-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - * คิดนอกกรอบ
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

* คิดนอกกรอบ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 10/03/2024 1:00 pm    ชื่อกระทู้: * คิดนอกกรอบ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
คิดนอกกรอบ Think outside the box :

การคิดนอกกรอบ หมายถึง การคิดอย่างแตกต่าง อย่างไม่เป็นไปตามแบบแผน หรือการคิดเพื่อสร้างมุมมองใหม่ ๆ ไม่จำกัดความคิด ความรู้ หรือความคิดเห็น วลีนี้มักจะหมายถึงการคิดที่แปลกใหม่หรือสร้างสรรค์

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A


คิดนอกกรอบ :
การคิดนอกกรอบนั้นพูดง่ายแต่ทำยาก จึงต้องหมั่นฝึกฝน คนที่คิดนอกกรอบนั้นมิใช่พวกจินตนาการเพ้อฝัน แต่เป็นคนที่สามารถใช้ความคิดเชิงตรรกะเหตุผลกับความเข้าใจเรื่องอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างสมดุลหรือไม่ให้น้ำหนักเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป

จุดมุ่งหมายของการคิดนอกกรอบคือการแสวงหาวิธีการหรือผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขสิ่งเดิมให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหรือมีคุณภาพสูงขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย ตอบโจทย์องค์กรและสังคม

มีงานเขียนและการบรรยายต่างกรรมต่างวาระที่เอ่ยถึงวิธีการคิดนอกกรอบ ซึ่งอาจสรุปแบบกระชับได้โดยย่อได้ดังนี้

1. กล้าแตกต่าง ไม่กลัวล้มเหลว มองเห็นการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มในอนาคตคือโอกาส ไม่ใช่ปัญหา คิดบวกและสนุกกับการแสวงหาความเป็นไปได้จากความท้าทายใหม่ๆ

2. ฝึกคิดสร้างสรรค์ การคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบเกือบจะเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบก็เกิดขึ้นได้ยาก ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดที่ฝึกฝนได้ หาใช่พรสวรรค์ ดังภาพข้างล่าง

3. รู้กว้างและรู้ลึก ฝึกการคิดแบบรอบด้านมองหลายมุม ไม่ยึดติดการคิดเพียงด้านเดียว ฝึกฝนการตั้งคำถามและหาคำตอบ ไม่เดินย่ำซ้ำรอยความสำเร็จเดิม ด้วยความเชื่อว่าโครงการหรือการพัฒนาใดๆ ย่อมมีช่องว่างที่สามารถทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้เสมอ

“อย่าหยุดหาความรู้ เพราะโลกเปลี่ยนเร็ว เราต้องหาความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ต้องเป็นคนอยากรู้อยากเห็น อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ต้องมีความรู้เป็นรูปตัว T คือรู้สึกในบางเรื่อง และรู้กว้างในหลายๆ เรื่องซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจและเห็นภาพรวมได้ดีขึ้น”

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

4. รู้เท่าทันเทคโนโลยี ให้เทคโนโลยีสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานและพัฒนาคุณภาพคน ฉะนั้นจึงต้องรู้จักคนและเข้าใจงานที่ทำก่อนจึงค่อยเลือกเทคโนโลยี อย่าเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพียงเพราะกลัวไม่ทันสมัย ซึ่งนั่นไม่ใช่การรู้เท่าทัน แต่เป็นความทันโลกแค่เปลือก ขณะที่แก่นหรือเนื้อในกลวงเปล่า การรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีนอกจากช่วยให้ไม่ตกเป็นทาสของเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นเชื้อไฟที่ดีของการคิดนอกกรอบ

