-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 483 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ปศุสัตว์10




หน้า: 2/2




นกขุนทอง

รูปร่างลักษณะ

    เป็นนกขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ ความยาวจากปลายปากจดหาง 25 -40 ซม. ปากสั้นกว่าหัว ปากหนา แบนข้าง และโค้งเล็กน้อย (พันธุ์ที่พบใน ประเทศไทยยาวประมาณ 33 ซม.) ลำตัวค่อนข้างอ้วน ป้อม หัวโต คอสั้น หางสั้น ปลายหางตัด ขนบริเวณกระหม่อมสั้นมาก นกที่โตเต็มวัย ขนคลุมลำตัวสีดำเป็นมันเหลือบ ออกม่วง ที่บริเวณท้ายทอย และ หลัง , หน้าอกสีเหลือบออกเขียว และ น้ำเงิน ปีกมีแถบสี
ขาวบริเวณขนปีกบินชั้นแรก ขนปีก บิน จำนวน 6 เส้น ขนปลายปีกเส้นนอกสุดเล็ก จะงอยปากสีส้มอมเหลือง ถึงสีออกแดง ด้านโคนจงอย
ปากเข้มกว่า ด้านปลายจะงอยปาก บริเวณหลังตามีแผ่นหนังสีเหลือง เรียกว่า เหนียง อยู่บริเวณใต้ตาถึงข้างคอและท้ายทอยยาวประมาณ 3 ซม. ขา และ เท้า สีส้มอมเหลือง นิ้วเท้ามี 4 นิ้ว ชี้ไปข้างหน้า 3 นิ้ว และด้านหลัง 1 นิ้ว แต่ละนิ้วมีกรงเล็บที่โค้งแข็ง นกทั้งสองเพศมีสี
คล้ายกัน แต่นกตัวเมีย ตัวโตกว่านกตัวผู้ นกที่ยังไม่โตเต็มวัย สีลำตัวจะออกสีตุ่นๆ และ ไม่ดำเป็นมัน เหมือนนกที่โตเต็มวัย บริเวณด้าน
ข้างของหัว หลังตาจะมีสีเหลืองอ่อนจางๆ ซึ่งบริเวณนี้ต่อไปจะพัฒนาเป็นเหนียง เหมือนนกที่ โตเต็มวัย นกวัยอ่อน ปากจะมีสีคล้ำกว่านก
ที่เต็มวัย


แหล่งอาศัยหากิน

    ป่าดงดิบชื้น ป่าเบญจพรรณ ชายป่า ป่าโปร่ง และ พื้นที่โล่งใกล้ป่าดิบ แต่จะต้อง เป็นบริเวณที่มี ฝนตกชุกพอสมควร ปริมาณน้ำฝน
ที่ตกเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 180 มม. ต่อปี และ อุณหภูมิเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15 องศา เซลเซียส พบได้ตั้งแต่พื้น ที่ราบ ไปจนถึงความสูง 1,370 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ส่วนมากจะพบที่ความสูงเฉลี่ย 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล
    มักชอบกินน้ำหวานจากดอกไม้ป่า เช่น ดอกทองหลางป่า ดอกงิ้วป่า และ สนอินเดีย โดยเกาะที่ก้านดอก และยื่นหัว และ จะงอยปาก เข้าไปดูดน้ำหวานกิน จึงมีละอองเกสรติดบริเวณกระหม่อม และ ไปติดในเกสรดอกตัวเมีย จึงมีส่วน ในการช่วยผสมเกสรของดอกไม้
บางชนิดด้วย นอกจากนั้นยังชอบกินผลไม้สุก เช่น โพ ไทร ไกร กร่าง หว้า กล้วย มะละกอ ถ้าผลไม้มีขนาดเล็กไม่เกิน 2 ซม. มันจะกลืน
เข้าไปทั้งผล เมล็ดผลไม้ที่แข็งจะไม่ถูกย่อย และ จะถ่ายออกมาภายใน 1 ชั่วโมง สำหรับเมล็ดไม้บางชนิดที่มีเปลือกแข็งหุ้ม เช่น เมล็ด
จำปาป่า มันจะกินโดยใช้ปากขบให้เปลือกแตกก่อน นอกจากนี้ มันก็กินพวก ไข่มด หนอน แมลง ตัวอ่อนของแมลง ต่างๆ เช่น ตั๊กแตน ปลวก มด ตลอดจนสัตว์เลื้อยคลานพวก กบ เขียด กิ้งก่า หนูตัวเล็กๆ ที่มันจับได้ ตามพื้นป่า หรือตามกิ่งก้านของต้นไม้ หรือตามคาคบไม้ เช่น กิ้งก่า โดยจับฟาดกับต้นไม้ จนสลบ หรือ ตาย แล้วกลืนกิน ทั้งตัว ไม่ฉีกกินเหมือนเหยี่ยว นอกจากนี้อาจโฉบจับแมลง ที่บินผ่านมา
กลางอากาศบ้าง


