-
MySite.com :: ทบทวนกระทู้ - เกษตรสัญจร1 เทียวบ้านกะเหรี่ยง - มะเขือเทศพันธุ์พื้นเมือง
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
ตอบตอบ: 22/06/2017 7:51 pm    ชื่อกระทู้:

.....
DangSalaya
ตอบตอบ: 06/03/2017 12:15 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง - มะเขือเทศพื้นเมือง

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง - มะเขือเทศพื้นเมือง


ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.7





(1)


(2)

(1 - 2) มะเขือเทศพันธุ์พื้นเมือง ส่วนมาก จะมีต้นงอกขึ้นเอง และจะเจริญงอกงาม ในเขตภาคเหนือ ที่ผมเคยเห็น จะมี ที่เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ...ที่ ลำพูน น่าน พะเยา ก็น่าจะมี แต่ผมไม่เคยไปที่นั่นเลยไม่แน่ใจ

ลูกจะโตประมาณ ครึ่งนิ้ว กลิ่นใบจะฉุนเหมือนมะเขือเทศพันธุ์อื่น ๆ แต่ลูกจะมีกลิ่นฉุน ไม่เหมือนมะเขือเทศทั่วไป มันเป็นเอกลักษณ์ของมะเขือพวงพันธุ์พื้นเมืองภาคเหนือ




(3)


(4)


(5)


(6)

(3 – 6) เวลาสุก ลูกจะออกสีแดง มะเขือเทศพันธุ์พื้นเมืองนี้นะครับ ถ้าเอาใส่น้ำเงี้ยว กลิ่นของมะเขือเทศจะทำให้น้ำเงี้ยวหอม ชวนกินจริง ๆ

ผมเคยเอาเมล็ดมาปลูกที่นครปฐม มันไม่งอก....ขุดเอาต้นใส่ถุงชำเอาไว้ พอดูว่ามันแข็งแรงดี ก็เอาลงมาปลูกที่นครปฐม ใหม่ ๆ ก็ดูดี พอนานไป ๆ มันก็หงอยลง ๆ สุดท้ายก็เหี่ยว เฉา แล้วก็ยืนต้นตายไปในที่สุด ยังไม่ได้ทดลอง เอาดินใส่กระสอบมาด้วย

แนวคิด.- ถ้าเอามะเขือเทศพันธุ์พื้นเมืองผสมกับมะเขือเทศพันธุ์อื่น ๆ ผลออกมา มันจะเป็นยังไง...น่าทดลองนะครับ....





(7) ท่านว่า...

อย่าเอื้อมเด็ดดอกฟ้า มาถนอม....
สูงสุดมือมักตรอม อกไข้
สอยแต่ดอกพะยอม ยามยาก ชมนา
สูงกสอยด้วยไม้ อาจเอื้อม เอาถึง


ใช่ครับ เมื่อเด็ดดอกฟ้าไม่ถึง....ก็ดูดอกหญ้าไปพลาง ๆ ก่อนละกัน ดอกหญ้าอะไรไม่รู้เหมือนกัน เห็นมันสวยดี เลยเก็บรูปมาฝาก




(8 ) เทศกาลท่องเที่ยวที่ปาย บางคนชอบที่จะกางเต็นท์นอน เพื่อสัมผัสอากาศอันเย็นยะเยือกกลางดึกยามราตรี...ก็จะประมาณ 8 – 10 องศาเท่านั้น




(9)


(10)

(9 – 10) ในช่วงฤดูทำนาที่ปาย จะมีนาข้าวในบริเวณชุมชนให้เห็นไม่ยากนัก





(11) บ้านคือวิมานของเรา....ทุกสรรพชีวิต ย่อมสร้างที่พักพิงของตัวเอง ในรูปนี้ เป็นบ้านเอนกประสงค์ คือเป็นทั้งบ้านที่พักพิง และเป็นที่แสวงหาอาหารพร้อมกันไปด้วย....ยามเช้า จะมีละอองน้ำมาเกาะที่สายระโยงระยาง ณ เวลานี้ คงต้องรอทนหิวไปก่อน จนกว่ายามสาย หยดน้ำค้างที่เส้นใยเหือดแห้งหายไปนั่นแหละ อาจจะมีแมลงตาบอด บินมาติดที่เส้นใย เมื่อนั้นจึงจะพอได้อาหารตกถึงท้อง





(12) วัน เวลา หมุนเวียนผ่านไป พระอาทิตย์ ขึ้น แล้วก็ตก ก็เป็นอยู่อย่างนี้... ทุกสรรพชีวิตย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เกิด ดับ ไปตามกาลเวลา ไม่มีอะไรจะคงอยู่ชั่วกัลปวสานหรอกครับ




.
DangSalaya
ตอบตอบ: 09/12/2016 12:24 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง - จากใบไม้เปลี่ยนสี ถึง มะเ

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง - จากใบไม้เปลี่ยนสี ถึง มะเขือพวง

ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.6 ถึงวันนี้ – 8 ธํนวาคม 2559 นับได้ 57 วัน ที่ในหลวง ร.9 ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย...






(1) ประชาชนทั้งไทยและเทศ ยังคงถวายความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 กันอย่างต่อเนื่อง....ทำได้ดีที่สุดแค่นี้...เพราะมีคนแค่นี้...

ใครที่ยังไม่ได้ไปเข้าแถวรอ ตั้งแต่ 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อเข้าถวายบังคมพระบรมศพในหลวง ร.9 น่ะนะ หาโอกาสไปให้ได้ซักครั้ง..





(2) แม้ฝนจะตก แต่ WheelShare ก็ยังกางร่มมา มาด้วยใจ




(3) จากจุดนี้ จนถึงจุดนู๊น ..พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเห็นอยู่ลิบ ๆ อยู่ตรงศีรษะท่านผู้เฒ่าท่านนี้พอดี ถ้าไม่มีใจ คงไปไม่ถึง (ศีรษะ ผมไม่น่าจะเขียนผิดนะ อ่านว่า สีสะ แต่ตัวเขียน ต้องเขียนว่า ศีรษะ ไปเปิดพจนานุกรมไทยดูก็แล้วกัน)




(4)


(5)


(6)

(4 – 6) แล้วคุณจะได้เห็นว่า....รูปถ่ายจากในวัง กับของจริงที่เห็นด้วยตาตัวเองนั้นน่ะ ความสวยงามผิดกันยังกับฟ้ากับเหว.....เปรียบเหมือนผ้าแพรเนื้อดี กับกระสอบป่าน ยังไงยังงั้นก็แล้วกัน




(7) นึกถึงพระองค์ท่านคราวใด น้ำตามันจะซึมออกมาตลอด...

ผมมานั่งนึกเองว่า ไอ้พวกคิดจะล้มเจ้า มันเอาสมองส่วนไหนมาคิด แต่ผมเชื่อนะว่า ไอ้พวกนี้ ตายโหงหมดทุกคนแหละ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่อีกด้วยซ้ำ




(8 ) ไม่ต้องกลัวว่าจะอด อาหารและน้ำดื่ม มีเพียบ แกงส้มจาก เต็นท์ ปอเต๊กตึ๊ง สุดอร่อยก็แล้วกัน




(9) น่องไก่ทอด กับข้าวเหนียว ของพระราชทานจากองค์โสมฯ ครับ




(10) พี่น้อง 2 รัชกาล...กรุณาดูภาพนี้ให้ลึก ๆ ด้วยความพินิจพิจารณา...ดูที่สีหน้า ใบหน้าของสมเด็จย่า สมเด็จพระพี่นาง และในหลวงทั้งสองพระองค์...หารอยยิ้มไม่มีเอาเสียเลย.....ผมดูแล้วน้ำตาไหลซึม...เหมือนกับว่า ถูกคณะราษฎร์ จัดฉากให้มาทอดพระเนตรในสิ่งที่ไม่อยากจะทอดพระเนตร แบบถูกฝืนใจ

อย่างไรก็ตาม บรรดาคณะราษฎร์เมื่อปี 2475ทั้งหลายนั้น ก็ได้ตายแบบ ตายโหง ตามเวรตามกรรมกันไปหมดแล้ว...ระหก ระเหิน กระเสือกกระสน ไปตายนอกประเทศไทย แบบไม่มีแผ่นดินจะยืนกันทั้งนั้น...




(11) คุณครูขา(ครับ) หนู(ผม) อยากไปกราบพ่อหลวงค่ะ(ครับ)




(12) ปลายฝน ต้นหนาว ใบไม้บนดอยโดยเฉพาะ ใบเมเปิ้ล เริ่มเปลี่ยนสีแล้วครับ




(13) เงียบสงบ ลมเริ่มจะเย็นพ้ดมาอ่อนๆ อากาศแสนจะบริสุทธิ์ สุดจะฟินเลยน้องเอ๊ย.....

ผมเคยเห็น พวกที่มีเงินเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพัน หรือเป็นหมื่นล้าน...หลายราย ป่วยด้วยสารพัดโรค ตั้งแต่ความดัน หัวใจ เบาหวาน เก๊าท์ เดินไม่ได้ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น เวลากินต้องใส่หลอด ยามกินไม่ได้นอน ยามนอนไม่ได้กิน ขี้ เยี่ยว แสนจะลำบากจะตายก็ไม่ตายโคตรทรมาน ลูกหลานรอแย่งสมบัติกัดกันยิ่งกว่า.....?...ชีวิตมีแต่ทุกข์ ทั้งหลับและตื่นตลอด 24 ชั่วโมง

สู้กินข้าวคลุกน้ำพริก มีผักริมรั้ว มีปลาเค็มย่างซักตัว นั่งกินริมทุ่ง..ลมเย็น ๆ ..คุณเอ๊ย ....มันมีความสุขสุดบรรยาย....