5. เปิดกว้างและถ่อมตนอยู่เสมอ พูดคุยรับฟังและขอคำปรึกษาจากผู้อื่นบ้าง สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้รู้อย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนามุมมองและลับความคิดให้แหลมคม ต้องระวังที่จะไม่ตกหลุมพรางของความฉลาด ผูกขาดความถูกต้องเพราะเชื่อมั่นในความรู้และประสบการณ์ของตนเองมากเกินไป กลายเป็นคนที่เหมือนน้ำล้นแก้ว ดูถูกหมิ่นแคลนผู้อื่นว่ามีประสบการณ์น้อยและมือไม่ถึง จึงไม่ค่อยยอมรับความคิดที่แตกต่างหรือแปลกใหม่ ปัญหาจึงสั่งสมและผิดพลาดซ้ำซาก เพราะไม่สามารถคิดนอกกรอบเพื่อหาทางออกด้วยวิธีการใหม่

“เราแก้ปัญหาด้วยวิธีคิดแบบเดียวกับ ที่เราใช้ตอนสร้างปัญหาไม่ได้” We cannot solve our problems with the same thinking we used when we create them

Albert Einstein
อุปสรรคของการคิดนอกกรอบในไทยคือโครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรม อันได้แก่ระบบอุปถัมภ์และสังคมแบบอำนาจนิยม ตลอดจนสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในระบบการศึกษาไทย ทั้งหมดนี้หล่อหลอมให้ผู้คนต้องอยู่ในกฎเกณฑ์และระเบียบกติกาโดยไม่เคยตั้งคำถาม ส่งผลให้วิธีคิดวิธีปฏิบัติเป็นไปในลักษณะที่เหมือนๆ กัน ในขณะที่นวัตกรรมเปลี่ยนโลกนั้นเกิดขึ้นมาจากการคิดนอกกรอบ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นจากนักคิดสร้างสรรค์ทั่วโลก

คำถามข้อใหญ่จึงย้อนกลับมาที่สังคมของเราเองว่าจะยังคงผลิตคนที่คิดเชื่องๆ ชื่นชมคนดีในระบบมากกว่าคนแหกคอกนอกระบบ หรือจะช่วยกันสร้างคนรุ่นใหม่ที่คิดต่างอย่างมีเหตุผล คนที่คิดสร้างสรรค์นอกกรอบ คนที่คิดเชิงวิพากษ์รู้จักตั้งคำถามและกล้าโต้แย้ง

การคาดหวังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ต้องคิดและทำเฉกเช่นเดียวกับคนรุ่นก่อน โดยมีความรุ่งโรจน์ของอดีตเป็นภาพอุดมคตินั้นเป็นสิ่งที่ฝืนต่อการเปลี่ยนแปลง และไม่มีวันได้ผลด้วยการใช้อำนาจบีบบังคับให้คล้อยตาม

สังคมที่มีการใช้อำนาจมาก เสรีภาพย่อมมีจำกัด การคิดนอกกรอบก็เกิดขึ้นได้ยาก เสรีภาพที่มีความรับผิดชอบจึงเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์

โลกรอบตัวเรานั้นเปลี่ยนแปลงเร็วและแรง อย่างไรเสียไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใดก็ต้องปรับตัวให้หลุดออกจากความเคยชินแบบเดิมๆ ด้วยการยอมรับความเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่ด้วยการเปลี่ยนสี ไร้หลักการขาดจุดยืน

ที่สำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่คิด แต่ต้องลงมือทำด้วย

https://www.thekommon.co/think-outside-box/
.

