ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการออกดอกของลิ้นจี่
|
|
|
|
|
|
|
1. อายุของต้น
|
ต้นลิ้นจี่ที่ปลูกด้วยเมล็ดจะเริ่มออกดอกโดยใช้เวลา 6-25 ปีนับจากปลูก (Menzel, 1983) ส่วนกิ่งตอนใช้เวลาเพียง 1-2 ปีก็สามารถออกดอกได้ ทั้งนี้เนื่องจาก กิ่งตอนได้ผ่านระยะเยาว์วัยมาแล้ว
|
2. พันธุ์
|
ลิ้นจี่แต่ละพันธุ์มีความยากง่ายในการออกดอกแตกต่างกัน เช่น ลิ้นจี่พันธุ์ ฮงฮวยออกดอกได้ง่ายกว่าพันธุ์โอวเฮียะและกิมเจง
|
3. การเจริญทางกิ่งใบ
|
ต้นลิ้นจี่ที่ผลิใบใกล้ช่วงเวลาของการออกดอกจะทำให้โอกาสของการออกดอกลดน้อยลง จากการสังเกตต้นลิ้นจี่ที่ผลิใบอ่อนเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม พบว่าจะออกดอกน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย Menzel and Paxton (1987) เชื่อว่าลิ้นจี่ต้องการพักตัว (หยุดการเจริญเติบโตทางกิ่งใบ) อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ จึงจะสามารถออกดอกได้การหยุดการแตกใบถูกควบคุมโดยอุณหภูมิต่ำ สภาพการขาดน้ำหรือการปฏิบัติบางประการ เช่น การงดการให้น้ำ และการควั่นกิ่ง เป็นต้น
|
4. อุณหภูมิ
|
ช่วงอากาศหนาวเย็นประมาณ 1-2 เดือนก่อนการออกดอกเป็นสิ่งจำเป็นต่อการชักนำการออกดอกของลิ้นจี่โดยจะสังเกตได้จากในปีที่มีอากาศหนาวเย็นมากและยาวนาน โดยไม่มีช่วงอากาศอบอุ่นเข้ามาแทรกลิ้นจี่จะออกดอกได้มาก มีการศึกษาเกี่ยวกับอุณหภูมิ ต่อการออกดอกของลิ้นจี่ พบว่าระดับของอุณหภูมิและความยาวนานของอุณหภูมิต่ำที่ต้นลิ้นจี่ได้รับมีผลอย่างมากต่อการออกดอก ระดับอุณหภูมิที่ชักนำการออกดอกควรต่ำกว่า 20 องศา-เซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ต้นลิ้นจี่จะออกดอกได้ดีที่สุดเมื่อได้รับอุณหภูมิ กลางวัน/กลางคืน เท่ากับ 15/10 องศาเซลเซียส (ตารางที่ 2.4) ชิติ (2539) ศึกษาถึงอุณหภูมิรากต่อการออกดอกของลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ์ 3 ระดับ คืออุณหภูมิปกติ (ประมาณ 26 องศาเซลเซียส ) 20องศาเซลเซียส และ 15 องศาเซลเซียส พบว่าต้นลิ้นจี่ที่ได้รับอุณหภูมิรากต่ำ (15 องศาเซลเซียส) จะออกดอกได้ดีกว่าสภาพอุณหภูมิรากปกติ จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าต้นลิ้นจี่จะออกดอกได้ดีต้องได้รับอุณหภูมิของอากาศและอุณหภูมิของรากต่ำพอ ถ้าอุณหภูมิของอากาศต่ำแต่อุณหภูมิรากสูงหรือในทางกลับกันถ้าอุณหภูมิของอากาศสูงแต่อุณหภูมิรากต่ำการออกดอกจะเกิดขึ้นน้อยหรือไม่ออกดอก (ตารางที่ 2.5) บทบาทของอุณหภูมิต่อการออกดอกยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับสมดุลของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการออกดอก
|
|
|
5.ความชื้นในดิน
|