(14)


(15)


(16)


(17)


(18 )

(14 – 18 ) จากน้ำพริกปลาเค็ม มาถึง มะเขือพวง
ตำน้ำพริกต้องใส่เมล็ดมะเขือพวง คงไม่ได้เรื่อง
ในรูปชุดนี้ เป็นมะเขือพวงพันธุ์พระราชทาน ผมหอบหิ้วจากนครปฐม ไปปลูกที่ปาย

ต้นยังคงสูงราว ๆ 3 เมตรเหมือนเดิม..ดอกออกกันตรึม




(19) คนที่ปาย ชอบกินมะเขือพวงแบบลูกยังเล็ก ลูกโตเค้าไม่กินกัน หรืออาจจะต้นมันสูง ลูกที่อยู่สูงเค้าเก็บไม่ถึง เลยปล่อยให้แก่ แต่ดูแล้ว น่าจะมีปัญหา




(20) ลูกเป็นจุด ก้านขั้วแห้ง ทั้งเชื้อรา โรคและแมลงรบกวน ชัวร์




(21) ลูกแก่จะมีจุด น่าจะมีหนอนกินข้างในลูกแน่ ๆ แต่ลูกอ่อน จะไม่เป็นจุด
ผมไม่ได้อยู่ที่ปายตลอด เมื่อขาดการเอาใจใส่ดูแล ย่อมเกิดโรคและแมลง เป็นธรรมดาครับ แบบนี้ ถ้าเป็นชาวไร่ ชาวสวน เค้าคงใช้ยา.....ปุ๊บเดียว ตายทันตาเห็น...

แต่ถ้าเป็นอินทรีย์นำ เคมีเสริม มีทางเดียวคือ เด็ดช่อ หรือลูกที่เป็นจุดออก เอาเผาไฟ ฉีดพ่นสมุนไพร ป้องกันลูกอ่อน และดอกที่ออกใหม่

และขอบอก อย่าตัดแต่งกิ่ง หรือทำสาวมะเขือพวงในช่วงปลายฝนต้นหนาวนะครับ ตายสนิทเลยก็แล้วกัน เพราะจากหนาวก็เข้าร้อน ใบอ่อนที่แตกใหม่ในช่วงนี้ สู้ความร้อนไม่ไหว ใบจะไม่คลี่ออก หนักเข้าจะเหี่ยวแล้วก็แห้งลง ต่อให้รดน้ำก็สู้ร้อนไม่ไหว รดน้ำมาก รากเน่าอีกต่างหาก..ไม่ลองก็ไม่รู้.ไม่เชื่อทดลองดูก็ได้ครับ แต่ อาจจะรอดก็ได้นะ...




.
DangSalaya
ตอบตอบ: 08/12/2016 9:25 pm    ชื่อกระทู้: โพสต์รูปให้ใหม่แล้ว

orchid บันทึก:
สวัสดีครับลุง....พี่ทิดแดง คุณแคท...

พอดีผมนอนดึก เลยเปิดมาอ่านที่คุณแคทโพสต์...


จะบอกว่า กระทู้นี้ รูปที่โพสต์ครั้งหลัง ๆ หายไปแยะเลยครับ...แก้ไขด้วยนะครับ


.




สวัสดีครับลุงคิม คุณ Orchid

ขอบคุณ คุณ Orchid (เจ้าตัวแสบ) ที่ช่วยบอกว่ารูปในกระทู้หาย...แก้ไข โพสต์ให้ใหม่แล้ว....


ผมก็งงนะ โพสต์รูปไปแล้ว ก็ตรวจสอบว่าไม่หลุด ต่อมา รูปที่โพสต์ลงไป หายไป



orchid
ตอบตอบ: 07/12/2016 3:42 am    ชื่อกระทู้:

สวะสดีครับลุง....พี่ทิดแดง คุณแคท...

พอดีผมนอนดึก เลยเปิดมาอ่านที่คุณคทโพสต์...


จะบอกว่า กระทู้นี้ รูปที่โพสต์ครั้งหลัง ๆ หายไปแยะเลยครับ...แก้ไขด้วยนะครับ


.
DangSalaya
ตอบตอบ: 02/11/2016 12:32 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3)บัตรประชาชนชาวเขา

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3)บัตรประชาชนชาวเขา

ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.5




ชาวเขาเชียงราย สุดซาบซึ้ง ในหลวง ร.๙ ให้ชีวิตใหม่ ห้อยเหรียญที่ได้รับจากพระหัตถ์ ติดตัวตลอด




(1) เชียงราย - กลุ่มชาติพันธุ์เชียงราย สุดซาบซึ้งน้ำพระทัย “ในหลวง ร.๙” ช่วยเหลือทั้งด้านการศึกษา สัญชาติจนได้ชีวิตใหม่ เผยตอนไม่มีบัตร ปชช.ไปไหนลำบาก “พระเจ้าอยู่หัว” พระราชทานเหรียญให้ เหมือนเป็นบัตร ปชช.

วันนี้ (22 ต.ค.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางไปร่วมพิธีแสดงความอาลัย และแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ของกลุ่มชาติพันธุ์ในเชียงราย ทุกครั้งจะพบว่า ส่วนใหญ่จะนำภาพที่พระองค์ท่านเคยเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนราษฎรในชุมชน หมู่บ้านตนเองที่อยู่บนพื้นที่สูง บางรายก็จะนำเหรียญที่เคยได้รับพระราชทาน ติดตัวมาด้วยทุกครั้ง เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

นางอรวรรณ อินจม หรือหมวงฝ่ง แซ่ฟุ้ง อายุ 60 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง บ้านปางปูเลย ม.5 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนได้ชีวิตใหม่ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นจากพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งยังจำได้ไม่ลืมเลือนว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2513





(2) ขณะนั้นตนอายุได้เพียง 13 ปี ในหลวงทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรที่บ้านผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งตนได้รับเลือกจากศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จ.เชียงราย ในขณะนั้น ให้ถวายดอกไม้หน้าพระที่นั่ง พระองค์ทรงตรัสถามว่า “อยากเรียนหนังสือไหม?” ตนตอบไปตามประสาเด็กที่ไม่รู้ความว่า “อยากเรียนค่ะ”

นางอรวรรณ กล่าวอีกว่า จากนั้นตนก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เรียนต่อ เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จ.เชียงราย แล้วไปเรียนต่อที่โรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ กรุงเทพฯ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ระดับมัธยมปีที่ 3 ที่โรงเรียนสตรีเอี่ยมละออ และไปจบการศึกษาสูงสุดที่วิทยาลัยครูจันทรเกษม เมื่อจบแล้วจึงมาเป็นครูสอนที่ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จ.เชียงราย เมื่อปี 2521 กระทั่งปัจจุบันอายุมากแล้ว ได้หันมายึดอาชีพเป็นคนนวดคลายเส้น




(3) “ตนยังเก็บภาพถ่ายตอนที่ได้มีโอกาสถวายงานครั้งนั้นไว้ และคิดว่าถ้าไม่มีในหลวง ก็คงไม่มีชีวิตในวันนี้ จึงจะทำหน้าที่คนไทยให้ดีที่สุดเพื่อถวายพระองค์ไปตลอดชีวิตนี้”




(4) ด้าน นางไพเราะ เยอเบาะ อายุ 57 ปี ชาวบ้านแสนใจ ม.9 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย กล่าวว่า เมื่อตนยังเป็นเด็กหญิงอยู่ ยังไม่มีสัญชาติไทย และใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านห่างไกล ต่อมาเมื่อในหลวงทรงเสด็จพระราชดำเนินไปที่หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือจนชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น


“สิ่งที่สำคัญมากที่พวกเราได้รับพระเมตตา คือ ขณะนั้นพวกเรายังไม่ได้รับบัตรประจำตัวประชาชน การจะเดินทางไปไหนก็ถูกตรวจสอบ แต่พระองค์ทรงพระราชทานเหรียญให้คนละ 1 เหรียญ ซึ่งตนใช้คล้องคอมาตั้งแต่นั้นเพราะใช้แทนบัตรได้ ปัจจุบันแม้จะได้รับสัญชาติไทยแล้ว ก็ยังคล้องเหรียญนี้เอาไว้ตลอด”

นางไพเราะ บอกว่า รักและบูชาเหรียญนี้มาโดยตลอด และยังมีความภาคภูมิใจว่า เคยรับจากพระหัตถ์ของพระองค์ท่านโดยตรง ยืนยันว่า จะปฏิบัติตนทำดีเพื่อในหลวง และสั่งสอนลูกหลานให้ทำดีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ในหลวง ทรงสอนเอาไว้ เพราะถ้าไม่มีในหลวง เราก็คงจะไม่ได้เป็นคนไทยเหมือนทุกวันนี้
ชมคลิป เหรียญนี้เคยใช้แทนบัตร ปชช.-ชาวเขาเชียงรายได้ชีวิตใหม่ ห้อย“พ่อหลวง”ติดตัว

ดูคลิป เลยครับ

https://youtu.be/Sb3K8BApeyQ

ขอขอบคุณที่มาจาก : manager.co.th

+

ยังมีต่อครับ



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 25/10/2016 9:54 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3)น้ำท่วมบ้านพักที่ปาย

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3)น้ำท่วมบ้านพักที่ปาย

ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.4







(1) 18 กันยายน 2559 บนดอยฝนตกหนัก น้ำส่วนหนึ่งไหลลงมาตามถนนทางขึ้นดอย




(2) น้ำไหลลงถึงทางแยกตรงนี้ ส่วนหนึ่งจะไหลตามถนนเส้นนี้ ลงแม่น้ำปาย




(3)



(4)


(5)

(3 – 5) จุดนี้เป็นท่อระบายน้ำ เศษผงเข้าไปอุดตัน ต้องมาดึงออกเพื่อให้น้ำไหลสะดวกขึ้น





(6) ตามรูปที่ 2 น้ำส่วนหนึ่งไหลลงถนนทางแยกขวามือลงแม่น้ำปาย อีกส่วนหนึ่ง จะไหลตรงไปตามถนน(ที่มีรถเปิดไฟวิ่งสวนมา)เข้าเมืองปาย




(7) เป็นทางระบายน้ำที่ไหลจากบนดอยผ่านในบริเวณบ้านพัก ในสภาพปกติ




(8 ) ณ วันที่ 18 กันยายน 2559 ฝนตกหนัก มากกกก นอกจากน้ำไหลลงถนนตามรูปที่ 1 อีกส่วนจะไหลลงมาทางทางระบายน้ำนี้ ....น้ำแรงมาก ..ไหลล้นรางออกมา...(อยากให้เพื่อนสมาชิกเห็นความแรงของน้ำ แต่ผมนำคลิปลงเว็ปไม่เป็นครับ)



(9)


(10)


(11)



(12)


(13)


(14)



(15)

(9 – 15) น้ำบางส่วนไหลเข้าท่วมบริเวณบ้านพัก....ที่เห็นนี้ส่วนน้อยนะครับ เคยสูงสุดประมาณ ครึ่งเข่า....





