ให้ปุ๋ยสำปะหลังทางน้ำหยด

manitjiarum

ลุงคิมครับ การให้ปุ๋ยมันสำปะหลัง ทางสายน้ำหยดดีไหมครับ อย่าง 1 ไร่ เราควรใช้ปุ๋ยกี่กิโลครับ ถึงจะทั่วถึง แล้วพวกฮอรโมนเราสามารถให้ทางสายน้ำหยดได้ไหมครับ

kimzagass · ตอบ: 04/01/2016 5:18 pm ชื่อกระทู้:

.
.
ระบบน้ำหยด น้ำที่ไหลไปตามท่อ ไหลช้าๆ ช้ามากๆ

ปุ๋ยที่ไปกับน้ำในท่อ ตัวปุ๋ยมี ถพ.สูงกว่าน้ำ ตัวปุ๋ยจะไหลไปกับน้ำได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น
ระยะทางที่ไหลไปไกลหรือใกล้ ขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำที่ไหลในท่อ

แล้วเนื้อปุ๋ยก็จะนอนอยู่ที่ก้นท่อนั่นแหละ

ทั้งโดย หลักการและประสบการณ์ตรง ไม่มีข้อมูล "ปุ๋ยไปกับน้ำหยด"

การให้ปุ๋ยไปกับระบบท่อ หริอไปกับระบบน้ำ (อเมริการใช้มาแล้วกว่า 50 ปี)
ต้องอาศัยน้ำไหลแรงๆ ใช้กับระบบสปริงเกอร์แบบหัวพ่น ด้วยแรงดันปั๊มสูงๆ เท่านั้น
ดูง่ายๆ เห็นกับตา "ไฮโดรโปรนิกส์" ไงล่ะ น้ำไฺฮโดโปรนิกส์นั่นแหละ "น้ำ + ปู่ย"
ปุ๋ยไปกับน้ำไหลแรงตลอดเวลา ไม่มีโอกาสนอนก้น

----------------------------------------------------------------------

ปุจฉา วิสัชนา :

น้ำ 1 หยดลงพื้นได้เนื้อที่ 50 ตร.ซม.
สำปะหลัง 1 กอ พื้นที่ราก (หัว) 1 ตร.ม. ต้องใช้หัวน้ำหยด 2 หัว/กอ

พื้นที่ 1 ไร่ สำปะหลัง 500 ต้น (สมมุติ) ใช้หัวน้ำหยด 500 หัว ......... ใข่ไหม ?
พื้นที่ 10 ไร่ สำปะหลัง 5,000 ต้น ใช้หัวน้ำหยด 10,000 หัว .......... ไหวไหม ?
พื้นที่ 20 ไร่ สำปะหลัง 10,000 ต้น ใช้หัวน้ำหยด 20,000 หัว......... เอาเหรอ ?

ใช้งานที สำรวจหัวอุดตันที ................................................ ง่ายเหรอ ?

ระบบน้ำหยอด 2-3-5 หัวแรก แรง.... หัวที่ 10-11-12 ท้ายแถว ค่อย ... เพราะอะไร ?
ใช้งานที กว่าหัวท้ายแถวจะได้น้ำพอดี หัวแรกๆน้ำเกินแล้ว ก็เน่าน่ะซี ......... ใข่ไหม ?

เปลี่ยนเป็นแบบหัวพ่น (หัวหมุนแบบ RKK หรือโอเวอร์เฮด) ปล่อยปุ๋ยไปพร้อมกับน้ำได้แน่นอน
พิสูจน์กับมือ เห็นกับตา ปุ๋ยอินทรีย์-ปุ๋ยเคมี ได้ทั้งนั้น

แบบหัวพ่นให้ ปุ๋ย+น้ำ ทางใบ จากใบตกลงดิน = ได้ 2 เด้ง
ฉีดพ่นทางใบ น้ำเปล่าช่วยกำจัดเพลี้ยแป้งสีชมพู น้ำสมุนไพรกำจัดโรคได้

สปริงเกอร์แบบหัวพ่น ถอด-ประกอบ ได้ .... แบบน้ำหยดก็ ถอด-ประกอบ เหมือนกัน
แล้วแบบไหนได้ ประสิทธิภาพ-ประสิทธิผล เหนือกว่ากัน

