ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
sugasza หนาวดึ่ง
เข้าร่วมเมื่อ: 11/12/2010 ตอบ: 15
|
ตอบ: 16/02/2011 2:12 pm ชื่อกระทู้: ขอความรู้เรื่องปุ๋ยขี้ไก่ |
|
|
ใช้ในการปลูกมันสำปะหลังนะครับ
- ปุ๋ย้ขี้ไก่อัดเม็ดใช้ประมาณกี่ ก.ก./1ไร่ครับ
- ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดใช้แบบ เกลี่ยให้ทั่วแล้วไถรวมกับดิน กับ ใช้แบบรองก้นหลุมแบบไหนจะดีกว่ากันครับ
-วิธีดูปุ๋ยขี้ไก่ว่าหมักแล้วดูยังไงครับ เพราะทางคนที่ซื้อมาให้ผมบอกว่าเป็นปุ๋ยขี้ไก่ที่หมักแล้ว ราคา 35 บาทต่อกระสอบปุ๋ย
-น้ำยาแช่ท่อนพันธุ์ หลังแช่เสร็จแล้ว น้ำจะเหลือ จะนำไปรดท่อนพันธุ์ที่ปักเรียบร้อยแล้วได้หรือเปล่าครับ รดผสมต้นพันธุ์และดินไปเลย
ขอบคุณครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11561
|
ตอบ: 16/02/2011 6:30 pm ชื่อกระทู้: Re: ขอความรู้เรื่องปุ๋ยขี้ไก่ |
|
|
sugasza บันทึก: | ใช้ในการปลูกมันสำปะหลังนะครับ
- ปุ๋ย้ขี้ไก่อัดเม็ดใช้ประมาณกี่ ก.ก./1 ไร่ครับ
ตอบ :
- ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข และไม่มีสูตรสำเร็จ.....
- ใจคอจะเอาตัวเลขให้ได้ เพราะคิดอย่างนี้นี่แหละ "ระบบเกษตร" ของไทยถึงได้กลิ้งโค่โร่ หกขะเมนเกงเก้ สิ้นเนื้อประดาตัว เป็นหนี้เป็นสินกันทั่วประเทศ
เด็กรุ่นใหม่ ลูกหลานเกษตรกรโดยสายเลือดแท้ๆ พากันหนีภาคเกษตร มุ่งสู่มนุษย์เงินเดือน เป็นข้านายจ้าง ทำมากทำดีแค่ไหนก็ได้เท่าเดิม ทำน้อยทำไม่ดีถูกตัดเงินเดือน ทำงานนานๆเงินเดือนมากขึ้น นายจ้างก็ไล่ออก จ้างเด็กใหม่ หัวคิดใหม่ ไฟใหม่ แต่จ่ายเงินเดือนน้อยลง บางครั้งไล่คนเก่าเงินเดือนสูงออก 1 คน จ้างใหม่ได้ 2 คน ก็ยังมี
วันนี้มีคนรุ่นใหม่ (แนวคิด ไม่ใช่อายุ) หนีอาชีพมนุษย์เงินเดือน เดินเข้าสู่อาชีพอิสระ มาเป็นเกษตรกร ด้วยความมั่นใจ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ทำสบายๆ ไม่ต้องรอรับคำสั่งใคร ทำการเกษตรภายใต้หลักการ "เศรษฐศาสตร์การลงทุน" มุ่งมั่นหา
"วิชาการ + ประสบการณ์ + จินตนาการ + แรงจูงใจ + แรงบัลดาลใจ"
สังเกตุจากที่ข้างบ้านทำ เฉลียวใจจากที่พ่อแม่ทำ เอามาวิเคราะห์เปรียบเทียบ หาต้นตอสาเหตุแห่งความล้มเหลวด้วยเหตุและผล แล้วคิดใหม่ทำใหม่ เริ่มนับ 1 ใหม่....เพียง 2 รุ่นการผลิต เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ว่าก็เริ่มเห็นแสงสว่างปากถ้ำแล้ว วันนี้ชีวิตกำลังเดินไปได้สวย มองเห็นอนาคตรุ่งโรจน์ชัดเจน
