ผู้ส่ง |
ข้อความ |
tapabnumm |
ตอบ: 30/09/2010 10:22 pm ชื่อกระทู้: |
|
ดอกบานนะครับ |
|
|
tapabnumm |
ตอบ: 30/09/2010 10:20 pm ชื่อกระทู้: |
|
ของผมนะใช้สมุนไพร วันอาทิตย์+จันทร์---พุธ+พฤหัสบดี (แบบว่าผสมครั้งเดียวใช้ 2 วัน)
วันศุกร์เตรียม BT ฉีดวัน เสาร์ครับ
ผมไม่มีหนอนมารบกวนนานแล้วครับ
ส่วนปุ๋ยทำตามพี่ยุทธแนะนำครับ
1 เดือน มี 4 อาทิตย์
อาทิตย์แรก ระเบิด (ส่วนผสม 10 ช้อนชาน้ำ 10 ลิตร) 1/2 ลิตรต่อต้น
โฮโมนไข่ (ส่วนผสม 10 ช้อนชาน้ำ 10 ลิตร) ฉีดที่ใบ
ปุ๋ย 0-24-24 ต้นละ 3 ช้อนชา
อาทิตย์ที่สอง ปุ๋ยน้ำดำ
อาทิตย์ที่สาม ระเบิด+โฮโมนไข่+ปุ๋ย 0-24-24+ขี้วัว (ของฟรี ใส่เต็มที่)
อาทิตย์ที่สี่ โฮโมนไข่
ผมชอบตัดหญ้าเป็นชิ้นเล็กมาคลุมไว้ที่โคลนต้นนะครับ สวยดี
เห็นพี่เข้าบอกว่าดีต่อต้นมะลิด้วย
ช่วงนี้ฝนตกเยอะ ผมไม่ได้รดน้ำเป็นเดือนแล้วครับ รดมากไม่ดีมีแต่ใบ
เนื่องจากมี N มากแล้ว
อืม .... อีกอย่างนะครับ ต้องไม่ให้มะลิออกดอกติดต้นนะครับ โดยเฉพาะเวลาประมาณ 1-2 ทุ่ม เก็บออกให้หมดครับ เก็บไม่หมดงานเข้าครับ
นี้วิธีของผม ยังไม่ดีที่สุด กำลังศึกษาอยู่เหมือนกันครับ ลองถามพี่ๆ คนอื่นดูครับ
แต่เห็นจากรูปแล้วปลูกได้ไงนี้ (เจ็บมือมากเปล่าครับ ตอนขุดน่ะ) |
|
|
tapabnumm |
ตอบ: 30/09/2010 10:01 pm ชื่อกระทู้: |
|
เหมือนผมตอนปลูกใหม่ๆเลยครับ
ลองถามพี่ยุทธดูซิครับว่าทำไง
แต่ละคนมีวิธีไม่เหมือนกันครับ |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 30/09/2010 3:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
ก.วิทย์ส่งเทคโนโลยีถึงชาวบ้าน ทำน้ำหางไหลกำจัดศัตรูพืช
ทางด้าน ผศ.สุมาฬี พรหมรุกขชาติ จากสถาบันวิจัยและฝึกอบรมเกษตรลำปาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลงคลล้านนา หัวหน้าโครงการบ่มเพาะเกษตรกรผลิตผักปลอดสารพิษ ได้พัฒนาสารสกัดจากหางไหล 3 สูตร เพื่อเป็นสารชีวภาพกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรบ้านต้นยาง อ.เมือง จ.ลำปาง ปลูกต้นหางไหล เพื่อทำสารสกัดจากหางไหลใช้เอง หรือที่เรียกว่าโล่ติ๊น ซึ่งเกษตรกรสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงนำรากหางไหลมาทุบและแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน ในอัตราส่วนรากหางไหล 1 ขีด ต่อน้ำ 10 ลิตร แล้วกรองเอาเฉพาะน้ำ นำไปฉีดพ่นกำจัดศัตรูพืชในแปลงปลูกพืชผักแทนการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีราคาสูง
