ต้นเชอร์รี่

[NamPetch]

เมล็ดเชอร์รี่ เมื่อวานลองปลูกที่บ้านดูสิตา

[kimzagass]

ต้องเพาะเมล็ก่อน

ที่บ้านไม่มีวัสดุเพาะ (ดิน) กับถุงเพาะก็ไม่มี
ต้องไปเพาะที่ไร่กล้อมแกล้มโน่นแหละ

เลี้ยงต้นโตดีแล้ว ค่อยเอามาปลูกที่บ้าน

O.K. ?

[fivestar]

เชอร์รี่เพาะด้วยเมล็ดไม่ขึ้นนะคะลุง ต้องตอนกิ่งอย่างเดียวค่ะ

[kimzagass]

เชอร์รี่ ออสเตรเลียครับ ไม่ใช่เชอร์รี่ไทย....

กฏธรรมชาติของพืชทุกชนิด เมื่อมีเมล็ดก็ต้องขยายพันธุได้ แต่มีข้อแม้ "ปัจจัย
พื้นฐานเพื่อการงอก" ต้องเหมาะสม ดูอย่างกล้วยไม้ ทำให้มีผล ในผลจะมีเมล็ด
เมล็ดนั้นเอาไปเพาะ ยังเกิดเป็นต้นได้ ..... เด็กในบ้านกิน เราก็เลยชวนคุยเรื่องผล
ไม้ เป็นการสร้าง สปช. (ประสบการณ์ชีวิต) ให้แก่เขา น้ำเพชรหลานคนโต เกิดปิ๊ง
ไอเดียร์ขึ้นมา แนะนำให้ตาเอาไปปลูก

เมล็ดมีเปลือกแข็งมาก คงต้องระเบิดเปลือกก่อน แล้วเอาเมล็ดในมาเพาะ ก็น่าจะ
ได้ซักต้น ในจำนวนเมล็ดเกือบ 100 เมล็ด


สอบถาม อบต. กำนัน. นายอำเภอ. แล้ว ไม่มีใครว่า ก็เลยจะลองดู



ขอกำลังใจให้เชอร์รี่ด้วยนะ.....



.

[kimzagass]

http://www.thainame.net/project/saowanee/cherry.jpg






http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2011/09/J11075065/J11075065-28.jpg






สำนักงานสถิติการเกษตรแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (The National Agricultural
Statistics Service: NASS) ยืนยันว่า รัฐวอชิงตัน มีการผลิตเชอร์รี่หวาน
(Sweet Cherries) มากที่สุด 5 สายพันธุ์คือ Chelan, Tieton, Bing,
Rainier, Lapings, Skeena และ Sweetheart และ...บิง (Bing) กับ เรน
เนียร์ (Rainier) เป็นที่นิยมอย่างสุดสุด ทั้งนี้เนื่องจาก พันธุ์บิง ลูกโต เนื้อค่อนข้าง
เฟิร์ม ไม่ช้ำง่าย เมื่อสุกจะมีสีแดงเข้ม เหมือนไม้มะฮอกกานี อมเปรี้ยวนิดๆ

ส่วน เรนเนียร์ ผลมี สีเหลืองสลับส้มแดง ลูกใหญ่ เนื้อเฟิร์มเช่นเดียวกับ พันธุ์บิง แต่
มี ลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นในเรื่องความหวานเมื่อเปรียบ-เทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ

ราคาเรนเนียร์ก็แพงกว่าสายพันธุ์บิงเกือบเท่าตัว และฤดูกาลเก็บ เกี่ยวก็จะอยู่หลัง
สายพันธุ์บิงเล็กน้อย...จึงเป็นข้อดีของชาวสวน ที่ไม่ต้องเจอปัญหาผลไม้ล้นตลาด

ในภาพรวม...คาดว่าปีนี้ (2009) จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งสิ้น ประมาณ
200,000 ตัน มากกว่าปี 2008 ประมาณเกือบเท่าตัว ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึง
สิงหาคมของทุกปี ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากที่สุด

เกษตรกรชาวสวนเชอร์รี่ในวอชิงตันส่วนมากจะทำเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ในเชิงการค้า
แล้ว จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บเอง เพราะเขาเกรงจะส่งผลกระทบให้
ต้นเชอร์รี่

