยยิ้ม ที่ไม่มีคราบน้ำตา
คุณชัยพร พรหมพันธุ์ ทำนาแต่ละครั้งได้เงินเป็นล้าน ...อย่างผมคงไม่ได้ เพราะมีที่แค่แมวดิ้นตาย





....ขอนิมนต์ พระเจ้าตา วิสัชชนาได้แล้วครับ ......... ซ้าธุ



แดง ศาลายา

.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 11/12/2012 6:37 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:02 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY....



สมช. ท่านอื่นๆล่ะ ว่าไง......





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:10 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY....



ผมไม่ว่า แต่จะขอดู พระเจ้าตาจะ วิสัชชนา ว่ายังไงก็ว่ามา (ด่าก็ได้ที่บังอาจก้าวล่วง)

ตามด้วย(COPY - Rotary Weeder)









Made in THAILAND เอาเศษเหล็กมาทำเอง ของแค่นี้ทำไม่ยาก ไม่เห็นจะต้องไปซื้อจากต่างประเทศมาใช้
ในสิ่งที่ไม่ควร



แดง ศาลายา

.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 11/12/2012 6:36 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:13 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY.....




สวัสดีครับลุงคิม คุณแดง ยัยเฉิ่ม และสมช. ทุกท่าน


ผมก็ลูกชาวนา เห็นพ่อแม่ทำนามาก็นาน พอมีโอกาสได้ฟังรายการลุงคิมบ้างเป็นบางครั้ง ทุกอย่างผมว่าลุงคิม
ได้ถ่ายทอดให้หมดแล้วนะครับ ทุกอย่างไม่มีตัวเลยตายตัวครับ อย่างที่บ้านผมตอนจะใส่ปุ๋ยก็จะให้พ่อใส่ 16-
8-8 แล่พ่อก็บอกว่ามันจะไม่ทันการนะต้องยูเรียเท่านั้น

บ้านนั้นว่าบ้านนี้ว่า... กล่อมยังไงก็ตามก็ยังไม่ค่อยเชื่อ เลยต้องคนละครึ่ง ใช้ ยูเรียบวก 16-16-16 ผมจะให้
ใส่ไร่ละ 10 กิโลกรัม พ่อก็บอกว่ามันน้อยไปข้างบ้านใส่เป็นกระสอบอย่างที่ลุงว่า เลยถามว่าต้นทุนเขาเท่าไหร่
พ่อก็บอกว่าเขาก็ได้เกวียนกว่านะ ผมก็บอกว่าต้นทุนเราก็น้อยกว่ากำไรเราก็มากกว่าค่อยๆ เพิ่มขึ้น ทั้งทางตรง
และทางอ้อม คือ ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น และที่สำคัญดินดีขึ้น ขี้เทือกลึกมากขึ้น เพราะผมไม่ยอมให้พ่อ
เผาฟางให้ไถกลบหมักไว้ สุดท้าย ได้ใช้ปุ๋ยไร่ละประมาณ 15-20 กิโลกรัม

ลุงคิมบอกให้เข้าทางแม่ แต่กรณีหว่านปุ๋ยมากแม่เห็นด้วยกับพ่อครับ ส่วนการขยันฉีดปุ๋ย ฮอร์โมน สมุนไพร
แม่ก็เชื่อครับกล่อมพ่อได้ ตอนนี้ก็ปฏิบัติอยู่ 7-10 วัน ครั้ง

อย่าใจร้อนครับค่อยๆ เรียนรู้ไป ส่วนผมเริ่มแล้ว แล้วก็จะค่อยๆ เปลี่ยนที่บ้าน อนาคตจะมาทำนาครับ



นะ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:15 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY.....



สวัสดีครับลุง ทิดแดง ยัยเฉิ่ม และเพื่อน ๆ


ผมหายไปนาน โดนควาย (เหล็ก) มันถีบเอา แทบกระอักเลือด (ผ่าเอาเลือดที่มันช้ำอยู่ข้างในออก เลยโล่ง
รอดจากยมบาลไปได้) ขออภัยที่ไม่ได้โทรหาลุงเลย เพราะเสียงยังไม่มี มันแหบเหมือนเสียงเป็ดเทศ
นิ้วมือข้างขวาพอจะขยับได้ มือก็อยู่ไม่สุข


ปีนี้นาข้าว แทบไม่ได้ลงมือเองเลย มีแม่ยายกับแม่อีหนูช่วยกัน ทำตามแนวเดิมของลุง ผมได้แต่นั่งๆ นอนๆ
ชี้นิ้ว สั่งการ คราวนี้แม่ยายไม่ว่าอะไรซักคำเพราะเห็นมาแล้วว่า ... ปุ๋ยตาคิมดีแต๊ๆ ใส่แล้วข้าวโดนลมบ่ะต้าว
ต้นตั้งแข็ง...(ปุ๋ยตาคิมดีจริงๆ ใส่แล้วข้าวไม่ล้ม ต้นตั้งแข็ง (ต่อให้ด้วยว่า ต้นตั้งแข็งโด่ - แบบนี้ถึงจะสมจริง)


แต่ปีนี้แม่ยายยังให้พี่เขยแอบเอายูเรียไปใส่ ข้าวล้มไปครึ่งไร่กว่า ..เกี่ยวไปแล้วครับเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ได้
ข้าว 73 ถัง/ไร่ ดีกว่าปีที่แล้วได้ 65 ถังเท่านั้น ขอบคุณปุ๋ย ตาคิม ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ชาย
ซื้อส่งขึ้นไปให้ทันการ ...


ปีนี้ ผมยกข้าวให้แม่แกทั้งหมดเหมือนเคย และก็เป็นการทำให้คนแก่คงจะนอนตายตาหลับ
เพราะผมทำนา 2 ปี ปลดหนี้ให้แม่ยายหลังจากที่แกเอาโฉนดไปฝากไว้ที่ ธ.ก.ส. เกือบจะ
10 ปีมั๊ง เอาคืนกลับมาบ้านได้ วิญญาณพ่อตาก็คงจะเป็นสุขไปด้วย (แต่ผมตกเลือดแทบ
ตาย) ยังไงๆ โฉนดคงไม่ไปไหน ของหลานข้า ใครอย่าแตะ ...... ใช่มั๊ยครับลุง



ขอสนับสนุนกระทู้ยัยเฉิ่ม ซึ่งทิดแดงเป็นคนเปิด ปุจฉา ลุงแล้ว ขอลุงได้โปรด วิสัชชนา ด้วย แต่ปีนี้ บ่มีค่า
กัณฑ์ธรรมเน้อ (ปีนี้ไม่มีค่ากัณฑ์เทศน์นะครับ-ข้าวเจ้าขายไปเกลี้ยง เหลือเก็บไว้กินแค่กระสอบปุ๋ยเดียว ผม
คงต้องกินข้าวเหนียวละครับ)



สมบัติ เชียงราย

.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 11/12/2012 6:35 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:17 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY....