การตลาดคิดนอกกรอบ :
“ถ้าคิดแบบเดิม ก็จะได้ผลแบบเดิม ให้คิดใหม่อย่างรอบคอบ ก็จะได้สิ่งใหม่ ๆ แตกต่างจากอดีตที่เคยเผชิญมา” นี่เป็นหนึ่งในคำพูดที่ “นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์” คิดและมอบนโยบายให้กับ “ทีมบริหาร” ของกระทรวงพาณิชย์รับไปดำเนินการ

นายภูมิธรรม เคยอธิบายไว้ว่า ไม่อยากให้พาณิชย์ทำงานแบบเดิม ๆ เพราะทุกวันนี้ โลกเปลี่ยนไป อะไรที่เคยทำแล้วดีในอดีต มาวันนี้ อาจจะไม่ได้ผลก็ได้ จึงต้องมีการปรับ “แผน” และนำ “กลยุทธ์ใหม่ ๆ” มาใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะ “การตลาด” รูปแบบใหม่ ที่ไม่อยู่ในกรอบเดิม ๆ

หากย้อนหลังกลับไป นับตั้งแต่นายภูมิธรรม ได้ให้นโยบายกับทีมพาณิชย์ ปรากฎว่า ใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน ผลงานการ “คิดนอกกรอบ” ได้เริ่ม “ผลิดอกออกผล” ออกมาแล้ว

ที่เห็น “เป็นรูปธรรม” และสร้าง “ความฮือฮา” ได้เป็นอย่างมาก เริ่มจากการผลักดัน “สินค้า” และ “บริการ” ของไทยสู่สากล

โดย “กระทรวงพาณิชย์” ได้ลงนาม “บันทึกแสดงเจตจำนงความร่วมมือ (MOI)” กับ “บริษัท บี ออน คลาวน์ จำกัด” ผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่สากลผ่านซีรีส์วาย เพราะกำลังเปิดตัวซีรีส์ใหม่ “SHINE (ชาย)” ที่นำแสดงโดย “มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง” และ “อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์”

ถัดมาสดๆ ร้อนๆ ได้ลงนาม MOI การผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่สากลผ่าน “ซีรีส์ยูริ (Girls’ Love)” ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับ “บริษัท ไอดอลแฟคทอรี่ จำกัด” ที่จะเปิดตัวซีรีส์ใหม่ “ปิ่นภักดิ์” นำแสดงโดย “รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง หรือเบ็คกี้” และ “สโรชา จันทร์กิมฮะ หรือฟรีน” ซึ่งเป็นสองดาราสาวดาวรุ่งจากซีรีส์ทฤษฎีสีชมพู (GAP The series)

ทั้ง 2 ความร่วมมือนี้ มี “หลักการ” เดียวกัน คือ จะผลักดันสินค้าและบริการของไทย เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในซีรีส์ ทั้งใช้ประกอบฉาก ใช้ “เป็นอาหาร” บนโต๊ะอาหารในตอนที่มีการบริโภค แนะนำ “สถานที่เที่ยว” ช่วงที่มีการท่องเที่ยว กระทั่งส่งเสริมตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ เช่น Thai SELECT หรือ T-Mark เป็นต้น

เป้าหมาย ก็เพื่อ “สร้างการรับรู้” สินค้า บริการ วัฒนธรรมของไทย ในฐานะเป็นหนึ่งใน “ซอฟต์ พาวเวอร์” ที่สำคัญอีกแขนงหนึ่ง ที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์กำลังผลักดัน

ผลที่จะเกิดขึ้นจากการสร้างการรับรู้ ก็คือ “แฟนคลับ” ของดารานำ ทั้ง “มาย-อาโบ” และ “ฟรีนเบค” ที่มีฐานกระจายอยู่ทั่วโลก จะ “ตามรอย” ทั้งการบริโภคสินค้าไทย อาหารไทย และการท่องเที่ยวในแหล่งถ่ายทำซีรีส์ ที่จะส่งผลดีต่อการ “สร้างงาน-สร้างรายได้” ในอนาคต

การทำการตลาดแบบ “คิดนอกกรอบ” ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ล่าสุด “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ” กำลังจะขับเคลื่อนการใช้ “อินฟลูเอนเซอร์” ช่วยขายสินค้าไทย

ตอนนี้ ทราบมาว่า กำลังเตรียมจัด “มหกรรมไลฟ์ คอมเมิร์ซ” โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงของจีนจำนวน 30-50 ราย มาไลฟ์สดขายสินค้าไทย