ผิดฟอร์มกับ ฟาร์มขนาดเล็กจะเปิดให้ผู้คนเข้าไปเก็บเกี่ยวได้เองตามใจชอบ เก็บกิน
ในสวนไม่ต้องเสียตังค์...หากนำกลับบ้านก็ต้องจ่ายตามราคา

Mrs.Mary และ Mr.Roger Gill เกษตรกรรายหนึ่งของ เมืองวะนาชี
(Wenatchee) เธอเปิดสวนหลังบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเก็บเชอร์รี่ทุกปี...

สวนของเธอมีเชอร์รี่อยู่ 5 ต้น ให้ผลผลิตต้นหนึ่งราวๆ 300 พาวด์ ราคาพาวด์ละครึ่ง
ดอลลาร์ หรือประมาณ 17 บาท (ถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับสวนอื่นๆ ที่ขายอยู่ไม่
ต่ำกว่าพาวด์ละ 1 ดอลลาร์) ถ้าเก็บเชอร์รี่ขายทั้งหมด จะมีรายได้ประมาณ 700-
1,000 เหรียญ ราวๆ 23,000-34,000 บาทต่อปี...ส่วนเชอร์รี่ที่เหลือคาต้นก็จะ
เก็บและแจกจ่ายแบ่งปันให้เพื่อนๆ

นับเป็นการพัฒนาสวนหลังบ้านที่ สร้างรายได้... คล้ายกับวิถีเศรษฐกิจพอเพียงใน
บ้านเราเปี๊ยบเลย.


อ้างอิงที่มา : ไทยรัฐออนไลน์โดย ดวงแก้ว ผุงเพิ่มตระกูล
อ้างอิงภาพ : 203.172.220.170/stu_proj/501052/cherry.jpg

http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/20090628190647.jpg&imgrefurl=http://www.sahavicha.com/%3Fname%3Darticle%26file%3Dreadarticle%26id%3D996&usg=__Gf3O4vNHgYLVPDEehmcKUYxJkRk=&h=480&w=640&sz=92&hl=th&start=25&zoom=1&tbnid=Uc_tm5qPayNM-M:&tbnh=103&tbnw=137&ei=fh3cTrlXheSsB9bK9Z8C&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%2599%26start%3D20%26hl%3Dth%26sa%3DN%26tbm%3Disch%26prmd%3Divns&itbs=1

[kimzagass]

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=japanberry&month=25-06-2009&group=7&gblog=16

[kimzagass]

ภาพของหญิงสาวกิโมโนญี่ปุ่นและดอกเชอร์รี่




http://www.google.com/imgres?imgurl=http://image.shutterstock.com/display_pic_with_logo/310660/310660,1303135776,75/stock-photo-a-portrait-of-japanese-kimono-woman-and-cherry-blossom-75505243.jpg&imgrefurl=http://xn--c3c2bf5c0a1a0k.com/tag/%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2592%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A1/&usg=__u50HNgJgQyJvnXoibvF8hp5lw0M=&h=319&w=450&sz=106&hl=th&start=220&zoom=1&tbnid=3P2a9zJKWeYspM:&tbnh=90&tbnw=127&ei=NSHcToOZGoi4rAf21_CqDg&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%2599%26start%3D200%26hl%3Dth%26sa%3DN%26gbv%3D2%26tbm%3Disch&itbs=1

[kimzagass]

......



.......





http://www.google.com/imgres?imgurl=http://farm4.static.flickr.com/3231/2658398043_3202c4f47c.jpg&imgrefurl=http://gotoknow.org/blog/myvancouver/193633&usg=__7axyorbqBb7jg7SF8pPTUe5ju8c=&h=500&w=375&sz=194&hl=th&start=243&zoom=1&tbnid=02jFDyg9UpRtzM:&tbnh=130&tbnw=98&ei=MSLcTpbKPMfRrQfziPStAQ&prev=/search%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%2599%26start%3D240%26hl%3Dth%26sa%3DN%26gbv%3D2%26tbm%3Disch&itbs=1