ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป |
ผู้ส่ง |
ข้อความ |
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 14/07/2010 12:34 pm ชื่อกระทู้: หม้อปุ๋ยตราสิงห์ ที่ KK .... |
|
|
หม้อปุ๋ยตราสิงห์ :
ของเดิมเป็นขวดน้ำปลา (ตราคนแบกกุ้ง-คนแบกเป็นกระเทย) ขนาดขวด 2.5 นิ้ว ตัดหัวตัดท้าย
ตัวใหม่นี้ใช้ขวดโซดาตราสิงห์ (ยกขาหลัง) ขนาดขวด 2 นิ้ว ตัดหัวตัดท้ายเหมือนกัน ในอนาคตกำลัง
มองขวดสปอนเซอร์ ขนาดขวด 1.5 นิ้ว หรือหากมีขวดขนาด 1 นิ้ว ก็คงจะดูกระทัดรัดขึ้นอีก อันนั้น
เหมาะสำหรับ 1 หม้อปุ๋ย/1 ต้น .............................. ไอเดียร์ : สวนไพบูลย์ระยองดอทคอม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Aorrayong เมื่อ 20/07/2010 9:09 pm, แก้ไขทั้งหมด 2 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ott_club หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009 ตอบ: 718
|
ตอบ: 15/07/2010 2:29 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ในภาพมันสถานที่ไหนกัน ผมว่ามันไม่ใช่ไร่กล้อมแกล้มนะ
สวนพี่อ้อหรือก็ไม่ค่อยคุ้น
อยากรู้ว่าในภาพคือสวนไหนครับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 15/07/2010 2:59 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
แปลงชมพู่ - กระท้อน - มะยงชิด ..... ติดขอบบ่อ ข้างค้างอุโมง หน้าเรือนปั๊ม ..... ไงล่ะ
แปลงนี้มี ตะขบบ้าน. มะเหมี่ยว. ท้อสีทองปราจีน. พุทราจัมโบ้. อย่างละต้นด้วยนะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
nokkhuntong สาวดาม
เข้าร่วมเมื่อ: 26/02/2010 ตอบ: 256
|
ตอบ: 15/07/2010 4:05 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
สวัสดีค่ะ ลุงคิมและเพื่อนๆ
นี่ขนาดลุงคิมบอกไม่ค่อยได้เดินเข้าไปในไร่ ยังจำได้ขนาดนี้...และจำได้ว่ามีต้นอะไรบ้าง
.....ความจำดีแต่ขี้ลืม..... เป็นจั้งซี้นี่เอง
ลุงค่ะ ต้นมะกอก ที่ปลูกหน้าศาลากลางน้ำ ที่ไร่กล้อมแกล้ม พันธุ์อะไรค่ะ ใช่ที่เขากินจิ้มพริกกะเกลือไหมค่ะ วันนี้หาชื่อพันธุ์ มีทั้งมะกอกสีนวล มะกอกฝรั่ง มะกอกเกษตร มะกอกน้ำ(อันนี้เอาไว้ดอง) ไม่แน่ใจ มีลุงคิมอยู่ ถามลุงดีกว่า เพราะถ้าซื้อผิดกว่าจะรู้..ก็โน่น (เสาร์นี้หาต้นไม้ไปปลูกเพิ่มที่ไร่ค่ะ)
ปลูกตะขบบ้าน...ไว้เรียกนกได้ใช่ไหมค่ะ (เอามากินหนอนซะเลย)
นกขุนทอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 15/07/2010 5:14 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ที่ถูกต้อง "หัวดีแต่ขี้ลืม" ไม่ใช่ "ความจำดีแต่ขี้ลืม" ....
ตะขบนี่ก็ขี้ลืมอีก ที่ถูกต้อง "ตะขบป่า" ครับ ตะขบป่าตัวนี้นกไม่กิน (อืมม์.....ลุงคิมว่ากินนะ เพราะธรรมชาติของนกต้องกินผลไม้) คนก็ไม่กินเพราะไม่ได้เดินไปดูว่ามีผลสุกหรือไม่
ที่ไร่กล้อมแกล้ม ผลไม้ที่นกชอบกินก็เห็นจะมี ผักหวานบ้าน. พริกกะเหรี่ยง. เพราะเห็นมีต้นเกิดเองทั่วสวนไปหมด นั่นละ ฝีมือ (ปาก) นก กับมะม่วง. แก้วมังกร. น้อยหน่า. พวกนี้เห็นลอยถูกเจาะ ไส้ในกลวงโบ๋เลย
ส่วนมะกอก.นั่น คนที่เอามาให้บอกว่า "มะกอกเตี้ย" หมายถึงมะกอกฝรั่ง ขนาดผลโตเท่าที่เห็น แต่มะกอกที่ขายตามซาเล้งนั่นผลใหญ่กว่า เรียกว่า "มะกอกฝรั่ง" ต้นสูงขนาดหลังคาบ้าน2 ชั้น มีผลอยู่ปลายกิ่งโน่น จะกินทีลำบากมาก ก็ว่ากันไป
มะกอกฝรั่งเตี้ย.ขอลุงลุงคิมปลูกไว้ดูเล่นมากกว่า รกต้นไม้ดีกว่ารกคน ประมาณนั้น ปลูกไว้ใครอยากกินก็ไปเก็บเอา ปรากฏว่า พ่อเล่นเก็บซะเกลี้ยง ไม่เหลือไว้ให้คนข้างหลังกินบ้างเลย
ก็ดีนะ ปลูกริมทางเดิน เป็นได้ทั้งไม้ประดับไม้กินผล ปลูก 3 เดือนก็เห็นผลแล้ว
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 20/07/2010 9:09 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เนื้อปุ๋ยจากหม้อปุ๋ยหน้าโซน.....
