-
++kasetloongkim.com++ Forums-viewtopic-ธาตุหลัก 20% ในระเบิดฯ เพียงพอหรือไม่ ?
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ธาตุหลัก 20% ในระเบิดฯ เพียงพอหรือไม่ ?
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ธาตุหลัก 20% ในระเบิดฯ เพียงพอหรือไม่ ?

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
Aorrayong
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009
ตอบ: 869

ตอบตอบ: 31/07/2010 8:48 pm    ชื่อกระทู้: ธาตุหลัก 20% ในระเบิดฯ เพียงพอหรือไม่ ? ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ลุงคิมคะ

เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า ธาตุหลักที่เราใส่ลงไปในระเบิดเถิดเิทิง 20% จะเพียงพอกับความต้องการของพืชหรือไม่ ?
เพราะพืชที่เราปลูกอายุและขนาดของต้นที่แตกต่างกัน แต่เราใช้ระเบิดฯ ในอัตราส่วนที่เท่ากัน

ด้วยเหตุนี้ จึงคิดว่าถ้าต้นไม้ที่เราปลูกมีขนาดใหญ่ ต้นอายุมาก เราน่าจะเพิ่มความเข้มข้นของระเบิดฯ หรือว่าเราจะเพิ่มธาตุหลักดีคะ ?
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 01/08/2010 7:51 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เกริ่น :

.... ในธรรมชาติไม่มีสูตรสำเร็จ และไม่มีตัวเลข การค้นหาตัวเลขในพืชสามารถทำได้ในห้อง LAB เท่านั้น
.... ต้นไม้คือสิ่งมีชีวิต มีวงจรชีวิต และพัฒนาการ เฉกเช่นมนุษย์ และสัตว์ ที่ต้องมีปัจจัยเพื่อการดำรงชีวิต
.... การให้ผลผลิตแบบ ทุกปี-ปีเว้นปี-ปีเว้นสองปี หรือ ปีก่อนดก-ปีนี้ไม่ดก ล้วนมาจากปัจจัยพื้นฐานเดียวกันทั้งสิ้น
.... การให้ผลผลิตของต้นไม้ผลมาจากความ "สมบูรณ์สะสม" ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันแรกของปีการผลิต
.... มาตรการตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นในทุกระยะพัฒนาการ ทำได้โดยการ "วิเคราะห์ และ สังเกตุ" สรีระของพืชด้วยสายตา
.... ก่อนการชี้ขาดใดๆว่า "ถูก/ผิด หรือ ใช่/ไม่ใช่" จำเป็นต้องมีหลักวิชาการรองรับ
.... พึงระลึกอยู่เสมอว่า ต้นพืชไม่มีคันเร่งเหมือนรถยนต์ การบำรุงแบบต่อเนื่องสม่ำเสมอ ย่อมได้ผลดีกว่าการบำรุงแบบเร่งด่วน
.... การเพาะปลูกพืชวันนี้ "วิชาการ คู่ ประสบการณ์" เท่านั้น จึงจะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้
.... ฯ ล ฯ




แนวทางวิเคราะห์ปัญหา :

ข้อมูลจากงานวิจัย :
1. งานวิจัยระบุว่า ไม้ผลยืนต้นมีความต้องการปริมาณธาตุหลักตามเกณฑ์ โดยอายุ 1 ปี ต้องการธาตุหลัก 1 กก./ต้น/ปี เช่น ไม้ผลต้นหนึ่งอายุต้นตั้งเริ่มปลูกถึงปัจจุบัน 5 ปี ต้องการธาตุหลัก 5 กก./ต้น/ปี หรือถ้าไม้ผลอายุต้น 20 ปี ย่อมต้องการธาตุหลัก 20 กก./ต้น/ปี นั่นเอง

2. งานวิจัยเรื่องความต้องการธาตุหลักในมะม่วง อายุต้น 3 ปี เป้าหมายให้ได้รับธาตุหลักรวม 3 กก./ต้น/ปี โดยแบ่งเป็นโซน แล้วให้ธาตุหลักดังนี้
โซนที่ 1 ............................... ให้ธาตุหลัก 1/2 กก./ต้น/3 เดือน.
โซนที่ 2 ............................... ให้ธาตุหลัก 1 กก./ต้น/6 เดือน
โซนที่ 3 ............................... ให้ธาตุหลัก 3 กก./ต้น/9 เดือน
โซนที่ 4 ............................... ให้ธาตุหลัก 3 กก./ต้น/1 ปี
ผลการทดลองพบว่า โซนที่ 1 มีอัตราการเจริญเติบโตดีที่สุด ในทุกๆ ขั้นตอน
นี่คือคำตอบ............................ ให้น้อยบ่อยครั้ง สม่ำเสมอ ตรงเวลา ดีที่สุด