ความคืบหน้า ณ ขณะนี้ ได้มีการ “คัดเลือก” สินค้าจาก SMEs จำนวน 250 บริษัท เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าแฟชัน เป็นต้น ได้แล้ว และกำลังให้อินฟลูเอนเซอร์ของจีนเลือกว่าจะไลฟ์ขายสินค้าอะไร

ที่ต้องให้อินฟลูเอนเซอร์แต่ละราย “คัดเลือก” เพราะแต่ละรายมี “ความเชี่ยวชาญ” ในการไลฟ์ขายสินค้าแตกต่างกัน แต่ละคนก็จะเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตัวเองไปไลฟ์ขาย

จากนั้น “เมื่อขายจบ” ก็จะมาดูว่า อินฟลูเอนเซอร์รายใด ขายสินค้าได้ดี มียอดพุ่ง ติด 1 ใน 10 อันดับแรก ก็จะเชิญมา “เมืองไทย” เป็นแขกของกระทรวงพาณิชย์เพื่อ “เชิดชูเกียรติ”

ส่วนเป้า “ยอดขาย” จะเป็นเท่าไร และจะ “ขายได้” มากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ “ยังไม่รู้” แต่รู้ว่า “ขายได้แน่ ๆ”

เพราะมี “ตัวอย่าง” ความสำเร็จเกิดขึ้นแล้ว ก็คือ การนำอินฟลูเอนเซอร์จีน มาไลฟ์สดขายสินค้า “อัญมณีและเครื่องประดับ” ในงาน “บางกอก เจมส์” ที่เพิ่งจัดไปเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.2567 ที่ผ่านมา

งานนี้วันเดียว ขายได้กว่า 400 ล้านบาท

ต่อไป เมื่อ “จัดงานแสดงสินค้า” ในประเทศ หรือ “ไปร่วมงานแสดงสินค้า” ในต่างประเทศ ก็จะใช้อินฟลูเอนเซอร์จากประเทศเป้าหมาย มาไลฟ์ขายสินค้าควบคู่ไปด้วย

ทั้งหมดนี้ พูดได้ว่าเป็น “มิติใหม่” ของการทำงานแบบ “คิดนอกกรอบ” ที่กำลังเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ

แล้วยังเป็น “รูปแบบ” และ “วิธีการ” ที่ทันสมัย สอดคล้องกับ “สถานการณ์การค้า” ในโลกยุคปัจจุบัน ที่ไม่ “ยึดติด” กับรูปแบบเดิม ๆ

ประมาณว่า “ใครเร็ว ใครไว” ก็ทำเงินได้ก่อน

เห็น “กระทรวงพาณิชย์” ทำงานแบบนี้

“ดีใจ” แทนผู้ประกอบการไทยจริง ๆ

https://www.commercenewsagency.com/columnist/6799
.


ทำเกษตรแบบไหนดี ? :
https://www.allkaset.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7/

https://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=35322&sid=6f7a093979bb2fb57232b05de4730d09#35322
.


ซี วิ ด....ปิ้ น ปั๊ บ :
https://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=7207&sid=12ec9a31b3013ecb0a80beda4db40139
.

พืช vs คน....พืขใช้น้ำน้อย คน ใช้น้ำมาก :


.

ผักผลไม้ 32 ชนิด ไป อียู :
https://warning.acfs.go.th/th/early-warning/view/?page=699

.

:

.

:

.

:

.


:


.

