-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ6MAY *สารสมุนไพร (54), ผักหวานป่า
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ6MAY *สารสมุนไพร (54), ผักหวานป่า

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 10/05/2016 11:46 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ6MAY *สารสมุนไพร (54), ผักหวานป่า ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 6 MAY

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)


----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

------------------------------------------------------------------------



สารสมุนไพร (54)

การทำ .... สมุนไพร
น้ำหมักชีวภาพ “สูตรข้าวกล้อง” ป้องกันเพลี้ย :

“น้ำหมักชีวภาพ” สูตรหมักจากข้าวกล้อง ที่ว่านี้ มีคุณสมบัติพิเศษที่ได้รับการยืนยันจากปราชญ์ชาวบ้านหลายท่านว่า สามารถควบคุมการระบาดของเพลี้ย ป้องกันโรคจากเชื้อแบคทีเรียในพืชได้
วัตถุดิบ :
- ข้าวหุงสุก 3 กก.
- น้ำตาลทรายแดง หรือกากน้ำตาล 6 กก.
- แป้งเหล้า 3 ลูก
- น้ำเปล่า 15 ล.
- ถังพลาสติกที่มีฝาปิด (สำหรับหมัก)
วิธีทำ :
- อันดับแรกให้นำข้าวกล้องที่หุงสุกแล้ว คลุกเคล้ากับแป้งเหล้าที่บดละเอียดขณะอุ่นๆ หมักทิ้งไว้ในถังพลาสติกที่มีฝาปิด ตั้งไว้ในที่ร่ม 3 วัน จากนั้นให้เติมน้ำเปล่า 15 ล. และเติมน้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล 6 กก. คนให้เข้ากัน หมักต่ออีก 15 วัน เป็นอันใช้ได้ครับ
วิธีใช้ :
ก่อนอื่นให้เรานำน้ำหมักที่ได้มากรองเอาแต่น้ำ ก็สามารถนำไปใช้ได้เลย ส่วนกากเรายังสามารถนำไปใส่รอบๆ โคนต้นไม้เป็นปุ๋ยได้ หากจะใช้รดพืชผักทั่วไปให้ใช้ 15-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตรผสมลงในบัวรดน้ำแล้วรดพืชผักได้เลย หรือจะใช้ในปริมาณ 10-15 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบก็ได้ และสำหรับน้ำหมักสูตรนี้หากใช้บำรุงต้นข้าวก็จะทำให้ข้าวมีรวงโต เม็ดเต็ม สมบูรณ์ และยังสามารถป้องกันโรคข้าวได้ด้วย

ที่มา : กองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร
เขียนโดย Sivakorn (korn.tym@gmail.com)

http://em-rice.blogspot.com/2014/05/blog-post_9721.html
------------------------------------------------------------------------

จาก : (067) 189-36xx
ข้อความ : นานแล้ว ลุงคิมพูดเรื่องผักหวานป่า แล้วไม่ได้พูดอีกเลย หน้าฝนนี้ผมจะกลับบ้านเชียงราย บ้านผมเป็นบ้านเล็กในป่าใหญ่ ผมเลี้ยงไม้ใหญ่ตามธรรมชาติไว้ทุกต้น แล้วผมปลูกพืชอายุสั้น เสริมแซมแทรก ตามแบบผู้พัน ตอนนี้ผมสนใจไม้อายุยืน ผักหวานป่า ผู้พันว่าดีไหมครับ .... เคารพผู้พัน คนขับแท็กซี่ ไม่มีอินเตอร์เน็ต
ตอบ :
“บ้านเล็กในป่าใหญ่”
.... บทเรียนจาก จ.น่าน 80% ของพื้นที่เป็นภูเขา วันนี้เป็นภูเขาหัวโล้น ปัญหานี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ถึงวันนี้จะแก้ไขอย่างไร ? ที่อื่นมีปัญหาแบบนี้ไหม ? เลี้ยงไม้ใหญ่ไว้ แล้วปลูกพืช เสริม/แซม/แทรก ได้ไหม ? ดีไหม ? ....

กรณีศึกษา ชาวนา อ.สิรินธร อุบลราชธานี เขตป่าสงวน ต้นยางเต็งรังขึ้นห่างๆกัน 20-30-50 ม. ช่องว่างระหว่างต้นไม้ใหญ่ หน้านาทำนา หมดหน้านาไม่ยอมปลูกพืชผักอื่น อ้างว่าเป็นป่าสงวน จะเอาโฉนด เอาโฉนดไปกู้เงินมาลงทุน

ทหารไปแจกกล้าผัก 10ผัก ผักละ 20 ต้น ....
ทหารไปแจกไก่ ตัวเมีย 5 ตัวผู้ 1 .....

