-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 28APR *สารสมุนไพร (53), พริกหวาน-รวย
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 28APR *สารสมุนไพร (53), พริกหวาน-รวย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 29/04/2016 3:40 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 28APR *สารสมุนไพร (53), พริกหวาน- ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 28 APR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)


----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

------------------------------------------------------------------------


สารสมุนไพร (53)

การทำ .... สมุนไพรกำจัดแมลงศัตรูพืช ! !

“หางไหล”

ใช้หางไหล เบื่อปลา ฆ่าแมลงศัตรูผักได้ผลดี
หางไหลมี 2 ชนิด ได้แก่ หางไหลขาว ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีสารโรตีโนนมากใช้ป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ผลดี โดยนำรากมา ทุบแช่น้ำจะทำให้มีสีขาวขุ่นคล้ายสีนม ส่วนหางไหลแดง ประสิทธิ ภาพในการป้องกัน กำจัดแมลงศัตรูพืชต่ำ เพราะมีสารโรตีโนนต่ำ เมื่อนำรากมาทุบแช่น้ำจะทำให้มี สีแดงขุ่น
การนำไปใช้ทางการเกษตร :
จากการทดสอบสารสกัดที่ได้จากรากหางไหลกับแมลงหลายชนิดพบว่ามีฤทธิ์ถูกตัวตาย และกินตาย นอกจากนี้มีแมลงบางชนิดจะไม่ยอมกินใบพืชที่มีการฉีดพ่นสารสกัดจากหางไหล ซึ่งอาจเรียกว่ามีผลยับยั้งการกิน เช่น หนอนผีเสื้อ กินใบปอเทือง และด้วงน้ำมันเมื่อได้กลิ่นหางไหลจะหนีไปนอกจากนี้ยังใช้ได้ผลดีกับหมัดสุนัข เห็บวัว ไรไก่ ในแปลงผักสามารถกำจัด ด้วงหมัดผัก ด้วงเต่าทอง เพลี้ยไฟมะเขือเทศ ไรขาวพริก ด้วงงวงตัดใบมะม่วง เพลี้ยจักจั่น และเพลี้ยอ่อนผักกาด

