-
MySite.com :: ทบทวนกระทู้ - ข้อควรระวัง ปลูกอ้อยข้ามแล้ง.... (โชว์โง่)
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
ตอบตอบ: 11/01/2011 5:37 pm    ชื่อกระทู้:

joBcoMmatammi บันทึก:
ข้อดีของโลก IT ที่คิดได้ตอนนี้ (เมื่อเราเข้ามาในห้องสมุดของโลก)

1. คนที่พูดไม่เก่ง ได้แสดงความคิด เพราะว่า มันไม่ต้องพูด
2. ได้แลกเปลี่ยนความคิดกับคนที่ไม่รู้จัก ความคิดจึงหลากหลาย
3. ได้ประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ กว้างขึ้น
4. คนที่พูดเก่ง ได้พูดในสิ่ง ที่มันพูดไม่ได้
5. ได้รู้ประโยชน์ และโทษของ IT



ข้อเสีย (ต้องคำนึงถึง ความคิด การแยกแยะ ผิดชอบชั่วดี อายุ และที่สำคัญคือ
อารมณ์ของผู้ใช้ IT )

- ไม่มีความจริงใจในโลก IT ถามว่า มีคนที่จริงใจไหม คำตอบ มี แต่น้อย
- เราไม่ได้เข้ามา วิจัย หาเพื่อนแท้ในโลก IT แต่ถ้าได้เพื่อนแท้ แสดงว่าเกินคาด
- เราไม่ได้เข้ามาหา อาจารย์ในโลก IT แต่ถ้าได้ เกินคาด
- เราไม่ได้หา ที่ปรึกษา เรื่องต่างๆ ถ้าได้ ก็เกินคาดครับ
- เกาหลีมี IT ทุกบ้าน แสดงว่าเกาหลีไม่มีความจริงใจทั้งประเทศใช่ไหม

ความคิดผมเป็นอย่างนี้จริงๆ ครับ..... อย่างโกรธกันนะครับลุง




เกาหลีมี IT ทุกบ้าน แสดงว่าเกาหลี "ไม่มีความจริงใจ" ทั้งประเทศใช่ไหม

ตอบ :
คงไม่ใช่อย่างที่คุณตีความหรอกนะ คุณก็บอกเองนี่ว่า ในโลก IT ก็มีข้อดี ซึ่งลุงคิมก็เห็นพ้องด้วย เขาคงเลือกเอาแต่ข้อดีที่เหมาะสมกับตัวเองมาใช้ประโชยชน์ เริ่มจากประโยชน์ของตัวเองก่อน เมื่อรวมทุกคนได้ประโยชน์ก็หมายถึงประเทศชาติในที่สุด......แล้วก็ไมใช่เฉพาะคนเกาหลีเท่านั้นที่ใช้ประโยชน์จาก IT จนประสบความสำเร็จสูงสุด ในบ้านเราก็มีไม่ใช่น้อย แค่คนที่ลุงคิมรู้จักเป็นการส่วนตัวก็เกิน 100 แล้ว ยิ่งลุงคิมอยู่ตรงนี้ (หนังสือ-วิทยุ-เน็ต) ซึ่งเหมือนกับเป็น CENTER ดีๆนี่เองในแต่ละวันจะมี TELCALL เข้าไม่ได้ขาดสาย 9 ใน 10 สายเป็น (+) เพียง 1 หรือน้อยกว่าเท่านั้นที่เป็น (-) ก็แสดงว่า IT เป็นโลกที่ดีนั่นเอง




อย่างโกรธกันนะครับลุง

ตอบ :
ไม่โกรธหรอก (ใจจริง) ตรงข้ามกลับรู้สึกขอบคุณอย่างมากด้วยซ้ำ ที่ "นิยาม" คำว่าโลก IT ได้ชัดเจนมาก ลุงคิมอยากได้นิยามแบบนี้จากคนอื่นๆ บ้าง ไหนว่าแลกเปลี่ยนแนวคิด แชร์ประสบการณ์ ส่งเสริมซึ่งกันและกัน กับอีกจิปาถะ ไงล่ะ

หมายเหตุ :
ลุงคิมอาจใช้คำพูดผิด หรือแรงไปหน่อย จึงทำให้ "คุณ + สมช." กับ "ลุงคิม" เข้าใจกันแบบทางรถไฟ (ไปด้วยกันจนถึงที่หมาย แต่พบกันไม่ได้) ใจลุงคิมคิดไปที่ สมช.ใหม่ (เพิ่งเข้ามาครั้งแรก) หลายๆท่าน ที่เขามาทักทายกันเพียงแว้บๆ แล้วก็หายต๋อมไปเลย ระหว่างที่เขาเข้ามานั้น ลุงคิมก็เห็นว่า ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากทุกคน ทั้ง สมช.ใหม่-สมช.เก่า ดูลีลาการตอบโต้กระทู้ก็เห็นว่าดีในทุกๆเรื่อง ทุกเรื่องราวที่ต่างสัมผัสซึ่งกันและกันนั้น น่าจะเป็น "ความประทับใจ ความอบอุนใจ" ซึ่งกันและกัน แต่กลับไม่ใช่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า เขาประทับใจหรือไม่พอใจหรือเปล่า

ประเด็นที่ลุงคิมสงสัยก็คือ ในโลก IT น่ะ ใครก็ตามที่เคยเข้ามาแล้ว เมื่อเขาจะจากไปทำไมไม่บอกกล่าวอะไรกันซักคำบ้าง แล้วก็ไม่ใช่แต่เฉพาะเว้บนี้เท่านั้น เว้บอื่นๆก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน

พูดง่ายๆก็คือ เสียดาย ...... ใจลึกๆน่ะ ห่วงหาและอาทร เขานะ


ลุงคิม (รักทุกคน ทั้งที่อยู่และที่จากไป) ครับผม
joBcoMmatammi
ตอบตอบ: 11/01/2011 10:28 am    ชื่อกระทู้:

ข้อดีของโลก IT ที่คิดได้ตอนนี้ (เมื่อเราเข้ามาในห้องสมุดของโลก)

1. คนที่พูดไม่เก่ง ได้แสดงความคิด เพราะว่า มันไม่ต้องพูด
2. ได้แลกเปลี่ยนความคิดกับคนที่ไม่รู้จัก ความคิดจึงหลากหลาย
3. ได้ประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ กว้างขึ้น
4. คนที่พูดเก่ง ได้พูดในสิ่ง ที่มันพูดไม่ได้
5. ได้รู้ประโยชน์ และโทษของ IT



ข้อเสีย (ต้องคำนึงถึง ความคิด การแยกแยะ ผิดชอบชั่วดี อายุ และที่สำคัญคือ
อารมณ์ของผู้ใช้ IT )

- ไม่มีความจริงใจในโลก IT ถามว่า มีคนที่จริงใจไหม คำตอบ มี แต่น้อย
- เราไม่ได้เข้ามา วิจัย หาเพื่อนแท้ในโลก IT แต่ถ้าได้เพื่อนแท้ แสดงว่าเกินคาด
- เราไม่ได้เข้ามาหา อาจารย์ในโลก IT แต่ถ้าได้ เกินคาด
- เราไม่ได้หา ที่ปรึกษา เรื่องต่างๆ ถ้าได้ ก็เกินคาดครับ
- เกาหลีมี IT ทุกบ้าน แสดงว่าเกาหลีไม่มีความจริงใจทั้งประเทศใช่ไหม

ความคิดผมเป็นอย่างนี้จริงๆ ครับ..... อย่างโกรธกันนะครับลุง
Sita
ตอบตอบ: 11/01/2011 7:32 am    ชื่อกระทู้:

kimzagass บันทึก:

คำก็ขอโทษ สองคำก็ขอโทษ.....นี่กำลังจะหายอีกคนใช่ไหม ?
ระวัง พี่หมึก. พี่ซุป. พี่.... จะคลั่งนะ

ลุงคิมครับผม[/color]
[/quote]

ถ้าจะไปต้องลาแน่นอนค่ะลุง..แต่ตอนนี้
ยังไม่ลาเพราะไม่มีที่ไป (จริงๆ) ขอสถิตย์
จนกว่าจะถูกไล่ที่นะคะ....

