-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ข้าวป่ายักษ์......
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ข้าวป่ายักษ์......

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/05/2011 8:18 pm    ชื่อกระทู้: ข้าวป่ายักษ์...... ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้าวป่ายักษ์ (Wild Rice) / Vildris




















ข้าวป่ายักษ์ (Wild Rice) อาหารฝรั่งประเภทสัตว์ปีก เช่น เป็ด หรือห่าน จะมีข้าว
ชนิดหนึ่งเป็นเครื่องเคียงประเภทผักมาด้วยลักษณะเมล็ดจะใหญ่ยาวกว่าข้าวเมล็ดยาวของไทย
มีสีม่วงเข้มรสชาติคล้ายข้าวซ้อมมือแต่นุ่มนวลกว่า ข้าวชนิดนี้เป็นพืชวงศ์หญ้า แต่คนละสกุล
(Genus) กับข้าวปลูกต้องนำเข้าจากสหรัฐอเมริการาคาค่อนข้างแพงมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า
Zizania aquatica ชื่อสามัญมีหลายชื่อ เช่น wild rice, indian rice, water rice,
water oats เป็นพืชพื้นเมืองขึ้นตามริมน้ำ หนองบึง ในสหรัฐอเมริกาตอนเหนือ แคนาดา และ
ภาคเหนือของประเทศจีน พวกนกเป็ดน้ำ และห่านชอบกินเป็นอาหารในเขตอนุรักษ์ป่าของสหรัฐ
อเมริกาและแคนาดาจะมีขึ้นอยู่มากตามธรรมชาติ พืชชนิดนี้ยังไม่เคยพบในประเทศไทย
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเคยนำเมล็ดพันธุ์จากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเมื่อประมาณ
ปีพ.ศ.2529 สถานีวิจัยข้าวได้ทดลองปลูกตามสถานีทดลอง และศูนย์วิจัยต่าง ๆ แต่ก็ยังไม่ประสบ
ผลสำเร็จเท่าที่ควร ต้นไม่แข็งแรงและยังไม่เหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศของประเทศไทย
ข้าวไม่แตกกอและเมล็ดก็เล็กกว่าพันธุ์เดิม ข้าวป่ายักษ์มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Wild Rice
เช่นเดียวกัน บางท่านจึงเข้าใจสับสนกับข้าวป่า (Oryza spp.) ซึ่งเป็นพืชคนละสกุลกัน จึงใช้
ชื่อไทยว่าข้าวป่ายักษ์


http://www.pantown.com/board.php?id=5495&area=4&name=board33&topic=235&action=view
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/05/2011 8:44 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้าวป่าไทย และข้าวป่าเทศ


ข้าวป่าไทยเป็นข้าวที่มีเมล็ดขนาดเล็ก มีหางยาว เยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงอ่อนจนถึงแดงเข้ม ถูกจัดเป็นวัขพืชที่ร้ายแรงในแปลงนาข้าวขาว
ซึ่งมีมาตรฐานกำหนดไว้ไม่ให้มีปะปนในข้าวชาวเลย ทั้งที่ข้าวมีรงควัตถุตามธรรมชาตินั้นมีคุณค่าช่วยเสริมสุขภาพ และราคาแพง


แหล่งข้าวป่าไทยตามที่ สงกรานต์ จิตราการ รายงานไว้ว่าข้าวป่าจัดเป้นพืชวงค์หญ้าเข่นเดียวกับข้าวขึ้นได้ตามธรรมชาติ พบได้ทั่วไป
ในแอ่งนำ ตามคูคลอง และในแปลงข้าวปลูก มีชื่อเรียกแตกด่างกันไปตามแหล่งที่พบ ภาคกลางนิยมเรียกว่า ข้าวละมาร หรือหญ้า
ละมาร หรือหญ้าสะแห หญ้านกปี๊ด หรือข้าวผี ส่วนภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือเรียกว่าข้าวนก จากการสำรวจทั่วโลกพบ
ข้าวป่าถึง 21 ชนิด ส่วนประเทศไทยพบข้าวป่า 5 ชนิด ทุกชนิดมีเมล็ดสีแดง และดำ บางชนิดเป็นบรรพบุรุษของข้าวปลูกทั้งชนิด
Indica และ Japonica มีความหลากหลายทางพันธุกรรมสูง