“ไม้อายุยืน ผักหวานป่า” .... นอกจากผักหวานป่าแล้ว ผักอย่างอื่นที่อายุยืนเหมือนผักหวานป่ามีไหม ? พืชผักอายุสั้นฤดูกาลเดียวได้ไหม ?
---------------------------------------------------------------------

คำถามใหม่ คนถามใหม่ .... คำตอบเก่า :
@@ วิธีการปลูกผักหวานป่า :

- คัดเลือกเมล็ดสุกคาต้น สีเขียวอมเหลืองถึงสีเหลือง ไม่ควรให้สุกงอม หรือร่วงจากต้น ปกติจะเมล็ดผักหวานป่าสุกราว ม.ย. – พ.ค.

- นำเมล็ดมาล้างเปลือกและเนื้อออกจนเหลือแต่เมล็ดใน ทำเบาๆอย่าให้เมล็ดช้ำหรือแตก แล้วนำลงปลูกทันที ทั้งนี้เมล็ดผักหวานป่าไม่มีระยะพักตัว หรือห่มเมล็ดในผ้าชื้นประมาณ 48-72 ชม. ก่อน เมื่อเมล็ดเริ่มมีตุ่มตาจึงนำไปปลูกก็ได้

- หลักการเพาะเมล็ดในถุงเพาะชำก่อน บำรุงจนเป็นต้นโตตามความเหมาะสมแล้วจึงย้ายกล้าลงปลูกลงแปลงจริงเหมือนไม้ทั่วๆไปนั้น นำมาใช้กับผักหว่านป่าไม่ได้ ทั้งนี้เพราะระบบรากผักหวานป่าอ่อนแอมาก ช่วงที่ย้ายกล้าจากถุงเพาะชำลงแปลงจริง ระบบรากกระทบกระเทือนแล้วเป็นเหตุให้ต้นชะงักการเจริญเติบโต หรือตายได้ .... วิธีการเพราะเมล็ดและปลูกผักหวานป่าที่ดีที่สุด คือ นำเมล็ดที่พร้อมแล้วลงปลูกในแปลงจริง ณ จุดที่ต้องการทันทีเลย แล้วปล่อยให้ต้นโตอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีการย้ายอีกเด็ดขาด หากย้ายก็จะทำให้ระบบรากกระเทือนทำให้ต้นตายได้อีก

- ผักหวานป่าต้องการไม้พี่เลี้ยง แนะนำให้ผปลูกยืนต้นตระกูลถั่ว เช่น มะขามเทศ สะเดา พุทรา ก้ามปู ลงไปก่อนแล้วปลูกผักหวานป่า แซม/แทรก ในไม้พี่เลี้ยง แล้วให้ผักหวานป่าอยู่กับไม้พี่เลี้ยงนั้นไปตลอดชีวิต .... ผักหวานป่าในป่าจริงๆ อยู่ไต้ร่มไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตดีกว่าต้นที่อยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง
หมายเหตุ :
มีที่ดิน 10 ไร่ ลงผักหว้านบ้าน 3 ไร่, ชะอม 3 ไร่. มะกรูดตัดใบ 4 ไร่. จะมีรายได้เข้าบ้านทุกวัน ๆละ 2,000 ด้วยแรงงาน 2 คน ผัวเมีย หรือแรงงาน 3 คน ผัวเมียเมีย ดีล่ะ
---------------------------------------------------

ประสบการณ์ตรง :

ซื้อกล้าผักหวานป่าจากสวนผักหวานป่า ต้นกล้าอายุ 8 เดือน สภาพต้นใบแก่แล้ว มียอดแตกใหม่ รากโตยาวทะลุออกมานอกถุงแล้ว ซื้อมา 100 ต้น ราคาต้นละ 50 บาท ได้มาแล้วพักไว้ 1 เดือน จึงเอาลงปลูกในแปลง หลังปลูก 6 เดือน ทุกต้นไม่มีแตกยอดใหม่ 70 ต้น ยอดเหี่ยวใบแห้งตายไปแล้ว ที่เหลือไม่มีแววว่าจะรอดเลย ผมควรทำอย่างไรครับ