แต่คุณลุงคะ ใช้คำว่า "คิดถึง" แทนคำว่า "คลั่ง"
ดีกว่ามั้ยคะคุณลุง......

แป้ง....
catcaty
ตอบตอบ: 11/01/2011 6:56 am    ชื่อกระทู้:

อยากเป็นอีก้อสักพัก....ได้ข่าวว่าลุงเป็นขาใหญ่เผ่าอีก้อ
ฝากผมกับไอ้แป้ง ให้เป็นอีก้อหน่อยสิครับ...!

หมึกครับผม
kimzagass
ตอบตอบ: 11/01/2011 5:59 am    ชื่อกระทู้:

Sita บันทึก:
..อรุณสวสดิ์ค่ะ คุณลุง...

แป้งว่าแป้งพอจะเข้าใจความรู้สึกของคุณลุงนะคะ ..
มองเห็นแล้ว ว่าคุณลุงต้อง "เหนื่อย" กับ
ตอบ :
มันก็ไม่ได้เหนื่อย ได้เหน่อย อะไรหรอกนะ เพียงวแต่เห็นว่า
มันแปลกเท่านั้นแหละ


อะไร และแป้งจะเป็นกำลังใจเล็กๆให้คุณลุง
จริงใจ จริงจัง จริงแท้ แน่นอน...ฟันธง..!!!!!!

คอนนี้อากาศที่บ้านคุณลุงหนาวมั้ยคะ ??
ที่บ้านแป้งหนาว และลมแรงมาก..แต่ว่ายัง
ขาดเสื้อกันหนาวฟรีอยู่ ที่เผ่าอีก้อเก้อที่คุณลุง
ว่าเค้าเลิกแจกรึยังคะ...ถ้ายังจะได้ชวนพี่หมึก
ไปรับแจกด้วย...
ตอบ :
ไปได้เลย เดือนหน้า ลานสาวกอด อีก้อ เชียงของ
ใครเป็นอีก้อ กอดได้ ถ้าไม่ใช่อีก้อ โดนตบ



แป้ง..

ปล.
ขอโทษนะคะคุณลุง บางทีมันอาจจะเป็นความคิด
ที่อาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจ แต่แป้งคิด
อย่างนั้นจริงๆนะคะ...และแป้งก็เข้าใจแล้วละค่ะ
ว่า.."สำหรับคำตอบนี้ แป้งทำดีแล้ว ถูกต้องแล้ว"................
ตอบ :
อย่าคิดมาก หนูแป้งไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องขอโทษ
ว่าแต่ อย่าหายซับหายสอย อย่าหายไปเฉยๆ โดยไม่ร่ำลา
สร้างมิติใหม่แห่งโลก IT ขึ้นมาซี่ ที่จริงใจ จริงจัง จริงแท้
เหมือนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไง

รู้จักกันในโลก IT เมื่อผละจากโลก IT ไปแล้ว ก็ยังคบคาหา
กันอยู่ ถ้าไม่ใน NET ก็ไปทาง TEL ได้ หรือพัฒนาสังคม IT
ให้เป็นสังคมตัวตนจริง โดยนัดพบปะกัน ให้รู้จักตัวจริงกัน ก็ได้



ขอบคุณนะคะคุณลุง..และขอโทษอีกครั้งจริงๆ
ตอบ :
คำก็ขอโทษ สองคำก็ขอโทษ.....นี่กำลังจะหายอีกคนใช่ไหม ?
ระวัง พี่หมึก. พี่ซุป. พี่.... จะคลั่งนะ

ลุงคิมครับผม

kimzagass
ตอบตอบ: 11/01/2011 5:42 am    ชื่อกระทู้:

catcaty บันทึก:
อย่าเครียดกันเลยครับ....! ทุกสิ่งในโลกมีเกิดย่อมมีดับเป็นธรรมดา

อดีตพระหมึก(ที่เคยบวชได้ตั้งเจ็ดวัน)



ถูกต้องที่สุดเลยหมึก....อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด

ลุงคิม (เคยบวช 120 วัน) ครับผม
Sita
ตอบตอบ: 11/01/2011 5:33 am    ชื่อกระทู้:

..อรุณสวสดิ์ค่ะ คุณลุง...

แป้งว่าแป้งพอจะเข้าใจความรู้สึกของคุณลุงนะคะ ..
มองเห็นแล้ว ว่าคุณลุงต้อง"เหนื่อย"กับ
อะไร และแป้งจะเป็นกำลังใจเล็กๆให้คุณลุง
จริงใจ จริงจัง จริงแท้ แน่นอน...ฟันธง..!!!!!!

คอนนี้อากาศที่บ้านคุณลุงหนาวมั้ยคะ ??
ที่บ้านแป้งหนาว และลมแรงมาก..แต่ว่ายัง
ขาดเสื้อกันหนาวฟรีอยู่ ที่เผ่าอีก้อเก้อที่คุณลุง
ว่าเค้าเลิกแจกรึยังคะ...ถ้ายังจะได้ชวนพี่หมึก
ไปรับแจกด้วย...


แป้ง..

ปล.
ขอโทษนะคะคุณลุง บางทีมันอาจจะเป็นความคิด
ที่อาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจ แต่แป้งคิด
อย่างนั้นจริงๆนะคะ...และแป้งก็เข้าใจแล้วละค่ะ
ว่า.."สำหรับคำตอบนี้ แป้งทำดีแล้ว ถูกต้องแล้ว"................

ขอบคุณนะคะคุณลุง..และขอโทษอีกครั้งจริงๆ
catcaty
ตอบตอบ: 11/01/2011 5:27 am    ชื่อกระทู้:

อย่าเครียดกันเลยครับ....! ทุกสิ่งในโลกมีเกิดย่อมมีดับเป็นธรรมดา
อดีตพระหมึก(ที่เคยบวชได้ตั้งเจ็ดวัน)
kimzagass
ตอบตอบ: 10/01/2011 10:11 pm    ชื่อกระทู้:

อย่าไปใส่ใจกับเรื่องนี้เลย แป้งเอ๊ยยยยย

ลุงคิมต้องการสื่อให้รู้ว่า คนที่มาในโลกเน็ตน่ะ มาแล้วก็ไป
ไปเฉยๆ ไม่บอกไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้นด้วย แม้ใครคนหนึ่งจะเสียดาย
กับการผละไปของเขา แต่เขาก็ไม่สนใจ .... อะไรๆ ประมาณนี้นี่แหละ

นี่น่าจะเป็น "ธรรมเนียม" ของชาวเน็ตซะละมัง

บ่อยครั้งเคยตั้งข้อสังเกตุ (แค่สังเกตุเท่านั้น) คนที่ตั้งคำถามมาที่ลุงคิม
โดยตรง หรือถามใครโดยเฉพาะก็เถอะ ....ลุงคิมหรือใครคนนั้นตอบไปแล้ว
ทำไมคนที่ถามเมื่อได้คำตอบไปแล้ว จึงไม่พูดอะไรเลย แม้แต่คำขอบคุณ

ไม่ขอบคุณไม่ว่า แต่ที่สังเกตุต่อก็คือ "หาย" ไปอีก เหมือนมาครั้งเดียวแล้วเข็ด
เลย ให้ดิ้นตายซิเอ้า ประมาณนั้นไหม