สำปะหลังแบบ "ก้าวหน้า" คนเลี้ยง สปริงเกอร์-หม้อปุ๋ยหน้าโซน
1 ไร่ ได้ 20 ตัน /รุ่น ....
10 ไร่ x 20 = 200 ตัน/รุ่น ....
20 ไร่ x 20 = 400 ตัน/รุ่น ....
สำปะหลังอู่ทอง สุพรรณ 1 ไร่ ได้ 60 ตัน/ไร่/รุ่น ของเราเอาแค่ครึ่งเดียวก็พอมั้ง

สำปะหลังแบบ "ยึดติด" เทวดา+รัฐบาล เลี้ยง
1 ไร่ ได้ 4 ตัน/รุ่น
10 ไร่ ได้ 40 ตัน/รุ่น
20 ไร่ ได้ 80 ตัน/รุ่น
ก็จงทำต่อไป

20 ไร่ x ไร่ละ 20 ตัน = 400 ตัน/รุ่น
............... V.S. .................
20 ไร่ x ไร่ละ 4 ตัน = 80 ตัน/รุ่น

เอาอย่างไหน ?

น้ำหยดจริงๆ เหมาะสำหรับไม้ในภาชนะปลูก (อิสราเอล, มาเลเซีย/ปีนัง ทำ)
หัวน้ำหยดราคาหัวละ 6 บาท (เซลล์ ปริญญาโท ............ ขาย)
หัวน้ำหยด RKK หัวละ 50 ตังค์ (เซลล์ ม.6 รุ่นสุดท้าย .... แจก)

ถามหน่อย เอาควาามคิด ให้ปุ๋ยไปกับน้ำหยดเนี่ย มาจากไหน
เอาเถอะ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ ทำซี่ ทำได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์โลก รวยแน่

.

kimzagass · ตอบ: 06/01/2016 7:42 am ชื่อกระทู้:

.
.
ถามมาตอบไป .... ได้คำตอบแล้ว

เข้าใจ/ไม่เข้าใจ, เชื่อ/ไม่เชื่อ, O.K./NO.K.
ยังไงก็น่าจะบอกกล่าวกันหน่อย

รึว่า ถามทิ้งถามขว้าง ถามมาแล้วไม่ตามมาอ่านคำตอบ .... ยังงั้นเหรอ ?

ลำพังคนถาม เจ้าของคำถามยังเงียบ
สัมมะหาอะไรกับคนอื่น ที่น่าจะมีคำตอบแบบ "ร่วมด้วยช่วยกัน สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน" เข้ามาบ้าง ว่ามั้ย

หรือ.... ปล่อยตาคิม "บ้า" ไปคนเดียวเถอะ

.

manitjiarum · ตอบ: 13/01/2016 9:15 pm ชื่อกระทู้: ฮาาา

ขอโทษครับบ ที่ผมใช้คือใช้ถัง 60 ลิตร อะครับ แล้วเอาปุ๋ยมาผสมกับน้ำ ผมเจาะรูใส่ว่าวน้ำหยดตรงท่อดูของปั้มอะครับ พอเปิดปั้มมันก็จะดูด ตัวปุ๋ยเข้าไปผสมกับน้ำที่ไหลเข้าท่อเมน อย่าง 3 ไร่ ผมก็ค่อยๆๆปล่อยวาวจนน้ำในถังปุ๋ยหมด

ที่ลุงอธิบายผมเข้าใจแล้วครับ

kimzagass · ตอบ: 14/01/2016 6:17 am ชื่อกระทู้:

.
.
นี่คือสปริงเกอร์น้ำหยดแบบ "กะเหรี่ยง" ....
ไม่ใช่กะเหรี่ยงจริงๆ แต่เป็น "ภูมิปัญญาพื้นบ้าน" ซะมากกว่า....

