-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ชาวสวน ชาวไร่...................เบี้ยล่างนายทุน
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ชาวสวน ชาวไร่...................เบี้ยล่างนายทุน
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2
 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/10/2010 7:43 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[img]http://news.212cafe.com/images_cache/dailynews-12049077525334.jpg[/img









http://www.google.co.th/imglanding?q=%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1&imgurl=http://ads.dailynews.co.th/news/images/2008/agriculture/2/28/155919_69768.jpg&imgrefurl=http://www.phtnet.org/news51/view-news.asp%3FnID%3D137&h=239&w=340&sz=16&tbnid=zUUKb4uvsZz8GM:&tbnh=84&tbnw=119&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1&zoom=1&q=%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1&hl=th&usg=__hI0WMeHU6rw5mOj1oRxK5i2eMpU=&sa=X&ei=O_60TPXTNYLUvQOUlfWCCg&ved=0CB4Q9QEwAQ&start=0#tbnid=AHVuPo-uTyqvzM&start=8
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 13/10/2010 8:01 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)




พ่อค้าหอบทุเรียน แจ้งความ กินแล้วอ้วกแตก

พ่อค้าเมืองคอน บุกโรงพัก หอบทุเรียนเข้าแจ้งความ เผย เตรียมนำส่งขายนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่มีสารเคมีตกค้างเพียบ ผ่าให้ลูกกิน แล้วอ้วกแตก หน้าซีด ชักดิ้นชักงอ หวั่นเสียชื่อไทย...

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 07.15 น.วันที่ 29 ม.ค. นายสิรภพ หรือยุทธ ศรีศักดิ์ อายุ 38 ปี มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายส่งผลไม้ อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ 6 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ขับรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไทเกอร์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บร-9811 สุราษฎร์ธานี มาจอดที่หน้า สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จากนั้นได้หยิบทุเรียนที่อยู่ในรถจำนวนหนึ่ง ขึ้นไปบนโรงพัก เข้าพบ พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ สารวัตรเวร เพื่อแจ้งความ โดยนายสิรภพ ให้การว่า ตน มีอาชีพค้าส่งผลไม้ โดยจะรวบรวมผลไม้ที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปและประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียชื่น ชอบ ส่งให้กับโรงแรม ร้านอาหาร ในจังหวัดภูเก็ต เมื่อเย็นวันที่ 27 ม.ค. ได้ซื้อทุเรียนหมอนทอง จากผู้ค้าขาประจำ คือ แผงผลไม้ป้าจาย ในตลาดย่อยบัวตอง ตั้งอยู่ภายในตลาดค้าส่งผักผลไม้ภาคใต้ (ตลาดหัวอิฐ) ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นทุเรียนหมอนทองคัดเกรด 66 ลูก และทุเรียนย่อยอีก 30 กว่าลูก เป็นเงิน 7,500 บาท นำขึ้นรถไปจอดไว้ที่บ้าน เตรียมส่ง จ.ภูเก็ต เนื่องจาก ต้องรอผลไม้อื่น อาทิ มังคุด แตงโม เงาะ ลองกอง ให้เต็มรถ ปรากฏว่า ขณะจอดอยู่ที่บ้าน ลูกของตนบอกว่าทุเรียนสวยน่ากิน ขอกินหน่อย ตนจึงหยิบทุเรียนบนรถ จำนวน 3 ลูก มาผ่าให้ รวมทั้งหลาน และ ลูก ของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันกิน รวม 7-8 คน โดยหยิบทุเรียนอีก 3 ลูกมาผ่าเพิ่มให้กิน

แต่ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อลูก หลาน และ ลูกของเพื่อนบ้าน ที่กินทุเรียนเข้าไป เกิดอาเจียนอ้วกแตกกันเป็นแถว บางคนหน้ามืดเป็นลมล้มลง บางคนชักดิ้นทุรนทุราย ตน และเพื่อนบ้านที่พอมีความรู้เรื่องแพทย์แผนไทยอยู่บ้าง ช่วยกันนำมะพร้าวมาผ่า ให้เด็กๆ ดื่มน้ำมะพร้าวเป็นการช่วยล้างท้อง จากนั้นได้นำส่งสถานีอนามัยใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่อนามัยระบุว่าเด็ก กินอาหารเป็นพิษ และเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือจนอาการปลอดภัย จึงตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าทุเรียนที่กิน เมื่อฉีกออกจะมีกลิ่นหอมหวลชวนรับประทาน แต่เมื่อดมใกล้ๆ จะพบว่ามีกลิ่นของสารเคมีอยู่ที่ผล และมีสีซีดผิดปกติ มั่นใจว่ามีสารตกค้างในทุเรียน หลังจากนั้นได้นำทุเรียนมาพบ ผู้ค้าที่แผงในตลาดค้าส่ง แจ้งเรื่องให้ทราบและขอคืนทุเรียนลอตนี้ แต่ผู้ค้าปฏิเสธการรับคืนสินค้า จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ นายสิรภพได้นำใบเสร็จการซื้อสินค้า และฉีกทุเรียนให้ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นพบว่า เนื้อทุเรียนเมื่อดมใกล้มีกลิ่นของสารเคมีอย่างรุนแรงจริง ทั้งนี้ทำให้บน สภ.เมืองนครศรีธรรมราชโชยคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นทุเรียน นายสิรภพ ได้มอบใบเสร็จการซื้อขายไว้ให้ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานด้วย

