การเพาะเห็ดเห็ดในท่อนไม้
สพอ. / ฝพส.
โดยธรรมชาติในอากาศจะมีเชื้อจุรินทรีย์ มากมายล่องลอยอยู่ เชื้อราเห็ดก็เป็นจุริน ทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในอากาศ เมื่อเชื้อราเห็ดในอากาศตกสัมผัสกับเปลือกไม้ ก็จะเจริญอยู่ภายนอกเปลือก เมื่อต้นไม้ต้นนั้นตายลงเชื้อราเห็ดก็จะเจริญเข้าไปในเนื้อไม้ต้นนั้น จนเกิดดอกเป็นเห็ดในที่สุด การเพาะเห็ดในท่อนไม้ เป็นการเรียนแบบธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถเลือก ชนิดเชื้อราเห็ด โดยเจาะใส่เชื้อราเห็ดในเนื้อไม้นั้นโดยตรง ไม้ที่ใช้ควรเป็นต้นไม้ที่ไม่ให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจแล้ว เช่น ต้นไม้ที่ให้ผลิตน้อย หรือต้นไม้ที่ขึ้นผิดที่ หรือเป็นส่วนของกิ่งที่ต้องการตัดทิ้ง ไม่แนะนำให้ไปตัดไม้จากป่าซึ่งจะเป็นการทำลายทรัพยากร ธรรมชาติ
วัสดุอุปกรณ์
1. ท่อนไม้
2. หัวเชื้อราเห็ด
3. สว่านไฟฟ้าหรือ เหล็กตอก ( ตุ๊ดตู่ )
4. ปูนซีเมนต์ + ทรายละเอียด + น้ำสะอาด 1 : 1 : 1 หรือ ฝาจีบโซดา
5. ดอกสว่าน 5–6 หุน
6. ถังน้ำพลาสติก
7. ถุงมือยาง
การคัดเลือกไม้ที่เอามาเพาะเห็ด
ไม้ที่จะนำมาเพาะเห็ดจะต้องเป็นไม้สด ตัดมาใหม่ๆ หรือตัดมาไม่เกิน 1 สัปดาห์ มีลักษณ์ เปลือกหนา เมื่อแห้งเปลือกจะ ไม่ล่อนออกจากเนื้อไม้ ขนาดของไม้มีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 5 เซนติเมตร จนกระทั่งถึงขนาดโตที่สุดของไม้ แต่ไม้ที่มีขนาดเหมาะ สมที่สุดคือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร ตัดเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 80 – 100 เซนติเมตร อายุของไม้ที่ใช้ ถ้าไม้อายุน้อยจะให้ผลผลิตเร็ว แต่ก็ผุเร็ว ถ้าหากเป็นไม้แก่ เชื้อเห็ดจะเจริญได้ช้า ออกดอกช้า แต่เก็บผลผลิตได้นาน อายุของไม้ที่พอเหมาะสำหรับ ไม้เนื้ออ่อนควรอยู่ระหว่าง 3-5 ปี การเลือก ไม้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อราเห็ดด้วย คือ
เห็ดหูหนู
|
ไม้เนื้ออ่อน ถึง
กึ่งแข็งกึ่งอ่อน
|
มะเดื่อ งิ้ว มะม่วง ไคร้น้ำ ฯลฯ
|
เห็ดปลอก เห็ดลม เห็ดขอนขาว เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม
|
ไม้กึ่งแข็งกึ่งอ่อน ถึง
ไม้เนื้อแข็ง
|
มะม่วง ไคร้น้ำ เต็ง รัง ตะเคียน ก่อ ฯลฯ
|
การเลือกหัวเชื้อข้าวฟ่างหรือขี้เลื่อย