วิเคราะห์สาเหตุแห่งความล้มเหลว

1. ระบบรากผักหวานป่าอ่อนแอมาก การย้ายถุงแม้จะมีดินหุ้มรากดีแค่ไหนก็อดกระทบกระเทือนไม่ได้ รากกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยก็ชะงัก หรืออาจะถึงตายได้แล้ว .... การแก้ไขทำโดย ไม่มีการย้ายต้นกล้าเด็ดขาด ปลูกตรงไหนแล้วปล่อยให้โตอยู่ตรงนั้นเลย

2. ต้นกล้าอายุแค่ 8 เดือน ถือว่าน้อยมากๆ สำหรับผักหวานป่า เปรียบได้กับเด็กทารกเท่านั้น .... กล้าผักหวานป่าที่โอกาสรอดสูง กิ่งตอนต้องอยู่บนต้น 1 ปี ตัดมาอนุบาลต่ออีก 1 ปี จนรากแก่จัด, เพาะเมล็ดต้องอยู่ในถุงชำ 1 ปี อยู่ในเรือนเพาะชำอีก 1 ปี รวมอายุกล้า 2 ปี

3. ไม้พี่เลี้ยง เลือกไม้ยืนต้นประเภทตระกูลถั่ว ที่ระบบรากจับไนโตรเจนจากอากาศได้ อยู่กับรากผักหวานบ้าน แล้วผ่องถ่ายไนโตรเจนให้กับผักหวานบ้านได้

4. ดินในหลุมปลูก ปัญหาจากปุ๋ยคอกใหม่ ปุ๋ยเคมีเกิน น้ำมากเกิน

แก้ปัญหา

- เลิกซื้อต้นกล้า แล้วเพาะกล้าเองอย่างถูกวิธี
- เตรียมแปลงปลูก แล้วปลูกอย่างถูกวิธี

เพาะเมล็ดเลี้ยงกล้าในกระบะ :

- เก็บเมล็ดผักหวานป่าช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. ของทุกปี โดยเลือกเก็บเมล็ดแก่จัดคาต้น คาดในอีก 1-2-3 วันจะร่วง หรือเก็บลูกที่ร่วงจากต้นใหม่ๆ ไม่เกิน 1-2 วัน เป็นเมล็ดจากผลขนาดใหญ่ สมบูรณ์

– นำผลสดใหม่ลง “น้ำ + สังกะสี. + โบรอน + ไคโตซาน” ทันทีที่ได้มา ทั้งนี้เมล็ดผักหวานป่าไม่มีระยะพักตัว ใช้มือสวมถุงมือพลาสติก (ยางในเมล็ดผักหวานป่ากัดผิวหนังที่มือ) ขยำผลเพื่อแยกเอาเปลือกและเนื้อออกจากเมล็ด ระวังอย่าให้เมล็ดกระทบกระเทือน (สังกะสี. โบรอน. ส่งเสริมการงอกของรากของเมล็ด....ไคโตซาน.ป้องกันกำจัดเชื้อโรค)

– นำเมล็ดที่ล้างแล้วลงปลูกในกระบะ วัสดุปลูก “ขุยมะพร้าวแห้งเก่า + แกลบดำเก่า + ปุ๋ยคอกเก่า” อัตราส่วน 1:1:1 เปียกน้ำประมาณ 50% หนา 20-30 ซม. อันแน่นเท่าที่แน่นได้

– วางเมล็ดลงไปลึกแค่ “ครึ่งเมล็ด” ใช้หญ้าแห้งปิดบนรักษาความชื้น เก็บกระบะเพาะเมล็ดในเรือนเพาะชำ ให้น้ำโดยการสเปร์ยบนหญ้าแห้ง 2-3 วัน/ครั้ง

- ประมาณ 5-7 วัน จะเริ่มเกิดรากก่อน จากนั้น 30-45 วัน จึงจะเริ่มเกิดยอด (เมล็ดผักหวานป่า รากงอกก่อนต้น)

- เลี้ยงกล้าผักหวานป่าในเรือนเพาะชำนาน 2-3 ปีขึ้นไปจึงย้ายไปปลูกในแปลงจริง

เพาะเมล็ดเลี้ยงกล้าในแปลงจริง :

1. เตรียมดินเตรียมแปลง ใส่ยิบซั่ม. ปุ๋ยอินทรีย์, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, กระดูกป่น, ไถดะไถแปรไถพรวนทำร่องลูกฟูก รดด้วยน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง คลุมแปลงด้วยหญ้าแห้ง วางแผนรดด้วย น้ำ+น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง เดือนละครั้ง ..... อินทรีย์วัตถุและสารอาหารจากน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงจะแฝงอยู่ในเนื้อดินสำหรับผักหวานในอนาคต

