-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 13 ส.ค
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - มะนาวตาฮิติ
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

มะนาวตาฮิติ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 12/08/2011 9:43 pm    ชื่อกระทู้: มะนาวตาฮิติ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เกษตรกรเงินล้าน จากการปลูกมะนาวตาฮิติ


ได้มะนาวพันธุ์ตาฮิติมากิ่งหนึ่ง (กิ่งตอน) โดยนำมาทดลองปลูก ต่อมาได้สังเกตการณ์เจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตดี จึงได้ขยายพื้นที่ปลูก

เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ ผมและทีมงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ได้ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับเกษตรกรเจ้าของสวนมะนาวพันธุ์ตาฮิติ ที่ชื่อนายคมสันต์ คำบุญ อยู่บ้านเลขที่ ๖๘ หมู่ที่ ๓ ตำบลจันทิมา อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร มีพื้นที่ปลูกจำนวน ๒๗ ไร่ ซึ่งปลูกมาไม่น้อยกว่า ๑0 ปีแล้ว






คุณคมสันต์ คำบุญ ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ ๑0 ปีก่อนตนเองได้ไปเข้ารับการฝึกอบรมเรื่องการปลูกมะนาว ที่วิทยาลัยเกษตรกรรมกำแพงเพชร(ชื่อเดิม) แล้วได้มะนาวพันธุ์ตาฮิติมากิ่งหนึ่ง(กิ่งตอน) โดยนำมาทดลองปลูก ต่อมาได้สังเกตการณ์เจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตดี จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกถึงจำนวน ๒๗ ไร่ ส่วนใหญ่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปี

ด้านการผลิตการทำสวนมะนาว หากมีพื้นที่ปลูกเหมาะสม ดินดี น้ำดี และการดูแลรักษาดี ประกอบกับครอบครัวของคุณคมสันต์ มีความขยันขันแข็ง ทำให้ผลผลิตมะนาวที่ได้มักจะมีลูกดก ลูกโต ได้คุณภาพ

ด้านการจำหน่ายและการตลาด ปัจจุบันนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร จะมีพ่อค้าส่งออก(ขาประจำ)มารับเป็นประจำและต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะส่งผลมะนาวไปที่ประเทศมาเลเซีย เป็นส่วนใหญ่และทางภาคใต้ของประเทศไทย สำหรับราคามะนาว บางปีขายได้ถึงลูกละ ๔ บาท แต่ปัจจุบันขายเป็นกิโลกรัมๆละ ๒๕ บาท ในหนึ่งกิโลกรัม จะมีผลมะนาว ประมาณ ๘-๑0 ผล หากจะประมาณการรายได้ทั้งหมด ในรอบ ๑ ปี จะไม่ต่ำกว่า ๒ ล้านเศษ ซึ่งได้รับติดต่อกันมาหลายปีแล้ว

จากการที่ได้รับฟังการเล่าของคุณคมสันต์ คำบุญ ทำให้ทีมงานของเรา ฉุกคิดขึ้นมาว่า การทำการเกษตร ประเภทใดก็แล้วแต่ หากมีการดูแลรักษาดี ใช้ประสบการณ์และองค์ความรู้อย่างเต็มที่มีอยู่ในขณะเดียวกันสามารถให้ผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงที่ตลาดมีความต้องการสูง ก็จะขายได้ในราคาดี นี่ก็เป็นข้อมูลที่สำคัญประการหนึ่ง เพื่อประกอบการตัดสินใจ








สำหรับเกษตรกรที่มีการผลิตเพื่อการแข่งขัน หากมีความสนใจที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคุณคมสันต์ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งของการประกอบอาชีพทางการเกษตรประเภททำสวนมะนาวพันธุ์ตาฮิติ สามารถติดต่อผ่านสำนักงานเกษตรอำเภอลานกระบือได้นะครับ


http://www.gotoknow.org/blog/peekwong17/437123
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 12/08/2011 10:17 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มะนาวตาฮิติ ลูกยาว ไร้เมล็ด หนักได้ถึง 1 กิโลกรัม









http://market.taradkaset.com/325/%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87-1-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A1.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/08/2011 7:06 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ปลูกมะนาวนอกฤดู พันธุ์ตาฮิติ ในวงบ่อซีเมนต์










ที่แปลงสาธิตการปลูกมะนาวนอกฤดูพันธุ์ตาฮิติ ของมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งร่วมกับ นิคมสหกรณ์สวรรคโลก จ.สุโขทัย และสหกรณ์หมู่บ้านสายใจไทยศรีนคร จำกัด ตลอดมามีผู้คนให้ความสนใจเดินทางเข้าไปศึกษาเรียนรู้เพื่อนำมาเพาะปลูกใน พื้นที่ของตนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่องตลอดมา โดยเฉพาะในช่วงที่มะนาวมีราคาดี