นายบุญธรรม เครือวิเสน ประธานกลุ่มผักปลอดสารพิษบ้านต้นยาง บอกกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ว่า กลุ่มผักปลอดสารพิษเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 49 ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 21 คน มีพื้นที่ปลูกผักรวม 3 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง และถั่วฝักยาว ผลผลิตผักปลอดสารพิษส่วนหนึ่งส่งขายให้กับโรงพยาบาลศูนย์ลำปาง, เทศบาล และส่วนหนึ่งจำหน่ายในท้องตลาดภายในชุมชน ซึ่งก็จำหน่ายหมดทุกวัน และขายได้ในราคาใกล้เคียงกับผักทั่วไปที่ใช้ยาฆ่าแมลง แม้จะดูไม่สวยงามเท่า แต่ปลอดภัยกว่า จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค
"เดิมทีเกษตรกรใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้สารสกัดจากหางไหลตามที่ ผศ.สุมาฬี แนะนำ ก็ช่วยลดต้นทุนได้มาก ระบบนิเวศในแปลงผักก็ดีขึ้นกว่าตอนใช้สารเคมี ส่วนเกษตรกรเองก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย เพราะไม่ต้องสูดดมหรือสัมผัสกับยาฆ่าแมลงโดยตรง" นายบุญธรรม เผย
ผศ.สุมาฬี ยังบอกอีว่าโครงการนี้ มุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรเป็นหลัก โดยการให้เกษตรกรลดใช้สารเคมี ส่วนผลผลิตก็จะจำหน่ายภายในชุมชน ให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ สามารถกำหนดราคาผลผลิตได้เอง เพราะมีความปลอดภัยสูงกว่า นอกจากนี้ ผศ.สุมาฬี ยังได้พัฒนาชีวภัณฑ์อัดเม็ดจากเชื้อราสำหรับกำจัดโรคพืชด้วยชีววิธีอีกทางหนึ่ง ซึ่งช่วยลดการใช้สารเคมีได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในอนาคตจะส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่หันมาปลูกผักปลอดสารพิษกันเพิ่มขึ้น รวมทั้งเผยแพร่สู่เกษตรกรในจังหวัดอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงด้วย
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000128925
หมายเหตุ :
- สารออกฤทธิ์ใน "หางไหล" เป็นสารเบื่อเบา เมื่อสัตว์กินเข้าไปจะเกิดอาการเบื่อเมา ทำให้เสียชีวิตได้
- นิยมใช้ "น้ำแช่หางไหล" ใส่ล่อปลา หรือบ่อกุ้ง ช่วงล้างบ่อเพื่อกำจัดสัตว์ศัตรูปลา หรือสัตว์ศัตรูกุ้ง ก่อนเริ่มการเลี้ยงใหม่ สัตว์ศัตรูปลาหรือกุ้ง ได้แก่ ปลา กบ ปู ซึ่งสัตว์พวกนี้เมื่อสัมผัสกับน้ำหางไหลก็จะตาย
- ในกลุ่มศัตรูพืช ได้แก่ แมลงปากกัดปากดูด. หนอน. เมื่อสัมผัสกับสารออกฤทธิ์ในหางไหลก็ตายได้เช่นกัน
- สมุนไพรที่มีสารออกฤทธิ์ประเภทเบื่อเมา ได้แก่ เมล็ดน้อยหน่า. เมล็ดมันแกว. เปลือกต้นซาก. หัวกลอย. ซึ่งสามารถใช้เป็นสารสกัดสมุนไพรป้องกันกำจัดศัตรูพืชแทนหรือร่วมกับหางไหลได้
ลุงคิมครับผม |
|
|
siri2009 |
ตอบ: 30/09/2010 12:37 pm ชื่อกระทู้: |
|
ขอบคุณมากครับ
แต่เรื่องขาดสารอาหารอาจจะมีส่วนทำให้ดอกไม่สมบูรณ์จริงๆ
ไม่แน่ใจว่าปุ๋ยผมคงจะใส่น้อยไปรึป่าว
เรื่องในแปลงผมก็พยายามไม่ใช้สารเคมี
ตอนนี้ก็เริ่มหมักสมุนไพรไว้ไล่แมลงบ้างแล้วครับ |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 30/09/2010 5:59 am ชื่อกระทู้: |
|
ขอชมเชย เก็บรายละเอียดได้ดีมาก.....