ข้อกังขาที่ 1.... น้ำจากปั๊ม กับ ปุ๋ยจากหม้อ ผสมกันในท่อได้ จริงหรือ ?
ข้อกังขาที่ 2.... ไปถึงไม้ทุกต้นได้ จริงหรือ ?
ข้อกังขาที่ 3.... ไปถึงไม้ทุกต้นด้วยปริมาณเท่ากันทุกต้น หรือไม่ ?
ข้อกังขาที่ 4.... ขณะวิ่งไปตามท่อสู่ไม้แต่ละต้น สม่ำเสมอตลอดเส้นทาง หรือไม่ ?
ข้อกังขาที่ 5.... ค่า pH น้ำ+ปุ๋ย เมื่อออกจากหัวสปริงเกอร์ เท่าไหร่ ?
ข้อกังขาที่ 6....
ข้อกังขาที่ 7.... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 28/07/2010 9:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อกังขาที่ 1.... น้ำจากปั๊ม กับ ปุ๋ยจากหม้อ เข้าผสมกันในท่อได้ จริงหรือ ?
ตอบ :
หลักการและเหตุผล ...... น้ำเปล่ามาจากปั๊มถึงวาวล์หน้าโซนด้วยท่อขนาด 2 นิ้ว
น้ำเปล่านี้ส่วนหนึ่งถูกแบ่งให้เข้าไปในหม้อปุ๋ยด้วยท่อขนาด 4 หุน เมื่อน้ำเปล่าเข้า
ไปในหม้อปุ๋ยแล้ว ถูกแบ่งออกมาจากหม้อด้วยท่อขนาด 2 หุน เพื่อไปผสมมกับ
น้ำเปล่าในท่อ 2 นิ้ว ผสมกันแล้วจึงไปตามท่อสู่หัวสปริงเกอร์
เพื่อการพิสูจน์ทราบว่า "น้ำเปล่า+เนื้อปุ๋ย" แล้วไปตามท่อส่งยังหัวสปริงเกอร์ได้นั้น
ทำได้โดยดัดแปลงท่อส่ง พีวีซี ทึบแสงให้เป็นโปร่งแสงโดยการตัดท่อ พีวีซี ออกส่วน
หนึ่งแล้วแล้วใส่ท่อแก้วใส (ขวดโซดา ขนาด 2 นิ้ว) แทน
ที่ท่อแก้วใสนี้สามารถมองเห็น "น้ำเปล่า (สีขาว)+น้ำปุ๋ย (สีดำ)" เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ
หรือมีความเข้มราว 10 % ของน้ำปุ๋ยเพียวๆ ชัดเจนมาก
ลักษณะนี้แสดงว่า ระหว่าง "น้ำเปล่าจากปั๊ม" กับ "เนื้อปุ๋ยจากหม้อ" ผสมเข้าเป็น
เนื้อเดียวกันในท่อส่งได้เนียนๆ เลยนั่นเอง
บรรยายภาพ :
ภาพบน : ขวดแก้วใสตรวจสอบฯ อยู่ด้านหน้าหม้อปุ๋ย
ภาพล่าง : ขวดแก้วใสตรวจสอบฯ อยู่ข้างหม้อปุ๋ย
สังเกตุ : เนื้อปุ๋ยเพียวๆ จากหม้อปุ๋ยใกล้หมดแล้ว แต่ "น้ำ+ปุ๋ย" ที่ท้อแก้วตรวจสอบฯ
ยังคงสีเดิม เหมือนเมื่อเริ่มปล่อยปุ๋ยตอนแรกๆ
CLOSE UP ให้เห็นสีที่ "น้ำเปล่า" ผสมกับ "เนื้อปุ๋ย" เรียบร้อยแล้ว จากท่อแก้วตรวจ
สอบฯ หน้าหม้อปุ๋ย สังเกตุสีของน้ำจะเรียบเสมอกันตลอดเวลาที่เดินปั๊ม กระทั่งเนื้อปุ๋ยใน
หม้อหมดเกลี้ยง น้ำใสแจ๋วเป็นปกติ สีน้ำในท่อแก้วตรวจสอบฯ ก็จะมีสีใสแจ๋วไปด้วย
CLOSE UP ให้เห็นสีที่ "น้ำเปล่า" ผสมกับ "เนื้อปุ๋ย" เรียบร้อยแล้ว จากท่อแก้วตรวจ
สอบฯ ข้างหม้อปุ๋ย สังเกตุสีของน้ำจะเรียบเสมอกันตลอดเวลาที่เดินปั๊ม กระทั่งเนื้อปุ๋ยใน
หม้อหมดเกลี้ยง น้ำใสแจ๋วเป็นปกติ สีน้ำในท่อแก้วตรวจสอบฯ ก็จะมีสีใสแจ๋วไปด้วย
ท่อแก้วใสกับท่อ พีวีซี ที่วิ่งไปตามพื้นราบโคนต้น ควรใส่ท่อแก้ว ณ จุดสงสัย
