-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 4 JUL... *ลดสารพิษในผักผลไม้
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 4 JUL... *ลดสารพิษในผักผลไม้

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 04/07/2016 9:45 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 4 JUL... *ลดสารพิษในผักผลไม้ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 04 JUL

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)


----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

------------------------------------------------------------------------



เล่าสู่ฟัง เรื่องยาฆ่าแมลง 13 :

วิธีลดสารพิษตกค้าง ในผักผลไม้ :


พว. นฤมล เปรมปราโมทย์

ผักผลไม้บ้านเรา ใช้ยาฆ่าแมลงกันเป็นส่วนมาก ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารเคมีที่ตกค้างแบบไม่รู้ตัว ถึงแม้จะมีผักออแกนิคเป็นอีกทางเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ แต่เมื่อสำรวจราคาผักออแกนิกตามท้องตลาดพบว่า มีราคาสูงลิ่ว

(เน้นย้ำ....ราคาสูงลิ่ว .... ไม่สารเคมี ไม่ปุ๋ยเคมี ต้นทุนค่าอะไร .. “?”..
เกษตรแบบ *อินทรีย์เกาะขอบ *น้ำหมักชีวภาพสูตรปรับโมเลกุล *ฮอร์โมนธรรมชาติ แทนปุ๋ยเคมี ....
เคมีชีวะในธรรมชาติ แทน เคมีสังเคราะห์ในกระสอบ ....
สารสมุนไพร แทนสารเคมียาฆ่าแมลง ....

KIM ZA GASS )


จนหลายคนต้องกลับมารับประทานผักสารเคมีกันเช่นเดิม ในผู้ใหญ่หากมีสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ในปริมาณที่ไม่มาก ร่างกายมีความแข็งแรงพอ ที่จะต่อต้านกับสารแปลกปลอม แต่สำหรับเด็กๆ ความต้านทานของร่างกายยังต่ำมาก คุณพ่อ คุณแม่ควรใส่ใจกับการทำความสะอาดผักผลไม้ให้มากๆ เพื่อลดการสระสมสารเคมีในร่างกายจนทำให้ลูกน้อยเจ็บป่วยได้ วิธีล้างผักผลไม้มีหลากหลายวิธีดังนี้

1. ล้างผักผลไม้ด้วยด่างทับทิม :

ด่างทับทิม หรือ Potassium Permanganate มีลักษณะเป็นเกร็ดแข็งสีม่วงสามารถละลายได้ในน้ำ และเมื่อนำไปละลายน้ำจะให้สีชมพู หรือม่วงเข้ม ด่างทับทิมจัดเป็นสารประ กอบประเภทเกลือ ในการล้างผักผลไม้ควรใช้ด่างทับทิมปริมาณ 20-30 เกล็ดเท่านั้น ผสมในน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดวิธีนี้สามารถลดสารพิษตกค้างลงได้ร้อยละ 35-43
ข้อควรระวัง :
ควรใช้ในปริมารที่พอเหมาะเพราะการใช้ด่างทับทิมในปริมาณที่มากเกินไป จะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร และหากสูดดมไอระเหยของด่างทับทิมเข้าไปมากก็จะทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาได้ รวมถึงหากเข้าตาอาจทำให้ตาบอดได้

2. ล้างผักด้วยน้ำส้มสายชู :

น้ำส้มสายชู หรือ Vinegar เป็นของเหลวที่ได้จากกระบวนการหมัก มีองค์ประกอบหลักคือกรดน้ำส้ม (กรดน้ำส้ม) น้ำส้มสายชูทั่วไปมีความเข้มข้นของกรดตั้งแต่ 4% ถึง 8% โดยปริมาณและอาจสูงถึง 18% สำหรับ picklingน้ำส้มสายชูหมักโดยธรรมชาติยังมีกรดชนิดอื่นๆ ในปริมาณเล็กน้อย เช่น tartaric acid และ citric acid การใช้น้ำส้มสายชูที่มีกรดน้ำส้มความเข้มข้น 5% ของกรดน้ำส้ม ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:10 แช่ทิ้งไว้นาน 10-15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด สามารถลดปริมาณสารพิษลงร้อยละ 60-84
ข้อควรระวัง :
ผักหรือผลไม้ อาจมีกลิ่นของน้ำส้มสายชูติดค้าง และผักบางอย่าง เช่นผักกาดขาว หรือเมื่อรับประทานอาจมีรสเปรียวปนมาได้ ไม่ควรใช้ชามพลาสติกในการล้างด้วยน้ำส้มสายชู เพราะกรดอาจกัดกร่อนพลาสติกได้