หัวเชื้อข้าวฟ่างหรือขี้เลื่อย ที่เหมาะสมต่อการใช้งานมากที่สุด คือ เมื่อเส้นใยเริ่มเจริญเต็มขวดหรือถุงใหม่ๆ สามารถเขย่าหรือยุ่ยให้ร่วนได้ง่าย เหมาะต่อการเทเชื้อลงในรูที่เจาะได้ ซึ่งถ้าทิ้งไว้นานเกินไปจนเส้นใยแก่ เส้นใยจะสานกันแน่น เขย่าไม่ร่วน เทเชื้อไม่ได้ หากจำเป็น หรือ ต้องการยืดอายุเชื้อข้าวฟ่างที่เจริญเต็มที่แล้วออกไป อาจทำได้โดยการเขย่าให้ร่วนทุกวัน แต่คุณภาพของเชื้อจะ ไม่ดีเท่าระยะที่เพิ่งเจริญเต็มขวดใหม่ๆ หรือทุบขวดให้แตกใช้มือยุ่ยหัวเชื้อข้าวฟ่างให้ละเอียดแล้วยัดลงในรูที่เจาะ
การเจาะรูใส่เชื้อเห็ด
การเพาะเห็ดในท่อนไม้จะต้องใส่เชื้อเห็ดลงไปในท่อนไม้ ดังนั้นจะต้องเจาะรูสำหรับ ใส่เชื้อ เท่าที่ปฏิบัติกันมามีหลายวิธี เช่น ใช้เหล็กตอกปะเก็น (ตุ๊ดตู่) ฆ้อนสำหรับเจาะรูใส่เชื้อโดยเฉพาะ หรือสว่านไฟฟ้า โดยใช้ดอกขนาด 5-6 หุน
วิธีเจาะรู จับตัวสว่านให้แน่นเจาะลงไปจังหวะเดียว ให้ลึกประมาณ 2-3 เซนติเมตร การเจาะรูให้เริ่มทางด้านใดด้านหนึ่งของท่อนไม้ โดยให้ห่างจากปลายไม้ประมาณ 2-3 เซนติเมตร เจาะเป็นแนวตรงมีระยะห่างประมาณ 10 เซนติเมตร สำหรับแถวถัดไปห่างจากแถวแรกประมาณ 10 เซนติเมตร และควรเจาะในลักษณะสับหว่างกลางของแถวแรก หรือแบบสลับฟันปลา สำหรับการใช้เหล็กตอกประเก็น หรือค้อนเจาะรูใส่เชื้อเห็ดก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน
วิธีการใส่เชื้อเห็ด
ควรเขย่าเมล็ดข้าวฟ่างให้แตกร่วน ถ้าเป็นเชื้อที่ทำจากขี้เลื่อยให้ใช้มือบีบถุงให้ขี้เลื่อยแตกก่อน จากนั้นเทใส่ลงในไม้ทางรูที่เจาะ ใช้ไม้ตะเกียบกระทุ้งให้เชื้อเห็ดลงไปในรูค่อนข้างแน่น ใส่จนเต็มรูที่เจาะไว้ ใช้ฝาจีบโซดาครอบ รูแล้วใช้ค้อนตอกให้จมลงในเนื้อไม้ หรือใส่เชื้อลงไป 2 ใน 3 ส่วนของรูที่เจาะไว้ จากนั้นใช้ปูนซีเมนต์ผสมทรายละเอียด อัตรา 1 ต่อ 1 เติม ด้วยน้ำสะอาดคนให้เหนียวข้น ปิดทับลงในรูให้เต็ม
การบ่มเชื้อ
วิธีการพักไม้ หลังจากใส่เชื้อเห็ดลงไปแล้ว นำไปวางไว้ในที่ร่มใต้ต้นไม้ หรือจะสร้างเฉพาะหลังคาแสลนกันแดดก็ได้ การวางไม้ควรจะมีอิฐบล็อก รองพื้นเพื่อไม่ให้ท่อนไม้สัมผัสดินเพื่อป้องกันแมลงและเชื้อจุรินทรีย์จากดินโดยตรง การวางควรวางแบบหมอนรถไฟ มีระยะห่างไม้ประมาณ 1-2 เซนติเมตร ทั้งนี้เพราะต้องการให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ระยะเวลาในการพักไม้ของเห็ดแต่ละชนิดจะไม่เท่ากันเช่น เห็ดหูหนูให้พักไว้ประมาณ 2-3 เดือน เห็ดลม เห็ดขอนขาว เห็ดปลอก พักไว้ประมาณ 4-6 เดือน เห็ดหอมพักไว้ประมาณ 6-8 เดือนเป็นต้น