ข้าวป่าไทยอยู่ในสกุลเดียวกับข้าวที่บริโภคกันทั่วไปคือ Oryza ไม่มีการผลิตจำหน่ายเพื่อการบริโภคเลยโดยเฉพาะข้าวป่า
ไทย ยกเว้นข้าวป่าของอินเดียที่มีชื่อ Oryza nivara มีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูระบบประสาทของผู้เป็นอัมพาตได้


ข้าวป่าเทศหรือข้าวป่ายักษ์เป็นพืชในวงค์หญ้าแต่คนละสกุลกับข้าวไทยคือ Genus Zizania เป็นข้าวป่าที่มีการผลิตเพื่อจำหน่าย
ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และฮังการี ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดมีชื่อวิทยาศาสตร์ Zizania aquatica และ Zizania palustris
มีชื่อสามัญแตกต่างกันได้แก่ Canadian rice, Squaw rice, water oat, Black bird oat, March oat

ข้าวป่ายักษ์มีเมล็ดยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 1/2-3/4 นิ้ว มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.06-0.18 นิ้ว เมล็ดเมื่ออ่อนมีสีเขียว เมื่อ
แก่มีสีม่วงดำ การเก็บเกี่ยวจะต้องพายเรือเข้าไปแล้วโน้มรวงข้าวลงมาตีด้วยไม้พลองให้เมล็ดร่วงลงในเรือ นำมาคั่วหรือย่าง
แล้วจึงกะเทาะเปลือกออกแยกแกลบออกก่อนบรรจุ

ข้าวป่ายักษ์มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีเนื้อสัมผัสเหนียวร่วนต้องเคี้ยวนานมีกลิ่นถั่วและกลิ่นควัน นิยมนำมาผสมกับข้าวชนิดอื่น
เพื่อให้ราคาถูกลง การบริโภคนิยมนำไปนึ่งผสมกับผักทำสลัด จัดเป็นเตรื่องเคียงอาหารประเภทไก่ และปลา เนื่องจากข้าวป่า
ยักษ์มีราคาแพงจึงนิยมเสริฟเฉพาะในโรงแรมระดับ 5 ดาว และสายการบินชั้นที่ หนึ่ง


http://www.vcharkarn.com/vblog/112591
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/05/2011 8:58 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ข้าวหอมสายพันธุ์ใหม่ที่กว่างซี ศูนย์วิจัยข้าวเอกชน ฮว๋างสื้อ


เขตปกครองตนเองมณฑล กว่างซี (กวางสี) ได้ทำการวิจัยผสมพันธุ์ข้าวหอมสายพันธุ์ใหม่ ข้าวหอมลูกผสมสามสายพันธุ์นี้
เป็นข้าวหอมแดง มีชื่อเรียกว่า ปินหลางหง เป็นข้าวพันธุ์ลูกผสมที่นำเอาข้าวป่าที่ดอกเพศผู้ไม่พัฒนา แหย่ป้าย มาทำการ
ปรับปรุงพันธุ์ ดังนั้นเมล็ดข้าวพันธุ์ลูกผสมนี้จึงเป็นข้าวที่มียีนดอกเพศผู้ไม่พัฒนาตามไปด้วย นับเป็นพันธุ์ข้าวสีแดงที่มีกลิ่น
หอมแรกสุดในประเทศจีน

ข้าวหอมแดงลูกผสมที่ว่านี้ ออกรวงแทงดอกดีมาก คุณภาพเมล็ดข้าวดี มีความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมที่ดีอีกด้วย
จากการนำเสนอในที่ประชุมข้าวโลกที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน เป็นเป้าที่สนใจของนักวิชาการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเป็น
อย่างสูง ได้รับการยกย่องชมเชยในด้านคุณภาพและกลิ่นของข้าวสายพันธุ์นี้โดยทั่วกัน

