ผู้ส่ง |
ข้อความ |
DangSalaya |
ตอบ: 28/09/2013 10:07 am ชื่อกระทู้: Re: ว่าด้วยปุ๋ยปลาทะเลหมัก....(1) |
|
noo-ring บันทึก: | DangSalaya บันทึก: | สวัสดีปีใหม่ครับลุงคิม และ เพื่อน สมช. ทุกท่าน
ปุ๋ยปลาทะเลหมัก เริ่มจากกระทู้นี้ครับ
. |
สวัสดีจ้าลุง....ทิดแดง....
กระทู้นี้ก็เหมือนกัน กำลังสนุก หยุดไปเฉย ๆ .....ลุงบอกว่า....
ลุยเลยแดง ไม่ต้องเกรงใจ เจ๊สั่งลุย
ลุยต่อซีจ๊ะทิด ......
. |
สวัสดีครับลุงคิม เจ้าหนูหริ่ง
อันนี้ก็เหมือนกันจ้า ....รอข้อมูลจากลุงอยู่ อ่ะนะ จ้า (ช่างค้นหามาให้แปลจังเลย จ้า)
อ่านต่อในกระทู้ 2936 . ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล Fish Emulsion Fertilizer นะครับ
.
. |
|
|
noo-ring |
ตอบ: 22/08/2013 10:54 am ชื่อกระทู้: Re: ว่าด้วยปุ๋ยปลาทะเลหมัก....(1) |
|
DangSalaya บันทึก: | สวัสดีปีใหม่ครับลุงคิม และ เพื่อน สมช. ทุกท่าน
ปุ๋ยปลาทะเลหมัก เริ่มจากกระทู้นี้ครับ
. |
สวัสดีจ้าลุง....ทิดแดง....
กระทู้นี้ก็เหมือนกัน กำลังสนุก หยุดไปเฉย ๆ .....ลุงบอกว่า....
ลุยเลยแดง ไม่ต้องเกรงใจ เจ๊สั่งลุย
ลุยต่อซีจ๊ะทิด ......
. |
|
|
DangSalaya |
ตอบ: 03/01/2013 12:28 am ชื่อกระทู้: ว่าด้วยปุ๋ยปลาทะเลหมัก....(1) |
|
สวัสดีปีใหม่ครับลุงคิม และ เพื่อน สมช. ทุกท่าน
ปุ๋ยปลาทะเลหมัก เริ่มจากกระทู้นี้ครับ
. |
|
|
DangSalaya |
ตอบ: 19/08/2012 7:59 pm ชื่อกระทู้: ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล |
|
สวัสดีครับลุงคิม
ผมหายไปหลายวัน ....เกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยปลาหมักจากปลาทะเล ผมเห็นว่าเรื่องมันยาว เลยขออนุญาตลุงเปิดกระทู้ใหม่ เมื่อลุงบอกว่า ลุยเลยแดง ไม่ต้องเกรงใจ เจ๊สั่งลุย
ผมเลยเปิดกระทู้ใหม่ ใช้ชื่อกระทู้ว่า ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล Fish Emulsion Fertilizer เลขที่อ้างอิง 2936 ครับ
ด้วยประการะฉะนี้ สมาชิกท่านที่สนใจเรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเลเอาไว้ใช้เอง กรุณาติดตามไปอ่านได้นะครับ
ผมจะพยายามนำเอาเนื้อหาจากสูตรหมักปลาจากเกษตรกรหลากหลายคน รวมทั้งประสบการณ์ของผมเอง ที่ใช้ไส้ปลาทูหมักเป็นปุ๋ยสำหรับรดพลู (กินกับหมาก) ของคนไทยโบราณ มาเล่าบอกไว้ให้รู้กัน
ขอบอกว่า เป็นสิ่งที่เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ไม่เป็นวิชาการนะครับ
. |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 29/07/2012 5:44 pm ชื่อกระทู้: Re: ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล(วาฬ) |
|
DangSalaya บันทึก: |
กราบขอประทานโทษครับลุง ผมเองแหละที่วงเล็บคำว่า วาฬ ลงไป ไม่มีเจตนาใด ๆ แอบแฝง ขอน้อมรับผิด...แต่คงไม่มีใครนำปลาวาฬมาหมักปุ๋ยได้หรอกครับ
ตอบ :
งั้นก็แล้วไป สไตล์นี้เขาเรียกว่า "IN" ไปหน่อย เจตนาก็คือ ให้ดูสมจริงสมจัง น่าเชื่อถือ หรือเรียกว่า "ขลัง" ประมาณนั้น..... ลุยเลยแดง ไม่ต้องเกรงใจ เจ๊สั่งลุย
- ปลาทะเลที่มีสารโอเมก้ามากที่สุด คือ "ปลาทูน่า"
- สัตว์ทะเลประเภทไม่มีกระดูกสันหลังมีสาร ไคติน ไคโตซาน มากที่สุด คือ ปูขั้วโลกเหนือ
- สาหร่ายทะเลที่มีโปรตีนมากที่สุด คือ สาหร่ายทะเลหนาว (สแกนดิเนเวีย)
- หอยสองฝา ในทะเลเขตร้อน มี สังกะสี มากที่สุด
เท่าที่ได้ยินมา วันนี้อเมริกา ไม่ได้ทำ-ไม่ได้ใช้ น้ำหมักชีวภาพแบบหมักเป็นน้ำในถัง ทำที่บ้าน ให้เสียเวลากันแล้ว เขาก้าวข้ามไปถึงขั้นใช้น้ำหมักชีวภาพแบบ "หมักในดิน" แล้ว ซึ่งนอกจากไม่เสียเวลาแล้ว ยังได้จุลินทรีย์ประจำถิ่น ซึ่งเหนือกว่าจุลินทรีย์ในถังหมักอีกด้วย.....ของไทยเราน่ะ แค่ระดับอนุบาลของเขาเท่านั้น
แนวสอนของลุงคิม ประการหนึ่ง คือ
- ใช้ภาษาชาวบ้าน ชาวบ้าน
- สอนในสิ่งที่ชาวบ้านสามารถทำได้
- ไม่ HI TECT จนเกินไป
- สามารถหาวัสดุอุปกรณ์ในเขตบ้านได้
- LEARNING BY DOING ให้ทำกับมือ ทำซ้ำหลายๆรอบ
- การปฏิบัตินำ วิชาการเสริม เรียนแบบให้ทำกับมือ แล้วสอดแทรกวิชาการตามความจำเป็น หรือตามศักยภาพของคนเรียนพึงรับได้
หลายคน หลายที่ บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า แนวสอนของลุงคิมสูง สูงมาก ตามไม่ทัน ฟังไม่รู้เรื่อง ลุงคิมก็พยายาม ปรับปรุง/แก้ไข ตัวเองอยู่ตลอดเวลา พยายามแยกศักยภาพของคนที่มาเรียนว่าระดับไหน ก็ยังทำไม่ได้ ในเมื่อภาษาเกษตรมันมีแต่ภาษาอังกฤษ เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แล้วคนที่ไม่รู้เรื่องภาษาอังกฤษเลยจะทำยังไง
เคยถามคนแก่ ยังเคี้ยวหมากอยู่เลย ทำไมไม่ให้ ลูก-หลาน มาเรียน คำตอบก็คือ สั่งมันไม่ได้ เลยต้องมาเรียนเอง ฉนี้แล้ว คนสอนจะทำยังไง
ลุงคิมสอนแต่ที่เป็นของแท้ๆ ทำปุ๋ย ทำแล้วต้องได้ปุ๋ย ไม่ใช่จะทำปุ๋ย ทำแล้วแต่ได้อย่างอื่น อะไรก็ไม่รู้ แล้วมามั่วนิ่มว่านี่คือปุ๋ย นี่คือปุ๋ย นี่คือปุ๋ยนะ (โว้ยยยย)...... โหดไม่ลง (ว่ะ....)
|
. |
|
|
DangSalaya |
ตอบ: 29/07/2012 3:29 pm ชื่อกระทู้: ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล(วาฬ) |
|
เท่าที่จำได้ เขียน/พูดว่า "ปลาทะเล" ไม่มีคำว่า "วาฬ" ต่อท้ายในวงเล็บ หรือว่าลุงคิมจะจำผิด ..... ช่วยฟื้นความทรงจำหน่อยนะ
กราบขอประทานโทษครับลุง ผมเองแหละที่วงเล็บคำว่า วาฬ ลงไป ไม่มีเจตนาใด ๆ แอบแฝง ขอน้อมรับผิด...แต่คงไม่มีใครนำปลาวาฬมาหมักปุ๋ยได้หรอกครับ
สำหรับเรื่องที่ไปโผล่ใน Google ...Oh ! I see เข้าใจแล้วครับ เรื่องเป็นอย่างนี้เอง
สำหรับปุ๋ยหมักจากปลาทะเลนี้ มีบริษัทคนไทยหมักขึ้นมา และประกาศโฆษณาขายแล้วครับ
มีรูปด้วยว่าเค้าใช้ปลาอะไรมาหมัก แต่ผมไม่กล้าลงเพราะอาจเกี่ยวไปถึงการโฆษณา
ตอนนี้ให้ดูรูป ค้าง (ปลูก) พลูไปก่อน เห็นรูปแล้วนึกถึงอดีตตอนเด็ก เอาน้ำไส้ปลาทูหมัก ผสมน้ำใส่ถัง เดินสาด ๆ ๆ ๆ ไปที่ค้างพลู 15 วันครั้ง พลูจะงามใบเขียวปี๋ สำหรับต้นไม้ที่ทำค้างให้พลูเกาะ คือต้นทองหลางครับ ไม้อวบน้ำ ใบร่วงเป็นปุ๋ยอย่างดี ต้นอุ้มน้ำ รากพลูสามารถดูดซึมน้าจากต้นทองหลางได้ ต้น ใบ ดอกทองหลาง มีสารอาหารไนโตรเย่นสูงครับ โดยเฉพาะใบ เอามาผสมดินเหลว ตากแห้ง ปลูกต้นไม้ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย งามระเบิด ระเบ้อ สมัยรุ่นผมเอาดินเหลวผสมใบทองหลาง ทำแบบพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด ฟุต x ฟุต ตากแห้งแล้ว เอาวางซ้อนกัน เอาเชือกกล้วยมัด 10 แผ่น 1 บาท อาทิตย์นึงทำขาย 20 มัด วันจันทร์ไปโรงเรียนมีเงิน 20 บาท ยังกับพระราชา ก็ผมได้เงินไปโรงเรียนวันละ 3 บาทเอง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นสุดอร่อยชามละ 50 สตางค์
ส่วนรูปนี้ ไปเจอเข้าพอดี เลยเอามาลงให้คนรุ่นหลังดูกัน สิ่งจำเป็นที่สุดในชีวิตประจำวันของทุกคนขาดไม่ได้ ส้วมครับส้วม ของจริงไม่มีแล้ว มีแต่ภาพวาด คนวาดนี่ต้องเคยเห็นและเคยใช้ ไม่งั๊นไม่มีทางวาดได้ดีขนาดนี้ สมจริงทุกประการ รูปนี้เป็นส้วมในโรงเรียนครับ อยู่ห่างจากห้องเรียนเป็นร้อยเมตร
. |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 29/07/2012 8:05 am ชื่อกระทู้: Re: ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล(วาฬ) |
|
DangSalaya บันทึก: |
กระทู้เรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเล (วาฬ) ในเว็ปของลุง มีคนอื่น ๆ สนใจ ขนาดว่า ไปโผล่ที่หน้าเว็ปของ GOOGLE ในหัวข้อเรื่อง " ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล (วาฬ)" ไปอยู่ใน GOOGLE ได้ยังไง เพราะคำตอบกระทู้นี้ผมตอบเมื่อ 21 กค.55 นี่เอง
ตอบ :
**** เท่าที่จำได้ เขียน/พูด ว่า "ปลาทะเล" ไม่มีคำว่า "วาฬ" ต่อท้ายในวงเล็บ หรือว่าลุงคิมจำผิด ..... ช่วยฟื้นความทรงจำหน่อยนะ
**** อย่าเชื่อ GOOGLE มากนัก หลักการและเหตุผลก็คือ เว้บนี้คนที่สร้าง (ตอนนี้ลาออกไปแล้ว) ขึ้นมาครั้งแรก ก่อนเปิดใช้ด้วยซ้ำ ได้ทำ LINK อัตโนมัติไปที่ GOOGLE ด้วย เมื่อเว้บนี้ลงข้อมูลอะไร ข้อมูลนั้นจะไปโผล่ที่ GOOGLE เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาฝีมือมนุษย์ วัตถุประสงค์ก็เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียง (รึจะเป็น ชื่อเสีย....) ของเว้บนั่นเอง เคยเจอนะ ทันที่ที่ "ส่ง" ข้อความที่โพสเสร็จไม่ถึง 5 นาที แล้วเปิดไป GOOGLE แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ไปเพื่อหาข้อมูลแปลกใหม่ตามประสา ก็ให้บังเอิญไปเจอข้อมูลที่เราเพิ่งส่งไปกี้นี้เอง แบบนี้ GOOGLE เฝ้าติดเราตลอดเวลา ยังงั้นเหรอ .....