การมาของ "น้ำเปล่า+ปุ๋ยจากหม้อ" ว่า มีหรือมาจริงหรือไม่ การติดตั้ง
มากกว่า 1 จุด ย่อมหมายถึงความมั่นใจ
สังเกตุ : กระบอกแก้วซ้ายมือ คือ หม้อปุ๋ย ส่วนกระบอกแก้วขวามือ คือ ท่อ
แก้วตรวจสอบฯ .... สีของเนื้อปุ๋ยในหม้อปุ๋ยเข้มข้น แต่สีของ น้ำ+ปุ๋ย กับเจือ
จาง คิดความเข้มข้นได้ราว 10 % ของความเข้มข้นเดิมของเนื้อปุ๋ย.......ว่ามั้ย
ท่อแก้วใสกับท่อ พีวีซี ที่วิ่งไปตามพื้นราบโคนต้น ควรใส่ท่อแก้ว ณ จุดสงสัย
การมาของ "น้ำเปล่า+ปุ๋ยจากหม้อ" ว่า มีหรือมาจริงหรือไม่ การติดตั้ง
มากกว่า 1 จุด ย่อมหมายถึงความมั่นใจ
สังเกตุ : สีของ "น้ำ+ปุ๋ย" เข้มข้นราว 25% ของสีเดิมของเนื้อปุ๋ย นี่เป็นการให้ปุ๋ย
ทางราก ซึ่งควรต้องเข้มข้นกว่าปุ๋ยทางใบเล็กน้อย
ข้อกังขาที่ 2.... ไปถึงไม้ทุกต้นได้ จริงหรือ ?
ข้อกังขาที่ 3.... ไปถึงไม้ทุกต้นด้วยปริมาณเท่ากันทุกต้น หรือไม่ ?
ข้อกังขาที่ 4.... ขณะวิ่งไปตามท่อสู่ไม้แต่ละต้น สม่ำเสมอตลอดเส้นทาง หรือไม่ ?
ตอบ :
ตรวจสอบจาก "สี" ของ "น้ำ+ปุ๋ย" ที่ท่อแก้วบนพื้นราบทุกจุด พบว่ามีสีเดียวกันสม่ำเสมอ
ตลอดระยะเวลาที่น้ำไหลไป สีไม่เข้มสลับจาง หรือมีอาการวูบวาบๆ สิ่งนี้บ่งบอกถึงปริมาณ
ความเข้มข้นของ "น้ำ+ปุ๋ย" ที่ออกทางหัวสปริงเกอร์ ณ จุดใกล้เคียงนั่นเอง
ข้อกังขาที่ 5.... ค่า pH น้ำ+ปุ๋ย เมื่อออกจากหัวสปริงเกอร์ เท่าไหร่ ?
ตอบ :
วิธีที่ 1 ปรับค่า Ph ในถังก่อนใช้งาน....... นำน้ำจากแหล่งที่จะใช้ผสมปุ๋ยทางใบมา 1
ลิตร. วัดค่า pH ได้ 7.5 (สมมุติ) เติมปุ๋ยทางใบที่ต้องการใช้ลงไป 1 ซีซี. (อัตรา 20
ซีซี./น้ำ 20 ล.) คนให้เข้ากันดีแล้ววัดค่า pH
ถ้าได้ค่า pH 5.5-6.5 ถือว่า O.K.
ถ้าได้ค่า pH มากกว่า 6.5 ให้เติมน้ำส้มสายชูที่น้ำหรือปุ๋ยทางใบที่จะใช้
ถ้าได้ค่า pH ต่ำกว่า 6.5 ถือว่า O.K. และ
ถ้าได้ค่า pH 6.0 ถือว่าเหมาะสมที่สุด
วิธีที่ 2 ปรับค่า pH ในท่อสปริงเกอร์....... โดยวัค่า pH ของปุ๋ยทางใบที่จะใช้ แล้วปรับ
ค่า pH ให้ได้ 3.5-4.5 ก่อน จากนั้นจึงใส่ลงไปในหม้อปุ๋ย ....... ด้วยค่า Ph ที่ต่ำถึงต่ำ
มากของปุ๋ยทางใบนี้เป็นตัวช่วยปรับค่า pH ของน้ำเปล่าจากปั๊มให้เองโดยอัตโนมัติ
หลังจากปล่อยปุ๋ยจากหม้อปุ๋ยออกไปแล้ว สามารถตรวจสอบค่า pH ได้ โดยนำ "น้ำ+ปุ๋ย"
ที่หัวสปริงเกอร์มาวัดค่า pH ก็จะรู้ว่า ค่า pH ของปุ๋ยทางใบไปถึงต้นไม้นั้นเหมาะสมหรือไม่
ประสบการณ์ตรง :
ครั้งหนึ่งที่ไร่กล้อมแกล้ม คราวสาธิตให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เห็น ..... นำน้ำมา 10 ล.