จากการวิเคราะห์คุณภาพข้าว และคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรของกระทรวงเกษตรของประเทศ รวมทั้งหน่วยงาน
วิเคราะห์ฯ ของเขตปกครองตนเองกว่างซีเอง รายงานว่าข้าวหอมแดงดังกล่าวมีคุณค่าทางโภชนาหารสูง มีสารเสริมสุขภาพ
และตัวยาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าข้าวทั่วๆไป อาทิ ไวตามิน E เฟลวาโนน เบตาแคโรทีน และ กรดลีโนลีนิค
โดยเฉพาะกรดลิโนลีนิคนั้นมีสูงกว่าข้าวธรรมดาถึงเท่าตัวเลยทีเดียว ส่วนไฟเบอร์นั้นมีมากกว่า 50 %ขึ้นไป







ข้าวหอมแดงลูกผสมพันธุ์นี้สีออกจำหน่ายเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
1. หงปินหลาง A (หมากแดง A) เป็นข้าวกล้อง (สีหยาบ) ถือเป็นข้าวสมุนไพรใช้บริโภคบำรุงสุขภาพ

2. หงปินหลาง B (หมากแดง B) เป็นกึ่งข้าวกล้อง เหมาะใช้หุงเป็นข้าวต้มบำรุงกำลังผู้ป่วยหลังพักฟื้นจากการรักษา คน
สูงอายุ หญิงมีครรภ์ เด็กเล็ก มีประโยชน์ในการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง

3. หงปินหลาง C (หมากแดง C) เป็นข้าวขัดขาวสำหรับบริโภคทั่วไป


http://www.eco-agrotech.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538649837&Ntype=2
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/05/2011 9:23 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

พันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง กอใหญ่ และต้านทานการล้ม






ด้วยความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์สามกลุ่มจากมหาวิทยาลัยนาโกย่า กับนักวิชาการข้าวจากสถาบันวิจัยข้าวแห่งสาธารณรัฐ
ประชาชนจีน ได้ทำการศึกษาวิจัยยีนที่ให้ผลผลิตของข้าว และได้ค้นพบยีนที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลผลิตของข้าว โดยพบว่ายีนที่
ควบคุมการปลดปล่อยฮอร์โมนในการขยายตัวเพิ่มจำนวนของเซลล์ต้นข้าวในช่วงของการเจริญเติบโตนั้น ถ้าสามารถทำให้ลด
การปลดปล่อยฮอร์โมนของยีนดังกล่าวนี้ได้ ก็จะทำให้ต้นข้าวมีการเจริญเติบโตและแตกกอมากขึ้น อันจะเป็นการนำไปสู่การติด
รวงเพิ่มจำนวนเมล็ดข้าวมากขึ้น ซึ่งก็หมายถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง แต่จากผลที่ว่านี้ จะเกิดผลเสียติดตามมานั่นก็คือ ต้นข้าวที่
มีลักษณะเป็น “หัวโต ตีนเล็ก” ทำให้ต้นข้าวไม่แข็งแรงล้มพับหักงอง่าย


เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาผลความขัดแย้งของการเพิ่มผลผลิต แต่ต้นไม่แข็งแรง หักล้มง่าย จึงได้นำผลงานวิจัยยีนต้นเตี้ย SD 1
และยีนทรงต้น MOC 1 (single tiller 1) เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในการปรับปรุงพันธุ์จนได้พันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูง ต้นเตี้ย
กอใหญ่ขึ้น

ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มนักวิจัยพันธุ์ข้าวของมหาวิทยาลัยนาโกย่าก็ได้ค้นพบยีน Gn1a ที่มีผลต่อการติดดอกออกรวงของข้าวมา
แล้ว และพบว่าว่าถ้ายีนดังกล่าวลดการทำงานลงก็จะทำให้การเจริญเติบโตของยีนผลผลิตเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งได้มีการผสม
ปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ถึง 23 % และตั้งชื่อสายพันธุ์ข้าวนี้ว่า Yue Guang Paddy rice

หลังจากประสบความสำเร็จในการผสม-ปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ร่วมมือทำการวิจัยนี้แล้ว ได้ทำการปลูกเปรียบเทียบผลผลิตข้าวที่
ได้ระหว่างสายพันธุ์ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่กับสายพันธุ์ Yue Guang แล้ว ปรากฏว่าสายพันธุ์ใหม่นี้ให้ผลผลิตสูงกว่า 20 % เมื่อ
เทียบผลผลิตต้นต่อต้นโดยที่มีคุณภาพเหมือนเดิมทุกประการ




พันธุ์ข้าวที่ใช้ยีน Moc 1 เข้าช่วยในการแตกกอ


http://www.eco-agrotech.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=456648&Ntype=2
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/05/2011 9:26 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

เอายอดมะระมาเสียบตอบวบดีอย่างไร ?