นั่นหมายความว่า GOOGLE ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรเป็นกรณีพิเศษหรอก มันเป็นเรื่องปกติธรรมของระบบอัตโนมัติ เผลอๆ GOOGLE ไม่รู้เรื่อง นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น ด้วยซ้ำ ไม่เชื่อ ลอง "ด่า" GOOGLE ดูซี่ มันจะไปโผล่ที่ GOOGLE ไหม ....
นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ในอนาคต เมื่อจะออกจากโลกอินเตอร์เน็ต แม้จะ DELETE ในเว้บเราจนหมดสิ้นได้ แม้แต่ชื่อเว้บ KASETLOONGKIM.COM ก็ไม่ให้มีในสาระบบ แม้จะทำได้แต่ก็ยังปรากฏข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเว้บเราอยู่ใน GOOGLE อยู่ดี หรือแม้แต่เว้บอื่นที่ COPY ของเราไป ก็จะยังอยู่ เพราะเราจะไป DELETE ที่เว้บคนอื่นไม่ได้.....ว่ามั้ย
เหมือนกับบางเว้บ เอาชื่อเว้บตัวเองแปะไว้กับ FACE BOOK เผื่อใครเปิดไปที่ FACE BOOK ก็จะได้รู้จักเว้บตัวเองไปด้วย แต่ที่นี่ เว้บเกษตรลุง (ไอ้) คิม ด็อท คอม ไม่เอา ไม่ประพฤติ ไม่ปฏิบัติ ขออยู่บนขา (สั้นๆ) ตัวเอง ดี/ไม่ดี ขอเป็นของตัวเอง ดัง/ดับ ก็ด้วยตัวเองอีกนั่นแหละ......มีอะไร อ๊ะ ป่าววววว
**** คลิก LINK "ผมตอบเมื่อ 21 กค.55 นี่เอง" มาให้ดูหน่อยซี่ ลุงคิมไม่ได้ค้น แล้วก็ไม่รู้ด้วย
***** ความเข้าใจในระบบ "AUTO LINK" ตามแบบของลุงคิม ถูกหรือผิด ใครรู้ช่วยอรรถาธิบายด้วย
...แสดงว่า GOOGLE เค้าสนใจเรื่องนี้ ไม่ใช่จิ๊บจ๊อยแล้วนะครับ แล้วยังงี้ลุงจะปิดเว็ปอีกหรือ กรุณาเปิดดูเองครับ
ตอบ :
ปิด หรือ ไม่ปิด ไม่ได้ตั้งอยู่บนเหตุผลของ GOOGLE แต่ขึ้นอยู่กับ "ความรู้สึก" ส่วนตัวซะมากกว่า
ลึกๆ ใครจะรู้อะไรเท่าลุงคิม....ลุงคิมสอนใครต่อใครว่า รู้อะไรก็จงรู้ รู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้ แต่ต้องรู้จักตัวเอง....บอกตามตรง งานนี้ "เจ็บ" มากกว่า (ว่ะ.....)
อย่ากังวลเรื่อง ปิด/ไม่ปิด มากนัก มันเป็นเรื่องของอนาคต.....บางครั้งอยู่เฉยๆ อยู่มันไปเรื่อยๆ เวลาอาจเป็นตัวแก้ไขสถานการณ์ให้ก็ได้....
ปุ๋ย หมัก จาก ปลา ทะเล(วาฬ) - ++kasetloongkim.com++
www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums... - แคช
9 โพสต์ - 5 ผู้เขียน - 21 ก.ค.
ตอบ :
มันก็เว้บเราธรรมดาๆ อีกนั่นแหละ เราทำมันต้องมี ใครทำใครก็ต้องมี ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย
ฉะนั้น ที่ลุงคิมบอกว่า ปุ๋ยปลาหมัก ต้องหมักจากปลาทะเลนั้น ถูกต้องตรงประเด็นที่สุด สำหรับ สวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ เค้าต้องใช้ขนาดเป็นถัง (Drum) 200 ลิตร
ตอบ :
- ผู้ก่อกำเนิดประกายความคิด :
อ.สำรวล ดอกไม้หอม, ดร.สุริยา ศาสนรักกิจ, ดร.อรรถ บุญนิธี ภายใต้กรอบความคิด .... คำพูดบางคำจากคนบางคนในบางโอกาส เมื่อนำมา วิเคราะห์/เปรียบเทียบ/ประยุกต์ แล้ว ทำ/ใช้ สามารถพลิกผันสถานการณ์ หรือสร้างนวตกรรมใหม่ได้.....ภาพถ่าย 1 ภาพ แทนคำพูด 1,000 คำ .... ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ใครที่พูดความจริงย่อมพูดได้เหมือนกันหมด คนที่เอาความจริงมาพูดเท็จ นั่นเพื่อประโยชน์ส่วนตน .... ในธรรมชาติไม่มีตัวเลข ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีความลับ และไม่มีมหัศจรรย์ ทุกอย่างเป็นคำพูดของคน ทำนอง ถามเอง เออเอง ตอบเอง.....
เริ่มต้นที่ข้อมูลจากนักวิชาการไทย ทั้งตัวบุคคลและจากเอกสารตำรา เอามารวมกับข้อมูลจากต่างประเทศ อเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ทำให้ค้นพบอีกหลายแนวทาง ในเรื่องของ "น้ำหมักชีวภาพ" นี่คือการ ต่อยอด/ขยายผล/ประยุกต์ ธรรมดาๆ
คิดสักนิด เฉลียวใจสักหน่อย ช่างสังเกตุ รู้เปรียบเทียบ :
- ชนิดอาหาร ได้แก่ ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน วิตามิน และอื่นๆ
- แหล่งกำเนิดอาหารพืช 1) เกิดเองในธรรมชาติ 2)เกิดโดยคนทำ 3) เกิดโดยสัตว์ทำ
- ประเภทอาหารพืช อินทรีย์/เคมี....น้ำ/แห้ง....ทางใบ/ทางราก
- อาหารพืชที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ประกอบด้วย 92 ตัว สำหรับพืชเมืองร้อนต้องการอาหารหลักๆเพียง 14 ตัว ได้แก่ N. P. K. Ca. Mg. S. Fe. Cu. Zn. Mo. B. Si. Na. Cl. ในขณะที่พืชเมืองหนาวอาจต้องการมากกว่านี้ .... ดังนั้นการอ้างอิงทางวิชาการ เป็นต้องแยกแยะระหว่าง "พืชเมืองร้อน" กับ "พืชเมืองหนาว" แล้วพิจาณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม
เมื่อคิดจะทำอาหารพืชก็ต้องให้ได้อาหารพืชจริงๆ ไม่ใช่อะไรก็ได้ เอามาหมักชีวภาพแล้วกลายเป็นอาหารพืชได้ทั้งนั้น ในเมื่อโครงสร้างของวัสดุส่วนผสมที่เอามาทำไม่มีอาหารพืช เมื่อทำแล้วจะมีอาหารพืชได้อย่างไร
มนุษย์กินเนื้อสัตว์ กับกินผัก ได้สารอาหารต่างกัน ฉันใด พืชที่ได้กินอาหารที่มาจากสัตว์หรือพืช ย่อมเจริญเติบโตต่างกัน ฉันนั้น .....
ในน้ำหมักชีวภาพที่ทำกันแบบพื้นบ้านโดยไม่มีหลักวิชาการมารองรับยืนยันเลยนั้น ปริมาณอาหารที่ได้จจะ (เน้นย้ำ...อาจจะ) มีเพียง .0001 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ในชีวภาพซึ่งแท้จริงก็คือ "จุลินทรีย์" ซึ่งจุลินทรีย์ตัวนี้ไปทำหน้าที่ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ (เศษซากพืช-สัตวื) ให้กลายเป็นอาหารพืช ซึ่งอาจจะเพียงพอหรือไม่เพียงพอแก่พืชแต่ละชนิดก็ได้ กับช่วยปรับสภาพโครงสร้างดินดีและเหมาะสมต่อพืชมากขึ้น แล้วส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้เท่านั้น
หลักการและเหตุผล :
- เมื่อคิดจะทำอาหารให้พืช อาหารที่ทำขึ้นมาได้นั้นต้องประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน และอื่นๆ ตรงตามความต้องการของพืช ครบถ้วนทั้งชนิดและปริมาณ เพราะฉนั้นวัสดุที่นำมาทำต้องผ่านกระบวนการ.....