ลุงคิมครับ

ขอสนับสนุนด้วยอีกคน

ขอบคุณครับ
jukgree



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 11/12/2012 6:41 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:20 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY.....




O.K. ........ คอยเดี๋ยว



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:22 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY....



สนับสนุน ปุ๋ยลุงคิมอีกคน ยัยเฉิ่มอย่าทำอินทรีย์ซ้ายจัด และเคมีขวาจัด (100%) ผมเคยทำมาแล้ว งบอินทรีย์
ซ้ายจัดบานมากกว่าปุ๋ยเคมี (100%) อีกน่ะ

หลายคนบอกว่าข้าวอินทรีย์ลดต้นทุนน่ะ จริงครับ แต่ต้องใช้เวลา 2-3 ปีขึ้นไป เพื่อสะสมพวกซากฟางในดินให้
มาก และเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีให้มาก แต่รอได้ไหมล่ะครับ ในเมื่อทุกวันต้องกินต้องใช้

แต่หลายครอบครัว พ่อแม่ปรับยาก เพราะเขาทำมาทั้งชีวิตก็ใช้แบบนี้ เพื่อนบ้านก็ใช้ จะแตกแถวไปทำไม ยุ่งยาก
มากความ ไม่ถูกหลักกู (แต่ถูกใจข้าว) ต้องใช้แนวพนันขันต่อ (พ่อทำครึ่ง ผมทำครึ่ง) นั้นเอง

ในทุกปี งบรัฐทุ่มลงไปที่ อบต. ให้พาชาวบ้าน (หัวแข็ง)ไปดูงานกับไร่นาที่เขาสำเร็จแล้ว ปลดหนี้ได้แล้ว ออกจาก
วังวนได้แล้ว แต่ญาติผมหลายคนก็ไปดูมา แต่เมื่อกลับมาแล้ว ก็กลับไปทำแบบเดิม แล้วยังมาพูดอีกว่า เขามีเครื่อง
มือ เขามีความรู้ เขาต่างๆนาๆ เพื่อหาข้ออ้างที่จะไม่ทำ แบบเดิมมันสบายไงครับ โทรสั่ง (หว่าน ฉีด เก็บ) อย่าง
เดียว แต่มาหน้าแห้งเมื่อเงินที่ได้รับ ต้องส่งร้านขายปุ๋ย ธ.ก.ส.

ยิ่งตอนนี้ รัฐออกบัตรเครดิตชาวนา ไม่อยากจะคิด ว่าอีก 3-5 ปี ไร่นาจะตกเป็นของใคร คนไทยคนรวย คนไทย
ที่คิดได้ และต่างชาติ (มีนอมินี เป็นคนไทย)


สู้ๆ ยัยเฉิ่ม

jukgree

.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 11/12/2012 6:42 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:25 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

นาข้าวแปลงนี้เป็นนาข้าวแบบ “อินทรีย์นำ – เคมีเสริม – ตามความเหมาะสมของต้นข้าว
พันธุ์ปทุม1 นาปี น้ำบริบูรณ์ นายืม ฯลฯ”... ใช้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงที่ผ่าน การตรวจ
“ปริมาณ/ชนิด” ของสารอาหาร (อินทรีย์สาร) จากกรมวิชาการเกษตร .... ให้ปุ๋ยเคมี “ทาง
ใบ/ทางราก” สูตรและอัตราใช้ ตรงกับระยะพัฒนาการของต้นข้าว




นาข้าว สูตร ก.....ทำกับมือ


แรงบันดาลใจ :
พูด-พูด-พูด ในรายการวิทยุ ก็ว่า .................................. ทำเกษตรหลังไมค์
เขียน-เขียน-เขียน หนังสือ ก็ว่า ................................... ทำเกษตรบนแผ่นกระดาษ
ทีวี-ทีวี-ทีวี ครั้งสองครั้ง ก็ว่า ...................................... ทำเกษตรบนจอ
อ้าง-อ้าง-อ้าง คนทำสำเร็จ ก็ว่า ................................... ทำนาบนหลังคนอื่น

ตัดสินใจขอยืมแปลงนาท้ายไร่กล้อมแกล้มของคนรู้จักกัน เนื้อที่ 5 ไร่ ทำนาซะเลย สิ้นเรื่องสิ้นราว....

เงื่อนไข :
@ เจ้าของนา : ออกทุนค่ารถดำ, เลือกพันธุ์ข้าว, คุมน้ำ เข้า-ออก (ตามสั่ง), ให้ยืมเครื่องมือ. ออกทุนค่าเกี่ยว.
@ คนขอยืม : ออกค่าน้ำมันย่ำเทือก, ออกค่าปุ๋ยทางใบ-ทางราก, ค่าสารสมุนไพร, ค่ากำจัดวัชพืช, ค่าแรงงาน.
@@ ผลผลิตที่ได้ : เป็นของเจ้าของนา

ประวัติดิน :
- ทำนาข้าวมาตั้งแต่เจ้าของนาเกิด
- นาข้าว 3 รุ่นสุดท้ายที่ผ่านมา ไถกลบฟาง
- ใช้ยาฆ่า ยาคุมหญ้า
- ใช้ 46-0-0 สลับ 16-20-0 อย่างละ 1 กระสอบต่อไร่
- ใช้สารเคมีกำจัดแมลง
- ได้ข้าว 70-80 ถัง/ไร่
- ควบคุมน้ำ เข้า-ออก ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพราะชลประทานดี
– หน้าดินเรียบเสมอกันทั้ง 5 ไร่
- แต่ละกระทง (หมายถึง พื้นที่ในกรอบสี่เหลี่ยมคันนา) ไล่ระดับจากสูงไปต่ำเล็กน้อย พอให้ระบายน้ำจากกระทง
สูงไหลสู่กระทงต่ำได้ดี