3. ล้างผักผลไม้ด้วย น้ำสะอาด ไหลผ่าน :

การล้างผักด้วยน้ำสะอาด จำเป็นต้องเปิดน้ำให้ไหลผ่านอยู่ตลอดเพราะสารเคมีจะได้หลุดไหลไปตามแรงน้ำไหล วิธีการง่ายๆ โดยเด็ดผักเป็นใบๆ ใส่ตะแกรงโปร่งเปิดน้ำให้แรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผักและถูไปมาบนผิวใบของผักผลไม้นานประมาณ 2 นาที การใช้น้ำไหลล้างผักและผลไม้ต้องพิถีพิถันและใช้ เป็นวิธีที่ประหยัดและดีมาก สามารถลดสารพิษลงได้ร้อยละ 25-63 ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของผู้ล้างเป็นสำคัญ
ข้อจำกัด :
เสียเวลานานและใช้น้ำในปริมาณมาก

4. ล้างผักผลไม้ด้วยเกลือ :

เกลือมีชื่อทางเคมีว่าโซเดียมคลอไรด์ (NaCl2) คือเกลือที่ใช้สำหรับใส่และเตรียมอาหารมีรสเค็ม ใช้เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดสามารถลด สารพิษและสารเคมี ลงได้ร้อยละ 27-38
ข้อควรระวัง :
ต้องล้างน้ำสะอาดหลังเเช่น้ำเกลือ 2-3 น้ำ เพราะอาจมีเกลือตกค้างในผักผลไม้ หากได้รับเกลือในปริมาณมาก เสี่ยงตอการเกิดโรคเเทรกซ้อนได้ง่าย เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต เป็นต้น

5. ลดสารเคมีจากผักผลไม้ด้วยการปลอกเปลือกทิ้ง :

ผักประเภทหัว หรือ ประเภทห่อใบ การปอกเปลือกหรือการลอกใบชั้นนอกของผักออก เช่น กะหล่ำปลี ถ้าลอกใบชั้นนอกออกจะปลอดภัยมากกว่า แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดจะช่วยลดปริมาณสารพิษได้ร้อยละ 27-72

6. ล้างผักผลไม้ ด้วยน้ำยาล้างผักผลไม้ โดยเฉพาะ :

น้ำยาล้างผักผลไม้ ประกอบด้วย

โซเดียมโพลีออกซีเอธิลีน แฟตตีอัลกอฮอล์ (sodium polyoxyethylene fatty alcohol)
โซเดียม อัลคิลเบนซีน ซัลโฟเนต (sodium alkyl benzene sulfonate)
โซเดียม ออกไซด์ (sodium oxide)
โซเดียม คาร์บอเนต (sodium carbonate) เอธานอล (ethanol)
กลีเซอรอล (glycerol)
โพแทสเซียม เปอร์แมงกาเนท (potassium permanganate)
อย่างไรก็ตามเนื่องจากองค์ประกอบของน้ำยาล้างผักดังข้างต้น เช่น
โซเดียมโพลีออกซีเอธิลีน แฟตตี อัลกอฮอล์ (sodium polyoxyethylene fatty alcohol)
โซเดียม อัลคิลเบนซีน ซัลโฟเนต (sodium alkyl benzene sulfonate)