2. กำหนดจุดปลูกไว้ล่วงหน้า พร้อมกับปลูกกล้วยลงตรงนั้นไปก่อน
3. ที่ว่างระหว่างกอกล้วย ปลูกไม้พี่เลี้ยง เช่น มะขามเทศ กระท้อน มะรุม แค น้อยหนา ลำไย สะเดา ก้ามปู บำรุงไม้พี่เลี้ยง ควบคู่กับบำรุงกล้วยตามปกติ กระทั่งกล้วยเริ่มแทงหน่อ ไม้พี่เลี้ยงเริ่มโตเป็นร่มเงาได้ .... คงดีไม่น้อย เลือกไม้พี่เลี้ยงแล้วบำรุงเอาผลผลิตด้วย ปุ๋ยที่บำรุงไม้ผลพี่เลี้ยงแม้จะไปโดนผักหวานป่าบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะผักหวายป่าเอาแค่ยอดเท่านั้น

4. เตรียมเมล็ดเหมือนการเตรียมเมล็ดสำหรับเพราะในกระบะ หยอดลงที่ใจกลางกอกล้วย เหมือนหยอดเมล็ดในกระบะ บำรุงตั้งแต่เป็นต้นกล้ากระทั่งโต ต้นโตแล้วไม่มีการย้ายอีกตลอดชีวิต
------------------------------------------------------------------------

ประสบการณ์ตรง :

ซื้อกล้าผักหวานป่ามา 100 ถุง หมดไปหลายตังค์ เจ้าของบอกว่า ชำมานาน 6-8 เดือน รากเดินดีแล้ว เปอร์เซ็นต์รอดสูงมาก ปลูกได้ 3 เดือน ตายไปครึ่ง หนึ่ง อีก 3 เดือนตายอีกครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เหลือแค่ 4 ต้น ทำท่าจะตายมิตายแหล่ ยืนต้นนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่อยากไปต่อว่าคนขายต้นพันธุ์ ไม่งั้นชกกันแน่ อยากเปลี่ยนมาเป็นปลูกแบบเพาะเมล็ด แต่ไม่รู้ว่าเพาะแบบไหน ผู้พันช่วยด้วยครับ....

@@ จุดอ่อน (ธรรมชาติ) ของผักหวานป่า 2 ระยะ คือ 1) ระบบราก 2) ไม้พี่เลี้ยง
* ระบบราก .... ต้นกล้าผักหวานป่าที่ได้จาก กิ่งตอนหรือเพาะเมล็ด ระยะแรกต้องอนุบาลในถุงชำ ในเรือนเพาะชำ เลี้ยงกระทั่งโตได้ตามต้องการแล้ว จะย้ายจากถุงชำลงในหลุมปลูกจริง ระหว่างขั้นตอนการถอดต้นกล้าที่ยังมีวัสดุปลูกห่อหุ้มรากอยู่แล้วนำลงหลุมปลูก กับลงหลุมแล้วกดดินในหลุมนี้นี่แหละ “กระทบกระเทือนราก” แม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลเสียต่อต้นกล้า ทำให้ต้นกล้าไม่เจริญเติบโต แล้วยืนตายหรือนั่งหลุมตาย
– แนวทางแก้ปัญหาระบบราก :

* การตอนกิ่ง :
เลือกกิ่งกระโดง กลางอ่อนกลางแก่ สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคแมลง, ควั่นกิ่ง ขูดเยื่อเจริญ เหมือนตอนกิ่งไม้ยืนต้นทั่วไป ณ จุดรอยต่อระหว่างระหว่างกิ่งอ่อนต่อกิ่งแก่, ใช้ภู่กันจุ่มฮอร์โมนเร่งราก (น้ำสอาด 1 ถ้วยกาแฟ ละลายกะปิ 1 ก้อนเท่าปลายก้อย) ทาบนแผลที่ควั่นกิ่ง แล้วหุ้มด้วยตุ้มตอนตามปกติ (ตุ้มตอน : ขุยมะพร้าวเก่า แช่น้ำผสมน้ำมะพร้าวแก่ 24 ชม.) .... เทคนิคเฉพาะกิ่งตอนผักหวานป่า

- แม้กิ่งจะออกรากไม่ยาก แต่การเลี้ยงรากในตุ้มตอนต้องระยะเวลานาน 6 เดือนถึง 1 ปี จึงต้องทำตุ้มตอนให้แข็งแรง พร้อมที่จะอยู่ได้นานๆ

– ระหว่างที่ตุ้มตอนยังอยู่บนต้น ยังไม่ได้ตัดลงมา อาจมีการให้น้ำที่ตุ้มตอนบ้าง ไม่ให้ขุยมะพร้าวแห้งมากเกินไป

