ปลูกผักอินทรีย์...แนวทางลุงคิม

[monkeybluffy]

สวัสดีครับคุณลุง พี่ๆเพื่อนๆ สมาชิก...

พอดีผมเป็นเกษตรกรมือใหม่มากๆครับ สนใจอยากจะลองปลูกผักตามแนวทาง อินทรีย์นำเคมีเสริมครับ
อยากจะขอความรู้จากคุณลุง และ เพื่อนๆพี่ สมาชิก หน่อยครับ สนใจจะปลูกพืชดังนี้

1. ผักชี
2. คะน้า

แต่ทราบมาว่า ผัก 2 ชนิดนี้ มีโรคและแมลงรบกวนมาก ดูแลยาก ต้องใช้พวกสารเคมีเยอะ คือ ผมไม่อยากไปนั่งดม นอนดม สารเคมีครับ

ไม่ทราบว่า พอมีวิธีปลูกพืช 2 ชนิดนี้ในเว็บไว้ศึกษาหาความรู้หรือเปล่าครับ พอดีลองค้นดูในเว็บ มีแต่รายละเอียดการปลูกแบบเคมี จากกรมวิชาการเกษตร เลยอยากทราบวิธีปลูกแบบไม่ใช้สารเคมี

ขอบพระคุณอย่างสูง

[Aorrayong]

สวัสดีค่ะ คุณ monkeybluffy ศึกษาขั้นต้นที่เมนูนี้ได้เลย หากมีข้อสงสัย ก็ถามเพิ่มเติมได้

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=7

[Aorrayong]

สารสกัดสมุนไพร
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=14


ปฏิทิน ลด-ละ-เลิก สารเคมี
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1187

[Aorrayong]

ปลูกผักสวนครัว แนวทางอินทรีย์ตกขอบ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=98

[kimzagass]

[monkeybluffy]

ตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อครับคุณลุง..... อิอิ

ขอบพระคุณครับ

[kimzagass]

ผักอินทรีย์ PURE-PURE ไม่ตกขอบ

หลักการและเหตุผล :
ปุ๋ย - ธาตุอาหาร - สารอาหาร ทั้ง 3 คำนี้คือ สิ่งเดียวกัน หมายถึงสิ่งที่พืชใช้เพื่อการดำรงชีวิต ประกอบด้วย ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน และอื่นๆ......แบ่งประเภทหรือชนิดได้เป็น 2 คือ อินทรีย์ (ธรรมชาติ) กับ สังเคราะห์ (เคมี)

การจะ "รับ" หรือ "ปฏิเสธ" อย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียวระหว่าง อินทรีย์ กับ เคมี นั้นสามารถทำได้ แต่เมื่อต้องการให้พืชมีพัฒนาการที่ดีจึงจำเป็นต้องให้และต้องให้ในปริมาณที่พอเพียงด้วย

กรณีที่เราต้องการปฏิเสธ "ปุ๋ยเคมี" อย่างเด็ดขาด ก็ต้องใช้ "ปุ๋ยอินทรีย์" แทน และการแทนก็จะต้องแทนอย่าง เหมาะสมถูกต้องตรงตามความต้องการของพืช อย่างแท้จริงด้วย มิเช่นนั้น พืชหรือผักที่ปลูกก็จะไม่เจริญเติบโต แคระแกร็น ไม่มีคุณภาพ อย่าว่าแต่ขายไม่ออกเลย บางมีเจ้าของคนปลูกยังไม่อยากกินด้วยซ้ำ



เข้าประเด็น....ผักชี-ผักคะน้า อินทรีย์ แท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์

เตรียมดิน :
- ไถดิน ขี้ไถขนาดใหญ่ ตากแดดจัด 15 แดด ถ้าฝนตกให้ไถใหม่เริ่มนับ 1 ตากแดดใหม่
- ตากแดดดินครบกำหนดแล้ว ใส่อินทรีย์วัตถุ "ยิบซั่ม. กระดูกป่น. ขี้วัว+ขี้ไก่. แกลบเก่า. รำละเอียด." ผสมเข้ากันแล้วหว่านทั่วแปลง
- หว่านอินทรีย์วัตถุแล้วไถพรวน ปรับสันแปลงให้เป็นหลังเต่า
- ปรับสันแปลงแล้วคลุมหน้าแปลงด้วยฟางหนาๆ
- คลุมหน้าแปลงแล้ว รดด้วย "น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง" รอบที่ 1
- รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง รอบที่ 1 แล้วทิ้งไว้ 7-10 วัน
- รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง รอบที่ 2 ก่อนลงกล้า 1-2 วัน
- โครงสร้างดินชื้นสม่ำเสมอแต่ต้องไม่อุ้มน้ำ (ชื้น-ชุ่ม-โชก-แฉะ-แช่....แยกให้ออก ทำให้ได้)