ส่วนหนอนผีเสื้อจะมีผลยับยั้งการกิน อัตราการใช้ รากสด 2-3 ขีด/น้ำ 20 ลิตร โดยนำมาทุบแช่น้ำ 1 คืน พ่นสารสกัดตอนเช้าตรู่ สามารถกำจัดด้วงหมัดผักได้ผลดี ใส่สารจับใบจะทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น อาจนำมาทำเป็นผงแห้งแล้วใช้แอลกอฮอล์สกัด ในอัตรา 2 ขีด/แอลกอฮอล์ 1 ลิตร แช่ไว้อย่างน้อย 5 วัน จากนั้นนำมาเก็บไว้ในขวดสีชาสามารถเก็บไว้ได้นานประมาณ 8 เดือน เวลานำมาใช้เจือจางด้วยน้ำในอัตรา 200-300 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ควรพ่นให้ถูกตัวแมลง
วิธีการนำหางไหลมาใช้กำจัดแมลง :
นำรากหางไหล ½-1 กก. มาทุบแล้วแช่น้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้ค้างคืน นำน้ำหมักมาฉีดพ่นในแปลงพืชผล ควรฉีดพ่นในช่วงแดดอ่อนๆ ใช้ฉีดพ่นป้องกันแมลงวัน หนอนเพลี้ยอ่อน ด้วงงวงถั่ว ตั๊กแตนตัวอ่อนเพลี้ยจักจั่น ฯลฯ โดยไม่มีสารพิษตกค้าง เพราะสาร rotennone ที่มีในโล่ติ๊นสามารถสลาย ตัวได้ง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อคน
ข้อควรระวัง :
เป็นพิษต่อปลา จึงไม่ควรใช้กับแปลงผักหรือแปลงไม้ผลที่มีบ่อเลี้ยงปลาอยู่ใกล้ ๆ
แนวทางการพัฒนาสารสกัดจากพืชในอนาคต :
1. ควรศึกษาวิธีการปลูกที่ทำให้ได้รากจำนวนมากเพื่อเพิ่มผลผลิตและทำให้มีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวเร็วขึ้น
2. ควรศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บเกี่ยวรากในสภาพแปลง
3. ควรศึกษาเครื่องมือที่ใช้ในการอบและบดรากหางไหลให้มีคุณภาพของวัตถุดิบดีขึ้น
4. ควรมีการศึกษาสารสกัดจากพืชอื่นที่ช่วยเสริมฤทธิ์สารสกัดจากรากหางไหลให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
5. ควรมีการศึกษาการใช้สารสกัดจากรากหางไหลในด้านการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูสัตว์เลี้ยง
------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (062) 820-15 xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ งานเข้าครับ ลุงคิมมีข้อมูลเรื่องพริกแอ๊ปเปิ้ลไหมครับ มันคือพริกในครัว หรือผลไม้พันธุ์ใหม่ เขาบอกว่า พืชตัวนี้ราคาดีมาก ผมถามรายละเอียดอย่างอื่น เขาก็ตอบอะไรไม่ได้ พูดแต่ว่า เขาบอกมาเขาบอกมา เท่านั้น นี่แหละงานเข้าครับ ....ขอบ คุณครับ แท็กซี่ กทม.
ตอบ :
พริกหวาน เป็นพริกที่เกิดจากการปรับแต่งยีนส์ (ไม่ใช่ จีเอ็มโอ) ที่เนเธอร์แลนด์ ลักษณะทั่วไป มีขนาดใหญ่ รูปทรงคล้ายแอ๊ปเปิ้ล ไม่มีรสเผ็ด นักธุรกิจเนเธอร์แลนด์นำมาปลูกที่ภาคเหนือของไทย โดยใช้ระบบโรงเรือนปิด เนื่องจากสภาพอากาศเหมาะสมจึงทำให้ได้ผลผลิคคุณภาพดีมาก จากนั้นก็ได้แจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ให้เกษตรกรที่สนใจนำไปปลูกกันอย่างกว้างขาง กระทั่งปัจจุบัน .... ชื่อทางการ คือ “พริกหวาน” ไม่ใช่ “พริกแอ๊ปเปิ้ล” ... ชื่อพริกหวาน ก็ไม่ได้หวานอย่างมะม่วง ลำไย แต่รสจืดหมือนผักทั่วๆ ไปนั่นแหละ

http://www.dspanimal.com
--------------------------------------------------

พริกหวาน ยังมีชื่อเรียกอื่นว่า พริกยักษ์, พริกระฆัง, พริกตุ้มใหญ่

พริกหวาน
ลักษณะของพริกหวาน

ต้นพริกหวาน จัดเป็นพืชอายุข้ามปี แต่นิยมปลูกเป็นพืชฤดูเดียว การเติบโตระยะแรกจะเจริญเป็นลำต้นเดี่ยว เมื่อติดดอกช่อแรกตรงยอดแล้ว จากนั้นจะแตกกิ่งแขนงในแนวตั้งเป็นสองกิ่ง ทำให้จำนวนกิ่งเพิ่มขึ้น ตลอดฤดูการเจริญเติบโตผลผลิตที่ได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนกิ่งและจำนวนผลต่อต้น ในช่วงระแรกที่กิ่งเจริญเป็นกิ่งอ่อน ต่อจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นกิ่งแก่ที่มีความแข็งและเปราะหักได้ง่าย โดยมีความสูงของต้นอยู่ประมาณ 0.5-1.5 เมตร มีรากเจริญในแนวดิ่งลึกประมาณ 90-120 ซม. รากแขนงแผ่กว้างออกด้านข้างประมาณ 90 ซม. ส่วนรากใหญ่จะอยู่กันอย่างหนาแน่นในระดับความลึกประมาณ 50-60 ซม. สำหรับการปลูกพริกหวานนั้น จะขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด เจริญเติบโตได้ดินในสภาพอากาศอบอุ่น ความชื้นในอากาศต่ำ อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 องศา ซ.