การทำให้เกิดดอก
ตามธรรมชาติแล้วเมื่อเชื้อราเห็ดกินเต็มท่อนไม้และสภาพแวดล้อมเหมาะสมก็จะออกดอกเห็ด แต่ใช้เวลานาน การสร้างโรงเรือนสำหรับเปิดดอกจะสามารถควบการออกดอกเห็ดได้ โรงเรือนมีลักษณะคล้ายกับ โรงเรือนเปิดดอกเห็ดในถุงพลาสติก ภายในโรงเรือนปูด้วยทราย อิฐหักหรือเทคอนกรีต ไม่มีชั้นวาง มีเฉพาะราวไม้สำหรับพาดท่อนไม้ ราวไม้แต่ละแถวห่างกันประมาณ 1.5 เมตร นำไม้ที่พักไว้ครบตามกำหนดระยะเวลาแล้ว ไปแช่น้ำประมาณ 12–24 ชั่วโมง และถ้าน้ำที่ใช้แช่ไม้นั้นมีอุณหภูมิประมาณ 13–18 องศาเซลเซียส ก็จะกระตุ้นให้เห็ดออกดอกเร็วยิ่งขึ้น การแช่นั้นควรหาของหนักทับไม้ให้จม หากจมน้ำไม่หมดต้องมีการกลับท่อนไม้ ซึ่งการแช่น้ำนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. ทำให้ไม้ที่แห้งซึ่งมีความชื้นอยู่น้อย ให้มีความชื้นเพียงพอต่อการเจริญเติบ โตของดอกเห็ด
2. ต้องการกระตุ้นเส้นใยที่หยุดพักการเจริญและสะสมอาหารอยู่นั้น ตื่นตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งทำการรวมตัวกันเพื่อเป็นดอกเห็ด
3. เป็นการทำลายสัตว์เล็ก ๆ เช่น แมลงหรือตัวไรที่ติดเข้าไปในไม้ ทั้งนี้แมลงเหล่านี้จะขาดอากาศในขณะที่ไม้แช่น้ำอยู่
การดูแลรักษาไม้ในโรงเรือน นำไม้ที่แช่น้ำเข้าโรงเรือน โดยวางพาดกับราวแบบเผาข้าวหลาม ทำมุมกับพื้น 20–40 องศา เมื่อนำไปวางในโรงเรือนแล้วใช้ผ้าพลาสติก หุ้มให้เกิดความอุ่นในกองไม้หลังจากแช่น้ำแล้วการคลุมพลาสติกอาจคลุมไว้ 3–4 วัน หรือจนกระทั่งออกดอกก็ได้ แต่โดยปกตินิยมคลุมไว้เพียง 1–2 วันแล้วเปิดพลาสติก ดอกเห็ดจะเกิดขึ้นหลังจากเอาไม้เข้าไปในโรงเรือนแล้วประมาณ 4–5 วัน และผลผลิตจะเก็บได้หลังจากนั้นไปอีกประมาณ 4–5 วัน ระยะเวลาการเก็บ ได้เรื่อย ๆ ประมาณ 10–12 วัน หรืออาจเกินกว่านั้น
การรดน้ำ
จะต้องรดน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในเวลากลางคืนควรเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ เพราะจะได้อากาศบริสุทธิ์จากข้างนอกเข้าไปกระตุ้นให้เห็ดเจริญเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น
การเก็บผลิต