ในชีวิต ลุงคิมเป็นทหาร ทำงานในตำแหน่งที่ต้องสัมพันธ์กับพลเรือน (กิจการ
พลเรือน) ซึ่งก็คือ ประชาชนทั่วๆไปมาตลอด ตั้งแต่หนุ่มยันแก่ สายสัมพันธ์ที่เคย
มีกับทุกคน ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่เคยขาดหายไปอย่างไร้เหตุผลเลยแม้แต่ราย
เดียว แม้ภารกิจนั้นจะเสร็จสิ้นไปแล้ว จึงบอกไงว่า ในโลกที่มีตัวตนจริงๆ กับโลก
IT หรือ NETที่ไม่มีตัวตน มีแต่ PASSWORD เป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ไม่ได้หมายความว่า โลก IT หรือ NET ไม่ดีนะ เพียงแต่
อยากจะบอกว่า สองโลกนี้ต่างกันอย่างไรเท่านั้น



ลุงคิม (ใครเคยสังเกตุบ้าง) ครับผม
Sita
ตอบตอบ: 10/01/2011 9:07 pm    ชื่อกระทู้:

อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ....บอกอารมณ์ไม่ถูก
ว่ารู้สึกยังงัย...

สำหรับแป้ง..ในโลกอินเตอร์เน็ต มุมมอง
ความคิดที่แสดง ความรู้สึกที่เกิด แป้งคงเป็น
เด็กที่เพิ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน...

..ทุกอย่างที่มอง จึงเป็นสายตาของเด็กๆ
..ความคิดเห็นที่แสดง ก็เป็นความคิด เด็กๆ
..ความรู้สึกที่ให้ออกไป ก็แบบ เด็กๆ

ไม่รู้หรอกว่า..
..มันต้องมีอะไรเคลือบแฝงอยู่ จริงๆ เหรอ
..มันต้องมีอะไรซุกซ่อนเอาไว้ จริงๆ เหรอ
..แล้วต้องทำอะไรเพื่ออะไรซักอย่าง จริงๆ เหรอ

เรื่องเหล่านี้ไม่เคยนึกถึงมันเลย..ทุกอย่างที่
แสดงผ่านออกไป มันคือ "ความรู้สึกนึกคิด" จริงๆ
..กับความคิดถึง ชื่นชม ชื่นชอบ มีอารมณ์ร่วม
กับทุกเรื่องราว อย่างที่แป้ง "เป็นและทำ" อยู่
เค้าเรียกมันว่าอะไรคะ..."ติดเน็ต" หรือ "จริงใจ"


แป้ง...(ก็เคยนึกสงสัยกับคำพูดที่ว่า
"แต่หนูแป้งทำได้ และทำได้ดีซะด้วย"
มันหมายถึงอะไร ที่ งง ก็เพราะว่าตัวเอง
ทำอะไรเหรอ อะไรที่ทำ....สงสัยแต่ก็ปล่อย
ผ่านมันไป...)
kimzagass
ตอบตอบ: 10/01/2011 5:46 pm    ชื่อกระทู้:

ประสบการณ์ตรงที่เชื่อว่าใครๆก็เจอ.....

รู้จักกันในเน็ต เรียกว่า "เพื่อนเน็ต" หลายคนหลายกลุ่ม แรกๆก็อี๋อ๋อ ดี๊ด๊า กันดี
เห็นถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดี พูดอะไร บอกอะไร เป็นดีเป็นงามไปหมด ท่าทางแบบนี้
ดูเหมือนอนาคตความเป็นเพื่อนคงไปได้ยาวไกลแน่ๆ

ความรู้สึกดีๆ เกิดขึ้นได้เฉพาะช่วงที่อยู่หน้าจอเน็ตเท่านั้น ปิดหน้าจอแล้วความรู้สึก
นั้นก็หาย หรือเปลี่ยนกลับไปเป็นตัวของตัวเองตามปกติ ก็เพราะความสุขหน้าจอนี่
แหละ ที่ทำให้บางคนเกิดอาการ "ติดเน็ต" ยังไงล่ะ

แม้แต่ "เพื่อนเน็ต" ที่เคยสัมผัสกับลุงคิมโดยตรง ตลอดเวลาก็เห็นบอกว่าดี ได้
ความรู้ ได้แนวทาง ได้เพื่อน สารพัดสิ่งที่ได้ล้วนแต่ว่าดีๆทั้งนั้น สุดท้ายรายไหน
รายนั้น ไม่นานก็หายไป ลองเชคที่กระทู้เก่าๆก็ได้ จะเห็นว่าหลายๆ
PASSWORD หายเงียบไปเลย บาง PASSWORD ไปโผล่ที่เว้บอื่น นั่นถือเป็น
เรื่องธรรมดาสำหรับคนชอบท่องโลกเน็ต แต่เขาก็ไม่น่าจะหายไปจากเว้บนี้ เว้บที่
เขาเคยชื่นชอบ

การหายไปของเขา ไม่ใช่ว่า เขาโกรธ เขาไม่พอใจ เขาไม่ชอบใจอะไรหรอกนะ
นั่นคือธรรมชาติของโลกเน็ต เป็นสิ่งธรรดาๆ เท่านั้นแหละ ไม่ว่าเว้บไหนๆก็เป็น
อย่างนี้ทั้งนั้น

ลุงคิมไม่ได้คิดที่จะเรียกร้องความสนใจ หรือขอความเห็นใจใดๆ จากใครทั้งสิ้น นี่
เป็นแค่แนวความคิดส่วนตัวต่อโลกเน็ตเท่านั้น ระยะเวลาเพียง 1 ไม่ถึง 2 ปีที่เข้ามา
สัมผัสกับแวดวงเน็ตจึงรู้ ถึงบอกพวกเราว่า อย่ากังวล อย่าคิดมาก แล้วก็อย่าหวังมาก

โลกเน็ตเป็นโลกประเดี๋ยวประด๋าว มาแล้วก็ไป แต่ไปแล้วมักไม่มานะ เพราะฉนั้น
เป็นไปได้ไหม หรือสมควรไหม ที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวา มีใจซึ่งกันและกัน จากโลก
เน็ตไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง ที่มีตัวตน มีจิตวิญญานจริงๆ .....


ลุงคิม (พบเพื่อจาก) ครับผม

ปล.
อืมมมม....ถ้า (เน้นย้ำ...ถ้า) ลุงคิมหายไปจากเว้บนี้บ้าง จะเกิดอะไรขึ้น
Sita
ตอบตอบ: 10/01/2011 12:42 pm    ชื่อกระทู้:

..อย่างอื่น..เรื่องอื่น..หรืออื่นๆ แป้งไม่รู้..
สัมผัสไม่ได้ด้วยความรู้สึก แต่...

..คำ "ขอบคุณครับ"แป้งรู้สึกและสัมผัสได้
ว่าเค้า จริงใจอย่างบริสุทธิ์ใจ เช่นกัน...

