-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 539 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

เครื่องทุ่นแรง2









ที่มา http://www.asamedia.org/2010/07/8974/





 



คนไทยทำได้ เครื่องหว่านข้าว ชาวนาทำเอง


ปัจจุบันการทำการเกษตรของเกษตรกรไทยส่วนใหญ่เป็นการทำเกษตรกรรมเชิง พาณิชย์(ปลูกเพื่อขาย) เป็นการเพาะปลูกบนพื้นที่ที่มากขึ้น และต้องการผลผลิตที่มากขึ้นไปด้วย เหตุผลดังกล่าว ทำให้ในระยะหลายปีมานี้เครื่องจักรกลทางการเกษตรได้เข้ามามีบทบาทในวิถีการ ทำเกษตรกรรมในทุกขั้นตอนจนแยกออกจากกันไม่ได้ ด้วย เหตุผลดังกล่าวทำให้เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวทั้งในแง่ ของเชื้อเพลิง การบำรุงรักษา หรือค่าจ้างจักรกลทางการเกษตร(กรณีไม่มีเป็นของตนเอง) ภาพรวมของต้นทุนที่สูงขึ้นทำให้หลังจากหักลบต้นทุนกับรายได้จากการขายผลผลิต แล้วมีผลกระทบต่อรายได้ที่ลดลงของเกษตรกรเอง นอกจากนั้นจะส่งผลกระทบไปยังผู้บริโภคที่ต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้น รวมถึงศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกในด้านราคาของสินค้าเกษตรที่เรามีต้นทุน การผลิตที่สูงกว่าทำให้เสนอราคาสู้กับประเทศที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ไม่ได้

นาข้าวก็ไม่ต่างจากการทำเกษตรกรรมประเภทอื่น ที่มีการใช้เครื่องจักรตั้งแต่การเตรียมดินไปจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว ในแต่ละช่วงของการทำนาตลอด ๔ เดือนเมื่อชาวนาในยุคนี้หนีเครื่องจักรไม่พ้น จึงหนีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นไม้พ้นเช่นกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ชาวนากลุ่มหนึ่งซึ่งใช้ชื่อกลุ่มว่า “ศูนย์สาธิตเครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวบ้านวังแดง”ได้คิดประดิษฐ์เครื่อง หว่านข้าวสำหรับนาหว่านน้ำตมได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีคุณประเทือง สีสุข ชาวนาจาก ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เป็นผู้ออกแบบและประดิษฐ์ เครื่องหว่านข้าวฝีมือชาวนาเครื่องนี้มีเครื่องต้นกำลังเป็นเครื่องยนต์ เบนซินขนาด ๖ แรงม้า โดยเครื่องยนต์จะส่งกำลังให้ส่วนประกอบหลัก ๒ ส่วนคือ ส่วนของล้อที่ใช้ขับเคลื่อนในแปลงนา และส่วนของจักรกลที่ทำหน้าที่ในการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวซึ้งมีลักษณะเป็นท่อ กลมมีการเจาะรูไว้เป็นทางออกของเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยระยะห่างของรูที่เจาะจะเป็นตัวกำหนดระยะห่างในการหว่านข้าว เหนือท่อกลมขึ้นไปจะเป็นส่วนของตู้ที่ใช้เก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยมีช่องให้ เมล็ดพันธุ์ไหลลงสู่ท่อกลมที่เป็นตัวควบคุมการหว่าน โดยช่องเมล็ดพันธุ์สามารถปรับให้เมล็ดพันธุ์ไหลลงช้าหรือเร็วได้ ผลจากการทดลองใช้ออกมาเป็นที่น่าพอใจ นอกจากช่วยประหยัดแรงงานแล้วยังช่วยประหยัดเมล็ดพันธุ์โดยใช้เมล็ดพันธุ์ ข้าวเพียง ๑๕-๑๘ กิโลกรัม/ไร่ (ปรกติถ้าใช้คนหว่านจะต้องใช้เมล็ดพันธุ์อย่างต่ำ ๓๐ กิโลกรัม/ไร่) ระยะแถวของต้นข้าวออกมาดูสม่ำเสมอไม่ถี่ไม่ห่างจนเกินไปทำให้ดูแลง่าย ความเร็วในการหว่านอยู่ในช่วง ๑.๕-๒ไร่/ชั่วโมง (ในส่วนนี้ความเร็วยังเป็นรองการใช้แรงงานคนหว่านที่สามารถหว่านได้ ๓-๔ ไร่/ชั่วโมง/คน)

เครื่อง หว่านข้าวภูมิปัญญาชาวนาเครื่องนี้ นับเป็นอีก ๑ ความภาคภูมิใจของคนไทยที่จุดประกายให้เรามีความหวังว่าต่อไปเกษตรกรไทยจะไม่ ต้องซื้อเครื่องมือทางการเกษตรที่มีราคาแพงจากต่างประเทศ แสงสว่างและความหวังสำหรับชาวนาไทยยังมี หากเครื่องหว่านเมล็ดพันธุ์นี้ได้รับการต่อยอดให้ผลิตออกมาจำหน่ายในเชิง อุตสาหกรรม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (4375 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©