ผลพริกหวาน ผลมีลักษณะกลมยาว มีขนาดใหญ่ ในผลจะประกอบไปด้วยสารให้ความเผ็ดหรือ Capsaicin ในปริมาณที่ต่ำมาก ส่วนผลนั้นโดยทั่วไปจะเป็นสีเขียว ถ้าปล่อยให้แก่บนต้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่บางสายพันธุ์ที่ถูกปรับปรุงพันธุ์ขึ้นมาใหม่ อาจจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีส้ม หรือสีม่วงก็ได้ โดยพริกสีเขียวจะประกอบไปด้วยสารคลอโรฟิลล์ พริกสีแดงหรือเหลืองจะเกิดจากเมล็ดสีแคโรทีนอยด์ ส่วนพริกสีม่วงจะเกิดจากเม็ดสีแอนโธไซยานิน และสีน้ำตาลจะเกิดจากการผสมระหว่างคลอโรฟิลล์ ไลโคปีน และเบต้าแคโรทีน ผลจะมีรูปทรงและขนาดแตกต่างกันออกไป บางพันธุ์อาจมีเปลือกหนา แต่บางพันธุ์จะบาง ผลมีขนาดกว้างประมาณ 1-15 ซม. และยาวประมาณ 1-30 ซม. ผลแก่ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม หรือม่วง จะมีปริมาณของวิตามิน เอ.สูงกว่าเดิมถึง 10 เท่า และมีวิตามิน ซี.สูงกว่า 2 เท่า

http://frynn.com
--------------------------------------------------


พลิกวิกฤตเจ๋ง ! ! ลูกข้าวเหนียว สู้ภัยแล้งปลูก “พริก-แอปเปิล” โกยรายได้งาม

ที่ จ.นครพนม หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดน้ำในการทำการเกษตร แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงพยายามทำการเกษตรปลูกพืชหน้าแล้ง สร้างรายได้เสริม เนื่องจากว่างเว้นจากการทำนาปี แต่บางพื้นที่ไม่สามารถทำนาปรังได้ เพราะไม่มีระบบชลประทานเข้าถึง ต่างพยายามพลิกวิกฤติหันทำอาชีพการเกษตร เกี่ยวกับการปลูกพืชใช้น้ำน้อย ทำให้เกษตรทางเลือกใหม่กลายเป็นที่สนใจ และเป็นทางเลือกให้เกษตรกร ทำการเกษตรสร้างรายได้เสริมหน้าแล้ง โดยไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น

เช่นเดียวกันกับ ครอบครัว นางทองใบ อินทุรัตน์ อายุ 49 ปี เกษตรกรชาว บ.จอมมณี ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ได้มีการทดลองทำการเกษตรทางเลือกใหม่ จนประสบความ สำเร็จสร้างรายได้เป็นอย่างดี เป็นปีที่ 2 ในการทำอาชีพปลูกพืชใช้น้ำน้อย ปลูกพริกพันธุ์แอปเปิล (พริกหวาน) เก็บเมล็ดส่งขายต่างประเทศ โดยใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 4-5 เดือน สามารถเก็บผลผลิตขายได้ในราคา กก. ละ 6,500 บาท

ที่สำคัญยังเป็นพืชการเกษตรใช้น้ำน้อย เหมาะแก่การปลูกในช่วงหน้าหนาว หรือช่วงฤดูแล้ง สามารถเก็บผลผลิตได้ในระยะสั้น ประมาณ 4-5 เดือน ในช่วงว่างเว้นจากการทำนาปี พอเก็บเกี่ยวเสร็จก็สามารถทำนาปีต่อในช่วงหน้าฝน สามารถทำเงินสร้างรายได้ปีละ ประมาณ 2 แสนบาท และมีต้นทุนต่ำ ประมาณ 20-30% เท่านั้น