*** ค้ดเลือก (ชนิด/ประเภท/คุณสมบัติเฉพาะ/ปริมาณ/ฯลฯ)
*** กรรมวิธีในการทำ (หมัก/ต้ม/กลั่น/เผา/สด/แห้ง/ฯลฯ)
*** ปัจจัยหลักในการทำ (ระยะเวลา/อุณหภูมิ/อากาศ/พีเอช/อีซี/ฯลฯ)
*** ปัจจัยเสริมในการทำ (จุลินทรีย์/แหล่งพลังงานสำหรับจุลินทรีย์/ฯลฯ)
*** ข้อมูล (วิชาการ ในประเทศ-ต่างประเทศ/ประสบการณ์ ตัวเอง-ผู้อื่น/ฯลฯ)
*** ภาษิต 10 ล้อ....ทำแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน มาตรฐานโรงงาน มีหลักวิชาการรองรับ
จำแนก ชนิด/ปริมาณ อาหารพืชในวัสดุส่วนผสมจาก น้อยไปหามาก :
- พืช ผัก ผลไม้
- หอยเชอรี่
- ปลาน้ำจืด
- ปลาทะเล
ข้อแตกต่างระหว่าง ปลาทะเล กับ ปลาน้ำจืด คือ ในปลาทะเลมี แม็กเนเซียม, โซเดียม, แมงกานิส, โซเดียม, โอเมก้า, ฟลาโวนอยด์, ควินนอยด์, โพลิตินอล ซึ่งในปลาน้ำจืดไม่มี ส่วนหอยเชอร์รี่ พืชผักผลไม้ ไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอน ถึงแม้จะมีอย่างอื่นแต่ในปลาทะเลก็มีเช่นกัน จึงสรุปได้ว่า ปลาทะเลมี ชนิด/ปริมาณ อาหารพืชมากที่สุด
นี่คือที่มาหรือเหตุผลในการเลือก "ปลาทะเล" มาเป็นวัสดุหลักในการสร้างอาหารพืชที่เรียกกันติดปากว่า "น้ำหมักชีวภาพ"
แม้ปลาทะเลจะอุดมไปด้วยสารอาหารพืช แต่ครั้นเมื่อวิเคราะห์หาปริมาณใน LAB แล้ว กลับพบว่ามีเพียง 1-2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ปริมาณขนาดนี้อาจจะ (เน้นย้ำ...อาจจะ) พอเพียงสำหรับพืชกินผลอย่าง มะเขือ พริก ข้าว แต่สำหรับ ทุเรียน มะม่วง มังคุด คงไม่พออย่างแน่นอน ดังนั้นจงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง เสริม/เพิ่ม/เติม/บวก อาหารกลุมสังเคราะห์ (เคมี) ลงไปด้วย และนี่คือที่มาของคำว่า อินทรีย์นำ เคมีเสริม ตามความเหมาะสม หรือข้ามไป เคมีนำ อินทรีย์เสริม ตามความเหมาะสม อีกเช่นกัน ก็ได้
ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ คือ คำตอบ "ปลาทะเล" เท่านั้น ทั้งนี้ยังไม่รวม เลือด ไขกระดูก ขี้ค้างคาว นม น้ำมะพร้าว กับกรรมวิธีการทำจนได้อาหารพืช
ลุงคิมคิดว่าอย่างไรครับ
ตอบ :
คิดอย่างที่บอกที่แหละ....
ทั้งบอก ทั้งสอน มานานแล้ว ตั้งแต่เริ่มจับงานนี้ครั้งแรกก็ว่าได้ แต่จนถึงวันนี้นอกจากไม่มีคนเชื่อแล้ว ยังหาว่า "ตาคิมบ้า" ซะอีกแน่ะ....
แม้แต่เอา "ขี้วัว" มาใส่ เพิ่ม/เติม/เสริม/บวก" สารอาหารพืชตัวอื่นๆที่ในขี้วัวไม่มีหรือมีน้อย ให้มีอย่างพอเพียงสำหรับพืชแล้วเรียกว่า "ขี้วัวซุปเปอร์" ก็ยังถูกตราหน้าว่า เดี๋ยวนี้ "ตาคิมเปอร์" ใหญ่แล้ว
เบื่อชีวิตไหม (วะ) แดง.....
|
. |
|
|
DangSalaya |
ตอบ: 28/07/2012 11:21 pm ชื่อกระทู้: ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล(วาฬ) |
|
ลุงคิมครับ
กระทู้เรื่องปุ๋ยหมักจากปลาทะเล (วาฬ) ในเว็ปของลุง มีคนอื่น ๆ สนใจ ขนาดว่า ไปโผล่ที่หน้าเว็ปของ GOOGLE ในหัวข้อเรื่อง " ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล (วาฬ)" ไปอยู่ใน GOOGLE ได้ยังไง เพราะคำตอบกระทู้นี้ผมตอบเมื่อ 21 กค.55 นี่เอง
...แสดงว่า GOOGLE เค้าสนใจเรื่องนี้ ไม่ใช่จิ๊บจ๊อยแล้วนะครับ แล้วยังงี้ลุงจะปิดเว็ปอีกหรือ กรุณาเปิดดูเองครับ
ปุ๋ย หมัก จาก ปลา ทะเล(วาฬ) - ++kasetloongkim.com++
www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums... - แคช
9 โพสต์ - 5 ผู้เขียน - 21 ก.ค.
ฉะนั้น ที่ลุงคิมบอกว่า ปุ๋ยปลาหมัก ต้องหมักจากปลาทะเลนั้น ถูกต้องตรงประเด็นที่สุด สำหรับ สวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ เค้าต้องใช้ขนาดเป็นถัง (Drum) 200 ลิตร
ลุงคิมคิดว่าอย่างไรครับ
. |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 28/07/2012 11:46 am ชื่อกระทู้: กระทู้นี้ถ้าจะยาว ว ว ว |
|
ลุงคิมครับ
ขออภัยในความผิดพลาด คือ คำว่า "แม่ปิงการเกษตร" เป็นคำพูดติดปากของชาวบ้าน แบบเดียวกับว่า ไปซื้อแฟ๊บมาให้ซองนึงซิ แต่ถ้าซื้อบรีส หรืออะไรมาก็ใช้ได้เหมือนกัน
ที่ถูกต้อง คือ "แม่ปิงเกษตรธรรมชาติ" ครับ
ที่อยู่ 52 หมู่ 1 ต.หนองแหย่ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210
081-952-2444 หรือ 253-255-599
และรูปของอาจารย์
เวลาใครเชิญท่านไปบรรยาย อาจารย์จะบอกว่า ผมถอดหัวโขนออกหมดแล้ว เป็นเกษตรกรธรรมดา ให้เรียกผมว่า นายสุจิตร โนคำ เฉย ๆ ไม่ต้องมี อจ.หรือ ดร.นำหน้า ....ก็เหมือนที่ลุงเคยบอกว่า ข้าราชการคนเก่ง อยู่ไม่ได้ เพราะเก่งกว่านาย...มีแยะนะครับ
ที่สุโขทัยมีท่านนึง เรื่องข้าว เก่งมากกกกก อยู่ไม่ได้ อาจารย์คุณหมอ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของนกแอร์ เจ้าของสนามบินสุโขทัย-สนามบินส่วนตัวจ้า เจ้าของไร่นาอินทรีย์ สองสามร้อยไร่มั๊ง ....พันธุ์ข้าว สุโขทัย 1 และ 2 เกิดที่นี่ คุณหมอไปของานวิจัยของ อาจารย์ ..นึกชื่อไม่ออก นึกได้จะบอก ..ที่ทำค้างไว้ ซึ้งกรม ฯ บอกมันไม่ได้ผลร๊อก เค้าเก็บเข้ากรุไปแล้ว ทางกรมให้มา อาจารย์...วิจัยต่อ จนได้ข้าวพันธุ์สุโขทัย 1 และ 2 ออกมา ....
ข่าวลึก ๆ บอกว่า เมื่ออธิบดีคนนั้น ปลดระวางออกไป ไปเที่ยวเพื่อจะไปดูไปชิมข้าวพันธุ์นี้ ว่ามันดีแค่ไหน แต่ประทานโทษ คุณหมอจัดเลี้ยงต้อนรับด้วย "ข้าวขาว" ธรรมดา ๆ โดยบอกอย่างสุภาพว่า ข้าวที่ว่านั้นหมด ส่วนที่เห็นมีคนจองหมดแล้วครับ .
ไม่มาเที่ยว เชียงรายมั่งนี่ จะได้ให้หุงข้าว พิษณุโลก 2 ที่สนับสนุนให้ปลูกกันนัก เอาให้กินซะให้เข็ด ข้าวบ้าอะไรไม่รู้ แข็งชิบเป๋งเลย ...ใครอยากกินข้าวพันธุ์สุโขทัย 1, 2 นี้ นั่งเครื่องนกแอร์ครับ ได้กินแน่ เค้าใส่กล่องแจกบนเครื่อง ได้แจกข้าวสารคนละถุงเล็กๆ ด้วย ..
เมื่อสองปีก่อนโน้น เคยนั่งนกแอร์จากเชียงรายไปหาทิดแดงที่ปาย เค้ามีแจก ตอนนี้ยังมีแจกรึเปล่าไม่รู้นะ
อ้อ สำหรับไร่ของ อจ.สุจิตร หรือไร่ แม่ปิงเกษตรธรรมชาติ มีอินทผาลัมสุกๆ สดๆ รสหวาน กินง่าย อร่อย ถ้าไม่จองล่วงหน้า อดกินคร๊าบบบบ
ทำไมผมแสนรู้จัง อ้าว ...ได้ข่าวที่ไหนมีอะไรดี เกี่ยวกับเรื่องเกษตร ถ้าอยู่ในความสนใจ ต้องบุกไปกันสองคนกับทิดแดง นัดเจอกันครึ่งทาง แล้วก็ลุย แล้วเคล็ดวิชา ถ้าอยากรู้อะไรลึกๆ อย่าคุยกับเจ้าของสวนหรือเจ้าของไร่ เค้นคอให้ตายเค้าก็บอกคุณเท่าที่บอกแค่นั้น แล้วจะรู้ถึงกึ๋นได้ยังไงล่ะ อิ อิ อิ ไม่ยาก...
ขอบคุณ สวัสดีครับลุง บาย
. |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 28/07/2012 10:08 am ชื่อกระทู้: เอะอะ อะไร ๆ ก็จะปิด เ ว ป ปปปป |
|
ลุงคิมครับ
อะไร ๆ ก็จะปิดเว็ป ...ถ้าปิดเว็ปตอนนี้นะ ถึงจะอยู่ในดักแด้ ก็จะกระเสือกกระสนไปเผาไร่กล้อมแกล้มให้ดู (เผาฟาง ทำไก่อบฟางครับ)
แล้วเรื่องการทำปุ๋ยหมักจากปลาทะเล งูดินกับปลากระทุงเหว ยังแปลไม่เสร็จ อารมณ์ค้างคาใจแน่ ๆ
อ้อ รายงานผลนิดนึง ครับ
(1) ข้าว กข.15 ดำไปแล้ว ปีนี้ไม่มีการถอนกล้าแล้วเอามา ซีม ถอนกล้าแล้วดำเลย ท่ามกลางสารพัดเสียง โอ๊ย บ่ได้กิ๋นข้าวแน่ ๆ เลย อาบั๊ด (เค้าจะเรียกผมว่า อาบั๊ด ไม่ใช่ อาบัติ ครับ) ช่างปะไรเนาะ ผมไม่ได้เป็นคนดำ โน่น แม่ยายกับลูกสาวเป็นคนดำ
(2) ข้าว ไรซ์เบอรี่ ทิดแดงโทรบอก ..เอ็งหว่านบนแห้งแปลงที่เอ็งตกกล้ากข.15 นี่เลย ทดลองดู ข้าหว่านข้าวบนแห้งริมคลองที่นครปฐม ยังออกรวงมีเมล็ดนี่หว่า เนื่อที่น้อยหว่านห่าง ๆ ที่แค่ที่เอ็งบอกทดลองใช้ข้าวแค่ ขีดเดียวพอ แต่เอ็งต้องปล่อยที่ทิ้งไว้ก่อน ให้ข้าวกข.15 ที่ตกค้างกับหญ้าขึ้นให้หมด ไถกลบ รดน้ำพร้อมปุ๋ยลุง สามสี่วันค่อยหว่าน ก่อนหว่าน รดน้ำให้แฉะ.....ผมก็ถาม
...แล้วหว่านบาง ๆ นี่ทำไง..เป็นคำตอบที่ได้เรื่อง โดนใจเลย
. ไอ้โง่ ไอ้เซ่อ เอ็งก็หา Filler มาผสมกับข้าวที่จะหว่านซีโว๊ย คือเอาแกลบดิบมาผสม ทำให้แกลบดิบมันตายซะก่อนจะได้ไม่มีข้าวอื่น ๆ ปน ถามแม่ยาย ผู้ชำนาญการของเอ็งก็แล้วกันว่า เนื้อที่แค่นั้น ถ้าจะหว่านเคยใช้ข้าวกี่ถัง ก็ใช้แกลบแค่นั้นแหละ เอาข้าวที่จะหว่านผสมลงไป แช่น้ำผสมปุ๋ยตามสูตรลุง หุ้มซักสองวันมั๊ง แล้วก้เอาไปหว่าน ข้าวมันจะขึ้นบางตา แล้วแกลบดิบจะกลายป็นปุ๋ยในวันหน้า ...ไม่มีใครเค้าบ้าทำตามข้าร๊อก มีแต่เอ็งคนเดียว ...คำตอบหนักแน่น
ฉันยอมบ้าตามทิด
(3) ข้าวเหนียว กข 6 เค้าหว่านกล้าแล้วต้องเอามา ซีม แล้วจึงมาดำตามแบบเดิม ๆ ถ้าเค้าถอนกล้าแล้วมาดำเลย เค้าบอกมันจะไม่ได้ข้าว อันนี้เค้าเอาไว้กิน ผมก็ไม่กล้าคัดค้าน เกิดข้าวไม่พอกินมันจะเดือดร้อนผม ปล่อยเค้าไปตามความปรารถนา ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเฉิ่ม วันดีคืนดี จะหยอดเมล็ดให้ดู ถ้าทำได้ดีแล้ว ใครอย่ามายืมเครื่องไปหยอดก็แล้วกัน
ขอบคุณครับลุง |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 27/07/2012 4:35 pm ชื่อกระทู้: |
|
สมัคร/ไม่สมัคร - เข้าได้/เข้าไม่ได้ ไม่รู้....รู้แต่ว่าที่นี่ไม่ต้องเสียเงินเท่านั้น
มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลนะ ใครมีเรื่องดีๆ เรื่องน่าสนใจ ตั้งใจจะเอามาแบ่งปันกัน ถ้าไม่สมัครแล้วเข้าไม่ได้ก็สมัครซะ ถ้าไม่สมัครแต่เข้าได้ก็เข้ามาเลย หรือไม่มีอะไรจะมาแบ่งปันคนอื่น แต่จะเข้ามาอาศัยอ่านอย่างเดียว ก็ไม่ว่า
ที่นี่ประชาธิปไตย แล้วก็ประชาธิปไตยส่วนบุคคลด้วย.....