3. ในงานวิจัยระบุว่า ไม้ผลยืนต้นในแปลงที่สภาพดินสมบูรณ์ 50-75 % เมื่อให้ธาตุหลักลงไป ไม้ผลต้นนั้นสามารถนำไปใช้ได้เพียง 4 ส่วน ใน 10 ส่วนเท่านั้น จำนวน 6 ส่วนที่เหลือจะตกค้างอยู่ในเนื้อดิน

4. จากเอกสารตำรา ว่าด้วยการตอบสนองของต้นพืชจากสารอาหารที่ได้รับ เปรียบเทียบระหว่างการให้ทางใบกับการให้ทางราก ระบุว่า ต้นสามารถรับสารอาหารจากการให้รากได้ 7-9 ใน 10 ส่วน แล้วรับสารอาหารจากการให้ใบได้ 2-3 ใน 10 ส่วน เท่านั้น ส่วนการตอบสนองของพืชหลังจากได้รับสารอาหาร เปรียบเทียบระหว่างการให้ทางรากกับการให้ทางใบ ระบุว่า สารอาหารที่ได้รับจากทางรากต้นพืชตอบสนองได้เร็วเพียง 2-3 ใน 10 ส่วน ขณะที่สารอาหารที่ได้รับจากทางใบ ต้นพืชตอบสนองได้เร็ว 7-9 ใน 10 ส่วน

ข้อมูลจากประสบการณ์ตรง :
1. แปลงผักสวนครัวประเภทผักกินใบ ให้ “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 250 ซีซี.+ ธาตุหลักอัตรา 400 กรัม” ต่อเนื้อที่ 1 ไร่ ทุก 7 วัน ในรอบ 1 เดือน ให้ 4 ครั้ง ถึงเก็บเกี่ยวพอดี พบว่าผักมีอัตราการเจริญเติบโตไม่ต่างหรืออาจจะเหนือกว่าแปลงที่ใส่ธาตุหลัก 20 กก./ไร่
สังเกตุ : ให้ธาตุหลักเพียง 1.6 กก./ไร่/รุ่นการผลิต

2. แปลงนาข้าวช่วงทำเทือก ให้ “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 5 ล. + ธาตุหลัก 5 กก” รอบแรก และให้ “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 2 ล. + 5 กก.” เป็นการให้รอบที่สอง นอกนั้นเป็นการให้ทางใบทุก 7 วัน สังเกตุ : ให้ธาตุหลักเพียง 10 กก./ไร่/รุ่นการผลิต

3. มะนาว ให้ทางรากด้วย “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 30-30-30” อัตรา 250 ซีซี./น้ำ 100 ล./10 ต้น/เดือน ควบคู่กับให้ทางใบด้วย “โฮโมนไข่ 200 ซีซี./น้ำ 100 ล./ไร่” 2 ครั้ง สลับด้วย “0-42-56 (2 กก./น้ำ 100 ล./ไร่” 1 ครั้ง พบว่ามะนาวออกดอกติดผลตลอดทั้งปี ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันเป็นที่ 5 สภาพต้นมองภายนอกแล้วค่อนข้างโทรมแต่ต้นไม่ตาย นอกจากนี้ยังทยอยออกดอกติดผลดกมากไม่เคยขาด
สังเกตุ : ไม่ได้ใส่ปุ๋ยทางราก

4. มะม่วงบังคับให้ออกนอกฤดูด้วยพาโคลบิวทาโซล. แล้วบำรุงทางรากด้วย “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (สูตรตามระยะ)” เดือนละ 1 ครั้ง และบำรุงผลเมื่อติดเป็นผลแล้วด้วย “ฮอร์โมนไข่” ทุก 7-10 วัน จนถึงวันเก็บเกี่ยว มะม่วงสวนนี้บังคับด้วยการราดสารพาโคลบิวทาโซล แบบรุ่นเว้นรุ่น ทำมาแล้วปัจจุบันเป็นปีที่ 4 ซึ่งทุกครั้งที่ลงมือเปิดตาดอกด้วยฮอร์โมนไข่ ทั้งรุ่นที่ราดสารฯ และรุ่นที่ไม่ได้ราดสารฯ ต่างก็ออกดอกแล้วติดผลเป็นปกติ กับทั้งสภาพต้นไม่โทรม
สังเกตุ : ไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมีทางราก, การให้ฮอร์โมนไข่ทำให้ได้ผลขนาดใหญ่ขึ้นเพราะไคโตซาน. อะมิโนโปรตีน. ในไข่ขาว (ข้อมูล : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ช่วยบำรุงขยายขนาดผล



ปัญหาและการแก้ปัญหา :