(16) อะไรก็ช่าง ภาวนาว่า ขอให้ต้นมะม่วงที่ขึ้นอยู่ข้างเสาที่มีหลอดไฟ อย่าสำลักน้ำตายก็แล้วกัน เพราะต้นนี้ ได้มาจากไร่กล้อมแกล้ม


ยังมีต่อครับ


.
DangSalaya
ตอบตอบ: 21/10/2016 12:09 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3) น้ำท่วมรอบนอก เมืองป

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3) น้ำท่วมรอบนอก เมืองปาย

ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.3





(1)


(2)


(3)


(4)


(5)

(1 – 5) น้ำเพิ่งจะเริ่มมา เจ๊าะแจ๊ะ แค่หน้าพื้นถนน
อพปร.บอกว่า น้ำมาน้อยเดียวเอง....
เออ เสียงซู่ ๆ เหมือนเสียงพายุมาแต่ไกล เดี๋ยวก็หรู้ซึก




(6)


(7)

(6 - 7) ชั่วเวลาแป๊บเดียว.....ตูมเดียว ถนนที่เห็นในรูป 1 – 5 จะเหลือเรอะ...น้ำขุ่นคลั่ก ไหลเชี่ยวกราก อย่าตกน้ำลงไปเชียวล่ะ กว่าจะหาศพเจอก็ แม่น้ำสาละวิน โน่นแหละ




(8 ) จะเป็นบ้านไร่ หรือจะถูกไล่บ้าน ตามไปดูกันครับ




(9)


(10)


(11)


(12)


(13)


(14)


(15)

(9 - 15) สะพาน และถนนเข้าบ้านไร่ โดนน้องน้ำไล่ซะราบเรียบไปแล้ว





(16)


(17)

(16 - 17) เมื่อน้ำผ่านพ้น มีของแถม ซุงทั้งต้น มากับสายน้ำด้วย ....ก็ซ่อมกันต่อไป.....





(18 ) สะพาน สังฆประชาสามัคคี ตอนนี้แตกสามัคคีซะแล้ว คงต้องทอดผ้าป่าสามัคคีซะเป็นแน่แท้ที่เดียวเจียว




(19)


(20)

(19 – 20) พระธาตุแม่เย็น ท่านคงใจเย็น นั่งมองน้ำท่วมเมืองปาย จะให้ท่านทำยังไงล่ะครับ ก็พวกคุณตัดไม้ในป่าจนเป็นเขาหัวโล้น เวลาฝนตก มันม่มีป่าให้ชลอน้ำ มันก็ไหลพรวดจากยอดดอยลงตีนดอยน่ะซีครับ




(21) ใครจะซ่อมบ้านบอกได้ ส่งถึงที่ในราคาย่อมเยา...เค้าทำได้ยังไงนะเนี่ย...




(22) ชีวิตมีค่าเป็นความจริงแท้....

แล้วบ้านพักของผมที่ปายล่ะ.....เป็นยังไงบ้าง.....

คำตอบสุดท้าย คือ จะเหลือเรอะ....



ต่อคราวหน้าหนาจ้าว....



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 18/10/2016 10:44 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3) น้ำท่วมถนนคนเดินเมือ

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3) น้ำท่วมถนนคนเดินเมืองปาย

3002 ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.2






(1) ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป
เครดิทภาพจาก-. อจ.เฉลิมชัย ฯ




(2) เทอดไว้เหนือเกล้า




(3) วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ท้องฟ้าพยัพเมฆ วันนี้ พยัพหมอก




(4) ริมปาย...ภาพนี้น้ำแค่หัวเข่าฝรั่ง....ถ่ายก่อนที่อาคารบางส่วนจะหลุดลอยคล้อยเคลื่อน เลื่อนตามลงไปในแม่น้ำปาย




(5)


(6)


(7)


(8 )

(5 – 8 ) ฝรั่งขนของหนีน้ำบริเวณถนนคนเดิน แถบริมแม่น้ำปายอ่ะครับ

เมื่อน้ำผ่านพ้น.....ก็ซ่อมกันต่อไป.....




.
DangSalaya
ตอบตอบ: 18/10/2016 1:24 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3) น้ำท่วมบนดอย

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(ภาค 3) น้ำท่วมบนดอย

3002 ภาค 3 ตอนที่ 1(2)–2.1 น้ำท่วมเมืองปาย






(1) พระองค์ท่านทรงให้อนุรักษ์ป่าและต้นน้ำลำธาร แต่ไอ้พวกอัปรีย์จัญไร เห็นแก่ตัว จ้างชาวเขาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยอดเขาจึงเป็นแบบนี้


เมื่อภูเขาบางแห่งมันเป็นเขาหัวโล้น เพราะชาวเขาบางกลุ่ม(ยกเว้นกะเหรี่ยง) ถางป่าเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมื่อฝนตกลงมา น้ำป่าเลยไหลลงจากดอย เข้าท่วมเมืองปาย 23 กย.59....

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไอ้จัญไรมันตัดต่อพันธุกรรม มันก็ปลูกได้แค่ฤดูกาลเดียว...ชาวเขาเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ปลูกต่อ ผลผลิตมันก็ไม่ดี กลายเป็นข้าวโพดฟันหรอ เพราะมันมีแต่ฝัก แต่ไม่มีเมล็ด ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกใหม่ทุกฤดู ราคาเมล็ดพันธุ์ก็แพงขึ้นทุกปี เมื่อปลูกแล้ว น้ำไม่มี เพราะป่ามันหมดไปแล้ว ผลผลิตมันก็ไม่ดี ก็ถูกกดราคา ... อย่าว่าแต่น้ำใช้ น้ำจะกินยังไม่มี ทหารต้องเอารถน้ำขึ้นไปแจกชาวเขาบนดอย




(2) มองจากสะพานข้ามแม่น้ำปาย



(3)


(4)


(5)


(6)


(7)


(8 )

(2 - 8 ) ดูจากรูปก็แค่ธรรมดา ๆ แต่ถ้าเห็นของจริงแล้วจะหนาว เพราะน้ำไหลรุนแรงมาก อย่าได้ตกลงไปเป็นอันขาด ต๋อมเดียว ลอยไปไกลลิบ....หาซากไม่เจอละกัน



(9)


(10)


(11)

(9 - 11) น้ำจากแม่น้ำปายล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านชาวบ้านริมน้ำ น้ำขุ่นเป็นขี้โคลนจากดินลูกรัง ทั้งหิน ดิน ทราย ....น้ำป่า มาเร็วไปเร็ว......แต่ไม่มีใครอยากให้มาหรอกครับ


อยู่บนดอย น้ำยังท่วม นับประสา.....



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 15/10/2016 12:07 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(3) 14 ตค.59 ชาวดอยส่งเสด็จฯ

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง(3) 14 ตค.59 ชาวดอยส่งเสด็จฯ สู่สวรรคาลัย

(3002) ภาค 3 ตอนที่ 1(1.4)




วันที่ 14 ต.ค.59 ทุกที่ทั่วแคว้นแผ่นดินไทย ต่างก็จัดงานพระราชพิธีฯ พระบรมศพ




(1)


(2)


(3)


(4)


(5)


(6)


(7)

(1 - 7) ถึงจะไม่ได้เห็น แต่ก็มากันด้วยใจ เพราะใจสั่งให้ต้องมา มืดฟ้ามัวดิน....อย่าว่าแต่ชาวดินรักในหลวงเลยนะครับ...

.ชาวดอยเค้าก็รักในหลวงเช่นกัน เค้าทำอะไรกันบ้าง




(8 ) เส้นทางอันยาวไกล สู่ยอดดอย



(9)


(10)


(11)


(12)


(13)

(9 – 13) พสกนิกรบ้านน้ำบ่อสะเป่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าลีซูร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้วสู่สวรรคาลัย เบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ ณ รร.ตชด.บ้านน้ำบ่อสะเป่ ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จว.แม่ฮ่องสอน



(14)


(15)

(14 – 15 ) พิธีกรรมของชาวปกากะญอ




(16) พิธีกรรมของชนเผ่าอีกกลุ่มหนึ่ง



คนไทยทุกคนรักในหลวงครับ....แต่ก็มีบางคนกิดมาเสียชาติเกิด

ขอบคุณภาพถ่าย (1 - 7) จากเฟสบุค
(8 - 16) จากครู รร.ตชด. ครับ


.
DangSalaya
ตอบตอบ: 15/09/2016 2:51 am    ชื่อกระทู้:

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อนสมาชิก....


ผมกำลังใชความพยายาม โพสต์รูปในกระทู้ที่ขาดหาย ไม่ง่ายเลย...ขอเวลาค่อยทำค่อยไป เท่าที่มีเวลาพอจะทำได้...


ขอบคุณครับลุง



.
kimzagass
ตอบตอบ: 03/06/2016 9:26 pm    ชื่อกระทู้:

.
.
ชัดเจน นี่แหละ ขาด ธาตุรอง/ธาตุเสริม อย่างรุนแรง
โดยเฉพาะ แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. น้ำตาลทางด่วน.

พูดอยู่เรื่อยๆ "ความสมบูรณ์สะสม" ไง ได้ให้หรือเปล่า

จะฉีดพ่นด้วยมือ ลากสายยาง สะพายเป้ ..... หรือ
สปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน ถังปุ๋ยที่ปั๊ม ทำครั้งเดียวใช้ได้ตอดชีวิต ถึงลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย อนาคตจะได้มีประเทศไทย

ขายอะโวคาโด (คุณภาพ-ปริมาณ เพิ่ม .... ต้นทุนลด) รุ่นเดียวก็ได้ทุนคืน



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 03/06/2016 8:49 pm    ชื่อกระทู้:

kimzagass บันทึก:
....


สวัสดีครับลุงคืม


2 รูปหลังสุด
หลังจากลอกเปลือกนอกออกแล้ว รอยขรุขระที่เปลือก ไม่ซึมถึงเนื้อด้านใน ครับ



ขอบคุณครับลุง



somboonyang
ตอบตอบ: 03/06/2016 11:04 am    ชื่อกระทู้: เพิ่มเติม




kimzagass
ตอบตอบ: 02/06/2016 11:57 am    ชื่อกระทู้: Re: ลุงแดงถามว่าสาเหตุของผิวที่เป็นลายๆนี่เกิดจากอะไรและขอทร

somboonyang บันทึก:

.
.