ขั้นตอนดำเนินการ :
เตรียมแปลง......
(เริ่มหลังจากเกี่ยวข้าวเรียบร้อย)
- เกลี่ยฟางที่กองทับบนตอซังออกให้กระจายเสมอกันเพื่อฟางจะได้แห้งเท่าๆกัน.
– ทิ้งฟางตากแดด 15 วันแดดจัด ฟางแห้งสนิท
- เอาน้ำเข้าลึกเสมอตาตุ่มหรือต่ำกว่า เพื่อล่อให้วัชพืชและพืชที่ไม่ต้องการทุกชนิดงอกขึ้นมา
- ทิ้งไว้ 10 วัน สำรวจแปลง เห็นชัดว่าฟางเริ่มเปื่อย ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าจากฟาง ตอซังเริ่มเขียวเพราะได้น้ำ วัชพืช/
หญ้า/เมล็ดข้าวร่วง เริ่มงอก
- ระดับน้ำ ณ วันนี้ลดลงเหลือเพียงติดผิวดิน (เจ๊าะแจ๊ะ)

หมายเหตุ : กรณีมีน้ำบริบูรณ์ สามารถสูบน้ำเข้านาได้ทันที และต้องการทำนาต่อโดยไม่เว้นช่วง ทำตามวิธีนี้ได้
เลย.....หากไม่มีน้ำหรือต้องเว้นช่วงการทำนา เว้นช่วงกี่เดือนก็สุดแท้ หลังเกี่ยวข้าวเสร็จ เริ่มด้วยเกลี่ยฟางพอ
สมควรก่อน, ไถดินด้วยผานสามให้ได้ขี้ไถใหญ่ๆ, ไถพลิกให้ฟางลงไปอยู่ไต้ดินขี้ไถ, ทิ้งขี้ไถตากแดดไว้อย่าง
นั้น, เมื่อถึงช่วงหรือฤดูกาลทำนาใหม่ก็ให้สูบน้ำเข้าระดับเหนือตาตุ่มหรือครึ่งหน้าแข้ง แล้วเริ่มทำตามขั้นตอนต่อ
ไปได้ ..... การไถกลบฟางแล้วทิ้งไว้ไต้ขี้ไถ ปล่อยตากแดดจนดินแห้ง จะช่วยให้ดินร่วนดี ตีเทือกจะได้ขี้เทือกดี
กับฟางไต้ขี้ไถก็จะถูกจุลินทรีย์ประจำถิ่นเข้าย่อยสลายด้วย.....การไถพลิกกลับดินเช่นนี้ไม่สามารถกำจัดวัชพืชได้
ตรงกันข้าม วัชพืชจะเจริญเติบโตดีกว่าเก่า เพราะได้รับการพรวนดินให้และได้ระยะพักตัว แต่งานนี้จะได้ฟางหรือเศษ
ซากต้นวัชพืชที่ถูกย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน....



ทำเทือก + กำจัดวัชพืช + ใส่ปุ๋ยรองพื้น :
ย่ำเทือกครั้งที่ 1 :

- ใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (3 ล) +16-8- 8 (10 กก.)/ไร่.....ผสมทั้งสองอย่างในน้ำ 100 ล.
ให้ละลายเข้ากันดี แล้วเดินสาดให้ทั่วแปลง
- สูบน้ำเข้าลึกเหนือตาตุ่ม แต่ต่ำกว่าครึ่งหน้าแข้ง
- ใช้อีขลุบหรือลูกทุบลงย่ำ .... ย่ำแบบประณีต 3 รอบต่อกระทง
- ย่ำแล้วทิ้งไว้ 7 วัน

หมายเหตุ : วิธีสาดปุ๋ยน้ำหมักฯ + ปุ๋ยเคมี สาดแรงๆ ให้กระจายตกลงพื้นทั่วแปลงสม่ำเสมอกันดีๆ ระหว่างที่ลูก
ทุบหรืออีขลุบวิ่งไปจะช่วยกวาดปุ๋ยน้ำหมักฯ + ปุ๋ยเคมี ให้กระจายตัวอีกครั้ง.....วัชพืชประเภทเกิดจากเมล็ด
เมื่อถูกย่ำจนเสียหายแล้วจะงอกอีกไม่ได้ (งอกได้ครั้งเดียว) แต่วัชพืชที่เกิดจากหัวหรือไหลงอกใหม่ได้ วัชพืช
ประเภทนี้ เมื่อใบถูกทำลายจะสร้างใบใหม่ขึ้นมา ระหว่างรอการสร้างใบใหม่จะกินอาหารจากหัวหรือไหลที่
สะสมไว้ ครั้นใบถูกทำลายหลายๆรอบ ก็ต้องกินอาหารที่สะสมหลายๆรอบเช่นกัน จนสารอาหารที่สะสมหมด ก็
จะแตกใบใหม่ไม่ได้ หัวหรือไหลจะเน่า เมื่อนั้นวัชพืชประเภทนี้จะหมดสิ้นไปเอง



ย่ำเทือกครั้งที่ 2 :
- สำรวจแปลงพบว่ามีหญ้าวัชพืชราว 1 ใน 4 ของจำนวนทั้งหมดเมื่อเทียบกับก่อนย่ำครั้ง 1 กับระดับน้ำลดลงเล็กน้อย
- สำรวจขี้เทือกด้วยการเดินย่ำให้ทั่วแปลง เพื่อดูว่า ขี้เทือกลึกเท่ากันทั่วแปลงหรือไม่ ถ้าบริเวณใดขี้เทือกลึกน้อย
กว่าบริเวณอื่นจนผิดสังเกตุ ให้สาดปุ๋ยน้ำหมักฯ (ไม่ + 16-8- 8 ) 1 ล. ผสมน้ำพอสาดสบายๆ เน้นสาดทับลง
เฉพาะบริเวณขี้เทือกตื้น เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์
- สำรวจการเน่าเปื่อยของฟาง ด้วยการหยิบขึ้นมาดม ถ้ามีกลิ่นเหม็นเน่า นั่นคือ ก๊าซไฮโดรเจน ซัลไฟด์ หรือก๊าซ
ไข่เน่า สาเหตุของอาการต้นข้าวเน่าตอซัง ปัญหานี้แก้ไขโดยการให้เวลาแก่จุลินทรีย์ นั่นคือ หมักดินนานขึ้น
ถ้าไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าแสดงว่า ไม่มีก๊าซไฮโดรเจน ซัลไฟด์.
- ลงมือย่ำครั้งที่ 2 ด้วยอีขลุบหรือลูกทุบเดิม ย่ำแบบประณีต 3 รอบต่อกระทง
- ย่ำแล้วทิ้งไว้ 7 วัน