โดย นางทองใบ อินทุรัตน์ อายุ 49 ปี เกษตรกรชาว บ.จอมมณี ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับการปลูกพริกแอปเปิล ถือเป็นเกษตรทางเลือกใหม่ ที่ตนได้ศึกษาจากคนรู้จัก และมีทางบริษัทเข้ามาแนะนำส่งเสริมการปลูกเป็นปีที่ 2 จึงทดลองปลูกในพื้นที่นาประมาณ 2 งาน จำนวนประมาณ 2,000 ต้น ทำการไถพรวนดินยกร่อง เป็นแปลง คลุมดินด้วยพลาสติกใส ป้องกันวัชพืช

ก่อนขุดหลุมนำเบี้ยต้นกล้าพริกพันธุ์พื้นบ้าน ที่เพาะกล้าไว้ ประมาณ 2 สัปดาห์ มาปลูกในแปลงที่เตรียมไว้เพื่อเป็นต้นแม่ เนื่องจากพริกพื้นบ้านจะมีความแข็งแรง ทนทานต่อโรคพืช และมีการดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ย ให้ต้นพริกพันธุ์พื้นบ้าน ประมาณ 1 เดือน จะนำเอาพริกพันธุ์แอปเปิล ที่เราเพาะพันธุ์ไว้ มาทำการเสียบยอด ตามขั้นตอนที่เราศึกษา และทางบริษัทแนะนำมา ซึ่งจะต้องใช้ยาฆ่าเชื้อป้องกันเชื้อราด้วย

จากนั้นพอต้นพริกแข็งแรงเจริญเติบโต ประมาณเดือนที่ 2 มีการออกดอก จะมีการนำเกสรตัวผู้ มาผสมตามขั้นตอนที่ศึกษามา และปล่อยไว้จนกว่ามีการออกผล ใช้เวลาการดูแล ประมาณ 4-5 เดือน เฉลี่ยจะออกผลประมาณ 5-6 ลูกต่อต้น จนสุกได้ที่ จะมีการเก็บผลพริกแอปเปิล ไปเจาะเอาเมล็ดพันธุ์ และนำมาแช่น้ำยาฟอกขาย เพื่อทำการคัดเอาเมล็ดพันธุ์ที่ลอยน้ำออก จะเลือกเอาแต่เมล็ดที่จมน้ำ เป็นการคัดคุณภาพ

ขั้นตอนสุดท้ายคือ นำไปตากแดดให้แห้งประมาณ 2 วัน ก่อนนำชั่งกิโลขาย ในราคาประมาณ กก. ละ 6,500 บาท เฉลี่ยผลผลิตในพื้นที่ 2 ไร่ จะได้เมล็ดไม่ต่ำกว่า 40 กก. ในระยะ เวลาประมาณ 4-5 เดือน สามารถทำเงินได้ประมาณ เกือบ 3 แสนบาท จะมีบริษัทมารับซื้อโดยตรงนำส่งขายต่างประเทศ

ส่วนต้นทุนถือว่าไม่สูง มีเพียงค่าปุ๋ย ค่าพลาสติกคลุมดิน ประมาณ 20-30% ซึ่งจะมีบริษัทลงทุนให้ด้วย และมีการประกันราคา ไม่มีความเสี่ยง ที่สำคัญดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก ยิ่งอากาศหนาวเจริญเติบโตดี ใช้น้ำน้อย เพียงปล่อยรดให้ได้ความชุ่มชื้น ถือเป็นเกษตรทางเลือกใหม่ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี ไม่มีความเสี่ยง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม เริ่มหันมาปลูกพริกแอปเปิลช่วงหน้าแล้ง ขายเมล็ดพันธุ์มากขึ้น เพราะรายได้ดี ใช้ระยะเวลาปลูกสั้น ไม่ต้องวิ่งหาตลาดเอง

ที่มา : thaiarcheep
http://news.thaiarcheep.com/2016/02/blog-post_48.html
-------------------------------------------------------


รวยจริง ! ! ชาวบ้านเชียงใหม่ หันมาปลูก “พริกหวาน” สร้างเงินกว่าล้านบาท ! !

ชาวบ้านบนดอยสูง ที่เชียงใหม่ หันมาปลูกพริกหวาน ส่งขายตลาดสี่มุมเมือง ไม่พอต่อความต้องการ สร้างรายได้ปีละนับล้านบาท ! ! !