นิสัยประจำพันธุ์

    นกขุนทองเป็นสัตว์สังคม ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง และออกหากินด้วยกันเป็นฝูง โดยมี จ่าฝูงคอยให้สัญญาณในการออกบิน ด้วยการส่ง
เสียงร้องออกมาก่อน จำนวนนกในฝูงมักจะเป็นเลขคู่เสมอ ตั้งแต่ฝูงละ 6 - 8 ตัว จนถึง 12 -20 ตัว เพราะนกจะจับคู่ในฝูงเดียวกัน และ เมื่อจับคู่กันแล้ว ก็ ยังรวมกลุ่มไปหาอาหาร เป็นฝูงเช่นเดิม มันจะแยกจาก ฝูงก็ต่อเมื่อ มีภาระในการเลี้ยงลูกอ่อน เท่านั้น แต่ก็ยังอยู่
ในละแวกเดียวกับฝูง และ มีการติดต่อกับฝูงอยู่เสมอ การหากิน จะ อาศัย หากินตามกิ่งของต้นไม้ใหญ่ หรือพุ่มไม้บ้าง แต่จะไม่ลงมา
ยังพื้นดิน การเคลื่อนไหวตามกิ่งไม้ มักใช้วิธีกระโดด ไปทาง ด้านข้าง ซึ่งแตกต่างจากนกเอี้ยง และ นกกิ้งโครงอื่นๆ ในต้นไม้ผล ที่นก
ชอบ มักพบหากินร่วมกับนกที่กินผลไม้ด้วยกัน เช่น นกเงือก นกโพระดก นกเขาเปล้า เป็นต้น
    หลังจากกินอิ่ม นกขุนทองทั้งฝูง จะไปเกาะพักตามกิ่งต่างๆของต้นงิ้วป่าบ้าง ทองหลางป่าบ้าง แต่จะต้อง เป็น ต้นไม้ที่มีใบแน่นทึบ โดยส่งเสียงสังสรรค์สนทนากันดังขรม ได้ยินแต่เสียงแอ๊ะๆ แอ๊ะๆ ดังไม่ขาดหู ตัวที่เป็นคู่กัน จะมีแบบ แผนการร้องที่ต่างจากตัวที่ไม่ได้
เป็นคู่กัน เมื่อตัวหนึ่งส่งเสียงร้อง คู่ของมันก็จะร้องตอบใน 2 - 4 วินาที นอกจากนั้น ลักษณะการ ร้องโต้ตอบของนกที่อาศัยอยู่ในบริเวณ
เดียวกันจะเหมือนกัน นกที่อยู่ในท้องที่อื่นจะร้องต่างกันออกไป คล้ายกับคนที่มีภาษาถิ่น แตกต่างกันออกไปในแต่ละภาคในเวลากลางคืน
จะเกาะนอนตามกิ่งไม้เช่นเดียวกับนกเอี้ยง หรือนกกิ้งโครงอื่นๆ แต่จะไม่ เป็น ฝูงใหญ่


ฤดูผสมพันธุ์ทำรังวางไข่

    โดยทั่วไปนกขุนทองจะผสมพันธุ์ และ วางไข่ปีละ 1 - 3 ครั้ง แต่โดยทั่วไป 2 ครั้ง ในช่วงฤดูร้อน และ ฤดูฝน และจะจับคู่แบบผัวเดียว
เมียเดียวตลอดไป จนกว่าอีกฝ่ายจะตายจากไปจึงจะหาคู่ใหม่ วัยเจริญพันธุ์ของนกขุนทอง จะอยู่ในราวอายุ 1 ปี ขึ้นไป ตัวเมียจะถึงวัย
เจริญพันธุ์ค่อนข้างเร็วกว่าตัวผู้เล็กน้อย นกขุนทอง ในป่า ผสมพันธุ์กันกลางอากาศ คือระหว่างที่นกทั้งคู่บินตามกันมา นกตัวผู้ที่บินอยู่
ข้างหลังจะเร่งความเร็วจนบินทัน และเข้าไป ประกบกับตัวเมียทางด้านหลัง ในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว ก็ผละออกจากกัน
    นกขุนทองเป็นนกประจำถิ่น ที่พบในประเทศไทย มี 2 พันธุ์ คือ G.r.intermedia (นกขุนทองพันธุ์เหนือ) และ G.r. religiosa
(นกขุนทองพันธุ์ใต้) มีลักษณะแตกต่างกันคือ G.r. religiosa ตัวใหญ่ และหนากว่า เหนียงแยกเป็น 2 แผ่นไม่ติดต่อกัน ระหว่างแผ่น
ที่อยู่ใต้หู กับแผ่นที่อยู่บริเวณท้ายทอย และพบเฉพาะทางภาคใต้ของไทย ส่วน G.r. intermedia พบทั่วไป ยกเว้นทางภาคใต้