กลีเซอรอล เมื่อนำมาใช้ล้างผักสด แม้ว่าจะช่วยลดปริมาณการตกค้างของสารฆ่าศัตรูพืชและสัตว์ แต่หากแช่ผักในน้ำที่ผสมน้ำยาล้างผักและตามด้วยการล้างน้ำไม่ดีพอ สารเคมีที่ใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำยาล้างผักอาจเกิดการปนเปื้อนและดูดซึมเข้า สู่ร่างกายได้ สำหรับการใช้โพแทสเซียม เปอร์แมงกาเนท ยังอาจทำให้ผักบางชนิดเปลี่ยนเป็นสีม่วง และหากใช้ในปริมาณสูงและล้างออกไม่หมดก็อาจทำให้เกิดพิษต่อผู้บริโภคได้เช่น กันวิธีการแช่ผักในน้ำยาล้างผักที่มีวางขายอยู่โดยใช้ความเข้มข้นประมาณ 0.3% ในน้ำ 4 ลิตร แช่ผักนานประมาณ 15 นาที จะลดปริมาณสารพิษฆ่าแมลงได้ร้อยละ 25-70
ข้อควรระวัง :
ต้องดูให้ดีว่าน้ำยาล้างผักมีส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง เพราะในบางครั้งน้ำยาล้างผักจะแทรกซึมเข้าไปในผักซึ่งอาจเป็นอันตรายได้

7. ล้างผักผลไม้ ด้วยโซเดียม ไบคาร์บอเนต :

โซเดียมไบคาร์บอเนต หรือที่คุ้นๆหูกัน คือ เบกกิ้งโซดา ลักษณะเป็นผงผลึกหรือผงละเอียดสีขาว ละลายน้ำได้ดี รสชาติแปร่งเค็มเล็กน้อย มีคุณสมบัติเป็นด่าง หากต้องการล้างผักผลไม้ให้ใช้ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่น 1 กะละมัง แช่นาน 15 นาที แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด ลดปริมาณสารพิษลงได้ถึงร้อยละ 90-95
ข้อควรระวัง :
เบกกิ้งโซดามีส่วนผสมของเกลือหลังแช่ควรล้างผักผลไม้ให้สะอาดและหากมีเบกกิ้งโซดาตกค้างในผักผลไม้ปริมาณมาก อาจทำให้ท้องเสียได้

8. ลดสารเคมี จากผักผลไม้ ด้วยความร้อน :

วิธีการต้มหรือลวกผักด้วยน้ำร้อนสามารถ ลดปริมาณสารพิษในผักผลไม้ได้ ประมาณร้อยละ 50 การต้มอาจทำให้คุณค่าทางโภชนาการของผักผลไม้ลดลงได้ โดยเฉพาะ วิตามิน ซี. วิตามิน บี.1 ไนอะซิน

การลดปริมาณสารเคมีในผักผลไม้มีให้เลือกหลากหลายวิธีแต่ไม่มีวิธีไหนเลยจะสามารถกำจัดสารพิษตกค้างได้ 100% คุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังและทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ควรล้างน้ำสะอาดหลังแช่น้ำยาต่างๆ อย่างน้อย 3 น้ำ เพื่อลดปริมาณสารเคมีให้ได้ มากที่สุด ระมัดระวังเรื่องการรับประทานผักสดในเด็กให้มากขึ้น หลังรับประมาณ หากพบว่ามีอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์

พว. นฤมล เปรมปราโมทย์
http://www.mamaexpert.com/topic/10366



“11 วิธีล้างพืชผักเพื่อลดพิษภัย” จากวารสารหมอชาวบ้าน :

