กองทุนฯหนุน "ข้าวฮางหอม" แปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าสู่ตลาด

โดย kmag


นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการรักษา การในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้น ฟูและพัฒนาเกษตรกร เผยว่า สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯได้สนับสนุนเงินกู้อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ให้กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร จำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนแปรรูปข้าวฮางที่ผลิตขึ้นตามกรรมวิธีโบราณ และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวภูไทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สืบต่อกันมากว่า 200 ปี ปัจจุบันได้รับการจดสิทธิบัตรทางการค้าและขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือจีไอ (GI : Geographical Indications) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ในนามข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี ขณะเดียวกัน ยังเป็นสินค้าโอท็อป (OTOP) ระดับ 5 ดาว


"กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาบ่อมีการรวมตัวอย่างเหนียวแน่น ทั้งยังมีระบบบริหารจัดการและควบคุมภายในกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถผลิตข้าวฮางหอมคุณภาพดีป้อนตลาดได้สัปดาห์ละ 1-1.2 ตัน โดยกระจายผลิตภัณฑ์สินค้าส่งให้กับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ร้านเลมอนฟาร์ม โรงพยาบาลยันฮี โรงพยาบาลวิภาวดี ศูนย์ OTOP ที่ตลาด อ.ต.ก. ตลาดบองมาเช่ และร้านบัวคำ จังหวัดสกลนคร ซึ่งผลิตภัณฑ์ มี 2 รูปแบบ ชนิดถุงบรรจุ 1 กก. ราคา 50 บาท และชนิดขวดบรรจุ 4.25 กก. ราคา 250 บาท กลุ่มได้ชำระเงินกู้คืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับกองทุนฟื้นฟูฯเกือบครบแล้ว" นายสมยศกล่าว


ด้านนางสาวนิภาพร ร่มเกษ วัย 26 ปี หนึ่ง ในสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาบ่อ อ. วาริชภูมิ จ.สกลนคร เผยว่า สมาชิกจำนวน 38 ราย จะร่วมวางแผนและช่วยกันผลิตข้าวฮางให้ ทันตามยอดสั่งซื้อของลูกค้าที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมอาหารเพื่อสุขภาพ จะชอบข้าวฮางมากเนื่องจากมีกลิ่นหอมและมีรสชาติดี ที่สำคัญยังมีสารอาหารครบถ้วนและคุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้ ยอดจำหน่ายข้าวฮางหอมในช่วงปี 2553 มีมูลค่าสูง ถึง 1.8 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 20% หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว กลุ่มมีกำไรสุทธิกว่า 534,000 บาท ซึ่งปี 2554 นี้ แนวโน้มตลาดยังไปได้ค่อนข้างดี


ปีนี้กลุ่มได้ปรับกลยุทธ์เพื่อพัฒนาสมรรถนะและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน พร้อมสร้างโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น โดยส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรในหมู่บ้านกว่า 56 ครัวเรือน ให้ผลิตข้าวอินทรีย์ ซึ่งกลุ่มจะรับซื้อผลผลิตอินทรีย์ เพื่อเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นข้าวฮางอินทรีย์ ขณะเดียวกัน ยังเร่งพัฒนาศักยภาพสมาชิกกลุ่มในทุกขั้นตอนและกระบวนการผลิตข้าวฮาง ตั้งแต่แผนกคัดเลือกข้าวเปลือกคุณภาพดี แผนกนึ่งข้าว แผนกสีข้าว และแผนกบรรจุภัณฑ์ ทั้งยังจะเร่งพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ ตลอดจนเชื่อมโยงการผลิตและสร้างเครือข่ายการตลาดด้วย.



ที่มา: http://www.thairath.co.th
http://kmag.ku.ac.th/phpbb3/viewtopic.php?f=4&t=1069