-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-มะยมแดง....
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - มะม่วงอกร่อง
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

มะม่วงอกร่อง

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
hearse
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 08/01/2010
ตอบ: 110

ตอบตอบ: 20/02/2011 10:13 am    ชื่อกระทู้: มะม่วงอกร่อง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ


มะม่วงที่ถือว่ามีความหวานเป็นที่สุด ได้แก่ มะม่วงน้ำตาลเตา ส่วน “มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ” จัดอยู่ในกลุ่มที่มีความหวานจัดเป็นรองมะม่วงน้ำตาลเตาเล็กน้อย แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ “มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ” นั้นคือ กลิ่นหอมและรสชาติจะเป็นมะม่วงอกร่องอย่างชัดเจน ใครได้กินแบบไม่เห็นผลจะรู้ได้โดยธรรมชาติเลยว่าคือเนื้อมะม่วงอกร่องที่คุ้นเคยและนิยมรับประทานกันมาช้านาน

มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ เป็นมะม่วงอกร่องกลายพันธุ์ที่เกิดจากการเพาะด้วยเมล็ดของมะม่วงอกร่องพันธุ์ดั้งเดิม เมื่อแตกต้นนำไปปลูกจนติดผลแล้วมีความแตกต่างจากพันธุ์ดั้งเดิมคือ รูปทรงของผลจะมีขนาดใหญ่ เมล็ดลีบ เนื้อเยอะ และที่ถือว่าเป็นสุดยอดได้แก่ รสชาติผลสุกจะหวานจัดกว่ามะม่วงอกร่องพันธุ์ดั้งเดิมเยอะ เจ้าของผู้ขยายพันธุ์จึงตั้งชื่อว่า “มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ” โดยมีแหล่งปลูกอยู่ย่านบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. และได้ตอนกิ่งหรือทาบกิ่งออกจำหน่าย ได้รับความนิยมจากผู้ปลูกแพร่หลายในปัจจุบัน

มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ เป็นไม้ยืนต้นสูง 10-20 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับเป็นคู่ๆ หนาแน่นบริเวณปลายกิ่ง ใบเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบมน เนื้อใบค่อนข้างหนา ใบมีขนาดใหญ่และยาวกว่าใบมะม่วงอกร่องทั่วไป สีเขียวสด

ดอก ออกเป็นช่อแบบแยกแขนงช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอกเป็นสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอม “ผล” เป็นรูปกลมรี มีลักษณะเป็นรูปทรงของมะม่วงอกร่องชัดเจน แต่ผลจะใหญ่กว่า เนื้อเยอะ เมล็ดลีบ ผลดิบรสเปรี้ยวจัด ผลสุกเนื้อในเหนียวไม่เละ รสหวานจัดประมาณ 24 องศาบริกซ์ ซึ่งหวานน้อยกว่ามะม่วงน้ำตาลเตาเล็กน้อย (มะม่วงน้ำตาลเตาประมาณ 27-28 องศาบริกซ์) ผลโตเต็มที่ของ “มะม่วงอกร่องหยาดพิรุณ” 4 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม เวลาติดผลเป็นพวง 5-6 ผล ต่อพวง และติดผลดกมาก มีผลเพียงปีละครั้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่งและทาบกิ่ง

ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเก็บผลรับประทานในครัวเรือน หรือปลูกจำนวนหลายๆ ต้น เพื่อเก็บผลขาย หลังปลูกดูแลรดน้ำบำรุงปุ๋ยพร้อมตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ เวลาติดผลดกเต็มต้น จะคุ้มค่ามาก


เอื้อเฟื้อข้อมูล โดย www.thairath.co.th


Thanks: ฝากรูป ประกันอัคคีภัย


มะม่วงอกร่องทองอุไร หรือ “อกร่องใหญ่” อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE เป็น ไม้ยืนต้น สูง 10-20 เมตร แตกกิ่งก้านเยอะ ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรอบกิ่งก้าน เป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ใบจะยาวและแคบคล้ายใบมะม่วงอกร่องทั่วไป สีเขียวสด เวลาใบดกให้ร่มเงาดีมาก

ดอก ออกเป็นช่อแบบแยกแขนงช่อตามปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก ดอก เป็นสีเหลืองนวล หรือขาวนวล ดอกมีกลิ่นหอม ช่วง ติดดอกจะมีน้ำหวานเหนียวๆจากดอกหยดหรือร่วงลงสู่โคนต้น คนคิดว่าเป็นยางมะม่วง ซึ่งในระหว่างนี้ใครนำรถยนต์ หรือของมีค่าไปจอดหรือวางไว้ จะถูกน้ำหวานเหนียวๆ ดังกล่าวหยดลงถูกทำให้ เสียหายได้