นี่คือพันาการของสิ่งมีชีวิตเพื่อการดำรงชีวิต เพือการอยู่รอด...
ปัจจุบันยังมี โรค-แมลง-ศัตรูพืช อีกหลายอย่างเรายังไม่รู้....
ช่างเถอะ ไม่รู้ชื่อก็ไม่ต้องรู้ รู้แต่ว่ามันคือ "หนอน" เท่านั้นก็พอ
เพราะหนอนทุกหนอนมีวงจรชีวิตเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นในพืชอะไรก็ตาม
เพราะฉนั้น ใช้วิธีแบบที่บอกนั่นแหละ แล้วก็พยายามหาจุดอ่อนในตัวหนอน
เพื่อมาปรับเทคนิคการ ป้องกัน-กำจัด ให้มัน UP DATE อยู่เสมอ
นอกจากใช้ "ยา" แล้ว ควรให้ "สารอาหาร" ทั้งทางรากทางใบด้วยเพื่อ
สร้างภูมิต้านทานในต้น วิธีนี้ก็สู้กับแมลงศัตครูพืชได้เหมือนกัน
ลองดูนะ
ลุงคิมครับผม |
|
|
siri2009 |
ตอบ: 29/09/2010 10:04 pm ชื่อกระทู้: |
|
ไม่ใช่หนอนคืบครับ เพราะมันเล็กมากๆ 1-2 มิลลิเมตร มันโก่งตัวเพื่อดีดตัวย้ายที่ได้ครับ ผมมีแต่มือถือภาพมันเลยเล็กมากๆ
แต่ก่อนผมก็แกะดอกดูตลอดก็ไม่เจอ สงสัยมันพรางตัวเป็นเกสรดอกมะลิ
ส่วนดิน ผมลองก้นหลุมด้วยขี้วัวเก่าตากแห้งครับ คลุกขี้วัวกับดินในหลุมค่อนข้างเยอะบำรุงดินตลอดครับ ใส่ปุ๋ย 16-16-16, 8-24-24 และทางใบ 0-52-34
ใบเขียวไม่เป็นโรคหรือจุดอะไรเลยครับ ...... ขอย้ำครับ หนอนดีดตัวเองได้จริงๆครับ ผมลองไปแกะดอกมะลิบ้านคนอื่นที่เขาปลูกไว้ 2-3 ต้นก็พบอาการนี้เหมือนกันครับ
หนอนบางช่วงเป็นสีส้ม บางช่วงสีขาวออกเหลืองอ่อนๆ |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 29/09/2010 8:54 pm ชื่อกระทู้: |
|
"......ดอกที่ออกใหม่เล็กๆ ก้านดอกจะย่น กลีบดอกจะไม่สมบูรณ์ บางดอกก้านไม่ย่นแต่ดอกมีลักษณะงอ ติดกับก้าน ดอกที่ก้านย่น ตัวก้านดอกจะเป็นสีน้ำตาลยับๆ...."
ชัดเลย....นี่แหละอาการ "ขาดสารอาหาร" อย่างรุนแรง โดยเฉพาะ "ธาตุรอง/ธาตุเสริม" อย่าน้อยวิเคราะห์จากสภาพดินปลูกแล้ว ยิ่งฟันธงได้ไม่ผิด เผลอๆนะ ดินเป็นด่างครับ เพราะหินปูนเป็นด่างโดยกำเนิดอยู่แล้ว
แนวทางแก้ไข :
ทางใบ :
- ให้ "UN + สารสมุนไพร" ทุก 5-7 วัน
- ให้ Ca.Br. ทุก 10-15 วัน
- ให้สารสมุนไพรกำจัดหนอน ทุกวันเว้นวัน
ทางราก :
- ใส่ "ยิบซั่ม + กระดูกป่น + ขี้ไก้ + ขี้วัว (1:1) 3 เดือนครั้ง
- ให้ "น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 8-24-24" เดือนละ 1 ครั้ง
- เศษหญ้า ใบไม้แห้ง คุมโคนต้นหนาๆ
- ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก 2-3 วัน
หมายเหต:
สูตร "UN., Ca.Br., น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง, ทุกสูตรอยู่หน้าเว้บ ทำเองซิครับ นอกจากได้ของแท้ ของดีแล้ว ยังประหยัดอีกด้วย
"...... การจับมาวาง หนอนจะโก่งตัวโค้งแล้วดีดตัว วึ่งตรงกับหนอนแมลงวัน....."