100. ปรัชญาเกษตร :
ปรัชญา แปลว่า หลักแห่งความรู้ ความจริง อย่างเป็นเหตุ และเป็นผล :

สามัคคี คือ พลัง ............................................ ธรรมศาสตร์
คิด วิเคราะห์ ................................................ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น .............. โคกกะเทียม วิทยาลัย ลพบุรี
คิด วิเคราะห์ เปรียบเทียบ ต่อยอด ขยายผล ฟันธง ...... สีสันชีวิตไทย

*** รวยกระจุก ..... รวยเพราะ เปิดใจรับ เทคนิค/เทคโนโลยี
*** จนกระจาย ..... จนเพราะ ปิดใจรับ เทคนิค/เทคโนโลยี

* เทคโนโลยี คือ การนำ “แนวทาง/ความคิด/ความรู้/หลักการ/วิชาการ/กระบวนการ” ที่เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ นำมาใช้ในการทำงาน

* เทคนิค คือ ศิลปะและวิธีการ ในการปฏิบัติ

เกี่ยวเนื่องกับการเกษตรด้านพืช :
*** ปัจจัยพื้นฐาน : ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์/โรค ....
*** ปัจจัยสำคัญ : ปุ๋ย-ยา-เทคนิค-เทคโนฯ-โอกาส-ตลาด-ต้นทุน-บริหาร-จัดการ-คุณภาพ-ปริมาณ-พันธะสัญญา-ปชส. ....

*** ซูพรีม พรีเมียม เกรด เอ. จัมโบ้ โกอินเตอร์ ขึ้นห้าง นอกฤดู สีสวยสด รสจัดจ้าน ปลอดสารเคมี เครดิตสูง แปรรูป คนนิยม จองล่วงหน้า ส่งออก .... เกรดฟุตบาท

*** ทำอย่างเดิม แย่กว่าเดิม เพราะสภาพแวดล้อม และสังคมเปลี่ยนแปลง
*** ทำตามคนที่ล้มเหลว ล้มเหลวยิ่งกว่า เพราะอยากเอาชนะ เขาใส่ปุ๋ย 1 เราใส่ 2 เขาฉีดยา 1,000 เราฉีด 2,000

*** ทำตามคนที่สำเร็จ สำเร็จยิ่งกว่า เพราะเอาของเขามาต่อยอดขยายผล
*** กะรวยกว่า กะรวยคนเดียว ไม่รวย .... กะรวยด้วยกัน รวยทุกคน
*** ตลาดควบคุมไม่ได้ .... ต้นทุนคุมได้
*** ราคาขาย – ต้นทุน = กำไร
*** ตัวเองช่วย + รัฐบาลช่วย = ได้ 2 เด้ง

*** สมการเกษตร (ปุ๋ย ยา เทคนิค เทคโนฯ โอกาส ตลาด ต้นทุน ฯลฯ)
*** หลักการเกษตร (วิชาการ ประสบการณ์ ความรู้ ความคิด)
*** การเกษตร ยาก/ง่าย อยู่ที่ใจ
*** ยึดหลักกู ไม่เอาหลักการ
*** ขยันแต่ทำผิด = ไม่ได้อะไร

*** หัวใจนักปราชญ์ ฟัง คิด ถาม เขียน .... อ่าน ดู ทำ ใช้ คิด วิเคราะห์ เปรียบเทียบ

*** ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
*** ความรู้ คู่ความคิด
*** เรียนรู้ด้วยตัวเอง เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก เรียนรู้จากโรงเรียน
*** โรงเรียนเกษตรที่ดีที่สุด คือ แปลงเกษตร (ของเรา ของเขา อดีต ปัจจุบัน อนาคต)
*** ครูเกษตรที่ดีที่สุด คือ คนในกระจก

* ทำทั้งปี ได้ขายรอบเดียว VS ทำทั้งปี ได้ขายหลายรอบ
* แจ๊คหม่า มีประเทศเดียว ..... แจ๊คหม่ำ มีทั่วโลก
* ความเก่งคนเท่าๆกัน แต่ แพ้/ชนะ กันที่โอกาส ..... ใช้สมอง แทนกำลัง
* ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด ..... ความรู้ท่วมตัว เอาหัวไม่รอด

- คนบ้าไม่มีหนี้ คนดีหนี้เต็มบ้าน....เชื่อมึง ก็เป็นหนี้เหมือนมึงน่ะซี
- พ่อครับแม่ครับ นาเราต้นทุนท่วมราคาขายแล้วนะ....
- จบเกษตรทำนา ได้ข้าว ขายข้าวให้โรงสี....
- จบวิศวะทำนา ได้ข้าว ขายข้าวให้ร้านขายข้าวปลูก..
.