มะนาวพันธุ์ตาฮิติ เป็นพืชที่ปลูกง่าย ต้านทานต่อโรคทุกชนิดที่เกิดกับมะนาวหรือพืชตระกูลส้ม ให้ผลผลิตทั้งปี โดยไม่ต้องบังคับ โดยจะให้ผลผลิตมากที่สุดในช่วงฤดูฝน ส่วนการดูแลรักษา เพียงแค่ใส่ปุ๋ยคอกมูลสัตว์ ปีละ 2 ครั้ง และถ้ามีแมลงศัตรูพืชรบกวน ก็จะใช้น้ำหมักที่สกัดจากสมุนไพร ฉีดพ่นโดยไม่ต้องใช้สารเคมีแม้แต่น้อย ไม่ชอบความแห้งแล้ง เมื่อเริ่มออกดอก อีก 5-6 เดือนนับจากนั้น ก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้อายุ 5 ปีขึ้นไปต้นใหญ่ จะให้ผลผลิตมากถึง 500 ลูกต่อต้น น้ำหนักประมาณ 12 ลูกต่อ 1 กิโลกรัม

ส่วนการปลูกเพื่อให้มีผลผลิตนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์ ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นทางเดิน 2 เมตร พื้นที่ปลูกปรับให้เรียบวางวงบ่อซีเมนต์เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบ น้ำและคำนวณแรงดันน้ำ ขนาดของวงบ่อซีเมนต์ใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร

ใช้วัสดุปลูกหลัก 3 ชนิด ประกอบด้วย หน้าดิน 3 ส่วน ขี้วัวเก่า 1 ส่วน และเปลือกถั่วเขียว 2 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากัน ใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์ให้พูน เหยียบวัสดุปลูกขอบ ๆ วงบ่อ บริเวณตรงกลางไม่ต้องเหยียบ

หลังจากที่ใส่วัสดุปลูกลงในบ่อซีเมนต์เรียบร้อยแล้ว ขุดเปิดปากหลุมให้มีขนาดเท่ากับขนาดของถุงที่ใช้ชำต้นมะนาว ถอดถุงดำปลูกต้นมะนาวให้พอดีกับระดับดินเดิม กลบดินแล้วใช้เท้าเหยียบรอบ ๆ ต้น เพื่อไม่ให้โยกคลอน ปัก ไม้เป็นหลักกันลมโยกและแนะนำให้ใช้ตอกมัดต้นมะนาวไว้กับหลัก ตอกจะผุเปื่อยหลังจากปลูกไปนานประมาณ 2 เดือนต้นมะนาวตั้งตัวได้แล้วปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ได้ตลอดทั้งปี

การบังคับให้มะนาวออกฤดูแล้งในรุ่นแรกให้ปลูกต้นมะนาวในช่วงเดือนมกราคม ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ในปีเดียวกันบังคับต้นให้ออกดอกได้โดยใช้หลักการเหมือนกับที่ปลูกลงดิน ผลผลิตมะนาวฤดูแล้งจะไปแก่และเก็บผลผลิตขายได้ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของ ปีถัดไป เท่ากับว่าการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ใช้เวลาปลูกเพียงปีเศษเท่านั้น เกษตรกรสามารถเก็บมะนาวฤดูแล้งขายได้แล้ว

ตัดแต่งกิ่งมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ทุก ๆ 3 ปี โดยจะเริ่มตัดแต่งกิ่งและปลิดผลทิ้งทั้งหมดในเดือนพฤษภาคม ในช่วงปีที่ 1-2 จะตัดแต่งบ้างแต่ไม่มากนัก ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม บำรุงต้นและสะสมอาหารเพื่อจะกระตุ้นการออกดอกรุ่นแรกในเดือนสิงหาคมต่อไป.



Kasettuathai@dailynews.co.th

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=53248

http://www.fisheries.go.th/cf-pak_panang/webbord/index.php?topic=198.0
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/08/2011 7:15 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มะนาว ตาฮิติ





มะนาว พันธุ์ตาฮิติ เป็นมะนาวพันธุ์หนึ่งที่เริ่มมีการนิยมปลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมะนาวตาฮิตินี้ เป็นพันธุ์ที่สามารถออกดอก ออกผลได้ตลอดทั้งปี และให้ผลดก ปลูกง่ายโตไว โดยไม่ต้องมีการใช้สารเคมีเพื่อเร่งการออกดอกออกผล นอกจากใส่ปุ๋ย 15-15-15 ธรรมดา ที่สำคัญ มะนาวพันธุ์นี้ยังไม่มีเม็ด และ ทนทานต่อโรคสูงอีกด้วย ผลของมะนาวตาฮิตินั้น ให้รสชาติเปรี้ยวดี ผลมะนาวมีน้ำมาก แม้ผลยังเล็กก็ตาม (แต่แนะนำว่าควรเก็บเกี่ยวเมื่อผลโตเต็มที่จะได้ราคามากกว่า) และผิวของมะนาวพันธุ์นี้ ยังมีกลิ่นหอม ซื่งนำผิวนี้ไปใช้ปรุงอาหารต่างๆ ทั้งอาหารไทยและต่างประเทศได้หลากหลายอีกด้วย