ประสบการณ์ตรง :
- หนอนโก่งตัวเวลาเคลื่อนที เรียกว่า "หนอนคืบ" โดยมีขาหน้าไต้ปาก กับ ขาหลังที่ท้ายลำตัวเกาะใบพืช.... หนอนคืบไม่ดีดตัว
- หนอนที่ดีดตัวหนีศัตรู เรียกว่า "หนอนใยผัก" โดยมันจะดีดตัวแล้วทิ้งตัวลงจากใบพืชลงสู่พื้นเพื่อหนีศัตรู จังหวะที่มันทิ้งตัวลงพื้นนี้ จะปล่อยใยเกาะใบพืชไว้ กะว่า เมื่อเหตุการณ์สงบแล้วก็จะเกาะสายใยนี้กลับขึ้นไปบนต้นพืชใหม่ .... หนอนใยผักไม่โก่งตัวขณะเคลื่อนที่
แล้วหนอนในดอกมะลิคุณ คือ หนอนอะไรล่ะ น่าจะเรียกว่า "หนอนเจาะดอกมะลิ" นะ อย่างน้อยมันก็เจาะดอกมะลิให้เห็น อยากรู้เหมือนกันว่า หนอนตัวนี้เจาะพิชอย่างอื่นบ้างไหม
เอาเถอะ ไหนๆก็ไหนๆ หนอนคือหนอน ชื่ออะไรมันก็คือหนอน ในเมื่อหนอนเป็นสัตว์ เป็นสิ่งมีชีวิต ย่อมต้องมี "เกิด-กิน-แก่-เจ็บ-ตาย-ขยายพันธุ์-ต้องการสภาพแวดล้อม" เหมือนสัตว์โลกทุกชนิด
รู้แล้วถือหลัก ซุนหวู่. ที่ว่า "รู้เขา - รู้เรา - รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" หมายความว่า รู้จักหนอนแล้วรบกับหนอน ไง.....เอาน่า มนุษย์ฉลาดกว่าหนอนอยู่แล้ว ยกเว้น.....(จุด จุด จุด)
แนวทางป้องกันและกำจัด :
กำจัดหนอน :
ยืนยันตามที่คุณอ๊อดระยอง.บอกนั่นแหละ เหลือแต่เทคนิคหรือวิธีใช้ ปฏิบัติถูกต้องก็ได้ผล ปฏิบัติไม่ถูกต้องก็ไม่ใด้ผล....ไม่ว่าจะทำอะไร มันก็ต้องมีเทคนิคทั้งนั้นแหละ ว่ามั้ย
ป้องกันหนอน :
จากกฏของธรรมชาติที่ว่า หนอนเกิดจากไข่ของแม่ผีเสื้อ ก็ให้พิจารณาตัดวงจรชีวิตหนอน ณ ช่วงใดช่วงหนึ่ง ดังนี้
1. ป้องกันไม่ให้แม่ผีเสื้อเข้ามาวางไข่ที่ดอกมะลิ หรือต้นมะลิ
2. ทำให้ไข่ของแม่ผีเสื้อฝ่อ เมื่อไข่ฝ่อก็จะฟักออกเป็นตัวหนอนไม่ได้
3. ทำให้หนอนไม่ลอกคราบ เมื่อหนอนหนอนลอกคราบไม่ได้ก็ตายคาคราบ
สรุป :
เมื่อหนอนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ตายไปโดยไม่มีทายาท เมื่อนั้นหนอนก็จะหมดไปจากสวน
รายละเอียดการปฏิบัติทุกขั้นตอน รวมทั้งประสบการณ์ตรง แจ้งแล้วรายละเอียดในเว้บนี้ที่ "หน้าแรก - เมนูหลัก - สารสมุนไพร" อ่าน อ่าน และอ่านหลายๆ รอบ อ่านแล้ว ลองทำ ลองใช้ เดี๋ยวก็บรรลุโสดาบัน..... ถ้าไม่อ่าน ไม่ลองทำ ไม่ลองใช้ รอถามลุงคิม อย่างเดียว อีก 500 ปี ก็ไม่รู้ไม่เป็นอยู่อย่างนี้นี่แหละ
ลุงคิมครับผม |
|
|
ott_club |
ตอบ: 29/09/2010 8:53 pm ชื่อกระทู้: |
|
ปลูกอยู่หลังวัดหรือครับ เห็นศาลาอะไรอยู่ข้างหลัง
สาเหตุทั้งหมดคุณก็รู้คำตอบทั้งหมดแล้วนี่ครับ ว่าเกิดจากหนอน คุณก็กำจัดจัดหนอนด้วยวิธีไหนก็สุดแล้วแต่ แค่นี้ก็เรียบร้อย...