1. ใช้โซดาทำขนมปัง (โซเดียม ไบคาร์บอเนต) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอุ่น 20 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาที ลดสารพิษได้ 90-95 %
2. น้ำส้มสายชู 0.5 % โดยใช้น้ำส้มสายชู อสร. 1 ขวดผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15 นาที ลดสารพิษฆ่าแมลงได้ 60-84 %
3. น้ำไหลแรงพอประมาณ ใช้มือช่วยคลี่ใบผัก ล้างนาน 2 นาที ลดสารพิษฆ่าแมลงได้ 54-63 %
4. แช่ในอ่างน้ำนาน 15 นาที ลดสารพิษฆ่าแมลงได้ 7-33 %
5. ลวกผักด้วยน้ำร้อนลดสารพิษได้ 50 % ส่วนการต้มนั้นลดสารพิษได้ 50 % เช่นเดียวกัน แต่จะมีสารพิษตกค้างในน้ำแกง จึงควรล้างผักลดสารพิษก่อนทำแกง
6. ปอกเปลือก หรือลอกใบชั้นนอกออก เช่น กะหล่ำปลี ฯลฯ ช่วยลดสารพิษลงได้
7. ผงปูนคลอรีน ½ ช้อนชากับน้ำ 20 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ 15-30 นาทีจะฆ่าเชื้อโรคได้ดีมาก
8. ผสมด่างทับทิม 5 เกล็ดต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้
9. น้ำปูนใสอิ่มตัวผสมน้ำเท่าตัว แช่ผักทิ้งไว้
10. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้
11. น้ำซาวข้าวล้างผัก

https://www.gotoknow.org/posts/6540

------------------------------------------------------------------------


จาก :
(065) 726-19xx
ข้อความ : ที่นาดอน 50 ไร่ ของตัวเอง 10 ไร่ เช่า 40 ไร่ ต้องอาศัยน้ำฝนอย่างเดียว น้ำชลประทานได้สุดท้าย เพราะที่นาอยู่สูงกว่าเขา นาปรังปีที่แล้วไม่ได้ทำ นาปีปีนี้อาจจะทำไม่ได้เพราะน้ำฝนไม่พอ น้ำชลประทานไม่ส่งมา เพราะน้ำในเขื่อนไม่มี ขอกำลังใจด้วย.... ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
*** ปัญหามีให้แก้ ไม่ใช่มีให้กลุ้ม .... คนที่จะแก้ปัญหาให้เราได้ คือ คนในกระจก เท่านั้น ***

- ยุคสมัย วันเวลา สังคม ทั่วโลก มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากๆ เรื่องเกษตรผลิตของกิน ทางด้านคนผลิตที่ผลิตเพื่อขายจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้ทันกับคนกินหรือตลาด

- แล้งแล้งแล้ง ฝนไม่ตกโทษรัฐบาล คสช. แล้วรัฐบาลที่สั่งระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อเปิดพื้นที่เหนือเขื่อนไว้รอรับน้ำท่วม ปรากฏว่าน้ำไม่ท่วมแต่น้ำแล้ง ไม่ใช่แล้งปีที่แล้วปีเดียว ยังแล้งต่อปีนี้ ปีหน้า ปีต่อๆไปอีก จะว่ายัง นั่นผลงานฝีมือรัฐบาลไหน .... ง่ายๆ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ปี 54 นานเก่าเกินไป เอาปี 58 ปีที่แล้ว ฝนตกน้ำท่วมระดับเอว น้ำขังค้างนาน 3วัน 5วัน มาปีนี้ สดๆร้อนๆ ปี 59 บาปูที่เดิม ฝนตกเหมือนเดิม น้ำก็ท่วมระดับเอวเหมือนเดิม น้ำขังค้างนาน 3วัน 5วัน เหมือนเดิม ผู้บริหารระดับท้องถิ่น ระดับชาติ ก็พูดเหมือนเดิมอีก เร่งระบาย เร่งระบาย งานนี้ไม่ใช่น้ำท่วม แต่เป็นน้ำรอระบาย แสดงว่า ที่ผ่านมาไม่มีการกระทำใดๆทั้งสิ้น ว่ามั้ย

- บอกแล้วไง ปี 58 ปีที่แล้วแล้งอนุบาล, ปี 59 ปีนี้แล้งประถม, ปี 60 ปีหน้าแล้งมัธยม, ปี 61 แล้งอนุปริญญา, ปี 62 แล้วปริญญาตรี .... วันนี้ ฝนต้นปีน้ำท่วมถนน ท่วมหมู่บ้าน เร่งระบายออก เร่งเร่งเร่ง ระบายน้ำลงแม่น้ำ เตรียมลงทะเลต่อไป ทำไมไม่ทำแก้มลิงเตาขนมครกเก็บน้ำพวกนี้ไว้