(วัดค่า pH ได้ 7.5 ) แล้วเติมปุ๋ยทางใบ (ทำเอง....ยูเรก้า. ไบโออิ. ฮม.ไข่. อเมริกา
โน. ระเบิดเถิดเทิง) แต่ละสูตรลงไป 10% คนเคล้าให้เข้ากันดีแล้ววัดค่า pH อีกครั้ง
พบว่าได้ค่า pH 6.0 ทั้งๆที่ไม่ได้ปรับค่า pH น้ำก่อน แต่อย่างใด การที่ "ปุ๋ย+น้ำ"
แล้วได้ค่า Ph พอดีสำหรับต้นไม้ได้เพราะ ปุ๋ยทางใบ (ทำเอง) ทุกสูตรมีค่า pH 3.5-4.0
อยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ตอนทำนั่นเอง
นี่คือบทพิสูจน์ว่า "ค่า pH ต่ำของปุ๋ยทางใบ" สามารถปรับค่า pH ของน้ำเปล่าจนกระทั่ง
ได้ค่า pH ที่เหมาะสมต่อพืชได้ นั่นเอง.......
ปัจฉิมลิขิต :
ขอเรียนว่า นี่คือ "นวตกรรม หรือ สิ่งประดิษฐ์ใหม่" ที่สามารถจดทะเบียนลิขสิทธิ์ได้ ทั้งสิ้นทั้งปวง ทุกขั้นตอน ออกมาจากสมองของ A MAN CALLED KIM ZA GASS โดยแท้ ...... ถ้าคิดว่า SPRINGLE คือความสิ้นเปลืองก็จงกลับไปลากสายยาง สะพายเป้ เดินฉีดทางใบ/ทางรากเอาทีละต้นๆ ๆๆ เถิด
SPRINGLE ระบบกะเหรี่ยงที่ไร่กล้อมแกล้ม ต้นทุนไร่ละ 5,000 บาท (ไม่รวมปั๊ม) แต่ SPRINGLE ระบบอิสราเอล (MADE IN THAILAND-มาบตาพุด/ระยอง) ต้นทุนไร่ละ 100,000 .....
หม้อปุ๋ยหน้าโซนซื้อจากบริษัท (MADE IN THAILAND-พระปะแดง) อันละ 3,500-5,000 แต่หม้อปุ๋ยกะเหรี่ยง อันละ 750 บาท (วาวล์ 2 นิ้ว = 600 บาท....)
ไม้ผล 50 ต้น ลากสายยางฉีดพ่นทีละต้นๆ ละ 10 นาที เท่ากับใช้เวลา 500 นาที แต่สปริงเกอร์ใช้เวลาเพียง 10 นาที สำหรับต้นไม้ 50 ต้น.....ทั้งลากสายยาง ทั้งสปริงเกอร์ใช้ปั๊มไฟฟ้าเหมือนกัน.....วิเคราะห์ : ค่าไฟฟ้า 500 นาที กับ 10 นาที ต่างกันเท่าไหร่ สำหรับ 1 รอบการทำงาน ใน 1 ปี ต้องทำงานนับ 100 รอบ แล้วใน 10 ปีล่ะ จะเป็นเงินเท่าไหร่ ?
ระบบกะเหรี่ยง เอาแบบไปใช้ได้ในทุกสวนไหม ? คำตอบคือ 50/50 - ได้/ไม่ได้ เพราะสวนใครก็สวนใคร ....... COPY ไม่ได้ แต่ APPLY ได้
ป่วยการและเสียเวลาเปล่า (เสียอารมย์ด้วย) ที่ใครบางคนจ้องเอาแต่ "ติ-ตำหนิว่าสิ้นเปลือง" แนวคิดสร้างสรรค์ คือ "ต่อยอด" แล้วแนะนำให้เกษตรกร "ทำ-ใช้" คงดีกว่า........ว่ามั้ย
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 28/07/2010 9:32 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ของแถม....ไม่เกี่ยวกับกระทู้หม้อปุ๋ย ตามประสาคนตาไว ขับรถผ่านเห็นชั่ว
แว้บบบบเดียว (NANO SECOND) เรียกว่าเร็วกว่าแมลงหวี่กระพือปิก ไปเก็บภาพ
มาทายชิงรางวัลกันเล่นๆ ได้แล้ว
กล้วยอะไรเนี่ยยยยย ใครรู้ตอบมา ตอบถูกมีรางวัล.....
ต้นอะไร หรือไม้อะไร หรือใบอะไร....เรียกยังไงก็ได้
ใครรู้ตอบมา ตอบถูกมีรางวัล...... |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 28/07/2010 10:40 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
Aorrayong บันทึก: |
กล้วยอะไรเนี่ยยยยย ใครรู้ตอบมา ตอบถูกมีรางวัล.....