นักวิจัยหลาย ๆ ท่านเชื่อว่าถ้าลิ้นจี่ขาดน้ำก่อนการออกดอกจะทำให้ลิ้นจี่พักตัวและออกดอกมากขึ้น Stern et al. (1993) รายงานจากประเทศอิสราเอลว่าการงดการให้น้ำในฤดูใบไม้ร่วงเป็นเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ระหว่างเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน โดยงดการให้น้ำโดยสิ้นเชิงเป็นเวลา 35 วัน และให้น้ำอย่างจำกัดวันละ 1 มิลลิเมตร จนถึงกระทั่งฝนตก คือประมาณเดือนธันวาคม มีผลกระตุ้นให้ลิ้นจี่พันธุ์ มอริเซียส และ ฟลอริเดียน ออกดอกมากขึ้น โดยมีจำนวนช่อดอกต่อต้นประมาณ 2 เท่าของต้นที่ได้รับน้ำตามปกติและมีผลผลิต มากขึ้น 2-3 เท่าอย่างไรก็ตาม Chaikiattiyos et al. (1994) รายงานว่าการขาดน้ำเพียงอย่างเดียวไม่สามารถชักนำให้ลิ้นจี่ออกดอกได้ Menzel and Simpson (1994) สรุปว่าอุณหภูมิเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นการออกดอก การขาดน้ำในช่วงก่อนออกดอกช่วยส่งเสริมการออกดอกโดย มีผลทำให้หยุดการเจริญเติบโตทางกิ่งใบ
|
6.ช่วงแสง
|
มีบทบาทต่อการออกดอกของพืชหลายชนิดแต่สำหรับลิ้นจี่นั้นพบว่าการ ออกดอกไม่ตอบสนองต่อช่วงความยาวของวัน แต่มีผลต่อการบานของดอกโดยต้นลิ้นจี่ที่ได้รับช่วงแสงสั้นคือ 8 ชั่วโมง จะทำให้การบานของดอกตัวเมียนานเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการได้รับแสง 16 ชั่วโมง (Nakata and Watanabe, 1966) จากการสังเกตพฤติกรรมการออกดอกของลิ้นจี่ ในภาคเหนือมักพบว่ามีการออกดอกทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก ส่วนทางด้านทิศใต้และตะวันตกมักไม่ค่อยออกดอก ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่า ในช่วงการชักนำการเกิดดอกซึ่งตรงกับ ฤดูหนาว พระอาทิตย์จะตกทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ทำให้ได้รับแสงมากและอุณหภูมิสูงกว่าทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก
|
7.ธาตุอาหาร
|
ต้นลิ้นจี่ที่ได้รับธาตุไนโตรเจนมากเกินไป การออกดอกน้อยลงเนื่องจากไนโตรเจนส่งเสริมการเจริญเติบโตทางกิ่งใบ ดังจะเห็นได้จากรายงานของ Menzel et al. (1988) ว่าต้นลิ้นจี่ที่มีปริมาณของธาตุไนโตรเจนในใบสูงกว่า 1.85 % มีผลทำให้ลิ้นจี่แตกใบมากและการแตกใบจะเกิดมากที่สุดภายหลังจากช่วงฝนตกหนัก เขาเสนอว่าก่อนการออกดอกระดับของไนโตรเจนในใบควรต่ำกว่า 1.85 %
|
8.ฮอร์โมนภายในต้น
|
มีการวิเคราะห์ปริมาณของไซโตไคนินในยอดลิ้นจี่ในช่วงก่อนการออกดอกและในขณะที่เกิดตาดอกในลิ้นจี่พันธุ์เฮน เยน (Hen Yen) พบว่าปริมาณไซโตไคนิน จะเพิ่มขึ้นเมื่อตาใบมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นตาดอก ส่วนตาใบที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีปริมาณไซโตไคนินคงที่และมีปริมาณต่ำ (Chen,1991) เช่นเดียวกับการศึกษาของ ดรุณี (2539) พบว่าปริมาณของสารไซโตไคนินในยอดลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนการออกดอกและแตกใบอ่อนโดยมีปริมาณต่ำในสัปดาห์ที่ 9 ก่อนออกดอกและปริมาณเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 7 และคงที่ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 5 และจะเพิ่มขึ้นอีกในสัปดาห์ที่ 3 ก่อนออกดอก แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลการศึกษาถึงการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในต้นคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
|
|
|
|