แป้ง(โลกความเป็นจริงหรือเน็ต ก็เป็นแป้งนี่แหละ)
joBcoMmatammi
ตอบตอบ: 10/01/2011 12:39 pm    ชื่อกระทู้:

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดความจริงใจอย่างบริสุทธิ์ที่แป้งพูดคือ การเข้าใจปัญหาของคนอื่น
และพูดคุยให้คำแนะนำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ในยามที่มีปัญหา หรือที่เรียกว่าเพื่อน
ถ้าไล่ลำดับความสนิท ก็เรียกว่าเพื่อนคนนึง ที่เห็นคุณค่าของเพื่อนคนนี้ยามทุกข์
ยามเหงาแต่พอมันไม่ทุกข์ ไม่เห็นจะมาคุยด้วยเลยวุ้ย ประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้คิด
อะไร อ่อ เรียกว่าเพื่อนคุยหรือ เพื่อนเม้าส์ น่าจะใช่
และถ้าจะให้แบ่งอีกก็คง เพื่อนเม้าส์แบบวิชาการ เม้าส์แบบเรื่องทั่วไป คงประมาณนี้

ส่วนเรื่องนัดเจอของลุงนี่..คือการสืบสานความสัมพันธุ์ที่จะเกินกว่าเพื่อนคุยหรือ
เพื่อนเม้าส์ และลุงได้เปรียบเทียบรูปแบบของเพื่อนและวิธีการเลือกเพื่อนให้ฟัง

การโกหก ผมว่าคำพูดของผมอย่างน้อย 20 เปอเซนไม่จริง แต่ถ้าโกหกแล้วทำให้
คนอื่นสบายใจ เปอร์เซนต์การโกหกขึ้นเป็น 80 เปอเซนต์ ก็คงไม่เป็นไรมั้งครับ
อย่างเช่นโม้เรื่องเราตลกๆให้เพื่อนร่วมงานฟัง

สรุปครับ เพื่อนคุย เพื่อนร่วมงาน เพื่อนแท้ เพื่อน ฯลฯ ผมคิดว่ามีไว้ทุกแบบก็คงไม่
เป็นอะไรครับ แต่ก็ระวังคนที่จะเข้ามาเป็นทำทีเป็นเพื่อนเรา แต่กลับฉก ขโมย
ทำร้าย ทำให้เราสูญเสีย แค่นั้นก็พอครับ สำหรับผม

แต่ตอนนี้ขอไปดู แขกดายหญ้าอ้อยก่อนนะครับ
kimzagass
ตอบตอบ: 10/01/2011 11:26 am    ชื่อกระทู้:

จริงเหรอ.....ความจริงใจอย่างบริสุทธิ์ รู้จักกันแค่ PASSWORD นี่น่ะนะ....
ขนาดลุงคิมเคยเจอตัวกันจริงๆ มาแล้ว เคยทุ่มเทให้ทั้ง กำลังกาย. กำลังใจ. กำลัง
ความคิด กำลังทรัพย์. มานักต่อนัก ผลรับ นอกจากจะไม่ได้รับความจริงใจแทล้ว
ยังได้รับความเจ็บปวดในใจอีกแน่ พูดง่ายก็คือ ได้ - มากกว่าได้ + นั่นแหละ....

หนูแป้ง ทำดีแล้ว ถูกต้องแล้ว สำหรับคำตอบนี้




เขาว่า (เน้นย้ำ...เขาว่า นะ)
ในโลก IT ไม่มีความจริงใจหรอก ทุกอย่างแค่ผ่าน แล้วก็ผ่านไป เท่านั้นแหละ.....
หรือไม่ก็ เพื่อหวังผลประโยชน์อย่างอื่นซะมากกว่า

ในโลก IT เป็นอย่างที่เห็นๆ นี่แหละ เป็นโลกของคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน รักกัน
แบบไม่เคยรู้จักกัน ทุกอารมย์ความรู้สึกจึงใส่ลงไปในโลก IT ได้แบบไม่ต้องยั้ง
คิดยังไง อยากพูดอะไร ทำได้เสรี..... แล้วโลกแบบมันจะสนิทแนบแน่น ยั่งยืน มั่น
คง มั่นใจ ถาวร อะไรนักหนาล่ะ

แต่นอกโลก IT ซึ่งเป็นโลกของตัวเอง เมื่อเน้นเขาก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง คือ เป็นแบบ
ของตัวเอง

ถ้าเมื่อใดที่คนในโลก IT ได้มีโอกาสมารู้จักกันจริงๆ พูดคุย เห็นหน้าค่าตา ตัวตน
กันจริงๆแล้ว นั่นแหละจึงจะได้ความจริงใจซึ่งกันและกันจึงจะเกิด

คนในโลกแห่งความเป็นจริง ........... รักกันถึงขั้นตายแทนกันได้
แต่คนในโลก IT ........................ รักกันแต่ไม่ถึงขึ้นตายแทนกันไม่ได้นะ

ในโลก IT มีทั้ง ดี/ไม่ดี จงรู้จักเลือก และจงเป็นตัวของตัวเอง

อยากทำสิ่ง ดี/ไม่ดี จงทำ.... ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ก็จงทำ เมื่อพอใจ



ลุงคิม (ไม่ได้ว่าใคร แต่พอใจอยู่ในโลก IT...ไม่เข็ด) ครับผม
Sita
ตอบตอบ: 10/01/2011 10:08 am    ชื่อกระทู้:

เห็นมั้ยคะลุงคิม...
ความจริงใจอย่างบริสุทธิ์ใจที่เราให้ไป
มันก็กลับมาด้วยความรู้สึกเดียวกันแบบที่
สัมผัสได้..ด้วยความรู้สึกจริงๆ...


สบายดีนะคะ คุณจบคอมฯ
เห็นมั้ยแป้งบอกแล้ว แป้งต้องได้ทักทายคุณอีกแน่ๆ

แป้ง...
joBcoMmatammi
ตอบตอบ: 10/01/2011 9:49 am    ชื่อกระทู้:

สาเหตุที่ผมต้องเปิดมาเว็บนี้
1.ผมมีลุงคอยตอบคำถาม
2.ผมอยากรู้เรื่องเกษตร
และข้อที่
3.ผมมีเพื่อนที่คอยถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ขอบคุณครับ (แป้ง,ลุงคิม)
kimzagass
ตอบตอบ: 07/01/2011 7:41 am    ชื่อกระทู้:

ลูกสาวเอ๊ยยยยย....

แน่ใจหรื่อว่าเขาจะมาบ่อยๆ น่ะ
ตั้งความหวังยังงั้น เดี๋ยวก็อกหักหรอก


ลุงคิม (ชินซะแล้ว) ครับผม
Sita
ตอบตอบ: 06/01/2011 7:10 pm    ชื่อกระทู้:

ดีจังค่ะ..มันคงจะเป็นคำตอบที่ถูกใจลุงคิมแน่ๆ


สวัสดีค่ะ...เอาไว้ทักทายกันใหม่นะคะ..

คิดว่าคุณคงจะเงียบหายไปอีกพักนึง
แล้วกลับมาให้ทักทายอีกแน่ๆ..


แป้ง (เจ้าเก่า)
joBcoMmatammi
ตอบตอบ: 06/01/2011 10:12 am    ชื่อกระทู้:

Sita บันทึก:
อีกนิดนึง(หลายๆนิดเดี๋ยวก็เยอะเอง)..

แล้วในนี้คุณต้องฉีกยิ้มด้วยความรู้สึกแบบในที่ทำงานรึเปล่าคะ...
หวังว่าคงไม่ใช่นะ..ไม่ใช่แน่ๆ ว่ามั้ย.??
สู้ๆ ค่ะ...

แป้งเอง..(เยอะรึยังคะคุณ ถ้าเยอะแล้วบอกได้นะคะ จะได้ลดให้)


ในนี้ไม่ได้ฉีกยิ้มนะครับ เหมือนเข้า มาเรียน มาหาความรู้
มาหาประสบการณ์ด้านเกษตร เข้ามารอคำตอบที่ถามไว้
เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์
เข้ามาคุยเรื่องอื่นๆ บ้าง เข้ามาบ่น เข้ามาระบาย
ได้คุย ได้แสดงออกบ้าง ก็ช่วยได้เยอะครับ
ก็มีหลากหลายอารมณ์
ส่วนสัญลักษณ์แสดงอารมณ์แสดงตัวตนที่อยู่นอกที่นี่ครับ
Sita
ตอบตอบ: 06/01/2011 9:41 am    ชื่อกระทู้:

อีกนิดนึง(หลายๆนิดเดี๋ยวก็เยอะเอง)..