ลักษณะของผลจะยาวกว่ามะนาวที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองในบ้านเรา หรือ มะนาวแป้นที่มีลักษณะกลม แต่รสชาติในการปรุงอาหารนั้นแทบจะไม่มีความแตกต่าง จะต่างก็ตรงที่มะนาวตาฮิตินี้ มีผลที่ใหญ่กว่ามะนาวแป้นทั่วๆไป ซึ่งบางผลอาจจะใหญ่เท่าผลส้มเลยทีเดียว

ความทนทานต่อโรค นั้นจะดีมากต่อโรคได้ดีเยี่ยมโดยเฉพาะ โรค แคงเกอร์ ที่มักจะเป็นในมะนาวพันธุ์แป้นทั่วๆไปที่ปลูกในประเทศไทย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้ใบและผลมะนาวไหม้ เป็นแผลไม่น่ารัปทาน และยังทำให้ต้นมะนาวแห้งตายในที่สุด ทำให้ไม่จำเป็นต้องฉีดยาหรือสารเคมี อย่างไรก็ดี มะนาวพันธุ์ตาฮิติ อาจจะมีปัญหาเรื่องหนอนชอนใบบ้างเล็กๆน้อยๆ ซึ่งแทบไม่มีผลต่อผลผลิต ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช

การทำมะนาวออกนอกฤดูนั้น มะนาวพันธุ์ตาฮิตินั้นทำได้เหมือนมะนาวพันธุ์อื่นๆ ทั่วไป โดยพันธุ์ตาฮิตินี้ จะมีระยะเวลาตั้งแต่ติดผลจนผลโตเต็มที่ประมาณ 5 เดือน ดังนั้นเราควรเริ่มบังคับให้เริ่มออกดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะได้ผลที่โตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวในเดือน เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มะนาวขายได้ราคาดีที่สุด


http://มะนาว.blogspot.com/2011/08/blog-post.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/08/2011 7:19 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผลิตมะนาวตาฮิติ นอกฤดู ในวงบ่อซีเมนต์

พิชัย ลัยนันทน์ ผลิตมะนาวตาฮิติ นอกฤดู ในวงบ่อซีเมนต์

ถึงแม้ว่าความนิยมในการปลูกมะนาวของเกษตรกรไทยจะเน้นไปในเรื่องของขนาดผลใหญ่ เปลือกผลที่บางและมีสีเขียวสดใส มีน้ำมากและมีกลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวจัด สายพันธุ์มะนาวที่เกษตรกรไทยนิยมปลูกในเชิงการค้าในปัจจุบัน ได้แก่ พันธุ์แป้นรำไพ แป้นทวาย อีมัน ฯลฯ

โดยเฉพาะพันธุ์แป้นรำไพ น่าจะเป็นสายพันธุ์ที่เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกมากที่สุด เนื่องจากมีลักษณะเด่นตรงที่ออกดอกและติดผลง่าย ในขณะที่มะนาวพันธุ์ตาฮิติซึ่งจัดเป็นมะนาวที่ไม่มีเมล็ดและทนทานต่อโรคแคงเกอร์

คุณพิชัย ลัยนันทน์ บ้านเลขที่ 243 หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย 64160 โทร. (086) 928-3420 มีประสบการณ์ในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์มานานถึง 8 ปี จะถือได้ว่าเป็นเกษตรกรต้นตำรับในการปลูกมะนาวในรูปแบบนี้ก็ว่าได้ และในการเริ่มต้นของการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ของคุณพิชัยได้นำสายพันธุ์มะนาวหลากหลายมาทดลองปลูก ในที่สุดก็เน้นปลูกพันธุ์ตาฮิติ เพื่อส่งขายตลาดต่างประเทศ คุณพิชัยบอกว่า เหตุผลหลักๆ ที่ตัดสินใจคัดเลือกปลูกมะนาวพันธุ์ตาฮิติ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี เป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรคแคงเกอร์และจัดเป็นมะนาวที่มีผลขนาดใหญ่ ที่สำคัญคุณพิชัยจะขายมะนาวตาฮิตินอกฤดูได้เฉลี่ยผลละ 1.20-1.80 บาท



การเริ่มต้นจัดผังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
คุณพิชัยได้อธิบายรายละเอียดของการเริ่มต้นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะต้องวัดพื้นที่ กว้างxยาว ก่อน เพื่อจะหาพื้นที่ หลังจากนั้น เว้นทางเดินประมาณ 2 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นเป็นทางเดิน 2 เมตร สภาพพื้นที่ปลูกจะต้องปรับให้เรียบเหมือนกับลานตากข้าว วัดระยะการวางวงบ่อ การวางวงบ่อซีเมนต์พยายามวางให้เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบน้ำและคำนวณแรงดันน้ำ กรณีของคุณพิชัยระบบการให้น้ำจะใช้แรงดันจากแท็งก์ส่งน้ำ ใช้หัวมินิสปริงเกลอร์ (ไม่ได้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า) ท่อจะอยู่ตรงกึ่งกลางเพื่อกระจายน้ำได้สม่ำเสมอ คุณพิชัยได้ทดลองระบบการให้น้ำในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จนได้สูตรสำเร็จ 1 ประตูน้ำ จะต้องคลุมต้นมะนาวได้ 100 ต้น มะนาว 400 วงบ่อ จะมี 4 ประตูน้ำ อย่างนี้เป็นต้น