1.

2.

3.
1-3 อาโวกาโด ที่ปาย. ปลูกมาสี่ปีกว่า ออกลูกเป็นครั้งแรกครับ
COMMENT :
ปีแรกยังขนาดนี้
ปีหน้า ปีต่อ ๆๆ ๆๆ ไป จะหนักยิ่งกว่านี้

ไม่มีอะไรที่ไม่มีปัญหา
แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ก่อนเกิด โดย ป้องกันไม่ให้เกิด
ดีกว่า แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เกิดแล้ว แก้คืนอย่างเดิมไม่ได้ เสียแล้วเสียเลย



4. ลูกนี่แก่. หล่น. แต่ผิวเป็นจุดแบบนี้. ลูกบนต้นก็เป็นแบบนี้ครับ
COMMENT :
ทิ้งไปเถอะ.....



5. มีรอยไก่จิก ฝานที่เสียออก เนื้อในครับ
COMMENT :
ทิ้งไปเถอะ.....



6.

7.

8.

9.
6-9 ไม่มีหนอน แต่เนื้อเป็นจุดๆ
COMMENT :
โรคพืชมี 2 แบบ...
- โรคมีเชื้อ .... เกิดจากศัตรูพืช (หนอน แมลง โรค) แก้ไขด้วยการฉีดพ่นสารที่มีสรรพคุณ กลิ่น/รส/ฤทธิ์ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ทั้งป้องกันและกำจัด ตรงตามชนิดของศัตรูพืช

- โรคไม่มีเชื้อ .... เกิดจากการขาดสารอาหาร แก้ไขด้วยการบริหารจัดการปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับพืชตระกูลอะโวคาโด คือ ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สารอาหาร-สายพันธุ์-โรค

- การบำรุงต้นให้สมบูรณ์อยู่เสมอ (ความสมบูรณ์สะสม) จะทำให้ต้นสมบูรณ์ นอกจากช่วยให้ต้นเกิดภูมิต้านทานสู้กับศัตรูพืชได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ต้นให้ผลผลิตดีอีกด้วย

- ศัตรูพืชชอบเข้าหาพืชต้นที่อ่อนแอมากกว่าต้นที่สมบูรณ์แข็งแรงเสมอ .... ศัตรูพืชที่เข้าไปแล้ว ในต้นที่อ่อนแอจะแพร่ขยายพันธุ์ (สร้างความสูญเสียแก่พืช) ได้มากกว่าและรุนแรงกว่าในต้นที่สมบูรณ์แข็งแรง (สารคดีดิสคัพเวอรี่)

*** ไม่มีพืชใดในโลกนี้ที่ไม่มีศัตรูพืชประจำเผ่าพันธุ์ วันนี้ยังไม่มีเพราะยังไม่มา
*** ไม่มีสารเคมีใดในโลกนี้ ไม่มีสารสมุนไพรใดในโลกนี้ ไม่มี ไอพีเอ็ม. ใดในโลกนี้ ทำให้ส่วนของพืชที่ถูกทำลายไปแล้ว ฟื้นคืนสภาพเหมือนเดิมได้ เสียแล้วเสียเลย ประมาณนั้น

*** มาตรการที่ดีที่สุด คือ “กันก่อนแก้” เท่านั้น คือ “ป้องกัน” ไม่ให้ปัญหาเกิดนั่นเอง


สาเหตุ เกิดจากอะไร และขอทราบวิธีแก้ไข ส่วนลูกเด่าคงปล่อยเลยตามเลย
COMMENT :
* โรคประจำพืชตระกูลอะโวคาโด :
- โรครากเน่า : คือ ไฟธอปเทอร์ร่า อยู่ในดิน เกิดเองตามธรรมชาติเมื่อดินเป็นกรดจัด ถ้าดินไม่เป็นกรดจัด เชื้อโรคตัวนี้จะไม่เกิด นอกจากไม่เกิดแล้ว ถ้ามีก็ตาย .... ดินที่ไม่เป็นกรดจัด นอกจากไม่เกิดชื้อไฟธอปเทอร์ร่าแล้ว ยังมีประโยชน์อย่างสูงต่อพืชอีกด้เวย

วิธีแก้โดยใช้เชื้อ "ไตรโคเดอร์ม่า (ราเขียว)" เนื่องจากเชื้อไตรโคเดอร์ม่าไม่ถูกกับดินที่เป็นกรดจัด ทันทีที่ใส่ลงไปแล้วเจอดินเป็นกรดจัดเชื้อจะตาย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ต่อสู้กับไฟธอปเทอร์ร่าเลยด้วยซ้ำ (อ้างอิง : ดร.จิระเดช แจ่มสว่าง เจ้าของลิขสิทธิ์ไตรโคเดอร์ม่า)

วิธีกำจัดเชื้อไฟธอปเทอร์ร่าที่ดีที่สุด คือ ใส่เชื้อไตรโคเดอร์ม่าตั้งแต่ดินยังไม่เป็นกรดจัด (ใส่ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และ/หรือ สารปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อกันก่อนแก้) ควบคู่กับปรับสภาพดิน (ลด/ละ/เลิก ใส่ตัวต้นสาเหตุของดินเป็นกรด คือ ปุ๋ยเคมี มากกิน/ผิดสูตร, สารเคมียาฆ่าแมลง, ยาฆ่าหญ้า, น้ำขังค้าง, ฯลฯ แล้วใส่ ปุ๋ยอินทรีย์ จุลินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ) ให้หายจากการเป็นกรดจัดก่อน เมื่อดินหายจากการเป็นกรดจัด เชื้อไฟทอปเทอร์ร่า นอกจากจะตายเองลัว ยังได้จุลินทรีย์ที่ดีมีประโยชน์เกิดขึ้นมาอีกด้วย

- โรคจุดดำหรือแอนแทรคโนส : โรคใบจุดเกิดจากเชื้อรา Diplorcarpon rosae เกิดได้ในเขตที่มีอากาศร้อนชื้น เกิดได้ตลอดปี ทำให้ใบเหลืองร่วง แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว .... ป้องกันกำจัด ปรับทรงพุ่มให้โปร่ง ควบคู่กับฉีดพ่นด้วยสมุนไพร “เผ็ดจัด-ร้อนจัด”

- โรคใบจุด : คือเชื้อรา ปลิวมากับลม มักเกิดกับใบแก่ ถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสมจะขยายกว้างขึ้นเป็นแผลใหญ่ ทำให้ใบแห้ง .... ป้องกันกำจัดโดย ปรับทรงพุ่มให้โปร่ง ควบคู่กับฉีดพ่นด้วยสมุนไพร “เผ็ดจัด-ร้อนจัด”

- โรคแคงเคอร์ : เป็นเชื้อแบคทีเรีย มีแมลงแม่ผีเสื้อเป็นพาหะ ระบาดมากช่วงหน้าฝน เชื้อโรคตัวนี้ไม่ชอบด่าง แนะนำให้ฉัดพ่นด้วยน้ำปูนใส

* หนอน/แมลงศัตรู :
- ด้วงงวงกัดกินใบ : ด้วงคือด้วง กัดกินใบเป็นอาหารเพราะชอบ กลิ่น/รส ของพืชนั้นๆ ป้องกัน/กำจัดโดยฉีดพ่นสารสมุนไพร “กลิ่นจัด/ขม/เบื่อเมา” ก็จะไม่กัดกินเอง

- หนอนผีเสื้อ : หนอนคือหนอน ป้องกันกำจัดโดยฉีดพ่นสารสมุนไพร “ขม-เบื่อเมา”


หมายเหตุ
ระยะนี้ฝนตก ความชื้นค่อนข้างสูง อุณหภูมิเฉลี่ย กลางคืน 22 กลางวัน 27 องศา. C. มีเมฆครึ้มและแดด สลับกัน
COMMENT :
- ฝนตก ความชื้นสูง สถาพอากาศแบบนี้เหมาะสำหรับ "โรค" (รา แบคทีเรีย ไวรัส)
- อุณหภูมิ ระหว่าง 22 กับ 27 ไม่ต่างกัน ศัตรูพืชอะไรที่ชอบอุณหภูมิที่ต่างแบบนี้ ศัตรูพืชตัวนั้นก็จะเกิด ตัวที่ไม่ไม่ชอบก็ไม่เกิด นอกจากไม่เกิดแล้วยังไม่ขยายพันพันธุ์แถมตายอีกด้วย





.
somboonyang
ตอบตอบ: 02/06/2016 10:30 am    ชื่อกระทู้: ลุงแดงถามว่าสาเหตุของผิวที่เป็นลายๆนี่เกิดจากอะไรและขอทราบวิ

.
.
คลิกที่รูป ดูรูปขนาดใหญ่ สมส่วนของรูป :


1.

2.

3.
1-3 อาโวกาโด ที่ปาย. ปลูกมาสี่ปีกว่า ออกลูกเป็นครั้งแรกครับ



4. ลูกนี่แก่. หล่น. แต่ผิวเป็นจุดแบบนี้. ลูกบนต้นก็เป็นแบบนี้ครับ



5. มีรอยไก่จิก ฝานที่เสียออก เนื้อในครับ



6.

7.

8.

9.
6-9 ไม่มีหนอน แต่เนื้อเป็นจุดๆ


สาเหตุ เกิดจากอะไร และขอทราบวิธีแก้ไข
ส่วนลูกเด่าคงปล่อยเลยตามเลย

ขอบคุณครับ...
พิมพ์จากมือถือ ไม่สะดวก ผิดพลาดขออภัย ขอบคุณครับ

หมายเหตุ
ระยะนี้ฝนตก ความชื้นค่อนข้างสูง อุณหภูมิเฉลี่ย กลางคืน 22 กลางวัน 27 องศา. C. มีเมฆครึ้มและแดด สลับกัน



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 02/06/2016 9:12 am    ชื่อกระทู้: ถามปัญหา อาโวกาโดครับ

สวัสดีครับลุงคิม

ตอนนี้ ผมอยู่ที่อ.ปาย. ใช้มือถือส่งข้อมูลไม่ถนัด. มีปัญหาถามเรื่องอาโวกาโด. ฝากรูปคุณน้ำส้มมาแล้วครับ.