1. ปุ๋ยทางใบ “ยูเรก้า – ไบโออิ – ฮอร์โมนไข่ และน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง” มีปริมาณเนื้อปุ๋ยธาตุหลัก 20 % แบบ Weight by Volum (W/V) นั้นถือว่าพอเพียง หรือตามเกณฑ์มาตรฐานสากล หรืออาจสูงกว่ามาตรฐานของปุ๋ยบางยี่ห้อตามท้องตลาดด้วยซ้ำ
แนวทางแก้ปัญหา :
….. กรณีน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง เพิ่มปริมาณการให้ได้ 2 วิธี คือ ...... วิธีที่ 1 ใส่เพิ่ม 30-10-10 (1-2%) แล้วให้ 1 ครั้ง/เดือน เหมือนเดิม.......วิธีที่ 2 ไม่เพิ่ม 30-10-10 แต่ปรับการให้เป็น 2 ครั้ง/เดือน หรือ 3 ครั้ง/3 เดือน
..... กรณีใช้ไบโออิ. ในการเรียกอ่อนกับไม้ผลทั่วไป ถ้าใบอ่อนแตกใหม่ช้า ให้ใส่เพิ่ม ยูเรีย จี.เกรด อัตรา 1-2% แต่ถ้าเป็นมังคุดให้ใส่เพิ่มไธโอยูเรีย 1-2%
..... กรณีใช้ไบโออิ.แล้วใบเขียวเข้มน้อยกว่าปกติ ให้ใส่เพิ่มแม็กเนเซียม. 1-2%
..... เมื่อใบอ่อนเริ่มแผ่กาง การให้แคลเซียม โบรอน. สามารถเพิ่มคุณภาพของใบได้
หมายเหตุ :
- อัตราส่วนผสมที่ใส่ไว้ให้แล้วนั้น เป็นอัตราส่วนผสมสำหรับไม้ทั่วๆไป (เรียกว่า “กลางๆ”) แต่เนื่องจากไม้แต่ละต้น หรือแต่ละสวนมีการเจริญเติบโตอยู่บนปัจจัยพื้นฐานที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ผู้ดูและต้องสังเกตุแล้ววิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริงให้ได้
- จุดสังเกตการณ์เจริญเติบโตหรือตอบสนองต่อการบำรุงแต่ละระยะของพืช ได้แก่ ใบ. ก้าน. กิ่ง. ลำต้น. ราก. และทรงพุ่ม
- การเร่งให้พืชเจริญเติบโตเร็วๆ มิใช่การเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อปุ๋ย แต่ให้ใช้วิธีการให้แบบ “ถี่ขึ้น” โดยที่เนื้อปุ๋ยยังคงเท่าเดิมต่อแต่ละช่วงเวลาการให้

2. ประวัติการใช้ปุ๋ยทางราก วิเคราะห์จากการให้ปุ๋ยทางรากของสวนนี้แล้วนับย้อนหลังไป 2-3 ปี ถือว่ามีการใส่ปุ๋ยในอัตราน้อย –ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับอายุต้นและผลผลิตที่ได้รับ กอร์ปกับปุ๋ยทางรากที่เคยให้นั้นเป็นสูตรที่ไม่ตรงกับระยะพัฒนาการของพืชอย่างแท้จริง
แนวทางแก้ปัญหา
...... คงให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (สูตรตามระยะพืช) ต่อไป ต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
...... รักษาระดับความชื้นหน้าดินโคนต้น หน้าฝนอาจนำเศษพืชคลุมหน้าดินออก หน้าแล้งให้นำเข้าคลุม

3. ประวัติการบำรุงดิน ดินสวนนี้ค่อนข้างขาดสารปรับปรุงบำรุงดิน เช่น ยิบซั่ม. กระดูกป่น. เนื่องจากไม่ได้ใส่ คงได้รับเฉพาะปุ๋ยคอก และเศษซากวัชพืชที่ตัดแล้วปล่อยคลุมหน้าดินเท่านั้น
แนวทางแก้ปัญหา
......ส่วนผสมต่างๆ ในปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ใส่ให้แล้ว ใส่เพิ่มได้ตามออร์เดอร์

4. ประวัติการทำลายดินโดยการกระทำของคน เช่น ยาฆ่าหญ้า. สารเคมีกำจัดโรคในดิน. ไม่มีเลย
แนวทางแก้ปัญหา
......ไม่ต้องทำอะไร

5. จากงานวิจัยที่ระบุว่า ไม้ผลอายุต้น 1 ปี ต้องการธาตุหลัก 1 กก.นั้น กรณีมังคุด 100 ปี ของสวนคุณอ้อระยอง มิต้องการธาตุหลัก 100 กก. (2 กระสอบ) /ต้น/ปี หรอกรึ ?


แล้วสวนอื่นล่ะ ทำยังไง ส่งคำถาม/ความเห็นมาหน่อยก็ดีนะ
ลุงคิมครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©