เคมีรอบ ขั้นเวลาด้วยสมุนไพรรอบ เคมีรอบ สมุนไพรรอบ.... |
|
|
siri2009 |
ตอบ: 29/09/2010 12:46 pm ชื่อกระทู้: มะลิก้านย่น-หนอนเจาะดอก... |
|
ผมอยู่สุพรรณฯ ปลูกมะลิมาได้สัก 1 ปีแล้วครับ ประมาณ 80 ต้น
ช่วงนี้ปลูกเพิ่มอีกรวมทั้งหมดก็สัก 150 ต้น ช่วงแรกๆ ไม่มีปัญหา
เพราะมะลิยังไม่ค่อยมีดอก
ปัจจุบันมีหนอนเจาะดอกแต่ก็ยังควบคุมได้
ปัญหาที่มีเพิ่มคือ ดอกที่ออกใหม่เล็กๆ ก้านดอกจะย่น กลีบดอกจะไม่สมบูรณ์
บางดอกก้านไม่ย่นแต่ดอกมีลักษณะงอ ติดกับก้าน ดอกที่ก้านย่นตัวก้านดอกจะเป็นสีน้ำตาลยับๆ แกะดูพบหนอนตัวเล็กๆ คาดว่าน่าจะเป็นหนอนแมลงวันผลไม้ และ
ใน 1 ดอกมีหนอน 1-5 ตัว ลักษณะเป็นหนอนสีขาวบ้างก็สีส้มไม่มีขา (หนอนมีสีส้มคงเพาะเกษรในดอก) หนอนจะแอบซ่อนในกลีบดอกที่ซ้อนกันด้านใน หรืออยู่ที่บริเวณก้านดอก หนอนตัวเล็กๆ มีความสามารถในการดีดตัวได้
จากการจับมาวาง หนอนจะโก่งตัวโค้งแล้วดีดตัว วึ่งตรงกับหนอนแมลงวัน
หนอนชนิดนี้จะกินผิวดอกมะลิด้านใน เห็นเป็นทางๆ สีน้ำตาลอ่อน
หนอนไม่ได้กัดกินกลีบดอกจนทะลุนะครับ แต่บางดอกที่ผมพบอาการก้านดอกย่นก็ไม่ได้มีหนอนทุกดอกครับ
ตอนนี้ผมได้ใช้สารล่อแมลงวันผลไม้มาทำลาย ก็มีแมลงวันผลไม้ตัวผู้มาตายวันละ 4-5 ตัว ล่อมาต่อเนื่องเป็นเดือน แต่ก็ยังพบอาการก้านดอกย่นเป็นช่วงๆ ทำให้สรุปไม่ได้ว่าก้านย่นนี้เป็นที่หนอนแมลงวันผลไม้ หรือ เป็นโรคของมะลิกันแน่ครับ
พื้นที่เป็นหินเพราะว่าลงหินไปก่อนแล้วไม่ได้เอาออก แล้วมาอยากปลูกมะลิครับ
เลยแหวกหินออกเป็นหลุม จะได้เป็นทางเดินไปด้วย ระบบน้ำเป็นน้ำหยดครับใส่ก๊อกเล็กๆของตู้ปลา
จึงฝากขอความคิดเห็นท่านที่มีประสบการณ์และลุงคิมช่วยแนะนำวิธีควบคุมด้วยครับ
|
|
|