- ขี้ไก่อัดเม็ด V.S. ขี้ไก่ก้อน V.S. ขี้ไก่แกลบ V.S. ขี้ไก่ละลายน้ำ .... ทั้ง 4 อย่างนี้ หากวิเคราะห์โดยมีพืชหรือดินเป็นศูนย์กลางแล้ว ต่างกันอย่างไร ในแง่ของ "กายภาพ กับ เคมี" ..... ทั้ง 4 ตัวต่างก็เป็นขี้ไก่เหมือนๆกัน ใส่ลงไปในดินแล้วต้องละลายเหมือนกัน ไม่งั้นต้นพืชจะเอาไปกินได้ยังไง การที่จะเลือกใช้แบบไหนขึ้นอยู่กับ "เศรษฐศาสตร์การลงทุน"
- ขี้ไก่อัดเม็ด คนใช้สบายแต่จ่ายแพง หว่านลงไปแล้วต้องตามด้วยน้ำเพื่อให้เม็ดขี้ไก่ละลาย เท่ากับทำงาน 2 รอบ แต่ถ้าเอาขี้ไก่ก้อน ราคาถูกกว่าหลายเท่า เมื่อจะใช้ให้ละลายน้ำก่อน แล้วราดรดลงดิน แบบนี้ทำงานรอบเดียวใช่ไหม ?
- การกำหนดอัตราใช้ว่าจะต้องเท่านั้นเท่านี้ กก./ไร่ ขึ้นอยู่กับ....1) ประเภทของพืช....2) ลักษณะเนื้อดินหรือโครงสร้าง....3) ปริมาณอินทรีย์วัตถุเดิมที่มีอยู่....4) ปัจจัยเสริม/ปัจจัยต้าน....5) ฯลฯ
- โดยปกติพืชไร่อย่างสำปะหลัง ขอให้มีอินทรีย์วัตถุเพียง 5-10% ของเนื้อดินก็พอแล้ว ปัญหามันอยู่ที่ สภาพดินเดิมเป็นอย่างไร ดินดีใส่น้อย ดินโหลยโท่ยใส่มาก จึงกำหนดตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ ต้องใช้วิจารณญาเอาเอง
- ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดใช้แบบ เกลี่ยให้ทั่วแล้วไถรวมกับดิน กับ ใช้แบบรองก้นหลุมแบบไหนจะดีกว่ากันครับ
ตอบ :
ขี้ไก่รองก้นหลุม ที่หลุมมีรากเกิดใหม่ รากเกิดมาได้กินเลย แต่เมื่อต้นโตขึ้นรากยาวมากขึ้นๆ ๆๆ ยาวออกไปนอกก้นหลุม เขาจะเอาขี้ไก่ที่ไหนกิน หรือจะให้รากยาวเลี้ยววกกลับมาที่ก้นหลุมเอง ..... เทียบกับหว่านทั่วแปลง รากยาวถึงไหนมีขี้ไก่กินที่นั่น เพราะฉนั้น ระหว่างใส่ขี้ไก่รองก้นหลุม กับหว่านทั่วแปลง อย่างไหนอำนวยความสะดวกแก่สำปะหลังดีกว่ากัน
-วิธีดูปุ๋ยขี้ไก่ว่าหมักแล้วดูยังไงครับ เพราะทางคนที่ซื้อมาให้ผมบอกว่าเป็นปุ๋ยขี้ไก่ที่หมักแล้ว ราคา 35 บาทต่อกระสอบปุ๋ย
ตอบ :
1. ดม....... หมักนานกลิ่นเหม็นขี้ไก่น้อย หมักไม่นานกลิ่นเหม็นขี้ไก่ชัดเจน
2. ดู......... หมักใหม่แมลงวันตอม หมักเก่าแมลงวันไม่ตอม