ย่ำเทือกครั้งที่ 3

- สำรวจแปลงพบว่ามีหญ้าวัชพืชราว 1 ใน 10-20 ของจำนวนทั้งหมดเมื่อเทียบกับก่อนการย่ำครั้งที่ 1 ระดับน้ำ
ลดลงเล็กน้อย
- สำรวจขี้เทือกด้วยการเดินย่ำให้ทั่วแปลงอีกครั้ง เพื่อดูว่าขี้เทือกลึกเท่ากันทั่วแปลงหรือไม่ ถ้ายังมีบริเวณใดขี้
เทือกลึกน้อยกว่าบริเวณอื่นอยู่อีก คราวนี้ไม่ต้องใส่เพิ่มปุ๋ยน้ำหมักฯ แต่เตรียมแผนการหมักต่อให้นานขึ้น เพื่อให้
เวลาแก่จุลินทรีย์ทำการย่อยสลายดินให้
- สำรวจการเน่าเปื่อยของฟาง เพื่อพิสูจน์ทราบก๊าซไฮโดรเจน ซัลไฟด์.
- ลงมือย่ำครั้งที่ 3 ด้วยอีขลุบหรือลูกทุบเดิม ย่ำแบบประณีต 3 รอบต่อกระทง
- ย่ำแล้วทิ้งไว้ 7 วัน

หมายเหตุ :
- ก่อนลงมือย่ำเทือกรอบที่ 3 ให้วิเคราะห์จำนวนต้นวัชพืชตั้งแต่ก่อนลงมือย่ำครั้งแรกกับก่อนลงมือย่ำครั้งที่ 3 ว่า
จำนวนวัชพืชลดลงมากน้อยเพียงใด ถ้ายังพอมีและต้องการให้เทคนิคการย่ำเทือกเป็นการทำลายวัชพืชได้ผลอย่าง
แท้จริง ก็ให้เน้นการย่ำครั้งที่ 3 ให้ประณีตยิ่งๆขึ้น หาไม่แล้วจะต้องย่ำครั้งที่ 4 ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน
- ชาวนาทั่วไป ทั้งทำนาแบบไถกลบฟาง และทำนาแบบเผาฟาง หลังจากปล่อยน้ำเข้าแล้วจะไถดินด้วยรถไถ
โรตารี่ก่อน 1-2 รอบ ทิ้งไว้ 7 วัน แล้วจึงย่ำเทือกด้วยอีขลุบหรือลูกทุบ
- การย่ำเทือกด้วยอีขลุบหรือลูกทุบ ก็ย่ำรอบเดียวในแต่ละกระทง ย่ำไม่ทั่ว (ไม่ประณีต) เหตุนี้ นอกจากดิน
จะไม่แหลกละเอียดเป็นขี้เทือก (เลน) แล้ว บรรดาหญ้าวัชพืชที่ยังอยู่ในดิน ก็จะงอกขึ้นมาใหม่ เลยต้องใช้ยาฆ่า
ยาคุม




สิ่งที่ได้จากงานนี้ :
- คนงานที่ทำเทือกเล่าให้ฟังว่า “ไม่ไถก่อน แต่ให้ย่ำเทือกดิบๆเลยจะได้ผลรึ .... ให้ย่ำซ้ำครั้งละ 3 รอบต่อกระทง
น่าจะสิ้นเปลืองน้ำมัน สิ้นเปลืองแรงงาน และเสียเวลา” แต่ไม่กล้าแย้งเพราะนั่นเป็นคำสั่ง กระทั่งย่ำครบ 3 ครั้ง
แล้ว จึงมาบอกแล้วยอมรับว่า “ได้ขี้เทือกดีกว่าไถก่อนแล้วจึงย่ำ ชนิดเทียบกันไม่ได้เลย.....”
- ย่ำเทือก 3 รอบ ห่างกันรอบละ 1 อาทิตย์ เท่ากับใช้เวลา 2 อาทิตย์

หมายเหตุ : หากจะเพิ่มรอบในการย่ำอีกเป็น 4-5 รอบ ก็จะช่วยกำจัดหญ้าวัชพืชได้เด็ดขาดแน่นอนยิ่งขึ้น และเมื่อมี
การควบคุมหญ้าวัชพืชจากแหล่งอื่นไม่ให้เข้ามาในแปลงได้ นาข้าวรุ่นต่อๆไปก็จะกำจัดพืชได้ง่ายขึ้น หรืออาจทำ
เทือกเพียงรอบเดียวแล้วดำเลยก็ได้ ...... นาข้าวที่ผ่านการไถกลบฟางมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก่อนลงมือทำต่อด้วยวิธีไถ
กลบฟางอีก ให้นึกถึงภาพขี้เทือกรุ่นที่แล้วว่า มีความลึกมากน้อยเพียงใด ถ้านารุ่นที่แล้วได้ขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้งแล้ว
ให้หยุดการไถกลบฟาง เพราะหากไถกลบฟางลงไปอีก จะทำให้ขี้เทือกลึกถึงหัวเข่า ส่งผลให้การดำ การเข้าไปทำงาน
ในแปลง ทำได้ยาก กับตอนเกี่ยวข้าวดินไม่แห้งทำให้รถเกี่ยวลงไม่ได้ ดังนั้น ขี้เทือกรุ่นใหม่นี้ควรใช้เพียงเศษซาก
รากเหง้ากอข้าวก็พอ ส่วนฟางก็เอาไปทำประโยชน์อย่างอื่น รุ่นหน้าค่อยว่ากันใหม่......


- ย่ำเทือกครั้งที่ 3 แล้วสำรวจแปลงพบว่า หญ้า/วัชพืช/ข้าวงอก มีน้อยมาก เมื่อเทียบกับก่อนย่ำครั้งแรก
– พิสูจน์กลิ่นฟาง เพื่อดูก๊าซไฮโดรเจน ซัลไฟด์. เป็นครั้งสุดท้ายก่อนลงมือดำ
- ขี้เทือกลึกประมาณครึ่งหน้าแข้งตามต้องการ (.....ขี้เทือกสำคัญที่สุด ขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง ข้าวจะโตดีกว่าขี้เทือก
ลึกแค่ตาตุ่ม .....ถ้าขี้เทือกยังลึกไม่ถึงครึ่งหน้าแข้ง ให้ใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 เปล่าๆ 2 ลิตร/
ไร่ ใม่ต้อง +ปุ๋ยเพิ่ม แล้วหมักดินต่ออีก 7-10 วัน ก็จะดีขึ้นด้วยจุลินทรีย์ที่ใส่เพิ่ม.....)
- ดินมีกลิ่นหอม
- เนื้อดินมีเศษฟางปนมาก
- ไม่ต้องไถ
- ไม่ต้องยาฆ่าหญ้า
– ได้เทือกชั้นดีสำหรับนาข้าว