ก็มีนะ สมช.บางคนอ่านเรื่องราวในเวบแล้วสงสัย โทรศัพท์มาถามลุงคิมโดยตรง บางราย (ส่วนน้อย) ก็ตอบ ถ้ามีโอกาส บางรายที่ไม่ได้ตอบเพราะกำลังติดภารกิจก็ให้ฝากคำถามนั้นไว้ในเว้บ แถมบอกด้วยว่า คำถามนี้น่าสนใจ สมช.คนอื่นๆจะได้รู้ด้วย.....
เสร็จแล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ในจำนวน 100 รายที่ลุงคิมขอให้เขาฝากคำถามไว้ในเว้บ ไม่เคยมีเลยแม้แต่รายเดียวยอมฝากคำถาม ทั้งๆที่รับปากรับคำแล้ว ...งานนี้ อยากเดาว่า คำถามนั้นไม่น่าสนใจ คำถามนั้นไม่สำคัญ ก็ถ้าไม่สำคัญ ไม่น่าสนใจ แล้วโทรศัพท์มาถามทำไม
เว้บอะไร (วะ) คนเข้ามาอ่านเป็นร้อย-พัน-หมื่น แต่มีคนสนใจแค่ 2-3 คน เจ้าประจำๆ คนเดิมเท่านี้ เว้บนี้เนื้อหามันมีรายละเอียดครอบคลุมจนอ่านแล้วกระจ่างแจ้งจนไม่มีอะไรสงสัยเลยปานนั้นเจียวหรือ จึงไม่มีใครสงสัย หรือใคร่รู้ คัดค้าน หรือเห็นดีเห็นงามเข้ามาร่วมแจมด้วยเลย....
นี่ก็น่าจะเป็นอีกกรณีหนึ่งมั้ง ที่สมควร "ปิดเว้บ" จะทนบ้าอยู่คนเดียวทำไม (วะ) บัติ....
. |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 27/07/2012 2:29 pm ชื่อกระทู้: ของเรา FREEWEB นะ สมัครไม่สมัครสมาชิกเข้ามาได้ทั้งนั้น |
|
ลุงคิมครับ
ฝากถึงท่านที่เข้ามาอ่าน แต่ ยังมิได้ลงทะเบียน เป็น สมช.ด้วย
COMMENT :
ของเรา FREEWEB นะ สมัครไม่สมัครสมาชิกเข้ามาได้ทั้งนั้น
ถ้าไม่สมัครสมาชิก ก็จะนำเรื่องดี ๆ ลงในเว็ปไม่ได้ซีครับ หรือว่าลงได้ ไม่เคยลอง
. |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 27/07/2012 12:24 pm ชื่อกระทู้: Re: ปลากระทุงเหว |
|
[quote="Sombutt"]
สวัสดีครับลุงคิม .ยัยเฉิ่ม ทิดแดง และ สมช. สีสันชีวิตไทยทุกท่าน ฝากถึงท่านที่เข้ามาอ่าน แต่ ยังมิได้ลงทะเบียน เป็น สมช.ด้วย
COMMENT :
ของเรา FREEWEB นะ สมัครไม่สมัครสมาชิกเข้ามาได้ทั้งนั้น
อ่านไปเถอะ ไม่เสียหลาย เพราะ ความรู้ คือ ประทีบ ...และที่ยัยเฉิ่มบอกว่า แต่ละคนความรู้มากมาย มันเข้าทำนอง ความรู้ท่วมตัว เอาหัวไม่รอด แค่พอกระเสือกกระสนมุดน้ำดำดินไปได้ กล้อมแกล้ม ๆ ตามชื่อไร่ของลุงคิม เท่านั้น ...
COMMENT :
ความรู้ทั้งปวงทั้งสิ้นมีนับแสน วันนี้ลุงคิมเองมีเพียง "เศษเสี้ยวส่วนแสน" ของความรู้ทั้งสิ้นทั้งปวงเท่านั้น
ชาตินี้เรียนตอดชีวิตไม่จบ ตายแล้วเกิดใม่อีก 500 ชาติ เรียนวิชาเดิมก็ยังไม่จบ เพราะทุกวันมีความรู้ใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลานั่นเอง
อยู่เชียงรายจะเอาปลาทะเลที่หาง่าย ๆ ที่ไหนหว่า ..นึกไปนึกมา ...ปิ๊ง ใช้ ปลาป่น ได้มั๊ยครับลุง เอาแช่ น้ำ + ปลาร้า ของแม่ยายลงไปหน่อย ไม่มีกากน้ำตาล ใช้น้ำอ้อยคั้นสด ๆ ซีวะ
COMMENT :
- ปลาป่น อาหารสัตว์ ทำมาจากปลาทะเล เพราะต้นทุนต่ำกว่าปลาน้ำจืด....
- ปลาทะเลที่เอาไปทำปลาป่น คือ บรรดาปลาที่ไม่เหมาะสำหรับทำผลิตภัณท์เฉพาะที่มีมูลค่าสูงได้แล้ว จึงเอามาทำอาหารสัตว์เพื่อให้ได้ธาตุอาหารจากสัตว์ทะเล ในการนี้ในเข่งปลาทะเลที่จะเอามาทำปลาป่นย่อมมี กุ้ง หอย ปู หมึก รวมอยู่ด้วย ซึ่งการมีสัตว์ทะเลอย่างอื่นผสมรวมมาด้วยนี้ หมายถึง "ชนิด" ของธาตุอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นด้วย สุดท้ายก็คือ คุณภาพของอาหารสัตว์ นั่นเอง
- ธาตุอาหารในปลาป่นที่ขาดหายไปน่าจะ (เน้นย้ำ...น่าจะ...) มีเพียงตัวเดียว คือ "โอเมก้า" เพราะโอเมก้ามีอยู่ในไขมันปลา เมื่อปลาป่นถูกอบด้วยความร้อน ไขมันนั้จึงหายไป
(สูตร ใช้ น้ำอ้อยสด แทนกากน้ำตาล นี่ เป็นสูตรของ อจ. ดร.สุจิตร โนคำ แห่ง ม.แม่โจ้ เชียงใหม่ครับ เจ้าของหัวเชื้อจุลินทรีย์ DMO แห่งแม่ปิงการเกษตร
COMMENT :
ทันทีที่รู้ว่าข้อมูลนี้มีนักวิชาการระดับ ดร.ยืนยัน ให้รู้สึก "สะใจ" ขึ้นมาครามครัน ความสะใจที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ ภูมิใจ ปลื้มใจ ดีใจ หรือพอใจใดๆทั้งสิ้น
ลุงคิมพูดถึง "น้ำอ้อยสดแทนกากน้ำตาล" มานานกว่า 10 ปี นอกจากน้ำอ้อยสดแล้ว ยังพาดพิงไปถึง น้ำตาลจากงวงมะพร้าว (ทำน้ำตาลปี๊บ) น้ำตาลจากงวงต้นตาล (ทำน้ำตาลเมา ทำน้ำตาลสดพร้อมดื่ม) น้ำมะพร้าวจากมะพร้าวน้ำหวาน (เฉาะดื่มได้เลย) ซึ่งล้วนแต่มีความหวานตามธรรมชาติทั้งสิ้น
ลุงคิมรู้ได้ด้วยตัวเอง รู้โดยการอ่าน LINE ธรรมชาติของพืช ..... บอกแล้วไง วิชาเกษตรว่าด้วยพืชน่ะ ยากกว่าวิศวะ ยากกว่าแพทย์ เพราะพืชพูดไม่ได้ แต่ถ้าอ่าน LINE ธรรมชาติของพืชออก ในความยากนั้นจะมีความง่ายแฝงอยู่ เพียงแต่ขอให้เป็นคนช่าง สังกุตุ/เฉลียว/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ สักนิด พบอะไรแล้วค้นหาข้อมูลในสิ่งที่เกิดขึ้นกับพืชอย่างมีเหตุมีผล ก็จะบรรลุได้เอง
ลุงคิมถือหลัก.....
- ภาพถ่าย 1 ภาพ แทนคำพูด 1,000 คำ .....
- คำพูดบางคำ จากบางคน ในบางโอกาส ได้ยินแล้ววิเคราะห์ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ สามารถพลิกผันสถานการณ์ชีวิตได้......
กรณีนี้ LINE ธรรมชาติ LINE หนึ่ง ในจำนวนหลายๆ LINE ที่อ่านได้ คือ.....