นายสิรภพ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ เนื่อง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ประการสำคัญหากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รับประทานทุเรียนลอตนี้เข้าไป แล้วอาเจียน หน้ามืด ชักดิ้นชักงอ ได้รับอันตราย จะเสียชื่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ทางด้าน พ.ต.ท.อนันต์ เปาะทองคำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้ลงบันทึกประจำวันการแจ้งความของนายสิรภพไว้เป็นหลักฐานก่อน และจะต้องสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจาก พื้นที่ที่เด็กกินทุเรียนแล้วมีอาการอาเจียน หน้ามืด เป็นลมและชักนั้น เหตุเกิดในท้องที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช แต่นายสิรภพซื้อทุเรียนไปจากท้องที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นเหตุเกี่ยวเนื่อง อย่างไรก็ตาม จะได้เชิญผู้ค้าส่งที่ตลาดหัวอิฐมาสอบสวน ถึงที่มาของทุเรียนว่าได้มาอย่างไร และจะต้องส่งทุเรียนของกลางไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ด้วย

ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปที่ตลาดค้าส่งผักและผลไม้ภาคใต้ (ตลาดหัวอิฐ) และสอบถามเรื่องนี้กับ นางจาย รัติพรหม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 7 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ระบุว่า นายสิรภพ ได้ซื้อทุเรียนไปจากตนจริง และ เป็นลูกค้า หรือคู่ค้ากันมานานแล้วด้วย รู้ว่าส่งไปขายภูเก็ต ได้มาขอคืนและแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทราบ แต่กรณี นี้ตนไม่รับคืน เพราะว่าไม่สามารจะรู้ได้ว่าทุเรียนที่ขายอยู่นั้น ลูกไหนหรือชุดไหนที่มีสารตกค้าง เนื่องจาก จะมีพ่อค้าไปรับซื้อมาจากชาวสวน นำมาส่งขายต่อให้ ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องสารตกค้างในผลไม้ ผู้เกี่ยวข้องต้องจัดการตั้งแต่ต้นเหตุ ไม่ใช่มาว่ากันที่ปลายเหตุ ตนค้าขายมาหลายสิบปีไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ที่มา
http://tnews.teenee.com/weird/46827.html
อ่าน : 138; มีคนตอบทั้งหมด : 0; Permalink: http://www.thaiblogonline.com/pajeab.blog?PostID=12152
http://www.thaiblogonline.com/pajeab.blog?PostID=12152
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
catcaty
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 13/08/2010
ตอบ: 525

ตอบตอบ: 28/10/2010 10:21 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

Yuth-Jasmine บันทึก:
ไปในเมืองก่อน เดี๋ยวบ่ายมาบรรเลง จองที่ไว้ก่อน

ไอ้ยู้ดดดดด....ศิษย์ "คาราบาว"

ชาวสวน ชาวไร่.......เบี้ยล่างนายทุน

จริงครับเบี้ยล่างจริง ๆ ตลอดชาติยันลูกยันหลายเลยมั่งครับ
อ่านความคิดเห็นของลุงและเพื่อนหลาย ๆ ท่านแล้วก็เลยอยากจะ
แสดงความคิดเห็นกะเขาบ้าง

ถ้าท่านจะฝันหวานว่าวันข้างหน้าจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นก็ฝันต่อไปเถอะครับ
เพราะ "นรก" กำลังรอท่านอยู่ ชั่วชีวิตผม สิ่งที่พบเห็นก็คือ
เกษตรกรอย่างเรา ๆ ไม่ใช่เป็น "เบี้ยล่าง" ครับ แต่เป็น "ขี้ข้า" ต่างหาก
ไม่มีทางหรอกครับที่จะทำให้เกิดสิ่งดี ๆ ในสังคมเกษตรกรรมทุกวันนี้
ตราบใดที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยังเป็นแบบนี้ ไม่ได้อคติน่ะ แต่มันเป็นความจริงที่เจ็บปวดครับ
ผมถามหน่อย หัวใจหลักของประเทศเราคืออะไรครับ "ภาคเกษตรกรรม" ใช่ไหมครับ
แต่ตลอดชีวิตผมหรือชีวิตใครในนี้อีกหลาย ๆ คน มีใครเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีอำนาจ
ให้ความสนใจอย่างจริงจังบ้างไหม ใครรู้วานบอกผมที

