-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางวิทยุ-โทรศัพท์ 10 ก.ค.
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ข้าว RiceBerry อีกสักครั้ง .................... DangSalaya
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ข้าว RiceBerry อีกสักครั้ง .................... DangSalaya

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 25/06/2011 5:38 am    ชื่อกระทู้: ข้าว RiceBerry อีกสักครั้ง .................... DangSalaya ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จาก : DangSalaya
ถึง : kimzagass

ตอบ : 25/06/2011 1:27 am
ชื่อกระทู้ : ข้าว RiceBerry อีกสักครั้ง




สวัสดีครับ ลุงคิม

ขอรบกวนให้คุณชัชวาลย์ บอกทางวิทยุลุงคิม รายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา (ให้ปุ๋ยและยา) ข้าว Rice Berry อีกซักรอบ จะอัดเสียงครับ และ

เนื้อที่นา 2 ไร่ (มีที่อยู่แค่นี้ครับ) จะใช้เมล็ดพันธุ์ปลูกแบบดำนาประมาณเท่าใด หากจะขอซื้อเมล็ดพันธุ์จากคุณชัชวาลย์ พอจะแบ่งปันได้บ้างหรือไม่ ราคาเท่าใด ขอที่อยู่เพื่อการติดต่อด้วย

ขอบอก ลุงคิมน่ะ ปากร้าย แต่ใจกว้างยิ่งกว่าแม่น้ำฮวงโห ...ที่รู้เพราะ ชอบลุงตอนที่พูดถึงคุณน้ำส้มขายมะม่วง กก.ละ 50 บาท แต่ลุงเดินหนีโดยพูดว่า โหดไม่พอว่ะ ... แล้วก็โง่มาเสียนาน เพิ่งจะรู้ตอนที่ลุงบอกว่า ต้นไม้กิน (ดูด) อาหารกลางคืน ถ้าอย่างนั้นการรดน้ำและฉีดพ่นยาและปุ๋ยตอนเย็นก็ดีกว่าตอนเช้าใช่ไหมครับ แต่ทำไม แคลเซี่ยม โบร่อน ให้ฉีดตอนแดดร้อนล่ะ

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ กรุณาบอกให้ครบเลยว่า สารอาหารของลุงน่ะ ตัวไหนให้เวลาไหน เพราะบางขวดไม่มีบอกเอาไว้ ...ดันเผลอเอายูเรก้าไปฉีดชะอม มันออกดอกกันทั้งดงเลย แต่เอามาชุบไข่ทอดกินมันก็กรุบ ๆ อร่อยดี

ยาวไปหน่อย เพราะใช้โทรศัพท์โทรไม่ได้ต้องใช้บันทึกเสียงตอนออกอากาศ (เอาไว้เปิดฟังเวลาอยู่ในสวน)

ขอบคุณครับ



http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Private_Messages&file=index&folder=inbox&mode=read&p=1590&sid=d73758e001a2dd55cbab1a6f9dc2f433


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 07/07/2011 9:40 am, แก้ไขทั้งหมด 6 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 25/06/2011 5:40 am    ชื่อกระทู้: Re: ข้าว RiceBerry อีกสักครั้ง ..... ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
จาก : DangSalaya
ถึง : kimzagass

ตอบ : 25/06/2011 1:27 am
ชื่อกระทู้ : ข้าว RiceBerry อีกสักครั้ง




สวัสดีครับ ลุงคิม

ขอรบกวนให้คุณชัชวาลย์บอกทางวิทยุลุงคิม รายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา (ให้ปุ๋ยและยา) ข้าว Rice Berry อีกซักรอบ จะอัดเสียงครับ และ เนื้อที่นา 2 ไร่ (มีที่อยู่แค่นี้ครับ)
ตอบ :
เนื้อที่ 2 ไร่ ถือหลักการ ทำน้อยได้มาก ทำมากได้น้อย" หมายถึงพื้นที้น้อยๆ ทำให้ได้ เกรด เอ. จัมโบ้. โกอินเตอร์. ขึ้นห้าง ออกนอกฤดู. คนนิยม แล้วขายได้มากๆไงล่ะ .... เมื่อคิดจะทำขาย ขอให้มองตลาดบน ตลาดที่คนซื้อมีพลังซื้อสูงๆ ไม่ดีกว่าหรือ .... คิดแบบชาวนาหัวเก่า ยึดติดแบบเดิมๆ ทำข้าวขึ้นมาได้ ขายโรงสี หรือก็ จำนอง ธ.ก.ส. อยู่แค่นั้น ..... ถามจริง มันได้อะไรขึ้นมา