ผล รูปทรงกลมยาวคล้ายผลมะม่วงหนังกลางวัน ตามที่กล่าวข้างต้น เมล็ดลีบ เนื้อเยอะ ผลดิบรสเปรี้ยว เมื่อผลสุกเป็นสีเหลือง เนื้อในเป็นสีเหลืองปนขาวเหมือน กับเนื้อมะม่วงอกร่อง แต่มีเสี้ยนน้อยกว่ามะม่วงอกร่อง รสชาติหวานหอมแบบเดียวกับมะม่วงอกร่องทุกอย่าง ซึ่งความหวานวัดได้ 18 องศาบริกซ์ ผลเมื่อโตเต็มที่เฉลี่ย 3 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม

ที่สำคัญ “มะม่วงอกร่องทองอุไร” หรือ “อกร่องใหญ่” คือผลสุกเมื่อใช้มีดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นใส่จานรับประทานไม่หมด ส่วนที่เหลือเก็บไว้รับประทานได้ โดยเนื้อบริเวณที่ใช้มีดหั่นจะไม่เป็นสีสนิม สีน้ำตาลแดง เหมือนกับมะม่วงพันธุ์อื่น ติดผลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง และทาบกิ่ง

มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผง “คุณภิญโญ” ตรงกันข้ามกับโครงการ 13 ราคาสอบถามกันเอง ซึ่ง “มะม่วงอกร่องทองอุไร” หรือ “อกร่องใหญ่” ปลูกง่าย โตเร็ว เวลาติดผลจะเป็นพวง 3-5 ผลขึ้นไป ถ้าหากได้รับการดูแลบำรุงปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอผลจะดกเต็มต้น สามารถเก็บรับประทานในครัวเรือน หรือเก็บขาย ให้คนซื้อไปรับประทานเพิ่มรายได้คุ้มค่ามากครับ.
นายเกษตร


มะม่วงอกร่องพิกุลทอง
มะม่วงอกร่องโบราณ ของ วีระศักดิ์ (ผู้ใหญ่แก้ว) อร่ามรัตน์ สำหรับผู้นิยมมะม่วงอกร่องกับข้าวเหนียวมูน แหล่งปลูกใหญ่ ที่ "บ้านแพ้ว"

"มะม่วง" ไม้ผลยืนต้น นิยมปลูกกันทั่วประเทศ มีอยู่นับร้อยสายพันธุ์ มีการบันทึกกันไว้ว่า มะม่วงในประเทศไทยจากอดีตจนปัจจุบันมีอยู่ 200 กว่าสายพันธุ์ กระจายกันอยู่ทุกภาคทั่วประเทศ บางสายพันธุ์ล้มหายตายจากสูญพันธุ์ไปแล้วก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นมะม่วงที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักชื่อพันธุ์ มะม่วงประเภทนี้จะขึ้นอยู่ตามหัวไร่ปลายนา ตามป่าเขากระจัดกระจายกันอยู่ รสชาติอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างว่ากันไปตามเรื่อง

แต่มะม่วงที่ผู้บริโภคให้ความนิยมในปัจจุบันนี้มีเพียงไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้น มะม่วงสายพันธุ์หลักๆ ที่นิยมบริโภคกันอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศก็เห็นจะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงอกร่อง มะม่วงแรด มะม่วงแก้ว มะม่วงหนังกลางวัน มะม่วงพิมเสน มะม่วงมหาชนก และอื่นๆ อีกไม่กี่สายพันธุ์ นอกนั้นก็เป็นมะม่วงพื้นบ้านที่ออกตามฤดูกาลขายกันในท้องถิ่น มีมากพอสมควร ส่วนมะม่วงที่ไม่ทราบยี่ห้อไม่ทราบสายพันธุ์ขึ้นตามชนบททั่วๆ ไปนั้น ประเภทนี้มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ยากที่จะแยกแยะและสืบค้นหาที่มาที่ไป

สำหรับ "มะม่วงอกร่องโบราณ" ที่จะกล่าวถึงนี้ ยังมีอยู่อีกมากพอสมควร ขึ้นกระจัดกระจายในเขตพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะเขตอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เป็นแหล่งปลูกมะม่วงอกร่องโบราณแหล่งใหญ่ของประเทศ ในแต่ละปีมีผลผลิตมะม่วงออกสู่ตลาดหลายพันตัน