นาง วิไล โสระขา อายุ 45 ปี ชาวบ้านม่วงคำ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หันมาปลูกพริกหวาน ในโรงเรือนระบบปิด มากกว่า 5 พันกระถาง หรือกว่า 1 หมื่นต้น ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่สูง กว่าระดับน้ำทะเล 700 เมตร เริ่มปลูกมาได้ประมาณ 2 เดือน สามารถเก็บผลผลิตสีเขียว ขายได้ราคาดี กก.ละ 70 บาท หากเป็นผลสี ต้องใช้ระยะเวลา 3 เดือนขึ้นไป และเนื้อจะหนากว่า ราคาก็จะดีกว่า กก. 80 บาท ซึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้ นานประมาณ 6 เดือน แต่ละต้นก็จะให้ผลผลิต ประมาณ 3-5 กก. หรือประมาณ 4 ลูก จะมี 1 กก. สร้างรายได้เป็นอย่างดี กว่าปลูกพืชชนิดอื่นๆ โดยมีพ่อค้ามารับซื้อ

สำหรับขั้นตอนการปลูก ใช้ต้นกล้าหรือเมล็ดพันธุ์ ซื้อมาต้นละ 5 บาท ปลูกในโรงเรือนปิด ป้องกันศัตรูพืช เป็นผลผลิตอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี ประมาณ 2 เดือน เริ่มเก็บผลผลิตได้ ภายในโรงเรือน ใช้แบบระบบน้ำหยด และต้องใช้เชือกผูก ปลายยอดของต้น ให้เลื้ยงต่อต้น ซึ่งตนเองปลูกไว้ประมาณ 1 หมื่นต้น สร้างรายได้ ปีละไม่ต่ำกว่า 3ล้านบาท

นาย ประสงค์ วงศ์เสือ ผู้รับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านบอกว่า ส่งไปขายที่ตลาดสี่มุมเมือง ปทุมธานี และพื้นที่กรุงเทพมหานคร ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก ขายกิโลกรัมละ 90 บาท แต่ทุกวันนี้ผลผลิต ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของผู้บริโภค ส่วนใหญ่ร้านอาหาร และโรงแรม ซื้อไปทำบาร์บีคิว หรือปรุงอาหารหลากหลาย ทำให้สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี และอนาคตยังมีความต้องการสูง

นอกจากนั้น บ้านม่วงคำ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม เชียงใหม่ ยังเป็นแหล่งปลูกพืชผักอินทรีย์ เป็นหมู่บ้านต้นแบบ เศรษฐกิจพอเพียง ส่วนใหญ่เลิกปลูกข้าว หันมาปลูกพืชผัก ทั้ง ถั่วแขก คะน้า ชาโย้เต้ แตงกวา มะเขือเทศ และพริกหวานเป็นต้น รายได้ดีกว่าเป็นสองเท่า หมุนเวียนปลูกได้ทั้งปี จนสามารถส่งลูกหลานเรียนต่อ โรงเรียนเอกชน โดยไม่เดือดร้อน

http://www.thaitv.co.th/?p=841
----------------------------------------------------------


ขยันถูกที่ หนุ่มช่างยนต์หันปลูกพริกหวาน 3 เดือน ทำเงินกว่า 3 แสน

นายขวัญชัย สนินัด อายุ 31 ปี ชาวบ้านม่วงคำ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เคยประกอบอาชีพช่างซ่อมรถ หันหลังให้กับวิชาชีพที่ร่ำเรียนมาก หันมาตามรอยบิดามารดาด้วยการยึดอาชีพทำการเกษตร ปลูกพืชผักสวนครัวและพริกหวานพันธุ์สไปเดอร์สีแดง และ พันธุ์วินเลตสีเหลือง ในโรงเรือนปลอดสารเคมี ใช้ระยะเวลาการปลูกประมาณ 75 วัน ได้ราคาดีถึงกิโลกรัมละ 60 บาท