วันนี้คนมีเงินต้องการแต่ของดีๆ กินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เขามีเงินพร้อมที่จะซื้อของดีๆกิน ราคาไม่เกี่ยง แพงแค่ไหนก็ซื้อ ไกลแค่ไหนก็ดั้นด้นไป

ข้าวไรซ์เบอร์รี่, ข้าวหอมนิล, ข้าวสุโขทัย-1, 2, แม้แต่ข้าวสังข์หยด ข้าวเสาไห้ รวมถึงข้าวพื้นเมืองพันธุ์อื่นๆ วันนี้กระแสกำลังมาแรงในหมู่ของคนมีเงิน มีพลังซื้อ ในเมื่อคนซื้อรออยู่ แล้วทำไมคนปลูกจึงไม่ทำขาย .... ทำไมจึงคลั่งไคล้หลงไหลอยู่กับสิ่งเดิมๆ


ข้าวหอมมะลิ ที่ทำๆกันอยู่ทุกวันนี้
เนื้อที่ 3 ไร่ ได้ 1 เกวียน ขายได้ 12,000 เท่ากับ 1 ไร่ได้ 4,000
ลงทุนไร่ละ 3,000 นั่นคือได้กำไร 1,000/ไร่ ....
ในเมื่อข้าวหอมมะลิทำเป็นข้าวกล้อง หรือข้าวกล้องงอก ขายได้มากกว่านี้.....แต่ไม่ทำ

ข้าวหอมจังหวัด ที่ทำๆกันอยู่ทุกวันนี้
เนื้อที่ 3 ไร่ ได้ 3 เกวียน ขายได้เกวียนละ 7,500
ลงทุนไร่ละ 7,000 นั่นคือได้กำไรไร่ละ 500 หรือ 500 x 3 ไร่ = 4,500 เท่านั้น ....
ในเมื่อข้าวหอมจังหวัดทำเป็นข้าวกล้อง หรือข้าวกล้องงอก ขายได้มากกว่านี้....แต่ไม่ทำ
....

หมายเหตุ : ต้นทุน 7,000 เป็นค่า.....
1. จ้างทุกทุกอย่าง ไม่มีการทำเองแม้แต่รายการเดียว
2. ซื้อทุกอย่าง (ปุ๋ย-ยา-ฮอร์โมน)
3. ซื้อเครดิต ตอนจ่ายต้องจ่ายแพง
4. ใช้ผิด (ผิดสูตร-ผิดอัตรา-ผิดระยะ-ฯลฯ)





จะใช้เมล็ดพันธุ์ปลูกแบบดำนาประมาณเท่าใด
หากจะขอซื้อเมล็ดพันธุ์จากคุณชัชวาลย์ พอจะแบ่งปันได้บ้างหรือไม่
ราคาเท่าใด ขอที่อยู่เพื่อการติดต่อด้วย
ตอบ :
- คุณชัชวาลย์ (081) 281-9355 ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ได้ข้าวเปลือก 100 ถัง (1 เกวียน)/ไร่ สีเป็นข้าวกล้องได้ 600 กก. ขาย กก.ละ 100 บาท นั่นคือ 1 เกวียนขายได้ 60,000

- คุณบังอร (085)291-2486, (035)415-136 ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ได้ข้าว (ไม่ได้บอก เพราะไม่ได้ถาม) สีเป็นข้าวกล้องงอก ขาย กก.ละ 70 บาท นั่นคือ 1 เกวียนขายได้ 70,000

เรื่องราคาที่ขายได้ระดับนี้ไม่สงสัย ที่น่าสงสัยที่สุด คือ ชาวนาข้างบ้านหรือย่านนั้น ทำไมจึงไม่มีใครทำตามบ้าง ต่างหาก





ขอบอก ลุงคิมน่ะ ปากร้าย แต่ใจกว้างยิ่งกว่าแม่น้ำฮวงโห ...ที่รู้เพราะ ชอบลุงตอนที่พูดถึงคุณน้ำส้มขายมะม่วง กก.ละ 50 บาท แต่ลุงเดินหนี โดยพูดว่า โหดไม่พอว่ะ ...

