ผลไม้ตะวันออก ปริมาณเพิ่มร้อยละ 1.5
ในแต่ละปีภาคตะวันออกจะมีผลไม้สำคัญ 4 ชนิด คือ ทุเรียน เงาะ มังคุดและลองกอง จากแหล่งผลิตสำคัญ 3 จังหวัด คือ จันทบุรี ระยอง และตราด ในปีนี้โดยภาพรวมผลไม้มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณร้อยละ 1.5 หากพิจารณาแต่ละชนิดพืชจะพบว่า เฉพาะทุเรียนเท่านั้นที่มีแนวโน้มการผลิตลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเนื้อที่ให้ผลลดลงจากการโค่นทิ้งเพราะเป็นโรคโคนเน่า ต้นอายุมากทรุดโทรม และด้วงเจาะลำต้น โดย เฉพาะพันธุ์ชะนีที่มีราคาไม่จูงใจจึงปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น ส่วนผลไม้ชนิดอื่นในภาพรวมแล้วผลผลิตเพิ่มขึ้น ดังนั้นปัญหาที่คาดว่าจะเกิด คือ ผลผลิตออกมากระจุกตัวมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2553
สำหรับทุเรียนมีปริมาณผลผลิตรวม 332,160 ตัน ลดลงจากปีที่แล้ว 11,131 ตัน คิดเป็นประมาณ 3% สำหรับสถานการณ์แนวโน้มด้านราคาทุเรียนในปีนี้คาดว่าจะมีราคาที่สูงขึ้นจากปริมาณผลผลิตที่ลดลง โดยอาจส่งผลทำให้เกษตรกรเร่งรีบตัดผลผลิตที่ยังไม่ได้คุณภาพออกมาจำหน่าย ส่วนมังคุด มีปริมาณผลผลิตโดยรวม 125,650 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15,144 ตัน หรือประมาณ 14% ขณะนี้มังคุดยังไม่ออกสู่ตลาดมากเท่าที่ควร จึงพบว่ายังมีแนวโน้มระดับราคาที่สูงอยู่ สำหรับเงาะ ในปีนี้พบว่าปริมาณผลผลิตโดยรวม 230,846 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 6,431 ตัน หรือประมาณ 3% เนื่องจากสภาพอากาศเหมาะสมทำให้เงาะออกดอกมากจึงทำให้มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น
จากการคาดการณ์ของสำนักงานเกษตร จ.จันทบุรีในปีนี้ ผลผลิตผลไม้ของเกษตรกรในพื้นที่จะออกสู่ตลาด ประมาณช่วงเดือนนี้ถึงเดือน กรกฎาคม 2553 ผลไม้หลัก 3 ชนิด คือ ทุเรียนจะออกสู่ตลาดประมาณ 219,677 ตัน มังคุด 89,455 ตัน และเงาะ 137,882 ตัน ซึ่งได้วางแผนแนวทางแก้ปัญหาผลไม้ล้นตลาด ราคาตกต่ำไว้แล้วอย่างครอบคลุม โดยรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณจาก เงิน คชก.จ่ายขาดเป็นเงิน 54,012,000 บาท เพื่อใช้ในการบริหารจัดการคุณภาพผลผลิต การกระจายผลผลิตจากแหล่งผลิตไปสู่ตลาดปลายทางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อีกทั้ง จ.จันทบุรี ได้มีการตกลงเจรจาซื้อขายผลไม้ล่วงหน้ากับตัวแทนผู้ประกอบการ สหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ
ที่มา : ไทยรัฐ
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.