- เลี้ยงรากในตุ้มตอนขณะยังอยู่บนต้นให้แก่จัด รากส่วนโคนเป็นสีน้ำตาลไหม้ ส่วนปลายรากโชว์ความสมบูรณ์ชัดเจน

– ตัดกิ่งตอนลงมาแล้วนำลงถุงเพาะชำตามปกติ เลี้ยงในเรือนเพาะชำ (แสงแดด 30-50%) เป็นระยะเวลานาน 6 เดือนถึง 1 ปี ให้รากเจริญเต็มที่ภายในถุง จนปลายรากส่วนหนึ่งแทงทะลุออกมานอกถุงให้เห็นได้

– ระหว่างอนุบาลในเรือนเพาะชำ บำรุงด้วย “น้ำ 20 ล. + น้ำหมักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ 10-20 ซีซี.” 2-3 รอบ ห่างกันรอบละ 1-2 เดือน

* การเพาะเมล็ด :

- เลือกผลผักหวานป่า แก่จัด สุกคาต้น สมบูรณ์ ไม่มีโรคแมลง นำมาแล้วล้าง “เนื้อ+เปลือก” ออกให้หมด ด้วยการขยำเบาๆ อย่าให้เมล็ดในช้ำ เสร็จแล้วเมล็ดจมน้ำไปเพาะ เมล็ดลอยไม่สมบูรณ์ทิ้งไป

- นำเมล็ดล้างเสร็จใหม่ๆลงเพาะทันที เพาะในถุงชำ เลี้ยงในเรือนเพาะชำจนต้นโตเต็มที่ (ระยะเวลาข้ามปี) แล้วจึงนำไปปลูกในแปลงจริง หรือหยอดเมล็ดในแปลงจริง ณ จุดที่กำหนดไว้ก่อน เลี้ยงต้นกล้าจนเป็นต้นโต ไม่มีการขุดย้ายอีก .... การเพาะเมล็ด ณ จุดที่ต้องการปลูกจริง แนะนำให้หยอดเมล็ด 2-3-4 เมล็ด เผื่องอกเผื่อไม่งอกไปในตัว เมล็ดงอกขึ้นมาให้แล้ว อาจะเลี้ยง 2-3 ต้นในหลุมเดียวกัน แล้วปล่อยให้โตไปด้วยกันก็ได้ ทั้งนี้ธรรมช่าติของผักหวานป่า นอกจากเป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็กแล้ว ยังโตช้าอีกด้วย อายุต้น 10-15 ปี ลำต้นที่คอดินโตประมาณหน้าแข้งคนเท่านั้น

ไม้พี่เลี้ยง ....

– ธรรมชาติผักหวานป่าที่เกิดเองในป่า มักเกิดไต้ร่มไม้ใหญ่ มีแสงแดดส่องลงมาได้ 30-50% เท่านั้น
- ก่อนย้ายกล้าจากถุงเพาะชำลงปลูก หรือจะหยอดเมล็ดลงปลูก ณ จุดที่ต้องการปลูกกจริงเลย ควรปลูกไม้ยืนต้นประเภทโตเร็ว เช่น สะเดา มะขามเทศ สำหรับป็นไม้พี่เลี้ยง (อายุ 3 ปี สูงท่วมหัวคน) หรือไม้ยืนต้นชนิดอื่นๆเลียนแบบธรรมชาติ จากนั้นจึงปลูกผักหวานป่าลงแทรกระหว่างใม้พี่เลี้ยง .... เทคนิคการปลูกกล้วย ณ จุดที่ต้องการปลูก (ทั้งกล้าจากถุง และหยอดเมล็ด) ให้ปลูกกล้วยลงไปก่อน เมื่อกล้วยโตขึ้นให้ปลูกต้นกล้าลงที่ใจกลางกอกล้วย หรือหยอดเมล็ดที่ใจกลางกอกล้วย กล้าผักหวานป่านอกจากจะได้รากกล้วยสร้างความชุ่มชื้นแล้ว ยังได้ประโยชน์จากจุลินทรีย์กลุ่มแอ๊คติโนมัยซิส.เป็นพี่เลี้ยงตรึงไนโตรเจนให้อีกด้วย .... เลี้ยงปลูกผักหวานป่าจนโตเก็บผลผลิตได้แล้ว (นาน 3-5 ปี) จึงตัดแต่งกิ่งควบคุมทรงพุ่มไม้พี่เลี้ยง