ขวัญชัย เล่าว่า ใช้วิธีปลูกในถุง ถุงละ 2 ต้น ผ่านระบบน้ำหยด ให้น้ำวันละ 3 เวลา ครั้งละประมาณ 10 นาที และ ใช้เชือกผูกยอดให้ชูขึ้นเพดาน ความสูงประมาณ 3 เมตร ซึ่งจะให้ผลผลิตดีกว่าเลื้อยลงดิน เมื่ออายุประมาณ 2 เดือน ผลจะเริ่มโตและเริ่มสุก แต่ละต้นจะให้ผลผลิตประมาณ 3 กิโลกรัม หากต้นแข็งแรงอาจได้ผลผลิตมากถึง 5 กิโลกรัม

ทุกวันนี้ปลูกพริกหวานในพื้นที่ 200 ตารางวา ประมาณ 3,000 ต้น คาดว่าจะได้ผลผลิตกว่า 6,000 กิโลกรัม สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท ซึ่งพริกหวานยังเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนใหญ่นำไปปรุงอาหารตามโรงแรมหรูและเป็นส่วนประกอบในการทำบาบีคิวหรือปรุงอาหารได้ตามความชอบ

http://www.oholanna.com/news-detail.php?nid=311
------------------------------------------------------------


ปลูกพริกหวาน แบบอินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของพริกหวาน :
เตรียมดิน เตรียมแปลง :

- ไถดิน ขี้ไถขนาดใหญ่ ตากแดดจัด 15 แดด ถ้าฝนตกให้ไถใหม่เริ่มนับ 1 ตากแดดใหม่
- ตากแดดดินครบกำหนด ใส่อินทรีย์วัตถุ ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ผสมเข้ากัน หว่านทั่วแปลง แล้วไถพรวน
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.)/ไร่ รดทั่วแปลง ทุกตารางนิ้ว - ปรับสันแปลงให้เป็นหลังเต่า กว้าง 1.5-2 ม. สูง 20-30 ซม. คลุมหน้าแปลงด้วยฟางหนาๆ
- ปักเสาคอนกรีต ขนาดหน้า 4 ยาว 6 ม. ปักลงดิน 1 ม. สูงจากพื้น 5 ม. ระยะห่าง 1.5 x 2 ม.

(....ไม่ต้องปุ๋ยเคมี รองพื้น-แต่งหน้า-กระแทก-กระทุ้ง เพราะในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงมีแล้ว อนาคตยังมีทางใบ ทั้งปุ๋ยเคมี และฮอร์โมนธรรมชาติ ให้อีก ที่สำคัญ ผักสวนครัว กินใบ อายุสั้น กินปุ๋ยเคมีแค่นี้ .... ดินดี ได้แล้วกว่าครึ่ง ดินไม่ดี เสียแล้วกว่าครึ่ง .... เอาเงินค่าปุ๋ยเคมีมาซื้อปุ๋ยอินทรีย์ จ่ายน้อยกว่า แต่ประโยชน์ต่อพืชมากกว่า....)

เตรียมเมล็ดพันธุ์ :

- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำร้อน 50 องศา 1 ล. + ยูเรก้า 1 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 1 ซีซี. นาน 6 ชม. นำขึ้นจากน้ำแช่ แล้วคลุกเมล็ดกับไรโซเบียม

- ใช้ผ้าขนหนูจุ่มน้ำที่ใช้แช่เมล็ดให้เปียกชุ่ม แผ่ผ้าขนหนูบนถาด นำเมล็ดวางบนผ้าขนหนู อย่าให้ซ้อนกัน ตลบชายผ้าขนหนูขึ้นปิดเมล็ด เก็บไว้ในร่ม อุณหภูมิห้อง นาน 24-48 ชม. เริ่มสำรวจเมล็ด

- เลือกเมล็ดที่เริ่มมีตุ่มรากเกิดขึ้นวางบนวัสดุเพาะในถาดเพาะเมล็ด เมล็ดไหนเกิดตุ่มก่อนเพาะก่อน เมล็ดไหนเกิดตุ่มทีหลังเพราะทีหลัง วางเมล็ดบนถาดเพาะเมล็ดแล้ว กลบเมล็ดด้วยวัสดุเพาะตัวเดียวกัน กดแน่นอนพอประมาณ แล้วรดด้วยน้ำพอชุ่ม