ขอบคุณครับลุง




.
DangSalaya
ตอบตอบ: 01/12/2015 8:12 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย (3)

3002
สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย (3)
ภาค 3 ตอนที่ 1 (1.3) ....7 มค. ชมภู ทำเซอร์ไพร้ส์

เรื่องที่กล่าวถึงตอนนี้ ผมได้นำรายละเอียดลงไว้ในกระทู้ 4563 (Chompooกระทู้ กล้วยไม้มือใหม่)เมื่อวันที่ 06/02/2015 เพื่อให้เรื่องการพาเที่ยวบ้านกะเหรี่ยงในกระทู้นี้ต่อเนื่องกัน ผมขอนำมาฉายซ้ำพอเป็นสังเขป...หนัง / ละคร บ้านทรายทอง ฉายซ้ำ เล่นซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ยังได้นี่นา




(1) หลังจากผมขึ้นดอยมาได้สองวัน วันที่ 7 มค.58 ตอนบ่ายแก่ ๆ คุณชมภู อุตส่าห์แอบไปหาผมที่ปาย...ดันทะลึ่งทำ เซอร์ไพร้ส์ ไปโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ดีว่ามีห้องว่างเหลือ ไม่อย่างนั้นมีหวังได้นอนกางเต็นท์ รับลมหนาวกันมั่งละน่า ตอนเช้า 15 องศา ตอนกลางดึก คงประมาณ 10 องศา...

...ผมก็เลยหลอกพาขึ้นดอย ลุยดงกะเหรี่ยงโดยไม่บอกล่วงหน้าซะให้เข็ด เจอทางโค้งวกวน เจอหมอกเข้าหน่อยเดียว นั่งสั่นเป็นเจ้าเข้า เงียบเป็นเป่าสาก

..ไปทำเก้ ๆ กัง ๆ ในแดนกะเหรี่ยง เกือบจะโดน แมงมุม-แม่หม้ายดำ งาบไปกินซะแล้ว.....

พาไปดูรั้วบ้านปลูกฟ้ามุ่ย ก่อนพาไปก็บอกแล้วว่า รับรองไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอเห็นเข้าจริง ๆ ...พูดเป็นอยู่คำเดียวว่า โอ้โฮ ๆ ๆ

อยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม
..http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=4563&postdays=0&postorder=asc&start=75

แล้วพลิกไปที่วันที่ 06/02/2015



(2)


(3)

(2 – 3) คุณชม ภู ถามว่า นี่กล้วยไม้อะไร..กลิ่นหอมอ่อน ๆ
.เป็นกล้วยไม้ป่า ตระกูลแวนด้า ชื่อเข็มขาว มันเกาะอยู่บนต้นไม้ริมทาง การไฟฟ้าตัดกิ่งทิ้ง ไม่มีใครสนใจ ผมเลยเก็บเอามามัดติดกับต้นไม้ปลูกไว้ที่ข้างบ้านพัก...




(4)


(5)



(6)

(4 – 6) ฟักทองญี่ปุ่น.....เนื้อจะบางกว่าฟักทองพันธุ์ไทย เหมือน ปูโพรก เนื้อเละกินไม่อร่อย แต่ค่านิยมคนญี่ปุ่น ต้องกินของญี่ปุ่น ส่วนพี่ไทยต้องกินของนอกถึงจะหะรูหะรา ลูกเท่ากะป๋อย ลูกละ 60 บาท ซื้อฟักทองไทยลูกขนาดเดียวกันนี้ได้ 3 ลูก เนื้อแน่น เหนียวนุ่ม แทบจะไม่มีโพรงตรงกลาง



(7)


(8 )

(7 – 8 ) เมื่อญี่ปุ่นชอบกินของญี่ปุ่น เราก็เก็บเมล็ดเอาไว้ปลูก เพื่อขายให้ญี่ปุ่นที่มาเที่ยวปาย แต่เวลาเราจะกินฟักทองก็ซื้อฟักทองไทยกิน มันอร่อย เหนียวนุ่มอร่อยลิ้นกว่ากันแยะ....




(9)


(10)


(11)


(12)


(13)

(9 – 13) คุณชม ภูถามว่า นี่มะนาวอะไร ดกจัง ลูกใหญ่น่าดู....กระซิบ ๆ ....อย่าไปบอกใคร..นี่มะนาวผมตอนกิ่งมาจาก RKK เอามาทดลองปลูกขยายพันธุ์ที่ปาย ออกดอกลูกดก ที่เห็นนี่ยังไม่แก่ เปลือกหนายังกับครก ไม่ต้องฉีดฮอร์โมน ออกลูกทั้งปี ลูกใหญ่มาก...กินไม่ทัน ไล่แจกคนแถวนี้ จนเวลาคนเดินผ่านบ้าน เค้าจะเดินก้มหน้าไม่กล้าสบตา กลัวโดนแจกมะนาว ....

นี่ นั่น โน่น และ นู่น มาจาก RKK ทั้งนั้น ถามน้าทิดจริง ๆ ว่า มีอะไรที่ไม่ได้มาจาก RKK มั่ง
...ก็ผมนี่ไง ...คืองี้นะ ผมเคยซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์สี่ มาปลูก ออกลูกมามันกลายเป็นน้ำดอกอุตพิษ ผมไปที่ RKK ขอลุงตอนกิ่งมา ยังไง ๆ ก็ได้พันธุ์แท้ เอาไว้ตอนกิ่งแจก...แบ่ง ๆ กันไป อย่างน้อย ๆ พันธุ์จาก RKK ได้มาเบ่งบานอวดโฉมถึงยอดดอย


ทำไมไม่ตอนขายล่ะ....
โห คุณท่าน....ผมได้มาฟรี ๆ ผมอายตัวเองที่จะตอนขาย...อีกอย่าง ถ้าขายแล้วก็จบแค่นั้น แต่การแจกเป็นการแบ่งปัน มีอะไรแปลก ๆ ก็มาแลกกัน ผมได้เพื่อน มันอบอุ่นกว่าได้เงิน ปากต่อปาก เค้าบอกต่อ ซึ่งมีหลายเผ่าพันธุ์ กะเหรี่ยง ไทใหญ่ ลีซู มูเซอ ยูนนาน จากเวียงเหนือ ถึงตาลเจ็ดต้น แม่นาเติง ท่าปาย มีศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์อยู่ที่แม่นาเติง ตอนกิ่งแล้วก็เอาไปฝากอาจารย์ไว้ที่ศูนย์ฯ ใครอยากได้ก็หยิบเอาไป แค่กิ่งพันธุ์กิ่งเดียว ผมไปไหนไม่อดตาย แวะกินข้าวได้ทุกเผ่า


(14)


(15)


(16)


(17)



(18 )


(19)


(20)

(14 – 20) Mulburry หม่อนกินลูก ต้นนี้ได้กิ่งพันธุ์มาจากโครงการหลวง ดอยไหนจำไม่ได้ ลูกสาวเป็นคนเอามาให้ปลูก ...ออกลูกตลอดปี กิ่งที่อยู่เตี้ย ๆ ถ้ามีลูกสุกดำไม่ทันเด็ก ตอนเช้า ๆ เด็กเดินไปโรงเรียนผ่านมาก็เก็บที่ดำ ๆ ไปกิน ขากลับตอนเย็น มันก็เก็บกันอีกรอบ



(21)



(22)

(21 – 22) ลูกที่มันอยู่สูง เด็กเก็บไม่ถึง ....ผมเก็บเอาไปทำน้ำปั่น ช่อที่เป็นสีแดง ยังไม่แก่ แต่เด็กมันเก็บช่อสีดำ มือคงไปโดนช่อสีแดงมันร่วง ผมเก็บรวม ๆ มา เอาลงเครื่องปั่น ใส่เกลือนิด น้ำตาลหน่อย เปรี้ยวเค็มหวานสามรส..กินแล้วรสชาดเป็นยังไง....ต้องถามคุณ Chompoo

โห น้า ฝีมือหม่อนปั่นของน้าเด็ดจริง ๆ ผมลุกเข้าห้องน้ำทั้งคืน แต่ดีนะ ผมไม่ได้ขับถ่ายมาสามวันแล้ว....

จะเอา Lemon Soda ปั่นแถมอีกซักแก้วมั๊ยล่ะ รับรอง วิตามิน ซี เพียบ
พอเหอะน้า แค่นี้ก็หมดแรงแล้ว ว่าแต่ว่า วันนี้จะพาผมไปไหนล่ะ....

เออน่า เฉยไว้แล้วดีเอง...



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 14/11/2015 3:01 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย(2)

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย (2)
ภาค 3 ตอนที่ 1 (1.2) ....6 มค. สัญจรรอบ ๆ ที่พัก


(1)

(2)
(1 - 2) เช้านี้ที่ปาย อากาศเย็นแค่ 16 องศาซีเอง….พอสบาย ๆ


(3) อรุณรุ่ง รุ่งอรุณ ท้องฟ้าสดใส


(4) บรรยากาศก็ดีนะครับ แต่ สำหรับผม มีงานเข้าแล้วละ....ต้องออกกำลังตัดหญ้าอ่ะครับ


(5) ยังเช้าอยู่ จะรีบไปไหน....เข้าเมือง(อำเภอ) หาของกินก่อนมิดีกว่ารึ


(6)

(7)
(6 - 7) เลยบ้านพักมาหน่อย มีคนปลูกข้าว กำลังตากเกสร


(8 )

(9)
(8 -9) จะเข้าเมืองก็ต้องข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปาย ถ้าไม่ไปทางนี้ก็ต้องอ้อมไปอีกทาง


(10) โจ๊กเจ้าอร่อย อยู่หน้าศาลจังหวัด ปาย ครับ


(11) เมนูอิ่น ๆ ก็เหมือนที่อื่น ที่แปลกคือ รายการที่ 7 ไข่ต้มน้ำแร่ ....ใช่แล้วครับ ที่ปายมีบ่อน้ำแร่ หรือบ่อนำร้อนอยู่ที่ ท่าปาย อยู่แถว ๆ สะพานประวัติศาสตร์ ห่างจากปาย 10 กม. ร้อนขนาดว่า ต้มไข่สุกก็แล้วกัน .....ผมถามพี่ไล คนขายว่า....
....ต้องเอาไข่ไปต้มที่ท่าปายเลยหรือ....