|
ที่มา http://gotoknow.org/blog/kitikantkpp/316215
มารู้จักกล้วยนวลกันเถอะ
กล้วยนวลเป็นกล้วยที่แปลกไม่มีหน่อ
ห่างหายไปนานเนื่องจากภารกิจในหน้าที่ ทั้งงานราษฎรและงานหลวง กลับมาวันนี้ก็
ไม่มีเรื่องพิเศษอะไรมาเล่าหรอกค่ะ เพราะเรื่องที่เล่านี้ หลายท่านก็คงเคยพบเห็นกันมา
แล้ว แต่ตัวผู้เขียนยังไม่เคย
ดิฉันได้ ออกท้องที่ไปเก็บข้อมูลประเมินผลการเพิ่มผลผลิตข้าว ที่หมู่6 ตำบลมหาชัย
อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชรได้ไปพบกล้วยขึ้นอยู่เดี่ยวๆ ไม่มีหน่อขึ้นรอบต้นเลย
และที่เครือกล้วยมีใบประดับเป็นกาบบางๆ สีเขียวเป็นชั้นๆ
ก็ลองสอบถามเกษตรกรดู เขาบอกว่าชื่อ "กล้วยนวล" เอาเมล็ดจากอีสานมาปลูกในหมู่
บ้านมีกันแทบทุกบ้าน และบอกว่านอกจากไม่มีหน่อแล้ว ยังเป็นกล้วยจะต้องปล่อยให้สุก
คาต้น ห้ามตัดลงมา กล้วยจะสุกไล่ลงมา ลูกไหนสุกก็เด็ดลงมากิน ต้องปล่อยให้สุกจนเปลือก
ออกสีดำจึงจะหวาน เมื่อกินเสร็จก็นำเมล็ดมาหว่านไว้ แล้วต้นก็จะขึ้นมาใหม่ วัฏจักรตั้งแต่
ปลูกถึงเก็บกินได้ประมาณ 1 ปี เกษตรกรบางคนก็บอกว่า ผลดิบนำมาแกงกินก็อร่อย
พอดียังไม่ได้ลองทั้งกล้วยสุกและแกงกล้วยดิบ ก็เลยยังบอกรสชาติไม่ได้ พอดีหัน
ไปเจอต้นกล้วยเล็กอยู่แถวนั้น ก็เลยขอขุดมาปลูกไว้ที่บ้าน ถ้าได้ชิมรสชาติแล้วจะแจ้ง
ผลนะค่ะ
ถ้ารางวัลเป็นกล้วยเครือนี้ล่ะก้อ....ขอสละสิทธิค่ะ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 29/07/2010 7:23 am ชื่อกระทู้: |
|
|
ยืนยันแน่นะว่าสละสิทธิ์รางวัล..... ถ้างั้นก็ยกให้ "อั้ยญู้ดดดด..." ซะก็แล้วกัน
แล้วอีกภาพนึงล่ะ....ต้นอะไร - ใบอะไร - มะอะไร.....ชื่อยังไงก็ได้น่ะ...อะไร ? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
somchai หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 21/07/2009 ตอบ: 1290
|
ตอบ: 29/07/2010 5:04 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ต้นอะไร หรือไม้อะไร หรือใบอะไร....เรียกยังไงก็ได้
ใครรู้ตอบมา ตอบถูกมีรางวัล......[/quote]
ผมเคยได้ยินลุงพูดออกรายการวิทยุ มีคนบอกว่า ต้นไม้ชนิดนี้ปลูกได้แต่ทางภาคใต้ ในหมู่บ้านที่ลุงอยู่ก็มี ระยะใบแก่จัดสีจะ
สวยมาก ออกเป็นสีทอง ส่วนใต้ใบ เหมือนกำมะหยี่เลย ครับ ย่านดาโอ๊ะ หรือ ใบไม้สีทอง นั่นเอง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย somchai เมื่อ 29/07/2010 8:09 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 29/07/2010 6:16 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ถูกต้อง คร้าบบบบ..........
รางวัล "ใบย่านดาโอ๊ะ หรือ ใบไม้สีทอง" 1 ใบ ..... ไปเด็ดเอาได้เลย หรือ....
ไปเลือกเด็ดเอาที่ไร่กล้อมแกล้มก็ได้
ความจำดีมากเลยนะ
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 05/08/2010 8:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
"ยกกำลังสอง" หม้อปุ๋ยคู่ซ้ายขวา ขนาดจุเท่ากัน ปล่อยปุ๋ย
ทีละหม้อหรือปล่อยพร้อมกันทั้งสองหม้อได้
ระบบกะเหรี่ยง "ยาวตัด - สั้นต่อ - ไม่พอซื้อ - ไม่ดี รื้อทำใหม่"
ภาพถ่ายหน้าตรง...................สวยแต่ดูไม่รู้เรื่อง (ว่ะ...)
กระบอกแก้วตรวจสอบการไหลของ น้ำเปล่า+ปุ๋ย....
เข้มข้น/เจือจาง หรือ ช้า/เร็ว.....ปัญหานี้ปรับได้
คิดได้ตอนหลับ (หลับยังคิดเรื่องงาน = ขยันมาก) ตัวใหม่นี้
ลดต้นทุนได้ 7 บาท ช่วยให้มุมมองเห็นอาการไหวเวียนของ
น้ำเปล่า+ปุ๋ย ในหม้อได้กว้างและชัดเจนมากขึ้น
ระบบกะเหรี่ยงล้างตัวเองได้.....โดย ถอดหัวสปริงเกอร์ หรือถอดท่อ 4 หุนที่พุ่งขึ้นต้นออก หัวไหนหรือท่อไหนก็ได้
ภายในเขตโซนเดียวกัน น้ำในท่อของทั้งโซนจะมาออกที่จุดนี้จุดเดียว
ภาพซ้าย : น้ำที่ออกมาครั้งแรกสีดำปิ๊ดปี๋ นั่นคือตะกอนโคลนที่สะสมมานาน ภาพที่เห็นความดำของน้ำโคลนลดลง
ครึ่งหนึ่งแล้ว
ภาพขวา : ตะกอนโคลนออกหมดแล้ว สีน้ำจะใสปกติ ก็ใส่หัวสปริงเกอร์หรือสวมท่อตั้งเข้าอย่างเดิม
บน-ล่าง ...... จับภาพใกล้ๆ ให้เห็นกันชัดๆ
วาวล์แบบนี้ ใช้งานนานๆมักหลุด ซ่อมโดยการทากาวก็เอาไม่อยู่
เมื่อใช้น้อตเกลียวปล่อยใส่เข้าไป ไม่มีทางหลุดเอง นอกจากใช้
ไขควงงัดเท่านั้น
กล้องมุมนี้ เก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ว่ามั้ยล่ะ.....