ทดสอบว่าเนื้อปุ๋ยไปถึงพืช ทุกกอทุกต้น-เสมอกันเท่ากัน หรือไม่ โดย....
ละลายยิบซั่มกับน้ำในถังผสมปุ๋ย แล้วเปิดวาวล์ปล่อยน้ำละลายยิบซั่มไปตามท่อ
รอจนน้ำละลายยิบซั่มที่พื้นแห้ง จะเห็นยิบซั่มแห้งขาวบนพื้น
ยิบซั่มลงตรงไหน ขาวตรงนั้น ลงมากขาวมาก ลงน้อยขาวย้อย
ถ้าไม่ลงก็ไม่ขาว เมื่อไม่ลงแล้วมันไปไหน ? นอนอยู่ก้นท่อหรือเปล่า ?

จากยิบซั่มเปลี่ยนเป็นปุ๋ยก็อีหร็อบเดียวกัน

วิธีนี้ทดสอบที่ RKK (สปริงเกอร์หัวพ่นหมุน)= O.K. ยิบซั่มขาวโพลนบนยอดหญ้าทุกต้น

.

kimzagass · ตอบ: 14/01/2016 7:33 am ชื่อกระทู้:

.
.

DangSalaya

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อนสมาชิกสีสันชีวิตไทยทุกท่าน

เห็นแล้วเซ็ง....มันสัมปะหลังหัวเดียวหนัก 82.8 กิโล

รายการ สีสันชีวิตไทย เป็นชีวิตที่มีสีสัน....มันส์ สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ มีทุกรส แต่ง่านนี้ เป็นมันจริง ๆ ....ขออนุญาตครับลุง....

อย่าเพิ่งปักใจเชื่อ..........อ่านแล้วพิจารณาครับ.....

(1) ฮือฮา! หัวมันยักษ์ต้นเดียวหนัก 82.8 กก. ใช้คนยกถึง 6 คน รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดมันสำปะหลัง ประจำปี 59 งานเกษตรสุรนารี ขณะที่ นักวิชาการเกษตร เผย ปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่โคราชไม่กระทบมันสำปะหลัง ได้ราคาเต็มเม็ดเต็มหน่วย...

วันที่ 6 ม.ค. 59 นายสมพงษ์ จันพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตร จังหวัดนครราชสีมา จัดการประกวดมันสำปะหลังโคราช ในงานเกษตรสุรนารี ประจำปี 2559 มีขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 10 มกราคม 2559 นี้ ที่อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา
สำหรับการประกวดที่เรียกเสียงฮือฮาของผู้มาร่วมงานมากที่สุด คือ การประกวดหัวมันยักษ์ มีเกษตรกรส่งผลผลิตมันสำปะหลังเข้าร่วมกว่า 30 ต้น ปรากฏว่า....

(2) ต้นที่ชนะเลิศ เป็นพันธุ์เกษตรศาสตร์ อายุการปลูกนาน 2 ปี ของนายณรงค์ สุวรรณดี เกษตรกรชาว อ.พิมาย ต้นเดียวมีน้ำหนัก 82.8 กิโลกรัม ต้องใช้คน 6 คน ช่วยกันยกถึงจะยกขึ้นไหว ได้รับเงินรางวัลชนะเลิศ 7,000 บาท

ขณะที่รองชนะเลิศมีน้ำหนัก 82.6 กิโลกรัม พันธุ์ห้วยบง 60 ของเกษตรกร อ.เสิงสาง รองชนะเลิศ 5,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร

ขณะเดียวกัน ยังมีการประกวดวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง มีเกษตรกรจาก อ.เสิงสาง อ.หนองบุญมาก และ อ.ครบุรี แหล่งปลูกมันสำปะหลังใหญ่ที่สุดของโคราช ส่งผลผลิตเข้าประกวดกว่า 50 ราย ปรากฏว่า เชื้อแป้งสูงสุดวัดได้ 33.2% รองลงมา คือ 32.6% และ 32.5% คว้าเงินรางวัลต่างๆ มากมาย