แล้วก็โง่มาเสียนาน เพิ่งจะรู้ตอนที่ลุงบอกว่า ต้นไม้กิน (ดูด) อาหารกลางคืน ถ้าอย่างนั้นการรดน้ำและฉีดพ่นยาและปุ๋ยตอนเย็นก็ดีกว่าตอนเช้าใช่ไหมครับ
ตอบ :
เริ่มจากการหาความรู้ในตำรา ในเน็ต ว่าด้วยเรื่อง "ไซเล็ม-โฟเอ็ม" เรื่องนี้ทำความเข้าใจได้ยากมากๆ เพราะเราไม่มีพื้นฐานจากการเรียนในสถานศึกษามาก่อน พยายามเก็บข้อมูลมากๆแล้วจับประเด็น ครั้นมีโอกาสได้คุยกับผู้ที่เรียนมาจากสถานศึกษา คุยกับหลายๆคน ตั้งแต่ระดับ ปวช-ปวส ถึง ปริญญาเอก ความรู้เรื่องไซเล็ม. โฟเล็ม.ก็ไม่ได้ต่างจากในตำรา ในเน็ต ซักเท่าไรนัก แต่ก็พอเห็นภาพ ก็เลยสรุป ภาษาวิชาการ เป็น ภาษาชาวบ้าน ได้ความว่า

พืชดูดน้ำจากดินเข้าสู่ต้นตอนกลางคืน และพืชส่งสารอาหารที่ใบสังเคราะห์แล้วจากลงสู่ส่วนต่างๆของต้นตอนกลางวัน.....หรือ กลางคืน จากล่างขึ้นบน และกลางวัน จากบนลงล่าง ประมาณนี้

ทฤษฎีนี้ตรงกับข้อมูล ดร.โช เกาหลี ที่ว่า กลางคืนพืชจะดูดสารอาหารต่างๆจากดินไปเก็บไว้ที่ใบตอนกลางคืน เมื่อได้รับแสงแดดในวันรุ่งขึ้น ใบจะสังเคราะห์สารอาหารเหล่านั้น แล้วส่งกลับลงมาไปยังส่วนต่างๆของต้น ดังนั้น การนำพืชสดมาทำน้ำหมักชีวภาพจึงควรเก็บพืชนั้นตอนเช้าตรู่ หรือก่อนสว่าง หรือก่อนที่ใบจะได้สังเคราะห์ .....

จำได้ว่า ผู้ให้ข้อมูลเรื่องนี้คนแรก คือ อ.สำรวล ดอกไม้หอม (081)615-0229 เมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว และลุงคิมได้นำเผยแพร่คราวสัญจรไปสอนเกษตรกรทั่วประเทศ ว่าด้วยการทำน้ำหมักชีวภาพจากพืช

เรื่องนี้เคยเกริ่นไว้ในเว้บนี้ด้วยแล้ว คลิกไปที่ "หน้าแรก-เมนูหลัก-อินทรีย์ชีวภาพ" เดี๋ยวก็เจอ...






แต่ทำไม แคลเซี่ยม โบร่อน ให้ฉีดตอนแดดร้อนล่ะ
ตอบ :
ต้นไม้กินอาหารได้ 2 ทาง คือ ปากใบ กับปลายราก ตอนนี้กำลังมองไปที่กินอาหารทางต้น .... จากข้อมูลทางวิชาการ มีสารอาหารบางอย่างให้ทางต้นแล้ว O.K. แต่ข้อมูลทางประสบการณ์ตรงซึ่งใช้สารอาหารคนละตัวกันกับข้อมูลทางวิชาการ ยังไม่ O.K. เพราะขี้เกียจทำต่อ......มีอะไร อ๊ะป่าว...

