ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร 17 JUL *วิธีกำจัดวัชพืช, มะนาวเปลือกหนา

[kimzagass]

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 17 JUL

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------


จาก : (082) 391-45xx
ข้อความ : พรุ่งนี้เช้า ขอให้ผู้พันช่วยสรุปรวมวิธีการกำจัดข้าวนก ข้าวดีด วัชพืชต่างๆ ในนาข้าว ว่ามีวิธีใดบ้าง เดือนหน้าจะเริ่มทำนา ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ ในนามีวัชพืชเยอะมาก ขอแซงคิวด้วยครับ .... ขอบคุณครับ ชาวนาเมืองเพชร
ตอบ :
@@ วิเคราะห์ “ต้นตอ” ของปัญหาวัชพืช :
วัชพืช คือ พืชที่เราไม่ต้องการ ได้แก่ หญ้าทุกชนิด ข้าววัชพืช ข้าวต่างรุ่นต่างพันธุ์ วัชพืชพวกนี้มาจากไหน ? .... 1. มาจากในแปลงของเราเอง.... 2. มากับรถเกี่ยว.... 3. มาจากคันนา .... 4. มาจากร้านขายข้าวปลูก.... 5. ฯลฯ

@@ ยุทธการกำจัดวัชพืช :
1. ยาฆ่ายาคุม .... ทำแบบเดิมที่เคยทำ หลังฉีดยาฆ่ายาคุม 3 วัน ใบวัชพืชเริ่มสลด ให้ฉีดปุ๋ยทางใบ “ไบโออิ + ยูเรีย จี” 2 รอบ ห่างกันรอบละ 2-3 วัน เพื่อสลายฤทธิ์ยาฆ่ายาคุม และช่วยฟื้นต้นข้าวหลังจากงันด้วยฤทธิ์ยาฆ่ายาคุม .... หญ้ากับข้าวเป็นพืชตระกูลเดียวกัน ต้นข้าวโดนยาฆ่าหญ้าแม้ใบไม่ไหม้แต่ก็ชะงักงัน 5-10 วัน กว่าจะฟื้นใหม่ เพราะฉะนั้นงานนี้ต้องช่วยต้นข้าวให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น

2. ปล่อยเป็ดไล่ทุ่ง .... เป็ดลงกินเมล็ดวัชพืช แถมขี้เป็นปุ๋ย

3. ปล่อยน้ำท่วม .... ทำแบบเดิมที่เคยทำ วัชพืชประเภทน้ำท่วมตาย เมื่อเห็นว่าตายแล้วก็ปล่อยน้ำออกให้หมด เหลือติดหน้าดินเจ๊าะแจ๊ะรอยตีนควาย แล้วฉีดพ่นทางใบ “ไบโออิ + ยูเรีย จี” 2 รอบ ห่างกันรอบละ 2-3 วัน เพื่อหยุดการเจริญเติบโตทางต้น ไม่ให้ต้นสูงเกินจำเป็น

4. ใบข้าวบังแดด .... เลือกข้าวพันธุ์ใบมากๆ บำรุงด้วยสูตรเร่งแตกกอ ให้แตกกอมากๆ เพื่ออาศัยใบข้าวบังแดดไม่ให้ส่องไปถึงใบวัชพืช .... เลือกพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะทรงต้นสูง ใบแผ่กว้าง ช่วยปกคลุมพื้นเพื่อบังแสงแดดไม่ให้แสงส่องลงสู่พื้นดินล่าง จะทำให้การงอกของเมล็ดวัชพืชลดลง และชะลอการเจริญเติบโตของต้นวัชพืชได้ .... ข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105, และ กข23 ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืชได้ โดยเฉพาะข้าวขาวดอกมะลิ 105 ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ เมื่อมีการแข่งขันกับวัชพืชในสภาพนาน้ำฝน

5. ตัดต้นข้าว .... ตัดต้นข้าวระยะแตกกอพร้อมกับหญ้าที่ออกรวง ก่อนที่เมล็ดหญ้าจะสุก เป็นการตัดวงจรวัชพืชไม่ให้แพร่พันธุ์ต่อไป โดยตัด 1-3 ครั้งในช่วงข้าวแตกกอ (ห้ามตัดช่วงข้าวตั้งท้องเด็ดขาด) ต้นข้าวที่ตัดถูกแล้วจะ แตกกอ+แตกยอด ใหม่มากขึ้น และทำให้ต้นข้าวไม่สูงด้วย ในขณะที่ต้นวัชพืชไม่แตกยอดจะแตกแต่หน่อ .... ในเมื่อต้นข้าวแตกยอดใหม่ต่อจากตอเดิมได้ ต้นข้าวจึงสูงแซงต้นวัชพืช กับทั้งใบข้าวบางส่วนบังแสงแดดต่อต้นวัชพืชทำให้วัชพืชชงักหรือยืนต้นตายได้