คำตอบที่ทำให้ผมหน้าแตกคือ
โง่จิ คายจาอาวข่ายปายโต้ที่น่า....ก็ปายอาน้าที่ท่าปาย ส่ายถา 20 ลี้สอสามถามาเก่ว้า โต้ด้าหลาวา โหม่แล้ก็ปายอาหม่าจิ
(โง่จิ ใครจะเอาไข่ไปต้มที่นั่น ก็ไปเอาน้ำที่ท่าปาย ใส่ถัง 20 ลิตรสองสามถังมาเก็บไว้ ต้มได้หลายวัน หมดแล้วก็ไปเอามาใหม่จิ)


(12) นี่แหละครับ หน้าตาของไข่ต้มน้ำแร่ ใครชอบสีไหนเชิญลิ้มลองครับ ...อร่อยกว่าไข่ต้มน้ำธรรมดาตรงไหน...ตรงที่ ไข่ต้มน้ำธรรมดา ใบละ 5 บาท พอเอาไข่ไปต้มในน้ำแร่ กลายเป็นใบละ 7 บาทไงล่ะ....


(13) ไก่ทอดสูตร ยูนนาน ชิ้นละ 30 เอง ..อร่อยมั๊ย....อร่อยกว่า KFC ก็แล้วกัน


(14) คนอยู่ไม่สุข ตาชอบสอดส่าย....อุว๊าว กระเช้าสีดา หลังร้าน ขึ้นบนหลังคา ไร้คนเหลียวแล แต่งอกงามดีแท้ ๆ ผมเอามาปลูกที่นครปฐม ประคบประหงมซะอย่างดี น้องดา แห้งลง ๆ ในที่สุดก็แห้งตาย....ลุงคิมพูดบ่อย ๆ สายพันธุ์ ดิน น้ำ ลม อุณหภูมิ แสงแดด ....ต้องเพิ่ม ความสูงจากระดับน้ำทะเลด้วยมั๊ง เพราะความหนักเบาของอากาศก็เกี่ยวด้วย


(15) ต้นเฟิร์นในรอยต้นไม้อกแตกหลังศาล...ดูสวยไปอีกแบบ


(16)

(17)

(18 )
(16 -18 ) หาซื้อของฝากหลาน ๆ ที่นครปฐม ซื้อไว้ก่อนที่เงินจะหมด....คนขายบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านพัก รู้จักกัน จากตัวละ 100 เหลือตัวละ 70 ซื้อยกโหล คิด 800 ซื้อเสร็จแวะไปรษณีย์ แพคใส่กล่องส่งกลับนครปฐม ขากลับจะได้ไม่ต้องหอบหิ้ว อีกสามวันหลาน ๆ ก็ได้ใส่แล้ว


(19) ขากลับที่พัก ผมอ้อมไปอีกทางหนึ่ง จะแวะไปหาเพื่อนชาวไทใหญ่ที่ปาย .....ทางลัดต่างจังหวัดจะเป็นแบบนี้แหละครับ คนพื้นที่เค้าใช้เดินไปมาหาสู่กัน เก็บผักหักหญ้าติดมือกลับบ้านเพื่อเป็นอาหาร เดินมาถึงทางสามแพร่ง นาน ๆ มาที จะไปทางไหนล่ะหว่า


(20) ผมจำได้ว่าเคยไปทางซ้าย แต่กลายเป็นทางตันซะแล้ว มีคนมาปลูกบ้านบนเนิน กั้นรั้วซะอีกด้วย


(21) งั้นก็ต้องไปทางขวา ชัวร์ เพราะมีรอยคนย่ำเป็นเทือก แต่ทางเข้าบ้านเค้ารึเปล่าหว่า


(22)

(23)

(24)
(22 – 24) เลี้ยวโค้งออกมาก็เจอแปลงปลูกถั่วเหลือง......ดินก็ดี อากาศก็ดี ความชื้นก็มี...แต่ทำไมถั่วถึงเป็นแบบนี้....เพราะเหตุว่า.....หลังไถทำแปลงแล้ว ฉีดยาคุมฆ่าหญ้าด้วย หมาดำ พิษสงของ หมาดำ ทำให้เป็นเช่นนี้แลฯ ....ผมคุยกับลุงรัตน์ แกบอกว่า พิษของหมาดำ จะตกค้างอยู่อีกนานเป็นปี หญ้าไม่มีขึ้น แต่ก็ปลูกอะไรไม่ได้ผล....

ลุงรัตน์ยังบอกอีกว่า ถั่วแปลงนี้ ถ้าไม่โดนยาฆ่าหญ้า จะได้เงินเป็นแสน....แต่ตอนนี้ก็ได้แล้วมากกว่าแสน....คือแสนสาหัส ไงล่ะครับท่าน....


(25) เลยแปลงถั่วเงินแสนก็เข้าดงไผ่ เจออาหารป่าครับ...แกงป่าก็ได้ ต้มข่าก็ดี....แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ใครจะเป็นคนลงมือทำล่ะ งั้นก็ปล่อยมันไว้อย่างนี้ก็แล้วกัน......


(26)เข้ามาถึงบ้านเกลอ...ไม่มีใครอยู่ แต่ก่อไฟทิ้งเอาไว้...แสดงว่าไปไม่ไกล ผิงไฟเอาไออุ่นซักหน่อยก่อน.....


(27) นั่นแน่....มีปลารมควันซะด้วย...เสียดายไม่ใช่ปลาเทร้าต์ แต่เป็นปลาสวาย....


(28 ) แม่บ้านเพื่อนเกลอมาฝัดข้าวอยู่หลังบ้านนี่เอง แชะ ๆๆๆๆ ยิงภาพไม่เลี้ยง ได้ดีเพียง 1 เดียว ถามแล้วได้ความว่า เกลอผมแกขึ้นดอยไปหา ว่านหัวสืบ เป็นว่านชนิดหนึ่งที่หัวจะแก่ และขุดได้ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น...เอามาต้มกินน้ำ ทำให้ร่างกายอบอุ่น ผมเคยกินนะครับ คือกินแล้วมันรู้สึกร้อนจนเหงื่อซึมเลยแหละ นี่แหละครับภูมิปัญญาชาวบ้าน ....เมื่อเพื่อนไม่อยู่ก็กลับซินะ


(29) ผมวกกลับออกมาอีกทาง มาเจอต้นไอ้นี่....เค้าเรียกว่า ถั่วแปบ ครับ


(30)

(31)

(32)
(30 – 32) ดอกถั่วแปบจากต้นเดียวกัน แต่มีดอกได้หลากหลายสีสัน ไม่เหมือนกัน เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างครับ


(33) จากดอกก็จะกลายเป็นฝักอ่อน....


(34) ฝักอายุขนาดนี้ครับ ที่เอามายำถั่วแปบ ....ป้าคำแกเคยยำแบบสูตรของไทใหญ่ ใส่อะไรบ้างผมไม่รู้ ที่รู้ก็ต้องมีถั่วแปบเป็นหลัก แกรู้ว่าผมกินเผ็ดไม่ได้ แกยำแบบไม่เผ็ด แต่ให้ผมใส่พริกเอาเอง...มันอร่อยบอกไม่ถูก...



ยังมียำใบมะขามอ่อนอีกอย่าง ที่ป้าคำยำให้ผมกิน มันอมเปรี้ยว อมฝาด ใส่แคบหมูด้วย อร่อยลืมโลกเลยทีเดียว....

หมายเหตุ...คำว่าไท ในความหมาย ของไทใหญ่ จะเขียนว่า ไท เฉย ๆ ไม่มี ย.ยักษ์สะกดว่า ไทย นะครับ ป้าคำบอกว่า ความหมายคือ ความเป็น ไท เป็นอิสระที่ไม่ขึ้นแก่ใคร


(35)

(36)
(35 - 36) เดินเรื่อยมา ก็มาเจอดอกไอ้นี่ คล้ายดอกมะเขือ แต่ไม่ใช่มะเขือ


(37) ไทใหญ่ และคนเหนือเรียก บ่าแข้ง คนไทย เรียกว่า มะแว้ง....กินแก้ไข้ แก้ไอ ดีนักแล แต่ว่า มันขมเหมือนบอระเพ็ด และ ฟ้าทะลายโจร คนไทใหญ่เค้าจะเอาลูกอ่อนดิบ ๆ มาเผาไฟ จิ้มน้ำพริก อร่อยแบบขม ๆ ครับ


(38 ) มือไปกดอะไรที่กล้องไม่รู้...ถ่ายรูปออกมากลายเป็น ขาว – ดำ ไปได้....


(39) กดไปกดมา กลับมีสีออกมาได้อย่างเก่า....ยุค ไอที มันดีอย่างนี้เอง


(40) หยดน้ำค้างที่ขอบใบไม้ เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง หยดน้ำนี้ก็จะระเหยหายไป


(41)ก่อนจะออกพ้นรั้วบ้าน มาเจอเจ้านี่...ส้มโอ เลยตะโกนบอกแม่บ้านเพื่อน ...ขอชิมซักแก่นเน๊อ....
คำตอบคือ เก็บเอาเต๊อะ มันส้มหนา....(ส้ม แปลว่า เปรี้ยว ครับ)
ส้มโอ มันก็ต้องมีเปรี้ยวมั่งละน่า เก็บมาปอกกินที่บ้าน เกิดมาไม่เคยกิน ส้มโอบ้าอะไร เปรี้ยวแบบโคตร ๆ เลย เปรี้ยวใช้แทนมะนาวได้เลย....จริงอย่างที่แม่บ้านเพื่อนบอกจริง ๆ ....มันส้มหนา มันก็เลยเปรี้ยวอย่างหนา


(42) แบบนี้เค้าเรียกว่า จูบแล้วจาก ใช่ป่ะ ดูดความหวานจากเค้าไปแล้ว ก็จรจากเค้าไป ...

....การสัญจรวันนี้ก็คงพอแค่นี้ละครับ....บอกตั้งแต่แรกแล้วว่ามีงานที่รอคิวให้ทำ ตัดหญ้า ปลูกต้นไม้ ล้างบ่อน้ำ ขุดทรายในลำเหมือง(ลำธาร) ….