ส่วนของแท็งก์จะแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะก่อให้สูง ประมาณ 5 วงบ่อ หรือมีความจุน้ำได้ 1,200 ลิตร คุณพิชัยจะใช้แท็งก์นี้เพื่อผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วเปิดน้ำดีเข้าไปผสมปล่อยไปให้ต้นมะนาวในวงบ่อได้โดยตรง ส่วนแท็งก์อีกชุดหนึ่งจะก่อให้สูงประมาณ 9 วงบ่อ จำนวน 2 แท็งก์ เพื่อกักเก็บน้ำสะอาดแล้วช่วยในเรื่องของแรงดัน



การเตรียมดินปลูกมะนาวและขนาดของวงบ่อซีเมนต์
ขนาดของวงบ่อซีเมนต์ที่คุณพิชัยแนะนำให้เกษตรกรใช้ จะใช้ขนาดวงเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร แต่เดิมฝาวงบ่อคุณพิชัยใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร เท่ากับขนาดของวงบ่อ เมื่อปลูกไปนาน 2-3 ปี พบว่า รากของต้นมะนาวจะโผล่ออกมานอกวงและชอนลงไปในดิน ทำให้ควบคุมในเรื่องของการบังคับให้ออกนอกฤดูได้ยากมากขึ้น ปัจจุบัน จึงได้แนะนำเกษตรกรและแก้ไขให้ซื้อฝาวงบ่อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของวงบ่อ ใช้ฝาวงบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 90 เซนติเมตร กว้างกว่า 10 เซนติเมตร

ดินผสมที่จะใช้ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะใช้วัสดุปลูกหลัก 3 ชนิด คือ หน้าดิน 3 ส่วน ขี้วัวเก่า 1 ส่วน และเปลือกถั่วเขียว 2 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากัน การใช้เปลือกถั่วเขียวจะช่วยให้สภาพดินมีการระบายน้ำที่ดี ถ้าใช้แค่หน้าดินผสมกับขี้วัวจะทำให้ดินปลูกแน่น เวลาให้น้ำไป 3-4 วัน น้ำยังไม่ถึงข้างล่างของวงบ่อ คุณพิชัยยังได้ยกตัวอย่างปริมาณของดินที่จะใช้ในการปลูกมะนาว จำนวน 100 วงบ่อ จะต้องใช้หน้าดินประมาณ 1 คันรถสิบล้อ เทคนิคในการผสมวัสดุปลูกจะต้องปูพื้นด้วยหน้าดินเป็นขั้นแรก หลังจากนั้น ใส่ขี้วัวเก่าเป็นชั้นที่ 2 แล้วตามด้วยเปลือกถั่วเขียวเป็นชั้นบนสุด หลังจากนั้นใช้เครื่องตีพรวนติดรถไถจะเร็วกว่าใช้แรงงานคน



การใส่วัสดุปลูกลงบ่อซีเมนต์มีเทคนิค
ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ส่วนใหญ่จะใส่วัสดุปลูกในวงบ่อซีเมนต์เพียงเสมอวงบ่อเท่านั้น เมื่อรดน้ำไปได้เพียงแค่สัปดาห์เดียว วัสดุปลูกจะยุบตัวลงมาประมาณ 1 คืบมือ ถ้าเกษตรกรเติมวัสดุปลูกลงไปจะไปกลบลำต้นมะนาว ปัญหาเรื่องโรคโคนเน่าจะตามมา ดังนั้น ในการใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์จะต้องใส่ให้พูนเป็นภูเขาเลย และที่จะต้องเน้นเป็นพิเศษขณะที่ใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อนั้นคือ จะต้องขึ้นเหยียบวัสดุปลูกขอบๆ วงบ่อ บริเวณตรงกลางไม่ต้องเหยียบ การใส่วัสดุปลูกให้เป็นภูเขาจะช่วยในเรื่องดินยุบลงมาเสมอวงบ่อได้นานถึง 1 ปี



วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
หลังจากที่ใส่วัสดุปลูกลงในบ่อซีเมนต์เรียบร้อยแล้ว ให้เกษตรกรขุดเปิดปากหลุมให้มีขนาดเท่ากับขนาดของถุงที่ใช้ชำต้นมะนาว (โดยปกติถ้าใช้กิ่งตอนมะนาว ควรจะชำต้นมะนาวไว้นานประมาณ 1 เดือน เท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อต้นมะนาวที่ชำมานานแล้วหลายเดือน หรือชำค้างปี เนื่องจากจะพบปัญหาเรื่องรากขด ทำให้เจริญเติบโตช้าหรือต้นแคระแกร็น) รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น สูตร 16-16-16 อัตราประมาณ 1 กำมือ ถอดถุงดำปลูกต้นมะนาวให้พอดีกับระดับดินเดิม กลบดินแล้วใช้เท้าเหยียบรอบๆ ต้น เพื่อไม่ให้โยกคลอน ปักไม้เป็นหลักกันลมโยกและแนะนำให้ใช้ตอกมัดต้นมะนาวไว้กับหลัก ตอกจะผุเปื่อยหลังจากปลูกไปนานประมาณ 2 เดือน ต้นมะนาวตั้งตัวได้แล้ว แต่ที่หลายคนได้ใช้ปอฟางหรือพลาสติคทาบกิ่งมัดกับหลักจะอยู่ได้นานก็จริง แต่ปัญหาที่จะตามมาจะทำให้ลำต้นมะนาวคอด มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้น หลังจากปลูกเสร็จให้เดินท่อ PE เจาะหัวมินิสปริงเกลอร์และวางท่อ PE พาดไปกับวงบ่อเลยเพื่อสะดวกต่อการทำงาน



ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ได้ตลอดทั้งปี
คุณพิชัย บอกว่า ในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกไปแล้วนับไปอีก 8 เดือน เกษตรกรสามารถบังคับให้ต้นออกดอกได้ ถ้าเกษตรกรจะบังคับให้มะนาวออกฤดูแล้งในรุ่นแรกแนะนำให้ปลูกต้นมะนาวในช่วงเดือนมกราคม ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ในปีเดียวกันบังคับต้นให้ออกดอกได้โดยใช้หลักการเหมือนกับที่ปลูกลงดิน ผลผลิตมะนาวฤดูแล้งจะไปแก่และเก็บผลผลิตขายได้ราคาแพงในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของปีถัดไป เท่ากับว่าการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ใช้เวลาปลูกเพียงปีเศษเท่านั้น เกษตรกรสามารถเก็บมะนาวฤดูแล้งขายได้



วิธีการรดน้ำต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ทำอย่างไร
ในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ตามคำแนะนำของ คุณนรินทร์ พูลเพิ่ม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดการผลิตพืชที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนล่าง ศวพ. 2 พิษณุโลก ซึ่งเป็นบุคคลที่คิดค้นวิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์เป็นคนแรก ขณะที่เป็นนักวิชาการเกษตรอยู่ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร คุณนรินทร์ได้แนะนำให้ใช้พลาสติคคลุมปากบ่อซีเมนต์เพื่อป้องกันน้ำหรือฝนที่ตกลงมาในช่วงแรกๆ คุณพิชัยก็ใช้วิธีการนี้เช่นกัน แต่พบปัญหาว่าเมื่อเกษตรกรนำพลาสติคไปคลุมกลับรักษาความชื้นให้กับต้นมะนาวใช้เวลานานวันกว่าดินจะแห้ง

ปัจจุบัน คุณพิชัยจึงเลือกใช้หลักการ "ฝนทิ้งช่วง" ในแต่ละปีช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี จะมีช่วงเวลาที่ฝนทิ้งช่วง จากประสบการณ์ของคุณพิชัยในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ ถ้าฝนไม่ตกติดต่อกัน 3-4 วัน ดินในวงบ่อจะเริ่มแห้ง ใบมะนาวจะเริ่มเหี่ยว หลังจากนั้นฉีดกระตุ้นให้ต้นมะนาวออกดอกและติดผลได้ ปัจจุบันจึงเลิกวิธีการใช้พลาสติคคลุมวงบ่อเพื่ออดน้ำ ใช้เพียงหลักการ "ฝนทิ้งช่วง" และมีการบำรุงต้นและสะสมอาหารให้สมบูรณ์



ผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ 2 รุ่น ต่อปี
ในช่วงเริ่มแรกของการบังคับมะนาวฤดูแล้งของคุณพิชัยจะทำให้ต้นมะนาวออกดอกเพียงรุ่นเดียวคือ ช่วงเดือนตุลาคมและไปเก็บผลผลิตในช่วงเดือนเมษายนเท่านั้น ทำให้คุณพิชัยจะต้องคอยปลิดดอกมะนาวทิ้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเรื่อยมาจนถึงเดือนสิงหาคม-กันยายน แต่ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาสภาวะตลาดมะนาวผลผลิตจะเริ่มมีราคาดีตั้งแต่เดือนมกราคมเรื่อยไปจนถึงเดือนเมษายน คุณพิชัยจึงปล่อยให้มะนาวให้ผลผลิต 2 รุ่น คือมีผลผลิตขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์รุ่นหนึ่ง (บังคับให้ต้นออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม) และมีผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนอีกรุ่นหนึ่ง (บังคับให้ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม) พอเข้าสู่เดือนพฤษภาคมของทุกปีราคามะนาวจะถูกลง คุณพิชัยจะตัดแต่งกิ่งมะนาวในช่วงเวลานี้ พร้อมทั้งปลิดผลมะนาวที่ติดอยู่บนต้นทิ้งให้หมด