ทั้งนี้ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังแต่อย่างใด แต่กลับส่งผลดีต่อคุณภาพของเชื้อแป้ง ทำให้เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งมันสูงขึ้น เนื่องจากไม่มีความชื้น จากปกติเชื้อแป้งมันส่วนใหญ่อยู่ที่ 25% แต่ช่วงนี้เชื้อแป้งสูงขึ้นเป็น 28-32% ทำให้ขายผลผลิตหัวมันสำปะหลังสดได้ราคาเต็มเม็ดเต็มหน่วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง 1,598,405 ไร่ มีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 5,643,177 ตันต่อปี สร้างมูลค่ารวมกว่า 12,100 ล้านบาทต่อปี

ที่มา...
http://www.thairath.co.th/content/558993

ตามข่าวไม่ได้บอกว่า เจ้าของมัน ให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด น้ำย้อย หรือน้ำหยาด แต่ที่แน่ ๆ ตามที่ลุงคิมพูดอยู่บ่อย ๆ ....ดินต้องมาก่อน ดินต้องมาก่อน และดินต้องมาก่อน

ถ้าสนใจอยากรู้ว่า เค้าบำรุงรักษาและดูแลอย่างไร ลองติดต่อถามไปที่ ไทยรัฐ ขอรายละเอียดตำบลที่อยู่ของคุณ ณรงค์ สุวรรณดี เกษตรกรชาว อ.พิมายปลูกมัน...พันธุ์เกษตรศาสตร์ ได้น้ำหนัก 82.8 กิโลกรัม
และมันฯ....พันธุ์ห้วยบง 60 ของเกษตรกร อ.เสิงสาง รองชนะเลิศ 82.6 กิโลกรัม

หรือจะให้ง่ายขึ้นมาอีกนิด ถามข้อมูลไปที่ คุณสมพงษ์ จันพิทักษ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตร จังหวัดนครราชสีมา คงไม่ผิดหวัง.....

.

manitjiarum

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับลุงคิม ผมจะเอาความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ที่ไร่ครับ

noo-ring

สวัสดีจ้าลุง และเพื่อนสมาชิกทุกคนจ้า

ว่าด้วยระบบน้ำหยดประกอบคำอธิบายของลุงคิมจ้า

(บทคัดย่อ) ลุงคิมบอกว่า

(1) ระบบน้ำหยด น้ำที่ไหลไปตามท่อ ไหลช้าๆ ช้ามากๆ

ปุ๋ยที่ไปกับน้ำในท่อ ตัวปุ๋ยมี ถพ.(ความถ่วงจำเพาะ)สูงกว่าน้ำ ตัวปุ๋ยจะไหลไปกับน้ำได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น
ระยะทางที่ไหลไปไกลหรือใกล้ ขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำที่ไหลในท่อ

แล้วเนื้อปุ๋ยก็จะนอนอยู่ที่ก้นท่อนั่นแหละ

ทั้งโดย หลักการและประสบการณ์ตรง ไม่มีข้อมูล "ปุ๋ยไปกับน้ำหยด"…………..

(2) ปุจฉา วิสัชนา :

น้ำ 1 หยดลงพื้นได้เนื้อที่ 50 ตร.ซม.
สำปะหลัง 1 กอ พื้นที่ราก (หัว) 1 ตร.ม. ต้องใช้หัวน้ำหยด 2 หัว/กอ

พื้นที่ 1 ไร่ สำปะหลัง 500 ต้น (สมมุติ) ใช้หัวน้ำหยด 500 หัว ......... ใข่ไหม ?
พื้นที่ 10 ไร่ สำปะหลัง 5,000 ต้น ใช้หัวน้ำหยด 10,000 หัว .......... ไหวไหม ?
พื้นที่ 20 ไร่ สำปะหลัง 10,000 ต้น ใช้หัวน้ำหยด 20,000 หัว......... เอาเหรอ ?

ใช้งานที สำรวจหัวอุดตันที ................................................ ง่ายเหรอ ?