การกำจัดวัชพืชขณะต้นข้าวอยู่ในแปลง :
- กำจัดวัชพืชในแปลงนาใช้วิธีถอนด้วยมือ เมื่อต้นข้าวโตถึงระยะแตกกอ พร้อมถอนแยกข้าวปนส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งจะมอง
เห็นต้นวัชพืช และลักษณะต้นข้าวปนชัดเจน
– วัชพืชบนคันนาขึ้นหนาแน่น......ใช้วิธีตัดด้วยเครื่องตัดหญ้า ทิ้งหญ้าลงในแปลงให้เน่าเปือย หรือเอาไปเลี้ยงสัตว์
- วัชพืชบนคันนาขึ้นไม่หนาแน่น..... เมื่อวัชพืชเริ่มออกดอก ใช้ไม้เรียวฟาดก้านดอกให้หัก ป้องกันดอกแก่กลายเป็นผล
แล้วปลิวเข้าไปอยู่ในเนื้อนา

หมายเหตุ : ไม่มียาฆ่าหญ้าใดในโลกที่ใช้ตามอัตากำหนดข้างขวดแล้วฆ่าหญ้าได้ตายสนิท 100% อย่างก็แค่ใบไหม้
เท่านั้น ไม่ช้าไม่นานก็งอกใหม่ โตและงามกว่าเก่า.....ไม่มีจุลินทรีย์ใดในโลกที่ฆ่าหญ้าข้าวนกในขณะที่ต้นหญ้าข้าวนก
ยังเขียวอยู่ได้ แต่ถ้าหญ้าข้าวนกนั้นตายแล้ว นั่นแหละจุลินทรีย์จึงจะย่อยสลายได้ เป็นการย่อยสลายเศษซากพืชตาม
ปกตินั่นเอง.....หญ้ากับต้นข้าวเป็นพืชตระกูลเดียวกัน เมื่อต้นข้าวสัมผัสกับยาฆ่าหญ้าแล้ว แม้ว่าใบจะไม่ไหม้เหมือน
หญ้า แต่ต้นข้าวก็ชงักการเจริญเติบโตไปด้วยอย่างน้อย 7-10 วัน ซึ่งจะส่งผลเสียแต่พัฒนาการของต้นข้าวด้วย....การ
ถอนควบคู่กับการระวังเมล็ดหญ้าจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่แปลงนา จึงเป็นมาตรการกำจัดหญ้าวัชพืชที่ได้ผลที่สุด




การดำนาด้วยเครื่องดำนา :
- ข้าวสายพันธุ์แตกกอดี ดำห่าง 30 x 30 ซม. .... ข้าสายพันธุ์แตกกอไม่ดี ดำห่าง 20 x 20 ซม.
– เตรียมดำซ่อมบริเวณที่ น้ำลึก + ขี้เทือกลึก เพราะตัวจับต้นกล้าของเครื่องดำนาปักกล้าลงไม่ถึงพื้น
– การดำซ่อมควรทำให้เสร็จสิ้นภายใน 3-5 วัน เพื่อให้ต้นข้าวโตทันกัน เป็นรุ่นเดียวกัน

หมายเหตุ : ต้นข้าวสายพันธุ์แตกกอดี แม้จะปลูกห่างแต่เมื่อแตกกอออกมาแล้ว ต้นข้าวแต่ละกอจะชิดกันเอง ใน
ขณะเดียวกัน หากต้นข้าวสายพันธุ์แตกกอดีแล้วดำชิด เมื่อต้นข้าวแตกกอออกมาจะเบียดชิดกัน.....ต้นข้าวที่ขึ้น
ห่างจะได้รับแสงแดดเต็มที่ ส่งผลให้การสังเคราะห์อาหารดี ต้นจะสมบูรณ์แข็งแรง ให้ผลผลิตดี และโรคแมลง
น้อย ในขณะเดียวกัน ต้นข้าวที่ขึ้นชิดจนเบียดกัน จะได้รับแสงแดดไม่เต็มที่ ส่งผลให้การสังเคราะห์อาหารไม่ดี
ต้นจะไม่สมบูรณ์แข็งแรงเท่าที่ควร ให้ผลผลิตไม่ดี และโรคแมลงมาก




การบำรุง :
ระยะกล้า + เตรียมความพร้อมต้น :

- ให้น้ำ 200 ลิตร + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 100 ซีซี. + 18-38-12 (1 กก.) + ยูเรีย จี. 500 กรัม +
สารสมุนไพร 1 ลิตร......ให้ครั้งที่ 1 เมื่อกล้าอายุ 20 วัน ให้ครั้งที่ 2 เมื่อกล้าอายุ 30 วัน และให้ครั้งที่ 3
เมื่ออายุกล้า 40 วัน
- สำหรับเนื้อที่ 5 ไร่
– ฉีดพ่นให้เปียกใบมากๆ

หมายเหตุ : ปกติการใช้ “น้ำ 100 ล. + ปุ๋ยทางใบ 100 ซีซี. + อื่นๆ” ด้วยการปรับหัวฉีดให้เป็นละอองละเอียด
มากๆ ฉีดตามลมแบบโฉบผ่าน พอให้สัมผัสใบนั้น จะได้เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่..... หากปรับเปลี่ยนมาเป็นใช้ “น้ำ
200 ล. +ปุ๋ยทางใบ และอื่นๆอัตราเดิม” ปรับหัวฉีดให้เป็นละอองไม่ต้องละเอียดมาก ฉีดตามลมแบบให้สัมผัส
ใบจนเปียกโชก แล้วให้ได้เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ เท่ากัน แม้น้ำที่ใช้ผสมมากขึ้นแต่เนื้อปุ๋ยเท่าเดิม จึงช่วยให้ต้นข้าวได้
รับปุ๋ยเต็มที่หรือได้รับมากกว่าฉีดแบบโฉบผ่าน.....ทั้งนี้ ปุ๋ยทางใบจะผ่านปากใบได้ดี ในสภาพที่ใบเปียก นั่นเอง