บน-ล่าง ..... เปรียบเทียบแบบหม้อเดี่ยวกับหม้อคู่
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ott_club หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009 ตอบ: 718
|
ตอบ: 05/08/2010 9:46 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ยอม ยอม คิดได้ไงครับลุง มันสุดยอดดด..จริงๆ เลยครับ
สะอาดเจริญเจริญ(สวยมากๆ) _________________ อ๊อด ระยอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
somchai หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 21/07/2009 ตอบ: 1290
|
ตอบ: 05/08/2010 10:03 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
คิดมาตั้งแต่หนุ่มๆเพิ่งมาทำเอาตอนนี้มั้งอ๊อด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 05/08/2010 10:04 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
เหลืออีกอย่าง (ว่ะ) อ๊อด..... หาขวดเบียร์สิงห์ยกขาหลัง ยังไม่ได้
ยังมีอีก มองๆ ขวดเป๊บซี่ แฟนต้า หรือไม่ก็ขวดน้ำหอม
กับ ทำให้เป็นแก้วทั้ง SET จนมองเห็นข้างในปรุโปร่งไปเลย
ใจเย็น ใจเย็น....วิดสะวะก็วิดสะวะเถอะ (วะ)
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 12/08/2010 8:35 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ของเก่า REUSE ก็มักเป็นอย่างนี้ ไม่มีปัญหา ถอดออกมา
ขัดสีฉวีวรรณใหม่ ใส่ซ้ำก็ใช้ได้แล้ว
ของเก่า REUSE มักไม่ตอบสนองกับกาว ประกอบแล้วเปิดน้ำ
เป็นหลุด แก้ไขด้วยการ "ยิงรีเว็คส์" (ตัวละ 20 สต.) คราวนี้
ต่อให้ช้างฉุดก็ไม่หลุด |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Aorrayong หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 30/07/2009 ตอบ: 869
|
ตอบ: 16/08/2010 8:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ปั๊ม 2 ตัวเคียงกัน : ส่งน้ำไปทางเดียวกันโดยมีวาวล์แยกสำหรับแต่ละตัว ถ้าต้องการใช้ปั๊ม 1 ตัวๆ ไหนก็เปิดวาวล์ส่งน้ำของปั๊มตัวนั้น พร้อมกับปิดวาวล์ส่งน้ำของปั๊มตัวที่ไม่ได้ใช้
ปั๊ม 1 ตัว : ได้แรงดันน้ำสำหรับสปริงเกอร์ 40 หัว (1 โซน /40 ต้น) รัศมีพ่นน้ำแต่ละหัว 4 ม. ครอบคลุมทรงพุ่มแต่ละต้นได้พอดี ถ้าเปิด 2 โซนพร้อมกัน รัศมีพ่นน้ำแต่ละหัวลดลงเหลือ 2-3 ม.
เปิดปั๊ม 2 ตัวพร้อมกัน : ได้แรงดันน้ำเพิ่มขึ้นเท่าตัว สามารถเปิดวาวล์ครั้งละ 2 โซนพร้อมกันได้ โดยที่รัศมีพ่นน้ำแต่ละหัวสปริงเกอร์ก็ยัง 4 ม.เท่าเดิม
เปิดปั๊ม 1 ตัว ใช้เวลา 1 ชม. .... เปิดปั๊ม 2 ตัว ใช้เวลา ครึ่ง ชม...... สรุปแล้วเสียค่าไฟฟ้าเท่ากัน แต่ประหยัดเวลาได้ครึ่ง ชม.
เนื้อที่ 18 ไร่ สปริงเกอร์ใช้เวลาไฟฟ้า 1 ชม. เทียบกับการลากสายยาง (ก็ต้องใช้ปั๊มไฟฟ้า) เดินฉีดพ่นทีละต้น ใช้เวลาไฟฟ้าอย่างน้อย 10 ชม. สำหรับการทำงาน 1 รอบ ...... ลองคิดซิว่า รอบต่อรอบของการทำงาน อย่างไหนสิ้นเปลืองกว่ากัน ตลอดเดือนหรือตลอดปีต้องทำงานกี่รอบ ฉนี้แล้ว สปริงเกอร์ กับ ลากสายยาง อย่างไหนประหยัดกว่ากัน
สปริงเกอร์ทำงานได้ ณ ทุกเวลา น. เมื่อต้องการ เช่น
- ทำงานตอนเช้าตรู่ ตี.5 ล้างน้ำค้างก่อนน้ำค้างแห้ง ป้องกันกำจัดราน้ำค้าง. ราแป้ง. ราสนิม.
