ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 21 ก.ค

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 21 ก.ค


***********************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ.....

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

**********************************************

จาก : (081) 155-4157
ข้อความ : ขอแจ้งข่าวข้อมูลผ่านลุงคิม ถึงเพื่อนเกษตรกร คุณอย่าได้ทำร้ายจุลินทรีย์ และไส้เดือนเลย เขาเปรียบแม่ธรณี แล้วคุณจะเหลืออะไร....

ตอบ :
จุลินทรีย์ คือ "ผู้อารักขาพืช" ทั้งปฏิบัติภาระหน้าที่ผ่านดินไปสู่ต้นพืช และปฏิบัติภาระหน้าที่ ณ ต้นพืชโดยตรง หาใช่ "สมาคมอารักขาพืช แห่งประเทศไทย" (ขายสารเคมียาฆ่าแมลง) ไม่

ไม่ได้เพิ่มเติมข้อมูลอะไรมากนัก เพราะมี สมช. PHONE IN เข้ามาพอดี




อ้างอิง :

บทบาทของจุลินทรีย์เพื่อการเกษตร

1. ย่อยสลาย (กิน) อินทรียวัตถุและอนินทรีย์วัตถุแล้วถ่ายมูลออกมาเรียกว่า "กรดอินทรีย์" ส่วนที่เป็นธาตุอาหารพืชซึ่งอยู่ใน "รูป" ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที ได้แก่ โพลิตินอล. ควินนอยด์. อโรเมติค. ซิลิลิค. ออร์แกนิค. ส่วนที่เป็นฮอร์โมนพืช ได้แก่ ออกซิน (ไซโตคินนิน. จิ๊บเบอเรลลิน. เอทธิลิน. อีเทฟอน. อีเทรล. แอบซิสสิค. เอบีเอ. ไอเอเอ. เอ็นเอเอ.ฯลฯ) และส่วนที่เป็นท็อกซิน. ซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อโรคพืชได้
2. ปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน ทำให้ดินเป็นกลาง
3. จับยึดธาตุอาหารพืชจากอากาศไปไว้ในตัวเองแล้วปลดปล่อยให้แก่ต้นพืช
4. ปลดปล่อยปุ๋ยเคมีที่ถูกดิน (กรดจัด) ตรึงไว้ให้ออกมาเป็นประโยชน์แก่ต้นพืช
5. ตรึงปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ที่ใส่ลงไปไว้แล้วปลดปล่อยให้ออกมาช้าๆ เพื่อให้พืชได้มีเวลาดูดซับไปใช้งานได้ทันทีและสม่ำเสมอ
6. สลายฤทธิ์สารที่เป็นพิษต่อพืชให้เจือจางลงๆ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด
7. กำจัดจุลินทรีย์ประเภทที่ไม่มีประโยชน์หรือเป็นโทษ (เชื้อโรค) ต่อต้นพืช
8. เกิดได้เองตามธรรมชาติภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม


ประโยชน์ของฮิวมัส
1. ป้องกันการชะล้างหน้าดิน
2. ป้องกันเม็ดดินอัดตัวกันแน่นจนเป็นดินเหนียวจัด
3. รักษาความชุ่มชื้นของเม็ดดิน (ปุ๋ยอินทรีย์ 10 กก. เก็บน้ำได้ 19.66 ล.)
4. ลดและสลายสารพิษในดิน
5. กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช
6. เสริมประสิทธิภาพของธาตุอาหารพืชที่ได้จากการสังเคราะห์แสง

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1848

------------------------------------------------------------------------



จาก : (087)022-3625
ข้อความ : (คุยทางโทรศัพท์...)