ตัดแต่งกิ่งมะนาวในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก ทุกๆ 3 ปี
คุณพิชัยจะตัดแต่งกิ่งมะนาวตาฮิติในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก ทุกๆ 3 ปี โดยจะเริ่มตัดแต่งกิ่งและปลิดผลทิ้งทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม ในช่วงปีที่ 1-2 จะตัดแต่งบ้างแต่ไม่มากนัก จะมาตัดแต่งหนักเมื่อต้นมีอายุประมาณ 3 ปี ซึ่งในช่วงนั้นมักจะพบว่าต้นมะนาวเริ่มโทรม มีกิ่งแห้งเป็นจำนวนมาก การตัดแต่งกิ่งมีผลทำให้ต้นมะนาวแตกกิ่งออกมาใหม่และได้ผลผลิตมะนาวที่มีคุณภาพ หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จในเดือนพฤษภาคม ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เป็นช่วงบำรุงต้นและสะสมอาหารเพื่อจะกระตุ้นการออกดอกรุ่นแรกในเดือนสิงหาคม



เทคนิคการเปิดตาดอก ของการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
เมื่อใบมะนาวเหี่ยวและเริ่มร่วงหรือเหลือใบยอดเพียง 1 คืบ คุณพิชัยจะเปิดตาดอกโดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีตัวกลางสูง เช่น สูตร 15-30-15 หรือ 12-24-12 อัตรา 1 กำมือ ใส่ให้กับต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ รดน้ำจนเห็นว่าปุ๋ยละลายจนหมด (ช่วงการให้ปุ๋ยนี้คุณพิชัยไม่แนะนำให้เปิดน้ำด้วยหัวสปริงเกลอร์ ควรจะให้น้ำด้วยสายยางจะดีกว่า) และยังได้แนะนำก่อนว่า ก่อนที่จะให้ปุ๋ยควรเปิดน้ำให้กับต้นมะนาวจนดินชุ่มเสียก่อน คุณพิชัยจะรดน้ำด้วยสายยาง 2-3 ครั้ง ทุกๆ 3-5 วัน

สำหรับการฉีดพ่นฮอร์โมนหรือธาตุอาหารทางใบควรฉีดพ่นอย่างเต็มที่ ฉีดพ่นด้วยฮอร์โมน โปรดั๊กทีฟ อัตรา 20 ซีซี ผสมกับสารเทรนเนอร์ อัตรา 10 ซีซี และปุ๋ยทางใบ สูตร 0-52-34 อัตรา 100 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ (20 ลิตร) ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 5-7 วัน หลังจากนั้นต้นมะนาวจะเริ่มออกดอกและติดผลไปแก่ในช่วงฤดูแล้ง



หนังสือ "เทคนิคการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์" พิมพ์ 4 สี มีแจกฟรี พร้อมกับหนังสือ "ไม้ผลแปลกและหายาก" รวม 168 หน้า เกษตรกรและผู้สนใจเขียนจดหมายสอดแสตมป์ จำนวน 50 บาท ส่งมาขอที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร เลขที่ 2/200 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร 66000 โทร. (056) 613-021, (056) 650-145 และ (081) 886-7398


http://www.raidaidd.com/forums/archiver/?tid-740.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/08/2011 7:40 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดู ในวงบ่อซีเมนต์


การปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ เหมาะสำหรับเกษตรกรที่มีเนื้อที่น้อย ดินปลูกพืชอื่นๆ ไม่เหมาะสมผู้ที่สนใจด้านการเกษตร สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ดี โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน มะนาวจะมีราคาสูงทุกปีประมาณผลละ 2-7 บาท

การปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมจร์สามารถบังคับให้ออกดอก ออกผล ตามวัน เวลา ที่เราต้องการได้ ผลผลิตประมาณ 150-750 ผลต่อต้น ขึ้นอยู่กับพันธุ์ อายุต้นและการปฏิบัติดูแลรักษา ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีดำเนินการดังนี้


1. การคัดเลือกพันธุ์
มะนาวที่ปูกในวงบ่อซีเมนต์ใช้ได้ทุกพันธุ์ แต่ที่สำคัญต้องเป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ มีการอกดอก ติดผลง่าย ให้ผลดก ผลมีขนาดใหญ่เปลือกบาง มีน้ำมาก มีกลิ่นหอม และทนทานต่อโรคและแมลง พันธุ์ที่ตลาดนิยม ได้แก่พันธุ์แป้นรำไพ แป้นจริยา พันธุ์พิจิตร 1 และพันธุ์ตาฮิติ เป็นต้น พันธุ์พิจิตร 1 และพันธุ์ตาฮิติ เป็นมะนาวที่ทนทานต่อโรคแคงเกอร์ที่ผล ใบ และลำต้นดีกว่าทุกพันธุ์