บำรุงผักหวานป่า
ทางใบ :
ให้ไบโออิ + ยูเรีย จี 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 10-15 วัน
ทางราก : ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, ขี้วัว, ใบไม้แห้งคลุมโคนต้น ทุก 6 เดือน, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 เดือนละครั้ง .... ปุ๋ยเคมีไม่ต้องให้
------------------------------------------------------------------------


รวยทะลัก ! ด้วย “ผักหวานป่า” ฟันรายได้เดือนละหลักแสน

ชีวิตต้องสู้มุ่งสืบทอดธุรกิจครอบครัวแบบเกษตรก้าวหน้า “สวนผักหวานป่าเจริญทรัพย์” ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 40 ปี ในเนื้อที่ 40 ไร่ เก็บเกี่ยวผลผลิต 3 วัน/ครั้ง ประมาณ 800 กิโลกรัม ฟันกำไรถึง 6-7 พันบาท/ครั้ง เฉลี่ยต่อเดือนสร้างรายได้อู้ฟู่ทะลุหลักแสน จนทำให้ตระกูล “เจริญทรัพย์” ก้าวสู่เศรษฐีชาวสวนเพียงชั่วข้ามคืน

คุณณัฐติกาญจน์ เจริญทรัพย์ ทายาทสวนผักหวานป่าเจริญทรัพย์ เข้ามาสานต่อธุรกิจจากคุณแม่ที่ได้ปลุกปั้นมากับมือนานนับ 40 ปี โดยปัจจุบันมีเนื้อที่สวนผักหวานป่าทั้งหมด 40 ไร่ แบ่งหน้าที่การดูแลให้แก่คนงานช่วย ๆ กันประมาณ 5 คน นอกจากจะปลูกผักหวานแล้ว ยังปลูกพืชล้มลุกต่างๆ แทรกเพื่อเสริมรายได้อีกหลายทาง

เหตุผลที่หันมาสืบทอดธุรกิจเกษตร “สวนผักหวานป่าเจริญทรัพย์”

คุณณัฐติกาญจน์ เล่าว่า “สวนผักหวานเป็นธุรกิจของครอบครัวที่ช่วยให้มีฐานะเลี้ยงดูตนมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งตอนนี้เราเป็นทั้งชาวสวนและแม่ค้าไปพร้อมกัน เพื่อบริหารธุรกิจเกษตรอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนวิธีปลูกผักหวานป่าก็ง่ายๆ เหมือนปลูกพืชทั่วไปเลย คือ

1. ต้องเริ่มปลูกต้นมะขามเทศ เพื่อให้เกิดร่มเงาก่อน เพราะผักหวานไม่ชอบแสงแดด และการปลูกต้นมะขามต้องเว้นระยะห่างประมาณ 3 เมตร

2. ก่อนนำผักหวานลงปลูก ให้ขุดดินลึกราว 1 หน้าจอบ
3. ทำการครอบเข่งที่มีปากขนาด 30 ซม. (การครอบเข่งจะช่วยให้เกิดร่มเงา และถ้าจะเอาครอบเข่งออก ต้องให้ผ่านไป 1 ปีก่อน)

4. นำไม้ไผ่สั้นมาปัก เพื่อยึดเข่งไม่ให้เคลื่อน เพราะหากเคลื่อน อาจทำให้เป็นอันตรายต่อผักหวานได้
5. ในช่วงแรกให้ลดน้ำ 2 วัน/ครั้ง จนครอบ 1 ปี ค่อยเว้นระยะอาทิตย์ละครั้ง
6. เมื่อครบอายุ 2 ปี ให้ตัดแต่งกิ่ง รูดใบออก เพื่อบังคับให้ยอดอ่อนงอกออกมา แล้วนำไปขายได้เลย”

เทคนิคการกระตุ้นผักหวานให้ออกยอดเร็วๆ

1. ให้ตัดแต่งกิ่งใบล่วงหน้า 30 วัน ก่อนครบกำหนดเก็บเกี่ยว
2. ให้น้ำสม่ำเสมอตามระยะที่กำหนด
3. ให้ฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นยอดผักหวาน (ฮอร์โมน 18 ช้อนแกง .... นมผง 10 ช้อนแกง + เครื่องชูกำลัง 2 ขวด + น้ำสะอาด 200 ลิตร) .... ในช่วงฤดูฝน ใบของผักหวานจะเป็นลาย ให้ผสมสารป้องกันเชื้อราลงไปด้วย