- ปีนี้ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนภูมิพล เขื่อสิริกิต เขื่อนป่าสัก วันนี้มีน้ำแค่ 10% .... ลำตะคอง โคราช ช่วงนี้ฝนตกน้ำเข้าวันละ 40,000 คิว แต่ต้องปล่อยน้ำออกไปทำประปา วันละ 200,000 .... ก็ให้น่าสงสัย (สงสัยเพราะอยากรู้) บึงสีไฟ พิจิตร ผู้ว่าฯ สั่งสูบน้ำบาดาลขึ้นมาจากไต้ดินก้นบึง เจาะบาดาล 6 จุดทั่วบึง ระดมสูบน้ำขึ้นมาจากไต้ก้นบึง ทั้งวันทั้งคืน 2 อาทิตย์ ได้น้ำให้คนพอเล่นสงกรานต์ ผู้ว่าฯ เห็นช่องทางสั่งสูบน้ำบาดาลต่อ สูบต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำเต็มบึง .... ให้น่าสงสัยก็ตรงที่ ไต้ดินก้นลำตะคองมีน้ำไหม ? หรือที่บึงบอระเพ็ด บึงพลาญชัย บึงมักกะสัน สารพัดบึงทั่วประเทศ กักเก็บน้ำมานับร้อยนับพันปี ไต้ดินก้นบึงมีน้ำเหมือนที่บึงสีไฟไหม ?

- รัฐบาล คสช.บอกแล้วว่า ถ้าน้ำไม่เต็มเขื่อนจะไม่ปล่อยออกไม่เด็ดขาด ขนาดหน้าฝน เครื่องบินฝนหลวงยังไม่ยอมหยุดทำฝนเทียมช่วยฝนจริง เพราะจะสร้างน้ำให้เต็มเขื่อนให้ได้ ฉะนี้แล้ว ชาวนาข้าวจะทำยังไง ตราบใดที่ยังปลูกข้าวแบบต้นข้าวแช่น้ำครึ่งหน้าแข้ง ทำไม่ได้แน่ แม้แต่นาเปียกสลับแห้งก็ทำไม่ได้ ขอน้ำแค่ไต้ผิวดินก็ทำไม่ได้ เพราะไต้ผิวดิน ....

* ไม่มีอินทรีย์วัตถุ (ฟาง ปุ๋ยอินทรีย์ตราคนกับควาย กระดูกป่น .... สาเหตุคือ เผา ไม่ใส่)
* ไม่มีสารปรับปรุงดิน (ยิบซั่ม.... สาเหตุคือ ไม่ใส่)
* ไม่มีจุลินทรีย์ ทำหน้าที่เสมือนฟองน้ำช่วยซับน้ำไว้ไต้ดิน (สาเหตุคือ เพราะฆ่าจุลินทรีย์ประจำถิ่น กับปฏิเสธจุลินทรีย์ใหม่)

- ความล้มเหลวนาข้าว ข้าวพันธุ์รวมกอง ขายให้โรงสี ทำนา 4 เดือนได้เงิน 1,000 (ลงทุน 7,000 ขาย 8,000) .... นาข้าว 1 ไร่ RKK ต้นทุนค่าปุ๋ย ซื้อ700 ทำเอง300

- ประเทศไทยมีกิจกรรมเกษตร พืชอย่างเดียว มากที่สุดในโลก แต่เกษตรกรไทยไม่รู้จะปลูกอะไร ว่าแล้วปลูกตามข้างบ้าน ผลคือ ล้นตลาด

- ที่ว่า คิดเป็น-ทำเป็น-ขายเป็น .... เอาจริงเข้า
* คิดไม่เป็นเพราะไม่ยอมคิด ไม่ยอมคิดเพราะยึดติด
* ทำไม่เป็น ทำแล้วขาย ขายแล้วขาดทุน ยังทำแบบเดิม
* ขายไม่เป็น ของไม่ดีจะเอาราคาแพงๆ รอรัฐบาลประชานิยม