71. เกษตรทาง ทีวี. :
เกษตรกร : ทำเกษตรอินทรีย์....ทำเกษตรอินทรีย์....
ทีวี. : ไม่ถามเพิ่มเติมเพื่อเจาะลึกรายละเอียด .... อินทรีย์หมายถึงปุ๋ยใช่ไหม ? ชนิดแห้งหรือน้ำ ? ทำจากอะไร ? วิธีทำอย่างไร ? ทำแล้วได้สารอาหารอะไร ? ประเภทให้ทางใบหรือทางราก ?
ผู้ชม : ได้สาระแค่ W. (WHO WHAT WHEN WHERE WHY) ไม่ได้ H. (HOW TO)

เกษตรกร : ไม่ใช้สารเคมี....ไม่ใช้สารเคมี ....
ทีวี. : ไม่ถามเพิ่มเติมเพื่อเจาะลึกรายละเอียด .... ไม่ใช้สารเคมีแล้วใช้อะไรกำจัดแมลง ? ใช้อะไรกำจัดหนอน ? ใช้อะไรกำจัดโรค ? เอามาจากไหน ? วิธีใช้อย่างไร ?
ผู้ชม : ได้สาระแค่ W. (WHO WHAT WHEN WHERE WHY) ไม่ได้ H. (HOW TO)

ชาวนาพันธุ์แท้ :
ชาวนา : โฮ้ยยย ทำนาน่ะ มันไม่ได้อะไร อย่างดีก็แค่พอกินไปวันๆ เท่านั้นแหละคุณเอ๊ย
ทีวี. : อ้าว แล้วลุงทำ ทำไม่ล่ะครับ ?

ชาวนา : ก็ไม่รู้จะทำอะไร ไม่มีใครมาสอนมาส่งเสริม
ทีวี. : วันนี้มีหนี้ซักเท่าไหร่ครับ ?

ชาวนา : ก็มากโขอยู่นะ บางปีก็ได้ส่งดอก บางปีก็ไม่ได้ส่ง แต่ต้นยังอยู่
ทีวี. : ลุง...ขอโทษนะ อย่าหาว่าแช่งเลย ถ้าลุงตายปุบตายปับไปเลย หนี้สินนี่ จะจัดการให้ลูกหลานยังไง

ชาวนา : (หัวเราะ...) ก็มีกระดาษให้มันแผ่นนึง เป็นมรดกไง
ทีวี. : กระดาษอะไรครับ ?

ชาวนา : สัญญาเงินกู้ไงล่ะ
ทีวี : หมายความว่าไงลุง ?

ชาวนา : ก็หมายความว่า ปล่อยให้ลูกหลานมันจัดการของมันเอง
ทีวี : เอางั้นนะลุง.....

ผู้ชม : ได้สาระแค่ W. (WHO WHAT WHEN WHERE WHY) ไม่ได้ H. (HOW TO) เช่น อยากรู้ขาดทุนแบบนี้เป็นมากี่รุ่นแล้ว ? ลูกหลานคิดยังไงไหม ? ทำนารุ่นหน้ามีแผนการยังไงไหม ? ลูกหลานว่ายังไง ?