- ทำงานตอนเที่ยง ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ. ไรแดง. (ทำลายใบอ่อน ผลอ่อน)
- ทำงานหลังฝนตกกลางวัน (ฝนต่อแดด) ก่อนน้ำฝนแห้งป้องกันกำจัดแอนแทร็คโนส.
- ทำงานหลังค่ำ ป้องกันขับไล่แม่ผีเสื้อไม่ให้เข้าวางไข่ แล้วทำให้เกิดหนอน
- ให้สารอาหารได้ทุกประเภท/ชนิด ให้ได้ทุกเวลาเมื่ออยากให้ ให้มากหรือน้อยได้ทั้งนั้น
- ให้สารอาหารแบบ "ให้น้อย บ่อยครั้ง" = บำรุงเต็มที่ได้ผลเต็มที่ (บำรุงเต็มทีแต่จะเอาผลเต็มที่ ก็เกินไป)
- บำรุง "กดใบอ่อนสู้ฝน" ระยะสะสมตาดอกหรือปรับ C/N ช่วงหน้าฝนได้ทันการ ก่อนที่ N. จากน้ำฝนจะสะสมมากกว่า C.
- ให้น้ำผ่านใบแล้วตกลงพื้นโคนต้นเหมือนฝนตกยังไงยังงั้นไม่ผิดเลย
นอกจากประหยัดต้นทุนค่าไฟฟ้าและเวลาแล้ว ยังประหยัดแรงงานแถมประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของเนื้องานยังเหนือกว่าลากสายยางอีกด้วย
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
ott_club หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 20/07/2009 ตอบ: 718
|
ตอบ: 16/08/2010 8:53 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
น่าสนใจมากเลยครับลุง เรื่องปั้มน้ำ 2 ตัว
อยากทราบถึงขั้นตอนการเปิดนะครับ เปิดทีเดียว 2 ตัวเลย ท่อเมนรับแรงดันน้ำไหวหรือครับ ในเมื่อท่อเมน 3 นิ้ว ต้องรับแรงดันปั๊มเป็น 2 เท่า (ปั๊ม 3 นิ้ว 2 ตัว)
สงสัยน่ะครับ _________________ อ๊อด ระยอง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 16/08/2010 9:15 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ขั้นตอนการใช้งาน :
1. เปิดวาวล์ประจำโซนที่อยู่ใกล้ก่อน 1 โซน เพื่อระบายแรงดันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อท่อเมน 3 นิ้ว อย่างที่คุณว่า
2. เปิดวาวล์น้ำออกจากปั๊มไปเมน ของปั๊มทั้ง 2 ตัว
3. เปิดปั๊มพร้อมกันทั้ง 2 ตัว
4. น้ำออกที่หัวสปริงเกอร์โซนใกล้แรงมาก รัศมีพ่นน้ำ 6-7 ม. ส่วนโซนที่ 2 กับโซนที่ 3 รัศมีพ่นน้ำ 4 ม.เท่าเดิม
หมายเหตุ :
- สาเหตุที่โซนใกล้แรงมากคงเนื่องมาจากอยู่ใกล้ปั๊มมากกว่าโซนไกล
- แต่เมื่อเปิดวาวล์โซนไกลกับโซนไกล เคียงกัน แรงดันน้ำเท่ากัน
- ที่คาดแต่แรกว่า หัวสปริงเกอร์โซนใกล้อาจจะหลุดกระเด็นกระดอน กระจุยกระจาย กระเจิดกระเจิงนั้น เหตุการณ์นี้ไม่เกิด
- รูปการณ์ทั่วๆ ไป เดินปั๊ม 2 ตัว พร้อมกับปล่อยน้ำออกหกัวสปริงเกอร์ 2-3 โซน การทำงานทุกอย่างที่หัวสปริงเกอร์ = เหมือนเดิม
- กรณีท่อเมน 3 นิ้ว สอบถามแล้ว มันบอกว่า "เฉยๆ ครับ" .... เฮ่ ! เมนพูดได้
IDEA จาก ไพบูลย์ระยอง.คอม.
ลุงคิมครับผม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 17/08/2010 8:12 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
bb_2514 หนาวดึ่ง
เข้าร่วมเมื่อ: 08/03/2010 ตอบ: 5 ที่อยู่: อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
|
ตอบ: 16/08/2010 10:38 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
พี่ๆครับ
อีตอนใส่ขวดเข้าไปในท่อ PVC ต้องใส่กาวไหมครับ ?
แล้วเอาอะไรตัดขวดครับ ? |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 17/08/2010 6:58 am ชื่อกระทู้: |
|
|
bb_2514 บันทึก: | พี่ๆครับ
อีตอนใส่ขวดเข้าไปในท่อ PVC ต้องใส่กาวไหมครับ ?