ตอบ :
สมช : ลุง ข้างบ้านเขาฝากถามเรื่องนาข้าวมาค่ะ
ลุงคิม : ว่ามาเลย

สมช : ต้นข้าวค่ะ เป้นน้ำนมแล้ว ลมพัดมาแรงๆหน่อย เม็ดร่วงหมดเลย
ลุงคิม : ปานนั้นเลยเหรอวะ

สมช : ไม่รู้ซิลุง เขาฝากถามมา
ลุงคิม : ได้ค่ารับจ้างฝากถามเท่าไหร่วะ

สมช : ไม่ใช่ลุง แก้ไขยังไงล่ะลุง สงสารมัน มันจะตายอยู่แล้ว หนี้สินบานเบอะ
ลุงคิม : เฮ่ออออ กูละเหนื่อย อั้ยพวกนี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

สมช : ทำไงดีลุง
ลุงคิม : เออ ไม่รับประกันนะ เพราะลุงไม่เห็นกับตา อะไรวะ ทำกับมือ เห็นกับตา ยังไม่รู้อีกว่ามันคืออะไร แล้วลุงคิมอยู่บ้านลุงคิม กูจะรู้มั้ยเนี่ย

สมช : รู้ซี่ ลุงรู้ นะลุงนะ
ลุงคิม : เออ ลุงคิมไม่ได้มีตาวิเศษนี่หว่า เอางี้นะ...
1) ขาดธาตุรอง ธาตุเสริมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะแม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน.
2) เป็นโรคประเภทรา ที่เรียกว่า "ราเข้าขั้ว" อันนี้ใช้เปลือกมังคุด ขิง ข่า พริก

สมช : นี่ลุงก็พูดทุกวันอยู่แล้ว มันบอกมันก็ฟังลุงทุกวัน แล้วทำไมมันไม่รู้เรื่อง
ลุงคิม : ก็ใช่น่ะซี เช้ารอบค่ำรอบ-ค่ำรอบเช้ารอบ ทุกวัน

สมช : ขอบคุณนะลุง
ลุงคิม : เออ มีอะไรก็โทรนะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------

จาก : คุณวิรุฒิ (084) 881-1321
ข้อความ : (PHONE IN ในรายการ....)

วิรุฒิ : ลุงคิมครับ ผมไปเดินห้าง เพื่อพิสูจน์แนวคิดของลุงคิม ปรากฏว่า ทุกอย่างจริงตามลุงคิมพูดจริงๆ เลยครับ
ลุงคิม : ประเด็นไหนล่ะ


วิรุฒิ : ที่ลุงคิมบอกว่า ใหญ่กว่าเป็นต่อ น่ะซีครับ
ลุงคิม : แล้วไง

วิรุฒิ : ในห้างครับ แตงโมเขาขายแบบแยกขนาด เบอร์ใหญ่สุดเขาเขียนว่า คัดพิเศษ ราคา กก.ละ 55 บาท
ลุงคิม : แล้วลูกคัดพิเศษนั่น กะว่าซักกี่กิโล

วิรุฒิ : น่าจะประมาณ 5 กิโลขึ้นนั่นแหละครับ
ลุงคิม : อืมม แบบนี้ แตงโมลูกนี้ก็ต้อง 250 เกือบๆ 300 บาทว่ามั้ย

วิรุฒิ : ใช่ครับลุง อย่างที่ลุงบอกนั่นแหละครับว่า คนซื้อคนกินรออยู่แล้ว เข้าพร้อมที่จะซื้อในราคาแพงๆ แพงแค่ไหนเขาก็ซื้อ ถ้าเป็นของดี เรื่องการตลาดนี่ ปัญหาอยู่ที่ตัวเกษตรกรจริงๆ เกษตรกรจำนวนไม่น้อย ไม่พัฒนาประปรุงผลผลิต ไม่วางแผนการตลาดล่วงหน้า นึกอยากทำก็ทำ ทำตามกระแส

ตอนนี้ผมเตรียมการจะปลูกผักชีแบบมีหลังคา แล้วจะให้แสงไฟโซล่าเซลล์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตด้วย ต่อไปนี้ผมว่า ผมต้องปลูกเองขายเองซะแล้ว เมื่อก่อนใช้วิธีรับซื้อจากเกษตรกรแล้วเอาไปขาย เสียหายจนเกือบล้มละลาย เพราะเกษตรกรรักษาสัญญาทางการค้าไม่ได้

ฝากบอกเกษตรกรด้วยครับว่า ทำเกษตรต้อง "จับแนว จับตลาด" ผมวางแผนไว้จะปลูกผักชีแล้วขายเทศกาลกินเจช่วง "วันล้างท้อง" ตอนนี้ผักจะราคาดี ต่อจากวันนี้ราคาก็จะเริ่มลดลงดลลง

