-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 235 บุคคลทั่วไป และ 1 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

เกษตรต่างแดน14




หน้า: 3/4




อินเดียวขยาดทำ เอฟทีเอ. กับไทย

อินเดียไม่แฮปปี้เปิดเอฟทีเออาเซียน-อินเดีย เผยสินค้ายางพารา ปาล์มน้ำมันจากไทยทะลักจนทำให้เกษตรกรเดือดร้อน แถมส่งผลให้อินเดียขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น หวั่นเอฟทีเอไทย-อินเดียสะดุด แต่หนุนเปิดเสรีบริการและการลงทุน
 ระหว่างวันที่ 18-22 พฤษภาคม 2553 นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะได้เดินทางเยือนประเทศอินเดียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจสองฝ่ายระหว่างกัน โดยวันที่ 19 พฤษภาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือข้อราชการกับMr.Jyotiradity M. Scindia รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย ในประเด็นกรอบการเจรจา 2 กรอบคือเอฟทีเอไทย-อินเดีย กับความร่วมมือสมาชิกBIMSTEC (BIMSTEC คือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ มีสมาชิกประกอบด้วยบังกลาเทศ อินเดีย พม่า เนปาล ศรีลังกา ไทยและภูฏาน) เพื่อสานต่อการเจรจาให้มีความคืบหน้าและเสร็จสิ้น
 การหารือครั้งนี้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย แจ้งว่าการเจรจาเอฟทีเอไทยกับอินเดียจะรับไปพิจารณา พร้อมกับกล่าวว่าปัจจุบันอินเดียเสียเปรียบดุลการค้าไทยมาก โดยเฉพาะหลังจากที่อินเดียเปิดเอฟทีเอกับอาเซียน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ยิ่งทำให้การขาดดุลการค้ากับไทยเพิ่มขึ้น ส่วนการประชุม BIMSTEC ที่อินเดียเป็นเจ้าภาพปีนี้จะรีบดำเนินการโดยเร็ว พร้อมกันนี้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดียแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย และต้องการให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาโดยเร็วและมีความเชื่อมั่นเพราะฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง หากแก้ปัญหาได้เร็วเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเร็ว
 ขณะที่เอกชนรายหนึ่งของอินเดีย ได้สะท้อนมุมมองว่าการทำเอฟทีเอไทยกับอินเดียมีทั้งได้และเสีย แต่หลังจากที่เปิดเอฟทีเออาเซียน-อินเดีย แล้วทำให้สินค้าปาล์มน้ำมันและยางพาราจากไทยทะลักเข้าอินเดียจนทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน คาดว่าจะส่งผลต่อการเจรจาเอฟทีเอไทยกับอินเดีย เพราะรัฐบาลอินเดียได้รับบทเรียนทำให้มีความระมัดระวังการเจรจามากขึ้น
 อย่างไรก็ดีการเจรจากระชับความสัมพันธ์สองฝ่ายครั้งนี้ทางอินเดียสนับสนุนการเปิดเสรีบริการและการลงทุน เพราะเห็นว่าจะมีส่วนสนับสนุนการขยายการลงทุนและบริการของทั้งสองฝ่าย โดยธุรกิจบริการและการลงทุนที่ไทยและอินเดียมีศักยภาพได้แก่การท่องเที่ยว บันเทิง ภาพยนตร์ ก่อสร้าง พร้อมกันนี้ไทยได้เสนอความร่วมมือด้านระบบโล
จิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงการค้าการขนส่งกับกลุ่มBIMSTEC
 สำหรับการค้าระหว่างไทยกับอินเดีย ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าอินเดียมาโดยตลอด โดยปี 2550 ไทยส่งออก 91,727 ล้านบาท นำเข้า 71,941 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 19,785 ล้านบาท ปี 2551 ไทยส่งออก 110,194 ล้านบาท นำเข้า 87,263 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 22,930 ล้านบาท ปี 2552 ไทยส่งออก 109,863 ล้านบาท นำเข้า 59,447 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 50,415 ล้านบาท ไตรมาสแรกปี 2552 (มกราคม-มีนาคม2552)ไทยส่งออก 20,764 ล้านบาท นำเข้า 12,347 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 8,416 ล้านบาท ไตรมาสแรกปี 2553 (มกราคม-มีนาคม 2553) ไทยส่งออก 37,851 ล้านบาท นำเข้า 18,774 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 19,077 ล้านบาท



จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,534
 




หน้าก่อน หน้าก่อน (2/4) - หน้าถัดไป (4/4) หน้าถัดไป


Content ©