มะม่วงอกร่อง เป็นมะม่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุดเมื่อในอดีตที่ผ่านมา จัดว่าเป็นมะม่วงที่รับประทานกับข้าวเหนียวมูนอร่อยที่สุด รสชาติของมะม่วงจะหอมเป็นเอกลักษณ์ หวาน อร่อย กลมกลืนกับข้าวเหนียวมูน จึงได้รับความนิยมถูกจัดอยู่ในประเภทของว่างตามฤดูกาลคือ "ข้าวเหนียวมะม่วง"

มาระยะหลังมีการพัฒนามะม่วงน้ำดอกไม้จนได้คุณภาพ ทำให้มะม่วงน้ำดอกไม้กับข้าวเหนียวมูนมีผู้นิยมบริโภคพอๆ กันกับมะม่วงอกร่อง และอาจจะมากกว่า เหตุเพราะมะม่วงน้ำดอกไม้ในปัจจุบันมีผลผลิตเป็นจำนวนมาก ผู้คนหาบริโภคง่าย ตลอดจนรสชาติหวาน หอม อร่อย เป็นที่ถูกปากถูกใจผู้บริโภคเช่นกัน มะม่วงน้ำดอกไม้จึงมาแรงแซงโค้งอยู่ทุกวันนี้

คุณวีระศักดิ์ อร่ามรัตน์ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในนาม "ผู้ใหญ่แก้ว" อดีตเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสารวัตรกำนัน ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านแพ้ว เป็นอีกผู้หนึ่งที่จับงานทำสวนมะม่วงมาโดยตลอด ปัจจุบันเปิดโรงบ่มมะม่วงอยู่ที่บ้าน มีมะม่วงจากสวนเข้ามาให้บ่มในช่วงฤดูมะม่วงมากมาย ถือว่าเป็นโรงบ่มมะม่วงใหญ่ที่สุดในเขตตำบลหนองบัว และอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ก็ว่าได้

ผู้ใหญ่แก้ว บอกว่า ถ้าเป็นฤดูมะม่วงเก็บผลผลิต ที่บ้านเปิดรับบ่มมะม่วง มีผลผลิตมะม่วงเข้ามาบ่มวันละเป็นร้อยๆ ตัน มะม่วงที่เข้าโรงบ่มจะเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้กับมะม่วงอกร่อง เพราะตลาดนิยมบริโภคผลสุกมากกว่าผลดิบ

สำหรับมะม่วงในสวนของผู้ใหญ่แก้วนั้น เจ้าตัวบอกว่า มีทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้ และมะม่วงอกร่อง โดยเฉพาะมะม่วงอกร่องโบราณ ที่สวนน่าจะมีมากที่สุดในตำบลก็ว่าได้ เป็นมะม่วงที่ปลูกกันมาแต่ครั้งรุ่นคุณพ่อคุณแม่ ล้อมรอบคันสวนมะม่วง แต่ละต้นมีอายุนับสิบๆ ปี บางต้นอายุร่วม 100 ปี ก็มี

ผู้ใหญ่แก้ว กล่าวต่อไปว่า มะม่วงอกร่องโบราณ หรืออกร่องธรรมชาติ หรืออกร่องทอง พันธุ์เดียวกันแต่เรียกกันหลายชื่อ จริงๆ แล้วเป็นมะม่วงโบราณ มีอายุนับ 100 ปี สืบทอดสายพันธุ์มาจนทุกวันนี้ มะม่วงอกร่องนั้นมีหลายสายพันธุ์ เช่น มะม่วงอกร่องโบราณ หรือมะม่วงอกร่องทอง มะม่วงอกร่องพิกุลทอง มะม่วงอกร่องหอม และมะม่วงอกร่องกะทิ

มะม่วงอกร่องพิกุลทองนั้น จัดว่าเป็นน้องใหม่ที่กลายพันธุ์จากมะม่วงอกร่องโบราณได้รับความนิยมพอสมควร ระหว่างมะม่วงอกร่องโบราณกับมะม่วงอกร่องพิกุลทองนั้นมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ มะม่วงอกร่องพิกุลทอง ทรงผลยาวกว่ามะม่วงอกร่องโบราณ ผิวเปลือกเหลืองสวย ส่วนมะม่วงอกร่องโบราณ ทรงผลออกแบน ออกอ้วนกว้าง บ่มแล้วผิวเหลืองสวย ผลดิบที่อกมีร่อง แต่พอแก่จัดร่องอกจะเติมเต็มหายไป

กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงอกร่องคือ หอมมาก รับประทานกับข้าวเหนียวมูนสุดยอดทั้ง 2 สายพันธุ์ แต่ดูเหมือนว่ามะม่วงอกร่องโบราณจะมีรสชาติอร่อยกว่า หอม หวาน และเปลือกบางกว่า มะม่วงอกร่องพิกุลทองจะได้ทรงผลใหญ่

ส่วนมะม่วงอกร่องกะทิ เป็นมะม่วงโบราณอีกสายพันธุ์หนึ่ง มีรสชาติหวานมัน รับประทานดิบรสชาติออกมัน ผิวผลไม่สวย ออกขรุขระ สีผลเข้มเหลืองออกเขียวแซมเล็กน้อย รสชาติหวานมันกว่ามะม่วงอกร่องโบราณ กลิ่นหอมคล้ายมะม่วงอกร่องโบราณ รับประทานทานสุกเปล่าๆ อร่อยดี แต่รับประทานกับข้าวเหนียวมูนสู้มะม่วงอกร่องโบราณไม่ได้ รับประทานผลดิบห่ามๆ แบบปากตะกร้อออกหวานมัน อร่อย รับประทานดิบออกมัน ไม่เปรี้ยว ทรงผลใหญ่กว่ามะม่วงอกร่องโบราณ ผิวผลไม่เรียบ รูปทรงไม่สวย เนื้อหนา เมล็ดบาง หารับประทานยากเพราะไม่ค่อยมีใครปลูกกัน ตลาดไม่ต้องการ เพราะทรงผลขี้ริ้วขี้เหร่ ไม่สวย ออกตามฤดูกาลเป็นมะม่วงฤดูปี

สำหรับมะม่วงอกร่องหอม ผู้ใหญ่แก้ว อธิบายว่า เป็นมะม่วงอกร่องโบราณเช่นกัน ทรงผลมะม่วงอกร่องหอม หัวจะโตกว่า ท้ายผลลีบเล็ก ผิวจะออกเหลืองขาว นำมาบ่มจะเสียหายมาก ผิวมักเสียไม่ค่อยสวย รสชาติหวานเย็น ไม่มีความมัน เทียบกับมะม่วงอกร่องโบราณไม่ได้ อกร่องโบราณหวานมันกว่า ส่วนกลิ่นหอมรัญจวนใจพอๆ กัน

ผู้ใหญ่แก้ว บอกว่า มะม่วงอกร่อง ถ้าจะรับประทานให้อร่อยต้องสอยตอนสุกปากตะกร้อ แล้วนำมาบ่ม 2 คืน สุดยอดจริงๆ แต่มะม่วงอกร่องปัจจุบันนี้มักจะสอยชิงราคากัน คือเก็บก่อนกำหนด มะม่วงอกร่องอายุเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 120 วัน พอมะม่วงอายุ 105 วัน ขึ้นไป เกษตรกรจะเริ่มสอยกันแล้ว ความแก่จะอยู่ที่ 85% แล้วนำมาบ่มแก๊ส ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ เกษตรกรจะสอยไปจนหมดก็ครบ 120 วัน ถึงตอนนี้มะม่วงที่ครบกำหนด เพราะแก่ 100% จะเริ่มเสียหายแล้ว ฉะนั้น เกษตรกรส่วนใหญ่มักสอยมะม่วงอยู่ในราว 85% แล้วนำมาบ่ม

ส่วนกรณีที่เป็นสวนใหญ่ มีจำนวนต้นมะม่วงมาก เมื่อคำนวณดูแล้วว่าหากเริ่มสอยมะม่วงตั้งแต่อายุ 105 วัน ขึ้นไป กว่าจะหมดสวนก็ไม่ทันการ เพราะกาลเวลาในแต่ละวันมะม่วงจะสุกมากขึ้นๆ ถึงเวลาครบกำหนด 120 วัน หากยังสอยมะม่วงไม่หมด เหลือตกค้างบนต้นมาก ความเสียหายจะเกิดมาก มะม่วงจะสุกก่อนเก็บขาย กรณีนี้เกษตรกรก็จะเก็บมะม่วงกันก่อน ไล่ตั้งแต่ 60 วัน ขึ้นไป มะม่วงที่เก็บก่อนจะไม่ได้คุณภาพ จำเป็นต้องเคล้ากันไปอย่างนี้ มิเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายมาก มะม่วงอกร่องถ้าจะให้อร่อย ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ต้องเก็บอายุ 110 วัน ขึ้นไป จึงจะดี