2. การเตรียมวงบ่อซีเมนต์
ควรใช้บ่อซีเมนต์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 80-100 ซม. สูง 40-60 ซม. ที่ด้านล่างหรือก้นบ่อ ควรมีฝาซีเมนต์วงกลมขนาด 80-90 ซม. รองรับอยู่ด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้รากมะนาวหยั่งลงดินนอกก้นบ่อ บังคับอกผลนอกฤดูได้ยาก


3. การวางบ่อซีเมนต์
เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานควรวางวงบ่อเป็นแถวเป็นแนว ถ้ามีพื้นที่จำกัด ควรวางแถวเดียวระยะ 2 x 2 เมตร หรือ 2 x 3 เมตร แต่ถ้ามีพื้นที่มาก ควรวางวงท่อแบบแถวคู่ 2 x 2 เมตร แต่ละคู่ห่างกัน 3-4 เมตร


4. การเตรียมดินปลูก
ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเหมือนการปลูกไม้กระถางทั่วไป เป็นดินชั้นบนที่เป็นดินร่วนมีความอุดมสมบูรณ์สูง โดยใช้ดินร่วน 3 ส่วน ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 2 ส่วน ขี้เถ้าแกลยดำ 1 ส่วน หรือใช้ดินร่วน 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ขี้เถ้าแกลบดำ 1 ส่วนผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วตักใส่วงบ่อ กดดินหรือขึ้นเหยียบดิน โดยเฉพาะบริเวณขอบบ่อด้านล่างให้แน่น พูนดินสูงจากปากบ่อ 20-30 ซม. เผื่อดินยุบตัวภายหลัง


5. การปลูก
นำต้นพันธุ์มะนาวจากต้นกิ่งตอนต้นปักชำ หรือต้นต่อยอดที่สมบูรณ์แข็งแรงดีมาปลูกตรงกลางวงบ่อ โดยขุดหลุมเล็กน้อย รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 100-150 กรัมต่อหลุม ใช้มีดกรีดก้นถุงพลาสติกสีดำโดยรอบแล้วนำต้นมะนาวไปวางในหลุม กลบดินเล็กน้อย ใช้มีดกรีดถุงพลาสติกที่เหลือออก กลบดินกดดินให้แน่น ใช้ไม้ไผ่ปักหลักกันลมโยกแล้วรดน้ำให้ชุ่ม


6. การปฏิบัติดูแลรักษา
6.1 การให้น้ำ ใช้สายยางรดน้ำหรือต่อระบบน้ำแบบมินิสปริงเกลอร์รดน้ำมะนาว 1-2 วันต่อครั้ง หรือวันละ 1 ครั้ง เฉพาะเวลาเช้า

6.2 การใส่ปุ๋ย หลังจากปลูกมะนาวได้ 1 เดือน ควรใส่ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต โดยใช้ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 16-16-16 และปุ๋ยยูเรียเล็กน้อย อัตรา 100-150 กรัม หรือครึ่งกำมือต่อต้น ใส่เดือนละครั้ง ในระยะบังคับให้ออกดอก ควรใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 สูตร 15-30-15 หรือใส่ปุ๋ยที่มีตัวกลางสูง อัตรา 100-150 กรัมต่อต้น





6.3 การคลุมโคนต้น หลังจากปลูกแล้วควรใช้เศษฟางข้าวหญ้าแห้ง แกลบดิน กาบมะพร้าว ฯลฯ คลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดินและคลุมวัชพืชในวงบ่อด้วย

6.4 การตัดแต่งกิ่ง ถ้าต้นมะนาวสมบูรณ์ดี มะนาวจะแตกกิ่งเล็กๆ จำนวนมาก ควรตัดกิ่งที่ไม่เป็นระเบียบ กิ่งที่ซ้อนกัน กิ่งที่อยู่ด้านล่างของต้น ไม่ควรหนักไปทางทิศใดทิศหนึ่งมากเกินไป เมื่อมะนาวออกผลอาจหักและล้มได้

6.5 การค้ำกิ่ง มะนาวที่ปลูกในวงบ่อ มีการกระจายรากจำกัด ในพื้นที่ที่มีลมแรง เมื่อมะนาวติดผลดกมากกิ่งอาจหักหรือโค่นล้มได้ ควรป้องกันโดยการใช้ไม้ไผ่ค้ำยันกิ่งและลำต้นมะนาวแบบนั่งร้านสี่เหลี่ยมหรือปักเป็นกระโจมสามเหลี่ยม ให้มะนาวทุกต้นด้วย

6.6 การเพิ่มดินปลูก หลักจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตและตัดแต่งกิ่งมะนาวแต่ละปี ควรนำดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอัตราส่วน ดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน หรือดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ผสมปุ๋ยเคมี 15-15-15 อัตรา 100-150 กรัม ผสมให้เข้ากันดีแล้วนำมาใส่เพิ่มในวงบ่อให้เต็มปากบ่อ มีลักษณะพูนขึ้นเล็กน้อย