ก็แปลกนะครับ มันเป็นลำธารเล็ก ๆ แยกมาจากธารใหญ่ ไหลผ่านที่ลงแม่น้ำปาย น้ำไหลมาจากบนเขา น้ำที่ไหลก็ดูใสดี แต่น้ำเย็นเจี๊ยบ เวลามีทรายเต็มเหมือง ก็ขุดจนเป็นร่องน้ำลึกกว่าหัวเข่า แต่ไม่ช้าไม่นาน จะมีทรายเอ่อขึ้นมาเต็มอีก ต้องตักทรายขึ้นอยู่เป็นประจำ ไม่รู้ว่าทรายมาจากไหน

ผมคงต้องอยู่อีกหลายวันละครับ



.
DangSalaya
ตอบตอบ: 19/09/2015 6:00 pm    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย

สวัสดีครับลุงคิม ...และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 วนเวียนอยู่บนดอย
ภาค 3 ตอนที่ 1 (1) การเดินทางครั้งใหม่

นาน ๆ ครั้งที่จะมีโอกาสขึ้นไปบ้านกะเหรี่ยง ....กลัวจะลืม เดี๋ยวอดกินข้าว ต้องฟื้นความจำ

โอ๊ะมื่อโชเปอ…..เนอะ โอ๋ ชู่ อะ …เอาะเม
สวัสดีครับ.....สบายดีกันอยู่มั๊ย ผมหิวข้าวครับ


ความจริงผมจะนำเสนอเรื่องนี้มาตั้งแต่หลังปีใหม่ 58 แต่ต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยหลายประการ.....จึงได้ยั้งไว้ก่อน…เมื่อมีเวลาคุย จะคุยสั้น ๆ ก็ไม่สนุก จะคุยยาวเกินไป มันก็ไม่ดี เอาเป็นว่า คุยยาวพอดี ๆ ก็แล้วกัน จะได้เห็นแง่มุม หรือมุมองต่าง ๆ ซึ่งมีบางอย่างที่บางคนบอกว่า

....ปายน่ะนะ กูไปมาไม่รู้กี่ครั้ง เที่ยวซะพรุนแล้ว....

อันนี้อย่ามาคุยครับ ...เพราะบางแง่มุม หรือบางสถานที่ คุณไม่มีทางจะได้เข้าไปเห็น อย่างเช่น ..วันชาติของกองกำลังไทใหญ่กู้ชาติ ...ซึ่งต้องขึ้นเขา ข้ามชายแดนเข้าไปฝั่งพม่า เป็นจุดที่กลุ่มไทใหญ่เค้าอยู่กันที่นั่น ถามหน่อยว่า ใครจะกล้าหน้าแหลมเข้าไปได้ ....


(1) เย็น 4 มค นั่งรถทัวร์ไป.....7 โมงเช้าถึงเชียงใหม่....ลงรถมาก็เจอ วนิพกพเนจร ผูกผมจุกซะด้วย ไม่กล้าเข้าไปถ่ายใกล้กว่านี้ กลัวโดนเตะ


(2) 7.30 นั่งรถตู้จากเชียงใหม่ขึ้ดอยไปปาย.....


(3) ยอดดอยที่เห็นลิบ ๆ คลุมด้วยหมอกจาง ๆนั่นคือเมืองปายอยู่บนนั้น


(4) ชะแว๊บ แป๊บเดียวมาถึงทางแยกแม่มาลัย เลี้ยวซ้ายไปนั่นคือทางขึ้นปาย


(5) ทางขึ้นดอย....ลดเลี้ยง เคี้ยวคด ไปตามทางนี้แหละ ระยะทาง 100 กม. รถตู้ใช้เวลาวิ่ง 3 ชม.ครึ่ง...


(6) ประมาณ 9 โมงเช้า ถึงจุดพักรถครึ่งทาง 50 กม.จากเชียงใหม่ (ออก 7.30 มาถึง 9.00 – ชั่วโมงครึ่ง ได้ทาง 50 กม.)


(7) หมอกเริ่มมีแบบจาง ๆ


(8 ) ตรงนี้มีหมอกแยะ.....


(9) ฮี่ท่อ นึกว่าหมอก ที่แท้คนดูดยากาแร๊ต


(10) รถคันนี้คงขึ้นไปที่ค่ายทหาร น่าจะใช่ เพราะเป็นรถทหาร มีค่ายอยู่ที่ปาย


(11) ดอกบัวตองยังพอมีให้เห็นข้างทาง แต่โหรงเหรง ใกล้จะโรยรา


(12) ดอกสวย ๆ ก็พอมีให้เชยชม...มันอยู่ที่คนมอง


(13) ลุยต่อ ตั้งแต่จุดพักรถไปนี้คุณเอ๊ย คนไม่เคยทาง(โค้ง) เตรียมถุงเอาไว้รองของเก่าได้เลย...เพราะรถตู้ ลุยไม่ยั้ง


(14) งีบไปแพล็บเดียว มาถึงสะพานประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นสร้างไว้สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อจะเดินทางจากเชียงใหม่ ผ่านปาย เข้าไปเมืองมะละแหม่ง แดนหม่อง…....จากจุดนี้ อีก 10 กม.ถึงปาย


(15) 11 โมงนิด ๆ มาถึงปายโดยสบายดี....3 ชั่วโมงครึ่งจากเชียงใหม่


(16) เจอเพื่อนเก่าที่เคยพาไปลุย


(17) ตรงนี้เค้าเรียกว่า สี่แยกปายหนาว มีป้ายเขียนบอกไว้ ที่เค้าเคยมาถ่ายหนัง


(18 ) ลูกเค้าบอกว่า จะเอารถเปิดประทุนมารับ มาคราวนี้ ได้นั่งรถ(ซาเล้ง)เปิดประทุน มองได้ 360 องศาสมใจ ขับช้า ๆ หน่อย หนาวว่ะ


(19)

(20)
(19 – 20) สะพานข้ามแม่น้ำปาย มาทีไรก็ถ่ายตรงเนี๊ยะ ก็บ้านอยู่ทางนี้นี่หว่า อีกจิ๊ดเดียวก็ถึงที่พัก แต่ หนาววววววอ่ะ....มุมมองจริง ๆ วิวมันสวย แต่คนถ่ายมันห่วย รูปเลยออกมาไม่ดี


(21)

(22)
(21 – 22) แม่น้ำปายมองไปทางเหนือ กับทางใต้อ่ะจ้า


(23) ถึงป้ายบ้านโฮ่งนี่ ก็แสดงว่าถึงที่พักแล้ว


(24) มีศาลาทรงไทย แต่ฝีมือช่างไทใหญ่ เลยออกมาเป็นทรง ไทยอาหม


(25) ดอกไม้ที่รอวันบาน


(26)

(27)

(28 )
(26 – 28 ) ศาลานั่งเล่น....จะนอนก็ได้ครับ


(29)

(30)
(29 – 30) กระท่อมจันทร์สว่าง ส่วนตั๊ว ส่วนตัว...ใครไปปาย หาที่พีกไม่ได้บอกนะครับ ยินดีสละให้ รับรองว่า หน้าร้อนนอนสบาย หน้าหนาว อาจจะแข็งตาย ..

จะเห็นต้นกล้วยไข่จากไร่กล้อมแกล้มปลูกอยู่ด้านหน้า (เจ๊รองแกขโมยขุดมานะครับลุง ผมแค่คนปลูก )


(31) กล้วยไข่จากไร่กล้อมแกล้ม สุกทั้งเครือ รอรับ ลูกโตเท่ากล้วยหอมละมั๊ง


(32) อาหารมื้อแรกที่ปาย แกงแคสูตรไทใหญ่ ที่ป้าคำยกมาต้อนรับ
....กินให้หมดเลยนะพ่อ

ก็เลยตอบไปว่า......ตะบลือ.....ขอบคุณคร๊าบบบบ...

เห็นพริกในชามแล้ว สะอึก พรุ่งนี้เช้า แสบก้นตายโหงแน่ ๆ กรูเอ๊ย

…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ

ยังไม่จบนิ

.
DangSalaya
ตอบตอบ: 17/09/2015 12:06 am    ชื่อกระทู้: เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 ตอน 1 เสียงเพรียกจากย

สวัสดีครับลุงคิม .....และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เกษตรสัญจร 1 เที่ยวบ้านกะเหรี่ยง ภาค 3 ตอน 1 เสียงเพรียกจากยอดดอย

สกู๊ปพิเศษ 3 ตอน 1 อยากรู้ให้ขึ้นมาดูเอง

โอ๊ะมื่อโชเปอ…..เนอะ โอ๋ ชู่ อะ
สวัสดีค่า.....สบายดีกันอยู่มั๊ยค๊า


ปลายฝน ต้นหนาว ใกล้จะถึง High season (ธันวา – ต้นมีนา)ที่ปายเริ่มจะคึกคัก ....

แต่ใครอยากเที่ยวปายให้สดใสมีสีสัน ต้องไปเที่ยวตอนปลายฝนต้นหนาวนี่แหละครับ.....อากาศเย็นแบบสบาย ๆ ภูมิทัศน์เขียวสดชื่น อาหารการกินพืชพันธุ์ธัญญาหารจากป่าอุดมสมบูรณ์.....ประมาณกลางเดือน ตุลา ก็คงจะเริ่มเตรียมการต่าง ๆ ที่จะรับแขกที่จะขึ้นไปเที่ยวกัน

ปีนี้ที่พักแต่ละแห่ง คงจะไม่อยากต้อนรับ ทัวร์จากจีน..เข็ดขยาดมาก ๆ .. ขอบอกตามตรงว่า รูปสวย แต่รวยความสกปรกและโสโครก ขึ้นป้ายตัวโต ๆ ไว้เลยว่า FULL
เจ้า ชาชา น้องสาวเจ้า โชเล่ เพื่อนกะเหรี่ยง ส่งข้อความถามมาว่า

....พ่อจะขึ้นมาพร้อมพี่ผึ้งหรือเปล่า จะได้ลงมารับขึ้นไปพักที่บ้านซักระยะก่อน มีรูปฝากมาให้หน่อยนึงค่า ...
คำตอบคือ ...สิ้นเดือนกันยา จะให้คำตอบ...