แคลเซียม โบรอน. ที่สงสัย เป็นสารอาหารทางใบ ซึ่งสารอาหารตัวนี้ผ่านเข้าต้นได้ทั้งทางใบ ทางราก เพราะฉนั้น ให้ทางใบก็ได้ ให้ทางรากก็ดี นั่นคือ ต้องการให้พิชกินทางใบก็ให้ตอนกลางวัน ปากใบเปิด แต่ถ้าต้องการให้พืชกินทางรากก็ให้ตอนกลางคืน แค่นี้ก็จบแล้ว .... ว่ามั้ย




ไหน ๆ ก็ไหน ๆ กรุณาบอกให้ครบเลยว่า สารอาหารของลุงน่ะ ตัวไหนให้เวลาไหน เพราะบางขวดไม่มีบอกเอาไว้ ...ดันเผลอเอา ยูเรก้าไปฉีดชะอม มันออกดอกกันทั้งดงเลย แต่เอามาชุบไข่ทอดกินมันก็กรุบ ๆ อร่อยดี

ยาวไปหน่อย เพราะใช้โทรศัพท์โทรไม่ได้ต้องใช้บันทึกเสียงตอนออกอากาศ (เอาไว้เปิดฟังเวลาอยู่ในสวน)
ตอบ :
ทำไมไม่ลองเอาสูตรนี้ไปให้มะเขือ พริก ดูบ้าง เพราะมันจะได้ออกดอกแล้วติดเป็นผล ชะอมเป็นพืชกินยอด น่าจะใช้ 25-5-5 หรือ 46-0-0 แถมจิ๊บเบอเรลลิน. หรือไม่ก็ "ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ให้ทางรากซัก 15 วัน/ครั้ง ก็เหลือเฟือแล้ว .... ลุงคิมว่าว่านะ กะอีแค่ชะอม ใช้น้ำล้างเขียงทำปลาก็น่าจะพอแล้ว

ลุงคิมครับผม


ขอบคุณครับ


http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Private_Messages&file=index&folder=inbox&mode=read&p=1590&sid=d73758e001a2dd55cbab1a6f9dc2f433
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 26/06/2011 8:02 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จาก “ข้าวกล่ำ” ไร้คนสนใจสู่ “ไรซ์เบอรี่” ธัญพืชต้านอนุมูลอิสระ


แบล็กเบอรี่ บลูเบอรี่ มิกซ์เบอรี่ ฤาจะสู้ “ไรซ์เบอรี่” ธัญพืชสีม่วงอันอุดมสารต้านอนุมูลอิสระจากผืนนาไทย ทั้งวิตามินอี เบตาแคโรทีนและโอเมกา-3 ผลงานพัฒนาคุณภาพพันธุ์ “ข้าวกล่ำ” ของ “ดร.อภิชาติ” นักวิจัยผู้ติดใจรสชาติข้าวสีม่วงมาตั้งแต่วัยเด็ก

น้อยคนนักที่จะรู้จัก “ข้าวกล่ำ” ธัญพืชแห่งพระแม่โพสพที่มีเมล็ดสีดำ แต่หากได้ลองลิ้มชิมรสเชื่อว่าจะทำให้หลายๆ คนติดใจได้ไม่ยาก นำไปทำขนมไทย เช่น ข้าวหลามหรือข้าวหลามตัดได้อร่อยต่างจากข้าวขาวทั่วไป แต่ด้วยความนิยมในข้าวขาวที่มีมากกว่าและการเพาะปลูกข้าวกร่ำยังให้ผลิตน้อยจึงไม่ได้รับความสนใจจากเกษตรกร