ระยะแตกกอ + ใส่ปุ๋ยแต่งหน้า/กระทุ้งแตกกอ :
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) + 16-8-8 (10 กก.) ผสมน้ำตามความสดวกในการทำงาน
- ฉีดลงดินผ่านต้นข้าวให้ทั่วทุกตารางนิ้ว มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ (ปุ๋ยน้ำชีวภาพฯ อัตราใช้ขนาดนี้ถูกใบข้าว ไม่เป็น
อันตรายต่อต้นข้าว)
– ควบคุมระดับน้ำเหนือตาตุ่มเล็กน้อย ถ้าน้ำมากต้นข้าวจะสูงแข่งกับน้ำ (....น้ำน้อยๆ อาจถึงระดับหน้าดินแห้ง
ต้นข้าวจะแตกกอได้ดีกว่าน้ำมากๆ .... นาดำแตกกอดีกว่านาหว่าน....ข้าวนาดำต้นใหญ่ รวงใหญ่ โรคน้อย .....
ข้าวนาหว่านต้นเล็ก รวงเล็ก โรคมาก....ข้าวนาดำ ต้นได้รับแสงแดดเต็มที่ เมล็ดลีบน้อย น้ำหนักดี เมล็ดแกร่งใส
ไม่เป็นท้องปลาซิว แต่ข้าวนาหว่าน ต้นได้รับแสงแดดไม่เต็มที่ เมล็ดลีบมาก น้ำหนักไม่ดี เมล็ดไม่แกร่งใส เป็น
ท้องปลาซิวมาก)


ระยะตั้งท้อง + สารลมเบ่ง :
- ให้น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไทเป 100 ซีซี. + 0-52-34 (1 กก.) + ยูเรีย จี. 500 กรัม +
สารสมุนไพร 2 ล.
- สำหรับเนื้อที่ 5 ไร่
– ฉีดพ่นให้เปียกใบโชกๆ
– เริ่มให้เมื่อลักษณะต้นข้ามกลม
– ควบคุมระดับน้ำเหนือตาตุ่มเล็กน้อย ถ้าน้ำมากต้นข้าวจะสูงทำให้ออกรวงน้อย

หมายเหตุ : การใช้ 0-52-34 +เพิ่มในฮอร์โมนไข่ไทเป จะช่วยให้ต้นหยุดการเจริญเติบโตทางสูง แต่จะเจริญ
เติบโตทางข้างแทน ทำให้ต้นข้าวไม่ล้ม......มีนกอีแอ่นถลาลม แมลงปอ บินโฉบฉวัดเฉวียนอยู่เหนือแปลงข้าว
แสดงว่ามีแลงแม่ผีเสือ จึงสุ่มสำรวจก็พบว่า “หนอนกอ” กำลังเกิดแต่ยังไม่ระบาดตัดสินใจใช้ “สารสกัดกลอย”
เดี่ยวๆ ฉีดพ่น 3 ครั้ง ห่างกันวันเว้นวัน คราวนี้ทั้งนกทั้งแมลงปอ ย้ายไปโฉบเฉี่ยวเหนือนาแปลงข้างๆ แสดงว่า
แม่ผีเสืออพยบหนีไปที่นั่น



ระยะออกรวง + สร้างเกสร :

- ให้น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + เอ็นเอเอ 100 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี. + สารสมุนไพร 2 ล.
- สำหรับเนื้อที่ 5 ไร่
– ฉีดพ่นให้เปียกใบมากๆ
- เริ่มให้เมื่อต้นข้าว 1 ใน 4 ของทั้งแปลง เริ่มแทงหางแย้หรือหางปลาทูขึ้นมาให้เห็นยาวประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ หรือ 1 ซม.
- ให้ 1 ครั้ง
- เอ็นเอเอ.ช่วยให้เกสรสมบูรณ์ ผสมติดดี ทำให้ได้เมล็ดข้าวมากกว่าไม่ได้ให้
– ควบคุมระดับน้ำเหนือตาตุ่มเล็กน้อย ถ้าน้ำมากต้นข้าวจะสูง สารอาหารที่ได้รับจะไปเลี้ยงต้นมากกว่าเลี้ยงดอก

หมายเหตุ : ให้ เอ็นเอเอ 1 ครั้ง จะช่วยให้ได้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น 15-25% เมื่อเทียบกับไม่ได้ เนื่องมาจาก
จำนวนดอกโดยเกสรมีการผสมติดมากขึ้นนั่นเอง......ช่วงที่ต้นข้าวออกรวงเต็มที่ กำลังรอการผสมเกสร เรียกว่า
“ตากเกสร” ไม่ควรฉีดสารใดๆ เพราะจะทำให้เกสรเปียก ผสมไม่ติดได้



ระยะน้ำนม + สร้างแป้ง/เพิ่มน้ำหนัก :
- ให้น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู 200 ซีซี. + ไบโออิ 50 ซีซี. + ยูเรก้า 50 ซีซี. + สารสมุนไพร 2 ล.
- สำหรับเนื้อที่ 5 ไร่
– ฉีดพ่นให้เปียกใบมากๆ
- ให้ 3-4 ครั้ง แบ่งช่วงการให้ตามความเหมาะสม โดยให้ครั้งสุดท้ายก่อนเกี่ยว 10-15 วัน
- ควบคุมระดับน้ำเหนือตาตุ่มเล็กน้อย
- ก่อนเกี่ยว 10-15 วัน สูบน้ำออกเพื่อให้ดินแห้ง และลดความชื้น

หมายเหตุ : ระยะน้ำนมนี้หากใบข้าวไม่เขียวเข้มจริง หรือต้องการให้ใบข้าวเขียวเข้มขึ้นไปอีก ให้เพิ่ม “ยูเรีย จี” ลง
ไป 500 กรัม ต่อการให้ทางใบในบางครั้ง หรือให้ทุกครั้ง ตามอัทธยาศรัย.....การให้ “น้ำ 200 ล. + น้ำส้มสายชู
200 ซีซี. + นมสด 200 ซีซี. 1 ครั้ง ก่อนเกี่ยว 5-7 วัน สามารถช่วยลดความชื้นในข้าวเปลือกได้ 3-5% ....