เทพชัย หย่อง : สื่อมวลชนทำหน้าที่นักข่าว อย่าคิดแค่ทำหน้าที่แล้วถือว่าเสร็จ แต่ให้ตระหนักเสมอว่า ผู้บริโภคข่าวได้สารประโยชน์อะไรจากข่าวนั้นบ้าง แม้วันนี้ยังไม่ได้นำเสนอด้วยข้อจำกัดบางประการ ก็ขอให้หาโอกาสนำเสนอซ้ำก็ได้

ศัพท์วิชาผู้สื่อข่าว :
หมากัดคน ไม่เป็นข่าว แต่ คนกัดหมา เป็นข่าว .....
ก่อนไปทำข่าว ต้องทำ การบ้าน เรื่องนั้นๆ....
.

:

.




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 20/04/2024 8:36 am, แก้ไขทั้งหมด 4 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 12/03/2024 6:10 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.

.............. TWENTY TWO WHEELED TRUCK ..............
.......................... ภาษิตยี่สิบสองล้อ ..............................




.......... FORGET THE PASS START THE NEW ลืมเรื่องอดีต แล้วเริ่มต้นใหม่ .........

.. Where There's a Will,There's a Way ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ..

................................. เพ้อฝัน=ล้มเหลว ไฝ่ฝัน=สำเร็จ ..................................

....................... อดีตคือบทเรียน ปัจจุบันคือความจริง อนาคตคือความฝัน ..................

............................... ทำอย่างเดิม คงไม่มีอะไรดีกว่าเดิม ..................................

............... ทำตามคนที่ล้มเหลว ล้มเหลวกว่า ต่อยอดคนที่สำเร็จ สำเร็จยิ่งกว่า ............

.................. รัฐช่วยได้ 1 เด้ง ตัวเองช่วยได้ 1 เด้ง รัฐ+ตัวเอง ได้ 2 เด้ง .................

.................... ยากง่าย ได้ไม่ได้ อยู่ที่ใจ คนที่ช่วยได้ คือ คนในกระจก ....................

.................. รู้อะไรรู้กระจ่างแต่อยางเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล ...................

...................... ไม่มีใครรู้มาตั้งแต่ก่อนเกิด เกิดมาแล้วต้องเรียนจึงรู้ ........................

....................... วิชาการมีขาย ประสบการณ์ไม่มีขาย ต้องสร้างเอง ........................

...... อ่านหนังสือเรื่องเดียวกันที่ ดร.หลายคนเขียน ย่อมรู้เรื่องมากกว่า ดร.เขียนคนเดียว .....

......................... ฟัง อ่าน ดู ทำได้ง่ายสุด แต่เขียน ทำได้ยากสุด .........................

.............................. ฟัง ดู 100 ครั้ง ไม่เท่าอ่าน 1 ครั้ง ...................................

................... ภูมิปัญญาพื้นบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชาการรองรับ .....................

.............. คนพูดพูดพูด รู้ดีทุกเรื่องที่พูด แต่ไม่รู้คนฟังไม่รู้ เพราะคนฟังไม่ถาม ..............

....................... ทำขายขาดทุนเพราะต้นทุน ปุ๋ย ยา เวลา ค่าแรง สูง .......................

....................... ลดต้นทุนปุ๋ยยา ทำเองทำใช้ทำขายทำแจกทำเททิ้ง ........................

.... อุตสาหกรรมปฎิเสธแรงงานใช้เครื่องทุ่นแรง เกษตรกรรมปฎิเสธเครื่องทุ่นแรงใช้แรงงาน ....

............................................... .........................................................

............................................... .........................................................

............................................... .........................................................