(3) น้ำหยดจริงๆ เหมาะสำหรับไม้ในภาชนะปลูก (อิสราเอล, มาเลเซีย / ปีนัง ทำ)
หัวน้ำหยดราคาหัวละ 6 บาท (เซลล์ ปริญญาโท ............ ขาย)
หัวน้ำหยด RKK หัวละ 50 ตังค์ (เซลล์ ม.6 รุ่นสุดท้าย .... แจก)

ถามหน่อย เอาควาามคิด ให้ปุ๋ยไปกับน้ำหยดเนี่ย มาจากไหน
เอาเถอะ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ ทำซี่ ทำได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์โลก รวยแน่

(4) ถามมาตอบไป .... ได้คำตอบแล้ว

เข้าใจ/ไม่เข้าใจ, เชื่อ/ไม่เชื่อ, O.K./NO.K.
ยังไงก็น่าจะบอกกล่าวกันหน่อย

ลำพังคนถาม เจ้าของคำถามยังเงียบ
สัมมะหาอะไรกับคนอื่น ที่น่าจะมีคำตอบแบบ [/color[color=violet]]"ร่วมด้วยช่วยกัน สร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน" เข้ามาบ้าง ว่ามั้ย

หรือ.... ปล่อยตาคิม "บ้า" ไปคนเดียวเถอะ

วันนี้ หนูหริ่ง ขอ “บ้า” กับลุงด้วยคนจ้า....

(1)

(2)

(1 - 2) ระบบน้ำหยด น้ำที่ไหลไปตามท่อ ไหลช้าๆ ช้ามากๆ
ปุ๋ยที่ไปกับน้ำในท่อ ตัวปุ๋ยมี ถพ. (ความถ่วงจำเพาะ)สูงกว่าน้ำ ตัวปุ๋ยจะไหลไปกับน้ำได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น
ระยะทางที่ไหลไปไกลหรือใกล้ ขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำที่ไหลในท่อ
แล้วเนื้อปุ๋ยก็จะนอนอยู่ที่ก้นท่อนั่นแหละ

ขอเสนอ วิธีการทำระบบน้ำหยดจากท่อจิ๋ว แบบง่าย ๆ ทำเองได้ ลงทุนน้อย
ประกอบคำอธิบายของลุงจ้า

ขั้นตอนการทำ

1) ถังน้ำ 200 ลิตร วางสูงจากพื้น 20 – 50 ซม.สำหรับใส่น้ำ

2) ต่อท่อจากก้นถัง ทำวาล์วไว้ปิดเปิดน้ำ ต่อเข้ากับท่อย่อย

3) วางท่อ พีอี 20 มม. เป็นท่อย่อยไปตามแถวของพืชที่ปลูก

4) เจาะรูท่อพีอี ตามระยะหลุมที่ปลูก ใช้ท่อจิ๋ว พีอี ขนาด 1 มม. ยาวประมาณ 30 – 50 ซม. เสียบติดท่อย่อยที่เจาะรูเอาไว้

(5) ใช้ฝาโค๊ก หรือฝาเบียร์ตรา ลิง ก็ได้จ้า เจาะรูเสียบลวดตามในรูป ทำเป็นขาบังคับให้ปลายท่อจิ๋วอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้น เปิดน้ำเบา ๆ ปรับให้น้ำหยดลงใกล้โคนต้นพืช (ประหยัดสุด ๆ แต่ใช้งานได้ผลดีเกินคาดจ้า)

วิธีการ คือ ให้น้ำรั่วจากรูท่อ ดังนั้น พื้นที่ปลูกควรจะต้องปรับให้อยู่ในระดับเดียวกัน น้ำจะไหลใกล้เคียงกันทุกหัวหยดจากท่อจิ๋ว และน้ำจะไหลออกเองโดยไม่ต้องใช้พลังงานจากปั๊ม เมื่อน้ำในถังหมด น้ำก็จะหยุดไหล หรืออาจไม่ใช้ถัง แต่สามารถต่อท่อย่อยกับน้ำประปาได้เลย ข้อสำคัญที่สุด น้ำต้องไม่มีตะกอน มิฉะนั้น ท่อจิ๋วจะอุดตัน

ปริมาณน้ำที่หยดลงพื้น ก็จะได้ความชื้นตามในรูปที่นำเสนอน่ะจ้า

.

ที่มาที่ไป.-
http://www.liekr.com/post_137197.html

หมายเหตุ น้ำประปา หรือน้ำบ่อ ในเมืองไทย ที่ไหน ๆ ก็มีตะกอนทั้งนั้นแหละคู๊ณ....

.

kimzagass