6. ใช้เครื่อง “แถก/ถาก/พรวน” หญ้า .... ทำนาดำ แล้วใช้เครื่อง “พรวน/ถาก/แถก” ต้นวัชพืชระหว่างแถวปลูก ควบคู่กับ เลือกข้าวพันธุ์ใบมากๆ บำรุงด้วยสูตรเร่งแตกกอ ให้แตกกอมากๆ เพื่ออาศัยใบข้าวบังแดดไม่ให้ส่องไปถึงใบวัชพืช

7. ถอนด้วยมือ .... คำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ถือโอกาสถอนข้าวปนไปด้วย เท่ากับได้ 2 เด้ง .... กำจัดวัชพืชโดยถอนด้วยมือ 2 ครั้ง ที่ระยะ 15 วัน และ 30 วัน หรือมากครั้งกว่า หลังข้าวงอก จะทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 80% เมื่อเปรียบเทียบกับไม่มีการควบคุมวัชพืช

8. ล่อให้งอกแล้วย่ำ ....
- วางแผนใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 1 เดือน (30 วัน) โดย....
ย่ำรอบที่ 1 ณ วันที่ 1 ในปฏิทิน
ย่ำรอบที่ 2 ณ วันที่ 10 ในปฏิทิน
ย่ำรอบที่ 3 ณ วันที่ 20 ในปฏิทิน
ย่ำรอบที่ 4 ณ วันที่ 30 ในปฏิทิน ย่ำรอบสุดท้าย พร้อมกับทำร่องมะพร้าวระบายน้ำ แล้วลงมือดำ
- ระยะเวลา 10 วันหลังย่ำแต่ละรอบ วัชพืชถ้าไม่ตายคืองอก ถ้าตายคือไม่งอก

- ก่อนลงมือย่ำรอบแรก สำรวจปริมาณเปอร์เซ็นต์วัชพืชเพื่อให้รู้ว่ามีเท่าไร หลังจากย่ำรอบแรกแล้ว ก่อนลงมือย่ำรอบสอง รอบสาม และรอบสี่ ให้สำรวจปริมาณเปอร์เซ็นต์วัชพืชก็จะรู้ว่าวัชพืชหายไปเท่าไร หรือยังเหลืออีกอยู่เท่าไร นั่นความความสำเร็จหรือไม่สำเร็จจากวิธีการย่ำ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น บรรดาวัชทุกชนิดควรต้องลดลง

– การพิสูจน์ว่ายังมีวัชพืชที่ถูกย่ำไปแล้วพร้อมที่จะงอกใหม่ได้อีกหรือไม่ ทำกำดินพร้อมขี้เทือกขึ้นมา 1 กำมือใหญ่ๆ ล้างน้ำกรองดินออก ก็จะเห็นเศษซากวัชพืช ดูว่าลักษณะแบบที่เห็น (สด/เน่า) นั้นสามารถงอกใหม่ได้หรือไม่

** ป้องกันเกิดใหม่ .... ป้องกันเมล็ดวัชพืชบริเวณคันนา หรือพื้นที่ใกล้เคียงปลิวเข้ามาในแปลงนาอีก โดยใช้ไม้เรียวตีก้นเด็กฟาดก้านดอกวัชพืชให้หัก หรือใช้เครื่องตัดหญ้าตัด ซึ่งก้านดอกหญ้าที่หักหรือขาดไปแล้วจะไม่สามารถเจริญเติบโตขยายพันธุ์ต่อไปได้อีก

9. หยุดปลูกข้าว .... ปลูกพืชอื่น 2-3 รุ่น เพื่อตัดวงจรชีวิตวัชพืช

หมายเหตุ :
- ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ "ยากที่ใจ" เท่านั้น
- รุ่นนี้ลงทุนด้วยเวลา "ล้างบางวัชพืช" รุ่นหน้ารุ่นต่อไป งานจะง่ายขึ้น
- ผลผลิตที่ได้รับ คุ้มเกินคุ้ม