แล้วในนี้คุณต้องฉีกยิ้มด้วยความรู้สึกแบบในที่ทำงานรึเปล่าคะ...
หวังว่าคงไม่ใช่นะ..ไม่ใช่แน่ๆ ว่ามั้ย.??
สู้ๆ ค่ะ...

แป้งเอง..(เยอะรึยังคะคุณ ถ้าเยอะแล้วบอกได้นะคะ จะได้ลดให้)
joBcoMmatammi
ตอบตอบ: 06/01/2011 9:23 am    ชื่อกระทู้:

Sita บันทึก:
สวัสดีคุณ จบคอมมาทำไม..
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เข้าทักทายเฉยๆ
สบายดีนะคะ เห็นเงียบหายไปนาน

..นิดนึงค่ะ สัญลักษณ์หน้าตาสมาชิก
ยิ้มเยอะเกินไปรึเปล่าคะ..??เห็นหมดทั้ง
34ซี่เลย(ปกติเห็นแค่32ซี่)..แฮ่ะๆนิดเดียว
ขำ ขำ นะคะคุณ..จะได้ไม่เครียดมาก..


แป้งเอง..(ส.ใส่รองเท้าอีกแล้ว)


ขอบคุณครับ ข้อดีขอความทุกข์ มันก็มีเนาะ
แต่ทำไงได้ครับชีวิตต้องดำเนินต่อไป
สัญลักษณ์ก็มีที่มาครับ หมายถึงที่ทำงาน ต้องฉีกยิ้มใส่กันแต่ความจริงใจ
ไม่มีครับ เข้าใจง่ายๆ ก็ยิ้มเข้ามากันทุกคน เพื่อมาดูดทรัพย์ ครับ(อนาจจริงๆ ตัวแทนประชาชน เลือกกันเข้ามาแต่ละคน ผอมโซทั้งนั้น)
Sita
ตอบตอบ: 05/01/2011 4:46 pm    ชื่อกระทู้:

สวัสดีคุณ จบคอมมาทำไม..
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เข้าทักทายเฉยๆ
สบายดีนะคะ เห็นเงียบหายไปนาน

..นิดนึงค่ะ สัญลักษณ์หน้าตาสมาชิก
ยิ้มเยอะเกินไปรึเปล่าคะ..??เห็นหมดทั้ง
34ซี่เลย(ปกติเห็นแค่32ซี่)..แฮ่ะๆนิดเดียว
ขำ ขำ นะคะคุณ..จะได้ไม่เครียดมาก..


แป้งเอง..(ส.ใส่รองเท้าอีกแล้ว)
joBcoMmatammi
ตอบตอบ: 05/01/2011 9:26 am    ชื่อกระทู้:

A_Chumphae บันทึก:
ปลูกข้ามแล้ง กลบท่อนพันธุ์แล้วราดน้ำร้อยทั้งร้อย
ดินทราย หรือ ร่วนปนทราย เน่าครับ เพราะหน้าดินจะแน่น เพราะตอนไถดินจะ
ละเอียด แต่ถ้าดินเหนียวราดน้ำจะดีมากวิธีแก้ราดน้ำก่อนกลบท่อนพันธุ์ซิครับรับรอง
ดีกว่าไม่ราดเห็นๆเพราะหน่ออ้อยจะเกิดดีมาก แต่ถ้าดินเหนียวกลบก่อนค่อยราดน้ำ
นะครับจะดีกว่า


ปล.งงไหมครับ


น่าจะบอกผมก่อนนี้ มันไม่ทันแล้วครับ
งงซิครับ อยากจะให้อ้อยขึ้นดี กลับเน่าซะได้

ให้น้ำประมาณ 6 มม.1ครั้ง จะทำให้อ้อยขึ้นดี และสม่ำเสมอครับ แต่ถ้าให้น้ำจนขัง
เน่าครับ เน่าแน่นอนครับ (สังเกตุ จากไร่น้า น้ำหยด 6ชั่วโมงหลังจากปลูก1ครั้งและ
พองอกแล้วหรืออ้อย 1 เดือนก็ให้น้ำตลอดเลยครับ) ขึ้นเสมอ จนผมตาร้อน เพราะ
ความอิจฉาครับ

ซึ่งความต้องการน้ำของอ้อย 1 เดือน - 3 เดือน อยู่ที่ 4 มม./วัน หรือ ตารางเมตร
ละ 4 ลิตรครับ ถ้าน้ำหยดอัตราการไหลของสายน้ำหยดเท่ากับ 1.1 ลิตร/ชั่วโมง ก็
ให้วันละ 4 ชั่วโมงครับ ถ้าอัตราการไหลของสายน้ำหยด 2ลิตร/ชั่วโมง ก็วันละ 2
ชั่วโมงครับ

แต่อันนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหา คือ


แต่ไอ้ 1 ตารางเมตรมันมีอ้อยกี่ต้นที่ต้องการน้ำ4มม. และถ้า 1 ตารางเมตรของ
ผม เต็มไปด้วยอ้อยแล้ว ต้องให้น้ำกี่ มม. .....น่าคิดไหมลุง


ส่วนวังขนาย 100 ตันให้น้ำครั้งละ 12,000 ลิตร/ไร่ ซึ่งมีต้นพันธ์ 64,000 ต้น
เฉลี่ย ต้นละ 5.3 ลิตร /2 วัน ของเขาเฉลี่ย 1,600 ต้นต่อแถวและแค่ 40 เมตร

ส่วนของผม แถวนึง 120 เมตร จะมีถึง 200 ต้นหรือป่าว สงสัยต้องกลับไปนับแล้ว
ลุง 555+ เฉลี่ยตารางเมตรละ 40 ต้น ใช้น้ำ 21.2 มม./2 วัน หรือ 21 ลิตร

นี่คือการปลูกครั้งแรก แต่อัตราการแตกหน่อในการไว้ตอของ LK92-11 ยกกำลัง
สอง ครับลุง (น้าผมบอกมาครับ) เพราะฉนั้นที่วังขนายตอ 2 LK92-11 ก็มีต้นอ้อย
ถึง 128000 ต้น พระเจ้า ตกลงต้องไปเข็ญปุ๋ยมาทั้งโกดังเลยไหมเนี่ย (หรือว่าไม่
แตกหน่อ) ใครมีข้อมูลวังขนายดูแลตอ 2 ช่วยโพสด้วยนะครับ



สรุป
พันธ์อ้อยมีผลเพราะอัตราการแตกหน่อแต่ละพันธ์ไม่เหมือนกัน เป็นตระไคร้
คือ น้ำกับปุ๋ยไม่พอให้อ้อย ถ้าอยู่นอกเขตชลประทาน คิดจะเพิ่มผลผลิต ต้องคิด
หนักๆหน่อยนะครับ ว่ามีน้ำพอจะเพิ่มผลผลิตได้หรือเปล่า พอที่จะปลูกให้แน่นได้
หรือเปล่า


ขอขอบคุณลุงครับ เอาข้อมูลมาให้ศึกษาเพียบเลยครับ
kimzagass
ตอบตอบ: 04/01/2011 9:53 pm    ชื่อกระทู้:

การเพิ่มผลผลิตอ้อยให้ได้ผลิตต่อไร่เกือบ 30 ตัน/ไร่


ก่อนอื่นขอตั้งคำถามเพื่อร่วมสนุกสำหรับผู้สนใจเรื่องการปลูกอ้อย

1 ทำไม ตำราการปลูกอ้อยถึงกำหนดว่า ระยะระหว่างร่องอ้อยต้องห่างกัน 150
ซม.สำหรับไร่อ้อยที่ใช้รถไถขนาดใหญ่