โชคดีที่ข้าวกล่ำยังได้รับความสนใจจากนักวิจัยข้าวระดับประเทศอย่าง รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนักวิจัยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ผู้มีความชื่นชอบในรสชาติของข้าวชนิดนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีโอกาสจึงได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีเพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวกล่ำที่มีข้อเสียคือมีฤดูเพาะปลูกสั้น และให้ผลผลิตต่ำเพราะมีรูปทรงที่บานเมื่อมีเมล็ดข้าวมากๆ ก็ทำต้นล้ม ทั้งยังไม่ต้านทานต่อแมลงและแบคทีเรียอีกด้วย

“ผมเป็นคนชอบทานข้าวสีม่วงหรือข้าวกล่ำซึ่งมีสีดำมาตั้งแต่เด็กแล้ว เมื่อมีโอกาสทำงานวิจัยเรื่องข้าวจึงคิดว่าต้องทำเรื่องข้าวสีดำ ตอนเด็กๆ เคยนั่งรถผ่านทุ่งรังสิตจะเห็นในนาเป็นหย่อมสีม่วง ก็สงสัยว่าคืออะไรถึงรู้ว่าเป็นข้าวกร่ำหรือข้าวดำ เอาไปทำขนมก็อร่อย อย่างข้าวหลามก็ต้องเป็นข้าวเหนียวดำ ” รศ.ดร.อภิชาติกล่าวถึงข้าวสีดำหรือข้าวกร่ำที่นำมาพัฒนาเป็นข้าวสีม่วงและให้ชื่อว่า “ไรซ์เบอรี่” โดยเป็นงานวิจัยที่ทำควบคู่ไปกับการวิจัยข้าวทนน้ำท่วมตั้งแต่ลำดับยีนและหายีนความหอมในข้าวหอมมะลิ

ด้วยความอร่อยที่ดึงดูดให้ รศ.ดร.อภิชาติทำการวิจัยเพื่อปรับปรุงพันธุ์จนได้ข้าวสีม่วงที่มีทรงต้นสวย และทนแมลงได้ระดับหนึ่ง ทั้งเมื่อวิเคราะห์สารอาหารของไรซ์เบอรี่แล้วยังพบความน่าสนใจที่ข้าวชนิดนี้มีสารอาหารที่มากกว่าข้าวกล้อง คือมีสารต้านอูลอิสระอย่างเบตาแคโรทีนซึ่งไม่พบในข้าวขาวสูงถึง 63 ไมโครกรัมต่อข้าว 100 กรัม และมีวิตามิน อี สูงถึง 680 ไมโครกรัมต่อข้าว 100 กรัม ทั้งยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น ธาตุเหล็ก โอเมกา-3 เป็นต้น

รศ.ดร.อภิชาติกล่าวว่าสารต้านอนุมูลอิสระนั้นมีผลที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ลดคอเรสเตอรอล ลดปัญหาโรคอ้วน เลือดข้น เลือดเป็นพิษ ซึ่งข้าวที่มีสารต้านอนุมูลจะช่วยได้ อีกทั้งโดยเฉลี่ยเรารับประทานข้าวกันวันละ 250 กรัม หากเรารับประทานข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระก็เหมือนได้รับยาจากแหล่งที่ดีและเป็นแหล่งที่มีโภชนาการสูง

“เนื่องจากข้าวดำไม่ค่อยมีการปรับปรุงพันธุ์ จึงนับว่างานวิจัยนี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ” รศ.ดร.อภิชาติกล่าว แต่ข้าวสีม่วงก็ยังมีข้อเสียที่เหม็นหืนง่ายกว่าข้าวทั่วไป ทั้งนี้คาดว่าเพราะมีสารอาหารเยอะกว่า จึงยังมีงานที่ต้องปรับปรุงพันธุ์ให้ข้าวมีเบตาแคโรทีนมากกว่านี้ รวมทั้งลดกรดไฟติก (Phytic Acid) ที่อยู่ในรำข้าว เนื่องจากรำข้าวเป็นอาหารสัตว์ที่สำคัญ เมื่อสัตว์ได้รับกรดดังกล่าวก็จะดูดซึมฟอสฟอรัสได้น้อยลง ฟอสฟอรัสจึงออกจากร่างกายสัตว์ไปกับพร้อมกับมูล หากปล่อยสู่ธรรมชาติจะกลายเป็นแหล่งอาหารที่ดีของแบคทีเรียและกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่รับช่วงต่อจากการปรับปรุงพันธุ์ไรซ์เบอรี่ของ รศ.ดร.อภิชาติ โดยการแปรรูปข้าว เช่น สกัดน้ำมันรำข้าวจากไรซ์เบอรี่ซึ่งให้สารต้านอนุมูลอิสระสูงและนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือใช้ในการประกอบอาหารก็ได้ รวมทั้งนำข้าวไปแปรรูปเป็นขนมปัง หม่านโถว หรือแป้งข้าว เป็นต้น ซึ่งจะช่วยขยายตลาดให้กับข้าวสีม่วงได้