แหล่งที่มา
http://www.zyworld.com/NAKARIN/HTMLhillmyna.htm





พบนกเอี้ยงหัวสีทอง Golden-crested Mynaและนกขุนทอง Hill Myna อยู่ร่วมกัน นกเอี้ยงหัวสีทองคาดว่ามีหนึ่งถึงสามตัว และนกขุนทองหนึ่งตัว วันที่ 25 พย 50 เวลาประมาณ 17.30 น. ที่บริเวณข้างลำห้วยต้นเขื่อนจักระ อำเภอทับสะแก ประจวบฯ ตำแหน่ง N11 34' 06.2'' และ E099 28' 49.4'' ผู้รายงาน ธนศักดิ์ ลือโรจน์วงศ์ นกอื่นที่พบบริเวณเดียวกันได้แก่ นกตะขาบดง นกหัวขวานสามนิ้วหลังทอง นกโพระดกธรรมดา นกตีทอง เหยี่ยวแมลงปอขาดำ บริเวณเดียวกันนี้ยังเคยพบนกหัวขวานแดงลาย นกกะเต็นใหญ่ธรรมดา นกบั้งรอกแดง นกขมิ้นท้ายทอยดำและ นกแก๊ก ส่วนบริเวณเหนือลำห้วยขึ้นไปอีกเคยพบนกกางเขนน้ำหลังแดงและนกกาน้อยหงอนยาว

เพิ่มเติมพบนกหกเล็กปากแดงและนกเขียวก้านตอง(ปีกสีฟ้า?) กำลังกินน้ำหวานดอกต้นทองเดือนห้า และ พบนกคัคคูสีมรกตบนต้นใกล้ๆกันอีกวันหลังจากนั้น และในวันที่27 พย ยังพบนกคัคคูหงอนอีกสองตัวและถ่ายรูปได้หนึ่งตัว และยังพบนกหกเล็กปากแดงและนกเขียวก้านตองอยู่เช่นเดิม

อนึ่ง ป่าไม้บริเวณโดยรอบห้วยเหนือเขื่อนเป็นป่าสงวนแห่งชาติและบางส่วนติดเขตอุทยานแห่งชาติถูกบุกรุกทำลายลงอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อนำที่ดินไปปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน มะละกอ และพืชไร่อื่นๆ พื้นที่ป่าบางส่วนเป็นบริเวณเชิงเขาสูงชันก็ถูกบุกรุกเช่นกันทั้งที่ผิดกฎหมาย โดยมีการให้เงินแก่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ (ประมาณสองหมื่นบาทจากที่ได้ทราบมา) เพื่อแลกกับการเอาหูไปนาตาไปไร่ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องปกติที่กระทำกันทั่วไปในจังหวัดประจวบฯและจังหวัดอื่นๆขณะนี้ การกระทำของบุคคลเหล่านี้ได้แก่นายทุนและนักการเมืองท้องถิ่น ไม่แยแสต่อกระแสสังคม การรณรงค์ใดๆต่อการอนุรักษ์ป่าไม้ การปลูกป่า และภาวะโลกร้อน เขาบางลูกถูกไถและถางขึ้นไปจนเกือบถึงยอดเขาก็มี เพียงเพื่อหวังรวยในอีกห้าหกปีด้วยการเป็นเจ้าของสวนยางพารา สภาพที่เห็นคือเขาหัวโล้นเลี่ยนเตียน ก่อนหน้านี้ป่ามีลักษณะเป็น secondary growth ซึ่งกำลังฟื้นตัวจากที่ถูกตัดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจไปหมดแล้วเมื่อประมาณสามสิบปีที่แล้ว แต่ก็ต้องมาเจอเคราะห์ซ้ำสองอย่างน่าเสียดาย ???
Embarrassed













หน้าก่อน หน้าก่อน (1/2)


สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (6848 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©