หลังจากที่เก็บมะม่วงลงมาจากต้นแล้ว ต้องนำมาบ่มแก๊ส ผู้ใหญ่แก้ว บอกว่า การบ่มแก๊ส หลายๆ คนไม่เข้าใจ คิดว่าจะเป็นอันตราย ซึ่งจริงๆ แล้ว แก๊สเพียงมีส่วนทำให้เกิดความร้อนไปบ่มมะม่วงให้สุกเร็ว และสุกสม่ำเสมอกันทุกผลเท่านั้นเอง ไม่มีผลเสียหรือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแต่ประการใด

วิธีการบ่มมะม่วงต้องใช้พื้นที่เป็นพื้นเรียบกว้างพอสมควร จากนั้นก็เอากระสอบป่านมาปูเต็มพื้นที่ แล้วเอากระดาษหนังสือพิมพ์มาปูทับให้ทั่วอีกชั้นหนึ่ง นำมะม่วงที่จะบ่มมาวางเรียงกันเป็นแถว เอาด้านหัวมะม่วงลงเรียง พอเรียงเป็นแถวจนหมดแล้วก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์ห่อแก๊สที่จะใช้บ่ม นำห่อแก๊สไปวางบนแถวเรียงมะม่วงระยะห่างระหว่างห่อแก๊สพอสมควร วางเป็นจุดๆ ให้ทั่วทั้งกอง ถ้าบ่มมะม่วงฤดูหนาวอากาศเย็นต้องวางห่อแก๊สห่างกัน ซ้าย ขวามือ 1 คืบ แต่ถ้าหน้าร้อนให้ห่อแก๊สห่างราว 2-3 ฟุต จากนั้นก็นำกระดาษหนังสือพิมพ์ปูทับทั้งกองมะม่วงให้ทั่ว แล้วเอากระสอบป่านปูทับด้านบนอีกชั้น เหน็บชายทุกด้านให้มิดชิด ทิ้งไว้ 2 คืน เป็นใช้ได้ มะม่วงจะสุกสีเหลืองสดสวยเสมอกันทุกผล นำออกขายได้ ถ้าบ่มแบบโบราณเขาจะใช้ใบชุมเห็ดแทนแก๊ส

ผู้ใหญ่แก้ว กล่าวต่อไปว่า มะม่วงอกร่องโบราณมีมากที่เขตอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เท่านั้น

"มะม่วงที่ไหนๆ ก็มักมาบ่มที่ หมู่ที่ 2 ตำบลหนองบัว โดยเฉพาะบ้านผม เป็นโรงบ่มมะม่วงที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้"

ผู้ใหญ่แก้ว ไม่ได้คุย แต่บอกให้ฟัง สำหรับปีนี้มะม่วงอกร่องโบราณมีออกมามากพอสมควร ต้นๆ ฤดูทำท่าไม่ค่อยดี เพราะดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง แต่พอเข้าฤดูกาลมะม่วงติดมาก เกษตรกรชาวสวนเลยชื่นอกชื่นใจ หายใจได้ทั่วท้องหน่อย

"จะทานมะม่วงกับข้าวเหนียวมูน ราดกะทิให้สะใจ อร่อยสุดยอด ต้องทานกับมะม่วงอกร่องโบราณเท่านั้น ถ้าหามะม่วงอกร่องโบราณไม่ได้ ก็ใช้มะม่วงอกร่องอื่นๆ ก็ได้ พอกล้อมแกล้ม แต่ต้องเป็นมะม่วงที่เก็บได้ตามกำหนด ตั้งแต่ 110 วัน ขึ้นไปเท่านั้นนะ มิเช่นนั้นไม่รับประกันคุณภาพ"

ผู้ใหญ่แก้ว กล่าวอย่างอารมณ์ดี พลางเชิญชวนให้ไปเยี่ยมสวน พูดคุยกัน สนใจโทร.ไป ที่ (089) 221-3889 ผู้ใหญ่แก้ว ซะอย่างบริการทุกระดับประทับใจ


Thanks: ฝากรูป ประกันอัคคีภัย

Thanks: ฝากรูป ประกันอัคคีภัย

Thanks: ฝากรูป ประกันอัคคีภัย

Thanks: ฝากรูป ประกันอัคคีภัย
ที่มาข้อมูลhttp://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05032150553&srcday=&search=no
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©