อย่างไรก็ดีก่อนที่จะหันมาวิจัยเรื่องข้าวอย่างจริงจัง รศ.ดร.อภิชาติได้ทำวิจัยเรื่องข้าวสาลีมาก่อนเมื่อครั้งเรียนปริญญาเอกทางด้านพืชไร่ที่มหาวิทยาลัยโอเรกอนสเตท (Oregon State University) สหรัฐอเมริกา รวมทั้งศึกษาเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดและถั่วเหลืองในระดับการศึกษาหลังปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเจอร์เจีย (University of Georgia) ซึ่งในส่วนของข้าวสาลีนั้นเขาเห็นว่าไม่คุ้มที่จะปลูกในเมืองไทยแต่ก็มีคนพัฒนาจนสามารถปลูกได้ แต่ประสบการณ์ที่ศึกษาพืชเหล่านี้ทำให้การศึกษาเรื่องข้าวได้เร็วขึ้น

“ทำข้าวง่าย สนุก และทานได้ด้วย เพราะเป็นคนชอบทานข้าว แต่ข้าวสาลีเราต้องไปขอพันธุ์เขา ปลูกก็ยาก พอได้มาวิจัยข้าวถึงได้รู้ว่าโง่อยู่ตั้งนาน ทำข้าวสนุกกว่าตั้งเยอะ ถึงอย่างนั้นประสบการณ์ที่ได้ทำข้าวโพด ข้าวสาลีก็ช่วยให้ทำงานข้าวได้เร็วขึ้น” รศ.ดร.อภิชาติกล่าว

การทำวิจัยข้าวเป็นเวลา 8 ปีของ รศ.ดร.อภิชาติ ตั้งแต่ปี 2542 หลังจบการศึกษามาจากสหรัฐ ครอบคลุมการปรับปรุงพันธุ์ข้าวให้ทนต่อสภาพแวดล้อมและมีสารอาหารที่เพิ่มขึ้น อาศัยความรู้ทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อศึกษาลงลึกในระดับยีนของข้าว ทำให้ผลงานเป็นที่ประจักษ์จนได้รับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2549

…รศ.ดร.อภิชาติเป็นตัวอย่างหนึ่งของนักวิจัยที่นำสิ่งมีคุณค่าในชาติมาพัฒนาให้มีคุณค่ายิ่งขึ้น เราเชื่อว่าทรัพยากรอันอุดมบนผืนแผ่นดินไทยจะจุดประกายให้ใครอีกหลายคนได้สร้างสรรค์งานที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป..



http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000013884


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 28/06/2011 10:29 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 28/06/2011 9:53 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


ไรซ์เบอร์รี่....

ประสบการณ์ตรงลุงคิม :
- เป็นข้าวพันธุ์ลูกผสมใหม่ ตอบสนองต่อปุ๋ยเคมี นั่นคือ ปลูกแบบ "อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสม..." ดีที่สุด
- ปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง
- ปลูกได้ทั่วประเทศ
- การหุง เทคนิคเหมือนข้าวหอมมะลิ 105 ทุกประการ

- ข้าวจ้าวสีดำที่มีในประเทศไทยวันนี้ ได้แก่ หอมนิล. สุโขทัย. และไรซ์ เบอร์รี่. โดยที่ไรซ์ เบอร์รี่ ให้ความนุ่ม
และรสชาดดีที่สุด ในบรรดาข้าวจ้าวเมล็ดดำทุกสายพันธุ์ที่กล่าว




-----------------------------------------------------------------------------------





ไรซ์ เบอร์รี่....