-------------------------------------------------------------

จาก : (082) 823-45xx
ข้อความ : มะนาวแป้นใช้ปุ๋ยลุงคิมครบสูตร เปลือกหนา เพราะอะไร ให้มากเกินไปหรือเปล่า....
ตอบ :
- ทัศนคติของคนปลูกต้นไม้ สิ่งแรกที่ถามหาคือ “ปุ๋ย” ราวกับว่า ปุ๋ยคือของวิเศษ ปุ๋ยคือแก้วสารพัดนึก เมื่อใส่แล้วให้แล้วต้นไม้ต้นพืชเจริญเติบโตออกดอกติดผล เกรด เอ. จัมโบ้. ตามต้องการเป๊ะๆ .... คนมีปัจจัยสี่เพื่อการดำรงชีวิต ปัจจัยทั้งสี่ต้องสอดคล้องกัน หากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ขาดหรือไม่สอดคล้องกับปัจจัยอื่น ร่างกายคนก็จะเจริญเติบโตแบบไม่สมดุล ฉันใด ต้นไม้ต้นพืชต้องมีปัจจัยเพื่อการดำรงชีวิต ได้แก่ ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค หากปัจจัยสารอาหาร คือ ปุ๋ย เพียงอย่างเดียวถูกต้อง แต่ปัจจัยอื่นอีก 5 ปัจจัย ไม่เหมาะสม ปุ๋ยก็ไม่เกิดประโยชน์ ลงท้าย ต้นไม้ต้นพืชก็จะไม่เจริญเติบโตดังใจนึก

- น่าจะรายงานผลหน่อยว่า สภาพต้นสมบูรณ์ไหม ? ความดก O.K. ไหม ?

- อาการเปลือกหนา น่าจะมาจากไนโตรเจนเกิน ช่วงนี้หน้าฝน ไนโตรเจนจากน้ำฝน กับไนโตรเจนต้นทุนเดิมในดิน แม้ว่าไนโตรเจนจะเป็นตัวหลักในการขยายขนาดผล แต่ต้องมีตัวอื่นมากำกับใน เรโช ที่เหมาะสมด้วย เช่น 3:1:2 หรือ 4:1:2 คู่กับธาตุรอง ธาตุเสริม ตัวอื่นๆ ในเมื่อไม่สามารถวัดปริมาณไนโตรเจนต้นทุน ทั้งในดินและที่ฝนเติมให้ว่ามีเท่าไหร่ ก็ให้บำรุงด้วยสูตรสหประชาชาติไปเรื่อยๆ เมื่อหมดฝนก็หมดอาการไนโตรเจนเกิน, ส่งปุ๋ยตัวอื่นลงไปคานปริมาณกับไนโตรเจนต้นทุนในดิน งานนี้ต้องใช้เวลาบ้าง แล้วทุกอย่างจะดีเอง

- ถ้าอายุผลเดือนสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยวเปลือกยังหนา (ต่อมน้ำมันไม่ใส น้ำน้อย มักตามมาด้วย) .... ทางใบให้ 0-21-74 เดี่ยวๆ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 10 วัน หรือให้ 3 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน ให้ครั้งสุดท้ายก่อนเก็บ 7-10 วัน .... กับให้ทางรากด้วย 8-24-24 ครั้งเดียว แล้วงดน้ำหรือให้น้ำน้อยๆ พอเลี้ยงลูกรุ่นหลัง เก็บเกี่ยวผลแก่แล้วค่อยกลับมาบำรุงรุ่นหลังใหม่ด้วยสูตรเดิม

- ปุ๋ยไม่ใช่ของวิเศษ ปุ๋ยไม่ใช่แก้วสารพัดนึก การที่ปุ๋ยจะเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลต่อพืช ต้องมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ปัจจัยที่ว่ามีทั้ง ปัจจัยเสริม/ปัจจัยต้าน สองปัจจัยนี้มีผลต่อปุ๋ยอย่างไร คิดเอาเอง .... ง่ายๆ ดินไม่ดี น้ำไม่ดี ใส่ปุ๋ยลงไปต้นไม้ต้นพืชจะเอาไปกินได้ไหม หรือ ดินเขาดินเรา ดินเราเมื่อก่อนกับเดี๋ยวนี้ เหมือนกันไหม ? มีผลต่อพืชที่ปลูกไหม ? กับอีกหลายอย่างที่ต้องไปด้วยกัน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน

- ทางออกสุดท้าย เปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยยี่ห้ออื่นซิ หรือย้อนกลับไปใช้วิธีการเดิมที่เคยทำ อาจจะดีขึ้นก็ได้ (พูดจริง ไม่ใช่ประชด).... เหมือนลางเนื้อชอบลางยา

---------------------------------------------------------



.