วิธีการเก็บยอดผักหวานป่า

1. ต้องหักสุดก้านไม่ให้เหลือต่อเลย เพื่อให้ยอดครั้งต่อไปขึ้นง่ายๆ
2. ขนาดที่จะเก็บ ขึ้นอยู่กับความยาวของยอดตามที่ตลาดต้องการด้วย โดยปกติมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ
1. ความยาว 10 ซม. ราคา 300 บาท/กิโลกรัม
2. ความยาว 15 ซม. ราคา 200 บาท/กิโลกรัม
3. ความยาว 20 ซม. ราคา 100 บาท/กิโลกรัม

สำหรับระยะการเก็บเกี่ยวตามช่วงฤดูกาล “ช่วงหน้าหนาวผลผลิตจะดี แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนผลผลิตจะแย่ลง เนื่องจากผักหวานป่าชอบอากาศหนาว ฉะนั้นราคาขายในช่วงหน้าหนาวอยู่ที่ 100 บาท แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนราคาอยู่ที่ 40-50 บาท

นอกจากนี้ตลาดหลักๆ ตอนนี้อยู่ที่ตลาด 2 แห่งคือ ตลาดไท ส่งขายครั้งหนึ่งประมาณ 500-800 กิโลกรัม แต่ก็ขึ้นอยู่กับอัตราการสั่งซื้อของแม่ค้าด้วย และตลาดสี่มุมเมือง ส่งขายครั้งหนึ่งประมาณ 400 กิโลกรัมถึง 2 ตัน ซึ่งถ้าให้เฉลี่ยรายได้สำหรับการขายผักหวานป่าในแต่ละครั้งก็ประมาณ 6-7 พันบาท ภายใน 1 เดือนมีรายได้เกือบแสน”

การลงทุนสวนผักหวาน

“ปลูกผักหวานป่าจำนวน 1 ไร่ ต้องใช้ต้นผักหวานประมาณ 400-600 ต้น ใช้เงินลง ทุน 35,000 บาท (สำหรับการลงมือปลูกเอง) แต่ถ้าจ้างคนงานปลูก ต้องใช้เงินลงทุนถึง 50,000 บาท เพราะต้องจ่ายค่าแรงงานด้วย ฉะนั้นทางที่ดีปลูกเองดีกว่า จะได้ลดภาระค่าใช้จ่าย ส่วนพันธุ์ผักหวานที่ปลูกมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์ คือ ผักหวานป่าพันธุ์ใบกลมเขียว ก้านใหญ่ น้ำหนักดี แต่ตลาดต้องการผักหวานป่าพันธุ์ใบรีมากกว่า ซึ่งจะมีลักษณะเหลืองนิดๆ ออกสีทองสวย แต่น้ำหนักน้อย”

สำหรับเกษตรกรที่สนใจปลูกผักหวาน

1. ต้องมีความอดทน
2. ต้องมีความตั้งใจ
3. ต้องไม่ล้มเลิกง่ายๆ และ
4. ต้องเชื่อมั่นในผลงา

ทั้งนี้ถ้าใครสนใจปลูกผักหวานป่า สามารถเข้ามาศึกษาที่ “สวนผักหวานป่าเจริญทรัพย์” ได้เลย โดยโทร.มาได้ที่เบอร์ 087-116-2338 ที่ตั้งสวนอยู่ที่ ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี”

http://bangkoksme.com
----------------------------------------------------------------------



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 16/05/2016 4:15 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
teeen2005
สาวดาม
สาวดาม


เข้าร่วมเมื่อ: 19/11/2012
ตอบ: 163

ตอบตอบ: 16/05/2016 11:47 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ขอกราบครูบาอาจารย์คือลุงคิม และพี่ๆร่วมเวบและร่วมโลก วันนี้ก็โพสต่อจากการจองพื้นที่ไว้หลายวัน จากกระทู้บนของลุงคิมก็บอกการปลูกผักหวานป่าไว้หมดครอบคลุมแล้ว แต่วันนี้จะมาบอกวิธีแนวของผม จากการศึกษาตามเวบ เช่นเกษตรพอเพียง เวบๆๆๆ youtube และการสังเกตจาการปลูกแถวที่อยู่ จนได้วิธีที่คิดว่าน่าจะไว้และการรอดของผักหวาน สี ลำต้น ใบ แต่มีคนเขาทำวีดีโอมาให้ดูแล้วเข้าไปดูเอง (ผมไม่อยากอธิบายมากเพราะมันเหมือนกัน)