- ที่เช่า 40 ไร่ บอกคืนไป ทำแค่ 10 ไร่ของตัวเอง แล้ว คิดเป็น-ทำเป็น-ขายเป็น

เลิกนาข้าว :

- ถั่วไร่ 120 วัน เท่ากับนาข้าว ............ ไร่ต่อไร่ ได้มากกว่าข้าว
- ปลูกผักใบ 60 วัน ....................... ไร่ต่อไร่ ได้มากกว่าข้าว
- ผักผล 60 วัน ............................ ไร่ต่อไร่ ได้มากกว่าข้าว

- ผักยืนต้น ทุกวัน (แค ชะอม มะกรูดใบ) ........................ ไร่ต่อไร่ ได้มากกว่าข้าว
- เกษตร 10 ไร่ (ชะอม 3ไร่-หวานบ้าน 3ไร่-กรูดใบ 4 ไร่) ..... ไร่ต่อไร่ ได้มากกว่าข้าว

เตรียมดิน เตรียมแปลง :

- ไถดะ ไถแปร ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์ (อินทรีย์ + เคมี), ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย (อินทรีย์), กระดูกป่น (อินทรีย์), ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ (อินทรีย์) แล้วไถพรวน ทำแปลงลูกฟูก คลุมสันแปลงด้วยหญ้าแห้งหนาๆ

- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (อินทรีย์เคมี 2 ล.) รดทั่วสันแปลง ทุกตารางนิ้ว
- บ่มดิน 15-20 วัน จึงเริ่มลงกล้า

** ปุ๋ยเคมี ไม่ต้อง เพราะในเฟอร์มิกซ์, น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง และปุ๋ยทางใบที่จะให้ ทุกสูตร มีปุ๋ยเคมีเพียงพอแล้ว

เกษตรทางเลือก :
- ถั่วฝักยาว ผักสวนครัวอื่นๆ กินปุ๋ยเคมีแค่นี้
- ถั่วไร่ (เขียว เหลือง แดง ดำ งา ทานตะวัน ข้าวโพด)
- ผักสวนครัว (ใบ ผล ดอก ยอด หัว .... อายุสั้นฤดูกาลเดียว/อายุยืนนาน)
- ไม้ดอก (ร้อยมาลัย)
- เกษตรแจ๊คพ็อต (คะน้าหน้าแล้ง ผักชีหน้าฝน มะลิหน้าหนาว)

บำรุง :
- ถั่วไร่ (เขียว เหลือง แดง ดำ งา)

- ต้นเล็ก : ไบโออิ 25-7-7 + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- เปิดตาดอก : ไทเป
- บำรุงผล : ไบโออิ + ยูเรก้า + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ

ผักกินใบ

- ทางใบ : ยูเรก้า + นมสด + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ครั้งเดียว เริ่มปลูก

ผักกินผล (เถา .... ถั่วฝักยาว ถั่วพู มะระ ฟัก บวบ แตง ฯลฯ)

- ทางใบ : ไบโออิ + ไทเป + ยูเรก้า + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละครั้ง

ผักกินผล (พุ่ม .... มะเขือ พริก ฯลฯ)

- ทางใบ : ไบโออิ + ไทเป + ยูเรก้า + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละครั้ง

ผักกินยอด (ตำลึง มะระแม้ว ชะอม หวานบ้าน หวานป่า ฯลฯ)

- ทางใบ : ไบโออิ 25-5-5 + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 เดือนละครั้ง

ผักกินดอก (ขจร แค ฯลฯ)

- ทางใบ : ไบโออิ + ไทเป + สมุนไพร 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละครั้ง

ผักกินหัว (ขิง ข่า ไชเท้า แคร็อท หอม กระเทียม ฯลฯ)