2 ทำไม ตำราการปลูกอ้อยถึงกำหนดว่า ระยะระหว่างร่องอ้อยต้องห่างกัน 120
ซม.สำหรับไร่อ้อยที่ใช้รถไถเดินตาม

ท่านที่ตอบได้ก่อนที่ผมจะเฉลยในความคิดเห็นต่อไป รับอ้อยพันธุ์ดี จำนวน 1 มัด
(10 ลำ) เพื่อนำไปขยายพันธุ์ต่อ ครับผม


จากภาพ เครื่องปลูกอ้อยแบบวาง 4 แถวต่อ 1 ร่อง พร้อมมีการหยอดน้ำให้ท่อน
พันธุ์ขณะปลูก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดิน มีผลให้อ้อยงอกได้ดีขึ้น

ผมว่า ผมรีบเฉลยดีกว่า เดี๋ยวผู้รู้นักล่ารางวัลจะเข้ามาตอบ 555

ระยะห่างระหว่างร่องอ้อย(หรือแถวอ้อย) 150 ซม. เป็นระยะที่เหมาะสมที่จะนำรถ
ไถใหญ่เข้ามาทำงาน เพราะระยะห่างระหว่างล้อทั้งสองข้างวัดตรงกึ่งกลางยางจะ
ประมาณ 140-160 ซม.

สำหรับระยะ 120 ซม. เป็นระยะร่องอ้อยที่เผื่อไว้แล้วว่า เมื่ออ้อยที่ปลูกไว้เจริญ
เติบโต แตกกอเต็มที่แล้ว จะเหลือเนื้อที่ให้รถไถเดินตามแทรกเข้าทำงานได้โดย
อ้อยไม่หักล้ม

(กำลังค้นรูปมาประกอบ)

ผมขออนุญาตท่านบ่าวน้ำพอง ย้อนกลับไปคุยตั้งแต่จุดเริ่มต้นก่อนนะครับ แล้วเรา
ค่อยไปถึงอ้อย 30 ตัน/ไร่

อันที่จริง ตอนท้ายสุดของกระทู้นี้ เราอาจจะได้เลยไปพูดถึง "โครงการอ้อย 100
ตัน" (ต่อไร่) ของกลุ่ม(โรงงานน้ำตาล)วังขนายให้เกิดสีสันอีกสักนิดด้วยครับ

ผมเขียนค้างไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า ตั้งใจว่าตอนสายๆจะมาเติมข้อมูลให้เชื่อมโยงกับ
เนื้อหาช่วงแรก แต่เนื่องจากมีธุระด่วนให้ต้องเดินทาง ไม่สามารถเขียนต่อให้จบ จึง
อาจทำให้หลายท่านงงๆว่ากำลังจะพูดเรื่องอะไรหว่า..

เหตุที่ต้องเท้าความไปถึงระยะห่างระหว่างร่องอ้อยซึ่งถูกกำหนดจากระยะล้อของ รถ
ไถนั้น เพื่อต้องการจะบอกว่า การทำการเกษตรหลายอย่างที่เราคุ้นเคย ถูกวางกรอบ
ไว้โดยเครื่องจักร เป็นรูปแบบที่ต้องการเอาใจเครื่องจักรกล ไม่ใช่การเอาใจพืช
อย่างแท้จริง

การที่อ้อยถูกกำหนดให้มีระยะร่องอ้อยห่างกัน 150 ซม. เพราะต้องการให้รถไถวิ่ง
คร่อมร่องอ้อยได้สะดวก ล้อรถไถจะอยู่บนดินระหว่างร่องอ้อยพอดี จากนั้นเครื่อง
มืออื่นๆ เช่น เครื่องใส่ปุ๋ย, คราดสปริง ฯลฯ ก็จะถูกออกแบบให้พอดีกับระยะห่าง
ร่องอ้อยอีกต่อหนึ่ง

.. สนับสนุนท่านบ่าวน้ำพองที่จะคิดนอกกรอบ เพราะกรอบที่เราเคยชิน อาจเป็น
เพียงความรู้เก่า อาจเป็นเพียงวิธีการที่สะดวก แต่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ณ วันนี้อีกแล้ว

เครื่องปลูกอ้อยแบบ 4 แถวต่อ 1ร่อง ทราบว่าได้รับการออกแบบและพัฒนาโดย
คุณเสถียร มาเจริญ ผมมีโอกาสได้ขอความรู้จากคุณเสถียรหลายครั้ง ทำให้ทราบว่า
การปลูกอ้อยแบบ 4 แถว ต้องมีกระบวนการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปรับระยะระหว่างร่อง
จะใช้รถตัดหรือคนตัด จะใช้รถไถใหญ่เข้าไปดูแลรักษา หรือจะใช้รถไถเล็ก ต้อง
เพิ่มอัตราการใส่ปุ๋ยเท่าไหร่ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ต้องนำมาคิดและวางระบบใหม่ก่อน จึง
จะช่วยให้การใช้เครื่องปลูกแบบ 4 แถว มีประสิทธิภาพสูงสุด อยากให้ทำความเข้า
ใจกระบวนการทั้งหมดก่อน ไปดูของจริงสักเที่ยว จากนั้นเราถึงค่อยมาคุยเรื่องการ
ลงทุนซื้อเครื่องมือดีมั้ยครับ เครื่องมือตัวหนึ่งก็ใกล้หลักแสนเหมือนกัน ถ้าใช้ไม่เกิด
ประโยชน์สูงสุด เสียดายเงินครับ แต่ถ้าไตร่ตรองดีแล้วช่วยยืนยันความต้องการเดิม
อีกครั้ง ผมจะหาข้อมูลตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านเราให้ครับ
.........

มหัศจรรย์อ้อย 30 ตัน
ท่าน ผอ.คัมภีร์ สายะสนธิ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความมหัศจรรย์ของการปลูกอ้อยได้
ผลผลิต 30 ตันต่อไร่ เทคนิคใหม่ในการปลูกอ้อยโดยการพัฒนาเครื่องปลูกรุ่นใหม่
จากแนวคิดของนาย เสถียร มาเจริญ โดยวิธีการเพิ่มระยะชิดของต้นอ้อยจาก 1
แปลงปลูก ลงท่อนพันธุ์อ้อยได้ 2 แถว เป็น 4 แถว ตัวเครื่องติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้
มีประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 5 ขั้นตอน ต่อการเดินเครื่องครั้งเดียว คือการเปิด
ร่องหน้าดิน หย่อนท่อนพันธุ์ลงปลูก ให้น้ำ ใส่ปุ๋ย และกลบดินปิดร่อง ซึ่งพื้นที่ 1 ไร่
สามารถลงท่อนพันธุ์ได้ถึง 16,000 ลำ ได้ผลผลิต 30 ตันต่อไร่ขึ้นไป ซึ่งสูงกว่าวิธี
การปลูกแบบเดิมที่มีอัตราเฉลี่ยของผลผลิตอ้อยเพียง 9.61 ตันต่อไร่ เท่านั้น

ผลการศึกษาถึงแนวทางในการเพิ่มผลผลิตอ้อยโดยนักวิชาการของวิทยาลัยเกษตร
และ เทคโนโลยีกาญจนบุรี ร่วมกับศิษย์เก่าเกษตรกรดีเด่น ยังค้นพบวิธีการปรับปรุง
สภาพดินโดยการปลูกปอเทือง เมื่อปอเทืองเริ่มออกดอกให้ไถกลบแล้วทิ้งให้ปอ
เทืองย่อยสลาย จึงทำการไถพรวนดินในแนวขวางอีกครั้ง จะทำให้ดินร่วนซุย ซึมซับ
น้ำได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังแนะนำให้เกษตรกรปลูกอ้อยในฤดูกาลที่เรียกว่า “การ
ปลูกอ้อยข้ามแล้ง” ช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงไม่มีฝนตกเพราะดินจะ
มีความชื้นน้อยจะช่วยลดปริมาณการเกิดวัชพืชได้ดี ส่วนต้นอ้อยที่ปลูกให้ใช้วิธีให้น้ำ
แบบหยอดลงสู่ใต้ดินให้ท่อนพันธุ์ได้รับน้ำโดยตรง เมื่อผิวหน้าดินแห้งจะทำให้วัชพืช
เติบโตได้ยาก


ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี
เลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
โทรศัพท์ 034-552-106-7 หรือ 081-736-5820



เมื่อ 2-3 วันก่อน ผมไปทำธุระที่สมาคมชาวไร่อ้อย ที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มี
โอกาสพบกับพี่ดาวเรือง

พี่ดาวเรืองเป็นชาวไร่อ้อย เป็นกรรมการสมาคม และเป็นสมาชิกกลุ่มการเรียนรู้เพื่อ
การพัฒนาด้านอ้อย ของหน่วยงานผม ทุกปี-อาจจะปีละหลายครั้ง ที่เราจะเชิญ
สมาชิกกลุ่มมาฝึกอบรมให้ความรู้รวมถึงการพาไปดูงานที่แหล่งความ รู้ข้ามภาคข้าม
จังหวัด เพื่อให้มีความรู้ สร้างตัวแทนของหน่วยงาน และนำความรู้กลับไปแนะนำ
เพื่อนชาวไร่อื่นๆในพื้นที่ ชาวไร่อ้อยทางอุดรปลูกอ้อยกันนานแล้วจึงมีความรู้ค่อน
ข้างลึกมาก ส่วนชาวไร่อ้อยแถวบ้านเราจำนวนมากพึ่งเริ่มปลูกอ้อย เลยต้องเรียนรู้
กันอีกระยะหนึ่ง ผมกำลังหาโอกาสสร้างกลุ่มการเรียนรู้ด้านอ้อยที่บ้านเรา เพราะจาก
การศึกษาปัจจัยหลายด้าน พื้นที่ปลูกอ้อยบ้านเราดีกว่าทางอุดร ถ้าเกษตรได้รับการ
ส่งเสริมอย่างเหมาะสม จะพัฒนาไปได้ไกลมาก ยังไงลองเมล์มาคุยกันนะครับ จะ
ช่วยให้ผมหาจุดเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น

พี่ดาวเรืองไปนำความรู้จากทางเมืองกาญจน์มาลองวิชา โดยดัดแปลงรถไถ จัดทำถัง
น้ำขนาด 1 ลูกบาศก์เมตร (1,000ลิตร) ติดตั้งบนหลังคา แล้วเติมน้ำเพื่อหยอดน้ำ
ให้ท่อนพันธุ์อ้อยระหว่างปลูกโดยใช้เครื่องปลูก วัตถุประสงค์คือทำให้ท่อนอ้อยมี
ความชื้นพอเพียงช่วยกระตุ้นการงอก พี่ดาวเรืองทดลองใช้น้ำหมักชีวภาพที่หมักเอง
และบางครั้งจะใช้น้ำจากบ่อเล้าหมูซึ่งเป็นปุ๋ยหมักที่ดีมากชนิดหนึ่งแทนน้ำ บ่อ เป็น
การเพิ่มปุ๋ยไปพร้อมกับการให้ความชื้น

ถังน้ำที่ว่านี้ ทำที่อู่แถว อ.ไชยวาน ค่าใช้จ่ายประมาณหมื่นบาท ชาวไร่บ้านเราถ้า
สนใจก็ลองลอกแบบไปให้โรงกลึงข้างบ้านทำได้ครับ ไม่ยากเลย..



ที่มา http://www.lumphu.com/index.php/webboard/13/3043--30-.html

เขียนโดย note005 ที่ 9:40


http://iwgarden.blogspot.com/2010/05/30.html
kimzagass
ตอบตอบ: 04/01/2011 9:45 pm    ชื่อกระทู้:

เพิ่มผลผลิตอ้อย 30 ตันต่อไร่ ด้วยการปลูก แบบ 1 ร่อง 4 แถว


คุณเสถียร มาเจริญรุ่งเรือง เกษตรกรหัวก้าวหน้า เจ้าของต้นตำรับปลูกอ้อย แบบ 1
ร่อง 4 แถว ด้วยระบบน้ำหยอด ที่สามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้ 30 ตัน / ไร่



เขาได้พัฒนาการปลูกอ้อยแบบไม่รอฝน ด้วยการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการ
ปลูก โดยใช้เครื่องปลูกอ้อยแทนการใช้แรงงานคน ลดต้นทุน ลดความเสียหาย
พัฒนาปรับเปลี่ยนหลังคารถแทรกเตอร์ที่เป็นผ้าใบสำหรับป้องกันแสงแดดมาเป็น ถัง
น้ำ ที่สามารถบรรจุน้ำได้แทนหลังคา แต่ยังคงใช้ป้องกันแสงแดดได้ดี ในขณะนั้นมี
เกษตรกรต่างๆ ไม่เชื่อในความคิดของเขาว่าสามารถปลูกอ้อยข้ามแล้งได้ด้วยเครื่อง
จักร ที่มีรูปทรงแปลกประหลาด

ทั้งนี้ก็เพราะว่าเขามีความต้องการจะต่อยอดความคิดของตัวเองโดยคิดวิธีการปลูก
อ้อยแบบไม่รอฝนโดยใช้ระบบน้ำหยอด ซึ่งน้ำจะหยอดตามร่องอ้อยขณะที่หางปลูก
ทำงาน และกลบร่องอ้อยให้ทันทีหลังจากหยอดน้ำแล้ว เป็นลักษณะ “Five in
one” คืออ้อยแบบ 1 ร่อง 2 แถว เป็นการแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทำให้
อ้อยสามารถเติบโต และงอกขึ้นได้ดี ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ของเขาการปลูกอ้อยให้ได้ผลดี

ขั้นแรกคืออ้อยจะต้องสามารถแทงยอดจากดินขึ้นสู่หน้าดินให้ได้ และสาเหตุที่อ้อย
สามารถแทงหน้าดินขึ้นมาได้ในดินจะต้องมีความชื้นที่เหมาะสมอ้อยขึ้นแต่หญ้าไม่
ขึ้น จากแนวความคิดการปลูกอ้อยจากเดิมปลูกแบบ 1 ร่อง 1 แถว มาเป็นแบบ 1
ร่อง ใส่อ้อย 2 แถว แทนซึ่งทำให้ผลผลิตที่ได้เพิ่มมากขึ้นถึง 10–40 เปอร์เซ็นต์
ต่อไร่ ถัดมาก็เป็นแบบ 1 ร่อง 3 แถว มาเป็นแบบ 1 ร่อง 4 แถว และเป็นแบบ 1
ร่อง 5 แถว ควบคู่ไปกับการปลูกอ้อยแบบไม่รอน้ำฝน (เป็นการทำไร่นอกฤดูกาล)
หรือการปลูกอ้อยแบบข้ามแล้ง นอกจากนี้ยังพบว่าการปลูกอ้อยแบบ1 ร่อง 4 แถว
เป็นการปลูกที่ให้ผลผลิตดีที่สุดมีการปลูกอ้อยโดยนำเครื่องจักกลเข้ามาใช้มากขึ้น
โดยเอาเครื่องปลูกแบบร่องคู่ มาทำการปลูกแบบ1 ร่อง 4 แถว วิ่งไปกลับร่วมกับ
การให้น้ำระบบหยอดใต้ดิน ทำให้ผลผลิตอ้อยที่ได้ขึ้นเพิ่มขึ้นถึง 80-100
เปอร์เซ็นต์