ว่ากันตั้งแต่ ยุคเริ่มเปลี่ยนแปลงจนมาถึงปัจจุบัน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไหมครับ
ไม่มีหรอก นโยบายภาคเกษตร ท่านแขวนป้ายไว้หน้าห้องตัวโต ๆ ชัดเจนมากครับ
มีสองข้อพอแล้ว จำง่าย ท่องขึ้นใจได้สบาย

๑. สูเจ้าทั้งหลาย ช่วยเหลือตัวเองไปเถอะน่ะจ้ะ
๒. ไม่เข้าใจให้อ่านข้อ ๑ ซ้ำอีกหลาย ๆ รอบ


เป็นไงชัดไหมครับ อย่าหลอกตัวเองอีกเลย อ่านง่ายแต่ทำยากใช่ไหมล่ะพี่น้อง
แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกครับ

น่ะ ศักดิ์ศรีของเกษตรกรอย่างเรา ๆ ก็มีเยอะครับ เรียกมันกลับมา
ปิดหูปิดตาตัวเองก็เท่านั้น หวังลม ๆ แล้ง ๆ ก็เท่านั้น ไม่มีใครช่วยก็ช่วยตัวเองครับ
ตัวอย่างในหมู่พวกเรามีหลายท่านครับ ที่เห็นแสงสว่างแล้ว เป็นแนวทางที่ดีที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง
ลุงก็ย้ำ ทำเหมือนเดิมแย่กว่าเดิม ปรับแนวทางใหม่ก็ยังไม่สายครับ

ศึกษาหาความรู้ทุกสำนักให้ชัดเจน เคี่ยวจนข้น ข้นจนคลัก เอามาผสมผสานกันครับ
เลือกทำ เลือกซื้อในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ได้ห้ามรวมกลุ่มน่ะครับ แต่ให้ตัวเราเองยืนให้มั่นคงเสียก่อนดีไหม
เรื่องกลุ่มก้อนก็จะตามมาเอง ถ้าทุกท่านพร้อมจะให้ เพราะในความเป็นจริง
มันรวมยากครับ เอาแต่ละคนให้ถึงฝั่งของตัวเองก่อนดีไหมครับ ผมไม่เถียงว่า
นกกระจาบหลายตัวช่วยให้หลุดตาข่ายนายพรานได้ แต่ถ้านกกระจาบแต่ละตัว
ขี้โรคหมดเรี่ยวหมดแรง รวมกันจะไหวไหม เอ้าใครว่าไงทักท่วงได้ครับ

อ่านแล้วเหมือนน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหลงเหลง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็แค่ข้อคิดเห็น
ของคนบ้าอย่างผม ง่าย ๆ ครับ วิธีอะไรก็ได้ครับ ที่ทำให้ตัวเองอยู่รอดได้อย่าง
ยั่งยืน (มีคุณธรรมสักหน่อยก็ดีน่ะครับ)

แถวบ้านผม เขาว่า "เอาตัวเองให้รอดก่อนครับ" เอาแบบที่ให้นายทุน
เอาเปรียบเราให้น้อยที่สุด ผมเองก็พยายามทำอยู่ครับ
หลังจากนั้น ค่อยมามองกันอีกทีครับว่าจะรวมกลุ่มกันต่อไปอย่างไร

ถ้าอ่านแล้วไม่ถูกใจขอประทานโทษน่ะครับ ห่วงเพื่อน ๆ ทุกคน
แต่ขอห่วงตัวเองให้มากที่สุดก่อนครับ ถ้าตัวเองยังไม่รอดผมก็คงไม่สามารถ
ไปช่วยใครได้หรอกจริงไหมครับ

เนอะสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเองก่อนอันดับแรกครับ
ง่ายแต่ยาก ผมก็เข้าใจสัจธรรมข้อนี้ครับ

ไอ้ยู้ดดดดด...ขะรับ


ย้อนกลับมาเรื่องเก่าๆบ้างเผื่อใครมีความคิดดีๆๆ
หมึกครับผม
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว ส่งอีเมล์
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
ไปที่หน้า ก่อนนี้  1, 2
หน้า 2 จากทั้งหมด 2

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©