การเก็บผลผลิต เก็บเช่นเดียวกับการเก็บผลผลิตเห็ดจากถุงพลาสติก คือ ดูที่หมวกดอก จะต้องบานประมาณ 50% และเมื่อเห็นว่าจำนวนเห็ดน้อยลง หรือมีแต่ดอกเล็ก ๆ ให้ลูบหรือเด็ดดอกเห็ดดอกเล็กทิ้ง การพักไม้ให้งดรดน้ำโดยเด็ดขาดให้ดูแลถึงความสะอาดของท่อนไม้ พักทิ้งไว้ประมาณ 20–25 วัน จึงนำมาแช่น้ำใหม่ ทั้งนี้เพราะต้องการให้เชื้อเห็ดพักตัวหลังจากที่ส่งอาหารไปเลี้ยงดอกเห็ดจำนวนมากแล้ว และเป็นการรักษาเปลือกไม้ไม่ให้ล่อนเร็วด้วย ในการเพาะเห็ดถ้าสามารถรักษาเปลือกไม้ไว้ได้นานก็จะให้ผลผลิตมากกว่า ที่จะไม่มีเปลือกไม้ สำหรับไม้บางชนิดที่เปลือกล่อนหรือหลุดง่ายต้องรีบแกะออกทันที เพราะถ้าไม่แกะออกเปลือกจะเน่า แล้วทำให้ท่อนไม้ทั้งท่อนเสียหาย หลังจากแกะเปลือกออกแล้วควรล้างน้ำเอาส่วนที่สกปรกออกทิ้ง อย่าใช้แปรงทองเหลืองขัดเป็นอันขาดเพราะถ้าใช้แปรงขัดไม้แล้ว จะทำให้ผิวของท่อนไม้แห้ง เกลี้ยง ไม่ดูดความชื้น
หลังจากที่เก็บผลผลิตแล้วควรพักไม้ไว้ก่อนแล้วปฏิบัติ เช่นเดียวกันจนกว่าไม้จะผุ ซึ่งถ้าทำถูกวิธีแล้วไม้ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10–15 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร อาจจะเก็บผลผลิตได้ประมาณ 5–8 กิโลกรัมต่อท่อน ดอกเห็ดที่ได้ก็ไม่เเข็งกระด้าง
ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
1. ดอกเห็ดออกดอกน้อยและออกไม่ทั่วท่อนไม้
- เชื้อเห็ดเดินยังไม่ทั่วทั้งท่อน
- มีเชื้อจุรินทรีย์ทำลายเชื้อเห็ดก่อน ต้องดูแลความสะอาดของท่อนไม้
- มีเชื้อเห็ดอื่นเข้าแย่งอาหาร
- ท่อนไม้ไม่ได้พักช่วงการออกดอก
- ความชื่นในอากาศหรือในโรงเรือนไม่พอ
2. มีแมลง และราอื่นรบกวน
เชื้อบาซิลัส ธูรินจิเอนสิท(บีที)ใช้ฆ่าหนอน บาซิลัส ไซโตฟากัส ใช้กำจัดไรเห็ด เชื้อบาซิลลัส ซับติลิส พลายแก้ว ใช้ยับยั้งเชื้อรา เชื้อเหล่านี้เริ่มสร้างสปอร์แบบเอ็นโดสปอร์ตั้งแต่อายุ 14-16 ชั่วโมง ขึ้นไป สปอร์นี้ทนความร้อน 90- 100 องศาเซลเซียส
การเลี้ยงขยายพันธุ์เชื้อ ใช้ บาซิลัส แต่ละชนิด(แยกเลี้ยง)5 กรัม หรือ 1 ช้อนชา เลี้ยงในน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ผล 24 ชั่วโมง(ไม่เกิน 48 ชั่วโมง)นำมาผสมน้ำ 10 ลิตร รดบนขี้เลื่อย 100 กิโลกรัม ถ้าความชื้นไม่พอเพิ่มด้วยน้ำเปล่าจนพอ ส่วนอาหารเสริมต่างๆเติมตามปกติ คลุกเคล้าเข้ากันดีแล้วบรรจุถุงพลาสติก หรือใช้ฉีดพ่นหน้าก้อนเห็ดทุก 5-7 วัน ป้องกันกำจัดได้ดี
www.rubber.co.th/knowledge/pdf/hed.pdf
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.