คุณเสถียร อธิบายเพิ่มว่า การปลูกอ้อย ที่จะทำให้ได้อ้อยไร่ละ 30 ตัน โดยไม่ต้อง
รอฝนเป็นการทำไร่อ้อยนอกฤดูกาล (การปลูกที่ให้น้ำระบบหยอดใต้ดิน) นำไปสู่
การตั้งเป้าหมายในการปลูกอ้อยแบบ 1 ตา ให้ได้ 1 ลำ, 1 ลำ ให้ได้ 1 กิโลกรัม
และ 1 ไร่ จะปลูกให้ได้ 30,000 ตา ดั้งนั้น 1 ไร่ จะได้อ้อยน้ำหนัก 30 ตัน และวิธี
ปลูกโดยใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยแบบ “All in one” คือการใช้เครื่องปลูกอ้อย
เปิดร่อง พันธุ์อ้อยลง ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ กลบหน้าดิน ลูกกลิ้งทับหน้า ต่อเนื่องกันในเวลา
เดียว



ปลูกอ้อยแบบ 1 ร่อง อ้อย 4 แถว ในขณะนั้นได้ใช้หางปลูกอ้อยแบบร่องคู่ วิ่งไป
และกลับ ทำให้ขนาดและระยะห่างของร่องไม่แน่นอน ต้นทุนก็สูงขึ้น ประกอบกับได้
ประสบวิกฤตขาดแคลนแรงงาน ทำให้มีแนวคิดในการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการ
เพาะปลูก ซึ่งเมือเปรียบเทียบในเรื่องของต้นทุน และผลผลิตแล้ว การใช้เครื่องจักร
จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าและให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่าแรงงานคนมาก เขาจึงทำการ
ประดิษฐ์เครื่องปลูกอ้อยแบบ 1 ร่อง อ้อย 4 แถว จนเพิ่มผลผลิตอ้อย 30 ตันต่อ
ไร่ ด้วยการปลูก แบบ 1 ร่อง 4 แถว

คุณเสถียร มาเจริญรุ่งเรือง เกษตรกรหัวก้าวหน้า เจ้าของต้นตำรับปลูกอ้อย แบบ 1
ร่อง 4 แถว ด้วยระบบน้ำหยอด ที่สามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้ 30 ตัน / ไร่

เขาได้พัฒนาการปลูกอ้อยแบบไม่รอฝน ด้วยการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการ
ปลูก โดยใช้เครื่องปลูกอ้อยแทนการใช้แรงงานคน ลดต้นทุน ลดความเสียหาย
พัฒนาปรับเปลี่ยนหลังคารถแทรกเตอร์ที่เป็นผ้าใบสำหรับป้องกันแสงแดดมาเป็น ถัง
น้ำ ที่สามารถบรรจุน้ำได้แทนหลังคา แต่ยังคงใช้ป้องกันแสงแดดได้ดี ในขณะนั้นมี
เกษตรกรต่างๆ ไม่เชื่อในความคิดของเขาว่าสามารถปลูกอ้อยข้ามแล้งได้ด้วยเครื่อง
จักร ที่มีรูปทรงแปลกประหลาด

ทั้งนี้ก็เพราะว่าเขามีความต้องการจะต่อยอดความคิดของตัวเองโดยคิดวิธีการปลูก
อ้อยแบบไม่รอฝนโดยใช้ระบบน้ำหยอด ซึ่งน้ำจะหยอดตามร่องอ้อยขณะที่หางปลูก
ทำงาน และกลบร่องอ้อยให้ทันทีหลังจากหยอดน้ำแล้ว เป็นลักษณะ “Five in
one” คืออ้อยแบบ 1 ร่อง 2 แถว เป็นการแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทำให้
อ้อยสามารถเติบโต และงอกขึ้นได้ดี ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ของเขาการปลูกอ้อยให้ได้ผลดี

ขั้นแรกคืออ้อยจะต้องสามารถแทงยอดจากดินขึ้นสู่หน้าดินให้ได้ และสาเหตุที่อ้อย
สามารถแทงหน้าดินขึ้นมาได้ในดินจะต้องมีความชื้นที่เหมาะสมอ้อยขึ้นแต่หญ้าไม่
ขึ้น จากแนวความคิดการปลูกอ้อยจากเดิมปลูกแบบ 1 ร่อง 1 แถว มาเป็นแบบ 1
ร่อง ใส่อ้อย 2 แถว แทนซึ่งทำให้ผลผลิตที่ได้เพิ่มมากขึ้นถึง 10–40 เปอร์เซ็นต์
ต่อไร่ ถัดมาก็เป็นแบบ 1 ร่อง 3 แถว มาเป็นแบบ 1 ร่อง 4 แถว และเป็นแบบ 1
ร่อง 5 แถว ควบคู่ไปกับการปลูกอ้อยแบบไม่รอน้ำฝน (เป็นการทำไร่นอกฤดูกาล)
หรือการปลูกอ้อยแบบข้ามแล้ง นอกจากนี้ยังพบว่าการปลูกอ้อยแบบ1 ร่อง 4 แถว
เป็นการปลูกที่ให้ผลผลิตดีที่สุดมีการปลูกอ้อยโดยนำเครื่องจักกลเข้ามาใช้มากขึ้น
โดยเอาเครื่องปลูกแบบร่องคู่ มาทำการปลูกแบบ1 ร่อง 4 แถว วิ่งไปกลับร่วมกับ
การให้น้ำระบบหยอดใต้ดิน ทำให้ผลผลิตอ้อยที่ได้ขึ้นเพิ่มขึ้นถึง 80-100
เปอร์เซ็นต์

คุณเสถียร อธิบายเพิ่มว่า การปลูกอ้อย ที่จะทำให้ได้อ้อยไร่ละ 30 ตัน โดยไม่ต้อง
รอฝนเป็นการทำไร่อ้อยนอกฤดูกาล (การปลูกที่ให้น้ำระบบหยอดใต้ดิน) นำไปสู่
การตั้งเป้าหมายในการปลูกอ้อยแบบ 1 ตา ให้ได้ 1 ลำ, 1 ลำ ให้ได้ 1 กิโลกรัม
และ 1 ไร่ จะปลูกให้ได้ 30,000 ตา ดั้งนั้น 1 ไร่ จะได้อ้อยน้ำหนัก 30 ตัน และวิธี
ปลูกโดยใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยแบบ “All in one” คือการใช้เครื่องปลูกอ้อย
เปิดร่อง พันธุ์อ้อยลง ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ กลบหน้าดิน ลูกกลิ้งทับหน้า ต่อเนื่องกันในเวลาเดียว

ปลูกอ้อยแบบ 1 ร่อง อ้อย 4 แถว ในขณะนั้นได้ใช้หางปลูกอ้อยแบบร่องคู่ วิ่งไป
และกลับ ทำให้ขนาดและระยะห่างของร่องไม่แน่นอน ต้นทุนก็สูงขึ้น ประกอบกับได้
ประสบวิกฤตขาดแคลนแรงงาน ทำให้มีแนวคิดในการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการ
เพาะปลูก ซึ่งเมือเปรียบเทียบในเรื่องของต้นทุน และผลผลิตแล้ว การใช้เครื่องจักร
จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าและให้ประสิทธิภาพที่สูงกว่าแรงงานคนมาก เขาจึงทำการ
ประดิษฐ์เครื่องปลูกอ้อยแบบ 1 ร่อง อ้อย 4 แถว จนสำเร็จและนำมาใช้ได้จริง




ขอขอบคุณข้อมูล นิตยสารพืชพลังงาน
เขียนโดย modernfarmers ที่ 12:34 หลังเที่ยง

http://modrenfarmers.blogspot.com/2010/10/30-1-4.html