(1) มุมหนึ่งที่ริมแม่น้ำปาย ฝนกำลังตกมองเห็นไกล ๆ


(2)..มีข้อความว่า ไม่บอกว่าอะไร..อยากรู้ให้พ่อขึ้นมาดูเอง
....ก็ไม่ถามเหมือนกันว่าสิ่งนี้คืออะไร ถึงเวลาไปก็รู้เอง....


(3) น่าจะเป็นมุมหนึ่งในร้านกาแฟนะ....


(4) เป็นจุดที่มองจากมุมสูงจุดชมวิวที่ กิ่วลม ห่างจากเมืองปายออกไปราว ๆ 20 กม.ครับ ตรงจุดนี้เป็นช่องเขาบนดอย ลมค่อนข้างแรง เค้าจึงให้ชื่อว่า กิ่วลม ครับ


(5) แต่ก่อนเป็นทางลูกรัง ไปมาลำบาก ตอนนี้เทคอนกรีตใหม่แล้ว นักท่องเที่ยวเดินทางสะดวกขึ้น..พวกฝรั่งมันเที่ยวกันทั้งปีไม่เลือกฤดูกาล ค่าเช่าแมงกะไซด์ขนาดนี้ วันละ 100 เดียว


(6)

(7)
(6 - 7) สงสัยงบหมดเลยยังเทคอนกรีตไม่หมด ต้องเดินผ่านป่าสนและผ่านทุ่ง การเที่ยวป่า เขาลำเนาไพร มันได้อารมณ์ตรงนี้แหละครับ ถ้าให้สนุกกว่านี้ ต้องลุยป่า ถึงจะมัน อากาศสดชื่น ไร้มลพิษ หายใจได้เต็มปอด ที่สำคัญ เข้าป่ากับกะเหรี่ยงไม่ต้องกลัวอด ของกินในป่ามีเพียบ


(8 ) เห็นน้ำตกนี่ แสดงว่า ใกล้โป่งน้ำร้อนเข้าไปแล้วนิ....น้ำตกไปเจอกับโป่งน้ำร้อน ก็กลายเป็น Hot Spring แบบอุ่น ๆ ลงแช่ได้สบาย ๆ


(9) นี่แหละครับ โป่งน้ำร้อนไทรงาม ฝรั่งทั้งนั้น ลงแช่โป่ง ผมถึงบอกว่า ไปเที่ยวปาย ต้องไปช่วงปลายฝนต้นหนาว คนไม่แยะ ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งหาที่นอน ถึงจะมีแต่ใบไม้ที่ไร้ดอก แต่บรรยากาศก็เขียวสวยสดใส


(10) ...จะเป็นตะวันชิงพลบ หรือ จะรุ่งสุริยา ก็เหลือเดา....แต่ผมขอจบลงด้วยคำว่า ....เสียงเพรียกจากยอดดอย......ครับ


…เย่อ ซะ เก่อ ยื่อ บะ นา ….ด้วยความคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกคนครับ

.





.
hans
ตอบตอบ: 18/06/2015 10:15 pm    ชื่อกระทู้:

.
.
สวัสดีค่ะลุง ทิดแดง และสมาชิกทุกๆๆท่าน

ที่ลุงถามฉีด อาทิตย์ละครั้งค่ะตอนใหม่ๆๆงามมาก มีรอยกัดเล็กน้อยฉีดสมุนไพรรวม มาพลาดตอนที่แม่เสียไม่ได้เหลียวแลเลยเพราะยุ่งมาก งานศพทางอิสานจะไม่เหมือนภาคกลาง กิน เล่น บ้านงานเจ้าภาพก็ต้องเตรียมอาหารไว้ให้ผู้คนที่มา ทั้งยุ่งและเหนื่อยมากเลยไม่ได้ดูแล แมงอีนูนก็เลยมากันใหญ่คงติดใจอะไรก็เอาไม่อยู่ พอเสร็จงานองุ่นก็จะม้วยมรนา

สมุนไพรเอาไม่อยู่จริงค่ะลุง ป้องกันไม่ทันจริงๆๆ เห็นไหมค่ะอุปสรรค ตอนนี้ฉีดทุกวันไมผสมน้ำด้วยซ้ำ พรุ่งนี้จะหาสมุนไพรเฉพาะที่ลุงบอกลองอีก แล้วจะแจ้งผลค่ะ


ป้าห่าน

ปล.
ก็เล่นอยู่เฟส ยามว่างจ้า เป็นเพื่อนกันคนบนดอย และแถวคอนถม



.
kimzagass
ตอบตอบ: 16/06/2015 6:19 am    ชื่อกระทู้:

hans บันทึก:


ขอบคุณหลายๆๆ สำหรับองุ่นที่ฝาก เรามันคนสมาธิสั้น อยากปลูกไปหมดเหมือนที่ลุงเคยว่าปลูกไว้โชว์ แต่เอาจริงนาถึงจะแค่โชว์ก็อยากโชว์ที่สวยงาม คืบหน้าองุ่นป้าโดน "แมงอีนูนขี้หมา" สกรัมซะบอบช้ำไม่เหลือใบ ตอนนี้กะลังแตกยอดอ่อน

ป้าต้มสมุนไพรทุกอย่าง ฝาด-เผ็ด-ขม-เบื่อเมา เอาแบบผสมน้ำครึ่งๆๆ เอาไม่อยู่ แต่เบาบาง พอเก็บออกทุกคืน ไว้ใบงามแล้วจะส่งรูปให้ดูเด้อ ปลูกเล่นๆๆต้นเดียวเอง อยากมีไว้เพื่อนลุงที่เมืองนอกลุ้นกันใหญ่

COMMENT :

แมลงกินนูน..... ว่านน้ำ พริกไทย หนอนตายหยาก หางไหล มะเขือเทศ พริกสด
แมลงนูนหลวง... ว่านน้ำ น้อยหน่า พริกสด สาบเสือ หนอนตายหยาก หางไหล
แมลงสิง....... สะเดา บอระเพ็ด มะกรูด พริกสด น้อยหน่า ทุเรียนเทศ

แมลงคำหนาน... น้อยหน่า พริกสด สาบเสือ มะกรูด พริกสด ทุเรียนเทศ
แมลงบ่วง...... สะเดา บอระเพ็ด สาบเสือ ดาวเรือง น้อยหน่า ทุเรียนเทศ
แมลงหล่า...... สะเดา หางไหล หนอนตายหยาก บอระเพ็ด สาบเสือ ดาวเรือง

แมลงแกง...... สะเดา น้อยหน่า หนอนตายหยาก หางไหล พริกสด
แมงค่อมทอง.... สาบเสือ มะกรูด พริกสด น้อยหน่า ดาวเรือง ยี่โถ
แมลงหวี่ขาว..... สาบเสือ ดาวเรือง กระเทียม น้อยหน่า ยาสูบ พริกสด สะเดา

แมลงชีปะขาว.... สาบเสือ ดาวเรือง มะระ น้อยหน่า มะกรูด ข่า พริกสด
แมลงกะเจ๊า...... สาบเสือ ยาฉุน ยาสูบ น้อยหน่า ข่า พริกสด บอระเพ็ด ฟ้าทะลายโจร
แมลงวันทอง..... ว่านน้ำ หางไหล สะเดา ยาสูบ

แมลงวันแดง...... ว่านน้ำ หางไหล สะเดา ยาสูบ

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2443\

ถามเพิ่มอีกหน่อย (เหมือนหมอถามคนไข้) :
- ฉีดกี่ครั้งตั้งแต่เริ่มเกิด ?
- ชื่อเฉพาะสมุนไพร ชื่ออะไร ?
- ทำไม่ลอง IPM บ้างล่ะ ?






.
DangSalaya
ตอบตอบ: 16/06/2015 12:15 am    ชื่อกระทู้:

hans บันทึก:


สวัสดีค่ะ ลุงคิม ทิดแดง และสมาชิกทุกๆๆท่าน ฝากฮาโหลถึงบนดอยด้วย

ไม่ต้อง ฝากฮาโหลหรอกครับ คนบนดอยเค้าเปิดอ่านอยู่แล้ว เค้ายังบอกมาว่า ป้าห่าน ชอบเล่น Face จริงป่ะ.....


ขอบคุณหลายๆๆสำหรับองุ่นที่ฝาก เรามันคนสมาธิสั้น อยากปลูกไปหมดเหมือนที่ลุงเคยว่าปลูกไว้โชว์ แต่เอาจริงนาถึงจะแค่โชว์ก็อยากโชว์ที่สวยงาม


คืบหน้าองุ่นป้าโดนแมงอีนูนขี้หมาสกรัมซะบอบช้ำไม่เหลือใบ
ตอนนี้กะลังแตกยอดอ่อน ป้าต้มสมุนไพรทุกอย่างฝาด เผ็ด ขมและเบื่อเมา เอาแบบผสมน้ำครึ่งๆๆ เอาไม่อยู่แต่เบาบางพอเก็บออกทุกคืน


ป้าเอามุ้งเขียว คลุมบน ล่าง ข้าง ซ้ายขวา หน้าหลัง ตามในรูป....ถ้าทำเสร็จแล้ว ลองเอา ด่างทับทิม ใส่ถ้วย ตั้งไว้หลาย ๆ จุด แล้วเอา ฟอร์มาลีน เทใส่ลงไป จากนั้นรีบเผ่นออกมานอกมุ้ง มิฉะนั้นจะแสบตา แสบจมูก รับรองว่า ไม่ว่าจะแมงอีนูน หรือเชื้อโรคต่าง ๆ จะค่อยๆ หายสาบสูญแน่ ๆ

ไว้ใบงามแล้วจะส่งรูปให้ดูเด้อ ปลูกเล่นๆๆต้นเดียวเอง

ต้นเดียว ถ้ามันเลื้อย จะคลุมรอบบ้านนกของลุง Hans แน่ ๆ เวลามันออกลูกห้อยระย้า นะป้าห่านเอ๊ย.....ต๊กใจตื่นมาเสียได้....เฮ๊อ เข้าห้องน้ำ ปวดฉี่....ฝันสลายเมื่อใกล้รุ่ง เสี่ยดายจัง.....


อยากมีไว้เพื่อนลุงที่เมืองนอกลุ้นกันใหญ่ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เอาใจช่วย

ป้าห่าน


ก็ว่ากันไป.....

.