ความหวานในกากน้ำตาลจะกี่องศาบริกซ์ ไม่รู้ รู้แต่ว่าหวานจัดจนแสบคอ เมื่อเอามาให้แก่พืชทางรากด้วยอัตราส่วน 1 : 500 ให้ทางใบอัตราส่วน 1 : 1,000 ด้วยอัตราความเข้มข้นเพียงเท่านี้ ทดลองชิมจะไม่มีความหวานหลงเหลือให้รู้สึกเลย นี่คือความรู้สึกของคน แต่พืชไม่ใช่ ถ้าหวานจัดขนาดคนแสบคอละก็ พืชกินไม่ได้ กินไม่ทัน เหลือค้างอยู่อย่างนั้น คราวนี้ละนอกจากมดจะมาแล้ว บรรดาเชื้อราโรคพืจะประดังกันมาด้วยซ้ำ
ทหารโบราณตัดหัวข้าศึก แช่น้ำผึ้งไว้นานนับเดือนพื่อส่งกลับเมืองหลวง หัวข้าศึกไม่เน่า ก็เพราะความหวานจัดของน้ำผึ้งยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียไว้ ในความหวานจัดๆนี้ นอกจากจะยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียแล้ว ยังยับยั้งการเจริญของ รา ไวรัส ยิสต์ และจุลินทรีย์กลุ่มอื่นๆไม่ให้เจริญอีกด้วย
กากน้ำตาล เป็นสารรสหวานกลุ่มเดียวกันกับ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำตาลปึก สารรสหวานเหล่านี้มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ ไม่สามารถผ่านปากใบพืชได้ จึงไม่เหมาะต่อการให้ทางใบ
เนื้อของพืชคือ "แป้ง"....แป้ง คือ "คาร์โบไฮเดรท" ..... พืชเปลี่ยนคาร์โฮเดรทเป็น " น้ำตาล" .... พืชจะออกดอกได้ต้องมี "แป้งและน้ำตาล" ในต้นมากกว่า "ไนโรเจน" ที่เรียกว่า ซี/เอ็น ไรโช นั่นเอง
สารรสหวานพวกนี้อยู่ในต้นพืช ต้นพืชสามารถลำเลียงไปยังส่วนต่างของต้นเพื่อใช้พัฒนาตัวเองได้ทันที เพราะกระบวนการสังเคราะห์สารอาหารภายในต้นปรุงแต่งให้เรียบร้อย กระทั่งโครงสร้างทางเคมีเป็นสาร "โมเลกุลเดียว" พร้อมกิน เหมือนที่ภาษาโฆษณาอ้างว่า "ทางด่วน-ทางด่วน" นั่นแหละ
ว่างๆ น่าจะเอาน้ำมะพร้าวน้ำหวาน 1 ลูก เจือจางน้ำเปล่า 100-500 ล. ให้แก่พริก มะเขือ ไม้ดอก ดูบ้าง ถ้าปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูกอื่นๆเหมาะสม ไม้พวกนี้ก็จะออกดอกมาให้ยลเอง
ในการหมัก "น้ำหมักชีวภาพ" ไม่ว่าจะหมักจากพืชหรือหรือสัตว์ หากใส่กากน้ำตาลมากๆ หรือใส่จนคนกินแล้วแสบคอละก็ ความหวานนี้จะไปยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ เป็นเหตุให้กระบวนการย่อยสลายไม่สำเร็จ จึงควรให้แต่พอดี ให้พอประมาณ เมื่อหลักการและเหตุลผลเป็นเยี่ยงนี้ ก็น่าจะใช้สารรสหวานอื่นแทนกากน้ำตาลได้ ใช่หรือไม่
จ.จ.จ.
. |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 27/07/2012 11:49 am ชื่อกระทู้: ปลากระทุงเหว |
|
สวัสดีครับลุงคิม .ยัยเฉิ่ม ทิดแดง และ สมช. สีสันชีวิตไทยทุกท่าน ฝากถึงท่านที่เข้ามาอ่าน แต่ยังมิได้ลงทะเบียนเป็น สมช.ด้วย
อ่านไปเถอะ ไม่เสียหลาย เพราะ ความรู้คือประทีบ ...และที่ยัยเฉิ่มบอกว่า แต่ละคนความรู้มากมาย มันเข้าทำนอง ความรู้ท่วมตัว เอาหัวไม่รอด แค่พอกระเสือกกระสนมุดน้ำดำดินไปได้ กล้อมแกล้ม ๆ ตามชื่อไร่ของลุงคิม เท่านั้น ...
สำหรับยัยเฉิ่มน่ะ ไม่ใช่ปลากระทุงเหวหรอกนะ ปลาปักเป้า หรือไม่ก็ปลาหมู แล้วถ้าจะเป็นไส้เดือนฝอย ก็เอาชนิดที่เป็นคุณนะ ไอ้ที่ชนิดที่เข้าต้นไม้แล้วทำให้ต้นไม้ตายน่ะไม่เอา แต่ไม่น่าจะใช่ไส้เดือนฝอยอีกนั่นแหละ ไส้เดือนริมแม่น้ำโขงซะมากกว่า ตัวโตเท่านิ้วก้อย ยาวเป็นศอก แต่ปากกว้างเท่าปลาวาฬ
ระยะนี้มีใครสังเกตบ้างหรือไม่ว่า อบต. อบจ เทศตูม เทศบาล และราชการทุกแห่ง แข่งกันผลาญงบประมาณกันแหลกราน เนื่องจากใกล้จะปิดงบฯ 30 กันยา ต้องใช้ให้หมด มีการจัดฝึกอบรมไม่เว้นแต่ละวัน อบรมแค่วันเดียว เค้าให้เซ็นชื่อ 3 วัน 4 วัน มีให้เซ็นชื่อรับค่ารถด้วย แต่แห้ว มีแต่ลม ค่ารถตัวจริงไปไหนไม่รู้ ตามกำหนด อบรม 8.00 - 16.00 แต่แค่ 12.00 ใครใคร่กลับก็ได้ ใครใคร่อยู่ก็ดี มีการนำทัศนศึกษา ปกตินั่งรถพัดลมก็หรูแล้ว แต่งานนี้ รถแอร์ปรับอากาศ Super deluxe มีหาพันธุ์พืชมาแจก เดี๋ยววันที่ 12 สิงหาคอยดู พวกจัดงาน ประดับไฟกันอร้าอร่าม 7 วัน 7 คืน ค่าไฟเท่าไหร่หว่า ....เวรจริง ๆ แต่นั่นแหละ เวรย่อมระงับด้วยการทำเวร ถ้าไม่ทำเวร โดนครูตี ใครมีหน้าที่เสียภาษี เชิญเสียไปก็แล้วกัน เฮ
เออ คุณพญานาค ปลาวาฬ งูดิน ปลากระทุงเหว ไส้เดือนฝอย แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้คำแปลสูตรปุ๋ยล่ะจ๊ะ พ่อคุณ แม่คุณ ...
อยู่เชียงรายจะเอาปลาทะเลที่หาง่าย ๆ ที่ไหนหว่า ..นึกไปนึกมา ...ปิ๊ง ใช้ปลาป่นได้มั๊ยครับลุง เอาแช่น้ำ + ปลาร้าของแม่ยายลงไปหน่อย ไม่มีกากน้ำตาล ใช้น้ำอ้อยคั้นสด ๆ ซีวะ
(สูตร ใช้น้ำอ้อยสด แทนกากน้ำตาลนี่ เป็นสูตรของ อจ. ดร.สุจิตร โนคำ แห่ง ม.แม่โจ้ เชียงใหม่ครับ เจ้าของหัวเชื้อจุลินทรีย์ DMO แห่งแม่ปิงการเกษตร เค้าบอกว่า ใช้ดีกว่าของ EM คิวเซ แก่งคอย) ...มีมะพร้าวน้ำหอมเอาจากนครปฐมมาปลูกไว้ เนื้อพอกินได้ แต่น้ำนอกจากจะไม่หอมแล้ว ยังเปรี้ยวอีกต่างหาก นี่ถ้าผมไม่เก็บมากับมือจากต้นที่หวานหอมที่สุดจากบ้านทิดแดงละก็ จะเอาลูกไปขว้างหลังคาบ้านให้ดู ผ่าเอาน้ำใส่ลงไป แล้วก็เอา 46-0-0 + 16-16-16 อัตรา 1: 1 ก็จะกลายเป็น 31-8-8 ใส่ลงไปด้วย ทีนี้พอจะกล้อมแกล้มกลายเป็นปุ๋ยปลาทะเลป่นแห้งหมักซูเปอร์ สูตร 31-8-8 น่าจะพอได้นะครับลุง
. |
|
|
cherm |
ตอบ: 27/07/2012 10:30 am ชื่อกระทู้: คนรู้ไม่ได้ทำ คนทำไม่รู้ |
|
สวัสดีค่ะ ลุงคิม
สวัสดี ค่ะ ทิดแดง ทิดบัติ และ สมช.ทุกท่าน
ยัยเฉิ่ม อ่านกระทู้นี้ตั้งแต่แรก และก็มาคิดว่า แต่ละคนช่างมีความรู้ที่มากมายเหลือเกิน ยัยเฉิ่ม คงจะหนักยิ่งกว่า งูดินหรือปลากระทุงเหว ความรู้ที่มีคงเท่าไส่เดือนฝอย(ยัยเฉิ่ม กลัวใส้เดือนเป็นชีวิตจิตใจ)
ทิดแดง บอกให้ช่วยกันเปิด dict ยัยเฉิ่ม ว่าไม่ทันแน่นอน
ขอเป็นคนรออ่าน นะคะ คงไม่น่าเกลียดสักเท่าไร เพราะลุงเคยบอกไว้ว่า "สังคมแห่งการแบ่งบัน"
ยัยเฉิ่ม อ่านแล้วก็มีความคิดว่า ทุกๆท่าน มีความรู้กันมากมาย ที่นำมาแบ่งบัน
แต่มีคนอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ที่ไม่มีความรู้เรื่องเกษตร แต่ทำอาชีพเกษตรมาตลอดชีวิต ทำตามข้างบ้าน เผาฟาง บ้ายูเรีย (ขออนุญาติเอาคำพูด ลุงคิม นะคะ) และอีกมากมาย
ทำอย่างไรนะ คนที่ทำอาชีพเกษตร ถึงจะขวนขวายหาความรู้ใส่ตัว รู้จักวิเคราะห์ ถึงเหตุและผล ที่เป็นหนี้อยู่ทุกวันนี้ เพราะอะไร
มุ่งมั่น แนวแน่ แม่นสูตร แม่นหลัการ
ยัยเฉิ่ม จะเป็นชาวนา
. |
|
|
DangSalaya |
ตอบ: 27/07/2012 12:23 am ชื่อกระทู้: How to Mix Fresh Fish in Soil to Make Fertilizer |
|
Hellow YOUNG Kim Zagass สวัสดีครับลุงคิม (หนุ่ม) แบบ รงค์ วงษ์สวรรค์ (หนุ่ม) นะครับ
โห ! อะไรกันครับเนี่ย ลุงคิมเปิดตำนานปุ๋ยปลาทะเลหมักหรืออย่างไรกันครับ ขนตำรามาเพียบ สมาชิกคงเอาสูตรไปหมักปุ๋ยปลาทะเลใช้กันเองสนุกละคราวนี้ ....พญานาคกับปลาวาฬ ไม่ว่าง ติดราชการอยู่ที่ปาย แม่ฮ่อองสอนโน่น ยัยเฉิ่ม ทิดบัติ และคุณมงคล ช่วยกันหน่อยครับ เปิด Dict, ไม่ทัน งูดินกับปลากระทุงเหว คงจะแย่ละคราวนี้ กระทู้เก่ายังแปลไม่เสร็จ กระทู้ใหม่มาอีกแล้ว ใครแปลเก่ง ๆ ช่วยกันครับ เป็นการเผยแพร่สูตรทำปุ๋ยปลาหมักจากปลาทะเล
อ่านเจอกระทู้ต่อจาก Comments ของทิดบัติเรื่องปลาทูเชียงรายตัวละ 40 ลุงก็เปิดตำนานมาเป็นกะตั๊ก เวลาอ่านหนังสือนิยาย ผมชอบอ่านตอนท้ายก่อนจบก่อนว่า จบแบบไหน ถ้าจบแบบไม่ถูกใจ ก็จะไม่อ่าน พอเจอ Comment ของลุงต่อจากทิดบัติ ผมอ่านตอนท้ายก่อนเลย ผมขอคัดลอกแล้วขออนุญาตแปลตอนท้ายนี่เลยนะครับ ถ้าผิดพลาด ไม่ขออภัยแล้ว ถ้าผิด ใครก็ได้ช่วยแปลให้ถูกด้วย จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
How to Mix Fresh Fish in Soil to Make Fertilizer
ตอนต้น ๆ เก็บไว้ก่อน ตอนท้ายเค้าบอกว่า
Tips & Warnings
Do not apply any fertilizers to plants that appear unhealthy until you diagnose the problem with a soil test; in most cases, fertilizer will exacerbate the problem.