แล้วเอาอะไรตัดขวดครับ ? |
ตอบประชด :
- ใส่ขวดเข้าท่อ PVC เมื่อก่อนนี้ไม่ได้ใส่กาว เดี๋ยวนี้ใส่ก็ได้ๆไม่ใส่ก็ได้ ใช้กาวตราช้าง (เป็นกระป๋อง...ไม่ใช่เป็นหลอด) เกรด 450 ดาว (ดาว 450 ดวง) กาวรุ่นนี้ไม่มีวางตลาดในประเทศ ต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น.....เนื่องจากกาวตัวนี้ปล่อยแก๊สพิษระเหยออกมารุนแรงมาก โรงงานผลิตอยู่มาบตาพุด ระยอง
- ตัดขวดด้วย "เรเซอร์" แบบที่หมอใช้ผ่าตัดคนไง ถ้าไม่มีเรเซอร์ใช้ "อินฟาเรด" แทนก็ได้ ตัดได้เส้นตรงเป๊ะยิ่งกว่าไม้บันทัดอีกแน่ะ
ตอบจริง :
บางคำถาม ไม่อยากตอบ หรือตอบแบบรายละเอียดไม่มาก เหตุผลเพราะ ต้องการให้คุณออกจากบ้าน ไปดูของจริงๆ บ้าง นอกจากคุณจะได้เห็น ได้รู้ ในสิ่งที่คุณอยากรู้ (ถาม) แล้ว คุณยังจะได้เห็น ได้รู้ อะไรต่อมิอะไรมากกว่านี้อีก เขาเรียกว่า "โลกทรรศน์" ไงล่ะ
ลุงคิมไม่เคย "หวงสูตร" ในเว้บนี้ก็บอก แต่บอกรายละเอียดไม่มาก หากคุณได้ไปเรียนที่ไร่กล้อมแกล้มโดยตรงแล้ว นั่นแหละคุณจะเห็น ไม่เก็บเงินค่าเรียนค่าสอนแต่บอกสูตรจนหมดเปลือก ขนาดทำให้ดู หรือจะฝึกทำกับมือตัวเองก็ได้
เยอะแยะจิปาถะมะระมะเละมะรุมมะตุ้ม แปลว่า ขี้เกียจพูด (เขียน)
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11558
|
ตอบ: 17/08/2010 4:51 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
อั้ยญู้ดดดดดด
ไม่ต้องเผยแพร่ในสื่อสาธารณะ เก็บไว้ วัดใจคน ไม่ใช่หวงแต่อยากให้ช่วยตัวเองบ้าง ออกจากบ้านไปดูโลกภายนอกเขาบ้าง ไปเรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม จะได้อะไรมากกว่าที่สอนเยอะ
ไม่ไปหาลุงคิม ไปหาอั้ยญู้ดดดด ก็ได้ .....ถ้าใครไปหาก็สอนเขาด้วย นะญู้ดดดนะ
ก็เพราะวนอยู่แต่ในกรอบ ตีกรอบล้อมตัวเอง แล้วดิ้นขลุกขลักๆ ร้องโอยโอย ให้คนช่วย
ก้นไปหาร่อง หรือ ร่องไปหาก้นล่ะ
ลุงคิมครับผม |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Yuth-Jasmine สาวดี่
เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010 ตอบ: 384
|
ตอบ: 17/08/2010 7:06 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
kimzagass บันทึก: | อั้ยญู้ดดดดดด
ไม่ต้องเผยแพร่ในสื่อสาธารณะ เก็บไว้ วัดใจคน ไม่ใช่หวงแต่อยากให้ช่วยตัวเองบ้าง ออกจากบ้านไปดูโลกภายนอกเขาบ้าง ไปเรียนที่ไร่กล้อมแกล้ม จะได้อะไรมากกว่าที่สอนเยอะ
ไม่ไปหาลุงคิม ไปหาอั้ยญู้ดดดด ก็ได้ .....ถ้าใครไปหาก็สอนเขาด้วย นะญู้ดดดนะ
ก็เพราะวนอยู่แต่ในกรอบ ตีกรอบล้อมตัวเอง แล้วดิ้นขลุกขลักๆ ร้องโอยโอย ให้คนช่วย
ก้นไปหาร่อง หรือ ร่องไปหาก้นล่ะ
ลุงคิมครับผม |
เอางั้นเหรอครับลุง ว่าไงว่าตามกันขะรับ โนหลอมแหลม ครับลุง ๕๕ ว่าเข้านั่น
แหมเสียดายไม่ได้ไปกับลุง ๑๙ นี้ ไว้ไปนอนศาลาที่ไร่แทนวันหลังแล้วกันครับลุง
ว.610 ลุงกับพี่น้องทุกคนมาก ๆ ครับ
พลทหารยู้ดดดดด...ขะรับ
PS : ROGER ROGER
|
|
กลับไปข้างบน |
|
|
Yuth-Jasmine สาวดี่
เข้าร่วมเมื่อ: 05/07/2010 ตอบ: 384
|
ตอบ: 17/08/2010 7:22 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
kimzagass บันทึก: | ดีมาก....
เลื่อนยศเป็น "สิบตรี" ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ว่างๆ ซักซ้อมตัดขวดด้วย "เลเซอร์" ให้ชำนาญเข้าไว้ ใครไปขอเรียนรู้จะได้ไม่ขายหน้า
พันโทอมตะนิรันกาล |
OVER EAT (เหลือแ_ก) จริง ๆ ครับลุง
เอ้า สิบตรี ก็สิบตรี ครับ
เลเซอร์ ถ่านหมดครับลุง เล่นเตาแก๊ส ไปพราง ๆ ก่อนน่ะครับลุง
สิบตรียู้ดดดด...ขะรับ |
|
กลับไปข้างบน |
|
|
|