3. ดู......... มีโซดาไฟหมักใหม่หรือไม่ได้หมักแมลงวันไม่ตอม กลิ่นฉุนจัดมาก
4. ราคา..... 35 บาท/กส.ปุ๋ย ถูกอย่างน่าผิดสังเกตุ
5. จับพิรุธ... ฉลาด + เฉลียว
-น้ำยาแช่ท่อนพันธุ์ หลังแช่เสร็จแล้ว น้ำจะเหลือ จะนำไปรดท่อนพันธุ์ที่ปักเรียบร้อยแล้วได้หรือเปล่าครับ รดผสมต้นพันธุ์และดินไปเลย
ตอบ :
ก็มันคือ "น้ำผสมสารอาหาร" ถ้าเอาไปรดแปลงที่ลงต้นพันธุ์แล้วไม่ได้....ไม่มีเหตุผลน่ะ
ลุงคิมครับผม
ขอบคุณครับ |
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11561
|
ตอบ: 17/02/2011 7:27 am ชื่อกระทู้: |
|
|
- ใจคอจะเอาตัวเลขให้ได้ เพราะคิดอย่างนี้นี่แหละ "ระบบเกษตร" ของไทยถึงได้กลิ้งโค่โร่ หกขะเมนเกงเก้ สิ้นเนื้อประดาตัว เป็นหนี้เป็นสินกันทั่วประเทศ
เด็กรุ่นใหม่ ลูกหลานเกษตรกรโดยสายเลือดแท้ๆ พากันหนีภาคเกษตร มุ่งสู่มนุษย์เงินเดือน เป็นข้านายจ้าง ทำมากทำดีแค่ไหนก็ได้เท่าเดิม ทำน้อยทำไม่ดีถูกตัดเงินเดือน ทำงานนานๆเงินเดือนมากขึ้น นายจ้างก็ไล่ออก จ้างเด็กใหม่ หัวคิดใหม่ ไฟใหม่ แต่จ่ายเงินเดือนน้อยลง บางครั้งไล่คนเก่าเงินเดือนสูงออก 1 คน จ้างใหม่ได้ 2 คน ก็ยังมี
วันนี้มีคนรุ่นใหม่ (แนวคิด ไม่ใช่อายุ) หนีอาชีพมนุษย์เงินเดือน เดินเข้าสู่อาชีพอิสระ มาเป็นเกษตรกร ด้วยความมั่นใจ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ทำสบายๆ ไม่ต้องรอรับคำสั่งใคร ทำการเกษตรภายใต้หลักการ "เศรษฐศาสตร์การลงทุน" มุ่งมั่นหา
"วิชาการ+ประสบการณ์+จินตนาการ+แรงจูงใจ+แรงบัลดาลใจ"
สังเกตุจากที่ข้างบ้านทำ เฉลียวใจจากที่พ่อแม่ทำ เอามาวิเคราะห์เปรียบเทียบ หาต้นตอสาเหตุแห่งความล้มเหลวด้วยเหตุและผล แล้วคิดใหม่ทำใหม่ เริ่มนับ 1 ใหม่....เพียง 2 รุ่นการผลิต เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ว่าก็เริ่มเห็นแสงสว่างปากถ้ำแล้ว วันนี้ชีวิตกำลังเดินไปได้สวย มองเห็นอนาคตรุ่งโรจน์ชัดเจน
คำพูดนี้ "แรง" รู้ทั้งรู้ แต่ก็พูด แล้วก็เขียน....
เจตนาต้องการให้เป็น "แรงบันดาล" ใจ
งานเกษตรไม่ยาก ถ้า "ใจ" เอา แต่ถ้าใจไม่เอา ทำไปมีแต่ล้มเหลว
สร้างแรง "ฮึด" ขึ้นมาให้ได้ แค่รุ่นสองรุ่นเท่านั้นแหละ เดี๋ยวรู้เรื่อง
ถึงเวลานั้น พูดได้เต็มปาก.... ก. ทำ กับ มือ
ลุงคิม (พร้อมให้) ครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|