เคล็ดลับ และ คำเตือน (แนะนำ)
อย่าใช้ปุ๋ยกับพืชทุกชนิดที่เห็นว่ายังไม่แข็งแรง (เช่น พืชปลูกใหม่ ๆ หรือพืชที่ทรุดโทรม) จนกว่าคุณจะแก้ปัญหาด้วยการทดสอบดินเสียก่อน (คือ ดูดินว่า แห้ง เปียก ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่) และ (ถ้าให้ปุ๋ย)ในกรณีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ปุ๋ยจะเป็นปัญหาทำให้ต้นไม้ ทรุดโทรมหนักยิ่งขึ้น...
ฟังดูยังไม่เป็นภาษาพูด ลองใหม่
อย่าให้ปุ๋ยกับต้นไม้ที่ยังอ่อนแอ (เช่น ต้นไม้ที่ปลูกใหม่ ๆ, ต้นยังเล็ก, หรือต้นที่โทรม-ใกล้จะตาย) ...ให้ดูที่ดินซะก่อนว่าเป็นยังไง ...(แห้ง เปียก ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่) แล้วก็ ถ้าขืนให้ปุ๋ยในตอนนี้ ต้นไม้จะโทรมหนักยิ่งขึ้น (ถ้าต้นเล็ก ๆ หรือที่ปลูกใหม่ก็จะตายไปเลย)
Heavy applications of fish emulsion fertilizer can cause leaf burn.
การผสมปุ๋ยปลาหมักที่เข้มข้นมากเกินไป อาจทำให้พืชเกิดอาการใบไหม้ได้
Fish emulsion fertilizer may attract wild animals and dogs.
(กลิ่นของ) ปุ๋ยปลาหมัก อาจดึงดูดสัตว์ป่าและสุนัข (แต่จากที่ผมเคยทดลอง เอาใบสาบเสือ เปลือกกุ้ง และ กบ [Frog] สับใส่ลงไปด้วย สุนัขหรือหมา ไม่เข้าใกล้หรอกครับ แต่แมว ไม่แน่ เพราะใบสาบเสือชื่อก็บอก เสือกับหมาไม่ถูกกัน แล้ว หมาไม่กินกุ้งกับกบนะครับ)
Related Searches:
การค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้อง:
More from eHow
เพิ่มเติมจาก eHow (eHow เป็นชื่อผู้สนับสนุนรายการ อ่ะ ครับ)
Why Do My Aquarium Plants Turn Brown or Transparent?
ทำไมต้นไม้ในสวนใต้น้ำของผม มันกลายเป็นสีน้ำตาล และดูโปร่งใส? (ถ้าอยากรู้ ให้มาดู...)
How to Make Fish Emulsion Fertilizer
วิธีการทำปุ๋ยหมักจากปลา (หรือวิธีการทำปุ๋ยปลาหมัก...ภาษาไทยมันดิ้นได้ครับ)
More to Explore
How to Compost Dinner Scraps (mom.me) Gardening for Kids. Tips for Gardening with Your Kids . (parenting.com)
What's this? This content unit connects website visitors with interesting articles, stories and videos. View Privacy Policy
ข้อควรวินิจฉัยเพิ่มเติม
จะทำอย่างไรกับ....วิธีการหมักเศษอาหารเย็น * (mom.me)....การทำสวนสำหรับเด็ก ๆ .. เคล็ดลับการทำสวนกับลูก ๆ ของคุณ (ดู parenting.com)
สิ่งนี้คืออะไร? ..นี้คือข้อจำกัดของผู้เข้าชมในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ ที่มีบทความ เรื่องราวและ วิดีโอ ที่น่าสนใจมากมาย ให้ดูนโยบายความเป็นส่วนตัว (นะจ๊ะ)
* อาหารเย็นของฝรั่ง เป็นอาหารมื้อหนัก ส่วนมื้อเช้า กาแฟ ขนมปัง มื้อสาย และบ่าย เบรคกาแฟ ส่วนอาหารกลางวัน อาหารจานด่วน ส่วนของไทย หนักทุกมื้อ แถมมื้อดึกและก่อนนอนก็ยังมี
. |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 26/07/2012 10:24 pm ชื่อกระทู้: |
|
How to Make Liquid Fertilizer
If you are tired of the hassles of carrying around bags of commercial fertilizer and never know for sure if you are using too much, then creating your own liquid fertilizer is for you. No more guessing how much to use or worrying about burning tender roots. This liquid fertilizer is easy to apply, doesn't require the labor of mixing it into the soil, and can be applied anywhere at any time even to those hard to reach plants you can't quite get to with commercial fertilizers. Does this Spark an idea?
Instructions
1. Save all cooked or raw vegetable scraps from meal preparation. This includes potato peelings, apple peelings, pea pods, or any other parts you would ordinarily discard. Even the water used to cook vegetables in is a good source of nutrients for your garden.
2. Place the scraps in an ordinary household blender and emulsify. If scraps are dry, add enough water to assist the blender in creating a smooth puree.
Sponsored Links
China Fluoride Materials
Fluoride Materials Monthly Report Market dynamic of Fluoride industry
www.cnchemicals.com
3. Pour the vegetable scrap puree into a large plastic bucket. Add 1 capful of ammonia and 1/2 teaspoon of Epsom Salt per quart of puree and mix thoroughly with a large wooden spoon.
4. Seal the container and let set at room temperature overnight or until you have enough compost to create liquid fertilizer for your garden. Each quart of mulched veggies will make one gallon of liquid fertilizer.
5. Prepare liquid fertilizer for the garden. Simply mix one quart of pureed vegetables to one gallon of warm water. Shake to mix well.
6. Pour liquid fertilizer directly on the soil around plants in the garden.
Sponsored Links
วัสดุตกแต่งบ้าน ตราช้างwww.trachang.co.th/Landscape
ครบทุกคำตอบงานตกแต่ง Landscape พื้น รั้ว ผนัง และสินค้าแต่งสวน
Organic Farmingwww.acresusa.com
Learn how to farm organically Books, magazine on crops, livestock
Hendrix Timber Mulcherswww.lynnhendrixequipment.com
Lynn Hendrix Equipment, LLC 100 to 575 Horsepower Mulchers
Flange Spreaderswww.a-w-devices.com/
Pop-It Tools and other spreaders Starting at $599. Call for quote.
Tips & Warnings
Using liquid fertilizer on a daily basis will prevent the bucket of vegetable scraps from developing an odor.
Use cooking liquids to help emulsify foods in the blender or as a substitute for warm water when mixing the pureed veggies before applying to your garden.
Do not use vegetable scraps that have been fried or that have fats added.
http://www.ehow.com/how_2303192_make-liquid-fertilizer.html |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 26/07/2012 10:17 pm ชื่อกระทู้: |
|
How to Mix Liquid Fertilizers for Soil
There are many different plant fertilizers available to help gardeners add nutrients to the soil. One type of fertilizer that is growing in popularity is liquid fertilizer. Liquid fertilizer comes in a concentrated liquid form and is mixed with water before being applied to grass, plants or flowers. The biggest advantage that liquid fertilizers have over pellet or granular fertilizers is that liquid fertilizers can be applied to the plant's leaves as well as the surrounding soil. Does this Spark an idea?
Instructions
1. Remove the top from the garden sprayer by grasping it with the one hand and turning it counterclockwise.
2. Fill the garden sprayer with 1 gallon of tap water.
Sponsored Links
Stone Crushing Plant
Buy 25-1100t/h Stone Crushers ? Ask Liming® Crusher for Price !
www.Break-Day.com/Stone_Crushers
3. Open the container of liquid fertilizer and measure out the amount recommended on the back of the product container. The usual measurements are one cap full of the liquid fertilizer per liter of water. This measurement varies depending on the manufacturer and type of fertilizer.
4. Pour three to four cap fulls of liquid fertilizer into the garden sprayer as directed by the instructions.
5. Place the top on the garden sprayer and turn it clockwise until securely closed.
6. Shake the garden sprayer to thoroughly mix the water and liquid fertilizer solution.
Sponsored Links
All Star Tradingwww.allstartrading.com
Merchants in Organic Grain and Feed Birdfood and Petfood Ingredients
Brokers with ADMISwww.admis.com/introducingbrokers
A Leader in Futures Brokerages With Unparalleled Broker Service.
Odor Control Systemwww.advancedcarbonsystems.com
Activated Carbon Odor Control High Quality. Best Value
Soil Mixing Attachmentswww.alpinecutter.com
Heavy Duty Soil Remediation Equip. In situ Remediation/Stabilization
Tips & Warnings
Liquid fertilizers should be used sparingly on potted plants as the salt from the fertilizer builds up over time and can damage the plant. Pellet fertilizers are better for house plants.
http://www.ehow.com/how_5805934_mix-liquid-fertilizers-soil.html |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 26/07/2012 10:03 pm ชื่อกระทู้: |
|
How to Mix Fresh Fish in Soil to Make Fertilizer
Fish emulsion -- a natural fertilizer made from rotted fish -- provides nitrogen and small amounts of other elements that promote plant growth. If applied properly to healthy plants, the fertilizer safely enriches trees, shrubs, flowers, vegetables and other garden plants. Due to its strong temporary odor, it is best to apply fish emulsion fertilizer exclusively to outdoor plants. Does this Spark an idea ?
Instructions
1. Contact your local county or university extension service for a soil testing kit. Take several samples of the soil you want to fertilize, and submit the samples to the extension. The extension will analyze the samples and give you information about how much fertilizer to use with your specific soil, and how often to fertilize.
2. Mince fish wastes. Fill a bucket or drum 1/3 of the way with the fish. Fill the rest of the drum with water. Make the mixture in winter so it will be ready for fertilizing in spring.
Sponsored Links
Vapor Intrusion Solutions
Solve access problems with horizontal remediation wells
www.directionaltech.com
3. Set the bucket or drum in a covered, ventilated location so the odor of decomposing fish won't bother family members and neighbors or attract wildlife. Wait for the mixture to rot fully.
4. Mix the emulsion and add it to a garden sprayer in early spring, right before planting.
5. Spray the emulsion evenly over your soil according to the advice given by your extension service. An average application is 3 gallons per 100 square feet. Sandy, fast-draining soils require more fertilizer, and hard clay soils require less.