ลุงคิมพูดถูกแล้ว ผมเจอมากับตัวเอง เกษตรกรไม่ยอมรวมกลุ่มกัน แลกเปลี่ยนแนวคิด แลกเปลี่ยนเทคโนโลยี วันนี้พวกเขาต่างคนต่างทำ ใครก็ว่าตัวเองทำได้ ตัวเองเก่ง ก็ เพราะต่างคนต่างทำต่างเก่งนี่แหละ เลยทำให้คุณภาพเป็นเกรดคละ สุดท้ายก็ไปลงที่คนกลาง กระทั่งเลิกคบค้าขายกับเกษตรกรไปเลย

................ ฯลฯ ................

ลุงคิม : ขอบคุณครับ





อ้างอิง :

หลอด LED เพิ่มผลผลิตผักไฮโดรโปรนิกส์

ช่วงนี้สภาพอากาศในบ้านเรา เปลี่ยนแปลงบ่อยมากจนบางครั้งส่งผลต่อการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ หรือผักไร้ดิน เนื่องจากบางวันมีแสงแดดไม่เพียงพอ ต่อการเจริญเติบโตของผัก ทำให้เกษตรกรผลิตผัก ไม่ทันต่อความต้องการของตลาด

ตามทันเกษตรวันนี้ มีเทคนิคที่ได้จากงานวิจัยของคุณเรวัตร จินดาเจี่ย นักวิชาการ สถานีวิจัยพืชลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ได้นำหลอดไฟ แอลอีดี ที่ได้ชื่อว่าเป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มาช่วยเพิ่มผลผลิตผักครับ

คุณเรวัตร ได้จำลองห้องมืดสำหรับปลูกผักไร้ดินขึ้นมา เป็นกระโจมสี่เหลี่ยม มีผ้าพลาสติกสีดำคลุมไว้ ติดตั้งหลอดไฟ แอลอีดี แสงสีขาว และมีชั้นวางปลูกผัก โดยเปิดไฟให้ต้นผักทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็น-6 โมงเช้าของอีกวัน เป็นวิธีการหลอกด้วยแสงไฟว่าเป็นเวลากลางวัน เพื่อกระตุ้นให้ผักเจริญเติบโต ส่วนในเวลากลางวัน จะนำต้นผักไปไว้กลางแจ้ง เพื่อให้ได้รับแสงตามธรรมชาติ แต่ถ้าช่วงใดมีแสงแดดน้อยก็จะเปิดไฟช่วยอีก ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 30 วัน ผักจะเจริญเติบโต สามารถนำไปบริโภคหรือจำหน่ายได้ ซึ่งจะเร็วกว่าการปลูกโดยอาศัยแสงจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว5-7 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก โดยพื้นที่ปลูก 1 ตารางเมตร ให้ใช้หลอดความยาว 60 เซนติเมตร จำนวน 8 หลอด ติดตั้งไว้สูงกว่าต้นผักประมาณ 30 เซนติเมตร ถ้าติดไว้สูงกว่านี้ต้นผักจะได้รับแสงไม่เพียงพอ วิธีนี้เหมาะกับผักสลัด จะได้สีสันคงเดิม แต่เมื่อเทียบกับการอาศัยแสงตามธรรมชาติอย่างเดียว ผักจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 50-60 เปอร์เซ็นต์

หลอดไฟ แอลอีดี มีข้อดีคือ จะประหยัดค่าไฟมากกว่าหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ที่ใช้ตามบ้านทั่วไปถึง 4 เท่าตัว และคุ้มค่ากว่า เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า อีกทั้งวิธีนี้ ยังสามารถนำไปปรับใช้ กับการปลูกผักไร้ดินในบ้าน ที่มีข้อจำกัดเรื่องแสงแดดได้อีกด้วย



http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=8&d=137015

http://www.nicaonline.com/webboard/index.php?PHPSESSID=60a6f59421f25ce0bc6856c23e134738&topic=23568.msg30700#msg30700

------------------------------------------------------------------------------------------------