- ถ้าเมล็ดสมบูรณ์ดี ทุกเมล็ดจะเกิดตุ่มรากในระยะไม่เกิน 36 ชม. หากนานกว่านี้แสดว่า เปอร์เซ็นต์งอกเสื่อม

เตรียมกล้า :

- วัสดุเพาะ : ดินร่วน ขี้วัว แกลบดำ ขุยมะพร้าว ทุกอย่างแห้งเก่าข้ามปี อัตราส่วน 1:1:1:1
- ระยะแรกเลี้ยงกล้าในกระบะเพาะในร่ม .... ระยะโตได้ 2-4 ใบ ฝึกออกดอกเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย .... ก่อนย้ายกล้าลงปลูกในแปลงจริง 3-5 วัน ให้แคลเซียม โบรอน 1 รอบ จะช่วยให้ต้นกล้าแข็งแรง ฟื้นตัวเร็ว

บำรุง ระยะกล้า :
ทางใบ :

- ให้ ไบโออิ + สารสมุนไพร ทุก 7 วัน
- ให้ สารสมุนไพร ทุกวันเว้นสองวัน
ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) /ไร่ /เดือน
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น -

บำรุง ระยะให้ผลผลิตแล้ว :
ทางใบ :

- ให้ ไบโออิ + ไทเป + ยูเรก้า + สารสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ให้สารสมุนไพร ทุกวันเว้นสองวัน
ทางราก :
- ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 (2 ล.) /ไร่ /เดือน
- ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น

นวัตกรรมการเกษตร :
สปริงเกอร์ :
- เนื้อที่ 1 ไร่ ลงทุน (5,000 - พีวีซี. .... 2,000 -พีอี) .... ไม่รวมปั๊ม ไม่รวมค่าแรง
- ติดตั้งแบบ ถอด/ประกอบ หรือติดตั้งถาวร
- หม้อปุ๋ย/ยา หน้าโซน หรือถังปุ๋ย/ยา ที่ปั๊ม
- แรงงานคนเดียว ใช้เวลา 3 นาที/โซน
- อายุใชงาน 10-20-30 ปี เปลี่ยนพืชแล้วก็ยังใช้งานได้

ฉีดพ่นสารสมุนไพร :

- ตี 5 ........... พ่นน้ำเปล่า หรือสารสมุนไพร ล้างน้ำค้าง
- 10 โมง ....... ให้ ปุ๋ย+ยาสมุนไพร
- เที่ยง .......... พ่นน้ำเปล่า หรือสารสมุนไพร ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ
- ค่ำ ............ ให้ ปุ๋ย+ยาสมุนไพร

- ฉีดพ่นสารสมุนไพร ทุกวันๆละครั้ง หรือวันละ 2 ครั้งเช้าครั้งค่ำครั้ง หรือวันละ 3 ครั้งเช้าเที่ยงค่ำ สปริงเกอร์ทำได้ โดยปล่อยไปกับสปริงเกอร์ มีหม้อปุ๋ยหน้าโซน หรือถังปุ๋ยที่ปั๊ม ประหยัดเวลา/แรงงาน/อารมณ์ เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน เมื่อเทียบกับ สพายเป้-ลากสายยาง-แล่นเรือปากเป็ด .... แม้แต่ถังสพายแบบใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องลากสายยาง ใช้กับดักกาวเหนียว ก็ยังเหนือกว่ารูปแบบที่เคยทำๆ ชนิดคนละชั้นกันเลย

พริกหวานอินทรีย์เกาะขอบ :

- น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง (ไม่ปุ๋ยเคมี) สูตรปรับโมเลกุล
- ฮอร์โมนธรรมชาติ (นมสด น้ำมะพร้าว น้ำคั้นเมล็ดงอก น้ำคั้นไชเท้า อะมิโน โปรตีนก้นหม้อก๋วยเตี๋ยว)
- ไม่สารเคมียาฆ่าแมลงเด็ดขาด
- เครดิต ความน่าเชื่อถือ

-------------------------------------------------------------------------------------




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©