Sponsored Links
Fertilizers, fertiliserswww.fermofeed.com
Fertilizers, fertilisers Fertilizer for professional use
Quality Malt and Molasseswww.maltproducts.com
Manufacturer/Distr. of Malt Extract Molasses, Grain and Sugar Extracts
Organic Fertilizationwww.oz-gultarim.com.tr
Agrochemicals and pesticides Organic and Chemical Fertilizers
Hendrix Timber Mulcherswww.lynnhendrixequipment.com
Lynn Hendrix Equipment, LLC 100 to 575 Horsepower Mulchers
Tips & Warnings
Do not apply any fertilizers to plants that appear unhealthy until you diagnose the problem with a soil test; in most cases, fertilizer will exacerbate the problem.
Heavy applications of fish emulsion fertilizer can cause leaf burn.
Fish emulsion fertilizer may attract wild animals and dogs.
Related Searches:
More from eHow
Why Do My Aquarium Plants Turn Brown or Transparent? How to Make Fish Emulsion Fertilizer
More to Explore
How to Compost Dinner Scraps (mom.me) Gardening for Kids Tips for Gardening with Your Kids (parenting.com) What's this? This content unit connects website visitors with interesting articles, stories and videos. View Privacy Policy
http://www.ehow.com/how_8161164_mix-fish-soil-make-fertilizer.html |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 26/07/2012 9:53 pm ชื่อกระทู้: กูเกิ้ล แปลภาษา ...อ่านแล้วมึนตึ๊บ |
|
ขอบคุณครับ คุณ (พระ) นเรศวร ที่ช่วยแปลวิธีการทำปุ๋ยปลาหมัก ....เอาของสูงมาตั้งชื่อเลยเนาะ...
อ่านที่คุณแปลโดย กูเกิ้ลแล้ว ผมเกรงว่า ถ้าจะใช้หมักปลาคงต้องคุยกันอีกนาน แต่ก็ขอบคุณที่มีใจเข้ามา ถือว่าเป็นการ "ร่วมด้วยช่วยกัน" เป็นการแบ่งปันความรู้ในเว็ปของลุงคิม และถ้าคุณอยากเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการให้ปุ๋ยกับพืช คุณเข้ามาที่เว็ปลุงคิมนี้ ถูกต้องแล้ว คุณจะได้ความรู้และประสบการณ์ แบบทางตรง แต่หากว่าคุณรอบรู้ทุกอย่าง หมดทุกพืชแล้ว ผมก็ขออภัย มีความรู้อะไรที่พอจะแบ่งปันให้เพื่อน สมช. รู้ก็เขียนลงมาเลยครับ
เมื่อวานคุยถึงเรื่อง เมื่อ 30 ปีก่อน ผมเอาไส้ปลาทูมาหมักเป็นปุ๋ย วันนี้ก็เลยนึกอยากกินน้ำพริกปลาทู (อยู่เชียงราย กินแต่น้ำพริกปลาจี่ คือ น้ำพริกปลาย่างครับ ไม่ได้กินน้ำพริกปลาทูมาซะนาน) ก็ให้เด็กที่บ้านไปซื้อปลาทู คุณเชื่อมั๊ยครับว่า ปลาทูนึ่งที่เชียงราย ตัวกระป๋อยเดียว 3 ตัว 100 ดูจากรูปนะครับ
ตัวใหญ่ @ 40 ตัวเล็ก @ 20 ผมคงอยู่ป่าอยู่ดอยซะนานเลยไม่รู้ราคาปลาทูนึ่ง
เทียบกับฝ่ามือ ตัวก็ประมาณนี้...เบ็ดเสร็จ ทั้งน้ำพริกด้วย 140 กว่าบาท ผักไม่ได้ซื้อ ที่บ้านมีผักสารพัดอย่าง เพียบ
ถ้าเอาปลาทู (ปลาทะเล) สดมาหมักปุ๋ย เอาแค่ 20 ลิตร จะใช้ปลาทูสดซักเท่าใด ตามที่เคยหมักไส้ปลาใช้ถัง 20 ลิตร ก็ใช้เศษ 2 ใน 3 ถังก็ประมาณ 10 กว่ากิโล ปลาทูสดโลละเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ลืมให้เด็กถาม
. |
|
|
narasuon |
ตอบ: 26/07/2012 12:55 pm ชื่อกระทู้: |
|
ช่วยแปลให้ใน Google คร่าวๆครับ ลองเรียบเรียงดูเอาใหม่ให้ละเอียดอีกทีแล้วกันครับ
ปุ๋ยปลาอิมัลชัน / ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล
1. วิธีการสร้างปุ๋ยปลาอิมัลชัน
โดยสนับสนุนวิธี | อัพเดท 2 กันยายน 2011
อิมัลชันปลาเป็นหนึ่งในปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถป้อนโรงงานของคุณ จะให้เพิ่มอย่างรวดเร็วของไนโตรเจนที่ใช้งาน, ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่พืช ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน - มันถูกสร้างขึ้นมาจากซากของปลา - คุณอาจพบประโยชน์ของธาตุอาหารพืชของคุณมีค่าเกินกลิ่นชั่วคราว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการทำปุ๋ยน้ำปลา | eHow.com http://www.ehow.com/how_5100132_make-fish-emulsion-fertilizer.html # ixzz1pO7GmzxY
คำแนะนำ
o 1 เพิ่มส่วนปลาสดจะน้ำอุ่น blenderwith และล่วนผสมของ หลีกเลี่ยงการใช้ปลากระป๋องสำหรับใส่ปุ๋ยตั้งแต่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีสารกันบูดเสริม
o 2 กรอกด้านล่างของถังแกลลอน 5-มีใบแห้งฟางหญ้าแห้งหนังสือพิมพ์และ / หรือขี้เลื่อย เหล่านี้จะช่วยในการควบคุมกลิ่นและดูดซึมไนโตรเจนเสริมจากปลา
o 3 เพิ่มกากน้ำตาล (unsulfured หรือแห้ง) เพื่อถังปุ๋ยเช่นกัน ซึ่งจะช่วยในการควบคุมกลิ่นปลาอิมัลชันและยังสร้างจุลินทรีย์เพื่อเร่งกระบวนการของการย่อยสลาย
o 4 เพิ่มสาหร่ายทะเลสดหรือแห้งเป็นคอนเทนเนอร์ (จำเป็น)
o 5 เพิ่ม 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ ของเกลือ Epsom นี้จะเพิ่มแมกนีเซียมและกำมะถันที่จำเป็น
o 6 เพิ่มฝาและคนอิมัลชันปลาครั้งหรือสองครั้งต่อวันและให้ผสมนั่งเป็นเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
o 7 เจือจางปุ๋ยปลาอิมัลชันอัตราส่วน 1-to-5 และเพิ่มให้กับโรงงานของคุณหรือสเปรย์บนใบเป็นปุ๋ยทางใบ
2 - วิธีการทำปุ๋ยปลา
โดยลิซ่ารัสเซลล์, สนับสนุนวิธี
ปุ๋ยอินทรีย์ปลาเป็นหนึ่งในปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่คุณสามารถหา เรียนรู้วิธีที่จะทำให้อิมัลชันปลาที่บ้าน ปุ๋ยปลาอิมัลชันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำและใช้เมื่อคุณทำตามคำแนะนำง่ายๆเหล่านี้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีการทำปุ๋ยปลา | eHow.com http://www.ehow.com/how_2325703_make-fish-fertilizer.html # ixzz1pO9Fi7pS
คำแนะนำ
วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ปลาอิมัลชัน
o 1 ของเหลวปลาและสาหร่ายทะเลหรือโดยวางไว้ในเครื่องปั่นด้วยน้ำอุ่นและการผสมอย่างทั่วถึงจนกว่าคุณจะได้สร้างน้ำนม
o 2 เทอิมัลชันปลาลงในถังแกลลอน 5 ให้แน่ใจว่าได้ใช้ถังที่มีฝาปิดที่สามารถปิดผนึกอย่างแน่นหนา
o 3 เพิ่มหนังสือพิมพ์หั่น, ใบแห้ง, ขี้เลื่อยหรือคลิปหญ้าสีน้ำตาลถังปุ๋ยให้อาหารปลาอิมัลชันของคุณเป็นมันสลายตัว
o 4 เทกากน้ำตาลลงในถังเพื่อควบคุมกลิ่นและมีส่วนร่วมจุลินทรีย์เพื่อสุขภาพปลาปุ๋ยอินทรีย์อิมัลชันของคุณ
o 5 เปิดถังในแต่ละวันและคนปุ๋ยปลา เปิดถังยังช่วยให้ "เรอ" อิมัลชันปลาที่มันสลาย
o 6 รออีก 2 สัปดาห์จนส่วนผสมทั้งหมดได้หันสีน้ำตาลเข้มก่อนที่จะใช้ ถ้าคุณต้องการที่จะกำจัดกลิ่นคาวคุณสามารถเพิ่มน้ำตาล, กากน้ำตาลหรือผลไม้ที่ผสม pureed และหมักไม่กี่วันอีกต่อไป
3 วิธีการทำปุ๋ยปลาออกจากข้อความที่ฝากไว้กับปลา
โดยนักบินเจฟฟรีย์ไบรอัน, เว็บไซต์ผู้สนับสนุน
คุณสามารถทำให้ปลาที่มีประสิทธิภาพปุ๋ยอิมัลชันที่บ้านโดยใช้ชิ้นส่วนและเศษปลา ปุ๋ยปลาโฮมเมดมักจะทำงานได้ดีกว่าเก็บซื้อ-พันธุ์เพราะมันมักจะทำจากเศษปลาที่มีคุณภาพสูงที่มีอาหารมากขึ้นกระดูกและน้ำมัน การเพิ่มส่วนผสมจากธรรมชาติเพียงไม่กี่อื่น ๆ ในการผสมปุ๋ยช่วยเพิ่มกิจกรรมของแบคทีเรียที่จะทำให้อิมัลชันปลาประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น บันทึกหัวปลาหางและเศษกระดูกที่จะทำให้ปุ๋ยอินทรีย์ราคาถูกที่ทำงาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: วิธีการทำปุ๋ยปลาออกจากข้อความที่ฝากไว้กับปลา | eHow.com ixzz1pOBlZMPg http://www.ehow.com/how_6517806_make-fertilizer-out-fish-scraps.html #
คำแนะนำ
o 1 เศษปลา Drop ลงในอาหารโปรเซสเซอร์และชีพจรใบมีดเพื่อตัดชิ้นส่วนที่เป็นข้าวต้มคาว เพิ่มเศษปลาสับไป 5-แกลลอนถังพลาสติกจนกว่าจะมีประมาณครึ่งหนึ่ง ปลาจะย่อยสลายเป็นปุ๋ยได้เร็วขึ้นเมื่อพื้นที่ผิวสัมผัสมากขึ้น
o 2 เติมถังที่ภายในนิ้วของขอบที่มีเศษเล็ก ๆ ของหนังสือพิมพ์ใบสีน้ำตาลแห้งหรือขี้เลื่อย นี้วัสดุที่แห้งจะผึ่งลมปลาย่อยสลายและดูดซึมไนโตรเจนออกเพื่อเพิ่มความเร็วในกระบวนการสลายตัว
o 3 เทโถทั้งหมดของกากน้ำตาลลงในถังก่อนที่จะปิดผนึกฝาอย่างปลอดภัย จำนวนเล็กน้อยเกลือ Epsom เพิ่มแมกนีเซียมและกำมะถันที่มีสารเติมแต่งที่พบในปุ๋ยปลาเชิงพาณิชย์ น้ำตาลในกากน้ำตาลจะสร้างแบคทีเรียแอโรบิกมากขึ้นในกิจกรรมและให้ลงกลิ่นของปลาที่เน่าเปื่อย
o 4 เขย่าถังที่ปิดสนิทในทิศทางที่ทุกคนเป็นเหยงที่เป็นไปได้ในการผสมเนื้อหาอย่างละเอียด ทำเช่นนี้วันละครั้งเพื่อให้แบคทีเรียที่ทำงานตลอดทั้งเรื่องเนื้อที่
o 5 เก็บถังที่ปิดสนิทในที่อบอุ่นที่จะออกจากแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปิดทุกวันและ Burping กวน (และเขย่าถังก๊าซทุกวัน buildup เผยแพร่และผสมวัสดุที่ผุ
o 6 เจือจาง 1 qt ของอิมัลชันปลาสองสัปดาห์กับ 1 แกลลอนน้ำก่อนที่จะใช้ปุ๋ยกับพืช การใช้ปุ๋ยปลาที่แข็งแรงสมบูรณ์จะฆ่าหรือความเสียหายพืชเล็ก
o 7 ดำเนินการต่อเพื่อร่วมจำนวนเงินเท่ากับเศษปลาและไม่ว่าสีน้ำตาลแห้งเหมือนใบไม้และขี้เลื่อยเป็นอิมัลชันที่ใช้ แนะนำวัสดุใหม่เพื่อเก่าจะเริ่มต้นอย่างรวดเร็วกระบวนการหมักและให้คุณอุปทานสิ้นสุดเกือบปุ๋ยเข้มข้น
. |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 26/07/2012 11:01 am ชื่อกระทู้: ปุ๋ยปลาหมักจากหลายชาติพันธุ์ |
|
ที่ลุงบอกมานี่ ปุ๋ยปลาหมักจากฝีมือสาว ๆ หลายชาติพันธุ์ เหรอครับ นั่นแน่....แล้วเอ้อ...อ้า... สาวลาวไปไหนซะล่ะ ลืมข้อยแล้วหรือไร...