******************************************************************************


1. คำแถลงนโยบาย ของนายกรัฐมนตรี ต่อรัฐสภา วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 :
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/72078

*** ฯลฯ.... อีกด้านหนึ่งของระบบเศรษฐกิจ คือ ภาคการเกษตร ประชากรจำนวนไม่น้อยของประเทศ ไทยกว่า 10 ล้านคน หรือราว 1 ใน 3 ของกำลังแรงงานอยู่ในภาคนี้ที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ แต่กลับสะท้อนออกมาเป็นมูลค่าเพียงร้อยละ 7 ต่อ GDP ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารูปแบบการทำการเกษตรที่ยังคงพึ่งพาวัฏจักรธรรมชาติและมีประสิทธิภาพของผลผลิตต่ำ แต่ ค่ า ใ ช้ จ่ า ย ใ น
ก า ร ผ ลิ ต มี แ น ว โ น้ ม เ พิ่ ม สู ง ขึ้ น เ รื่ อ ย ๆ
ส่งผลให้เกษตรกรไทยมีหนี้สิน เฉลี่ยครัวเรือนละกว่า 3 แสนบาท....ฯลฯ



แนวทางการลดต้นทุนการผลิต :
https://www.doa.go.th/hc/chumphon/wp-
content/uploads/2020/02/Industrial-Crop-Cost-reduction-.pdf


COMMENT :*** อตก.เจ๋ง! ติด 1 ใน 10 ตลาดสดดีที่สุดในโลก :
https://mgronline.com/travel/detail/9600000040132

*** ต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยเทศ เป็นวาระแห่งชาติ ตั้ง/สร้าง/ส่งเสริม "อตก.สาขาเชียงใหม่ อตก.สาขาภูเก็ต อตก.สาขา ฯลฯ...." จำหน่ายผลผลิตทางเกษตร ทุกประเภท/ชนิด และสารสมุนไพร ทุกประเภท/ชนิด

*** นายกฯ แก้น้ำท่วม :


*** นายกฯ แก้ภัยแล้ง


*** นายกฯ แกหนี้เกษตร


*** นายกฯ


*** นายกฯ





.

“ถนนพระราม 2” สร้าง 54 ปีแล้ว ยังไม่เสร็จ :
https://www.amarintv.com/spotlight/economy/detail/60642

ดันไทยฮับการบินโลก ! ทุ่มแสนล้านบาท ลุยขยาย "สนามสุวรรณภูมิทิศใต้" :
https://www.springnews.co.th/news/hot-issue/848291

.


2. ผลผลิตเพิ่ม ต้นทนลด อนาคตดี :

.

3. ทายาทเกษตร :

.

4. เกษตรโลก :

.

5. พืช กินน้ำน้อย คนให้น้ำมาก :

.

6. พืช พูดด้วยใบ บอกด้วยราก :

.

7. ธรรมชาติ ไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ :

.

8. สวนผัก 1 ไร่ ได้ 6 แสน :
https://www.thairath.co.th/news/local/914842

.

9. ปลูกอะไรได้เงินเร็ว :
https://www.allkaset.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%%B9%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7/

.

10. การปรับตัวของเกษตรกรไทย สู่ยุคดิจิทัล :
https://www.depa.or.th/th/article-view/adaptation-of-Thai-farmers-to-the-digital-age

.

11. ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร ?
https://aws.amazon.com/th/what-is/artificial-intelligence/

.

12. ข้าวไทยราคาแพงสุด รอบ 17 ปี :
https://www.google.com/search?
q=%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0
%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8
4%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%
B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94+%E0%B8%A3%E0%B8%A
D%E0%B8%9A+17+%E0%B8%9B%E0%B8%B5&rlz=1C1GCEA
_enTH1067TH1067&oq=&gs_lcrp=EgZjaHJvbWUqCQgAEEUYOxjC
AzIJCAAQRRg7GMIDMgkIARBFGDsYwgMyCQgCEEUYOxjCAzIJCA
GMIDMhEIBxAAGAMYQhiPARi0AhjqAtIBCTU3MjJqMGoxNagCCLAC
AQ&sourceid=chrome&ie=UTF-8#ip=1

.

13. จากป่าสงวน ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณะ สู่ป่าเศรษฐกิจส่วนบุคคล :


.
14. ทำ "ปุ๋ย-ยา" ขาย :


.

15. :

.

16. ทุกสิ่งอย่าง อยู่ที่ใจ :






.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©