หมายเหตุ :
- ระยะเวลาจากรอบที่ 1 ถึงรอบที่ 2 เป็นการบ่มดิน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์เข้าทำการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุและปรับสภาพดิน
- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงมีส่วนผสม "ปลาทะเล. กากน้ำตาล. เลือด. ขี้ค้างคาว. ไขกระดูก. นม. ไข่. น้ำมะพร้าว." หม้กนานข้าม 1-2-3 ปี ส่วนผสมทุกอย่างเป็น "อินทรีย์" แท้ๆ
- ปุ๋ยอินทรีย์แห้งหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (ส่วนผสมของน้ำหมักระเบิดเถิดเทิง + อินทรีย์วัตถุ) หมักนานข้ามปี ดีที่สุด
- ในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ที่แนะนำให้ใช้นี้ไม่มี ธาตุหลัก-ธาตุรอง-ธาตุเสริม-ฮอร์โมน ซึ่งเป็น "เคมี" เพราะไม่ได้ใส่


เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- แช่เมล็ด (ทั้ง 2 ผัก) ในไคโตซาน 3-6 ชม.
- เมล็ดคะน้าแช่ไคโตซานแล้วนำขึ้นผึ่งลมให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วนำไปหว่านในแปลงเพาะกล้าได้เลย
- เมล็ดผักชีแช่ไคโตซานแล้ว ห่อด้วยผ้าชื้น นำแช่ในตู้เย็น (ช่องเย็นธรรมดา) 36-48 ชม. ระหว่างนี้ให้แหวกห่อผ้าออกดู ถ้าเมล็ดเริ่มแทงรากออกมาแล้วให้นำลงปลูกในแปลงจริงได้เลย หรือจะเพาะในแปลงเพาะกล้าก่อนก็ได้

บำรุงคะน้า :
- เริ่มบำรุงรอบแรกเมื่อต้นกล้าโตได้ 2-4 ใบ
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ทุก 5 วัน
- ให้ฮอร์โมนธรรมชาติ ทุก 5 วัน สลับกับน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรสูตรรวมมิตร หรือสูตรเฉาะ ทุกวันเว้นวัน
- ให้น้ำวันละ 2 รอบ เช้าเย็น หรือ 3 รอบช่วงอากาศร้อนจัดๆ

บำรุงผักชี :
- เริ่มบำรุงรอบแรกเมื่อต้นกล้าโตได้ 2-4 ใบ
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + นมสด ทุก 5 วัน
- ให้ฮอร์โมนธรรมชาติ ทุก 5 วัน สลับกับน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรสูตรรวมมิตร หรือสูตรเฉาะ ทุกวันเว้นวัน
- ให้น้ำวันละ 3 รอบ เช้าบ่ายเย็น หรือ 4 รอบช่วงอากาศร้อนจัดๆ
- น้ำรดให้ผักชีต้องปรับเป็นฝอยละเอียด ถ้าเม็ดน้ำใหญ่จะทำให้ก้านใบผักชีลู่เอนลง อาจทำให้กาบใบที่โคนก้านฉีก เป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าได้
- ผักชีไม่ถูกกับฝน เพราะเม็ดน้ำฝนจะกระแทกใบ ทำให้ใบหนักแล้วลู่เอนลง เมื่อรู้ว่าฝนจะตกควรทำแผงกันฝน

หมายเหตุ 1 :
- ผักชีไทย (ใบฝอย) ให้มีฟางแห้ง แข็ง คลุมหน้าปลง หมั่นยกฟางให้ฟูขึ้น ก้านฟางจะช่วยรองรับก้านใบผักชีไม่ให้ลู่เอนลง
- บำรุงด้วย "ขี้ค้างคาวหมักชีวภาพ" นานข้าม 1-2-3 ปี อาทิตย์ละ 1 ครั้ง จะช่วยบำรุงให้รากใหญ่

หมายเหตุ 2 :
- ฮอร์โมนธรรมชาติ ได้แก่ น้ำมะพร้าวแก่+อ่อน, น้ำคั้นไชเท้า+น้ำคั้นเมล็ดเริ่มงอก, น้ำคั้นผักคะค้า (ให้คะน้า), น้ำคั้นผักชี (ให้ผักชี)
- เทคนิคเฉพาะฮอร์โมนธรรมชาติ (1) ทำในที่มืด (2) เก็บในภาชนะทึบแสง (3) เก็บในตู้เย็น (4) ให้ตอนมืด.... เหตุผล เพราะฮอร์โมนธรรมชาติไม่สู้แสง ยูวี.
- ฮอร์โมนธรรมชาติอื่นๆ ได้แก่ น้ำเต้าหู้. น้ำมูลวัว/หมูตั้งท้องสดใหม่. น้ำล้างเขียงทำปลา. เลือดสด. น้ำนึ่งปลาทะเล. น้ำหอยเผา. น้ำคั้นผล/เมล็ดอ่อน.


ก่อนลงมือปลูกควรเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม
ลุงคิมครับผม