พอดีว่า ตอนนี้ทิดแดงเค้าไปอยู่ที่ปาย ได้ข่าวว่าไปอยู่หมู่บ้านกะเหรียง (ปกากะญอ) ก็คงผ่านดินแดนหลายเผ่าพันธุ์ เค้าบอกว่า บนดอยไม่มีปลาทะเล มีแต่ปูภูเขา
จากการศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบ เค้าบอกว่า
ลีซอ ปูโพรก,
มูเซอ ปูอัด,
ยูนนาน ปูสองกระดอง,
เย้า - ปูนิ่ม
ไทใหญ่ ปู่ไข่,
กะเหรี่ยงหรือปกากะญอ ปูเนื้อแน่น ....
เค้ายังบอกว่า พริกกะเหรี่ยง มันเผ็ดมาก ๆ แต่เผ็ดแบบทื่อ ๆ มาเจอพริกขี้หนูสวน ถึงเมล็ดจะเล็ก แต่มันเผ็ดแบบมีรสชาติ แถมกลิ่นหอมอีกต่างหาก
ทีนี้ถ้าเอาปูภูเขามาหมักแทนปลาทะเล คุณภาพระหว่างปูภูเขาหมัก กับปลาทะเลหมัก อย่างไหนจะ แรง ดีกว่ากัน ครับ อันนี้ไม่รวม หอยหมักนะครับ เพราะหอย (เชอรี่) ถ้าหมักไม่ดี หอยเน่า ..
ขอบคุณครับ
. |
|
|
kimzagass |
ตอบ: 25/07/2012 8:49 pm ชื่อกระทู้: |
|
1. สาวม้ง อีก้อ มูเซอ (ไทยภูเขาทุกชาติพันธุ์)
2. สาวญี่ปุ่น,
3. สาวเกาหลี
4. สาวจีนประเทศจีน
5. สาวจีนในประเทศไทย
6. สาวเวียดนาม
ทั้ง 6 สาวนี้เป็น เชื้อชาติ หรือ ชาติพันธุ์เดียวกัน....
จัดลำดับ 1 ถึง 6 หมายถึง ความสวย จากสวยน้อย ไปหาสวยมาก ..... สรุป : สาวเวียดนามสวยที่สุด
สาวย่อมหมายถึงเซ็กซ์....
XXX-SERVICE ดีที่สุด คือ สาวเวียดนาม.....
. |
|
|
Sombutt |
ตอบ: 25/07/2012 8:10 pm ชื่อกระทู้: ปุ๋ยหมักจากปลาทะเล |
|
กราบสวัสดีครับลุงคิม
หวัดดีทิดแดง ยัยเฉิ่ม คุณ PP และ
สมาชิกสีสันชีวิตไทยทุกท่าน
ก่อนอื่น ในรูปที่สอง ที่บอกว่าอีกคนจำชื่อไม่ได้น่ะ จะบอกให้ เธอชื่อว่า คันจังกู (กรูน่ะคันจริง ๆ)
โห..... ทั้งทิดแดง ยัยเฉิ่ม ลุงคิมก็อีกคน ไม่คิดถึงกันมั่งเลย ...คันจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่ทิดแดงจะบอกหมอจี๊ดให้เอาดักแด้ออกซะที ....ปุ๋ย E-Kim ก็ใกล้จะหมดอยู่แล้วก็รอของจากทิดแดงอยู่นี่แหละ จะให้ข้าวออกรวงก่อนรึไง ...ขืนชักช้า อดกินข้าวหมดทุกคนไม่รู้ด้วยนะเอ้า
สำหรับการหมักปุ๋ยปลาน่ะ จิ๊บจ๊อยครับ สมัยที่แม่เคยปลูกพลู เมื่อ 30 ปีมาแล้ว แม่เคยใช้ให้ผมไปเอาปลาทะเลจากสะพานปลามาหมัก ปลาที่ว่านี้คือ หัวกับไส้ปลาทู เคยถามแม่ว่าทำไมต้องใช้ปลาทู ไม่ใช้ปลาซิวปลาสร้อย แม่บอกว่าใช้ปลาทะเลมันแรงดี แต่จะซื้อปลาอื่น ๆ มันแพง เลยใช้ไส้ปลาทู ของฟรีครับ คือ เค้าแกะเอาไส้ออก เอาตัวไปทำปลาทูนึ่ง ส่วนไส้ มีคนเอาไปดองทำเป็นไตปลา มันเหลือแยะมาก
เอามาใส่ตุ่มหมักเป็นปีถึงจะเอามาใช้ได้ เอาผสมน้ำ 1 ทะนาน (1 ลิตร) น้ำ 1 โอ่ง(20 ปี๊บ) ตักใส่ถังเดินสาด ๆๆๆ ไปที่ค้างพลู ใบพลูมันเขียวน่ากิน ผมก็ไม่ได้สนใจ ทำตามคำสั่ง แต่ก็จำได้ไม่ลืม และมาถึงเมื่อพ่อปลูกกล้วยไม้ พ่อบอกใช้ปุ๋ยปลา กล้วยไม้มันโตเร็วดี แต่ใช้ปลาทูที่แม่แกหมักมันจะเป็นเขื้อรา พ่อเลยซื้อ ปุ๋ยปลาหมักของ ATLAS มาใช้ เมื่อผสมน้ำรดกล้วยไม้ ไอ้พวกกระถางต้นไม้ที่อยู่ข้างล่างก็พลอยงามไปด้วย โดยเฉพาะ หน้าวัว ดวงสมร ดอกสีแดงแปร๊ดเลยครับ
และขอบอก ปลาทะเลที่ดีที่สุดที่จะใช้หมักปุ๋ยปลาน่ะ ปลาทูน่าครับ ปลาทูธรรมดาก็ได้ เพราะมันมีคำว่า ทู เหมือนกัน
กรรมวิธีในการหมัก ทำแบบลูกทุ่งจริง ๆ ....แล้วพอมาเจอ มาฟัง ลุงคิมพูดถึงระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 ใช้ปลาทะเลหมัก ก็นึกถึงที่แม่ใช้ให้หมักหัว+ไส้ปลาทู ก็คือปลาทะเล ถึงบางอ้อเลย.......คนโบราณรู้ได้ยังไงว่า ใช้ปลาทะเลหมักมันดีกว่าปลาน้ำจืด แม่คงไม่รู้เพราะทำต่อ ๆ กันมา เพียงแต่บอกว่า มันแรง แล้วพอมาถึงที่พ่อใช้ปุ๋ยปลา ก็เพิ่งจะได้รู้ว่า เป็นปุ๋ยที่หมักจากปลาทะเล พ่อบอกว่า ไอ้กันมันใช้มาตั้ง 50 - 60 ปีแล้ว ...เรื่องผสมสูตรปุ๋ย ขอบอก ทิดแดงสู้ผมไม่ได้ คนนั้น นักวิชาการ นักทดลอง ส่วนผม คนปฏิบัติการ เพราะว่า เวลาผสมผิดสูตร ผมจะโดนพ่อเอาฝักบัวก้านยาว ๆ ฝอยละเอียด สำหรับรดน้ำกล้วยไม้ โขกหัวครับ น้ำตาซึมเลยก็แล้วกัน มันเลยซึมเข้ากระโหลก
มีใครบ้างรู้หรือเปล่าว่า สมัยก่อนเอาอะยิโน๊ะ..มาผสมน้ำกับปุ๋ย ฉีดพ่นลูกกล้วยไม้ที่ออกจากขวดนะคุณเอ๊ย ใบอวบอ้วนรากขาวจั๊วะ เพิ่งมารู้กันที่หลังว่า มีสาร นาโน
แล้วก็ 2 - 4 D.(Two-Four D) ใช้มาก ๆ เป็นยาฆ่าหญ้า แต่ถ้าใช้น้อย ๆ ปลายช้อนกาแฟจิ๊ดเดียว + น้ำต้มหน่อไม้ 100 ลิตร ฉีดพ่นต้นไม้ดูนะครับ ไอ้ที่บอกว่าปุ๋ยวิเศษฉีดคืนเดียวยาวเป็นศอก ขายลิตรเป็นหมื่นน่ะ ใช่เลย
...ขอเบรกไว้ก่อน ถอดดักแด้ออก หายคันเมื่อไหร่ ค่อยสาธยายต่อ
ขอบคุณ สวัสดีครับ
. |
|
|
DangSalaya |
ตอบ: 25/07/2012 3:57 pm ชื่อกระทู้: สงสัยมีอะไรฝังใจทีเกาหลี |
|
ที่ยัยเฉิ่มบอกว่า
สงสัยมีอะไรฝังใจทีเกาหลีแน่นอน (สงสัยสาวเกาหลีคงจะสวยนะ ลุงถึงไม่ลืม)
ขนาดชื่อลุง ยังอินเทรนเป็นภาษาเกาหลี
ข้อนี้ขอบอก มีแน่นอน เพื่อสนับสนุนคำพูดของยัยเฉิ่ม ดูรูปเอาเองนะจ๊ะ
ทำเป็นเขินว่ะยัยเฉิ่ม คนนี้ ชื่อ ซองวู
หนึ่ง + สอง พี่ไม่เป็นรองใคร เลือดทหารไทยต้องแบบนี้ คนหนึ่งชื่อ ดันดีจัง
อีกคนจำชือไม่ได้
คนนี้ชื่อ ดีจังแก
ขนาดหนังสือ เปิดออกมายังมีความหมายเลยว่ะ
สวัสดีครับลุง สวัสดียัยเฉิ่มตัวใครตัวมัน (โว๊ย)
. |
|
|