kimzagass หาวด้า
เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009 ตอบ: 11563
|
ตอบ: 06/02/2013 3:26 pm ชื่อกระทู้: |
|
|
ข้อมูลมีรายละเอียดน้อยไปหน่อย.....เหมือนไปหาหมอ บอกแค่ "ปวดท้อง" แต่ไม่บอกรายละเอียดอย่างอื่นเกี่ยวกับท้องเลย หมอจะวิฉัยโรคแล้วสั่งยาได้ไหม ?
พวกเราเหมือนไม่เห็นความสำคัญของต้นไม้ต้นพืช ทั้งๆที่เขาก็มีชีวิต เกิด กิน แก่ เจ็บ ตาย ขยายพันธุ์ มีความรู้สึกอบอุ่นร้อนหนาว ได้เหมือนคน แล้วคนกลับคิดว่า ปัญหาอะไรที่เกิดแก่ต้นไม้ต้นพืช แก้ไขอย่างไรก็ได้....ประมาณนั้น
พืชต้องมี "6 ปัจจจัยพื้นฐานเพื่อการดำรงชีวิต" ได้แก่ ดิน - น้ำ - แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล - สารอาหาร - สายพันธุ์ - โรค นอกจากนี้อาจมี ความสูงจากน้ำทะเลปานกลางเข้ามาเกี่ยวด้วย.....ในขณะที่คนมีปัจจัย 4 เพื่อการดำรงชีวิต อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค เครื่องนุ่งหุ่ม ยุคนี้ให้เพิ่ม โทรศัพท์ รถยนต์ โทรทัศน์ ฯลฯ แล้วแต่ปัจเจกบุคคลเข้าไปอีก
กรณียางพาราของคุณ ถ้าลุงคิมนั่งฌานสมาบัติได้ คงหาคำตอบ "ฟันธง" ให้เลยได้
ยุค IT ใช้โทรศัพท์มือถือ ซักฮูป แล้วส่งมา............................ก็ได้
อธิบายลักษณะอาการจาก ปลายยอด ไล่ลงมาถึงปลายราก............ก็ได้
คำตอบแบบเหวี่ยงแห ติดปลาอะไรก็ได้ ติดปู ติดเต่าก็เอา
1) เชื้อราเข้าราก สาเหตุเพราะดินเป็นกรด ดินเป็นกรดเพราะสารเคมีประเภทยาฆ่าหญ้า (ไกลโฟเสต/ดูดซึม), ปุ๋ยเคมีเหลือตกค้างเนื่องจากใส่ ผิดปริมาณ ผิดอัตรา ผิดชนิด ผิดประเภท ผิดสูตร ผิดดิน ผิดน้ำ ผิดจุลินทรีย์ ผิดอุณหภูมิ ผิดระยะพัฒนาการของพืช ผิดผิดผิด, น้ำขังค้างนาน, ...... แก้ไขโดย เลิกยาฆ่าหญ้า, ลดปุ๋ยเคมี, ระบายน้ำ .... ปรับสภาพโครงสร้างดินด้วยจุลินทรีย์ ให้สารอาหารแบบ อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสมของยางพารา จ.ตรัง ระยะฟื้นฟูสภาพต้น .... คำแนะนำ ใส่ ยิบซั่ม น้ำหมักชีวภาพสูตรไหนก็ได้ ที่มีทั้งสารอาหารอินทรีย์ สารอาหารเคมี จุลินทรีย์ และสารอาหารสำหรับจุลินทรีย๋ประจำถื่น.....สารอาหารที่ยางพาราต้องการ ได้แก่ 21-7-14, แม็กเนเซียม. สังกะสี. ธาตุรอง/ธาตุเสริม ช่วงที่รากยังไม่พร้อมดูดซับสารอาหารควรให้ทางใบแทนไปก่อน ..... เมื่อดินดีแล้ว ดูจากต้นแตกยอดใหม่ แนะนำให้ใช้จุลินทรีย์ไตรโคเดอร์มา.เพื่อกำจัดเชื้อโรค (รา) ในดิน....ไม่ควรใช้ไตรโครเดอร์ม่า.ขณะที่ดินยังเป็นกรด
2) สายพันธุ์.....ถ้าเป็นยางพาราชนิดเอาเนื้อไม้ ถึงต้นมีสภาพสมบูรณ์ ก็จะมีน้ำยางออกมาน่้อยมาก หรือไม่มีเลยก็ได้
การปฏิบัติเพื่อค้นหาต้นตอของปัญหา :
- วัดค่า พีเอช ดิน
- ดูโครงสร้างดิน
- แหวกดินดูราก
- ตรวจสอบสายพันธุ์
. |
|