- ทางใบ : ไบโออิ 5-10-40 + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 5-10-40 เดือนละครั้ง

ไม้ดอก (ดาวเรือง มะลิ กุหลาบ ฯลฯ)

- ทางใบ : ไบโออิ + ไทเป + สมุนไพร 2 รอบ สลับ แคลเซียม โบรอน 1 รอบ
- ทางราก : น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละครั้ง

ศัตรูพืช :

- ฉีดพ่นสมุนไพรบ่อยๆ วันละครั้ง วันละ2ครั้ง วันละ3ครั้ง
- ใช้สมุนไพร สูตรรวมมิตรกันก่อนแก้ สูตรเฉพาะช่วงระบาด
- ไอพีเอ็ม กับดักสีเหลืองกาวเหนียว กับดักกาวเหนียวแสงไฟ

สปริงเกอร์ :

- สปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน/ถังปุ๋ยที่ปั๊ม ..... ทำเอง1,000 ซื้อ10,000
- ประหยัดเวลา แรงงาน พลังงาน .............. 1ไร่ 5นาที แรงงานคนเดียว
- เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องาน ..... ทำบ่อย วันละหลายครั้ง วันเว้นวัน
- สร้างเครดิตและความน่าเชื่อถือ ............... ทำบ่อย ทำได้จริง

สปริงเกอร์ + สารสมุนไพร :

ตี.5 ..... ล้างน้ำค้าง น้ำเปล่า หรือน้ำ+ยาสมุนไพร กำจัด ราน้ำค้าง/ราแป้ง/ราสนิม
เที่ยง ..... น้ำเปล่า หรือน้ำ+ยาสมุนไพร เพลี้ยไฟ ไรแดง
บ่าย ...... ล้างน้ำฝน หรือน้ำ+ยาสมุนไพร กำจัด ราใบจุด
ค่ำ ....... น้ำ+ยาสมุนไพร ไล่แม่ผีเสื้อ ฆ่าหนอน ทำไข่ฝ่อ

กลุ่มปุ๋ย อินทรีย์-เคมี :

- ไบโออิ .............................. เคมีแท้ๆ (เคมีสังเคราะห์)
- ยูเรก้า .............................. เคมีแท้ๆ (เคมีสังเคราะห์)
- ไทเป ............................... เคมี (เคมีสังเคราะห์) อินทรีย์ (เคมีชีวะ)
- ระเบิดเถิดเทิงสูตร .................. เคมี (เคมีสังเคราะห์) อินทรีย์ (เคมีชีวะ)
- ระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล ...... อินทรีย์แท้ๆ (เคมีชีวะ)
- อินทรีย์เกาะขอบ .................... อินทรีย์แท้ๆ (เคมีชีวะ)

- ผักอินทรีย์ : แพง ! แพงตรงไหน ..... ปุ๋ย/ยา ซื้อ100% ทำเอง100% ซื้อ50ทำเอง50
- ผักเคมี : ถูก ! ถูกตรงไหน .......... ปุ๋ย/ยา ซื้อ100%

ต้นทุนเกษตร :

- ปุ๋ย 30% ............ ยึดหลัก สมการปุ๋ยฯ
- ยาฆ่าแมลง 30% .... ยึดหลัก สมการสารสมุนไพรฯ

- เทคโนโลยี 20% ..... ยึดหลัก เทคโนโลยีวิชาการ + เทคโนโลยีชาวบ้าน (การปฏิบัติ เครื่องทุ่นแรง ระยะสั้น/ระยะปานกลาง/ระยะยาว จุดคุ้มทุน การตลาด)

- โอกาส 20% ........ ยึดหลัก ซูพรีม-พรีเมียม-เกรด เอ.-จัมโบ้-โกอินเตอร์-ขึ้นห้าง-ออกนอกฤดู-ปลอดสารเคมี-คนนิยม

*** ปุ๋ยทุกสตร ยาทุกตัว ที่นี่ บอกครบแล้ว สอนครบแล้ว แต่คุณไม่เอาเอง ... หรือเปล่า ***

-----------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©