เกี่ยวข้าว + รับเงิน (เข้าบ้าน หรือ ใช้หนี้) :
- มีผู้สนใจมาดูประมาณ 100 คน มีชาวบ้าน 2-3 คนที่มาเข้ามากระซิบ “ลุงครับ-ผู้พันครับ คนนั้นเป็นเกษตรจังหวัดฯ
คนโน้นเป็นเกษตรอำเภอฯ ข้างหลังนั่นเกษตรตำบลฯ ปลอมตัวเป็นชาวบ้านมาดู เห็นแล้วร้อง อื้อฮือ เลยครับ....” คิด
ในใจ ทำต้องปลอมตัวมาด้วย (วะ) น่าจะเข้ามาคุยกัน ขอเทคนิคนาข้าว หรือไม่ก็เอาเกษตรกรชาวนามาเรียนรู้ที่นี่ซะก็ได้
สงสัย กลัวเสียเหลี่ยม
- ได้ข้าว 127 ถัง
- วันนั้นถ้าส่งขายที่โรงสีจะได้เกวียนละ 6,000 แต่มีคนสนใจขอซื้อไปทำข้าวพันธุ์ ให้ราคาเกวียนละ 9,000 โดยไม่
ต้องตากแดด ลดความชื้นก่อน.....คนที่รับซื้อไป พอถึงบ้าน เช้าวันรุ่งขึ้นเท่านั้น มีคนมาขอซื้อต่อ (รู้ข่าวจากรายการ
วิทยุ) ทันที ให้ราคาเกวี่ยนละ 12,000 ขาดตัวไม่พอขาย

หมายเหตุ : ก่อนเกี่ยว ถ้าให้แคลเซียม โบรอน. จะทำระแง้คอรวงเหนียว เครื่องเกี่ยวจะสลัดเมล็ดไม่ค่อยหลุด.....ก่อน
เกี่ยวควรตรวจสอบ "อายุเก็บเกี่ยว" ประจำสายพันธุ์ให้แน่นอน แล้วลงมือเกี่ยวตามกำหนดนั้น หรือตรวจสอบด้วยการ
สุ่มตัวอย่างมาแกะดูแป้งในเมล็ดก่อน หาไม่แล้วข้าวจะแก่เกิน กรอบและร่วงง่าย......ผลจากการให้แม็กเนเซียม. ทั้งทาง
รากและทางใบ สม่ำเสมอ จะทำให้ข้าวใบเขียวถึงวันเกี่ยว ลักษณะเหมือนต้นข้าวยังแก่ไม่จัด แบบนี้ให้สุ่มตรวจสอบเมล็ด
ล่างสุดของรวง 5-10 รวง ในแต่ละกระทง ถ้าเป็นเมล็ดเต็ม แข็งแกร่ง ถือว่าแก่แล้ว ให้เกี่ยวได้ แต่หากยังเป็นน้ำนม
แสดงว่ายังแก่ไม่เต็มที่ ให้เลื่อนวันเกี่ยวออกไป.....สังกะสี. ที่ให้ทั้งทางรากและทางใบ คือผู้ช่วยสร้างแป้ง ทำให้คุณ
ภาพเมล็ดข้าวดี




หมายเหตุ : ข้อความในหมายเหตุทุกหมายเหตุ เป็นทั้งข้อมูลเดิมที่เคยมี กับข้อมูลใหม่ได้รับมา
จาก สมช.ที่ทำตามแนวทางนี้ แล้วแจ้งผลมาให้ทราบ จึงเป็นข้อมูล UP DATE ที่สุด ณ วันนี้



เกษตรานุสติ + ชาวนารอด ประเทศไทยรอด :
- ปุ๋ยน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. ไม่ใช่ของวิเศษ ที่ใช้แล้วต้องได้ผลเหมือนลุงคิมใช้ เพราะในธรรมชาติ
ของต้นข้าวต้องมี “ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก” อื่นๆประกอบด้วย....ดินคุณดินลุงคิม-น้ำคุณน้ำลุงคิม-อากาศอุณหภูมิ
บ้านคุณอากาศอุณหภูมิบ้านลุงคิม-อื่นๆของคุณของลุงคิม ไม่เหมือนกัน ผลการใช้ปุ๋ยจึงออกมาไม่เหมือนกัน เพราะฉนั้น
ต้อง “ทัมใจ” อย่าเล็งผลเลิศ อย่าเป็น “คิมมิสซึ่ม” ที่แน่ๆ คือ ให้ดีกว่าไม่ได้ให้หน่อยนึงก็แล้วกัน

- ต้นข้าวไม่รู้จัก “ยี่ห้อ” รู้จักแต่ส่วนผสมในเนื้อปุ๋ยเท่านั้น เพราะฉนั้น ใช้ปุ๋ยยี่ห้อไหนก็ได้ ที่มีส่วนผสมตรงกับความ
ต้องการที่แท้จริงของต้นข้าว

- ลุงคิมก็ “โกหก” คนเป็นเหมือนกัน (ชอบด้วย) เพระฉนั้น อย่าเชื่อลุงคิม แต่จงเชื่อตัวเอง เชื่อคนในกระจก....หรือทั้ง
ตัวเอง ทั้งคนในกระจก ก็เชื่อไม่ได้ ล่ะ

- นาข้าว “เทือก” คือตัวบ่งชี้ดิน เทือกดี = ดินดี -- เทือกไม่ดี = ดินไม่ดี......ดินดี ใส่ปุ๋ยเคมีน้อย = ข้าวดี -- ดิน
ไม่ดี ใส่ปุ๋ยเคมีมาก = ข้าวไม่ดี.....งานวิจัยของ IRRI ระบุ ข้าวต้องการปุ๋ยเคมีเพียง 20 กก.ธาตุหลัก เท่านั้น ที่เหลือ
ต้องการธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน และอื่นๆ ..... นาข้าวใส่ปุ๋ยเคมี 20 กก.ธาตุหลัก ได้ 100 ถัง ครั้นใส่ปุ๋ยเคมี 100 กก.
ซึ่งมากกว่า 5 เท่า แล้วทำไมไม่ได้ 500 ถัง

- ได้ผล/ไม่ได้ผล จงวิเคราะห์ที่ “6 ปัจจัยพื้นฐาน” โดยเอามาจับกับหลัก “สมการเกษตร” จากนั้น ปรับ/แก้ ให้ตรง
กับต้นข้าว แล้วจะพบคำตอบว่า ใช่/ไม่ใช่ อย่างแน่แท้

– จงอย่าปักธงหวังเอาผลผลิตมากๆ แล้วเพิ่มต้นทุนค่าปุ๋ยเคมี-สารเคมี แต่จงรอเวลาให้ดินคืนสภาพดีเสียก่อน แล้วจะได้
ผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ ต้นทุนน้อยนิด.....ต้นพืชไม่รู้จักต้นทุน หากต้องการผลผลิตที่ดีทั้งปริมาณและคุณภาพ จำเป็นต้อง
ให้เขาได้กินสารอาหารที่ “เพียงพอ-ถูกต้อง-เหมาะสม” เท่านั้น

– นาข้าวหรือเกษตรอินทรีย์ที่ล้มเหลว เป็นเพราะในอินทรีย์นั้นไม่มีสารอาหารพืชหรือมีน้อยจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ของพืช ..... พิจารณาซิ อินทรีย์ที่ว่านั้น ทำมาจากอะไร ? กรรมวิธีในการทำเป็นอย่างไร ? มีสารอาหารชนิดใด ?
มีปริมาณเท่าได ? ใช้เท่าใด ? ใช้อย่างไร ? หาไม่แล้วจะกลายเป็น อินทรีย์-อินทรีย์ อินทรีย์ตกขอบ