สวน หวู่เผิงยี่หล่งเคอจี้หยวน (武棚仪陇科技园) เป็นบริษัทวิจัยทางการเกษตร สำนักงานทำการอยู่ที่ จังหวัดยี่หล่งเซี่ยน
(仪陇县) อำเภอหวู่เผิ่งเซียง (武棚乡) ในมณฑลสื้อชวน (四川) ได้นำเอายอดมะระมาเสียบบนต้นตอบวบ ในที่นี้ไม่ได้
ระบุว่าเป็นบวบอะไร ชนิดไหน เพาะมีทั้งบวบเหลี่ยม บวบงู และบวบสายพันธุ์อื่นๆอีกหลายจำพวก ท่านใดที่จะลอกเลียนแบบ
คงต้องทดลองใช้หลายๆสายพันธุ์ทดสอบดูเอาเอง ในเมื่อได้แนวทางมาแล้ว (เผื่อจะได้ผลที่เจ๋งกว่าก็เป็นได้) ปรากฏว่า
ประสบผลสำเร็จด้วยดี ผลลัทธ์ที่ได้ก็คือ ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นลูกมะระที่มีขนาด
อวบใหญ่กว่าเดิม ยาว และหนาพอๆกับผลบวบที่เป็นต้นตอ มีรสขมอมหวาน ที่ได้มาจากบวบ รสขมหวานกลมกล่อม (แบบ
ไม่ต้องใส่ผักดองร่วมเวลาต้ม) โดยทางบริษัทจะเริ่มเผยแพร่ ผลักดันให้ปลูกเป็นการค้าในวงกว้างแถบพื้นที่อื่นๆต่อไป

เกษตรกรท่านใดที่ทำการทดลองแล้วประสบผลดี ก็อย่าลืมแบ่งปันความรู้สู่เพื่อนเกษตรกรด้วย เป็นการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ซึ่งกันและกันที่ควรกระทำในสังคมไทย

สารคดีเรื่องนี้ค่อนข้างสั้น จึงขอแถม เว็บไซท์ การเกษตรที่รายงานความก้าวหน้าทางการเกษตรใหม่ของจีนได้ยลกัน
และเข้าใจในอุปสรรคของพี่น้องเกษตรกรชาวไทยเผชิญหน้าได้ดี ด้วยบกพร่องทางการสื่อสารที่เป็นภาษาจีน จึงพยายาม
หยิบยกเอาหน้าที่เป็นรูปภาพมาให้ชมกัน ให้ได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆที่ก้าวหน้า เพื่อจะได้มีวิสัยทัศน์ และสายตาที่กว้างไกล
ตามทันกับกาลที่เปลี่ยนไป เชิญเลยครับ ที่นี่


http://www.eco-agrotech.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539334501&Ntype=2
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11561

ตอบตอบ: 12/05/2011 9:28 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สารกำจัดแมลงชีวะภาพนาโน

นับเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ออกจะซับซ้อนทำความเข้าใจยากสำหรับเกษตรกรไทยที่มีความรู้ความ
เข้าใจทางด้านวิชาการค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว แต่จะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากวิทยาการแขนงนี้เริ่มเข้ามามีบทบาท
ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นทุกวันๆ เริ่มตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เสื้อผ้า หยูกยา และอื่นๆอีกจิปะถะที่จะมีตามมา
เรื่อยๆ ซึ่งบางอย่างถ้าไม่ศึกษาทำความเข้าใจ ก็จะทำใจยอมรับได้ยาก และไม่เชื่อว่ามันจะมีขีดกำลังความสามารถที่เป็นไปได้
อย่างเช่น ดื่มแค่น้ำก็สามารถทำให้โรคบางอย่างทุเลาหายได้ หรือเพียงแต่แช่ก้อนเซรามิกนาโนในภาชนะเก็บกักน้ำก่อนให้เป็ด
ไก่กินก็ทำให้สัตว์เจริญเติบโตเร็วขึ้น ไม่ใคร่เป็นโรค ประหยัดอาหารได้ 10 ~ 18 % กลิ่นเหม็นจากมูลที่ถ่ายออกมาลดหด
หายลง 60 ~ 70 % ฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว

วกกลับมาพูดคุยถึง ยาฆ่าแมลงชีวะภาพที่อยู่ในสภาพนาโน กันดีกว่า อันคำว่า นาโน นั้น เป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า นาโนเมตร
ซึ่งเป็นหน่วยวัดความยาวเช่นเดียวกับคำว่า เมตร แต่เล็กกว่า เมตร เอามากๆเลยทีเดียว ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆมอง
เห็นภาพที่ชัดเจนสักหน่อยก็ลองหลับตานึกถึงเส้นผมหนึ่งเส้นที่ขยายได้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตรแล้วทำการแยกเส้นผม
เส้นนี้ออกตามยาวให้ได้หนึ่งพันล้านเส้นเท่าๆกัน ส่วนที่แยกออกหนึ่งเส้นนั้นแหละมีขนาดเท่ากับ 1 นาโน ที่ตาเรามองไม่เห็น
อีกแล้ว ถึงแม้จะใช้กล้องขยายกำลังขยายสูงมากเท่าไรก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่นั่นเอง (จะมองเห็นได้ก็ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์
สร้างภาพจากกล้องส่องกราดเท่านั้น) แล้ว ยาฆ่าแมลงนาโน ที่ว่านี้มีขนาดเท่าไร คำตอบก็คือ ต้องมีขนาดของอนุภาคไม่
เกิน 100 นาโน นั่นแหละจึงจะถือว่า เป็น ยาฆ่าแมลงนาโน ได้ แต่ถ้ามีขนาดอนุภาคใหญ่กว่านี้ก็ไม่ถือว่าเป็น ยาฆ่าแมลงนาโน

แล้วถามว่า ถ้ามันเป็นยาฆ่าแมลงนาโนแล้ว มันจะมีผลดีอย่างไร ? เพื่อให้มีความเข้าใจง่ายและรวดเร็วขึ้นก็ขอให้พิจารณา
รูปของต้นกล่ำปลี 2 รูปข้างล่างนี้ ต่างก็ฉีดพ่นด้วยยาฆ่าแมลงชนิดเดียวกัน แต่รูปทางขวามือที่เห็นสวยงามไม่มีรูพรุนเลยนั้น
ฉีดพ่นด้วยยาที่ถูกทำให้อยู่ในสภาพของนาโนแล้ว






คงเกิดความสงสัยมากขึ้นละสิว่า มันเป็นไปได้อย่างไร ? เพื่อให้คลายความสงสัยและทำความเข้าใจมากขึ้น ให้พิจารณารูป
ที่นำมาแสดงต่อไปนี้




ยาฆ่าแมลงขวดนี้ (ซ้าย) เป็นฆ่าแมลงชีวภาพดั้งเดิมที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปให้อยู่ในสภาพ นาโน สังเกตเห็นได้ว่าน้ำยาใน
ขวดมีการแยกออกเป็นชั้นๆ เนื่องจากมีอนุภาคที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อนำไปละลายน้ำแล้ว ไม่มีการกกระจายตัวที่สม่ำเสมอ
ยาฆ่าแมลงขวดนี้ (ขวา) ผ่านการแปรสภาพให้อยู่ในรูปของนาโน แล้ว จะมีขนาดของอนุภาคตัวยาที่เล็กมากๆ มีการกกระ
จายตัวที่สม่ำเสมอดี เมื่อนำไปละลายน้ำแล้วจึงสามรถแทรกซึมไปทั่วผิวใบ เมื่อพ่นถูกตัวแมลงก็ซึมเข้าสู่ตัวแมลงได้เป็นอย่างดี






ยาที่เห็นทางด้านบนที่เห็นนี้ ก็เป็นยานาโนเช่นกัน แต่เป็นยาป้องกันกำจัดเชื้อราที่ถูกแปรสภาพให้อยู่ในสภาพนาโนแล้ว เมื่อนำ
ไปใช้งานจึงให้ประสิทธิภาพที่สูงและดีกว่าเดิมมาก



http://www.eco-agrotech.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=391381&Ntype=2
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©