---------------------------------------------------------------------------------






หอมนิล....



-------------------------------------------------------------------------------------





เปรียบเทียบชัดๆ.... (บน) หอมนิล.....(ล่าง) ไรซ์ เบอร์รี่...
ความนุ่ม ความอร่อย ไรซ์ เบอร์รี่ เหนือกว่า หอมนิล หลายชั้น







.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 10/07/2011 8:47 pm, แก้ไขทั้งหมด 6 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 07/07/2011 10:01 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)


แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม สินค้าสำหรับลูกค้าที่มีพลังซื้อ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แบบนี้
จะดีกว่าขายให้โรงสี จำนอง ธ.ก.ส.ไหม ?

หุงข้าวพันธุ์อะไรก็สุดแท้ ถ้าใส่จมูกข้าวเข้าไปด้วยซัก 1 ช้อน คุณค่าทางโภชนาการของข้าวที่หุง
ย่อมดีขึ้นอย่างแน่นอน

ปุจฉา วิสัชนา : รวมกลุ่ม/รวมพื้นที่ ทำในบ้าน ไต้ถุนบ้าน ได้ไหม ?




บรรจุภัณท์แบบลูกทุ่ง ขายในประเทศ "ตันละ 60,000" วันนี้ไม่พอขาย นี่แค่คนมีพลังซื้อในประเทศ
เท่านั้น แล้วถ้าคนมีพลังซื้อต่างประเทศต้องการบ้างล่ะ จะมีขายให้เขาไหม ?

ปัญหาการตลาดวันนี้อยู่ที่ ผู้ผลิต หรือ ผู้ซื้อ.....

ออกแบบบรรจุภัณท์ด้วยคอมพิวเตอร์ กร๊าฟฟิก ดีไซน์ ใช้ถุงหนาทึบแสง มีช่องมองเมล็ดข้าวภายในเล็กๆ
มีสัญญลักษณ์หรือโลโก้แบบสากล มีเครื่องหมาย หรือทะเบียน หรือบาร์โค้ต รับรองคุณภาพระดับชาติ
หรือระดับโลก โดยเน้นภาษาอังกฤษล้วนๆ บรรจุถุงแบบสูญญากาศ ในถุงใส่ผงกันชื้นเข้าไปด้วย ที่สำคัญ
คือ โชว์กระบวนการผลิตแบบรักษาสิ่งแวดล้อมให้ชัดเจน

โฆษณา ประชาสัมพันธ์ คือ หัวใจของการทำธุรกิจ "มีดีต้องโชว์ซิวะ...." ประมาณนี้




ข้าวเปลือกไรซ์เบอร์รี่... 1 ตันข้าวเปลือก สีแล้วได้ 600 กก.ข้าวสารเมล็ดเต็ม, 100 กก.ข้าวปลาย
หรือข้าวท่อน, รำ-แกลบ ไม่คิด....เจ้าของข้าวเปลือก (ชาวนา) ได้แต่ข้าวสาร ส่วนข้าวปลายหรือ
ข้าวท่อน - รำ - แกลบ เป็นของโรงสี





คุณชัชวาลย์ เวียร์ร่า (081)281-9355 กับ ผ.บ.ท.บ.




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 10/07/2011 8:43 pm, แก้ไขทั้งหมด 12 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11559

ตอบตอบ: 10/07/2011 6:39 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ตรวจสอบ ราคาข้าวไรซ์ เบอร์รี่....



ราคา ณ โรงสีของคุณสุมลฯ (086) 214-8950 อ.โพธิ์ทะเล จ.พิจิตร
- ข้าวเปลือกไรซ์ เบอร์รี่ สด เกวียนละ 12,000 บาท
- ข้าวเปลือกไรซ์ เบอร์รี่ ตาก เกวียนละ 14,000 บาท

ลุงคิมครับผม

ปล.
กำลังตรวจสอบราคาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติมให้อีก
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©