- เตรียมใจให้พร้อมสำหรับการพบกับสารพัดสารพันปัญหา พบปัญหาแล้วแก้ไขแบบ “เลยตามเลย-ไหนก็ไหน” ไปก่อน
แล้วเตรียมป้องกันสำหรับนารุ่นหน้า ...... ทำเถอะ ทำแล้ว 3 รุ่นนั่นแหละ จึงจะเห็นทาง

- สำคัญสุดเหนืออื่นใจ คือ “เปิดใจ” รับข้อมูลข่าวสาร อย่า SHUT IN ตัวเอง อย่าคิดว่า “รู้แล้ว-รู้แล้ว” อย่างเด็ด
ขาด.....มิตรที่ดีที่สุด คือ ตัวเอง และ ศัตรูที่ภัยที่สุด คือ ตัวเอง.....




...................................................เอวัง..............................................



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 11/12/2012 4:31 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:27 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

COPY....



สวัดดีค่ะ ลุงคิม

ยัยเฉิ่ม ขอบคุณลุงคิมมากค่ะ ที่ตอบให้อ่านอย่างชัดแจ้งแดงแจ๋

แต่ยัยเฉิ่ม มาคิดๆดู ยัยเฉิ่มมาตั้งกระทู้ใหม่ทำไม ทั้งๆที่เป็นเรื่องเดียวกัน ก็คือเรื่องทำนา จึงอยากจะขอรบกวนลุงคิม
ช่วยย้าย กระทู้ "ก...ทำกับมือ" ไปรวมไว้กับกระทู้ "ฉัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา" หน่อยจะได้ไหมค่ะ



ขอบคุณค่ะ
ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 11/12/2012 4:37 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ย้ายหมดแล้ว....ยกโรงพัก...



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cherm
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 17/11/2011
ตอบ: 237

ตอบตอบ: 11/12/2012 9:53 pm    ชื่อกระทู้: ขอบคูณค่ะ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีค่ะ ลุงคิม

ขอกราบอย่างงามแบบนางสาวไทยกราบเลยละค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ยัยเฉิ่ม เฉิ่มสมชื่อ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 12/12/2012 7:23 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ย้ายแล้ว มันจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย ว่ากระทู้ไหนของใครน่ะ....

อั้ยเรา รึก็เก่งเรื่องเน็ต เรื่องคอม ซะไม่มี....



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 13/12/2012 1:17 am    ชื่อกระทู้: Re: ขอบคูณค่ะ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

cherm บันทึก:
สวัสดีค่ะ ลุงคิม

ขอกราบอย่างงามแบบนางสาวไทยกราบเลยละค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ยัยเฉิ่ม เฉิ่มสมชื่อ


ขอร้องเลยน้อง เอาแค่ไหว้งาม ๆ ธรรมดา ๆ พอแล้ว ขืนกราบงาม ๆ แบบ นางสาวไทย มีหวังกลิ้งเป็นถัง 200 ลิตรแน่ ๆ

แล้วก็นะ นาของน้อง ไม่ต้องใช้รถตีนตะขาบ ใช้คันนี้ก็พอ




ส่วนถ้าจะติดสปริงเกลอร์ละก็ ปั๊มน้ำ ใช้ชนิด เอนกประสงค์แบบนี้ได้เลย
ของจริงนะน้อง หรือใครว่าแบบนี้ใช้งานไม่ได้



แล้วก็อย่าทำให้แพ้เด็กกะเหรี่ยงในรูปข้างล่างนี้นะจ๊ะ








ดำห่าง ๆ สูตรตาคิมแบบนี้ รับรอง 200 ถัง / ไร่ สบาย ๆ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cherm
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 17/11/2011
ตอบ: 237

ตอบตอบ: 03/01/2013 3:08 pm    ชื่อกระทู้: สวัสดี ปีใหม่ค่ะ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง ทิดบัติ และสมช.ทุกท่านค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

พร...ระริน สิ้นทุกข์พบสุขสันต์
ปี...เก่าพลันหมดไปใจสุขี

ใหม่...ผ่านมาจงอุ่นอบพบสิ่งมี
ใส่...โชคดีปีใหม่สดใสพลัน

พาน...พบสิ่งแสนดีไม่มีหมอง
จาก...พี่น้องร่วมใจในร้อยฝัน

สมช...รวมรักถักถ้อยร้อยจำนรร
ลุงคิม...สร้างสรรสิ่งดีปีใหม่เทอญ

ปีใหม่ 2556 ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้
ลุงคิม และ สมช.ทุกท่านมีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะคะ

ยัยเฉิ่ม เจ้าค่ะ
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11562

ตอบตอบ: 03/01/2013 6:57 pm    ชื่อกระทู้: Re: สวัสดี ปีใหม่ค่ะ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

cherm บันทึก:




สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง ทิดบัติ และสมช.ทุกท่านค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

พร...ระริน สิ้นทุกข์ พบสุขสันต์
ปี...เก่า พลันหมดไป ใจสุขี

ใหม่...ผ่านมา จงอุ่นอบ พบสิ่งมี
ใส่...โชคดี ปีใหม่ สดใสพลัน

พาน...พบสิ่ง แสนดี ไม่มีหมอง
จาก...พี่น้อง ร่วมใจ ในร้อยฝัน

สมช...รวมรัก ถักถ้อย ร้อยจำนรร
ลุงคิม...สร้างสรร สิ่งดี ปีใหม่เทอญ

ปีใหม่ 2556 ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้
ลุงคิม และ สมช.ทุกท่านมีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะคะ

ยัยเฉิ่ม เจ้าค่ะ







.



ลอกใครมาน่ะ แน่จริงแต่งเองซี่....

เสียชื่อโพธาราม โหมะเลย


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
cherm
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 17/11/2011
ตอบ: 237

ตอบตอบ: 03/01/2013 10:12 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.


สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดีค่ะ ทิดแดง และสมช.ทุกท่าน

คนสวย โพธาราม นามยัยเฉิ่ม
จะขอเริ่ม แต่งกลอน พรปีใหม่

นี้แค่เริ่มต้นนะคะ....



ลูกชายจะทำการบ้าน ขอพักไว้ก่อน รับรองไม่เสียชือคนสวยแน่นอนค่ะ



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2, 3 ... 7, 8, 9 ... 13, 14, 15  ถัดไป
หน้า 8 จากทั้งหมด 15

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©