ปลูกมะนาวบนหิน

[ott_club]

วันนี้มีโอกาสไปแถบจังหวัดจันทบุรี เห็นการปลูกมะนาวแบบแปลกๆ พอสอบถามก็ได้ความว่า ดินแถบนี้
เป็นดินเหนียวมีปัญหาเรื่องน้ำขังค้าง เจ้าของสวนเลยแก้ปัญหาโดยการใช้วงบ่อและหินเกล็ดเป็นวัสดุ
ปลูกดังภาพ เจ้าของสวนรายนี้เล่าว่า ประสบปัญหาเรื่องน้ำแช่ต้นมะนาว ทำให้มะนาวรากเน่าตายไปหลาย
ต้น จนต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหา เลยนึกถึงต้นมะขามหน้าบ้านที่มันขึ้นอยู่บนกองหินตอนที่เอาหินมากองไว้
เตรียมก่อสร้าง และมะขามต้นนั้นไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแช่และเจริญเติบโตมาได้ถึงปัจจุบัน จึงนำหลักการ
นี้มาทดลองปลูกมะนาวก็ได้ผลดีแบบไม่น่าเชื่อ มะนาวเจริญเติบโตได้และให้ผลผลิตดีด้วยครับ

เขาบอกปลูกตั้งแต่ต้นประมาณแค่คืบ ระยะเวลาแค่เดือนกว่าก็โตได้ขนาดนี้แหละครับ








หินล้วนๆ เลยครับ เอามือขุดลงไปก็เจอแต่หิน


รากเจริญออกมาดีมากครับ ขุดได้แค่นี้ เจ็บมือ







เอามือคุ้ยๆ ดูก็มีแต่หินครับ ไม่กล้าคุ้ยต่อเกรงใจเจ้าของเพราะแกยืนอยู่ข้างๆ
ทำรากมะนาวแกขาดไปหลายเส้นเลย


มะนาวก็ออกใช้ได้ครับ


จะถ่ายให้เห็นมดแดงน่ะครับ เพราะแกปลูกแบบอินทรีย์ มีมดแดงเพียบเลย
โรคแครงเกอร์ไม่มีเลยครับ


เห็นแล้วก็ทึ่งในความช่างสังเกตุของเขานะครับ ผมเห็นครั้งแรกยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นไป
ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้วครับ เจ้าของสวนไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ แต่สงวนสิทธิบัตรเพราะเขาบอกว่าคิด
ขึ้นมากับมือ โดยการสังเกตุจากธรรมชาติ ไม่ใช่การลอกเลียนแบบใครมาทั้งสิ้น หากใครนำไปใช้ก็ขอให้
อ้างที่มานิดนึงนะครับ

ขอขอบคุณลุงเผือกและพี่จิ๋มแห่งนายายอาม จ.จันทบุรี ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล และมะนาว 1 ถุงใหญ่
(ขอบคุณจากใจจริง)

ott_club ภาพ-รายงาน

[kimzagass]

อิสราเอลทำมานานแล้ว....ค่ำนี้จะมาเล่าให้ฟังถึง "หลักการและเหตุผล" ที่เป็นไปได้


ลึงคิมครับผม

[somchai]

แสดงว่า บางบทความที่ว่า ดินดี ต้องมีอิทรีย์วัตถุ ลดความขลัง ไปเลยนะครับ เพราะในวงบ่อมีแต่ หินและดินจำนวนน้อย แล้วการให้ปุ๋ยให้น้ำ เขามีวิธีการอย่างไร ให้บ่อยๆหรือว่า ปกติทั่วๆไป แล้ว อายุต้นหลายๆปี การเจริญเติบโตเป็นเช่นไร

ขอบคุณ พี่อ๊อดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ นำของแปลก ที่คนไม่ค่อยรู้และไม่เคยเห็นมาให้ได้รู้ได้เห็นด้วยครับ

[ott_club]

ที่เขาต้องปลูกแบบนี้เพราะที่แถวนั้นเป็นดินเหนียวน้ำแช่ขังค้างครับ เขาจึงใช้วงบ่อครอบลงไปโดยไม่ต้องปิดที่พื้นเหมือนการปลูกมะนาวในวงบ่อเพื่อทำนอกฤดู พอรากที่เจริญออกมาอยู่ที่หินเกล็ดแล้ว รากก็จะแทงลงไปในดินได้ครับ ผมจึงคิดว่ารากที่อยู่ในชั้นหินก็เหมือนรากอากาศที่คอยหายใจ ส่วนรากที่แทงไปในชั้นดินก็จะเป็นรากหาอาหารในกรณีที่มีน้ำท่วม

และผมก็ถามถึงการให้ปุ๋ย เขาบอกว่าตอนลงปลูกในกองหินยังไม่ต้องใส่ปุ๋ยเคมีใดๆ ทั้งสิ้น ผสมน้ำยาเร่งรากรดบ่อยๆ ก็พอ(ผมดูที่ข้างขวดเป็นน้ำยาที่มีส่วนผสมของ บี1. อะมิโน. และฮิวมิค.)