7. โรคและแมลงศัตรูที่สำคัญและการป้องกันกำจัด
7.1 โรคที่สำคัญ
โรคแคงเกอร์ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียป้องกันกำจัดโดยการใช้พันธุ์ทนทานมาปลูก เช่น พันธุ์พิจิตร 1 พันธุ์ตาฮิติ ตัดแต่งกิ่ง ใบและผลที่เป็นโรคไปเผาทำลาย และพ่นสารเคมี เช่น สารแคงเกอร์เอ็กซ์ โรครากและโคนเน่า เกิดจากเชื้อราไฟทอบเทอรา ป้องกันกำจัดโดยไม่ควรปลูกมะนาวลึกเกินไป ไม่นำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักสดที่ยังไม่สลายตัวดี มาเป็นวัสดุปลูกใช้สารเมทาแลคซิลละลายน้ำรดบริเวณโคนต้นที่เป็นโรค โรคอื่นๆได้แก่ โรคยางไหล โรคใบแก้ว โรคทริสเทซ่าและโรคราดำ ป้องกันกำจัดเช่นเดียวกับพืชสกุลส้มทั่วไป

7.2 แมลงศัตรูที่สำคัญ
หนอนชอนใบ การป้องกันกำจัด ควรตัดแต่งยอดอ่อน ใบอ่อนที่มีไข่หรือหนอนไปเผาทำลาย และพ่นสารเคมี ได้แก่ สารคาร์บาริลหรือสารคาร์โบซัลแฟน เพลี้ยไฟ การป้องกันกำจัด พ่นสารเคมีคาร์โบซัลแฟนหรืออิมิดาโคลพริด ไรแดง การป้องกันกำจัด พ่นกำมะถันผลชนิดละลายน้ำในช่วงตอนเช้าหรือเย็น หรือพ่นด้วยสารไดโคฟอล เช่น เคลเทน เป็นต้น เพื่อรักษาผิวผลไม้ไม่ให้ขรุขระหรือกระด้าง ไม่น่ารับประทานเพลี้ยหอย การป้องกันกำจัด ตัดแต่งกิ่งมะนาว ที่พบเพลี้ยหอยระบาดไปเผาทำลาย หรือพ่นสารปิโตรเลียมสเปรย์ออยล์





8. การบังคับต้นมะนาวในวงบ่อให้ออกดอดติดผลนอกฤดู
ต้นมะนาวที่จะบังคับให้ออกดอกนอกฤดูนั้น ควรมีอายุอย่างน้อย 8 เดือนขึ้นไป ส่วนมะนาวที่มีาอายุมากกว่า 1 ปี และเคยออกดอกติดผลแล้ว ช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม ควรเด็ดดอกและผลมะนาวในฤดูออกให้หมด ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน ส่วนใหญ่จะมีฝนตกอยู่ควรงดการให้น้ำ พอถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน ให้นำผ้าพลาสติกที่กันฝนขนาดกว้าง 1-1.5 เมตร ยาว 1.5-2 เมตร มาคลุมรอบวงบ่อไว้ โดยให้ชายด้านหนึ่งมัดติดกับโคนต้นมะนาว ให้สูงจากพื้นดินปากบ่อ 20-30 ซม. คลุมไว้ประมาณ 10-15 วัน สังเกตใบมะนาวมีอาการเริ่มเหี่ยวใบสลด อาจมีใบร่วงบ้างหรือเหี่ยวประมาณ 75-80% ให้นำผ้าพลาสติกออกแล้วให้น้ำพร้อมปุ๋ยสุตร 12-24-12 ต้นละ 100-150 กรัม ซึ่งถ้าต้นมะนาวสมบูรณ์ดี หลังจากให้น้ำและปุ๋ยประมาณ 2 สัปดาห์ ต้นมะนาวจะผลตาดอกหรือแตกใบอ่อน พร้อมออกดอก ช่วงนี้ ต้องหมั่นดูแลรักษาไม่ให้ศัตรูมาทำลายมะนาวโดยเฉพาะ เพลี้ยไฟ ไรแดง และหนอนชอนใบ เป็นต้น


9. การเก็บเกี่ยว
หลังจากมะนาวออกดอก ติดผลได้ 4 - 5 เดือน จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตสู่ตลาดได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพันธุ์และช่วงเดือนที่บังคับ ไม่ควรปล่อยให้ผลมะนาวที่แก่แล้วอยู่บนต้นนานๆ เป็นการสิ้นเปลืองอาหารมาเลี้ยงผล อาจทำให้ต้นทรุดโทรมได้





กรมวิชาการเกษตร ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์ : 0-2561-2525, 0-2940-6864
โทรสาร : 0-2579-4406
http://it.doa.go.th/pibai/pibai/n11/v_11-aug/kayaipon.html
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©