หัวข้อ รวมเคล็ดไม่ลับ ปลูกผักหวานป่าให้เก็บขายได้ภายใน 1 ปี 4 เดือน วิดีโอของคุณ Sivakorn Pookanha6 งอัปเดตล่าสุดเมื่อ 20 ก.ค. 2015 มีอยู่ 6 ตอน ดูให้จบ

https://www.youtube.com/playlist?list=PLd8YH1o-FLfgNOmMBiy16P_I4jmN50E2S


ขอเสริมน่ะครับ ให้ดูในหลายคน(มีหลายคนใน FMTV)ไว้ในแต่ล่ะคนมีเทคนิคดีมาก เช่นเรื่องดินเรื่องการจัดการไร่ผักหวาน


*วิธีการในการเพาะผักหวานป่า

1.เลือกเม็ดผักหวานที่สุกเขียวอมเหลืองจนถึงเหลืองจัด แกะเอาเปลือกออก และเนื้อในออก(ถ้าไม่เอาออกจนหมดจะเกิดเชื้อราขึ้นเม็ดผักหวาน) เอาออกจนถึงเม็ดแข็ง โดยใช้ทรายขัดออก(ง่ายๆ) เมื่อได้แล้วก็เอามาผึ่งลมในที่ล่มสัก 1-2วันให้เยื้อหุ้มแห้งดีๆ ถ้าเก็บเม็ดไว้นานอัตราการงอกก้จะลดลง(พวกซื้อตามเวบด้วยแหละตัวดีเลยไม่รู้เก็บเม็ดไว้นานหรือยัง แต่ไม่มีเม็ดผักหวานสดก็ซื้อเขาเถอะ เสี่ยงเอา 100เม็ดขึ้นสัก 50ก็ดีแล้วเม็ดละ 2 บาทขึ้นไป)

2.หาทรายหยาบใส่กะบะ(เจาะรูด้านก้น)แล้วรดน้ำพอเปลียก ต่อมาเอาเม็ดผักหวานปักลงครึ่งเม็ดเอาด้านล่างลง (ดูจากไหนด้านล่างด้านบน ด้านบนคือติดขั้วผล ด้านล้างคือตรงข้ามกัน) รอประมาณ 15-30 วัน แต่20-25 วันรากจะยาวแล้วผมจะเอาประมาณ15 วันแค่นั้น(รากมันเป็นตุ่มๆไม่ยาวมาก ถ้ารากยาวแล้วถอนไปปลูกในถุงจะตายได้ รากหัก ดูในวีดีโอเอาเอง)

*ต้นไม้พี่เลี้ยง
3.เตรียมถุงปลูกก็ดินซื้อหรือดินแถวบ้านนั้นแหละแล้วแต่จะผสมเอาเอง(ในเวบต่างมีบอก) รดน้ำสักเอาเม็ดแคบ้านเอามาใส่ 2-3เม็ด ทำไมเลือกแค่นา คือโตไว้ พืชตะกูลถั่ว(มีปมรากใช้สำหรับตรึงไนโตรเจนN ไว้ให้ผักหวานได้กิน 24 ชม) เมื่อเม็ดผักหวานได้รากตาตุมหรือรากยาวไม่มาก ก็เอามาลงปลูกโด
ยเอาไม้แหลมเจาะนำทางที่ถุงปลูก(มีเม็ดแคบ้านด้วยน่ะ หรือปลูกแค่บ้านในถุงสัก 1 เดือนก่อนก็ได้) เจาะเป็นรูให้ลึกมากกว่าความยาวรากของผักกหวาน 1ถุงเพาะปักเม็ดผักหวานสัก 1-2 เม็ดแล้วเอาแกลบ

4.รอและรอ ให้ผักหวานโตพร้อมกับแค่บ้าน ผักหวานใบเลี้ยงสัก 2ใบ หรือปลูกตอนต้นแคบ้านโตได้พอประมาณ(ต้นผักหวานยังไม่แทงต้นอ่อน) ก็เอาไปปลูกตามใจชอบ ระวังให้ดีรากผักหวานอ่อนแอ

ขอจบตรงนี้ เพราะถึงตอนนี้ก็ทางใครทางมัน(แนวทางใครทางมันที่จะพัฒนาต่อยอดเอาเอง)

ผมคิดว่าจะเล่านิทานเรื่องผักหวานป่าของหมู่บ้านหนึ่ง ที่ผักหวานป่าขึ้นบนภูเขา แต่ตอนนี้เขาจะโล้นอยู่แล้ว แต่ไม่เล่าดีกว่าเรื่องของเขา ผมทำให้เขาดูแล้วไม่ดูไม่ทำก็เรื่องของเขา โตๆแล้ว


เอวัง.........ก็มีด้วยประการนี้
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©