หลังจากที่รากเจริญดีแล้ว จึงใส่ปุ๋ยเคมีบ้าง ขี้ไก่บ้าง บริเวณข้างๆ วงบ่อนะครับไม่ใช่ในวงบ่อ ต้นที่เขาทดลองทำต้นแรกๆ (5 ปีที่แล้ว) เขาใช้วิธีปลูกบนกองหินโดยไม่ได้ครอบวงบ่อครับก็เจริญเติบโตดีแต่ปัจจุบันกองหินมันราบเสมอกับพื้นดินแล้วครับ

[somchai]

ผมนึกว่า ปลูกในวงบ่อ และปิดด้านล่าง แบบนี้ก็ไม่แตกต่างกับปลูกปกติเท่าไร เพียงระยะแรกๆที่ รากยังไม่ลงลึกไปที่ดินด้านล่างของกองหิน บทความที่ว่า ดินดี ต้องมีอินทรีย์วัตถุ ยังมีความขลัง เช่นเดิม ครับ

[thumsiri]

ขอบคุณมากครับเสี่ยอ๊อด สำหรับข้อมูลดี ๆ...

[kimzagass]

.... ต้นไม้ต้นพืชไม่ได้ดินดิน แต่ต้นไม้ต้นพืชกิน ธาตุอาหารที่เป็นสารละลายอยู่ในดิน
.... ดิน คือ วัสดุปลูก ซึ่งเป็นที่กินที่อยู่และเป็นที่ยึดรากของต้นพืช ในขณะที่กระถางหรือถุง คือ ภาชนะปลูก สำหรับรรจุวัสดุปลูก
.... ธาตุอาหารออกมาจากอินทรีย์วัตถุ โดยมีจุลินทรีย์ที่อยู่ในดินเป็นตัวแปรรูปอินทรีย์วัตถุให้เปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวแล้วกลายเป็นสารอาหารพืชในที่สุด

สรุป : ในการปลูกพืชจำเป็นต้องมี "วัสดุปลูกและอินทรีย์วัตถุ" เสมอ

กรณีวัสดุปลูกเป็นหินเกร็ด อยากให้ระวังส่วนที่เป็นฝุ่น เพราะฝุ่นของหินเกร็ดตัวนี้มีสถานะเป็นด่าง หินเกร็ดที่เห็นด้วยตาเปล่าว่ายังเป็นเกร็ดอยู่นั้น ความจริงยังมีส่วนที่เป็นฝุ่นห่อหุ้มอยู่ภายนอก เมื่อได้รับน้ำก็จะละลายหรือหลุดออกมา กรณีนี้ตรวจสอบได้ด้วยวิธี นำหินเกร็ดมาล้างน้ำดูก็จะพบว่ามีฝุ่นละลายออกมา เพราะฉนั้น หากจะใช้หินเกร็ดเป็นวัสดุปลูก จึงควรล้างฝุ่นออกให้หมดเสียก่อน

นอกจากหินเกร็ดแล้ว หากจะพิจารณาเลือกใช้ทรายหยาบ หรือกรวดหยาบ แทนก็ย่อมได้ แต่ควรต้องล้างทำความสะอาดเสียก่อน จากนั้นก็ใส่เพิ่มส่วนผสมที่เป็นอินทรีย์วัตถุ หรือสารปรับปรุงบำรุงดิน และจุลินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก. เศษซากพืช. เศษซากสัตว์. ยิบซั่ม. จุลินทรีย์.

วัสดุปลูกประเภทเนื้อหยาบ เมื่อปลูกไม้ขนาดสูงใหญ่ซึ่งต้องอาศัยรากเป็นตัวยึดลำต้นไม่ให้ล้ม เมื่อความหยาบของวัสดุปลูกไม่สามารถยึดรากได้ จึงมักทำให้ต้นล้มง่าย จุดอ่อนนี้สามารถป้องกันแก้ไขได้โดยการทำไม้หรือหลักค้ำยัน



อิสราเอล :
ใช้วัสดุปลูก "ทรายหยาบ + มูลวัว + เศษฟางบดละเอียด +อินทรีย์วัตถุอื่นๆ ที่เหมาะสมหรือตามความจำเป็น" อัตราส่วน 3 : 1 : 1 : 1 (อัตราส่วนที่ปรับได้) ผสมคลุกเคล้ากันดีแล้วใส่ถังขนาดใหญ่ จากนั้นอบด้วยสารเคมี (ไม่ทราบชื่อ) ตัวหนึ่งที่ให้ควาร้อนจนเกิดเป็นควัน วัตถุประสงค์เพื่อกำจัดเชื้อโรคทุกชนิดให้สิ้นซาก กำจัดแม้กระทั่งจุลินทรีย์มีประโยชน์ ทั้งนี้ ระบบเกษตรของอิสราเอลไม่พึ่งพาจุลินทรีย์เพื่อสร้างสารอาหารและประโยชน์อื่นๆแก่ต้นพืช แต่จะบริหารจัดการหาให้พืชเอง

บรรจุวัสดุปลูกในภาชนะปลูก เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำที่ไหลซึมลงพื้นดิน จัดวางภานะปลูกในโรงเรือนที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในอากาศได้

ให้น้ำเท่าที่พืชต้องการใช้จริงในแต่ละวัน (จากงานวิจัย) พร้อมกับให้สารอาหารผ่านทางท่อ หรือไปกับน้ำนั้น ทำให้พืชได้รับสารอาหาร (สูตรสั่งตัด) อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอตลอด 24 ชม. หรือตั้งแต่ปลูกถึงเก็บเกี่ยวนั่นเอง

ปลูกพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว เช่น ผักสวนครัว พืชตระกูลแตง หรือพืชทรงเตี้ย


ลุงคิมครับผม